Album: ปราสาท ๔,๐๐๐ ปี
กราบอาราธนานิมนต์พระภิกษุ-สามเณรและเรียนเชิญอุบาสก-อุบาสิกา <br /> เข้าร่วมงานปฏิบัติธรรม บวชชีพราหมถือศีล ๘ เจริญจิตภาวนาและกราบพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้ากัสสปะ และชมปราสาทเก่าแก่อายุกว่า ๔,๐๐๐ ปี<br /> เป็นสมัยเมืองขอมมีชื่อเมืองว่า “สกลรัตนวาปีนคร”<br /> กำหนดงานวันที่ ๒๘ เมษายน ๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔ และของทุกปี<br /> ณ สำนักสงฆ์ภาวนาธรรมเมตตาธุดงค์สถาน บ้านพังขว้างใต้ ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร <br /> ไปรษณีย์ ๔๗๐๐๐ โทร.พระอาจารย์สมควร จักกธัมโม<br /> ๐๘๕-๗๔๒๘๙๗๖ พระประกิต จิรธัมโม ผู้จัดงาน ๐๘๕๗๔๒๘๙๗๖<br /> <br /> สิ่งที่ควรเตรียมมาด้วยสำหรับผู้ที่จะค้างคืน<br /> ๑.เต้นสนามหรือกลดหรืออุปกรณ์อื่นๆสำหรับการอยู่ป่า<br /> ๒.สื่อ ผ้าห่ม หมอน ไฟฉาย<br /> ๓.ของใช้ส่วนตัว<br /> <br /> <br /> <br /> ประวัติการสร้างปราสาท<br /> เมื่อ ๔,๐๐๐ ปีก่อนมีเมืองที่เชื่อว่า “สกลรัตนวาปีนคร” ในปัจจุบัน คือจังหวัดสกลนคร มีกษัติรย์ชื่อว่า<br /> “ปุตตะระ”เมืองสกลรัตนวาปีนครนี้ มีความแห้งแล้งเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนี้กษัตริย์ในสมัยนั้นจึงได้<br /> ส่งทูตไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้ากัสสปะมาจากประเทศอินเดีย เมื่ออัญเชิญพระบรมสารีริก<br /> ธาตุมาแล้วก็นำมาประดิษฐานไว้ในพระราชวัง ด้วยอำนาจของพระบรมสารีริกธาตุจึงทำให้บ้านเมืองเกิดมีความ<br /> อุดมสมบูรณ์ฝนตกต้องตามฤดูกาลมีแร่ธาตุเกิดขึ้นมากมาย เมื่อเป็นเช่นนี้เมืองใกล้เคียงมีชื่อว่าเมืองโสรยา จึงเกิดความต้องการอยากได้พระบรมสารีริกธาตุ จึงได้ส่งทหารมาทำสงครามเพื่อแย่งชิงเอาพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยเหตุที่มีสงครามเกิดขึ้นกษัตริย์ปุตตะระจึงได้สร้างปราสาทขึ้นมาซึ่งปราสาทนั้นได้สร้างไว้ในบ่อน้ำและได้นำพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้ากัสสปะมาประดิษฐานไว้ในตัวปราสาท เสร็จแล้วก็ได้นำเอาดินมาถมปิดทับไว้และฆ่าทหาร๕นายและสกดวิญญาณไว้ให้เฝ้าปราสาท ผลปรากฏว่าเมืองสกลรัตนวาปีนครชนะ<br /> สงคราม กษัตริย์ปุตตะระคิดว่าเมื่อสงครามสงบแล้วจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นมาประดิษฐานไว้บนปราสาทที่สูงเหมือนเดิมแต่ว่าไม่ทันได้อัญเชิญขึ้นมา กษัตริย์ก็ได้สิ้นพระชนม์เสียก่อนและบ้านเมืองก็เกิดโรคห่าประชาชนก็ล้มตายจึงได้พากันอพยพไปอยู่ที่อื่นจึงไม่ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นมา พระบรมสารีริกจึงได้อยู่ใต้ดินมานานกว่า ๔,๐๐๐ ปี มาถึงสมัยปัจจุบันนี้มีตาผ้าขาวคนหนึ่งมีชื่อว่า "หลอม"ได้ไปปฏิบัติธรรมคนเดียวในป่าช้าซึ่งห่างจากสำนักสงฆ์ไ
จัดการ