เจ้าที่ในศาลพระภูมิมีจริงรึเปล่าครับ ?

บ้านอื่นไม่ทราบนะคะ แต่บ้านแบ้วมี เคยตั้งจิตว่าอยากเห็น ก้อมาเข้าฝันให้เห็น และได้กลิ่นหอมแถวศาลบ่อยมากๆแทบทุกวัน ท่านกับแบ้วสัมพันธ์กันอยู่ ท่านช่วยแบ้วหลายอย่างเท่าที่ท่านทำได้ ถึงขนาดนวดขาให้ในเวลาปวดทำงานหนัก อาจเป็นเพราะแบ้วอุทิศบุญให้ท่านบ่อยๆด้วยค่ะ และอาจเคยเกิดเป็นญาติพี่น้องกันมาก่อน

 

https://luangporblog.wordpress.com/tag/เจ้าที่/

 

เรื่องศาลพระภูมิ โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

http://buddhasattha.com/tag/ศาลพระภูมิ/

 

จิตวิญญานที่อยู่ในศาลก็สามารถมีจริงหรือไม่มีจริงก็ได้
ทั้งนั้นหละครับ สำคัญว่าเป็นจิตวิญญานระดับไหน
เท่านั้นเอง...และสามารถมีได้ทั้งที่อยู่ก่อน
และที่เชิญมาใหม่ครับ เพราะศาลเป็นเพียงที่ยึดเกาะ
อย่างหนึ่งสำหรับจิตวิญญานเท่านั้น. เพื่อการทำงาน
บางอย่างไม่งั้น ถ้าในระดับนี้
ก็คงล่องลอยในอากาศไปเรื่อย

การที่จะเรียกว่าเจ้าที่ หรือจิตวิญญาน นั้น
ก็ควรเข้าใจไว้ก่อนว่าเป็น
ลักษณะจิตวิญญานที่ยังอาศัยที่อยู่ ณ
สถานที่ สิ่งของ วัตถุที่ไม่มีการเคลื่อนย้าย
ไปไหนบ่อยและอาศัย ณ ที่แห่งนั้นมาก่อน
ที่ มนุษย์จะเข้าไปอาศัย และหลังจากที่จะมี
มนุษย์เข้าไปอาศัยอยู่ เพื่ออะไรก็ตามนะครับ
ตอนนี้เราพูดแต่ ที่เชื่อว่า ให้ผลดีก่อนนะครับ

แต่ถ้าเจ้าของที่ คือบุคคลที่มีรายชื่อในโฉนดที่ดิน
ดั้งนั้น เมื่อจิตวิญญานระดับนี้ ยังต้องอาศัย
สิ่งยึดเกาะดวงจิตอยู่ ไม่ว่าต้นไม้ ศาล แท่นหิน
บ้านหลังเดิม วัตถุมีค่าบางอย่าง ฯลฯ เพื่อให้
อยู่ตรงนั้นได้ ก็มีความเป็นไปได้ว่า

เจ้าที่น่าจะมีจริงแบบความเชื่อ
ทั้งแบบในลักษณะที่มีอยู่เดิม
คือบ้านที่ไม่มีศาล แต่ผู้อยู่อาศัยเคยพบเคยเจอ
และให้คุณมากกว่าให้โทษ ถ้าไม่ดีหรือให้โทษ
มักไม่เรียกว่าเจ้าที่ มักเรียกว่า เร่ร่อน หรือทำพิธี
ให้ไปผุดไปเกิด หรือเปลี่ยนยกระดับไป
และแบบที่เชิญเข้ามาใหม่ ซึ่งเป็นพิธีพราหมณ์
ซึ่งมีความเชื่อว่า จะเชิญที่ระดับดีๆเข้ามาเชื่อม
เพื่อดูแล หรือเพื่ออะไรก็แล้วแต่
แต่โดยภาพรวมคือให้คุณมากกว่าให้โทษครับ

