83.เก็บเรื่องมาเล่า ไหว้พระที่เชียงใหม่

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 5 พฤษภาคม 2017.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    ๘๓


    เก็บเรื่องมาเล่า ไหว้พระที่เชียงใหม่

    ?temp_hash=2832b9645e18412368b5f6ef4e0b0d19.jpg
    ไปเที่ยวเชียงใหม่ จำได้ว่าครั้งแรกที่เคยไป เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก ด้วยรู้ว่าภาคเหนือมีวัดที่สวยงาม มีภูเขาสูงๆ ต้นไม้เขียวชอุ่ม อากาศหนาวเย็น ตอนนั้นนั่งรถกระบะไป เมื่อยมาก คุดอยู่หลังกระบะแต่ดีที่มีหลังคาให้บังลมบังแดด...ต่อมาเมื่อโตขึ้นได้ไปทัศนศึกษากับหมู่คณะ ไปจาริกแสวงบุญกับคณะทำบุญก็หลายครั้ง จนเริ่มที่จะขับรถยนต์ไปกันเองโดยศึกษาจากกระทู้เพื่อนบ้านบ้างว่าขับรถขึ้นเขาลงเขามีเทคนิคขับยังไง หลายๆ คนบอกว่าต้องใช้เอนจิ้นเบรก ต้องรู้จักเลี้ยงรอบเครื่อง ต้องรู้สภาพรถ ที่สำคัญต้องไม่ประมาท ยอมรับว่าขับรถขึ้นเขาครั้งแรกรู้สึกเกร็งและกังวล กลัวขึ้นไม่ไหว หลังจากจบทริปเที่ยวเหนือแล้ว มีความมั่นใจมากขึ้น แต่อย่าลืมว่า มั่นใจมากไปก็จะมาพร้อมกับความประมาท...

    ปี๒๕๕๙ เพื่อนที่สร้อยฟ้ามาลาเคยไปขอค้างบ้านที่เชียงใหม่เมื่อคราวที่แล้วโน้น ได้พังบ้านตัวเองแล้วปลูกใหม่ กำหนดจะทำบุญบ้านช่วงเข้าพรรษา ดูวันหยุด ๑๖ – ๒๐ ก็ ๕ วัน จะไม่ไปก็กะไรอยู่(แต่จริงๆ ก็อยากไปแหล่ะ หาเรื่องเที่ยว) คราวนี้ไม่ได้ขับรถเก๋ง แต่ขับรถกระบะ ๔ ประตู ยกสูงไป ออกจากกรุงเทพฯ ตอนเที่ยงวันของวันที่ ๑๕ ไปถึงนครสวรรค์ประมาณเกือบ ๑๖ น. แวะพักที่บ้านนครสวรรค์พอ ๑๗ น.ออกเดินทางไปกันต่อ ตัดสินใจว่าจะไปทางตากหรือไปทางอุตรดิตถ์ดี คิดไปคิดมา ทางตากทำถนนอยู่ใช้ความเร็วไม่ได้ รถติดแน่ๆ เพราะเป็นช่วงเทศกาล งั้นไปขึ้นเขาอุตรดิตถ์ดีกว่า....มาถึงพิษณุโลก ๖ โมงเย็น


    img_4209_11a-jpg.jpg

    เข้าอุตรดิตถ์ตอนทุ่มนึง มุ่งหน้าสู่อำเภอเด่นชัย ระหว่างสองข้างทางเป็นภูเขา ก่อนถึงเด่นชัย ก็ขึ้นเขาเล็กน้อย(หรือเปล่า) รู้แต่ว่ามืดแล้วและรถติดฟิล์ม ๖๐/๘๐ ยิ่งมืดตึดตื๋อ
    ?temp_hash=28405fefd8b3684ddb6ee72f810c4211.jpg


    ขับเร็วมากไม่ได้เพราะรถสูงจึงเข้าโค้งได้ไม่เนียนเหมือนรถเก๋ง ถึงแยกเด่นชัยตอนสองทุ่ม เลี้ยวซ้ายหาปั๊มน้ำมันเติมพลัง เหลือร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเดียวที่ยังเปิดขาย เลือกมากไม่ได้แล้วหล่ะ ก็ต้องกินไปก่อน...ช่วงกินก๋วยเตี๋ยวก็พักขาพักแขนไปด้วย
    ?temp_hash=28405fefd8b3684ddb6ee72f810c4211.jpg

    ?temp_hash=28405fefd8b3684ddb6ee72f810c4211.jpg
    ขึ้นเขาช่วงแรกมาค่อนข้างลุ้นเพราะไม่ชินรถ เข้าโค้งแคบๆ แต่ละทีเหมือนจะกินไปอีกเลนนึง กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ เข้าห้องน้ำล้างหน้าให้ตาสว่างก็สตาร์ทรถไปกันต่อ ตอนนี้เวลาเกือบสามทุ่ม ขึ้นเขาช่วงที่สอง ช่วงนี้โหดทางชัน ฝนตกอีกต่างหาก รถที่ชิน(เจ้าถิ่น) ก็ขับกันเร็วเหลือเกิน ขนาดว่าเราขับเร็วแล้วนะ ท่านๆ ยังมาจี้ท้ายอยู่นั้นแหล่ะ ก็ไม่กล้าเข้าโค้งเร็วมากๆ นิ กลัวท้ายปัด ลงเขาช่วงเข้าลำปาง ถนนมืดอีกเขาทำถนนต้องเกาะกลุ่มรถคันหน้าช่วยนำทางให้ ขับมาเรื่อยๆ

