[X]อหังการวิเศษมาร[X]

"เบื้องต้น" ตะวันออก
น่าจะหมายถึง ตอนต้น ๆ ของทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ
ตอนนี้ ทางต้น ๆ ของทิศตะวันออก ของมัชฌิมประเทศ ที่ ปกครองด้วยระบบกษัตริย มี 2 ประเทศ ที่นับถือศาสนาพุทธครับ คือ ไทย กะ กัมพูชา
ญี่ปุ่น กับ ภูฐาน ไม่น่านับนะครับ
เพราะถ้าญี่ปุ่น พระพุทธเจ้าท่าน คงจะพูดว่า ต้นไปเลย
ภูฐานนี่ก็ใกล้ไป ไม่น่าจะใช่ เบื้องต้น

รอคุณจิตยิ้มอีกทีละกัน

 

http://palungjit.org/threads/พุทธทำ...ัติและสงครามใหญ่-ปีพ-ศ-2560-เป็นต้นไป.569027/

 

ข้อมูลที่ตนเองได้มา มีเหตุผล 3 ประการค่ะ

1.ข้อมูล พระธรรมิกราชาเกิดขึ้นแล้ว เมื่อประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา มีพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งฟังธรรมของท่าน ๆ ท่านรับธรรมโลกุตระเปิด ตั้งแต่ปี 2512 และยังมีคนอื่นตามมาอีกมาก เช่น คุณอินทิรา ที่อยู่ต่างประเทศ ประมาณปี 2534 และอีกท่านหนึ่งที่เล่ากล่าวขานกันมาท่านเป็นแม่ชีอยู่สำนักถ้ำกระบอก

2.คำพุทธทำนายได้ตรัสและระบุไว้ว่า

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ
มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์

ก็คือ พระยาธรรมิกราช แสงสว่างส่องลงมายังโลก คือ ธรรมโลกุตระเปิดสัจธรรมความจริงให้มนุษย์โลกผู้มีบุญบารมีให้มนุษย์โลกได้เห็นกันแล้วในยุคกึ่งพุทธกาลนี้

จากข้อความพุทธทำนาย ที่ทรงตรัสว่า...พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกวาระหนึ่ง....

ก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น
อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์

จากคำตรัสในพุทธทำนาย ถ้าแปลอีกที ก็คือ การที่พระยาธรรมิกราช ธรรมโลกุตระส่องแสงสว่างมายังโลกได้ ก็ต่อเมื่อมีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้นแล้ว. การบังเกิดพระธรรมิกราชโพธิญาณ ซึ่งอยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงฤทธิ์ เป็นเหตุให้เกิด พระธรรมิกราช ธรรมโลกุตระส่องแสงสว่างมายังโลกอีกวาระหนึ่ง เพื่อที่จะอุปถัมภ์ศาสนาตถาคตให้ครบ 5,000 ปี ต่อไป

3.จากโพสของคุณ ST_TS ที่ได้โพสไว้ในห้องภัยพิบัติ และข้อมูลของจิตจักรวาล จิตจักรวาลมีจริง คุณธรรม-ชาติ ยืนยันได้ แต่ท่านเรียกว่า อัตตะจักรวาลแทน ว่าจิตจักรวาลคืออะไร มีสภาวะเป็นอย่างไรมีที่มาที่ไปค่ะ และหลายคนที่รับสื่อมาในข้อความต่างมิติต่างๆ ที่ ณ ปัจจุบันคนรับข้อมูลเหล่านี้เยอะมาก เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดในอนาคต และเรื่องนี้ก็เป็นความจริง

การปรับระบบโลกใหม่ การเพิ่มพลังงานให้แก่โลกเพื่อเข้าสู่ระบบมิติที่ 5 จิตจักรวาลได้สื่อว่า มีมนุษย์ประมาณ 144,000. คน ได้เข้าถึงความจริงอันสูงสุดแล้วในยุคนี้ ซึ่งมีผลต่อโลกธาตุทำให้พลังงานของโลกเพิ่มขึ้น การยกระดับปรับระบบโลกเสียใหม่ก็มีผลมาจากบุคคลเหล่านี้

เหตุผลเพราะอะไร การบรรลุธรรมมีผลต่อโลกธาตุ อันทำให้โลกธาตุหวั่นไหว ด้วยแสงสว่างของพลังงานจิตที่บริสุทธิ์ พระสงฆ์สาวกเป็นเนื้อนาบุญของโลก ก็ด้วยเหตุนี้ เกี่ยวกับแสงสว่างภายในจิตใจที่มีผลต่อโลกธาตุ ที่มีผลต่อมนุษยชาติล้วนเกี่ยวข้องกับแสงสว่างจิตใจของมนุษย์ หากยุคใดมนุษย์ล้วนมีศีลธรรมคุณงามความดีกันมาก โลกนี้จะน่าอยู่เรียกว่า ศิวิไลย์ ดั่งยุคของศาสนาพระศรีอาริย์ในอนาคต

เมื่อบุคคล144,000. คนได้รู้ธรรมแจ้งธรรมสูงสุดแล้ว พลังงานทั้งหมดได้รวมกันมีผลให้โลกตัองปรับระบบเข้ายุคศิวิไลย์ด้วย