อาจารย์บางท่าน มองว่า ที่เข้ามาใหม่เป็นระดับ
ที่ไม่ดี ให้โทษ เลยทุบทิ้งไปซะ ปลูกต้นมะม่วงดีกว่า
นั่นก็มุมที่ อาจารย์ท่านนี้มอง

แต่แม้ว่าเราจะเป็นพุทธศาสนา แต่การตั้งศาลไม่ว่า
ศาลระดับไหน ก็อยู่คู่วัฒนธรรมแบบไทยๆเรามานาน
พุทธที่ดี ไม่ควรไปดูถูก กล่าวหา ถ้าสิ่งนั้นยังให้คุณ
กับบุคคลผู้นั้นอยู่
แต่ควรอยู่ด้วยกัน และเคารพซึ่งกันและกัน
อย่าสุดโต้งอย่างใดอย่างหนึ่ง จะทะเลาะกันได้ครับ

ปล.ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่จะพิจารณาครับ
ท้ายนี้พูดแบบฟังหูไว้หู
มาทางสายวิชาพิเศษ ลองไปตามโรงแรมใหญ่ๆที่มีศาลดูซิครับ
ลองขอ ตรงเข้าไปดูในห้องตามโรงแรมดูก่อนนะครับ
เด่วจะรู้เองว่า ศาลมีเจ้าที่หรือไม่มีเองนั่นหละครับ..(^_^)

 

ศาลในปัจจจุบันนั้นสร้างผิดแต่ไม่ส่งผลกระทบกับอีกภพครับ ศาลเจ้าที่ที่ถูกต้องจริงๆจะสร้างกันจะเป็นลักษณะเป็น4เสา ศาลพระภูมิจะเป็นเสาเดียวๆ ส่วนศาลเจ้าที่เป็นที่อยุ่ของผีเจ้าที่ครับ ส่วนศาลพระภูมิจะเป็นภพที่อยุ่ของรุกขเทวดาแต่จะไม่อยุ่ก็ได้ ภพจะอยุ่ข้างบน เรื่องภพจะพูดสั้นๆเพราะมันยาวครับ ภพภูมิของผีก็เหมือนมนุษย์ครับ ผีก็คือคนที่ตายแล้วยังไม่ได้รับนำตัวไปพิพากษาหรือตามเหตุปัจจัยตามแรงกรรมที่กระทำมา เช่นตายก่อนอายุขัย ตายโหงบ้างตามเหตุของกรรมตัวเอง ตอนตายยึดติดมากๆก็จะไปไหนไหนไม่ได้หรือบุญและกรรมส่งผลอันนี้ยาวไม่ขอลงอธิบายลึก คือภพภูมิของผีเป็นภพภูมิพิเศษ ในตำราไม่ได้กล่าวไว้ อันนีี้ถ้าจะหาถามต้องถามผู้ที่มีณานระดับสูงพอสมควรถึงจะอธิบายได้ครับ ถ้าไปทำพระ ถ้าพระที่ระดับณานสูงจริงท่านจะไม่บอกเยอะครับเพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์(ปัจจุบันพระที่ท่านระดับสุงจริงๆมีน้อยมาก ยิ่งตามหาก็ไม่เจอ) แล้วพระไตรปิฎกก็อย่าเพึ่งเชื่อครับถูกแค่30เปอร์เซ็นเอง ส่วนจะมีจริงหรือไม่มีให้ไปพิจารนาเยอะๆนะครับ อย่าเชื่ออะไรง่ายๆให้ใช้ปัญญาพิจารนา

 

ถ้าไปทำพระ คือไปถามพระนะครับ

 

