[X]อหังการวิเศษมาร[X]

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย รัตนมหาธาตุ, 19 พฤษภาคม 2017.

  1. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ใช่ค่ะใช้หลักกาลามสูตร ไม่เชื่อสิ่งใดจนกว่าจะพิสูจน์ประจักษ์แจ้งแก่ใจตนเอง

    คนที่พบพระยาธรรมิกราชแล้วเท่านั้น จึงจะเชื่อได้เพราะพิสูจน์มาแล้วด้วยตนเอง

    ส่วนพระมิกราชโพธิญาณ ยากนักที่จะปักใจเชื่อนอกจากพิจารณาตามคำทำนายที่บอกมา ถ้าพิจารณาลงไป ผู้ที่มีลักษณะและเด่นชัดที่สุด ก็มีหลวงปู่มั่น ซึ่งเดิมปราถนาพุทธภูมิ และมาบรรลุพระอรหันต์ กับหลวงปู่เสาร์ที่ทัังสองท่านอุปถัมภ์แก่กัน และหลวงปู่มั่นก็พาลูกศิษย์ทั้งพระและฆารวาสบรรลุธรรมตามมาอีกมาก มีคำสอนของครูบาอาจารย์ที่มีประโยชน์จนถึงบัดนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่ดุลย์ หลวงตาบัว เป็นต้น

    ส่วนที่บอกว่าหลวงปู่มั่น ที่บรรลุพระอรหันต์และศิษย์ที่บรรลุตาม. ยังให้โลกธาตุหวั่นไหว เป็นเรื่องพลังงาน ยากที่จะพิสูจน์ได้ นอกจากได้สัมผัสด้วยตนเอง หรือพิจารณาความเป็นธาตุ เป็นพลังงาน อันมีปัจจัยเป็นเหตุและผลสืบเนื่องกัน เรียกว่า อิทัปปัจจยตา เป็นเรื่องที่ยากแก่การเข้าใจ ก็ได้แต่ดูว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันตรงกับคำพุทธทำนายหรือไม่นะค่ะ

    ที่ได้นำสิ่งนี้มาเปิดเผย มันมีเหตุที่มาที่ไปค่ะ ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญก็คงไม่ใช่ เพราะมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่ได้ไปพบข้อมูลที่ทำให้เชื่อมโยงกับสิ่งที่ตนเองรู้และได้รับ. ตอนแรกก็ได้บอกในกระทู้ว่าขอจบเรื่องนี้เพียงแค่นี้ แต่ก็มีเหตุใหัทำ และมีข้อมูลไหลเข้ามา ถ้าไม่นำมาเปิดตนเองจะทำอะไรไม่ได้เลย จะได้รับและพิจารณาแต่เรื่ีองนี้ค่ะ
    และที่สำคัญก็เพิ่งมาทราบเรื่องนี้พร้อมๆกันค่ะ พอเปิดจบลงไปสวดมนต์เทวดาพรมน้ำมนต์ให้ คือฝนตกเล็กน้อยเฉพาะที่ตนเองนั่ง คิดว่าใช่เรื่องบังเอิญไหมค่ะ

    ที่บอกว่าจุดเริ่มต้นของหายนะ ที่ชี้ว่า ศาสนิกชนไม่ตั้งมั่นในธรรม และ ไฟจะลามมาจากทางทิศตะวันออก ที่จริงแล้วก็เป็นแถบเอเซียตะวันออกกลาง นั่นแหละค่ะที่เป็นจุดสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลก โดยมีประเทศมหาอำนาจเป็นตัวการสำคัญ และมีการตั้งกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มอิสลามเป็นการโต้ตอบ สิ่งนี้แหละค่ะ อสัทธรรมเจริญรุ่งเรือง ไร้มนุษยธรรมในการอยู่ร่วมกันของเผ่าพันธ์มนุษย์โลกอย่างแท้จริง ที่จะนำพาให้โลกพบกับความหายนะ. ที่เป็นจุดเปลี่ยนโลก เมื่อศีลธรรมไม่มาโลกาจะวินาศ เมื่อผู้คนจิตใจตกต่ำอสัทธรรม มีมากกว่าสัทธรรมความจริง

    พายุสริยะไม่ใช่เล็กน้อยอย่างที่เข้าใจค่ะ พายุสุริยะที่เกิดขึ้นมาในช่วงยุค10กว่าปีที่ผ่านมานี้ แท้ที่จริงมาจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงพลังงานโลก ยกระดับพลังงานโลกที่กำลังตกต่ำสุดให้สูงขึ้น พายุสุริยะเป็นพลังงานจักรวาลที่มาจากดวงอาทิตย์ เมื่อถูกส่งมายังโลก ทำให้โลกปรับพลังงานของตนเอง มีผลต่อการขยับตัวของเปลือกโลก จึงเป็นเหตุที่มาของภัยพิบัติต่างๆด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2017
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อนุโมทนาค่ะ
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ข้อมูล ท่าน 00000 หายไปอีกแล้ว
    เป็นประจำและตลอด ยังอ่านไม่จบเลยเรื่องปริศนานกกระยาง
     