เมื่อประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา พระธรรมิกราชโพธิญาณได้ยังเกิดขึ้น ส่งผลให้คนสำเร็จพระอรหัต์กันมากในยุคนั้น. นอกจากจะทำให้พลังงานโลกเพิ่มขึ้นและยกระดับพลังงานสูงขึ้นแล้ว ส่งผลให้พระยาธรรมิกราช(พระยาธรรมิกราชสูตร) ธรรมโลกุตระส่องแสงสว่างลงมายังโลกอีกครั้ง คนยุคนี้จะสัมผัสธรรมโลกุตระกันได้มากมายอย่าถ้าใครปฏิบัติจะได้พบตามบุญบารมีวาสนาของตน เพื่อสืบทอดศาสนาเพื่อช่วยกันสืบทอดพระศาสนาจากการเข้าถึงความจริงที่ธรรมโลกุตระน้อมลงมาให้มนุษย์ได้เห็น

อยากให้ลองพิจารณาคำที่ตรัสไว้อีกทีค่ะ

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ
มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์
ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ


http://palungjit.org/threads/12345-เรากำลังใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว-ด้วยความช่วยเหลือของlightworks-คนงานแสง-และจักรวาล-พวกเขาคือใคร-เกี่ยวอะไรกับการเปลี่ยนแปลงโลก.612345/page-2#post-10410738

 

ถ้าเอาตามที่คุณจิตยิ้มว่า
ฉันนั้นก็ไม่ต้องรอฟังธรรมจากพระยาธรรม ก็คือฟังธรรมจากพระอาจารย์ที่สำเร็จอรหันต์รูปใดก็ได้ที่เราศรัทธา เพราะ ธรรมโลกุตระได้ส่องแสงมายังโลกแล้ว

แล้วที่ผ่านมามีบันทึกการไปสังคายนาพระไตรปิฏก หรือไปทำอะไรที่อินเดียของพระธรรมมิกราชหรือยังครับ?

แต่ที่สงสัยจริง ๆ คือ จากคำทำนาย ที่อยู่ในชุดเดียวกันกับที่คุณจิตยิ้มยกมา
พระพุทธเจ้าที่ตรัสถึงความรุณแรงหลังกึ่งพุทธกาลก่อนที่จะ ตรัสคำพยากรณ์นี้
เป็นไปได้ไหมที่จะเกิดหลังจากเหตุการณ์รุนแรงนี้เกิดขึ้นแทยที่จะเป็นถึงพุทธกาลเป๊ะ

แต่ ยอมรับว่ายังไม่เคยอ่านบันทึกสงครามหลังกึ่งพุทธกาลเลยว่าเกิดปีไหนบ้าง
แต่ในเมื่อ พระพุทธเจ้าท่านครัสว่า รุนแรงกว่าช่วงก่อนกึ่งพุทธกาล

มันมีสงครามช่วงไหนที่รุนแรงกว่าช่วงก่อนกึ่งพุทธกาลหรือยัง
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและใน อนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า อานันทะ ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี (ก่อน พ.ศ. 2560) จะเกิดการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ ไฟจะลงมาจากอากาศ จะเผาผลาญประชาชนให้พินาศ จะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก

ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคต ล่วงเลยไปก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี (ก่อน พ.ศ. 2560) สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนาตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลายแผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเอง ถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวายในกุศลตามวจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น

แต่ว่า ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นการณ์ร้ายแรงหาได้ไม่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้วนั้น อานันทะ ดูก่อนอานนท์ หลังกึ่งพุทธกาล (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป) จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย 2,500 ปี เป็นต้นไป (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป) ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัท ไม่ต้องอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบ สอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศีลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง 5,000 พระวัสสา

ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยมาก คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล 5 ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดดรู้จักพอ ไม่โป้ปดคตโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล
////////////////////////////////////////////////

คัดลอกจาก : http://www.dhammahome.com/webboard/topic/28802

ซึ่งตัวเลขที่อยู่ในคำทำนายน่าจะมีคนใส่ไปตามความเชื่อของตนเองเข้าไปครับ

ซึ่งคำว่าหลังกึ่งพุทธกาลจะรุนแรงกว่าก่อนหึ่งพุทธกาล กับพลโลกเหลือน้อยมากนี่มันไม่เข้ากับสถาณการณ์ช่วงนี้นะผมว่า

 

นำข้อมูลมาให้พิจารณาค่ะ
ยังมีอีกหลายอย่างที่อาจคาดไม่ถึง
เช่น

สาธุ!ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! ภิกษุท่านนี้แสดงปาฏิหาริย์ สามารถท่องจำพระไตรปิฎกได้ทุกบรรทัด กว่าแสนตัวอักษร ไม่มีตกหล่น!! กินเนสส์บุ๊กต้องบันทึก

http://palungjit.org/threads/สาธุ-ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ-ภิกษุท่านนี้แสดงปาฏิหาริย์-สามารถท่องจำพระไตรปิฎกได้ทุกบรรทัด-กว่าแสนตัวอักษร-ไม่มีตกหล่น-กินเนสส์บุ๊กต้องบันทึก.612906/

 

ถ้าเป็นประเทศที่กษัตริย์ปกครอง พม่าในตอนนั้นก็เข้าข่ายเพราะปกครองโดยทหาร
และ กษัตริย์ก็แปลว่านักรบได้ด้วย

เพียงแต่ ก็ยังไม่เข้า คำว่ารุนแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาล
และพลโลกเหลือน้อยมากอยู่ดี

แต่ก็ขออนุโมทนากับพระอาจารย์รูปนั้นที่ท่านมีความสามารถที่น่าสรรเสริญครับ
คือจำพระสูตรได้อย่างแม่นยำนะครับ

