((พระเครื่อง-พระบูชา-รวมเหรียญ-มงคล พระเกจิทั่วไทยเก่า-ใหม่ ราคามิตรภาพ ทุกจังหวัด-ลิงค์หน้าแรก))

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย namayti, 4 มกราคม 2016.

  1. ปู สุเมธ

    ปู สุเมธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +503
    จอง344ครับ
     
  2. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    รับทราบการจองครับ...ขอบพระคุณมากครับ
     
  3. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 345 ชุดมงคลพระผงรูปเหมือน"บุญประทายข้าวเปลือก"2554 หลวง ตามหาบัวญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี สภาพสวยกริ๊ป มาพร้อมพระผงรูปเหมือนหลังแบบ ของหลวงตามหาบัวเช่นกัน ลป.ลี กุสลธโร เมตตาอธิษฐานจิต สวยมากครับ รวม 2 รายการ ขอที่ 250.-ฟรี ส่ง EMS (อาณัติ)
    [​IMG][​IMG]
    สวยคุ้ม ควรค่าแก่การเก็บไว้บูชาครับ
    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2016
  4. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,078
    ค่าพลัง:
    +22,263
    ขอจองครับ.................
     
  5. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    รับทราบการจอง...ขอบคุณมากครับ
     
  6. ปู สุเมธ

    ปู สุเมธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +503
    แจ้งโอนรายการ 344 เวลา11.31.ยอด 850.
    สุเมธ วิวัฒน์วิชา บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้ง
    378 ถ.ชัยพฤกษ์ แขวงเขต ตลิ่งชัน
    กทม.10170
    ขอบคุณครับ
     
  7. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    รายการที่ 346 พระพิมพ์สมเด็จโต วัดประสาทบุญญาวาส ปี 2506 เนื้อดำ สภาพสวยสมบูรณ์ รับประกันตามกฏทุกประการ ขอที่ 850.-ฟรี ส่ง EMS
    [​IMG]
    ราคาแบ่งเบาคร้าบ...เก็บๆๆ
    [​IMG]
    ข้อมูลการสร้าง

    วัดประสาทบุญญาวาส กทม. ได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นชุดใหญ่ขึ้นมาหลายพิมพ์ในปี พ.ศ.2506 โดยรวบรวมมวลสารสำคัญต่างๆทั่วประเทศ อาทิเช่น ผงพุทธคุณจากคณาจารย์ต่างๆ และพระเครื่องต่างๆที่แตกหักชำรุดเช่น พระหลวงปู่ทวด และพระกรุสำคัญต่างๆทั่วประเทศ ทำพิธีพุทธาภิเษก 3 วัน 3 คืน เมื่อวันที่ 13-14-15 พ.ย. 2506 และในวันที่ 16 พ.ย. 2506 เวลา 5 โมงเย็น อาราธนาพระคณาจารย์ 108 รูป ร่วมมหาพุทธาภิเษก พระเกจิอาจารย์ที่เรืองเวทย์ด้านคาถาอาคมมาร่วมพิธีปลุกเสกมากกว่า 108 รูป อาทิ เช่น

    - อาจารย์ทิม วัดช้างให้
    - หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
    - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    - หลวงปู่นาค วัดระฆัง
    - หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    - หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    - หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
    - หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
    - หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    - หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    - หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
    - หลวงปู่เขียว วัดหรงบน
    - อาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    และคณาจารย์ชื่อดังอีกมากมายกว่า 100 รูป

    พระเครื่องชุดนี้จึงถือได้ว่าเป็นเป็นพระดีที่น่ามีไว้บูชาสะสมเป็นอย่างยิ่งครับ
    องค์ นี้เป็นพิมพ์ สมเด็จโตฯ สภาพพระสวยเดิม ใครที่ศรัทธาสมเด็จฯโต น่ามีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่งครับเพราะเป็นพระดีพิธีใหญ่ มวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย มียอดพระเกจิอาจารย์ปลุกเสก เป็นพิมพ์สมเด็จฯโต และยังมีผงสมเด็จวัดระฆังของท่านเป็นมวลสารอยู่ด้วยจึงนับได้ว่าสุดยอดครับ น่าเช่าบูชามากครับ
     
  8. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ติดต่อทางข้อความด้วยนะขอรับ...ขอบคุณครับผม
     
  9. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,078
    ค่าพลัง:
    +22,263
    13.25 น.โอนแล้วครับ
    โอนรวมกับกระทู้ทำบุญสร้างกำแพง(250 บาท) ยอดโอน 500 บาท

    ที่อยู่เดิม...ขอบคุณครับ
     
  10. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 347 เหรียญพระพุทธชินราช-สมเด็จพระนเรศวร"รุ่นวังจันทน์" ปี2548 เนื้อเงินขัดเงาพ่นทราย สภาพสวยพร้อมกล่องเดิมขอที่ 1,250.-ฟรี ส่ง EMS (พี่นอกเว็ป)
    [​IMG][​IMG]
    พีธีมหาจักรพรรดิ์ ๙ วัน ๙ คืน ณ พระวิหาร พระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ครบ ๔๐๐ ปี วันสวรรคต ๑๕ พ.ค. ๒๕๔๘
    ตรงวันอาทิตย์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ ปี ระกา

    [​IMG][​IMG]
    กล่องเดิมๆ โค๊ตสวยชัดเจน รับประกันแท้ทุกวัน
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2016
  11. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    รายการที่ 348 พระขุนแผน"59 ตน" อ.เปล่ง บุญยืน เนื้อว่านดอกทอง(นิยมสุด)จัดเป็นเนื้อยอด HIT แรงๆ TOP สุดๆ เลี่ยมพลาสติกพร้อมใช้ สภาพสวย พิเศษหลังปั๊มซ้ำปั๊มเขยื้อน ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ รับประกันแท้ยันโลกแตกครับ ขอที่ XX,XXX.-ฟรี ส่ง EMS
    [​IMG]
    [​IMG]
    เนื้อหาจัดจ้านครับ...ไม่ผิดหวังครับ...สนใจหลังไมค์คร้าบบบ

    [​IMG]
    ประวัติการสร้าง ขุนแผนพราย 59 ตน ของอาจารย์เปล่ง บุญยืน จ.สุรินทร์

    อ.เปล่ง บุญยืน จอมขมังเวทแห่งเมืองสุรินทร์ วัย84 ปี ที่ทุกคนรู้จักดีทั่วประเทศและต่างประเทศ ขุนแผนพราย 59 ตน จัดสร้างในราวปี 2541 โดยประมาณ ทำออกมารุ่นแรกนั้น จะเป็นพระพิมพ์ขุนแผน มีกุมารนอนขวางอยู่ด้านล่าง ด้านหลังมียันต์ และมีชื่อท่านอยู่ ส่วนเนื้อหามวลสารอาถรรพ์ของท่านนั้นจัดมากๆๆๆ และแรงมากๆๆๆ กล่าวคือได้จัดสร้างขึ้นด้วยผงมวลสารอาถรรพ์วิเศษมากมายต่างๆ หลายชนิด หลายประเภท เช่น

    จัดสร้างขึ้นด้วยผงที่ได้มาจากการเขียนยันต์ และลบยันต์ อันได้แก่
    -ผงมงคลมหาโสฬสมหาภูติ
    -ผงมนต์สะกดทัพ
    -ผงมนต์มหาจินดามณีเรียกทรัพย์

    ผงอันได้มาจากมวลสารอาถรรพ์ต่างๆ อันได้แก่
    -ผง พราย 59 ตน (เป็นผงพรายที่เกิดจากการรวบรวมเถ้ากระดูกพราย ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร จำนวน 59 ตน จาก 7ป่าช้า ซึ่งผงนี้ถือว่า เป็นผงมวลสารอาถรรพ์หลักของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ และเป็นผงพรายที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเข้มขลังมากที่สุด ในบรรดาผงพรายที่เคยมีมาในอดีตจนถึงปัจจุบัน)
    -ผงดินอาถรรพ์ 7 กลางป่าช้า
    -ผงดิน 7 ทุ่ง
    -ผงโป่ง 7 ป่า
    -ผงดิน 7 ท่าน้ำ (ที่มีผู้คนสัญจรไปมา โดยเอามาทั้งสองฝั่งจำนวน 7 แห่ง)
    -ผงดินจอมปลวก 7 รังร้าง
    -ผงไคลโบสถ์ ไคลเสมา 7 วัด
    -ผงไม้ทิ่มผีตายท้องกลม
    -ผงขี้เถ้ากองฟอนเผาผีตายท้องกลม
    -ผงตะเคียนฟ้า และ ผงตะเคียนทอง

    ผงอันได้มาจากมหาว่านทางด้านต่างๆ อันได้แก่
    -ผงว่านอาถรรพ์ 108 ชนิด
    -ผงว่านทางด้านคงกะพัน 108 ชนิด
    -ผงว่านทางด้านเมตตา 108 ชนิด
    -ผงว่านทางด้านกามคุณต่างๆ และ
    -ผงว่านทางด้านเรียกโชค เรียกลาภต่างๆ อีกอย่างละ 108 ชนิด เช่น ว่านมหาเศรษฐี
    ว่านเรียกทรัพย์ ว่านดูดทรัพย์ เป็นต้น

    ผงอันได้มาจากมหาว่านทางด้านเสน่ห์ต่างๆ อันได้แก่
    -ผงว่านดอกทอง 12 ชนิด
    -ผงว่านช้างผสมโขลง
    -ผงว่านจูงนาง
    -ผงว่านสาวหลง
    -ผงว่านราคะ
    -ผงว่านนางกามคุณ
    -ผงว่านนางแพศยา
    -ผงว่านร่านร้อยสวาท
    -ผงว่านสาวงามเมือง เป็นต้น

    และ นำผงมวลสารอาถรรพ์วิเศษต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น มากดพิมพ์เป็นขุนแผนพราย 59 ตนขึ้น โดยมีน้ำมันแกแล(น้ำมันพรายอาถรรพ์ จัดสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ สูตรตำรับของ อาจารย์เปล่ง โดยเฉพาะ ไม่สามารถเปิดเผยได้) เป็นตัวประสาน