  4. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ผมมาฉุกคิดได้ว่า พระพุทธเจ้าตรัสว่า เมื่อศาสนาพุทธล่วงเลยไป
    ตรงนี้น่าสนใจ

    เพราะถ้าพระพุทธเจ้าท่านนับตั้งแต่วันอาสาฬหบูชาแรก ในพุทธกาล ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธ เพราะท่านประกาศธรรมจักรกัปปวตนสูตรครั้งแรก พุทธศักราชอาจจะช้าไปประมาณ 45 ปี ลบลบ เพราะได้ยินมาว่า เราเริ่ม นับ พศ ตั้งแต่เวลาที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน

    และที่ผมคิดว่า พศ ช้ากว่าศาสนาไป 45ปีลบ ๆ เพราะ ศาสนาพุทธมีพระรัตนตรัยครบองค์ 3 ในวันอาสาฬหบูชา ในขณะที่พระพุทธองค์มีอายุได้ 35 พรรษา
    ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จปรินิพพานขณะที่มีพระชมายุได้ 80 พรรษา
    พระองค์ใช้เวลาในการเผยแพร่ศาสนาของพระองค์เป็นเวลา 45 ปี

    แต่คำว่าศาสนา ก็น่าจะต้องหมายถึง การมีผู้สืบทอดหรอืมีสาวกระดับอื่น ๆ ด้วย เช่นสาวกที่ไม่ใช่นักบวชของศาสนา จึงน่าจะถือว่าครบองค์ประดอบของศาสนา
    และถ้าผมจะเอาช่วงเวลาที่พระพุทธศาสนามีอุบาสกคนแรก นี่ผมก็ไม่รู้ด้วยแหละ ว่าตอนนั้นพระพุทธเจ้าท่านมีพระชนมายุเท่าไร
    ก็เลยเอาวันที่พระพุทธเจ้าท่านประกาศธรรมเป็นวันประกาศศาสนาพุทธ
    ทำให้เวลาพศ เร็วกว่า เวลาที่ศาสนาพุทธดำรงอยู่ประมาณ 45 ปี

    ซึ่งก็อาจจะเข้าเค้าว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 อาจอยู่ประมาณกึ่ง ๆ พุทธกาล
    ส่วนสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เป็นช่วงหลังกึ่งพุทธกาล

    โดยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในปี 1914-1918
    2017-1918 = 99 ผ่านมาแล้ว

    ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดในปี 1939-1945 = 72 ผ่านมาแล้ว

    ถ้าหาก พุทธศักราชช้ากว่าพุทธศาสนาประมาณ 45 ปี
    ก็คงต้องคำนวนกันว่า เหตุการณ์ทั้งสอง เกิดขึ้นเวลาไหน ในพุทธกาล

    กล่าวคือ สงครามโลกครั้งที่ 1
    เกิดขึ้นเมื่อ 2560+45-99 คือประมาณ 2506 ปีที่พุทธกาลดำเนินมาแล้ว

    และสงครามโลกครั้งที่สอง 2560+45-72 2533 ปีที่พุทธกาลดำเนินมาแล้ว

    หลังกึ่งเวลาที่พุทธกาลดำเนินมาแล้วทั้งคู่
    และปัจจุบันพุทธศาสนาก็ดำเนินมาแล้ว 2605 ปี
    ใครมีข้อมูลเหตุการณ์ความรุนแรง ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ประมาณ 20 ปีมั้ยครับ?

    จันทรคติมันจะสั้นกว่า สุริยคติกี่วันน้อ ถ้ารู้นี่ น่าจะคำนวนเวลาที่แน่นอนได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2017
  5. Captian A

    Captian A สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    สวัสดีครับผม "Captian A" ผู้ส่งสาร
    ผมมาแจ้งข่าว ยืนยันการมีตัวตน "จักรพรรดิ" หรือ "พระยาธรรมิกราช"
    ให้สาวกทุกท่านในเว็บพลังจิตทราบ
    ต่อไปจะขอเรียกนามเป็น "จักรพรรดิ" นะครับ

    (จะตรงกับ พุทธทำนาย และ คำทำนายจากแหล่งอื่นๆ)
    ชื่อ-นามสกุล หนึ่งเดียวในโลก ไม่ซ้ำใคร
    เกิดเมื่อ : 28 มีนาคม พ.ศ. 2528
    เกิดที่ : อ.เชียงคาน จ.เลย (เชื้ออีสาน) ประเทศไทย
    เกิดเป็นครอบครัวยากจน
    อายุ 5 ขวบ ย้ายไปอยู่ จ.ตาก อ.อุ้มผาง (เมืองเล็กๆ ในจังหวัดใหญ่)
    เรียนจบ ป.ตรี ที่ มหาวิทยาลัย นเรศวร
    ไม่เคยบวชพระ ปัจจุบันอาศัยอยู่ ในกรุงเทพฯ
    ตั้งแต่เกิดจนปัจจุบัน เป็นเพียงคนธรรมดา