    ?temp_hash=cbaa86d05742887f2bab4475745f07e3.jpg

    ถึงทางเลี่ยงเมืองลำปาง ก็ขับเลยอีก เสียเวลายูเทิร์นกลับรถใหม่ มาถึงแยกห้าเชียงดูเวลา ๒๑.๕๒ น. แล้วก็ยิงยาวไปบ้านเพื่อนที่อำเภอสันกำแพง ถึงที่บ้าน ๒๓ น. สวัสดีพ่อแม่เพื่อนแล้ว คุยกันสักพักก็เก็บข้าวของเข้าห้องพัก โทรศัพท์หาเพื่อนเจ้าของบ้าน เพิ่งออกจากกรุงเทพฯ รถติดแง๊กอยู่แถวๆ จังหวัดอยุธยา ค่อยๆ ขับรถมาก็แล้วกัน อาบน้ำนอนก่อนแระ...

    ?temp_hash=cbaa86d05742887f2bab4475745f07e3.jpg
    บ้านเพื่อน

    เช้าวันที่ ๑๖ กำหนดเดิมว่าจะทำบุญบ้านวันนี้ แต่เพื่อนไม่ยอมบอกว่าเลื่อนไปเป็นวันรุ่งขึ้น แผนเที่ยวจึงต้องย้ายจากวันพรุ่งนี้มาเป็นวันนี้แทน ส่งไลน์ไปถามเพื่อนอีกครั้งว่าถึงไหนแล้ว ปรากฏว่าเพิ่งเข้าลำปางหนทางอีกยาวไกลเพื่อนร่วมทางเยอะ งั้นไม่คอยนะ ไปเที่ยวไหว้พระก่อน....แต่ก็อีกแหล่ะ จากที่กำหนดไว้หลายๆ ที่ที่จะไป ก็จะมี วัดพระธาตุดอยคำ, วัดโลกโมฬี, วัดเจดีย์หลวง, วัดผาลาด, วัดอุโมงค์, วัดต้นเกว๋น(วัดอินทราวาส), วัดจามเทวี จึงต้องตัดทอนลงและวางแผนใหม่...


    ?temp_hash=a02d2ca2281d36bb5c5613f3dbe9ad7d.jpg

    ไปวัดแรกกันเลย วัดพระธาตุดอยคำ

    วัดพระธาตุดอยคำ ไปทางเดียวกับอุทยานราชพฤกษ์ อยู่บนยอดเขาเล็ก ๆ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ ๒๐๐ เมตร มีตำนานเล่าว่า ที่แห่งนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์สองผัวเมียชื่อ จิคำและตาเขียวมาก่อน ซึ่งต่อมาชาวบ้านได้เรียกยักษ์ทั้งสองนี้ว่า “ปู่แสะ – ย่าแสะ” ปู่แสะย่าแสะมีลูก ๑ คน ชื่อว่า “สุเทวฤๅษี” เหตุที่ได้ชื่อว่าดอยคำ เนื่องจากศุภนิมิตที่ยักษ์ทั้งสองได้รับพระเกศาธาตุจากพระพุทธเจ้า เกิดฝนตกหนักหลายวัน ทำให้น้ำฝนเซาะและพัดพาแร่ทองคำบนไหล่เขา และลำห้วยไหลลงสู่ปากถ้ำเป็นจำนวนมาก จึงเรียกภูเขาลูกนี้ว่า “ดอยคำ” เมื่อปู่แสะ ย่าแสะได้รับพระเกศาธาตุจึงนำขึ้นมาฝังและก่อสถูปไว้บนดอยคำแห่งนี้ ต่อมาในปี พ.ศ.๑๒๓๐ เจ้ามหันตยศและเจ้าอนันตยศ พระโอรสแฝดของพระนางจามเทวี ได้ขึ้นมาก่อเจดีย์ครอบพระสถูปเกศาไว้ ส่วนพระเจดีย์แห่งที่ ๒ ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ทางทิศเหนือของดอยคำ คือ พระธาตุดอยสุเทพ นับอายุดูแล้ววัดพระธาตุดอยคำมีความเก่าแก่อายุร่วม ๑,๓๐๐ กว่าปี

    ?temp_hash=a02d2ca2281d36bb5c5613f3dbe9ad7d.jpg

    ?temp_hash=a02d2ca2281d36bb5c5613f3dbe9ad7d.jpg

    พระธาตุดอยคำนอกจากจะเป็นที่สักการบูชาของคนท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของการบินไทยที่ใช้กำหนดพื้นที่ทางสายตา ก่อนที่จะนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่

    ?temp_hash=a02d2ca2281d36bb5c5613f3dbe9ad7d.jpg

    นักท่องเที่ยวที่มานอกจากจะมาไหว้พระธาตุแล้ว ก็จะมาไหว้ขอพรหลวงพ่อทันใจ บอกตรงๆ ก่อนมาเชียงใหม่ครั้งนี้ สร้อยฟ้ามาลาไม่รู้จักวัดแห่งนี้เลย ตามคำบอกเล่า ผู้ที่มาขอพรหลวงพ่อทันใจ จะขอด้านโชคลาภ เรื่องหน้าที่การงาน ขอให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