เอาเป็นว่า
คำทำนายหลายคำทำนาย เกิดจากการตัดแปะและจับแพะชนแกะนะครับ
ผมผ่าน ๆ ตามาบ้าง
เพราะผมเองก็เคยบ้าคิดว่าตัวเองอาจจะเป็นพระจักรพรรดิ์อยู่ช่วงนึง
มาจากคำทำนายเรื่องแม่พระจักรพรรดิ์ฝันว่าได้แหวนจากเทวดาฯ
บวกคำทำนายลักษณะพระศรีอาริย์
ตือตอนเกิด ผมมีศรีษะที่ไม่ปกติ คือยืดยาวออกมา และมันหดสั้นกลับมาเท่าคนปกติในภายหลังในตอนที่ผมเป็นทารกที่แข็งแรงขึ้นมานิด
ซึ่งมีคำทำนายลักษณะของพระศรีอารย์ว่าที่จะมาเกิดว่า ศรีษะจะเป็นแผลหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ แล้วจะกลับมาปกติในภายหลัง
แต่ เรื่องนี้ใคร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ หากนับกรณีผู้มีเชื่อราบนหนังศรีษะด้วยโดยเฉพาะกับพวกมีเชื้อราบนหนังศรีษะ
เรื่องที่ทำให้ผมสงสัยว่าตัวเองคือพระจักรพรรดิ์ คือเรื่องฝันของแม่มากกว่า
แต่ ทุกอย่างมันคล้ายเรื่องที่เกิดกะผมมาก ผมเลยยังบ้าอยู่

ที่ผ่านมาเลยค้น ลักษณะของพญาธรรม
พบว่ามาจากหลายแหล่งที่มามาก
บางอันก็ตัดคำทำนายอันนึง ไปแปะกะอันนึง

บางครั้งก็เอาคำทำนายนั้นมายำกับคำทำนายนี้
คำทำนายไหนจริงแทบหาคำตอบไม่ได้เลยช่วงนี้

ดีนะผมให้ความสนใจเรื่องพระจักรพรรดิ์น้อยลง ไม่งั้นตอนนี้คงอยู่ในโรงบาลบ้าละ

 

พระพุทธเจ้าตรัสเป็นหนึ่งไม่มีสอง ท่านจะไม่ซ่อนปริศนาธรรมไว้ในธรรมหรือดำรัสของของท่านหรอกครับ ส่วนใหญ่ในพระไตรปิฏก จะพูดอะไรท่านก็อธิบายพร้อม มีอรรถ พยัญชนะพร้อมแทยทั้งนั้น ยกเว้นว่าเป็นเราที่ไม่เข้าใจพระธรรม ทำให้ไม่เห็นรายละเอียดบางอย่างในธรรมที่ท่านตรัส
หรือมีคน แคบมาแต่ข้อความพุทธวจนะสั้น ๆ แล้วเราอุตริไปตีความเสียเอง

 

ที่ว่านี้หมายถึงสงครามโลก ครั้งที่ 2

ทุกอย่างเกิดขึ้นจริงแล้วในยุคนี้ค่ะ แผ่นดินไหวพายุสุริยะ ภัยเศรษฐกิจ ฝนฟ้าอากาศวิปริตแปรปรวน มหาสุทรจะชอกช้ำ คลื่นสึนามิ คือ พิษจากโรงงานตสาหกรรม. ข้าวยากหมากแพงผลผลิตไม่ได้เนื่องจากสภาวะภูมิอากาศแปรปรวน ผีขโมดเข้าเมือง ภัยจากโรคภัยไข้เจ็บที่คร่าชีวิตคน ภัยพิบัติจิตใจคนโหดเหี้ยมจากยักษ์นอกศาสนารบราฆ่าฟันกัน เกิดสงครามระหว่างเมือง จากประเภทมหาอำนาจ กลุ่มIS คือสงครามข้าศึกชิดติดเมือง และ นักปราชญ์จะถูกทำลายให้สูญสิ้นก็คือ ที่ทรงทำนายฝันของพระเจ้านันเสนทิโกศล 16 ข้อ และภัยนอกศาสนาและภัยในศาสนาสัทธรรมปฏิรูป 5 ข้อ ทุกสิ่งเกิดขึ้นแล้วหลังพุทธกาล นับสถิติคนได้รับความทุกข์ยากแสนเข็ญลำบากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สถิติที่ตายและบาดเจ็บหลายสิบล้านคน

สถานการณ์นี้แหละค่ะว่า การปรับระบบโลกเข้าสู่มิติที่5 เพื่อเข้าสู่ยุคศิวิไลย์ จะเป็นอย่างไรต่อไป

 

ถ้าเข้ายุคศิวิไลย์จะเหลือแต่คนดีมีศีลธรรมจริงๆค่ะเพราะโลกปรับระบบในมิติที่สูงขึ้น เหมือนสิ่งที่อยู่ได้ก็ต้องมีมิติที่สัมพันธ์กับระบบ เมื่อพลังงานของโลกยกตัวสูงขึ้น จิตใจคนก็ต้องสูงขึ้นตามค่ะ

 

พระยาธรรมิกราชเกิดขึ้นแล้ว
พระมิกราชโพธิญาณก็เกิดขึ้นแล้ว
ภัย 16. ประการ จากฝันพระเจ้านันทิโกศลก็เกิดขึ้นแล้ว
ภัย 5 ประการ ในพระพุทธศาสนาก็เกิดขึ้นแล้ว

แต่สิ่งที่เราไม่รู้ และ รอพระศรีอาริย์อยู่ ไม่รู้เกิดขึ้นหรือยัง

แต่ที่รู้แน่ๆ พระยาธรรมิกราช กำลังฉายแสงรอผู้ปฏิบัติอยู่

หากเกิดเหตุการณ์จริงตามพุทธทำนาย

พระโพธิสัตว์ผู้ลงมารักษาพระศาสนา
พระอรหันต์พระอริยเจ้าที่จะบรรลุธรรมในช่วงที่แสงสว่างธรรมโลกุตระนี้ ก็จะเป็นผู้รักษาศาสนาไว้