ถ้าจะรู้จริงๆหลักๆมีวิธีคือ ปฏิบัติเอาเองให้รู้เอง
ไม่จำเป็นต้องมีระดับฌานสูงอะไรหรอกครับ
เพราะระดับฌาน มันไม่ใช่ตัววัดว่า
จะสามารถสื่อสารได้หรือไม่ได้นะครับ...
ยกเว้นในระดับท่านที่ยังต้องตั้งท่า
เพื่อยกกายออกมาสื่อสาร
แต่ท่านที่ระดับฌานใช้งานสูง(ย้ำว่าฌานใช้งานสูงนะครับ)
ทำไม่มัวเสียเวลา ยกกายมาคุยหรอกครับ
มันเป็นระดับเด็กๆอนุบาลที่พึ่งนั่งสมาธิทำกัน
มันมีวิธีอื่นๆมากกว่านี้อยู่ครับ
และมันเสียเวลา และท่านมักจะเห็นว่าไร้ประโยชน์
เพราะที่ทำได้จริง มักจะไปทางด้านปัญญาหมดแล้ว

เพราะระดับการสื่อสารแค่นี้
พวกนี้แค่ระดับอุปจารสมาธิ แค่จิตเป็นทิพย์
นิดหน่อย กับมีสติทางธรรมกับสมาธิ
เพื่อที่จะรักษาสภาวะอารมย์นั้นไว้ก็รู้ได้แล้ว
และจิตมีเชื้อในทางด้านการสนทนามาบ้าง(ตรงนี้สำคัญ)
บางคนไม่เคยฝึกอะไรมา ก็คุยได้ปกติ มีเยอะแยะครับ
ก็คุยกันได้จนขี้เกียจจะคุยแล้วครับ.....
และเจอได้จน บางทีก็สงสัยว่า จะมาเพื่อ
จนบางทีเจอเจ้าที่ มากกว่าเจอคนอีก

แถวบ้านข้าพเจ้า เจ้าของบริษัทก่อสร้างใหญ่แห่งหนึ่ง
ที่ไม่มีปัญหาตอนวิกฤตเศรษฐกิจ
ท่านนี้ไปบ้านไหน ก็เดินไปคุยกับเจ้าที่เป็นประจำ
ท่านก็ไม่ได้ มีฌานสูงอะไรหรอกครับ
พูดง่ายๆว่า จิตมันเคยมีเชื้อด้านสนทนามาก่อนหรือไม่
อีกที่หนึ่ง กินเหล้าเป็นโอ่ง ก็คุยได้กับเจ้าที่ กับภพภูมิระดับสูง
ได้ปกติ เหมือนเราคุยกับคนทั่วไป ท่านนี้ก็ไม่ได้
นั่งสมาธิอะไร พอนึกภาพออกไหม พูดให้เห็นอีกมุมหนึ่งนะครับ
ท่านนี้เคย เคยนั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน พิสูจน์กันมาแล้วเห็นๆ

๒. หรือถามพวกที่ญานวิถีเปิด คือพวกที่ไม่ได้
ฝึกอะไรมาแต่มีความสามารถขึ้นมาเอง
แต่ก็ต้องรอพวกนี้เค้าหายเพี้ยนก่อนนะครับ
เพราะถ้า จิตยังแยกรูปแยกนามไม่ได้
แล้วญานวิถีเปิดกลุ่มนี้ก็จะดูเพี้ยนๆอีก....


ส่วนวิธีทางเลือกที่ไม่แนะนำ คือถามพวกร่างทรง
เข้าใจไหมครับ ว่าผีย่อมคุยกับผีรู้เรื่อง....
ส่วนการตั้งศาล ส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นทางพราหมณ์
ส่วนตัวไม่มีความรู้ในเรื่องนี้....