    วิธีการไหว้ขอพรพระเจ้าทันใจให้ จุดธูป ๓ ดอก ท่องคาถาที่อยู่บนป้ายด้านข้างองค์พระเจ้าทันใจ แล้วเอ่ย ชื่อ และ นามสกุล ของตนเอง และขอพรตามที่ต้องการได้ทุกเรื่อง โดยระบุเรื่องให้ชัดเจน ครั้งละ ๑ เรื่อง

    ?temp_hash=a02d2ca2281d36bb5c5613f3dbe9ad7d.jpg

    “คาถาบูชาหลวงพ่อทันใจ”

    ตั้งนะโม ๓ จบ

    โอมนะโม พุทธายะ ยะอะสะ สุมัง จะปาคะ


    เมื่อเรื่องที่ขอสำเร็จแล้ว ให้นำพวงมาลัยดอกมะลิมาแก้บนที่วัดพระธาตุดอยคำแห่งนี้ แล้วจึงขอเรื่องใหม่ได้ แต่บางคนก็บอกว่าขอได้แค่วันละเรื่องนะ แต่ละครั้งของการขอให้ระบุจำนวนพวงมาลัยดอกมะลิให้ชัดเจน และต้องไม่ต่ำกว่า ๕๐ พวงขึ้นไปตามแต่เรื่องที่ขอ โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดวันสำเร็จ เพราะพระเจ้าทันใจมีกำหนดระยะเวลาเอาไว้ภายใน ๓ เดือน

    พวงมาลัยดอกมะลิจะต้องนำมาเอง เพราะว่าทางวัดพระธาตุดอยคำไม่มีขายนะ แต่ทางก่อนขึ้นวัดมีขายอยู่หลายร้าน คนไปครั้งแรกส่วนมากจะไม่รู้หรอก นึกว่าข้างบนวัดจะมีขาย สร้อยฟ้ามาลาก็นึกเช่นนั้นเหมือนกัน เดินวนหาอยู่ ๑ รอบ เจอแต่แผงขายล็อตเตอรี่ ขายน้ำ ของที่ระลึก เสื้อผ้าพื้นเมือง ถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบอกว่าข้างบนไม่มีขาย มาครั้งแรกหล่ะสิ... จึงได้ไหว้หลวงพ่อแต่ธูป ๓ ดอก มาครั้งหน้าไม่พลาดแล้ว นอกจากนี้การแก้บนท่านยังสามารถให้ผู้อื่น นำดอกมะลิมาแก้บนแทนได้ด้วย(แต่มาด้วยตัวเองดีกว่า เพราะจะหาเรื่องเที่ยว อิอิ)

    ?temp_hash=a02d2ca2281d36bb5c5613f3dbe9ad7d.jpg

    ไหว้พระธาตุดอยคำแล้ว ไหว้หลวงพ่อทันใจแล้ว บริเวณนี้มีลานชมวิว เป็นลานกว้างๆ มองออกไปเห็นอุทยานราชพฤกษ์อยู่ไกลๆ แต่มองเท่าไหร่ก็ยังไม่เห็นสนามบินเชียงใหม่ สงสัยความสูงไม่พอหรือสายตาไม่ดี...ถ่ายรูป ๒- ๓ รูป หันหลังเดินออกมา ด้านหลังของพระธาตุดอยคำ มีวิหารอยู่หลังนึง เข้าไปไหว้พระ...เดินออกมาด้านนอก จะมีพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ใหญ่สีขาว อ่านป้ายเขียนว่า “พระพุทธรูปหลวงพ่อพูดได้ ลูกเอ๋ยอย่าตำหนิพ่อเลยว่าพ่อไม่สวยพ่อไม่งาม ทุกวันนี้ร้อนพ่อก็ไม่บ่น หนาวพ่อก็ไม่บ่น หมอกควันไฟเผาป่า พ่อก็ไม่บ่น ถ้าลูกทั้งหลายทำได้ เหมือนพ่อเพียงเสี้ยวที่ ๑๖ ที่พ่อทำได้ลูกก็จะอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข” ต่อจากนั้นก็ไปไหว้พระประธานในพระอุโบสถ แล้วออกมาเดินดูของเผื่อได้ซื้ออะไรติดไม้ติดมือก็ไม่ได้อะไรนอกจากจับเบอร์เสี่ยงโชคไป ๒ ใบ...

    ?temp_hash=a02d2ca2281d36bb5c5613f3dbe9ad7d.jpg

    ?temp_hash=a02d2ca2281d36bb5c5613f3dbe9ad7d.jpg

    ?temp_hash=a02d2ca2281d36bb5c5613f3dbe9ad7d.jpg

    ?temp_hash=a02d2ca2281d36bb5c5613f3dbe9ad7d.jpg

    ?temp_hash=a02d2ca2281d36bb5c5613f3dbe9ad7d.jpg
    จากวัดพระธาตุดอยคำ พวกเราก็มุ่งหน้าไปวัดอุโมงค์ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก แต่ทางไปวัดอุโมงค์เป็นถนนลาดยางเหมือนขับเข้าหมู่บ้าน เป็นทางแคบๆ ต้องปาดเหงือ ขับรถกระบะสูงๆ ไม่ชินคับซอย พอไปถึงวัดอุโมงค์ก็ปาดเหงื่ออีกรอบ เพราะทางเข้าและถนนในวัดแคบ ไม่รู้จะทำยังไงกะระยะไม่ถูก หาที่จอดรถนอกวัดก็ได้ พอดีใกล้ๆ วัดมีลานดิน ขอเข้าไปจอดแป๊บนึงนะ...

    วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเชียงใหม่ และตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ อยู่ทางทิศใต้ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่หรืออยู่ในซอยหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    ?temp_hash=6c867a6989d4012b88d7336c9a424ebf.jpg

    วัดอุโมงค์(อุโมงค์เถรจันทร์) เป็นชื่อเรียกวัดเก่าที่ "พระเจ้ากือนาธรรมิกราช" ทรงสร้างอุโมงค์ขึ้นเพื่อถวายให้พระมหาเถรจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญในพระไตรปิฏกอาศัย

    วัดอุโมงค์นี้หมายเอาเฉพาะบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมผืนผ้าซึ่งมีกำแพงอิฐปรากฏอยู่ทั้งสี่ด้าน ด้านตะวันออกจากขอบสระใหญ่ ด้านเหนือตรงไปทางทิศเหนือโรงพิมพ์ปัจจุบันจรด กำแพงอิฐพอดี ยาวประมาณ ๑๐๐ วา ด้านเหนือจากแนวกำแพงเหนือโรงพิมพ์ปัจจุบันทางทิศตะวันตก จนถึงขอบสระหลังวัดอุโมงค์ ยาวประมาณ ๑๐๐ วา, ด้านตะวันตกจากขอบ สระแนวกำแพงด้านเหนือ ถึงขอบสระใหญ่ใต้พระเจดีย์ ยาวประมาณ ๑๐๐ วา, ด้านใต้จากขอบสระหลังพระเจดีย์ตรงไปทางตะวันตกออกจรดกำแพงทิศตะวันออกหน้าพระอุโบสถ ยาวประมาณ ๑๐๐ วา มีพระอุโบสถขนาดย่อมตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีพระเจดีย์ใหญ่แบบลังกาวงศ์ และอุโมงค์(ถ้ำ) ๑ อุโมงค์ มีทางเข้า ๓ ทาง ตั้งอยู่ตลอดแนววัดด้านตะวันตก และมีศาลาตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจากหน้าอุโมงค์ไปประมาณ ๑ เส้น คิดเป็นเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๒๕ ไร่

    สวนพุทธธรรม เป็นชื่อใหม่ที่ ภิกขุ ปัญญานันทะ ประธานวัดอุโมงค์ ในสมัยนั้น (๒๔๙๒ – ๒๕๐๙) ตั้งขึ้นเรียกสถานที่ป่าผืนใหญ่ที่ปกคลุมวัดร้างโบราณ ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ ๑๕๐ ไร่ ที่พุทธนิคมเชียงใหม่จัดขึ้นเป็นที่อยู่ของภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ผู้แสวงหาความสงบ พื้นที่ซึ่งเรียกว่า สวนพุทธธรรมนี้กว้างมาก รวมเอาวัดไผ่ ๑๑ กอ (เวฬุกัฏฐาราม ซึ่งพระเจ้ามังรายมหาราชทรงสร้างไว้ถวายเป็นที่พำนักของพระมหากัสสปะเถระ ชาวลังกา ซึ่งเข้ามาเผยแพร่ศาสนาในสมัยนั้น) วัดอุโมงค์เถรจันทร์ และวัดอื่นๆ (ที่อยู่ใกล้วัดอุโมงค์ทั้ง ๔ ด้าน) อีก ๔ วัดเอาไว้ด้วยทั้งหมด

    สิ่งที่น่าสนใจในวัดอุโมงค์ อันดับแรกก็คืออุโมงค์นั่นแหล่ะ...

    ?temp_hash=6c867a6989d4012b88d7336c9a424ebf.jpg

    อุโมงค์ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช เป็นส่วนหนึ่งของการบูรณะวัดอุโมงค์ สร้างขึ้นเพื่อถวายเพื่อให้พระมหาเถรจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญในพระไตรปิฏกอาศัย โดยได้สร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่ ถัดจากฐานพระเจดีย์ด้านเหนือขึ้นหนึ่งอุโมงค์ อุโมงค์ที่ทรงสร้างขึ้นใหม่นี้ทั้งใหญ่และสวยงามมากมีทางเข้าออก ๔ ช่อง แต่ละช่องเดินติดต่อกันได้ทั่วถึง ข้างฝาผนังด้านในอุโมงค์ก็เจาะช่องสำหรับจุดประทีปให้เกิดความสว่างเป็นระยะ เพื่อให้สะดวกแก่พระเดินในการจงกรมและภาวนาอยู่ข้างใน เพดานอุโมงค์เขียนภาพต่างๆ ด้วยสีน้ำมันไว้ตลอดทั้ง ๒ ช่อง โดยเน้นที่สีเขียวและแดง ฝีมือที่เขียนดูจะเป็นช่างจีนผสมช่างไทย

    ?temp_hash=6c867a6989d4012b88d7336c9a424ebf.jpg

    ปัจจุบันภายในอุโมงค์มีจิตรกรรมฝาผนังซึ่งอยู่ในสภาพที่ชำรุดลบเลือนมาก เดิมนั้นเกิดการสะสมของหินปูนที่เคลือบลายจิตรกรรมจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นสาเหตุเพราะน้ำที่รั่วซึมลงมา เมื่อนำคราบหินปูนออกจึงปรากฏภาพจิตรกรรมที่สวยงาม อาทิ ภาพจิตรกรรมนกสลับดอกโบตั๋น ภาพจิตรกรรมดอกบัวสลับลายประจำยาม และภาพจิตรกรรมดอกบัวสลับลายเมฆ จิตรกรรมฝาผนังวัดอุโมงค์ในส่วนที่เหลือหลักฐานให้ชมในปัจจุบันอยู่บริเวณเพดานโค้งภายในอุโมงค์ ตัวอุโมงค์ตั้งอยู่บริเวณต่อเนื่องกับเจดีย์ทางทิศเหนือ โดยหันทางเข้าหลักไปยังทิศตะวันออกจำนวน ๓ อุโมงค์ในด้านหน้า ซึ่งอุโมงค์กลาง (อุโมงค์ที่ ๔) มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งสามารถเห็นได้ เพียง ๓ อุโมงค์เท่านั้น คือ อุโมงค์ที่ ๑, ๒, และ ๓