    ขุนแผนพราย 59 ตน รุ่นแรกนี้ สามารถแบ่งออกเป็น 4 สี ด้วยกัน ดังนี้ คือ
    1. สีน้ำตาล (นิยมมากที่สุด เรียกว่า รุ่นท็อป เนื่องจากแก่ผงว่านดอกทอง 12 ชนิด มีบูชาใช้แล้วจะไม่มีวันเหงาเลย)
    2. สีเหลือง
    3. สีขาว
    4. สีดำ

    จาก การสอบถามอาจารย์ เปล่ง บุญยืน ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า ขุนแผนพราย 59 ตน รุ่นแรกของท่านนั้น ท่านได้ตั้งใจจัดสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษและอย่างเข้มขลังโดยเฉพาะ ด้วยผงมวลสารอาถรรพ์วิเศษต่างๆ มากมาย หลายชนิด หลายประเภท และท่านได้เมตตาปลุกเสกเดี่ยว แบบอัดยัดประจุ อำนาจพลังจิต (ด้านเสน่ห์) เข้าไปเป็นพิเศษเป็นการเฉพาะโดย
    ท่านจะปลุกเสกขุนแผนพราย 59 ตน ครั้งละประมาณ 4 - 5 องค์ และทำการปลุกเสกอย่างนี้ติดต่อกันไปทุกวันๆ ซึ่งท่านจะปลุกเสก ในเวลาหลังเที่ยงคืนจนถึงเช้า และในขณะที่ท่านได้ปลุกเสกท่านได้เชิญทั้งมหาเทพ และครูบาอาจารย์ของท่านมาร่วมเข้าปลุกเสกเสมอ และเวลาปลุกเสกจะมีวิญญาณพราย 59 ตน มาวนเวียน โดยมาเป็นเสียง แบบคนเดินวนไปวนมาอยู่รอบห้องพิธีเป็นจำนวนมากเป็นประจำ บางครั้งก็มาให้เห็นเป็นตัวเป็นตน หรือ อาจมาเป็นในรูปแบบของกลิ่นบ้าง เป็นกลุ่มควันบ้าง โดยท่านได้ปลุกเสกขุนแผนพราย 59 ตน นานประมาณ 7 ถึง 8 เดือน เพื่ออัดยัดประจุอำนาจพลังจิต (ด้าน เสน่ห์) และเป็นการบรรจุคุณ บรรจุฤทธิ์ เข้าไปในขุนแผนพราย 59 ตนอย่างเต็มที่ และอย่างหาสุดจะประมาณมิได้ เรียก ว่าแบบเต็มอัตราศึกเลยก็ว่าได้ครับ

    *****สภาพสวยที่สำคัญรับประกันแท้ทุกวันยันโลกแตกครับ*****

    *****************************************************************************************************

    ด้วย ความปรารถนาดี พยามศึกษาข้อมูล ให้เยอะๆ ตามพื้นฐานความเป็นจริง ตามมาตรฐานของวงการไม่ใช่เล่นแบบแท้คนเดียว แต่วงการไม่ให้การยอมรับ พยามเล่นหาของในระบบ เพราะของนอกระบบไม่มีมาตรฐาน ในการเล่น จงอย่าเชื่อหู จงใช้ตาดู การเช่าพระให้ใช้ตาดูเท่านั้น ไม่ต้องสนใจประวัติใดๆที่ผู้ขายนำมาให้เช่าเล่าให้ฟัง เพราะประวัติมันแต่งกันได้ เงินมันไม่เข้าใครออกใครหรอก ฯ

    ***ข้อมูลขุนแผนพราย59ตน***
    ขุน แผนพราย 59 ตน สร้างเมื่อราวๆ พศ.2542 องค์เนื้อว่านดำ ออกมาให้เช่า องค์ละ 1500 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่แพง ในสมัยนั้น ต้องเป็นคนมีรายได้ค่อนข้างดีจริงๆ ส่วน องค์เนื้อสีขาว องค์ละ 2000 บาท และ องค์เนื้อสีเหลือง (เนื้อท๊อป) 2500 บาท ที่สำคัญทุกเนื้อนั้น มีจำนวนที่ให้บูชา น้อยกว่าจำนวนการสร้างจริง เหตุเพราะพระแก่มวลสารมาก และเนื้อพระหนา ส่วนผงพรายที่ผสมไว้ เป็นชนิดเดียวกัน ทั้งไปอยู่ในมือคนต่างชาติ เช่น สิงคโปร์ , สหรัฐอเมริกา , มาเลย์ ฯลฯ เยอะ แต่ในปัจจุบัน กลับเป็นเนื้อสีดำ ที่ได้รับการนิยม เนื่องจากง่ายต่อการดูเนื้อหามวลสารและผงพราย

    **วิธีดู ขุนแผนพราย59ตน อ.เปล่ง โดยคราวๆ**

    1. ลักษณะพิมพ์จะ ไม่ตรงๆ มิใช่ห้าเหลี่ยมตรงๆลงมา จะโค้งเหมือนใบเสมา ไม่มีรุ่นลองพิมพ์นะครับ และ ไม่มีฝังตะกรุด
    ฝังพลอย ฝังกระดูก ฝังตะปู ฝังอะไรทั้งสิ้น ฯลฯ

    2. ตัวหนังสือด้านหลัง ตัว “ง”(เปล่ง) ของปลอม (อุปโลกน์ขึ้น) หางแหลมงอขึ้น และ ไม้เอกจะเล็กสั้นกว่าของแท้ คือของเก๊!! ซึ่งพิมพ์จะหดกว่าของแท้ แนะนำควรหลีกเหลี่ยงการเช่าหาพวกที่ตัวหนังสือด้านหลังไม่ชัด

    3. รุ่น ที่เป็น พราย59 แบบ2หน้า ก็ไม่ใช่นะครับ เป็นของครูบาทางเหนือ ถอดแบบ ไปสร้างทีหลัง

    4. เนื้อพระที่เห็นส่วนใหญ่จะร่วนไม่แน่นบิหรืออัดกรอบมีสิทธิ์เสียพระได้ เนื้อพระจะหนา แต่จะไม่กระด้างๆเหมือนเนื้อปูน เพราะคนที่ทำเลียนแบบใช้ทรายที่ผสมกับโคลนตากแห้งเข้าไปผสม ทำให้เนื้อพระดูแกร่งๆไม่แน่นเหมือนของจริง และหลังๆมาก็เลี่ยงไปว่า ทาน้ำมันบ้าง คลุกน้ำมันบ้าง ประมาณนี้

    5. เนื้อพราย59 จะมี 3เนื้อเท่านั้น
    5.1. เนื้อสีเหลือง มวลสารหลักจะเป็นว่านดอกทอง และน้ำมันมหาเสน่ห์เป็นหลัก เป็นตัวท๊อปของรุ่น ทำออกมาน้อย
    5.2. เนื้อสีขาว มวลสารหลักจะเป็นผงพุทธคุณที่ อ.เปล่งท่านเขียนและลบจากยันต์มหาเสน่ห์หลายๆยันต์
    รวมทั้ง ผงพุทธคุณจากหลายๆที่
    5.3. เนื้อสีดำ มวลสารหลักจะเป็นว่านทางด้านมหาเสน่ห์ และแร่ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีสีดำสนิท แต่ไม่ใช่แร่เกาะล้าน

    ทั้งสามเนื้อนี้มีส่วนผสมของผงพราย 59 ตนเหมือนกันทุกเนื้อ แล้วก็จะมีเนื้อพิเศษ ลูกผสมอยู่อีกสองเนื้อคือ
    1. เนื้อสีครีม คือเป็นเนื้อผสมกันระหว่างเนื้อว่านดอกทอง + เนื้อผงพุทธคุณ แต่เนื้อนี้ทำออกมาน้อยมาก มีไม่กี่องค์
    2. เนื้อสีน้ำตาล เป็นเนื้อผสมกันระหว่างเนื้อว่านทางมหาเสน่ห์ + เนื้อผงพุทธคุณ สีเลยออกมาเป็นสีน้ำตาลๆ ซึ่งก็มีไม่มากเช่นกันทั้งสองเนื้อลูกผสม อยู่ในประเทศไทยครับ ไม่ได้จัดส่งไปต่างประเทศ ส่วนเนื้อเหลือง และขาว ส่วนใหญ่จะส่งไปต่างประเทศ เท่าที่ทราบ มีสหรัฐอเมริกา ฮ่องกง สิงคโปร และ มาเลเซีย เลยเป็นเหตุให้ไม่ค่อยพบในประเทศไทย ส่วนเนื้อลูกผสม ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ก็แทบจะไม่ค่อยพบเห็นเช่นกัน
    --------------ไม่สงวนสิทธิ์ด้านข้อมูล ใครจะนำไปใช้ ยินดีครับ----------------
    **ข้อควรระวัง**
    ควร ระวัง ขุนแผนพราย 59 ตน ที่มีเนื้อเดียวกับ ขุนแผนจอมสุรินทร์ เพราะเป็นของเสริม และ ช่วงหลังๆนี้ เริ่มปลอมเหมือนขึ้นเรื่อยๆ พิมใช่ แต่ เนื้อมวลสารพระ แปลกๆ สวยเนียน ผสมแร่ต่างๆ บ้าง ผมจึงขอเน้นย้ำ ว่า พราย 59 ใช้ มวลสารสำคัญ เป็น เนื้อว่าน(ว่านเครือเขาหลง,ว่านดอกทองฯลฯ) กับผงพราย (กระดูก)ที่ป่นละเอียด ไม่ใช่เป็นชิ้นใหญ่ๆ เพราะฉะนั้น จะดูพิมพ์ อย่างเดียว ไม่ได้ครับ เพราะ บล๊อค พราย 59 ยังอยู่ ผมจึงเน้น
    หนัก ไปที่ เนื้อหามวลสาร จะฟังนิยาย จากคนขายไม่ได้ ส่วนแหล่งของปลอมของ อ.เปล่ง เท่าที่ทราบเมื่อตอนแรกนั้นคือสวนจตุจักร แล้วต่อมาประมาณปี 2548 ก็เป็น ที่ห้างพันธ์ทิพย์งามวงศ์วานศูนย์พระเครื่อง สายพรายที่ใหญ่มีชื่ออยู่ในขณะนี้
    และก็แหล่งที่ 3 คือ ในพื้นที่ จ.สุรินทร์.
    ขอแชร์ต่อครับ...ข้อมูลจากเจ้าของพื้นที่ถิ่นพรายสุรินทร์