    รูปร่างหน้าตาปัจจุบัน
    สูง : 180 cm. หนัก : 75 Kg.
    รูปร่างสมส่วน หน้าตา หล่อเหลา แบบเทพบุตร (มีรอยแผลเป็นที่แก้มขวา จากบุพกรรมเก่า)
    ผิวขาว มีแสงออร่าสีขาวรอบกาย (มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น)
    ใต้ฝ่าเท้า มีตราสัญลักษณ์ "ดุม จักร" , ฝ่ามือมีตราสัญลักษณ์ "เมอขะบะ"
    กลางหน้าผากมีตราสัญลักษญ์ "ดอกบัว"
    ทำสมาธิ สาย 'พลังจักรวาล'

    การใช้ชีวิตที่ผ่านมา
    ใช้ชีวิตแบบปุถุชนคนธรรมดา เป็นคนยากจน
    ตั้งแต่เด็กครอบครัวแตกแยก ต้องผ่านอุปสรรคทุกอย่าง ด้วยปัญญาของตัวเองทั้งหมด
    ต้องรับรู้ความยากจน ความลำบากของคนทั่วไป ต้องคลุกคลีสัมผัส กับด้านมืดทุกด้าน
    เพื่อให้สามารถเอาชนะ และผ่านด่านไปให้ได้ จึงจะเกิดการเรียนรู้ที่แท้จริง

    รู้ตัวตนที่แท้จริงของตนเอง เมื่อเดือน ตุลาคม 2559 (7 เดือนผ่านมา)
    หลังจากนั้นได้ ค้นพบ รับรู้ด้วยตัวเอง
    -รับรู้ โลกที่เราใช้ชีวิตอยู่ คือ เมททริค จักรวาล คู่ขนาน (synchronize city)
    -รับรู้ จิตรวิญญาณทุกคนที่ใช้ชีวิตบนโลก ในโลก 3 มิตินี้ คือโลกมายา ที่เรารับรู้ได้
    เพราะมีระบบสัมผัสร่างกาย และเซลล์ประสาทของร่างกายเป็นตัวรู้เท่านั้นเอง
    - รับรู้โลกมายา ที่คนเรามาใช้ชีวิตอยู่นี้ เพื่อสร้าง พลังงานจิต แห่ง "ความรัก" "การให้ความเมตตา" "ความสุข" เพื่อนำพลังงานเหล่านี้
    ไปหล่อเลี้ยงโลก และ จักรวาล
    -รับรู้ พยานาค ครุฑ เทพ เทวดา มนุษย์ต่างดาว ที่คอยติดตาม และเฝ้ามองสังเกตุการณ์ เพื่อเข้าสู่ยุคใหม่


    เหตุที่ 'จักรพรรดิ' ยังไม่ยอมปรากฏตัว ในเวลานี้ เพราะ
    - ไม่ต้องการนั่งบัลลังตำแหน่ง 'จักรพรรดิ' เพราะไม่ชอบให้คนมาบูชากราบไหว้ เพราะมีความคิดว่า
    ทุกคนเท่าเทียมกันทั้งหมด เลยไม่ชอบการแบ่งชนชั้น
    - ไม่ต้องการสมบัติ เงินทอง หรือวัตถุ ได เพราะค้นพบแล้วว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้มีความสุขที่แท้จริง
    - ต้องการค้นหาความสุขที่แท้จริง บนโลกนี้ใบนี้ ซึ่งได้ค้นพบแล้ว ความสุขของตนเอง คือ "การให้" และ "ช่วยเหลือผู้อื่น"
    "ทำให้ผู้อื่นมีความสุข" คือความสุขของ 'จักรพรรดิ'
    - ต้องการจะเป็น Hero แบบลับๆ คอยช่วยเหลือคน แต่ทำไม่ได้ 'พลังพิเศษ' ต้องมารับตำแหน่ง 'จักรพรรดิ' เท่านั้น
    - และความสุขสูงสุดอีกสิ่งหนึ่ง ที่ค้นพบคือ "ความรัก" และให้คนที่รักมีความสุข ซึ่งคือความสุขสูงสุดของ 'จักรพรรดิ' ที่ต้องการจะสัมผัส
    และตอนนี้ กำลังดำเนินการค้นพบความสุขจุดนี้อยู่ ก็คือตามหา "รักแท้แห่งรัตติกาล" คู่บารมีที่ร่วม สร้างบารมีด้วยกันทุกภพชาติ
    หลังจากได้สัมผัสความสุขตรงนี้แล้ว จะเป็นการค้นพบความสุขที่แท้จริง
    จากนั้น 'จักรพรรดิ' จะมาปรากฏตัว