    พระเจดีย์ ๗๐๐ ปี
    เป็นเจดีย์ทรงระฆังกลม มีบันไดนาคเป็นทางขึ้นลงอยู่ทางทิศใต้ ได้รับอิทธิพลจากศิลปะพม่าแบบพุกาม ได้มีการปรับเปลี่ยนแบบของเจดีย์ตามแต่ละยุคสมัย แรกเริ่มก่อสร้างเริ่มขึ้นในสมัยของพระเจ้ามังรายโดยมีโครงสร้างเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ทรวดทรงแบบพระเจดีย์ในเมืองลังกา ต่อมาได้รับการบูรณะในสมัยของพระเมืองแก้ว มีการปั้นปูนประดับลวดลายที่ส่วนฐานใต้ทรงระฆัง มีการปรับเปลี่ยนที่ทรงกรวยซึ่งเป็นส่วนบนของเจดีย์ โดยประดับรูปกลีบบัวทรงยาวตามแบบอย่างของเจดีย์มอญพม่า


    พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เศียรพระพุทธรูปสกุลช่างพะเยา
    ด้านข้างของทางเข้าอุโมงค์ เป็นลานกลางแจ้งที่มีเศียรพระพุทธรูปวางอยู่เรียงรายเป็นพื้นที่บริเวณกว้าง มีเศียรพระพุทธรูปขนาดใหญ่วางคู่กับเศียรพระพุทธรูปและหินแกะสลัก เศียรพระพุทธรูปเหล่านี้สร้างขึ้นโดยช่างสกุลพะเยาประมาณปี พ.ศ.๑๙๕๐ - พ.ศ.๒๑๐๐ เจ้าชื่น สิโรรส และผู้ศรัทธาได้ทยอยนำมาจากวัดร้างในพะเยาเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๑๑ - พ.ศ.๒๕๑๓

    ?temp_hash=6c867a6989d4012b88d7336c9a424ebf.jpg

    เสาอโศกจำลอง
    เป็นเสาจำลองสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๗ เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึง พระเจ้าอโศกมหาราชผู้เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกและเป็นผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาองค์แรกของโลก ซึ่งเสาอโศกเป็นเครื่องหมายอันสำคัญดังเช่นที่ค้นพบที่อินเดียและเนปาล เมื่อเสาอโศกตั้งอยู่ที่ใดหมายถึงสถานที่นั้นมีความสำคัญกับองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนา


    พิพิธภัณฑ์วัดอุโมงค์
    พิพิธภัณฑ์วัดอุโมงค์หรือ พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งอยู่ข้างๆอุโมงค์และพระเจดีย์ เปิดให้ชม วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา ๙.๐๐ น. – ๑๒.๐๐ น. และ ๑๓.๐๐ น. – ๑๖.๐๐ น.

    ?temp_hash=6c867a6989d4012b88d7336c9a424ebf.jpg


    หอธรรมโฆษณ์
    เป็นอาคาร ๒ ชั้น หลังคาทรงไทย เนื้อที่ชั้นล่างเป็นห้องสมุดบริการหนังสือธรรมในศาสนาพุทธ พื้นที่บนชั้นสองจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงศิลปวัตถุที่นำมาจัดแสดงเป็นของที่พบในบริเวณวัดอุโมงค์ นอกจากนั้นยังวัตถุที่เป็นของใช้ในวัด อาทิ กลุ่มพระพุทธรูปทำด้วยทองแดง ทองเหลือง เชี่ยนหมากสำริด ไม้แกะสลัก เครื่องปั้นดินเผาโบราณ เครื่องทอง เครื่องเงิน เครื่องเขิน อาวุธ เอกสารตัวเขียน ภาพถ่ายจิตรกรรมฝาผนังรูปนกในอุโมงค์ของวัดอุโมงค์ รูปเทพชุมนุมในกรุวัดอุโมงค์ เป็นต้น หอธรรมโฆษณ์เปิดทุกวันยกเว้นวันพระ เวลา ๘.๓๐ น. – ๑๖.๐๐ น.
    ที่วัดอุโมงค์ได้ถ่ายรูปไม่มาก รีบเก็บภาพและรีบออกเพราะจอดรถไว้ในที่คนอื่น กลัวเขาว่า...


    วัดต่อไปที่จะไปกันคือวัดสกิทาคา(ผาลาด) อยู่ทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ เคยแต่ผ่านไม่เคยแวะ ตั้ง GPS ไป เครื่องบอกว่าให้เข้าไปในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พอเข้าประตู มช.ไป คุณ รปภ.ก็โบกเลย เห็นว่าที่นี้ต้องมีบัตรเข้า ทำไงดีหล่ะก็คนไม่เคยมานี่ เลยบอกว่าจะไปวัดผาลาด GPS บอกให้มาทางนี้ รปภ.ใจดีเลยบอกว่าให้ขับตามรถแดงไป แล้วจะไปออกด้านหน้าของ มช. ขึ้นวัดผาลาดได้เลย...ขอบคุณจ้าาาา....