รู้แต่ว่า เกิดมาก็เห็นแล้ว และรู้แค่ตามตำรา
จึงไม่ขอออกความเห็นในส่วนนี้ครับ

ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ
ระดับสมาธิหรือฌานอะไรก็ตาม
ไม่ใช่ที่เคยเข้าถึงหรือนั่งได้นะครับ
ใครสูงไม่สูง ใครอยู่ระดับไหน เราวัดกันที่
ความสามารถในการนำกำลังระดับ
นั้นๆมาใช้งานแล้วเกิดผลจริง ตามแต่ระดับ
ความสามารถในการทำงานและแสดงผลของระดับนั้นๆ
ในเวลาลืมตาปกติ และภายในเสี้ยว ทุกที่ทุกเวลา
ทุกสถานการณ์ โดยไม่ต้องมีลีลาประกอบการใช้งานและ
ภายในหลักวินาทีครับ

 

มันมีอะไรมากกว่านี้ ผมไม่ขออธิบายลงลึกหรอก มันไม่มีระดับอนุบาลถ้าใช้คำว่าแค่อนุบาลจิตของคุณก็มีคำว่าประมาทในจิตใจแล้วนะะครับ ระดับจิตที่ละเอียดจริงๆมันมีหลายระดับมากมายไม่สามารถบอกแทนเป็นคำได้หรอกครับและมีอะไรต่างๆอีกมากมาย ยากที่จะยกมาให้ฟัง บุคคลธรรมดาที่สามารถสื่อได้จริงจะได้มาจากอดีตชาติที่เคยฝึกมา+บุญแล้วเทวดาท่านจะเปิดให้ตามกฎอีกทีด้วย พอสื่อได้ก็ต้องพิสูจน์ว่ามันจริงด้วยอีกไหมเพราะผีก็เหมือนคนเดียวมาหลอกว่าเป็นโน่นเป็นนี้อีก สื่อทางจิตมันก็ไม่จำเป็นต้องนั่งหลับตาอะไรหรอกครับ ลืมตาก็สื่อได้เพราะเสียงพูดคุยจะเข้ามาทางจิตแต่ถ้าจะดูว่ามีรูปร่างแบบไหนแต่งตัวอะไรทางที่ดีที่สุดก็ต้องหลับตาหรือดูทางในดูมันถึงจะเห็นและแยกออกเพราะตาเนื้อไม่สามารถแยกออกได้ กรณีร่างทรงโดยส่วนมากคือการปล่อยจิตให้ผีเข้าอันนี้อันตรายที่สุดแล้วก็แอบอ้างว่าเป็นเทพโน่นเทพนี้ ไม่มีเทพที่ไหนจะมาเข้าร่างหรอกครับแล้วผีและเทวดาจะเห็นมนุษย์แบบจริงๆก็คือเห็นแบบอนาโตมี่ก็คือมองเห็นทะลุหมด
ส่วนเทวดา เทพบุตรหรือเทพธิดาถ้าท่านไม่ได้รับการอนุญาติให้มาคุยท่านก็จะไม่มาคุยด้วยหรอกครับเพราะมันผิดกฎสวรรค์แล้วอายุขัยจะสั้นลงเรื่อยๆ
ส่วนภพถูมิถ้าจะให้เห็นภาพผมขอยกตัวอย่างเอาคำสอนของเทวดาที่ท่านมาเล่าให้ฟังคือ ท่านเปรียบให้ฟังว่า โลกมนุษย์เปรียบเหมือนลูกมะนาว ภพภูมิของผีเปรียบเหมือนส้มโอ ส่วนสวรรค์เปรียบเหมือนแตงโม คือลักษณะผลไม้ 3 ชนิดจะซ้อนกันอยู่