    [​IMG]
    ประวัติ อ.เปล่ง บุญยืน
    อาจารย์เปล่ง บุญยืน เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2460 ที่บ้านท่าตูม จ.สุรินทร์ เมื่ออายุครบบวชได้เข้าบวชในพระพุทธศาสนา ปฏิบัติศาสนกิจตามสมควรแล้วจึงติดตามพระอาจารย์ภาออกธุดงค์ไปทั่วป่าลึกทั้ง ในทั่วแดนลาว เขมรยาวนาน ถึง 9 ปีเต็มก่อนลาสิกขาหวนคืนสู่เพศฆราวาสในปี พ.ศ. 2492 หลังจากนั้นอีก 6 เดือนต่อมาท่านก็สอบบรรจุเป็นครูเริ่มชีวิตข้าราชการแต่นั้นมาจนเกษียณอายุ ราชการในตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนมัธยม ในระหว่างที่ท่านบวชได้ธุดงค์ติดตามพระอาจารย์ภานั้นท่านได้ศึกษาวิชาอาคม จากพระอาจารย์ภาจนหมดสิ้นทั้งคงกระพันและเมตตา ว่านยาต่างๆ วิชาที่สำคัญอีกอย่างคือ วิชาทางพราย ซึ่งน้อยคนนักที่จะเรียนสำเร็จ ผู้เขียนขออธิบายให้ท่านผู้อ่านได้ทราบสักนิดว่า วิชาทางพรายของท่านอาจารย์เปล่งนั้นท่านทำเพื่อสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และ เป็นการสร้างกุศล แก่ตัวพรายเอง ท่านอาจารย์เปล่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางไสยเวทท่านได้สยบวิญญาณก่อนและทำให้เขา ได้อยู่ดีมีความสุข แล้วจึงนำกระดูกมาบดผสมทำพระเพื่อให้มีผลทางด้านเมตตา มหานิยม ท่านอาจารย์เปล่งท่าน สร้างด้วยเมตตาธรรม จึงปลอดภัย ไม่เข้าตัว บางเรื่องทางคุณพระท่านสงเคราะห์ไม่ได้ติดพระด้วยพระธรรมวินัยบังคับ ส่วนทางพรายนั้นเป็นไสยศาสตร์โดยตรงจึงไม่ขัด แต่ก็ไม่ใช่ไปสะกดใคร ไม่เหมือนถูกของขอให้เข้าใจตามนี้ ท่านอาจารย์เปล่งได้ใช้วิชาอาคมต่างๆ ที่เล่าเรียนมาสงเคราะห์ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากมากมายอาทิ สมัยที่ท่านยังรับราชการอยู่มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งถูกงูกัด จะไปโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ทัน พ่อแม่จึงพามาหาท่านให้ช่วยรักษา ท่านก็เมตตาเสกเป่าพ่นให้เป็นที่อัศจรรย์เด็กหายจากพิษร้ายรอดตาย หลังจากนั้นมากิติศัพท์ของท่านก็แพร่ออกไปชนิดที่เรียกว่าไม่ว่างูชนิดไหนจะ มีพิษมากน้อยเท่าไรถ้าสามารถมาถึงมือของท่านได้รับรองว่ารอดทุกราย ส่วนทางด้านเมตตาก็มีปรากฏอยู่เนืองๆ ครั้งหนึ่งมีเพื่อนครู (ขอสงวนนาม) ไปหลงรักสาวแต่สาวเจ้ากับไม่เล่นด้วยเสียใจจนคิดฆ่าตัวตาย อาจารย์เปล่งเมือทราบเรื่องโดยตลอดแล้วจึงขอคำมั่นสัญญาจากเพื่อนครูและรับ ปากที่จะช่วยเหลือ จากนั้นท่านก็เสกสิ่งของให้ไป เพื่อนครูของท่านก็สมหวังในระยะเวลาต่อมา ความรู้ความสามารถของท่านไม่แสดงออกมากนักติดที่เพื่อนเป็นครู กลัวจะเป็นที่ครหานินทาว่า งมงายไร้สาระจนกระทั่งท่านเกษียณอายุ ท่านอาจารย์เปล่งจึงสร้างพระเครื่องและเครื่องรางของขลังอย่างจริงจังจนเป็น ที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งใน นอกประเทศ พระเครื่องที่ท่านอาจารย์เปล่งสร้างครั้งแรก เป็นพิมพ์พระขุนแผน ผู้ที่ได้รับแจกไปจากท่านต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าเป็นสุดยอดทาง เมตตาจริงๆ ผู้เขียนเคยเรียนถามท่านถึงกรรมวิธีการสร้างและเสกอย่างไรจึงมีความขลังความ ศักดิ์สิทธิ์ถึงขนาดนี้ ท่านอาจารย์เปล่งได้กรุณาชี้แจงให้ทราบโดยไม่ปิดบังดังนี้ว่า มวลสารที่ท่านใช้ส่วนใหญ่จะเป็นว่านทั้ง 108 ชนิดและยังมีพวกพญาว่านที่สำคัญ ๆ อีก มาก อาทิ พญากาหลง พญางิ้วดำ พญาเครือหลง พญาสาลิกา พญาตะเคียนหิน พญาแกแล ผงพรายกุมารีแฝด ผงจินดามณี กาฝาก 108 สีผึ้งมหาเสน่ห์พระอาจารย์ภา มวลสารต่างๆ ที่กล่าวมาได้รับการปลุกเสกจากพระอาจารย์ภาผู้เป็นปรมาจารย์ของท่านก่อนแล้ว จึงกำหนดฤกษ์ยามในการกดพิมพ์หมดฤกษ์ก็หยุด ในครั้งแรกนั้นท่านสร้างไว้ในจำนวนไม่มากนักแต่ไม่เกิน 100 องค์เมื่อการสร้างเสร็จสิ้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการปลุกเสก ท่านใช้เวลาการปลุกเสกนานกว่า 3 เดือน จนกระทั่งพระขุนแผนทุกองค์เคลื่อนไหวพลิกไปพลิกมา จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่พระขุนแผนรุ่นแรกถูกขนานนามว่า พระขุนแผนมหาเสน่ห์ เพราะพุทธคุณด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละรวยแรงมากเป็นพิเศษ จนเป็นที่แสวงหาของศิษย์ และเมื่อพระขุนแผนรุ่นแรกหมดไปลูกศิษย์หลายคนหลายคณะที่ไม่มีโอกาสได้เป็น เจ้าของจึงขอร้องให้ท่านสร้างขึ้นอีก ซึ่งท่านเมตตาก็สร้างให้ตามประสงค์จนถึงปัจจุบันมีมากถึง 6 รุ่น แล้วเรียงตามลำดับดังนี้ 1. พระขุนแผนมหาเสน่ห์ 2. พระขุนแผนชมตลาด 3. พระขุนแผนสยบมาร 4. พระขุนแผนสะกดทัพ 5. พระขุนแผนพราย 59 ตน 6. พระขุนแผนจอมสุรินทร์ พระขุนแผนของท่านทุกรุ่นนับว่าไม่เคยสร้างความผิดหวังให้ใครเลยผู้ที่เคยใช้ แล้วต่างยอมรับทุกราย รุ่นที่ศิษย์ขอร้องให้ท่านสร้างให้โดยเฉพาะในปีนี้ (พ.ศ.2543) ท่านได้สร้างพระสมเด็จจอมสุรินทร์ขึ้นตามคำเรียกร้องของคณะศิษย์ที่อยากได้ พระเครื่องที่มีพุทธคุณทางด้านค้าขายและโชคลาภโดยเฉพาะ ส่วนเครื่องรางของขลัง ท่านสร้างไว้มากมายหลายชนิด อาทิ อิ้นคู่มหาเสน่ห์ ที่มีอานุภาพทางเมตตามหาเสน่ห์อย่างสูงสุด ใครเห็นใครรัก หญิง ชายหลง ผู้ใหญ่เมตตา นับเป็นวัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านเป็นอย่างมาก รัก - ยม ท่านอาจารย์เมตตาปลุกเสกจนมีฤทธิ์ช่วยผู้บูชาทำมาหากิน ทำมาค้าขาย เรียกลูกค้าเรียกคนเข้าร้าน เรียกงาน เรียกเงินเรียกทอง เฝ้าบ้านและตาม จะเรียกใช้ สีผึ้ง จะเน้นทางเมตตาค้าขายผสมผงกุมาร ลูกอมเพชรกลับ คุณพิเศษด้านกลับร้ายกลายเป็นดี ตะกรุดโทน มีพุทธคุณครบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นมหาเสน่ห์ มหาโชค มหาลาภ มหาอุด ตะกรุดพญางูเหลือม ดีทางเรียกเงินเรียกทอง ทำมาหากินสะดวกสบาย โชคลาภเงินทองเข้ามาหาเอง เหมือนพญางูเหลือมที่สัตว์เล็กใหญ่พากันมาให้กินโดยไม่ต่อสู้ขัดขืน ปลัดขิก เมตตา ค้าขาย กันเขี้ยวงา นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายชนิดเช่น ผ้ายันต์ต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันเลิกทำแล้วเพราะอายุมาก เครื่องรางทุกชนิด พระเครื่องทุกรุ่นทุกพิมพ์ ท่านสร้างด้วยความพิถีพิถันทุกขั้นตอน อาจารย์เปล่งกล่าวให้ผู้เขียนฟังว่าเราทำของให้เขาใช้ เราต้องทำให้เต็มที่ อย่าให้เสียชื่อ ท่านเรียนรู้จริง ทำได้จริงจึงกล้ารับประกัน อีกประการที่ท่านผู้อ่านสงสัยกันมากก็คือ เครื่องผงพรายกุมารที่ท่านทำ ท่านกรุณาชี้แจงให้ทราบว่าท่านปลุกเสกผงพรายเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และ เป็นกุศลแก่ตัวพรายด้วย ไม่ใช่ใช้พร้ายไปทำรายใคร ท่านปลุกเสกเป็นเมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยม ไปไหนใครก็รัก เช่นเดียวกับขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม แห่งวัดละหารไร่ จ. ระยอง ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าวัตถุมงคลทุกอย่างของท่านจะต้องเป็นที่เสาะแสวงหา ต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน ผู้เขียนลองตั้งข้อสังเกตง่ายๆ ให้ท่านผู้อ่านพิจารณาดังนี้ วัตถุมงคลที่ท่านสร้างไม่ดีจริง ทำไมมีหลายรุ่น หลายชนิด ถ้าไม่ดีจริงใครจะเช่า วัตถุมงคลทุกชนิดชำรุด แตกหัก เสียหายก็ยังเป็นที่ต้องการอยู่....