    ?temp_hash=99d03568caf2a11bf423dd90cc7d9e88.jpg

    ?temp_hash=99d03568caf2a11bf423dd90cc7d9e88.jpg

    ?temp_hash=99d03568caf2a11bf423dd90cc7d9e88.jpg

    มาถึงวัดสกิทาคา หรือวัดผาลาด จอดรถอยู่ตรงลานทางเข้าวัด แต่ไม่กล้าขับลงไปเห็นว่าทางชัน แล้วด้านล่างเป็นทางแคบหรือเปล่าไม่รู้ แล้วมีที่จอดหรือเปล่าไม่รู้ จึงจอดอยู่แต่ด้านบน ถ่ายรูปวิหารได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง เคยเห็นภาพถ่ายภายในวัด เป็นสถานที่สวยงามมาก ก็อดลงไป ไว้คราวหน้าแล้วกันจะมาถ่ายรูปซ่อมอีกที...

    ?temp_hash=99d03568caf2a11bf423dd90cc7d9e88.jpg

    ?temp_hash=99d03568caf2a11bf423dd90cc7d9e88.jpg



    ?temp_hash=2832b9645e18412368b5f6ef4e0b0d19.jpg

    ?temp_hash=2832b9645e18412368b5f6ef4e0b0d19.jpg
    แต่ก่อนเข้าวัดไหว้พระยังที่ต่อไป ขอเติมพลังพักเที่ยงสักครู่ จากนั้นพวกเราก็ไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งเป็นที่เที่ยวที่สุดท้ายสำหรับเวลากลางวันนี้....ส่วนประวัติวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารเคยลงไว้แล้ว ไม่ขอลงซ้ำนะจ๊ะ...

    ?temp_hash=2832b9645e18412368b5f6ef4e0b0d19.jpg

    ?temp_hash=2832b9645e18412368b5f6ef4e0b0d19.jpg

    ?temp_hash=2832b9645e18412368b5f6ef4e0b0d19.jpg

    ?temp_hash=2832b9645e18412368b5f6ef4e0b0d19.jpg

    ?temp_hash=2832b9645e18412368b5f6ef4e0b0d19.jpg

    ?temp_hash=dd3f77832ad6185d627897dd249debbc.jpg

    พวกเราทำบุญไหว้พระกันเสร็จแล้วก็เดินลงมาข้างล่างดูของซื้อของฝากที่ระลึก และหากาแฟเติมพลังอีกเล็กน้อย ก่อนมุ่งหน้ากลับบ้านพัก...

    ?temp_hash=dd3f77832ad6185d627897dd249debbc.jpg

    ?temp_hash=dd3f77832ad6185d627897dd249debbc.jpg

    ?temp_hash=dd3f77832ad6185d627897dd249debbc.jpg

    ?temp_hash=dd3f77832ad6185d627897dd249debbc.jpg


    ตอนกลางคืนเพื่อนชวนไปเดินถนนคนเดินวัวลาย เคยไปมา ๓ ครั้งแล้ว ก็จะไปอีก มาคราวนี้เดินไม่ถึงตลอดทั้งสายถนน พอดีเพื่อนในคณะที่ไปด้วยกันไม่ค่อยสบาย จึงต้องเดินกลับมาที่รถ จากนั้นไปซื้อของที่ตลาดสดกลางคืนก่อนกลับบ้าน เพื่อเตรียมของทำบุญบ้านพรุ่งนี้


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2023
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,986
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    ฟังเพลินเรื่องเล่า อ่านไปๆทําไมนํ้าลายสอเลยค่ะ:)
    ภาพถ่ายชัดแจ๋วจริงๆ สุดยอดค่ะ:cool: Encore Encore !! sil vous plait
     
  3. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    ขอบคุณ จ้า คุณพี่ supatorn
    เขียนเสร็จนานแล้ว แต่เพิ่งลงอ่ะจ่ะ...

    map05-jpg.jpg


    ?temp_hash=c42da45bc70326e9e2dfaa34bce45db5.jpg
    วันรุ่งขึ้น ทำบุญบ้าน เลี้ยงพระเพล ตอนเย็นโต๊ะจีน มีดนตรี... ช่วยถ่ายรูปงานตอนเช้า บ่ายไปซื้อผักผลไม้ในเมืองเชียงใหม่ ส่วนตอนเย็นขับรถไปไหว้เทพทันใจไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู ตอนค่ำ หมดแรง ส่งกล้องให้เด็กๆ ถ่ายรูป ส่วนตัวเองขึ้นไปสถิตอยู่ในห้องกับเพื่อนๆ

    วัฒนธรรมแถบนี้เป็นเรื่องที่เราๆ ไม่เคยเจออย่างหนึ่งก็คือ บรรดาแขกเหรื่อที่มาทำบุญขึ้นบ้านใหม่ จะเดินสำรวจบ้าน เข้าห้องโน้นออกห้องนี้ เปิดดูทุกห้องกันเลยทีเดียว ซึ่งพวกเราก็ขลุกกันอยู่ในห้องนอนใหญ่ๆ อยู่กันก็ในนั้นร่วม ๑๐ คน นั่งโม้กันบ้าง วางแผนจะไปเที่ยวที่ไหนต่อกันบ้าง และทุกๆ ไม่เกิน ๕ นาที ประตูห้องก็จะถูกเปิดออกพร้อมคำอุทาน สุมาเต๊อะเจ้า เป็นอย่างนี้ตลอดทั้งวัน แรกๆ ก็ตกใจ พอหนักๆ เข้าก็ชิน...