    เพราะ 'จักรพรรดิ' ต้องการ
    - พาทุกคนออกจาก เมททริค เพื่ออิสระที่แท้จริง เพื่อความสุขที่แท้จริง
    - ฟื้นฟู สถาปนา ทำนุบำรุง พุทธศาสนา ให้สู่จุดสูงสุดอีกครั้ง ให้คงอยู่ตลาดไป
    - ต้องการปิดระบบ เวียนว่ายตายเกิด เพราะมันไม่เกิดประโยชน์อะไร ที่ต้องมาเล่นเกมในโลก 3 มิตินี้ มายาวนาน อีกต่อไป
    - สร้างสันติสุขกลับคืนมาสู่โลกอีกครั้ง เพื่อสร้างพลังงานความรัก ที่ส่งให้ทุกๆจักรวาลให้มีแต่ความสุข


    ปล.ไม่ต้องเชื่อ โดยไม่ทราบที่มาที่ไป แต่ให้คอยเป็นนักเฝ้าสังเกตุการณ์ รอดูการเปลี่ยนแปลง
    ผมมาแจ้งข่าวให้ ผู้ที่มีความหวัง จะได้พบเจอ เพราะพวกท่านก็คือ 'เทพ เทวดา' ที่อาสาลงมาเกิดก่อน เกิดตาม
    เพื่อติดตามและช่วยเหลือกัน ในการฟื้นฟู และสืบต่อพุทธศาสนา

    เมื่อถึงเวลา ปรากฏตัว 'จักรพรรดิ' จะเป็นผู้ยืนยันทุกสิ่งเอง..
     
  6. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207


    ใต้ฝ่าเท้า มีตราสัญลักษณ์ "ดุม จักร" , ฝ่ามือมีตราสัญลักษณ์ "เมอขะบะ"
    กลางหน้าผากมีตราสัญลักษญ์ "ดอกบัว"


    ฝ่ามือมีตราสัญลักษณ์ "เมอขะบะ"

    ความหมายของเมอร์-ขะ-บะ ค่ะ

    ส่วนกายทิพย์หรือยานพาหนะของจิตวิญญาณของเรานั้น มันก็มีพัฒนาการอยู่หลายระดับเช่นเดียวกัน คือเดิมทีนั้น มนุษย์จะใช้กายทิพย์ที่มีรูปทรงเรขาคณิตแบบ tetrahedral 2 รูปประกบกัน ที่มียอดอยู่ 8 ยอด ที่เรียกว่า เมอร์-ขะ-บะห์ (Mer-ka-bah) แต่ในยุคพลังงานใหม่นี้ระบบกายทิพย์ของมนุษย์จะค่อยๆพัฒนาขึ้น จนมีรูปทรงเรขาคณิตที่สลับซับซ้อนมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเอื้ออำนวยต่อการรู้แจ้งมากขึ้นด้วย
     
  7. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    สิ่งนี้ตนเองได้รับความรู้มาอย่างหนึ่งค่ะ
    ลองพิจารณาดูอีกทีนะคะ ว่าใช่หรือเปล่า?
    ในยุคนี้พระโพธิสัตว์ลงมาบำเพ็ญบารมีกันมาก
    ธรรมโลกุตระเปิด และ ยุคข้อมูลในต่างมิติ ที่สื่อสารลงมาทางอวกาศ (โลกปรับระบบมิติสูงขึ้น)
    ด้วยความที่พระโพธิสัตว์ทั้งหลายมีบุญบารมีที่สั่งสมไว้สามารถจะรับธรรมและความรู้เหล่านี้ได้และผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายส่วนใหญ่ก็สามารถรับได้
    บางท่านได้รับธรรมมาก็มีความรู้มากมาย
    บางท่านได้รับธรรมมาก็ยังคลี่คลายไม่ได้
    จึงเกิดมี ๒ ประเด็นค่ะ
    ความรู้ที่มากมายเหล่านั้นมีเกิดขึ้นจริงในตัวท่านทั้งที่คลี่คลายได้ และคลี่คลายยังไม่ได้ ก็จะเป็นอย่างที่รู้กัน ว่ามีพระศรีอาริย์เกิดขึ้นมากมาย

    ของจริงมีค่ะ พระยาธรรมมิกราชา(สูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้) เกิดขึ้นแล้วท่านพระศรีอาริย์จะต้องลงมารับและสร้างบารมีอย่างแน่นอน เพราะการเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้ มีไม่บ่อยและหายากค่ะ หรือ หากจะพูดว่า ในหนึ่งพุทธันดรอาจมีช่วงเวลานี้เพียงหนึ่งครั้งก็ได้ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2017
  8. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    เมื่อคืนพึ่งฝันว่ามีเด็กตัวใหญ่มากมานอนร้องใต้ต้นไม้ เกี่ยวกันเปล่า
     
  9. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    เรากำลังทึ่งและอัศจรรย์กับลักษณะที่ปรากฎบนร่างกายของท่านนะค่ะ เป็นสัญญลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน หากมีบุคคลเช่นนี้เกิดขึ้นมาจริง ก็น่าอัศจรรย์ใจค่ะ

    เพราะในพุทธทำนายกล่าวถึง พระมิกราชโพธิญาณเกิดขึ้น แสงสว่างพระธรรมจะส่องลงมาที่โลกอีกครั้ง โอกาสนี้น่าจะเหมาะสมในการสร้างบารมี