    [​IMG]
    อ.เปล่ง ตอนสมัยเป็นหนุ่มๆ ท่านเคยเล่าว่า ตอนนั้นเป็นนักศึกษา ได้หลบหนีเข้าป่าเนื่องจากตอนนั้นรัฐบาลได้กวาดล้างซึ่งได้ถูกกล่าวหาว่า เป็นพวกคอมมิวนิสต์ ท่านได้หลบหนีเข้าป่า ไปเจอ อ.ภา ซึ่งอยู่ในป่า อ.ภา มีเชื้อสายเขมรและเป็นพระที่มีวิชาอาคมขลังมาก ได้ชักชวน อ.เปล่ง ให้บวชด้วยกัน เนื่องจาก อ.เปล่งท่านกลัวว่าจะถูกทางการจับ จึงบวชและเรียนวิชาอยู่กับ อ.ภา เป็นเวลากว่า 10 ปี ท่านต้องกินใบไม้แทนข้าว นอนในถ้ำที่มีงูเห่าชุกชุม และนั่งสมาธิเป็นประจำ ท่านเล่าว่างูเยอะมากแต่ไม่สามารถทำอะไรท่านได้ เพราะท่านค่อนข้างมีวิชาเหมือนกัน และอีกอย่างยุงที่อยู่ในป่า เวลาตกตอนค่ำมา ท่านเล่าว่ามาเหมือนฝน หลังจากสำเร็จวิชาทางผงพราย จาก อ.ภา ท่านก็ธุดงค์ในป่า และชอบเก็บสะสมพวกว่านชนิดต่างๆ ผมเคยถามท่านว่าพวกผงพรายนี้ไปเอามาจากไหน ท่านบอกว่าก็เอามาจากศพนักศึกษาที่ถูกยิงตายนั่นแหละ ท่านเก็บสะสมและเสกมาเรื่อยๆ จนวันที่ท่านออกจากป่า อ.ภา ก็ขอร้องท่านให้บวชจนตายด้วยกัน แต่ท่านไม่สามารถทำได้เพราะท่านมีเมียแล้วจึงกลับมาสมัครสอบเป็นอาจารย์อยู่ ที่ อ.ท่าตูมด้วยความสามารถทางจิตของท่าน บางทีท่านออกจะร้อนวิชา บางวันนอนในบ้านไม่ได้ต้องออกมานั่งสมาธิหน้าบ้านใต้ต้นไม้ เมื่อท่านอายุ ได้ประมาณ 50 กว่า ปี คนแถวนั้น เขตอีสานใต้ได้รู้ถึงกิตติศัพท์ของท่าน มีครั้งหนึ่งชาวบ้านได้เชิญท่านเป็นเจ้าพิธีในงานเปิดสะพานแม่น้ำมูล ท่านได้บริกรรมอยู่บนเรือ ขณะท่านบริกรรมอยู่นั้นได้มีปลาจำนวนมากกระโดดขึ้นเรือเป็นจำนวนมากชาวบ้าน ที่ไปร่วมพิธีเห็นหมด จึงเป็นที่เลืองลือ และท่านเคยเปิดเสื้อให้ดูรอยกระสุน ที่พวกคนใต้มาท้าลองยิงใส่ตัวท่านด้วยความเป็นนิสัยนักเลงท่านก็ถอดเสื้อให้ ยิงปรากฏว่าไม่เข้า พระหรือวัตถุมงคลที่ท่านสร้างนั้น มวลสารหลัก ๆ คือ ผงพราย เคยถามท่านว่าดียังไง ท่านบอกว่า ถ้าใครโดนของมา พวกพรายมันจะดึงออกให้ และกันของได้ด้วยอีกทั้งเป็นมหาเสน่ห์อย่างแรง ท่านบอกว่าใช้พระท่านนั้นคุ้มตัวได้แน่นอน และให้ติดตัวตลอดเวลา เคยมีบางคนโดนอุบัติเหตุแต่กลับไม่เป็นอะไรเลยมีเยอะครับ ถ้าเป็นทหาร ตำรวจไปขอพระท่าน ท่านจะให้ฟรีๆ - การเซ่นพราย(ทางหยาบ)ของ อ.เปล่งใช้เพียง กล้วย และน้ำแดงครับ โดยอย่าลืมปักธูป1ดอก ที่กล้วยและน้ำแดง มิฉะนั้นพรายจะรับไม่ได้ (ทางละเอียด)ให้ทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้พราย เพื่อที่พรายจะได้มีพลังจากบุญฤทธิ์ที่ได้รับ กลับมาช่วยเหลือเราได้อย่างเต็มที่ ก่อนนำเข้าบ้านต้องจุดธูปบอกเจ้าที่ มิฉะนั้นพรายจะเข้าบ้านไม่ได้ และถ้าที่บ้านมี ท้าวเวสสุวรรณ อย่าลืมจุดธูปบอกกล่าวท่าน....
    ขอบคุณที่มาครับ((คลิก))
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2016
  12. กันตสีโล

    กันตสีโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +783
    ขอจอง รายการที่ 169 รูปหล่อเตารีด หลวงปู่ทวด พิมพ์กลาง ปั้มซ้ำ ปี 2505
     
  13. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    รับทราบการจอง...ขอบพระคุณมากครับ
    :cool::cool::cool::cool:
     
  14. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 349 พระผงยา"รูปเหมือน"ลป.ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสนา จ.สกลนคร รุ่นแรกยุคแรก ท่านสร้างเอง กดมือไปบริกรรมไป ทีละองค์ เพื่อแจกลูกศิษย์ลูกหา ที่มาบริจาคปัจจัยในการช่วยสร้างศาสนสถานภายในวัด ในโอกาสงานผ้าป่า งานกฐิน ซึ่งเกือบทั้งหมด หลวงปู่จะมีดำริให้สร้างเอง รวมทั้งตะกรุด พระทรงอื่นๆ ที่ทำจากเนื้อตะกั่ว-ปรอทเพชร เป็นส่วนมาก แม้จะไม่สวย แต่ก็มากด้วยคุณค่า ทรงพลังและพุทธคุณที่ไม่ธรรมดา พระชุดนี้หลวงปู่นำมวลสารผงวิเศษ+ผงยาจินดามณี+ว่าน+ชานหมาก มาใช้ในการสร้าง บางองค์มีเกศา มีแร่ศักดิ์สิทธิจากแม่น้ำโขง สีสรรก็แตกต่างกันออกไป โภคทรัพย์สุดๆ ลูกศิษย์หลายคนบอก ใชักันคุณไสย์ ไล่ผีไล่ปลอบก็ได้ ทางฝั่ง สปป.ลาว เห็นไม่ได้ครับพระผงชุดนี้ ถามขอบูชาหมด เพราะฝั่งโน้น เขาเคารพศรัทธาให้เป็นพระสังฆราชของทางฝั่งลาวเลยทีเดียว ขอที่ 199.-ฟรีส่ง EMS (danaitorn)
    [​IMG][​IMG]
    อจินไตย!!!
    สัมผัสหัวใจและจิตวิญญาณของคุรุ...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต
    พระผู้ทรงจิตตานุภาพเจโตปริญญาณ
    วัดป่าคูณคำวิปัสสนา บ้านกลาง ต.กุดไห อ.กุดบาก จ.สกลนคร

    [​IMG]
    หลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต ผู้สำเร็จอภิญญาสายโลกอุดร

    ...พริกน่ะมันไม่ได้เผ็ดที่คนทำ หรือคนกินแต่มันเผ็ดในตัวของมันเอง พระราชากินก็เผ็ด ขอทานกินก็เผ็ด ใครกินก็เผ็ด เพราะ ฉะนั้นคุณงามความดีของแต่ละบุคคลก็เหมือนกันไม่จำเป็นต้องให้ใครมา ประกาศว่าเราดี เราก็ดี(ถ้ามันดีจริง) ไม่จำเป็นต้องโฆษณาสรรพคุณตัวเองว่าดี มันก็ดี(ถ้าตัวเราดีจริง) เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าทำดีแล้วก็ให้มันดีเหมือนพริกขี้หนู ไม่ใช่อวดอ้างว่าเป็นพริกแต่พอมีคนมาลองกินถึงได้รู้ว่าพริกหยวกไม่ใช่พริก ขี้หนู….

    ..สาเหตุอะไรทำไมหลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต ผู้สืบธรรมแห่งอีสานของสยามประเทศเป็นถึงระดับครูบาอาจารย์แท้ๆ กลับชอบทำวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังมาแจกมากกว่าสอนคนเลยนึกสบประมาทพลาด พลั้งท่าน ท่านจึงหันมากล่าวกับเรา(ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เอ่ยออกมา) ว่าน้อยเรานะทำอยู่ 2 อย่าง คือ 1.วัตถุธาตุ 2.คือวัตถุธรรม คนเราทุกวันนี้เข้าวัดมาทำบุญไม่ได้มุ่งหวังความหลุดพ้นแต่มุ่งที่จะได้รับ วัตถุ มาขอแต่เครื่องรางของขลัง ขอโชคขอลาภเราก็เลยทำวัตถุธาตุมาให้เพราะจะได้ไม่ต้องพูดมากเพราะคนพวกนี้ ไม่ค่อยจะเอาธรรมะ พอ มีใครเข้ามาขอของดีเราก็โยนให้เขาจะได้ไม่เสียเวลาได้แล้วเขาก็จะได้กลับ กันไปไม่เหนื่อย แต่ส่วนที่ 2 คือวัตถุธรรมมันไม่ค่อยมีคนมาขอ 100 คน มาขอสัก 2 คนเห็นจะได้ เราก็เลยเน้นทำวัตถุมงคลให้คนแต่อย่าเหมาว่าเราไม่ให้ธรรม เพราะเราบอกทุกคนเสมอว่าอยากดีก็ทำเอา อยากชั่วก็ทำเอา

    ..คำสอนที่ หลวงปู่ขาว ได้สอน พระอาจารย์โต้ง เจ้าอาวาสวัดศิลามงคล อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

    1.เป็นพระต้องขยันสวดมนต์-เจริญภาวนาคืองานหลัก
    2.ให้ ถือ"สัจจะ" เป็นที่ตั้ง ให้พูดจริง(ท่านไม่ชอบคนโกหก) เพราะถ้าเรามีสัจจะ พูดจริง เวลาสร้างวัตถุมงคลหรือเสกวัตถุมงคลจะเกิดแต่สิ่งที่ดีๆ ผู้ที่ได้นำไปใช้ก็จะได้แต่สิ่งที่ดีๆ
    3.ให้มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อมถ่อมตน เคารพครูบาอาจารย์
    4.อย่าสร้างความลำบากให้กับคนอื่น

    ธรรมะเหล่านี้เป็นธรรมบริสุทธิ์ของที่แสดงจากจิตด้วยความเคารพในคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของ...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต วัดคูณคำวิปัสสนา อ.กุดบาก จ.สกลนคร ผู้มีสัมผัสในธรรมของหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งนับตั้งแต่ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประมาณ 50 ปีที่ผ่านมาเรื่องราวของหลวงปู่เทพโลกอุดร นั้นได้รับการกล่าวถึงมากมายจากผู้ที่มีประสบการณ์โดยตรงและทั้งการบอกเล่าปากต่อปาก สู่การบันทึกเก็บข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับท่านหลวงปู่เทพโลกอุดรไว้อย่างมากมาย และมีการจดบันทึกไว้ของผู้รู้และมีประสบการณ์จริงที่ได้มีบุญบารมีสัมพันธ์กับหลวงปู่เทพโลกอุดร และเรื่องราวที่หลวงปู่ขาวได้เล่าสู่คณะลูกศิษย์ได้รับทราบข้อเท็จจริงใน เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่เทพโลกอุดรหรือที่ชื่อเสียงเรียงนามที่แท้จริงของ ท่านคือพระอุตตระเถระ ผู้เป็นศิษย์โดยตรงของท่านพระมหากัสสปะเถระ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเลิศทางธุดงควัตร เรื่องราวที่ถูกเปิดเผยจากปากหลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต ถึงความสัมพันธ์และการได้รับความเมตตาอบรมจากท่านหลวงปู่เทพโลกอุดร ในเรื่องราวต่างๆนั้นมีมากมายแต่สิ่งเหล่านี้บางอย่างบางเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นกับชีวิตจริงของหลวงปู่ขาว ก็ไม่มีหลักฐานมายืนยันให้เป็นประจักษ์ ทั้งการเข้าไปพบถ้ำลับแล การเหาะหายตัวไปจากแผ่นดินราบจนไปปรากฏตัวที่ภูเขาควายประเทศลาวสิ่งที่ไม่ เคยรู้ไม่เคยเห็นก็มีเพียงหลักฐานสถานที่ที่มีอยู่จริงสามารถตรวจสอบได้ แต่เรื่องราวต่างๆรวมทั้งการหาพยานหลักฐานทางรูปธรรมเกี่ยวกับตัวตนรูปร่าง ของหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่จะนำมาให้ผู้คนสัมผัสจับต้องได้นั้นเป็นสิ่งที่สุดวิสัยที่หลวงปู่ขาว จะหาหลักฐานมายืนยันได้ ...สำหรับหลวงปู่ขาว นั้นท่านยืนยันนอนยันด้วยจิตในธรรม.. สำหรับหลวงปู่ขาว นั้นท่านจะมีหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการมีอยู่จริงของหลวงปู่เทพโลกอุดร คือเส้นเกสาของหลวงปู่เทพโลกอุดรที่ ท่านได้รับมาจากหลวงปู่เทพโลกอุดรโดยตรงและสิ่งที่จะแสดงยืนยันถึงคุณธรรม ส่วนตัวของหลวงปู่ขาวได้ดีคือเส้นเกสาของท่าน นั้นจับกันเป็นก้อนอย่างเด่นชัดและบางส่วนแปรสภาพเป็นพระธาตุให้เป็นที่ ประจักษ์ยืนยันตลอดจนเมตตาบารมีที่เป็นที่ประจักษ์ปรากฏแก่ผู้คนทั่วทั้ง แผ่นดินประเทศลาวและแถบอำเภอพระธาตุพนมที่มีผู้ได้พบเห็นเมตตาบารมีจากท่าน แสดงปาฏิหาริย์ให้เป็นที่ประจักษ์นับครั้งไม่ถ้วน....

    หลวง ปู่ขาว ท่านให้โอวาทเสมอว่า...ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมันตกอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์ ( ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน ) คือเมื่อมีขึ้นแล้วก็เสื่อมได้ สลายไปไม่มีตัวตนในที่สุด ไม่มีอะไรอยู่ค้ำฟ้าได้หรอก สิ่งต่างๆมีอายุการใช้งานเหมือนกับอายุของสัตว์นี่แหละ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเหลือค้างโลก สร้างอีกก็เสื่อมสลายอีก จะว่าอะไรแม้แต่ผู้ประดิษฐ์คิดค้นเอง สุดท้ายมันก็ต้องตายเป็นเถ้าเหมือนกัน ส่วนแนวปฏิบัติกรรมฐานนั้น หลวงปู่ขาวจะชอบพูดว่า พุทโธตัวเดียวอย่างเดียว อย่าทิ้งองค์กรรมฐาน เพราจิตจะตกลงสู่ภวังค์ ( อารมณ์ต่างๆ ) เมื่อเราบริกรรมพุทโธจะเปรียบเหมือนกับเราทำให้อารมณ์ต่างๆเกิดขึ้นช้าลง หรือห่างออกจากเดิม ที่เกิดขึ้นเร็วจนบางครั้งตามแทบไม่ทัน ถึงแม้เราจะไม่สามารถทำจิตให้อยู่ในอารมณ์เดียวได้ ( เป็นหนึ่งอยู่คำบริกรรม ) และแม้ผู้นั้นจะเรียนรู้ธรรมะจากรู้อุบายภาวนามาก ศึกษาจากครูบาฯมามาก แต่ถ้าผู้นั้นไม่สามารถหาอุบายวิธีที่จะทำให้จิตของตนเองสงบจากอารมณ์ต่างๆ ได้แล้ว ธรรมะที่รู้มาก็ไม่มีประโยชน์ ปัญญาที่แท้ จริงไม่มีวันรู้ได้ เพราะอารมณ์ต่างๆมันจะปรุงแต่งให้จิตฟุ้งซ่าน เลื่อนลอย ไม่มีวันหยุดสงบลงได้ เรียกว่า สติยังปัญญายังอ่อน อันมีสาเหตุเนื่องมาจาก….

    1.วาสนา บารมี กระทำบำเพ็ญในอดีตยังน้อย ( พละหรืออินทรีย์ ๕ ยังอ่อน )
    2.ความเพียรพยายามในปัจจุบันไม่มีกำลัง คือไม่ค่อยทำหรือทำไม่ต่อเนื่อง
    3.ลังเลสงสัยในองค์กรรมฐาน ( คำภาวนา ) ที่ตนเองใช้
    4.ไม่เชื่อมั่นศรัทธา ไม่มั่นคงในตัวครูบาอาจารย์ที่ตนเองศึกษาอยู่
    5.ปฏิบัติผิดทางหรือปฏิบัติอยู่กับอาจารย์กรรมฐานที่ไม่รู้จริง ( ไม่มีภูมิรู้ )
    6.รู้เกินครูบาอาจารย์ อันเนื่องจากเรียนมามาก ศึกษาหลายอาจารย์จนสับสนแนวปฏิบัติและชอบอวดรู้ มีทิฐิมานะ การถือตนสูงไม่ยอมรับคำสอนของผู้อื่น

    ..นี่ คือ...อุปสรรคเกี่ยวกับการปฏิบัติที่หลวงปู่ขาวสอนเสมอ ท่านว่า.. คนที่ว่าตนเองรู้ ตนเองฉลาดแล้ว คนนั้นคือ คนโง่ที่สุด คนที่มีนิสัยถ่อมตน ไม่ถือตัว ไม่อวดความรู้ที่ตนเองมี คนนั้นคือ นักปราชญ์ผู้รู้จริง และผู้นั้นจะมีความรู้จากบุคคลต่างๆ สิ่งต่างๆอีกมาก การภาวนานั้นให้เอาปัจจุบัน พากเพียรเอาปัจจุบันเป็นหลัก อีกทั้งต้องเชื่อในกรรมว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เชื่อมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่สำคัญต้องหาครูบาฯที่รู้จริงในแนวทางปฏิบัติ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียด เป็นเรื่องภายใน และยิ่งปฏิบัติชั้นสูงขึ้นแล้ว ยิ่งต้องได้ครูบาฯที่รู้จริงอย่างถ่องแท้ เพราะไม่อย่างนั้นอาจนำไปสู่การปฏิบัติที่ผิดและหลงยึดในสิ่งที่ไม่ควรยึด ครุบาฯที่ท่านมีภูมิจจิตที่แท้นั้น ท่านจะผ่านการปฏิบัติอุบายต่างๆมามาก และรู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรปล่อย สิ่งใดควรปฏิบัติและถูกไม่ถูก…