    ?temp_hash=c42da45bc70326e9e2dfaa34bce45db5.jpg

    ?temp_hash=c42da45bc70326e9e2dfaa34bce45db5.jpg

    รุ่งขึ้นอีกวัน เป็นวันกลับจังหวัดนครสวรรค์ ตอนเช้าขี่มอเตอร์ไซด์ไปซื้อเสื้อผ้าพื้นเมืองที่บ้านบ่อสร้าง ระหว่างมัวแต่เดินดูของ ไม่ทันระวังพื้นต่างระดับระหว่างฟุตบาทกับหน้าร้าน ทำให้ข้อเท้าข้างขวาพลิก ปวดมากและบวมทันตา
    นึกในใจ สงสัยเขาไม่อยากให้กลับ มาเจ็บเท้าข้างที่ต้องเหยียบคันเร่งเหยียบเบรคซะด้วย นั่งจับข้อเท้าอยู่นานร่วมครึ่งชั่วโมง เดินกระเพลกขึ้นมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน แต่ของที่ต้องซื้อยังไม่หมด

    ?temp_hash=c42da45bc70326e9e2dfaa34bce45db5.jpg

    ?temp_hash=c42da45bc70326e9e2dfaa34bce45db5.jpg

    ?temp_hash=c42da45bc70326e9e2dfaa34bce45db5.jpg

    กลับมาถึงบ้าน เพื่อนขับรถมาให้ที่ตลาดวโรรสเดินซื้อของกันต่อ กัดฟันเดิน ปวดๆๆๆ มาก เดินตั้งแต่เที่ยงจนถึงบ่ายสองโมง ก็กลับมาบ้านที่สันกำแพง แวะกินก๋วยเตี๋ยวก่อนถึงบ้าน กินเสร็จ กลับเข้าบ้านเก็บสัมภาระ ลาคุณพ่อคุณแม่ของเพื่อน ออกเดินทางสู่บ้านที่นครสวรรค์

    ?temp_hash=c42da45bc70326e9e2dfaa34bce45db5.jpg

    ?temp_hash=c42da45bc70326e9e2dfaa34bce45db5.jpg

    แต่ระหว่างทางก็แวะกาดทุ่งเกวียนซื้อของอีกจนหกโมงเย็นกว่าๆ ก็ขับรถกลับจริงๆ แระ มาถึงนครสวรรค์แวะกินข้าวตอนเที่ยงคืนพอดี...



    ค้างที่นครสวรรค์ทำบุญเข้าพรรษา ๒ วันก่อนกลับบ้านที่นนทบุรี...

    ......................................................


    สุดท้ายจากการที่ได้ไปทำบุญ ไหว้พระในครั้งนี้
    กุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำ
    ข้าพเจ้าขออุทิศถวายแด่ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์
    คุณบิดาคุณมารดา วงศาคณาญาติทั้งหลาย คุณครูบาอาจารย์
    ถวายเป็นส่วนในพระราชกุศลพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์
    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
    สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
    สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช
    สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี
    สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ โสภางคทัศนิยลักษณ์ อรรควรราชกุมารี
    สมเด็จเจ้าฟ้าในพระภรรค์

    สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
    สมเด็จพระศรีพัชรินทรา พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนี พระพันปีหลวง
    พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัชดา
    พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์
    พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตน์นารีนาค กรมขุนอัครวรราชกัญญา
    พระราชชายาเจ้าดารารัศมี
    เจ้านายพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
    เจ้าคุณพระประยูรวงศ์(เจ้าคุณจอมมารดาแพ)
    เจ้าจอมมารดาและเจ้าจอมทุกท่าน

    ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพระพุทธรูป พระอารามและบูรณปฏิสังขรณ์
    เทพยดาทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ ท่านท้าวจตุโลกบาล
    ท่านท้าวเวสสุวรรณ เจ้ากรุงพาลี ภูมิเจ้าที่ทั้งหลาย
    พระธรณี พระคงคา พระพาย พระเพลิง พระโพสพ
    พระพิรุณ พระยายมราช นายนิรบาล
    พระสยามเทวาธิราช
    หลักเมือง เสื้อเมือง ทรงเมือง
    ตั้งแต่ชั้นจตุมหาราชิกาจนถึงเบื้อบนที่สุดมหาพรหมมา
    เบื้องล่างตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษยโลก
    โดยรอบสุดขอบจักรวาล อนันตจักรวาล
    เทวดารักษาตัวของข้าพเจ้า
    บริวารของข้าพเจ้า
    เจ้ากรรมนายเวร
    สัตว์โลก วิญญาณโลก และวิญญาณทุกดวงในสถานที่ที่ข้าพเจ้าได้ไปเยือน

    ด้วยกุศลนี้ คำว่าไม่มี จงไม่บังเกิดแก่ข้าพเจ้า
    จงเป็นเหตุปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้พบพระพุทธเจ้า
    ศาสนาและคำสอนของพระองค์ในทุกๆ ชาติ
    ได้สดับรับฟังคำสั่งสอนของพระองค์ทุกภพทุกชาติ
    ได้อยู่ท่ามกลางกัลยาณมิตร
    ให้ข้าพเจ้าได้ละอายและเกรงกลัวต่อบาป
    หมดซึ่งกิเลสและตัณหา
    จนถึงพระนิพพานเป็นที่สุด