    หากคำว่าพลเมืองเหลือน้อย สอดคล้องกับสื่อความรู้ของจักรวาล และเหตุการณ์ในโลกในสภาวะการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นแล้ว ส่งผลถึงอนาคต. ที่เหตุปัจจัยสืบเนื่องกัน หากพระศรีอาริ์ย์ท่านลงมารับธรรมและบำเพ็ญบารมี โอกาสนี้ก็น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมค่ะ

    มีสิ่งหนึ่งที่เกิดที่ใจบอกว่าปรากฎตัวของท่านยังไม่ใช่เวลานี้แน่ค่ะ สิ่งที่ดีที่สุดต้องเป็นเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

    คิดเล่นๆนะคะ บางทีท่านอาจจะเมตตาเพื่อที่จะยืนยันให้รีบเร่งทำความดี ก่อนที่เวลานั้นอาจจะมาถึงจริงๆ ก็ได้ค่ะ
     
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    เครื่องยืนยันว่า พระยาธรรมิกราชเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ ดั่งคำพุทธทำนายคือ การเห็นสภาวะธรรมอันเป็นสัจธรรมความจริง คือ อสังขตธรรม และสังขตธรรม ๑๗ สภาวะ จึงมั่นใจอย่างมากเลยไงค่ะว่า.....พระยาธรรมิกราชา เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ตามคำพุทธทำนายค่ะ
     
  11. karokwat

    karokwat นารายณ์ ❤️ ลักษมี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +317
    ลิ้งนี้ครับ


    เพียงแค่ใช้ชีวิตปัจจุบันให้มีความสุขก็เพียงพอแล้วครับ
    ความสุขแต่ละท่านก็ตามที่ใจแต่ละท่านเป็นสุขได้เลยครับ
    ความสุขที่แท้จริงก็คือ ไม่เบียดเบียน ไม่กระทบเดือดร้อนผู้อื่น เพราะหากได้กระทบเดือดร้อนผู้อื่น ความทุขก็จะกลับตีมาสู่ตัวเรา ซึ่งก็ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง
    ไม่ต้องรีบร้อน รีบเร่งทำความดี จนต้องเสียสมดุล
    ให้ทำชีวิตแบบไม่เคร่งตึง และไม่หย่อนเกินไป ให้ชีวิตมีความสมดุล ให้มีความสุขกับปัจจุบันเพียงพอแล้วครับ เพราะพลังงานแห่งความสุขนี่ไง ที่จักรวาลต้องการนำไปใช้งาน
    หมายถึงฆราวาสปุถุชนทั่วไปนะครับ
    บางท่านมีความสุขจากให้ทาน จากศึกษาธรรม
    จากการช่วยเหลือผู้อื่น หรืออย่างไรก้แล้วแต่
    ให้ทำได้เลยปกติ
    เพราะมี 'พุทธศาสนา' จึงทำให้ทุกท่าน ได้รู้สึกมีความสุขจากการให้คับ :):)
     
  12. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ที่จริงแล้วพระยาธรรมิกราชสูตร มิได้เกิดขึ้นแค่สมัยพุทธกาลค่ะ. พระยาธรรมิกราชสูตรเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มมีจักรวาลวัฏฏะ พระพุทธองค์ยังตรัสว่าไม่ว่าเราตถาคตจะเกิดหรือไม่ สัจธรรมความจริงก็ยังมีอยู่ แต่เราเป็นผู้ค้นพบและนำมาบอกให้เท่านั้น แม้กระทั่งกัปที่ว่างจากพุทธันดร ก็มีอยู่แต่ไม่มีใครที่มีญาณที่จะนำสัจธรรมเหล่านั้นมาบอกอธิบายในภาษาเพื่อสื่อถ่ายทอดได้

    การเปิดธรรมโลกุตระ ที่ทรงเปิดได้ด้วยอาศัยบุญบารมีองค์ทศพลญาณ จากการตรัสรู้ แล้วนำมาบอกสอนแก่สาวกผู้ทรงสั่งสมบารมีไว้ดีแล้วแล้วบรรลุตาม

    ส่วนแสงสว่างธรรมโลกุตระที่ส่องแสงลงมายุคกึ่งกลางพุทธกาลให้ได้เห็นตามอุปนิสัยวาสนาบารมีนี้ ด้วยเหตุที่รักษาพระศาสนาให้ยืนยาวครบห้าพันปีตามที่ทรงตรัสไว้ จึงมีคนเข้าถึงธรรมโลกุตระกันมากขึ้นเนื่องจากโลกกำลังตกอยู่ในสภาวะมืดมิด เกิดลัทธิเดียรถีย์มากมาย คนห่างไกลจากสัจธรรม หลงมัวเมาตัวตนไม่รู้แจ้งแก่นสัจธรรมที่แท้จริง ถ้าหากว่าหากแสงสว่างไม่ส่องลงมาอีกครั้ง จิตใจคนจะหลงทางมืดมนกันมากแค่ไหน?