ส่วนพระศรีอาริย์ ถ้าหากท่านลงมาบำเพ็ญบารมีจริง ท่านก็คงมารับแสงสว่างธรรมโลกุตระ
และเวลานี้ท่านอยู่ที่ใด ไม่มีใครทราบ

แต่ที่ทราบแน่ พระโพธิสัตว์ที่ลงมา ณ ขณะนี้ คือผู้มาบำเพ็ญบารมีรับแสงสว่างในยุคนี้ค่ะ

และผู้เกิดในยุคนี้ก็เพื่อเกิดมารับแสงสว่างเพื่อบรรลุธรรมค่ะ

เพื่อไขข้อสงสัย พระยาธรรมิกราช คือใคร?
หากพระมิกราชโพธิญาณ เป็นจริงดั่งที่กล่าว
เราจะได้เชื่อคำพุทธทำนายไว้ และสื่อเรื่องภัยพิบัติในการเร่งปฏิบัติทำความดีกันค่ะ

 

แล้วคิดว่าบุคคลทั้งสองท่านเป็นใครค่ะ?

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และ
พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล

หรือเปล่าค่ะ

 

ก่อนกึ่งพุทธกาลคือ งครามโลกครั้งที่สอง ไม่ผิดครับ

แต่ว่า ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นการณ์ร้ายแรงหาได้ไม่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้วนั้น อานันทะ ดูก่อนอานนท์ หลังกึ่งพุทธกาล (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป) จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย 2,500 ปี เป็นต้นไป (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป) ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัท ไม่ต้องอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบ สอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศีลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง

จากนั้นก็ค่อยตรัสว่าจะมีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิด

ย่อความได้ว่า
พระพุทธเจ้าตรัสถึงสงครามโลกครั้งที่สองก่อน
จากนั้นก็สงครามช่วงหลักึ่งพุทธกาล
ค่อยมีพระธรรมิกราชโพธิญาณเกิด
ค่อยตรัสว่าเวลานั้นมีพลโลกเหลือน้อยมาก

แล้วหลังกึ่งพุทธกาลนี่เป็นสงครามอะไรเหรอครับ ในคำทำนายนี่ พระพุทธเจ้าท่านบรรยายไว้อย่างกับสงคราม
ผู้มีอำนาจจะเรียกผีเสื้อเหล็กนับแสน ๆ ตัวมาปล่อยไข่ไฟอะไรทำนองเนี้ย

ซึ่งเอาจริง ๆ ผมยังไม่เห็นสงครามไหนจะรุนแรงกว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยนะ
และถึงจะเป็นเหตุการณ์อื่น ๆ ก็น่าจะยังไม่รุนแรงเท่าสงครามโลกครั้งที่สอง
ยกเว้นสายตาของคนที่อยู่ในสถานการณ์สงครามที่เขาจะมองแบบนั้น เช่นสงครามอิรัก สงครามกับ is ความไม่สงบใน อียิปต์ ตูนีเซีย ลิเบีย เป็นต้น ซึ่งดูแผนที่แล้ว ไม่น่าจะเป็นไฟที่ลุกลามมาจากทางตะวันออกเท่าไรนัก

ภัย 16. ประการ จากฝันพระเจ้านันทิโกศลก็เกิดขึ้นแล้ว
แต่ยังไม่แพร่หลาย เช่น คนจะตัวเล็กจนต้องสอยมะเขือกิน
ภัย 5 ประการ ในพระพุทธศาสนาก็เกิดขึ้นแล้ว
อันนี้ไม่มีเถียง ผมเห็นด้วยทุกข้อ

แต่ผมเห็นว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะมากกว่า
เพราะตามคำทำนายชี้ว่า ศาสนิกชนไม่ตั้งมั่นในธรรม

ผมไม่ได้ลบหลู่บารมีพระอาจารย์มั่น พระอาจารย์เสาร์นะ เพราะผมเองก็ศิษย์สายวัดไตรสิกขาคนหนึ่ง เป็นสายพระอ่าจารยฺสมภพ ซึ่งก็เป็นสายของหลวงพ่อชา ซึ่งเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่นเหมือนกัน แม้จะไม่เอาไหนก็เถอะ เพียงแต่ว่าผมเห็นว่าเหตุการณ์ช่วงพระอาจารย์มั่นไม่ตรงกับคำทำนายสักเท่าไรครับ

พระโพธิสัตว์ในไทยมีหลายองค์ เราอาจไม่ต้องนับรวมพระโพธิสัตว์ช้างเผือกเป็นพระโพธิสัตว์องค์อื่นก็ได้มั้ง

น่าสนใจว่าไฟจะลุกลามมาจากทางด้านตะวันออกนี่ จะเริ่มที่ประเทศไหน

 

ปริศนานกยาง

ปริศนานกยางนี่มันสะท้อนจิตใจคนได้ดีเลยนะ
เราเป็นคนยังไงเราก็จะตอบปริศนาไปแบบนั้นแหละ

ผมได้สิ่งที่ผมต้องการจากปริศนานกยางมาแล้วครับ ส่วนคำตอบจะถูกใจพระอินทร์หรือเปล่านั้นผมไม่สนละ เพราะผมได้สิ่งที่ต้องการละ