    ........................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2018
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,986
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    คิดถึงมานานเลยนะคะถึงภาพถ่ายของคุณน้องที่มีไว้เยอะแยะ ทั้งคมชัดและสวยมากจนเรียกว่าทําเป็นProfessionalได้แล้ว น่าจะทําแบบนี้
    พุทธศาสนวงศ์กับพระธรรมวินัยพระไตรปิฎก

    บรรยายโดยพระอาจารย์วิทยา กิจฺจวิชโช

    urai1791 :-
    Published on Mar 16, 2014
    พุทธศาสนวงศ์กับพระธรรมวินัยพระไตรปิฎก บรรยายโดยพระอาจารย์วิทยา กิจฺจวิชโช ณ วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน เชียงใหม่ ชมเว็บ http://www.doisaengdham.org/



    (เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนอีกแล้วววว)เห็นyoutubeหลวงพ่อจรัญและอีกหลายๆว่างเปล่าเลยคิดถึงคุณน้องทุกทีเลยค่ะ
    *มีแผนจะไปเที่ยวไหนต่อคะ
     
  5. ขุนวัง

    ขุนวัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2015
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +726
    สุมาเต๊อะเจ้า!?
    ^_^
     
  6. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    ภาพมีเยอะแยะเลยอ่ะจ่ะ
    แล้วหนึ่งปีที่ผ่านไป ไม่ได้ตั้งกระทู้ ก็ไปมาหลายที่อ่ะจ่ะ...
    แต่ส่วนมากถ่ายภาพด้วยมือถือ

    ส่วน youtube เค้าทำคลิปไม่เป็นอ่ะจ่ะ ๕๕๕+....

    (กระซิบๆ เดือนนี้มีแผนจะไปเพชรบุรี)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2017
  7. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    เพื่อนๆ ที่อยู่ในห้องจะตอบกลับไปว่า "บ่เป็นหยังดอก" :p
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,986
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
  9. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    ลองทำดู หนูทำได้ คิคิ....
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,986
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    ..................
    ไปมาหรือยังคะ คราวนี้อย่าลืมแวะทาน เยนตาโฟ ก๋วยเตี่ยวเรือ ข้าวเหนียวมะม่วง ตามด้วยชาเย็นสักแก้วนะคะ
    Yentafo.jpg
     
  11. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837

    ไม่ได้แวะเลยอ่ะจ่ะ....
     
  12. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    ดีจริงๆ
     
  13. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    ท่านใดทราบบ้างว่า การลบกระทู้ ทำอย่างไร...
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,986
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    พี่ต้องเข้ากระทู้ตัวเองแล้วแจ้งทีมงานให้ลบให้ค่ะ บางทีกดแทบตายไม่ขึ้น พอกดอีกทีขึ้นสองเลย อิอิ แหมรอนานจังกว่าจะกลับมาเล่า:)
     
  15. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    เมื่อก่อน สามารถลบกระทู้ของตนเองได้เลย แต่ตอนนี้ปุ่มลบหายไปอ่ะจ่ะ...
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,986
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    เห็นมีแจ้งหลายท่าน ตอนนี้ก็"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"ค่ะ:)
     
  17. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเมื่อถึงเวลาก็......ดับไป
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,986
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    รอเล่าต่ออยู่นะคะ เห็นว่าไปมาแล้ว:):D
    TreeGone.gif
     
  19. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    ตอนนี้ คงพักยาวๆ ก่อนอ่ะจ่ะ...
    ตอนแรก คิดว่าต่อจากนี้อีกหลายปี จะเขียนกระทู้อีกครั้ง
    หรือ ทนมือคันไม่ไหว่ อาจจะเขียนอีกไม่ช้าก็เร็วนี้.....

    ตั้งกระทู้ทีไร จิตตกทุกที รู้สึกว่าไม่มีใครสนใจอ่ะจ่ะ...
    เลยลบซะเลย....


     
  20. พรรณนา๑.

    พรรณนา๑. สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2020
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +5
    งดงามทั้งภาพ และสนุกกับการเล่าเรื่องทุกครั้งเลยหละพี่สร้อยฟ้า

    เมื่อ 2 ปีก่อนก็ไปแอ่ว เชียงใหม่คนเดียว 3 วัน 2 คืน

    วันที่1 พร้อมเปย์ไปกับแก๊บ จากตัวเมืองเชียงใหม่ -วัดป่าดาราภิรมย์ - คุ้มเจ้าดารารัศมี - ไปถึงถ้ำเชียงดาว - วัดเด่นสะหรี
    วันที่ 2 เวียงกุมกาม จัดไปยาว เลย จร้า

    ทั้งสนุก สุข เหนื่อย และที่ตั้งใจไปพบผู้หญิงคนหนึ่งเห็นท่านแวบเดียวในทีวี ตอนที่พรรณนาเป็นวัยละอ่อน อิๆๆๆ คิดว่าจะพลาดเสียแล้ว ปรากฎเสียงกระพรวนที่ข้อเท้าท่าน แล้วก็เดินออกมา เมื่อได้สนทนากับท่านเสร็จ กลับมีพลัง อิ่มใจ จนบอกไม่ถูก :)
     

แชร์หน้านี้

Loading...