    ..พระพุทธองค์ทรงสอนให้รู้จักว่าอันไหนบุญอันไหนบาป สิ่งใดควรทำสิ่งใดควรละเว้น ไม่ให้ทำ บุญกุศลนั้น เมื่อผู้ใดได้กระทำแล้วผู้นั้นย่อมได้รับความสุขร่มเย็น ไม่ตกต่ำ มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง แม้ขณะที่ทำหรือหลังจากที่ได้ทำไปแล้วผู้ทำยังไม่ได้รับผลก็ตาม แต่ขอให้เชื่อมั่นเอาไว้เลยว่า วันข้างหน้าตัวของเราจะต้องได้รับผลแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ตกหล่นสูญหายไปไหน
    เช่นเดียวกันกับ บาปกรรม ความชั่วที่ทำเอาไว้ วันหนึ่งข้างหน้าก็ต้องได้รับผลกรรมแน่นอนยากที่จะหลีกหนีพ้น เพราะอำนาจของกรรมนั้นมีมากที่สุดในบรรดาอำนาจทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกนี้ ควบคุมบัญชาการทั้งคนแลสัตว์บนโลก รวมทั้ง สาม โลก คือ มนุษย์ เทวดา นรก ไม่มีใครอยู่เหนืออำนาจกรรมไปได้

    สำหรับอำนาจการปกครองของกรรมนั้นไม่มีศาสนา ภาษา ไม่มีการแบ่งแยกเหมือนอย่างที่มนุษย์ในโลกทำกัน เวลาให้ผลก็ตรงไปตรงมาและยุติธรรมที่สุด ไม่เอนเอียงเข้าข้างผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มคณะใดก็ไม่มีการยกเว้น กรรมเมื่อถึงเวลาที่จะรับผล ไม่มีคำว่าผ่อนผันหรือผลัดวันประกันพรุ่ง เวลานั้นต้องได้รับผลทันที….

    ..ดัง นั้นเราผู้ที่มีความศรัทธาและมีความเชื่อมั่นใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ควรพึงระวังตั้งจิตของตนเองให้ดี เป็นอัปปมาทธรรม คือ มีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท

    สำหรับตัวหลวงปู่ขาวเอง นั้น ไม่ว่าผู้ใดคนใดที่ได้มากระทำกรรม หรือทำอะไรต่างๆให้ ท่านไม่ถือ และไม่มีหน้าที่ต้องถือ เพราะการถือมันทำให้หนัก ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้ารู้จักวาง มันก็เบา ท่านไม่มีหน้าที่ให้คุณให้โทษแก่ผู้ใด หน้าที่ของท่านมีเพียงอย่างเดียวก็คือ ปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สร้างคุณงามความดีให้มากที่สุด จนกว่าชีวิตจะแตกดับไปตามกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ เพราะชีวิตเป็นของน้อย ความตายเลือกให้เป็นดั่งใจไม่ได้ว่า เราจะตายอายุเท่านั้นอายุเท่านี้ เวลานั้นเวลานี้ ตายในสถานที่แห่งนั้นแห่งนี้ จึงอย่าไปด้านประมาทนิ่งนอนใจ พยายามสร้างคุณงามความดีและบุญกุศลเอาไว้ให้มากที่สุด ในขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อมีโอกาสอย่าประมาท แม้ว่าจะเป็นกุศลเล็กน้อยๆ เพราะน้อย ถ้าเราทำบ่อยๆ วันข้างหน้าก็มากขึ้นเอง ขอเพียงแต่อย่าท้อถอยและอ่อนแอ ให้มั่นคงหนักแน่น อย่ายอมแพ้ต่ออุปสรรคต่างๆ ทำจิตให้เหมือนสัตบุรุษทั้งหลาย

    กล่าวกันว่า...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต เจ้า อาวาส วัดป่าคูณคำวิปัสสนา อ.กุดบาก จ.สกลนคร ซึ่งเป็นสายวิปัสสนา นอกจากนี้ครั้งหนึ่งในอดีตหลายภพหลายชาติ ท่านก็คือ พระยาเกรียงไกรซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ที่สร้างพระธาตุพนม หลักฐานข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเป็นกษัตริย์นั้นยังมีปรากฏให้เห็นอยู่…ท่าน มีความเกี่ยวข้องอันใดกับหลวงปู่เทพโลกอุดรพระอรหันต์ผู้ซึ่งได้ปวารณาตัว ดูแลพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่เพื่อส่งมอบให้กับพระพุทธศาสดาองค์ต่อไป คือพระศรีอาริยเมตไตรก็ขอให้ท่านได้สัมผัสได้ด้วยใจตนเอง..

    แม้นว่า..ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ ..ศรัทธาชาวพุทธต่างสั่นคลอนเป็นอย่างมากเรื่องราวมากหลาย ถูกจัดฉาก แสดงโดยผู้จิตขุ่นมัวเป็น ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังถ้าท่านใดไม่รู้ตัว ไม่ระวัง ก็ยังไม่เป็นไรมากเพราะยังมีกลุ่มผู้มีบุญบารมีต่างๆ คอยอุ้มชู ช่วยเหลือกันไว้มากบ้าง น้อยบ้าง ตามสติปัญญา ตามกำลัง ตามบุญวาสนาบารมีของตนแต่เรายังโชคดีที่มี พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้ดำรงสมาธิจิตด้วยขันติ วิริยะ จิตตะ ในเอกัตคตารมณ์ มีสติรอบรู้ เป็นหนึ่งเมื่อแผ่พละธรรมความศรัทธาให้แก่หมู่ชนโดยทั่วไป หรือเจาะจงย่อมเกิดพลานุภาพ สังฆานุภาพ ปรากฎเป็นรูปธรรม แก่ผู้ปรารถนาโดยอัศจรรย์... โดยมีหลักการที่จะสร้างจิตให้เกิดฤทธิ์ได้คือ การสร้างพลังงานของจิตให้มีอานุภาพ สามารถทำให้เกิดสิ่งที่เหนือธรรมชาติได้ สภาวะทั้งหลายทั้งปวงของธาตุ 4 ขันธ์5 เป็นรูปธรรม ซึ่ง เป็นแหล่งทำให้เกิดพลังงานทางจิต พลังงานของธาตุต่างๆที่หนุนเสริม เป็นการสร้างพลังงานของจิตให้สู่สภาวะของความมีอิทธิฤทธิ์ปรากฏผลสำเร็จ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2016
  15. danaitorn

    danaitorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2015
    โพสต์:
    328
    ค่าพลัง:
    +252
    ขอบูชารายการที่ 349
     
  16. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 350 พระผงยา"สาลิกาคู่"ลป.ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสนา จ.สกลนคร รุ่นแรกยุคแรก ท่านสร้างเอง กดมือไปบริกรรมไป ทีละองค์ เพื่อแจกลูกศิษย์ลูกหา ที่มาบริจาคปัจจัยในการช่วยสร้างศาสนสถานภายในวัด ในโอกาสงานผ้าป่า งานกฐิน ซึ่งเกือบทั้งหมด หลวงปู่จะมีดำริให้สร้างเอง รวมทั้งตะกรุด พระทรงอื่นๆ ที่ทำจากเนื้อตะกั่ว-ปรอทเพชร เป็นส่วนมาก แม้จะไม่สวย แต่ก็มากด้วยคุณค่า ทรงพลังและพุทธคุณที่ไม่ธรรมดา พระชุดนี้หลวงปู่นำมวลสารผงวิเศษ+ผงยาจินดามณี+ว่าน+ชานหมาก มาใช้ในการสร้าง บางองค์มีเกศา มีแร่ศักดิ์สิทธิจากแม่น้ำโขง สีสรรก็แตกต่างกันออกไป โภคทรัพย์สุดๆ ลูกศิษย์หลายคนบอก ใชักันคุณไสย์ ไล่ผีไล่ปลอบก็ได้ ทางฝั่ง สปป.ลาว เห็นไม่ได้ครับพระผงชุดนี้ ถามขอบูชาหมด เพราะฝั่งโน้น เขาเคารพศรัทธาให้เป็นพระสังฆราชของทางฝั่งลาวเลยทีเดียว แนะนำให้เก็บๆนะครับ สร้างน้อยจริงๆ และพุทธคุณแรงมั๊กมาก ขอที่ 250.-ฟรีส่ง EMS (danaitorn)
    [​IMG][​IMG]
    เมตตามหานิยม ค้าขาย เสริมเสน่ห์ เจรจาพาที และโชคลาภด้วยคร้าบ
    [​IMG]
    อจินไตย!!!
    สัมผัสหัวใจและจิตวิญญาณของครู...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต
    พระผู้ทรงจิตตานุภาพเจโตปริญญาณ วัดป่าคูณคำวิปัสสนา บ้านกลาง ต.กุดไห อ.กุดบาก จ.สกลนคร

    [​IMG]
    หลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต ผู้สำเร็จอภิญญาสายโลกอุดร

    ...พริกน่ะมันไม่ได้เผ็ดที่คนทำ หรือคนกินแต่มันเผ็ดในตัวของมันเอง พระราชากินก็เผ็ด ขอทานกินก็เผ็ด ใครกินก็เผ็ด เพราะ ฉะนั้นคุณงามความดีของแต่ละบุคคลก็เหมือนกันไม่จำเป็นต้องให้ใครมา ประกาศว่าเราดี เราก็ดี(ถ้ามันดีจริง) ไม่จำเป็นต้องโฆษณาสรรพคุณตัวเองว่าดี มันก็ดี(ถ้าตัวเราดีจริง) เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าทำดีแล้วก็ให้มันดีเหมือนพริกขี้หนู ไม่ใช่อวดอ้างว่าเป็นพริกแต่พอมีคนมาลองกินถึงได้รู้ว่าพริกหยวกไม่ใช่พริก ขี้หนู….

    ..สาเหตุอะไรทำไมหลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต ผู้สืบธรรมแห่งอีสานของสยามประเทศเป็นถึงระดับครูบาอาจารย์แท้ๆ กลับชอบทำวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังมาแจกมากกว่าสอนคนเลยนึกสบประมาทพลาด พลั้งท่าน ท่านจึงหันมากล่าวกับเรา(ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เอ่ยออกมา) ว่าน้อยเรานะทำอยู่ 2 อย่าง คือ 1.วัตถุธาตุ 2.คือวัตถุธรรม คนเราทุกวันนี้เข้าวัดมาทำบุญไม่ได้มุ่งหวังความหลุดพ้นแต่มุ่งที่จะได้รับ วัตถุ มาขอแต่เครื่องรางของขลัง ขอโชคขอลาภเราก็เลยทำวัตถุธาตุมาให้เพราะจะได้ไม่ต้องพูดมากเพราะคนพวกนี้ ไม่ค่อยจะเอาธรรมะ พอ มีใครเข้ามาขอของดีเราก็โยนให้เขาจะได้ไม่เสียเวลาได้แล้วเขาก็จะได้กลับ กันไปไม่เหนื่อย แต่ส่วนที่ 2 คือวัตถุธรรมมันไม่ค่อยมีคนมาขอ 100 คน มาขอสัก 2 คนเห็นจะได้ เราก็เลยเน้นทำวัตถุมงคลให้คนแต่อย่าเหมาว่าเราไม่ให้ธรรม เพราะเราบอกทุกคนเสมอว่าอยากดีก็ทำเอา อยากชั่วก็ทำเอา

    ..คำสอนที่ หลวงปู่ขาว ได้สอน พระอาจารย์โต้ง เจ้าอาวาสวัดศิลามงคล อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

    1.เป็นพระต้องขยันสวดมนต์-เจริญภาวนาคืองานหลัก
    2.ให้ ถือ"สัจจะ" เป็นที่ตั้ง ให้พูดจริง(ท่านไม่ชอบคนโกหก) เพราะถ้าเรามีสัจจะ พูดจริง เวลาสร้างวัตถุมงคลหรือเสกวัตถุมงคลจะเกิดแต่สิ่งที่ดีๆ ผู้ที่ได้นำไปใช้ก็จะได้แต่สิ่งที่ดีๆ
    3.ให้มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อมถ่อมตน เคารพครูบาอาจารย์
    4.อย่าสร้างความลำบากให้กับคนอื่น

    ธรรมะเหล่านี้เป็นธรรมบริสุทธิ์ของที่แสดงจากจิตด้วยความเคารพในคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของ...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต วัดคูณคำวิปัสสนา อ.กุดบาก จ.สกลนคร ผู้มีสัมผัสในธรรมของหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งนับตั้งแต่ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประมาณ 50 ปีที่ผ่านมาเรื่องราวของหลวงปู่เทพโลกอุดร นั้นได้รับการกล่าวถึงมากมายจากผู้ที่มีประสบการณ์โดยตรงและทั้งการบอกเล่าปากต่อปาก สู่การบันทึกเก็บข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับท่านหลวงปู่เทพโลกอุดรไว้อย่างมากมาย และมีการจดบันทึกไว้ของผู้รู้และมีประสบการณ์จริงที่ได้มีบุญบารมีสัมพันธ์กับหลวงปู่เทพโลกอุดร และเรื่องราวที่หลวงปู่ขาวได้เล่าสู่คณะลูกศิษย์ได้รับทราบข้อเท็จจริงใน เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่เทพโลกอุดรหรือที่ชื่อเสียงเรียงนามที่แท้จริงของ ท่านคือพระอุตตระเถระ ผู้เป็นศิษย์โดยตรงของท่านพระมหากัสสปะเถระ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเลิศทางธุดงควัตร เรื่องราวที่ถูกเปิดเผยจากปากหลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต ถึงความสัมพันธ์และการได้รับความเมตตาอบรมจากท่านหลวงปู่เทพโลกอุดร ในเรื่องราวต่างๆนั้นมีมากมายแต่สิ่งเหล่านี้บางอย่างบางเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นกับชีวิตจริงของหลวงปู่ขาว ก็ไม่มีหลักฐานมายืนยันให้เป็นประจักษ์ ทั้งการเข้าไปพบถ้ำลับแล การเหาะหายตัวไปจากแผ่นดินราบจนไปปรากฏตัวที่ภูเขาควายประเทศลาวสิ่งที่ไม่ เคยรู้ไม่เคยเห็นก็มีเพียงหลักฐานสถานที่ที่มีอยู่จริงสามารถตรวจสอบได้ แต่เรื่องราวต่างๆรวมทั้งการหาพยานหลักฐานทางรูปธรรมเกี่ยวกับตัวตนรูปร่าง ของหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่จะนำมาให้ผู้คนสัมผัสจับต้องได้นั้นเป็นสิ่งที่สุดวิสัยที่หลวงปู่ขาว จะหาหลักฐานมายืนยันได้ ...สำหรับหลวงปู่ขาว นั้นท่านยืนยันนอนยันด้วยจิตในธรรม.. สำหรับหลวงปู่ขาว นั้นท่านจะมีหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการมีอยู่จริงของหลวงปู่เทพโลกอุดร คือเส้นเกสาของหลวงปู่เทพโลกอุดรที่ ท่านได้รับมาจากหลวงปู่เทพโลกอุดรโดยตรงและสิ่งที่จะแสดงยืนยันถึงคุณธรรม ส่วนตัวของหลวงปู่ขาวได้ดีคือเส้นเกสาของท่าน นั้นจับกันเป็นก้อนอย่างเด่นชัดและบางส่วนแปรสภาพเป็นพระธาตุให้เป็นที่ ประจักษ์ยืนยันตลอดจนเมตตาบารมีที่เป็นที่ประจักษ์ปรากฏแก่ผู้คนทั่วทั้ง แผ่นดินประเทศลาวและแถบอำเภอพระธาตุพนมที่มีผู้ได้พบเห็นเมตตาบารมีจากท่าน แสดงปาฏิหาริย์ให้เป็นที่ประจักษ์นับครั้งไม่ถ้วน....

    หลวง ปู่ขาว ท่านให้โอวาทเสมอว่า...ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมันตกอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์ ( ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน ) คือเมื่อมีขึ้นแล้วก็เสื่อมได้ สลายไปไม่มีตัวตนในที่สุด ไม่มีอะไรอยู่ค้ำฟ้าได้หรอก สิ่งต่างๆมีอายุการใช้งานเหมือนกับอายุของสัตว์นี่แหละ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเหลือค้างโลก สร้างอีกก็เสื่อมสลายอีก จะว่าอะไรแม้แต่ผู้ประดิษฐ์คิดค้นเอง สุดท้ายมันก็ต้องตายเป็นเถ้าเหมือนกัน ส่วนแนวปฏิบัติกรรมฐานนั้น หลวงปู่ขาวจะชอบพูดว่า พุทโธตัวเดียวอย่างเดียว อย่าทิ้งองค์กรรมฐาน เพราจิตจะตกลงสู่ภวังค์ ( อารมณ์ต่างๆ ) เมื่อเราบริกรรมพุทโธจะเปรียบเหมือนกับเราทำให้อารมณ์ต่างๆเกิดขึ้นช้าลง หรือห่างออกจากเดิม ที่เกิดขึ้นเร็วจนบางครั้งตามแทบไม่ทัน ถึงแม้เราจะไม่สามารถทำจิตให้อยู่ในอารมณ์เดียวได้ ( เป็นหนึ่งอยู่คำบริกรรม ) และแม้ผู้นั้นจะเรียนรู้ธรรมะจากรู้อุบายภาวนามาก ศึกษาจากครูบาฯมามาก แต่ถ้าผู้นั้นไม่สามารถหาอุบายวิธีที่จะทำให้จิตของตนเองสงบจากอารมณ์ต่างๆ ได้แล้ว ธรรมะที่รู้มาก็ไม่มีประโยชน์ ปัญญาที่แท้ จริงไม่มีวันรู้ได้ เพราะอารมณ์ต่างๆมันจะปรุงแต่งให้จิตฟุ้งซ่าน เลื่อนลอย ไม่มีวันหยุดสงบลงได้ เรียกว่า สติยังปัญญายังอ่อน อันมีสาเหตุเนื่องมาจาก….

    1.วาสนา บารมี กระทำบำเพ็ญในอดีตยังน้อย ( พละหรืออินทรีย์ ๕ ยังอ่อน )
    2.ความเพียรพยายามในปัจจุบันไม่มีกำลัง คือไม่ค่อยทำหรือทำไม่ต่อเนื่อง
    3.ลังเลสงสัยในองค์กรรมฐาน ( คำภาวนา ) ที่ตนเองใช้
    4.ไม่เชื่อมั่นศรัทธา ไม่มั่นคงในตัวครูบาอาจารย์ที่ตนเองศึกษาอยู่
    5.ปฏิบัติผิดทางหรือปฏิบัติอยู่กับอาจารย์กรรมฐานที่ไม่รู้จริง ( ไม่มีภูมิรู้ )
    6.รู้เกินครูบาอาจารย์ อันเนื่องจากเรียนมามาก ศึกษาหลายอาจารย์จนสับสนแนวปฏิบัติและชอบอวดรู้ มีทิฐิมานะ การถือตนสูงไม่ยอมรับคำสอนของผู้อื่น

    ..นี่ คือ...อุปสรรคเกี่ยวกับการปฏิบัติที่หลวงปู่ขาวสอนเสมอ ท่านว่า.. คนที่ว่าตนเองรู้ ตนเองฉลาดแล้ว คนนั้นคือ คนโง่ที่สุด คนที่มีนิสัยถ่อมตน ไม่ถือตัว ไม่อวดความรู้ที่ตนเองมี คนนั้นคือ นักปราชญ์ผู้รู้จริง และผู้นั้นจะมีความรู้จากบุคคลต่างๆ สิ่งต่างๆอีกมาก การภาวนานั้นให้เอาปัจจุบัน พากเพียรเอาปัจจุบันเป็นหลัก อีกทั้งต้องเชื่อในกรรมว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เชื่อมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่สำคัญต้องหาครูบาฯที่รู้จริงในแนวทางปฏิบัติ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียด เป็นเรื่องภายใน และยิ่งปฏิบัติชั้นสูงขึ้นแล้ว ยิ่งต้องได้ครูบาฯที่รู้จริงอย่างถ่องแท้ เพราะไม่อย่างนั้นอาจนำไปสู่การปฏิบัติที่ผิดและหลงยึดในสิ่งที่ไม่ควรยึด ครุบาฯที่ท่านมีภูมิจจิตที่แท้นั้น ท่านจะผ่านการปฏิบัติอุบายต่างๆมามาก และรู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรปล่อย สิ่งใดควรปฏิบัติและถูกไม่ถูก…