คือวิธีการที่ได้มาซึ่งปัญญา
ที่จริงมันก็ไม่มีอะไรซับซ้อนหรอก
มันคือหลักอิทัปปัตจยตาน่ะแหละ

แกะโครงสร้างดูแล้ว ก็ ดูเหมือน หลัก
ปฏิจจสมุปบาท +
อิทัปปัจยตา + แล้วก็หลักการของธรรมดา คือรู้อะไรธรรมดา รู้อะไรผิดธรรมดา
และหลักการสังเกตธรรมดา คือให้รู้จักการมีสติ จะได้ไม่ถูกกิเลศชักนำได้ง่าย
ว่าง ๆ จะลองไปแกะดูอีก ว่าจะได้อะไรมั้ย แต่ช่วงนี้ความสามารถหมดก๊อกแล้ว ผมคงต้องเตรียมเสบียงความรู้ใหม่ยาว

ดูเหมือนเป็นหลักที่จะทำให้สมณะชีพราหมณ์สำเร็จอรหันต์หรือเอาไว้หาสมณะชีพราหมณ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมากกว่าที่จะทำให้ได้เป็นพระจักรพรรดิ์

 

ขอถามด้วยความไม่รู้นะค่ะ

การที่เรารอพระศรีอาริย์มาเกิดเพื่อสร้างบารมี เพราะอะไรค่ะ

เข้าใจค่ะ หากจะบอกว่า ท่านเป็นผู้มีบุญญาธิการสามารถนำทางคนให้พ้นทุกข์ได้ ความรู้ความสามารถของท่านสามารถจะแก้ไขพระไตรปิฎกได้ ประมาณนี้หรือเปล่า

และระหว่างการศรัทธาบุคคล กับ การเข้าถึงพระธรรมคำสอนของโลกุตระโดยตรง

คิดว่าความเห็นนีัเป็นมาร หรือ คำลวง. ไม่

ถ้าหากลองสนใจเข้าไปในห้องอภิญญา- สมาธิ จะเห็นได้ว่าสมาชิกในหลายๆ ในหลายๆ ท่าน เริ่มรู้ธรรม อสังขตธรรม กันเพิ่มขึ้นเยอะแล้ว

พระยาธรรมิกราช เป็นพระธรรมคำสอน เป็นธรรมโลกุตระที่ส่องสว่างเข้าสู่ใจคน ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยตรงที่นำเข้าสู่จิตใจ ถ้าสร้างเหตุปฏิบัติไว้ได้ตรง (โยโสมนสิการ) และถูกต้องแสงสว่างปัญญานี้จะมีคำตอบให้

ไม่ใช่ตนเองคิดว่า หรือหมิ่นพระบารมีพระศรีอาริย์นะคะ แต่เพียงนำเสนอเพื่อพิจารณา ขนาดพระพุทธองค์ยังทรงให้ "ตนเป็นที่พึ่งแก่ตน". เลย

พระพุทธศาสนายังอยู่ พระยาธรรมิกราช ธรรมโลกุตระมาช่วยรักษาศาสนาให้ยั่งยืน คือ พระธรรมคำสอนอันเป็นสัจธรรมความจริง ที่ผู้ปฏิบัติสามารนำคำสอนของพระศาสดา มาสามารถโยโสมนสิการที่ใจตน เพื่อน้อมพระธรรมคำสอนที่เป็นจริงมาสู่ใจตน เพื่อรู้แจ้งเห็นจริง

เมื่อทุกคนสามารถปฏิบัติได้เช่นนี้ ทำให้บรรลุธรรมเพิ่มขึ้น ทำให้มีพระอรหันต์เพิ่มขึ้น และทำให้คนมีสัมมาทิฐิเพิ่มขึ้น จากพระธรรมคำสอนของพระยาธรรมิกราช(สูตร). ที่พระศาสดาตรัสไว้ กับ และคนสามารถบรรลุอรหันต์มากมาย และถ้าพระอรหันต์นั้นถ้าส่วนมากแล้วมีปฏิสัมภิทาญาณ ที่เข้าถึงธรรมโลกุตระเปิดให้โดยตรง กับพระโพธิสัตว์ที่กำลังบำเพ็ญบารมีที่จะมีปัญญารู้แจ้งธรรมสูงสุด เลิศที่สุด ประเสริฐที่สุดในชาติสุดท้าย

สองสิ่งนี้สิ่งใดที่จะทำให้พระศาสนายั่งยืนกว่ากัน ระหว่างศรัทธาเพียงตัวบุคคล กับ การเข้าถึงพระธรรมคำสอนด้วยตนเอง เมื่อศาสนาพุทธ ของสมณโคดม ยังอยู่

 

พูดอย่างนี้ไม่ใช่ ไม่ปราถนาไปเกิดในยุคท่านนะคะ. ปราถนาอย่างที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

 

ไฟที่ลุกลามมาจากทางด้านตะวันออก ก็ประเทศแถบเอเซีย ถ้าเดาเอาในยุคนี้ ก็คือ ประเทศเกาหลีเหนือ หรือไม่ก็ จีน ญี่ปุ่น. ฟิลิปินส์ ที่มีปัญหาหมู่เกาะทะเลจีนใต้กันอยู่

ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน

การปรับความสมดุลของโลก ถ้าผู้เป็นใหญ่หมายถึง จักรวาล เรียกผีเสื้อนับแสนตัวมาปล่อยไข่ เป็นไฟผลาญ หมายถึง พายุสุริยะ ยักษ์ที่หลับไหลเป็นเวลานานจะอาละวาด หมายถึงแผ่นดินไหว

ศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ ลองพิจารณาดูค่ะ ระหว่างปล่อยให้สงครามโลกเกิดขึ้นด้วยอาวุธมหาปลัยอาวุธนิวเคลียร์ โลกและมนุษย์จะมีสภาพแบบไหน กับ การปรับความสมดุลของพลังงานค่อยๆ ยกระดับ การเปลี่ยนแปลงโลก และพร้อมกับยกระดับจิตใจ เปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน จนสรุปบทตอนท้าย หากถึงเวลานั้นมนุษย์ผู้มีเซลล์สีดำในร่างกายบ่งบอกถึงความไม่มีคุณธรรมดีงามไม่อาจก้าวข้ามพ้นไปสู่ยุคพลังงานใหม่ ยุคศิวิไลย์ได้ ถ้าถึงเวลานั้น....จะเป็นอย่างไร ใครก็มิอาจคาดเดาได้

 

ไฟจะลุกลามมาจากทางะวันออก เกาหลีเหนือ ญี่ปุ่น จีน อินโิ มาเลมีสิทธิ์หมด
แต่ที่น่าจะเข้าเค้าก็เกาหลีเหนือที่ 1 จีนที่ 2

มันต้องร้ายแรงกว่านี่แน่ล่ะครับ ไม่งั้นท้ายที่สุดพลโลกคงไม่เหลือน้อย
แมลงผีเสื้อเหล็ก ปล่อยไข่ไฟนี่ก็เครื่องบินรบนี่แหละครับ

ผมคิดว่าสงครามนี่เป็นสิ่งที่ทำให้โลกระส่ำระสายทุกข์ยากได้ดีกว่าภัยธรรมชาติเป็นไหน ๆ

ไม่น่าใช่พายุสุริยะหรอก พายุสะริยะก็มาแล้ว คนได้รับผลกระทบกระจึ๋งเดียว หรือจะมาอีกก็ว่ากันไป แต่ที่มาแล้วก็กระทบต่อการสื่อสารได้แค่นั้น

ยักษ์ที่หลับจะลุกขึ้นมาอะละวาดนี่ภูเขาไฟแน่ ๆ แผ่นดินไหว อาจจะมีเชื่อโรคตาง ๆ ด้วย

จากนั้นค่อยครัสถึงพระธรรมิกราชโพธิญาณ แล้วตรัสอีกว่าพลโลกจะเหลือน้อยมากในเวลานั้น

ขอย้ำบ่อย ๆ เพราะลำดับตามคำทำนายเป็นแบบนี้

 

อ้อ ขอบคุณที่ถามละทำให้ผมได้แก้ครับ
ผมอาจจะสับสนกับคำทำนายเรื่องสัตถันตรกัปกับคำทำนายอื่น ๆ ไปด้วยน่ะ

พุทธฎีกาพยากรณ์
ตอนที่ ๑

ก่อนที่จะวิจารณ์พระพุทธฏีกาพยากรณ์ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กระผมใคร่ขอนำเสนอข้อความที่ถอดออกมาจาก "ศิลาจารึก" ในเขตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย จากเอกสารเผยแพร่ธรรม ของพระเดชพระคุณ "พระราชสุทธิญาณมงคล (จรัญ ฐิตธัมโม) วัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ให้ท่านได้ทัศนา เพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
สาธุ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและอนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้น เมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนมายุอยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า
ดูกรอานนท์ เมื่อศาสนาตถาคตล่วงเลยไปถึงกึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้นจะพบแต่ความลำบากทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกทำลายแผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทิศ
คนในสมัยนั้น (คือปัจจุบัน) จะมีวิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต จะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวายในกุศลตามวัจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรงบ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจักเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎแห่งธรรมชาติไม่พ้น
เริ่มแต่พระพุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปีเป็นต้นไป ไฟจะลุกลามมาทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม สมณะชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงเผาผลาญเหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำ สงครามจะทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยากผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจจะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาปให้หลับมาเป็นเวลานานจะตื่นขึ้นมาอาละวาด โลกดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพังแผ่นดินจะล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ ในระยะนั้น ศาสนาของตาคตเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรมเชื่อคำของคนโกงกล่าวคำเท็จ ไม่เคารพหลักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับการเชื่อถือในสังคม ผู้มีศีลธรรมประพฤติปฏิบัติดี กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง
พระธรรมจะเริ่มเปล่งแสงรัศมีฉายส่องโลกอีกวาระหนึ่ง ก็ต่อเมื่อมีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์อยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตาคตให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐ พระวรรษา
ดู่ก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์โลก ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน
ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศีล ๕ ประการ เจริญเมตตากรุณา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษรู้จักพอ ไม่โป้ปดคดโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจประพฤติตนตามคำสอนของตาคตให้มั่นคง จึงพ้นอันตรายในยุคกึ่งพุทธกาล

ท่านผู้อ่านที่เคารพ พระพุทธทำนาย หรือพุทธฏีกาพยากรณ์ดังว่านี้ พระพุทธองค์ท่านทรงตรัสแก่พระอานนท์ พระพุทธอนุชา ซึ่งปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดจวบจนเสด็จสู่ปรินิพพานอันพระอานนท์นั้นนับได้ว่าเป็นผู้ที่ฟังธรรมของพระพุทธองค์มากที่สุด เป็นบุคคลสำคัญในการสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที่ ๑ ท่านเป็นผู้ที่มีความจำเป็นเลิศ ท่านได้ถ่ายทอดหลักธรรมของพระพุทธองค์ที่ได้ยินได้ฟังมา แก่ที่ประชุมสงฆ์ และได้ใช้เป็นหลักคำสอนในพระพุทธศาสนามาจนทุกวันนี้