    การมีพระธรรมคำสอนที่เข้าถึงได้ก็ถือว่าเป็นการช่วยพระศรีอาริย์อีกทาง หากท่านมาก็เป็นหน้าที่ของท่าน ท่านลงมาทำหน้าที่ก็ต้องเป็นผู้นำแสงสว่างแห่งธรรมอยู่แล้วค่ะ. ส่วนท่านเป็นใครไม่ทราบหรอกค่ะ ถ้ามาจริงถึงเวลาคงรู้เอง ตอนนี้เพียงแค่จะสื่อว่า เหตุการณ์ในพุทธทำนายเกิดขึ้นแล้ว. และธรรมโลกุตระเปิดแล้วจริงค่ะ

    สังเกตุไหมค่ะว่า การพูดถึงธรรมนี้แพร่หลายและเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะพระสงฆ์ แม้กระทั่งฆารวาสที่ยังไม่บรรลุธรรมก็ได้รับ หรือแม้แต่สัจธรรมอันเป็นวิทยาศาสตร์ อณู ปรมาณู จิตวิญญาณคนก็รู้และเข้าถึงกันได้ง่ายกว่าเดิมมาก
     
  13. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ยุคกึ่งพุทธกาลนี้ คนจะเข้าถึงธรรมได้ และรู้แจ้งสัจธรรมความจริงได้ง่ายกว่าเดิมค่ะ ส่วนการบรรลุธรรมต้องมาจากกายจิต รู้ได้จากธรรมภายในนั่นแหละค่ะ
     
  14. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เข้าไปฟัง ท่านโพธิลักษ์ เจ้าสำนักอโศก
    ท่านว่า ท่านคือ ธรรมิกราช
     
  15. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    โอยอะไรกัน โพธิลักษ์ จะต้องลงนรกอเวจี 1 กัปป์ย่อย ขึ้นมาใกล้เทวทัต เพราะทำสังฆเภท

    และจะต้องพาคนไปอบายมากมาย

     
  16. pitra

    pitra สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2017
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +31
    ยักษ์นอกศาสนาจะรบกัน ข่วงหนึ่งก็มีอเมริกา กับรัสเซีย หลายประเทศบ้านแตกสาแหรกขาด
     
  17. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมตอบปริศนานกยาง-นำโลกสู่ยุคศิวิไลซ์.295193/

    ปัญหาจากพระอินทร์ที่นำมาถาม....

    ๑. นกยางเฮย ทำไมจึงไม่ร้องขอก นกยางว่าปลามันไม่ออก
    ๒. ปลาเฮย ทำไมจึงไม่ออก ปลาว่า หญ้ามันรก
    ๓. หญ้าเฮย ทำไมจึงรก หญ้าว่า วัวมันไม่กิน
    ๔. วัวเฮย ทำไมไม่กินหญ้า วัวว่า เจ้าของเขาไม่ปล่อย
    ๕. เจ้าของวัวเฮย ทำไมจึงไม่ปล่อยวัว เจ้าของว่าท้องข้าเจ็บมาก
    ๖. ท้องเฮย ทำไมจึงเจ็บ ท้องว่า ข้ากินข้าวไม่สุก
    ๗. ข้าวเฮย ทำไมจึงไม่สุก ข้าวว่า ไฟมันไม่ลุก
    ๘. ไฟเฮย ทำไมจึงไม่ลุก ไฟว่า ฟืนมันเปียก
    ๙. ฟืนเฮย ทำไมจึงเปียก ฟืนว่า ฝนมันตกมาก
    ๑๐. ฝนเฮย ทำไมจึงตกมาก ฝนว่า กบเขียดมันร้องนัก
    ๑๑. กบเขียดเฮย ทำไมจึงร้องนัก กบว่า งูมันไล่กินพวกข้า
    ๑๒. งูเฮย ทำไมจึงไล่กินกบเขียด งูว่าเพราะกบเขียดเป็นอาหารข้า

    ๑.นกยางเอย!! ทำไมไม่รัองบอก?

    นกยางเป็นนกสีขาว เปรียบเสมือนกาขาวบินกลับสู่สถาพร ดินแดนบริสุทธิ์หลุดพ้น นกยางเอยทำไมไม่ร้องบอก!! ผู้ปฏบัติดีปฏิบัติชอบ ทำไมจึงไม่กล่าวธรรม ที่ตรงกับพุทธทำนายว่า พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจะหลบลี้หลีกหนีเข้าป่ากัน

    ๒.ปลาเอย!! ทำไมไม่ออก?

    การหลุดพ้นย่อมไม่บังเกิด เปรียบเหมือนปลา ต้องว่ายทวนกระแสน้ำ ดั่งจิตต้องทวนกระแสอารมณ์ เปรียบดั่งปลาไม่ออกมาวิ่งว่ายทวนกระแสน้ำ

    ๓.หญ้าเอย!! ทำไมถึงรก?