    ..พระพุทธองค์ทรงสอนให้รู้จักว่าอันไหนบุญอันไหนบาป สิ่งใดควรทำสิ่งใดควรละเว้น ไม่ให้ทำ บุญกุศลนั้น เมื่อผู้ใดได้กระทำแล้วผู้นั้นย่อมได้รับความสุขร่มเย็น ไม่ตกต่ำ มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง แม้ขณะที่ทำหรือหลังจากที่ได้ทำไปแล้วผู้ทำยังไม่ได้รับผลก็ตาม แต่ขอให้เชื่อมั่นเอาไว้เลยว่า วันข้างหน้าตัวของเราจะต้องได้รับผลแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ตกหล่นสูญหายไปไหน
    เช่นเดียวกันกับ บาปกรรม ความชั่วที่ทำเอาไว้ วันหนึ่งข้างหน้าก็ต้องได้รับผลกรรมแน่นอนยากที่จะหลีกหนีพ้น เพราะอำนาจของกรรมนั้นมีมากที่สุดในบรรดาอำนาจทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกนี้ ควบคุมบัญชาการทั้งคนแลสัตว์บนโลก รวมทั้ง สาม โลก คือ มนุษย์ เทวดา นรก ไม่มีใครอยู่เหนืออำนาจกรรมไปได้

    สำหรับอำนาจการปกครองของกรรมนั้นไม่มีศาสนา ภาษา ไม่มีการแบ่งแยกเหมือนอย่างที่มนุษย์ในโลกทำกัน เวลาให้ผลก็ตรงไปตรงมาและยุติธรรมที่สุด ไม่เอนเอียงเข้าข้างผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มคณะใดก็ไม่มีการยกเว้น กรรมเมื่อถึงเวลาที่จะรับผล ไม่มีคำว่าผ่อนผันหรือผลัดวันประกันพรุ่ง เวลานั้นต้องได้รับผลทันที….

    ..ดัง นั้นเราผู้ที่มีความศรัทธาและมีความเชื่อมั่นใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ควรพึงระวังตั้งจิตของตนเองให้ดี เป็นอัปปมาทธรรม คือ มีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท

    สำหรับตัวหลวงปู่ขาวเอง นั้น ไม่ว่าผู้ใดคนใดที่ได้มากระทำกรรม หรือทำอะไรต่างๆให้ ท่านไม่ถือ และไม่มีหน้าที่ต้องถือ เพราะการถือมันทำให้หนัก ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้ารู้จักวาง มันก็เบา ท่านไม่มีหน้าที่ให้คุณให้โทษแก่ผู้ใด หน้าที่ของท่านมีเพียงอย่างเดียวก็คือ ปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สร้างคุณงามความดีให้มากที่สุด จนกว่าชีวิตจะแตกดับไปตามกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ เพราะชีวิตเป็นของน้อย ความตายเลือกให้เป็นดั่งใจไม่ได้ว่า เราจะตายอายุเท่านั้นอายุเท่านี้ เวลานั้นเวลานี้ ตายในสถานที่แห่งนั้นแห่งนี้ จึงอย่าไปด้านประมาทนิ่งนอนใจ พยายามสร้างคุณงามความดีและบุญกุศลเอาไว้ให้มากที่สุด ในขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อมีโอกาสอย่าประมาท แม้ว่าจะเป็นกุศลเล็กน้อยๆ เพราะน้อย ถ้าเราทำบ่อยๆ วันข้างหน้าก็มากขึ้นเอง ขอเพียงแต่อย่าท้อถอยและอ่อนแอ ให้มั่นคงหนักแน่น อย่ายอมแพ้ต่ออุปสรรคต่างๆ ทำจิตให้เหมือนสัตบุรุษทั้งหลาย

    กล่าวกันว่า...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต เจ้า อาวาส วัดป่าคูณคำวิปัสสนา อ.กุดบาก จ.สกลนคร ซึ่งเป็นสายวิปัสสนา นอกจากนี้ครั้งหนึ่งในอดีตหลายภพหลายชาติ ท่านก็คือ พระยาเกรียงไกรซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ที่สร้างพระธาตุพนม หลักฐานข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเป็นกษัตริย์นั้นยังมีปรากฏให้เห็นอยู่…ท่าน มีความเกี่ยวข้องอันใดกับหลวงปู่เทพโลกอุดรพระอรหันต์ผู้ซึ่งได้ปวารณาตัว ดูแลพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่เพื่อส่งมอบให้กับพระพุทธศาสดาองค์ต่อไป คือพระศรีอาริยเมตไตรก็ขอให้ท่านได้สัมผัสได้ด้วยใจตนเอง..

    แม้นว่า..ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ ..ศรัทธาชาวพุทธต่างสั่นคลอนเป็นอย่างมากเรื่องราวมากหลาย ถูกจัดฉาก แสดงโดยผู้จิตขุ่นมัวเป็น ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังถ้าท่านใดไม่รู้ตัว ไม่ระวัง ก็ยังไม่เป็นไรมากเพราะยังมีกลุ่มผู้มีบุญบารมีต่างๆ คอยอุ้มชู ช่วยเหลือกันไว้มากบ้าง น้อยบ้าง ตามสติปัญญา ตามกำลัง ตามบุญวาสนาบารมีของตนแต่เรายังโชคดีที่มี พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้ดำรงสมาธิจิตด้วยขันติ วิริยะ จิตตะ ในเอกัตคตารมณ์ มีสติรอบรู้ เป็นหนึ่งเมื่อแผ่พละธรรมความศรัทธาให้แก่หมู่ชนโดยทั่วไป หรือเจาะจงย่อมเกิดพลานุภาพ สังฆานุภาพ ปรากฎเป็นรูปธรรม แก่ผู้ปรารถนาโดยอัศจรรย์... โดยมีหลักการที่จะสร้างจิตให้เกิดฤทธิ์ได้คือ การสร้างพลังงานของจิตให้มีอานุภาพ สามารถทำให้เกิดสิ่งที่เหนือธรรมชาติได้ สภาวะทั้งหลายทั้งปวงของธาตุ 4 ขันธ์5 เป็นรูปธรรม ซึ่ง เป็นแหล่งทำให้เกิดพลังงานทางจิต พลังงานของธาตุต่างๆที่หนุนเสริม เป็นการสร้างพลังงานของจิตให้สู่สภาวะของความมีอิทธิฤทธิ์ปรากฏผลสำเร็จ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2016
  17. danaitorn

    danaitorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2015
    โพสต์:
    328
    ค่าพลัง:
    +252
    ขอบูชารายการที่ 350
     
  18. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 351 พระผงยาขุนแผน"รุ่นแรก"ลป.ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสนา จ.สกลนคร รุ่นแรกยุคแรก ท่านสร้างเอง กดมือไปบริกรรมไป ทีละองค์ เพื่อแจกลูกศิษย์ลูกหา ที่มาบริจาคปัจจัยในการช่วยสร้างศาสนสถานภายในวัด ในโอกาสงานผ้าป่า งานกฐิน ซึ่งเกือบทั้งหมด หลวงปู่จะมีดำริให้สร้างเอง รวมทั้งตะกรุด พระทรงอื่นๆ ที่ทำจากเนื้อตะกั่ว-ปรอทเพชร เป็นส่วนมาก แม้จะไม่สวย แต่ก็มากด้วยคุณค่า ทรงพลังและพุทธคุณที่ไม่ธรรมดา พระชุดนี้หลวงปู่นำมวลสารผงวิเศษ+ผงยาจินดามณี+ว่าน+ชานหมาก มาใช้ในการสร้าง บางองค์มีเกศา มีแร่ศักดิ์สิทธิจากแม่น้ำโขง สีสรรก็แตกต่างกันออกไป โภคทรัพย์สุดๆ ลูกศิษย์หลายคนบอก ใชักันคุณไสย์ ไล่ผีไล่ปลอบก็ได้ ทางฝั่ง สปป.ลาว เห็นไม่ได้ครับพระผงชุดนี้ ถามขอบูชาหมด เพราะฝั่งโน้น เขาเคารพศรัทธาให้เป็นพระสังฆราชของทางฝั่งลาวเลยทีเดียว แนะนำให้เก็บๆนะครับ สร้าง 200 องค์เท่านั้น พุทธคุณสุดบรรยาย ขอที่ 350.-ฟรีส่ง EMS (pcharn)
    [​IMG][​IMG]
    "ขุนแผนรุ่นแรก" เรื่องเมตตาไม่ต้องพูดถึง แต่ได้ความเหนียวในสายบ้านแดงมาเสริมอีก สุดยอดมงคลอีกรุ่นของ ลป.ขาว พุทธรักขิตโต
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2016
  19. pcharn

    pcharn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2013
    โพสต์:
    2,373
    ค่าพลัง:
    +2,866
    จองรายการที่ 351 ครับ
     
  20. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 352 เหรียญ"รุ่นแรก"ลพ.คำแพง อัตตสันโต อดีตเจ้าอาวาสวัดบุญญานุสรณ์ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พระสุปฏิปันโน สายวิปัสนากรรมฐาน สภาพสวยมาก นำมาแบ่งกันไปใช้ เรียนเชิญครับ ขอที่ 250.- ฟรีส่ง EMS (anamvong01)
    [​IMG][​IMG]
    หลวงพ่อคำแพง อัตตสันโต อดีตเจ้าอาวาสวัดบุญญานุสรณ์

    [​IMG]
    พระอัฐิของหลวงพ่อคำแพง อัตตสันโต อดีตเจ้าอาวาสวัดบุญญานุสรณ์
    ซึ่งปัจจุบันอัฐิของท่านได้แปรสภาพกลายเป็นพระธาตุแล้ว

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...