เมื่อพระพุทธองค์ทรงประกาศพระศาสนา ได้ทรงมีพุทธดำรัสว่า ศาสนาของพระพุทธองค์นั้น จะมีอายุเพียง ๕,๐๐๐ ปี เท่านั้น ต่อจากนั้น โลกก็จะว่างจากศาสนา อยู่ในช่วงกลียุคจวบจนถึงวาระอันควร โลกก็จะอุบัติพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นมาใหม่อีกพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า"พระศรีอาริยเมตไตรย์" เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่๕นับเป็นองค์สุดท้ายในภัทรกัปป์นี้

ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ท่านได้ตรัสถามแก่พระอานนท์ว่า ในศาสนาของตถาคตรวม ๕,๐๐๐ ปี นี้ ใครจะขออะไรบ้าง

พระอานนท์ก็ทูลขอให้ พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ภิกษุณี ชี พราหมณ์ อุบาสก อุบาสิกา เป็นผู้ดูแลและบำรุงพระศาสนาเป็นเวลา ๒,๕๐๐ปี พระพุทธองค์ก็ตรัสถามต่อไปว่า ใครจะขออะไรอีก เหล่าเทพยดาทั้งหลาย ทั้งพระอินทร์ พระพรหม จึงทูลขอให้เหล่าทวยเทพทั้งหลาย ได้ปรนนิบัติบำรุงพระศาสนา เพียงครึ่งหนึ่งของพระอานนท์ คือ ๑,๒๕๐ ปี พระองค์ก็ทรงอนุญาตและก็ได้ตรัสถามต่อไปอีกว่า ยังเหลืออยู่ ๑,๒๕๐ ปี นั้นเล่า ใครจะขอต่อไป

บรรดาเหล่าครุฑาวาสุกรี คนธรรม์ นาฏกุเวร นาคราช กินนร กินรี และภูติผีปีศาจ จึงทูลขอคุ้มครองดูแล และปรนนิบัติบำรุงต่อไปอีก ๑,๒๕๐ ปี โดยร่วมแรงร่วมใจกัน ผนึกกำลังกันไปจนกว่าศาสนาจะค่อย ๆ เรียวลงไป มนุษย์ก็จะเล็กลง ๆ ไปตามลำดับ ถึงกับจะต้องขึ้นแป้นขึ้นบันได สอยลูกมะเขือ ปีนขึ้นต้นเก็บเม็ดพริก พระสงฆ์องคเจ้าก็จะร่อยหรอ เหลือไว้เพียงผ้าเหลืองผืนน้อย ๆ ห้อยอยู่ที่หู เพื่อได้เป็นที่สังเกตดูว่า นั่นแหละพระสงฆ์ จนกระทั่งเล็กลง หรือเรียวลง เสื่อมลงจนหมดสิ้นพอดี ๕,๐๐๐ปี ตามพระพุทธฏีกากำหนดไว้

คัดลอกจาก https://sites.google.com/site/dhammatharn/home/phuthth-thanay
(หน้าเพจนี้รวมคำทำนายพระสุบินของพระเจ้าปเสนธิโกศลไว้ด้วย)

ฉันนั้นก็แสดงว่าผมจำคำทำนาย ของพระเจ้าปเสนธิโกศลมาสับสนกับคำทำนายอื่น ต้องขออภัย

เรื่องเราไม่รู้ว่าคนโบราณนี่เขียนแผนที่ยังไงนับเดือยวันเวลายังไงนี่ก็ถูกแต่เรื่องภูมิประเทศนี่น่าจะพอทำให้มั่นใจได้ เพราะเวลาแค่ 2500 ปีนี่ คงไม่ได้ทำให้ภูมิประเทศในตอนนี้เปลี่ยนแปลงจากตอนโน้นเท่าใดนัก
เรื่องปฏิทิน ทางอินเดียน่าจะถือจันทรคติครับ ซื่งเท่าที่รู้ เมื่อดูปฏิทินไทย สุรยคติ 1 ปี ก็มี วันวิสาขบูชา 1 ครั้ง เหมือนกัน คือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ซึ่งยึดตามจันทรคติน่ะแหละ จะสังเกตุได้ว่า ปีนึงผ่านไป วันวิสาขและวันสำคัญทางพุทธศานาอื่น ๆ ก็จะเลื่อนเป็นอีกวัน ไม่ใครจะซ้ำกับ วันที่เดิมในปีที่แล้ว ๆ เท่าไร เลยอนุมานได้ว่า การนับวันและเวลา ทางสุริยคติและจันทรคติไม่ห่างกันเท่าไร

ส่วนพระโพธิสัตว์พระศรีอาริย์
ไม่ว่าท่านจะลงมาในรูปแบบใด ท่านก็จะไม่บรรลุเป็นพระอริยะครับ (พระโพธิสัตว์แม้บารมีเต็มแล้วท่านก็มีเมตตามาก ยังไงก็จะลงมาเกิดช่วยเหลือสัตว์โลกตามที่โพธิสัตว์องค์นั้นปรารถณาอยู่แล้วล่ะมั้ง เพราะนอกจากท่านจะมีมีเมตตา สิ่งที่พระโพธิสัตว์บารมีมาก ๆ จะไม่ขาดเลยก็คงจะเป็นความเพียร ผมเดาว่างั้นนะ คือเพียรจนเป็นนิสัยน่ะ) ถ้าพระศรีอาริย์ท่านลงมาแล้วเดินทางธรรมก็น่าจะเป็นผู้แตกฉานในธรรมพอสมควร