    เปรียบดั่งทางหลุดพ้น คือทางเดินแห่งองค์มรรค ๘ เมื่อไม่มีใช้เส้นทางนี้ หรือไม่มีคนปฏิบัติ หรือ ไม่มีใช้เส้นทางนี้ไปสู่ความหลุดพ้น หญ้าจึงรก

    ๔.วัวเอย!! ทำไมไม่กินหญ้า?

    เปรียบเหมือนเหล่าพุทธบริษัท ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสอนพระพุทธองค์ ไม่ปฏิบัติตรงทาง ตามมรรค

    ๕.เจ้าของวัวเอย!! ทำไมไม่ปล่อยวัว?

    ผู้ที่เป็นสมณะชีพราหม์ ผู้นำของศาสนาไม่ชี้ทางถูกต้องให้กับเหล่าพุทธบริษัท เกิดสัทธรรมปฏิรูป หลงติดมัวเมาในพิธีกรรมต่างๆ ศาสตร์ต่างๆไม่มุ่งชี้ไปในทางหลุดพ้น

    ๖.ท้องเอย!! ทำไมถึงเจ็บ?

    เนื่องจากผู้เป็นสมณะชีพราหม์ ติดหลงปัจจัยสี่ ติดความสุขสบายในกามคุณ หลงมัวเมาลาภยศสรรเสริญ การหลงกามคุณจึงเปรียบเสมือนปลาติดเบ็ด นกติดตาข่าย บริโภคกามคุณไปอย่างลุ่มหลงผิดๆ

    ๗.ข้าวเอย!! ทำไมไม่สุก?

    เพราะสมณะชีพราหม์ ผู้นำทางศาสนาลุ่มหลงมัวเมาลาภยศสรรเสริญไม่ปฏิบัติตามคำสอนขององค์พระศาดา เป็นเหตุให้ศาสนาเสื่อมลง จึงเกิดการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามธรรม จึงเกิดอันตรธาน๕ คือ ปฏิเวธปฏิบัติ ปริยัติอันตรธาน เป็นต้น

    ๘.ไฟเอย!! ทำไมไม่ลุก?

    เปรียบดั่งปัญญาของพุทธบริษัทในศาสนา ไม่รู้แจ้งเห็นจริงในสัจธรรม ตามคำสอน

    ๙.ฟืนเอย!! ทำไมจึงเปียก?

    ที่พระพุทธองค์ตรัส ขอนไม้ที่ชุ่มด้วยยางเหนียว ลอยไปสู่กระแสน้ำ เกยตื้นบ้าง ติดบกบ้าง ติดเกาะบ้าง คือ ขอนไม้ที่ชุ่มด้วยยางเหนียว คือ กระแสแห่งตัณหา ที่ชุ่มเปียกตลอด ไม่สามารถหลุดพ้นเป็นขอนไม้แห้งได้

    ๑๐.ฝนเอย!! ทำไมจึงตกมาก?

    เมื่อเหล่าพุทธบริษัทชุ่มไปด้วยตัณหา จึงทำให้เกิดกิเลสโลภโมโทสัน เกิดราคะความอยากในจิตกันมากมาย เปรียบดั่งที่ยุคใดมากด้วยกิเลสราคะมาก จะเกิดภัยพิบัติทำลายด้วยน้ำ. ถ้ามนุษย์มากด้วยโทสะ จะถูกทำลายจากภัยพิบัติจากไฟเป็นต้น

    ๑๑.กบเขียดเอย!! ทำไมจึงร้องนัก?

    เนื่องจากว่าภัยจากกิเลส ราคะโลภโมโทสันมีอยู่ในสันดานมนุษย์ในยุคใดมาก. มนุษย์ในยุคนั้นจะเกิดความเดือดร้อนระส่ำระสาย

    ๑๒.งูเอย!! ทำไมจึงไล่กินกบเขียด?

    คือ เมื่อมนุษย์ไร้ศีลธรรม เห็นผิดเป็นชอบ ทำส่งเสริมคนไม่ดี ทำลายคนดี ทำให้คนชั่วมีอำนาจใช้อำนาจในทางที่ผิด ข่มแหงรังแกเบียดเบียนกัน ผิดสัจธรรมการอยู่ร่วมกัน ผิดกฎเกณฑ์สากลจักรวาล มนุษย์ย่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน มีสิทธิชอบธรรมเสมอกัน ไม่มีใครมีอำนาจเหนือใคร เมื่อมนุษย์ไร้คุณธรรมศีลธรรม ย่อมเกิดการเบียดเบียนกัน ตามกฎจักรวาลที่เป็นดั่งวงกลม เมื่อเกิดมีความไม่ถูกต้องชอบธรรมขึ้นมา ทุกสรรพสิ่งย่อมจัดการคืนสู่ความสมดุล ย่อมมีผู้ที่มีอำนาจเหลือกว่ามายกระดับคือการจัดการให้อยู่ในความยุติธรรม คืนสู่ความถูกต้องชอบธรรมเสมอ

    ปริศนาของพระอินทร์ นี่อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลในการก้าวเข้าสู่ยุค. ศิวิไลย์