ที่เล่ามาให้ฟังนี้อย่าเพึ่งเชื่อให้นำไปพิจารนาด้วยเหตุและผล ผมมีอาจารย์แล้วก็ได้ฟังมาจริงๆและคุยผ่านอาจารย์จากผีเจ้ากรรมนายเวรของผม เทวดา ผีต่างๆ ผีระดับเจ้าพ่อ(ผีผู้ปกครองคือเหมือนผู้ปกครองเมืองผี เช่นในสมัยมนุษย์เป็นคนมีวิชาอาคมหรือเป็นแม่ทัพ กษัตริย์(รายละเอียดมันจะมีเยอะมาก) ถ้าตายแต่ฆ่าคนเยอะก็ต้องเป็นผีผู้ปกครองก็คือตามแรงกฎแห่งกรรมครับ
แล้วอีกอย่างถ้าฝึกจิตขั้นถึงสื่อได้ก็สามารถคุยกับคนที่ฝึกถึงหรือระดับสูงกว่าได้เช่นกันคือแค่เรานึกหน้าได้ก็ส่งจิตไปไปคุยถ้าอีกฝั่งรับทราบถ้าจะคุยตอบก็คุยตอบได้ เพราะผมก็ได้นั่งฟังอาจารย์ผมคุยกับพระท่านหนึ่งตอนนั้นท่านอยุ่จันทบุรีแล้วอาจารย์ผมอยุ่คนละที่ พระท่านนั่งสมาธิอยุ่บนหน้าผาอยุ่ตอนนั้น(ไม่ขอบอกวัดและไม่บอกชื่อเพราะท่านไปมาไร้ร่องลอย)คือน้องผมกำลังแก้ไขกรรมหนักที่เคยกระทำไว้ในอดีตชาติแล้วต้องเดินทางไปทำบุญกับพระท่านนี้เท่านั้นถึงจะหมดเวรกรรมต่อกันแล้วกรรมจากหนักจะเบาลง ขออธิบายแค่นี้กรณีน้องญาติผม แล้วพระท่านก็สอนผมทั้งที่ผมไม่ได้ถาม แต่ถามท่านในใจ(คือผมถามว่าจะฝึกจิตแบบไหนถึงจะสื่อสารได้) "กำหนดจิต ลมหายใจตัวเองให้นิ่ง ให้มองผ่านร่างกายตัวเองให้เป็นว่างเปล่าเหมือนเรามองสายลมและแสงแดดให้อยุ่นิ่งกับที่ ทุกอย่างหยุดนิ่งหมดไม่มีอะไร ทุกอย่างว่างเปล่า จริงๆแล้วลมไม่พัด ลมไม่เคยพัด ดวงจันทร์ไม่เคยขึ้น ของมันอยุ่เช่นนั้นอยู่แล้วแต่เราเห็นเองเพราะอุปทาน เกิดการสร้างมโนภาพเอง มนุษย์ก็ไม่มี ผีก็ไม่มี เทวดาก็ไม่มี ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะอุปทาน ทุกอย่างมันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ถ้าเรามองว่าทุกอย่างว่างเปล่า การสื่อสารทางจิตก็จะง่ายขึ้น มันก็จะว่างเปล่าไม่มีอะไร" แล้วในวันที่กำหนดน้องสาวผมก็ได้ไปทำบุญสังฆทานกับพระท่านจริงๆแล้วก็ได้ถวายกาน้ำร้อนตามที่ท่านบอก