เรื่องภาษาในการแปลพระไตรปิฏกนี่ ผมเห็นด้วยพอสมควร ที่ว่าอาจแปลมาคลาดเคลื่อนบ้าง แต่ที่สำคัญกว่า ภาษาไทยในยุคปัจจุบันกับภาษาไทยในอดีตก็มีความหมายต่างกันแล้วเหมือนกัน
เพราะการใช้ภาษาไทยยุคนี้กับสมัยก่อนคำแต่ละคำมีความเหมายเปลี่ยนไป
ทำให้ความเข้าใจพระไตรปิฏกคลาดเคลื่อนได้

อย่างเช่นรู้ หลายคนอาจจะรู้ว่าคำว่ารู้ในพระไตรปิฏกคืออะไร

แต่ผมโง่ ที่เข้าใจคำว่ารู้ ว่าหมายถึงรู้รับทราบ
ส่วนการเข้าใจที่ถูกต้อง มันมีน้ำหนัก เท่ากับ หรือมากกว่า คำว่าเข้าใจ
คือรู้ตลอด เข้าใจจนสามารถนำเอาสิ่งที่เข้าใจนั้นไปประยุกติ์ใช้ได้
เป็นต้น

เอางี้ แค่พิจารณา ว่าธรรมดา(ความจริง อาการที่เป็นความจริง เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่ ความน่าจะเป็น) ของสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน มันคืออะไร อย่างไรให้รู้ให้เข้าใจกระจ่าง พิจารณาตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอน
ก็น่าจะพอแก้ขัดในการอ่านพระไตรฎกให้เข้าใจได้นิดหน่อยนะครับ
เมื่อเข้าใจสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอนก็คงจะรู้เองแหละว่า ผู้แปลพระไตรปิฏกน่าจะแปลพลาดตรงไหน
ถ้าไม่เข้าใจก็คงเป็นเพราะสิ่งที่เราสั่งสมมามันไม่พอ

ผมนี่กว่าจะเข้าใจธรรมมะง่าย ๆ ก็อายุ 29 เข้าไปแล้ว โง่มาก

 

เรื่องศิลาจารึกที่มีทำนายถึงพระธัมมิราชโพธิสัตว์ ผมอ่านเจอตั้งแต่วัยรุ่น13-14ปี จนตอนนี้ผมจะ 40 แล้วผมยังไม่เคยเห็นศิลาที่จารึกคำทำนายนั้นเลย ทั้งที่ในปัจจุบันโทรศัพท์ของพวกเรามีกล้องกันทุกเครื่องแล้ว แต่ถึงยังงั้นก็ยังไม่มีภาพศิลาจารึกปรากฏมาให้เห็นเสียที

ผมขอให้ฉุกคิด ว่าเรื่องนี้มีโอกาสเกิดจริงแค่ไหน การไม่ปักใจเชื่อ"ฟังหูไว้หู" บ้างก็ดีครับ.

ปล.ผมไม่ได้ชวนทะเลาะ แค่อยากเสนอความคิดเฉยๆ

 

จุดแข็งคของคำทำนายว่าพระศรีอาริย์ พระโพธิสัตว์องค์นั้น องค์นี้ จะลงมา คือ
การอาศัยความไม่รู้(รวมไปถึงความสงสัย)และความหวังครับ

คนไม่รู้อย่างเรา ๆ ว่าใครเขียนใครแต่ง มันจริงหรือเปล่า ก็ถูกความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลชักนำไปได้ง่าย ๆ เพราะมันประกอบกับความหวังว่าจะได้พบในสิ่งที่เราศรัทธา

บางทีผมก็เกลียดคำทำนายพวกนี้เข้าใส้เหมือนกันนะ
แตในเมื่อเราคลายความสงสัยจากมันไม่ได้
ผมก็เลย เอามันมาขบคิดตีความเล่นซะเลย ฝึกสมอง

ก็คงเหมือนเพื่อน ๆ ในเว็บบอร์ดนี่แหละ ที่พากันคลายจากความสงสัยไม่ได้เลยพยายามหาคำตอบกัน

แต่ถ้าจะเอาทุกเรื่องที่เจอมาผนวกกับการปฏิบัติธรรมล่ะก็อาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้นะ

แบบว่ามันได้สังเกตใจตัวเองดีน่ะครับว่า มันร้อนรนกระวนกระวายแค่ไหนตอนอยากรู้คำตอบของปริศนาต่าง ๆ แล้วเราจะวางมันลงได้ยังไง ใครวางมันก็ก็ชนะไปครับ

เพราะไม่ต้องเจอพระยาธรรม เราก็สามารถทำตามคำสั่งสอนของพระอรหันต์ทั้งหลายจนสามารถบรรลุธรรมได้อยุ่แล้ว หากว่าเรามีบารมีธรรมที่สั่งสมมามากพอ

เราปฏิบัติล่วงหน้าไปก่อนกได้ ถ้าพระยาธรรมมาแล้วเราก็ค่อยฟังธรรมท่านทีหลังไปก็ได้ ยังไงก็ได้ฟัง

ที่จริงผมเองก็อยากทำตัวเองให้บรรลุธรรมนะ แต่สิ่งที่ผมอยากเป็นมากกว่าคือพระพุทธเจ้า
ผมเลยอยากรู้อะไรให้มาก ๆ ก็เลยต้องขอเล่นสนุกกับอะไรแผลง ๆ ไปก่อน เผื่อมันจะทำให้สติปัญญาที่มีอยู่น้อยนิดของผมมันขยายขอบเขตขึ้นมาบ้าง