    และนี่อาจเป็นเหตุหนึ่งในพุทธทำนายที่ตรัสกล่าวไว้ว่า ไฟลามมาจากทิศตะวันออก เป็นอีกหนึ่งเหตุหนึ่งค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2017
  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ที่มาปริศนานกยาง

    เรื่องปริศนานกยาง โดยมีรายละเอียดดังนี้
    หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานผ่านมาได้ ๒,๐๐๐ ปีแล้ว ท้าวสักกะองค์อินทร์ได้เนรมิตตนเป็นชีผ้าขาวลงมาสู่กรุงศรีอยุธยา. ชีผ้าขาวนั้นท่องเที่ยวถามปัญหาแก่สมณะ ชี พราหมณ์ทั้งหลาย โดยบอกว่า ถ้าใครแก้ปริศนาเหล่านี้ได้ จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ. คนโดยมากได้พบเห็นชีผ้าขาวเข้าไปถามปัญหาก็พากันคิดว่า พราหมณ์เฒ่านี้ท่าจะบ้า จึงไม่มีใครใส่ใจพิจารณาปัญหานัก ท้ายที่สุด ชีผ้าขาวก็กลับร่างเป็นพระอินทร์ นั่งอยู่บนอากาศแสดงปริศนานกยางไว้ดังนี้

    ๑. นกยางเฮย ทำไมจึงไม่ร้องขอก นกยางว่าปลามันไม่ออก
    ๒. ปลาเฮย ทำไมจึงไม่ออก ปลาว่า หญ้ามันรก
    ๓. หญ้าเฮย ทำไมจึงรก หญ้าว่า วัวมันไม่กิน
    ๔. วัวเฮย ทำไมไม่กินหญ้า วัวว่า เจ้าของเขาไม่ปล่อย
    ๕. เจ้าของวัวเฮย ทำไมจึงไม่ปล่อยวัว เจ้าของว่าท้องข้าเจ็บมาก
    ๖. ท้องเฮย ทำไมจึงเจ็บ ท้องว่า ข้ากินข้าวไม่สุก
    ๗. ข้าวเฮย ทำไมจึงไม่สุก ข้าวว่า ไฟมันไม่ลุก
    ๘. ไฟเฮย ทำไมจึงไม่ลุก ไฟว่า ฟืนมันเปียก
    ๙. ฟืนเฮย ทำไมจึงเปียก ฟืนว่า ฝนมันตกมาก
    ๑๐. ฝนเฮย ทำไมจึงตกมาก ฝนว่า กบเขียดมันร้องนัก
    ๑๑. กบเขียดเฮย ทำไมจึงร้องนัก กบว่า งูมันไล่กินพวกข้า
    ๑๒. งูเฮย ทำไมจึงไล่กินกบเขียด งูว่าเพราะกบเขียดเป็นอาหารข้า

    ตั้งแต่นั้นมา ก็มีผู้พยายามจะแก้ปริศนานกยางนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะบอกพระอินทร์ให้รู้ได้อย่างไรดี จึงทำได้เพียงจารึกความคิดเห็นของตนลงในใบลานไว้ว่าปริศนานกยาง มีความหมายว่าอย่างไรกันบ้าง แม้อย่างนั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่าคำตอบที่ถูกต้องของปริศนานกยางนั้นคืออะไรแน่ เพราะพระอินทร์ก็ยังไม่ได้มาเฉลยให้ใครได้รู้เลยว่า ปริศนานี้แก้ได้ว่าอย่างไร

    แม้จะตอบถูกหรือผิด ก็ไม่อาจแก้ไขสิ่งที่เป็นไปอยู่แล้วนี้ได้.......เพราะฝูงวัวทั้งหลาย......
    ไม่เห็นคุณค่าของโลกุตระธรรม.......ใครๆอื่นหรือจะช่วยดลบันดาลให้วัวทั้งหลายเห็นว่า
    “โลกธรรมแปด” เป็นพิษต่อจิตใจและทางพ้นทุกข์ได้......

    http://www.yantip.com/forum.php?mod=viewthread&tid=3150

     
  19. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    http://dev.thaipoem.com/กลอน/กลอนอวยพร/144356

    นี้เป็นอีกพุทธดำรัสหนึ่งของนกยาง ที่มีความเกี่ยวข้องกับ พระศรีอริยะเมตไตร ที่จะมารักษาพระศาสนาให้ครบห้าพันปี

    เป็นคำกล่าวของพระอานนท์ ที่ทรงบอกว่า พระองค์ได้มาดินแดนสุวรรณภูมิแล้วลงสรงน้ำ มีลิงมาขี้ใส่บนผ้าอาบน้ำของพระพุทธองค์ นกยางได้มาจับหัวลิง แล้วหันมองมาที่พระพุทธองค์ พระพุทธองค์ทรงยิ้ม แล้วพระอานนท์ทูลถาม พระองค์จึงทรงตรัสไว้ว่า...
     
  20. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ปฏิทินจันทรคติ 1 ปี มี 354 วันเศษ ๆ น่าสนใจแฮะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...