ส่วนการตั้งศาลเจ้าที่ หาคนที่สื่อได้จริงแล้วทำพิธีถูกหลักเป็นดีที่สุดครับ เพราะผีก็ต้องการเครื่องเซ่นไหว้ไม่เหมือนกัน แล้วก็ทำบุญใส่บาตรและสังฆทานให้เจ้าที่บ้าง เน้นอุทิศเป็นรายๆไปนะครับ เช่น วันนี้ใส่บาตรให้เจ้าที่ วันพรุ่งนี้ใส่บาตรอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร เป็นต้น เพราะการอุทิศครอบจักรวาลมันไม่ถึงมันไม่ได้หรอกครับ เปรียบเสมือนจานข้าว 1 จาน เล่นให้คนละช้อนคนที่รับจะอิ่มหรือได้เต็มเหรอครับแล้วพิจารนาดูครับ

ที่นำเรื่องมาเล่าให้ฟังนี้มาจากประสบการณ์ตรงที่ผมเจอมาแต่ก่อนอัตตาผมเยอะมากหยิ่งยโสคิดว่าฝึกหลายสำนักแล้วจะแก้ไขกรรมไม่ดีที่ตัวเองได้ทำไว้ปรากฎว่าเหมือนยิ่งหลงป่าแต่พอได้เจอของจริงจึงรุ้ว่ามันยังมีอะไรอีกมากมายที่เราไม่รุ้และทำถูกต้องไหม สิ่งที่จะทำให้เราเห็นแสงสว่างคอยนำทางได้นั้นคือปัญญาและบุญ บุญต้องเริ่มจากเริ่มทำทานก่อนรวมทั้งใจเราด้วย เช่นเริ่มฝึกตื่นเช้ามาใส่บาตร การฝึกใส่บาตรอย่างสม่ำเสมอได้อะไรเยอะมากนะครับลองพิจารนาดู แล้วก็ไปศีลให้ถือตามกำลังของตนอย่างน้อยศีล5 ไม่ต้องไปถือแบบพระเอาแบบคนธรรมดา และภาวนา ทำตามไปตามกำลังของตัวเองครับ ถ้าจะให้ผมเล่าเรื่องพวกนี้มันเยอะมากครับพิมทั้งวันมันก็ไม่จบ แล้วบางเรื่องมันล่วงลึกเรื่องภพภูมิผมก็มาพิมบอกมากไม่ได้เพราะทุกอย่างมันมีกฎแล้วผมก็จะยิ่งรับกรรมหนักเข้าไปอีก ปกติกรรมไม่ดีตัวผมเองก็หนักเยอะอยุ่แล้วและอยุ่ช่วงชดใช้อยุ่ด้วย ให้พิจารนาด้วยปัญญานะครับ

 

คุณ Top2hot อย่าปัญญาอ่อนซิครับ
พูดเหมือนจะปล่อยวางได้
แต่ยึดเหมือน เด็กอนุบาล
พึ่งเริ่มใช้งานทางจิตได้
นามธรรม มันเป็นเพียงแค่มายาจิต
และมายาจิต มันเป็นเพียงแค่กลจิตชนิดหนึ่ง

จะเปลี่ยนจากคำว่าอนุบาล เป็นคำว่ากระโหลกกะลาไก่กา
หรือขี่เท่อก็ได้ครับ ถ้ายังคิดว่า พวกที่สื่อได้
จะต้องได้ฌานระดับสูงอะไรนะครับ
หรือจะต้องเป็นห่มเหลืองที่ได้ญานระดับสูงจริงๆ
พูดแค่ประเด็นนี้นะครับ ย้ำว่าแค่ประเด็นนี้
เพราะฉนั้น อย่าปัญญานิ่มและไปยึด
เรื่องไร้สาระแบบนี้ให้มาก

ตัวเองยังฟันธงว่าผิด แล้วจะมาสนใจอะไร
กับคำว่าอนุบาล...เข้าใจไหมที่พูด

และเรื่องนามธรรมมันก็มีอะไรลึกมากจริงๆ
ควรรับรู้จากประสบการณ์ของตนเอง
ถ้ารู้จริง จะพบว่า มันเป็นแค่กลจิต
เป็นแค่มายาจิต มันยึด อะไรไม่ได้หรอกครับ
เพราะฉนั้น อย่ามาทำเป็นปัญญาอ่อน ฟังธง
ว่าจะต้องแบบโน้น แบบนี้
มาอ้างว่าตนมีประสบการณ์ แล้วมันจะต้องเป็น
เหมือนอย่างที่ตนเองรับรู้มาเลยครับ


ถามหน่อย รู้ได้อย่างไรว่า ใครตั้งศาลผิดหรือตั้งถูก
มีอะไรที่เป็นข้อพิสูจน์ยืนยัน ชัดเจนให้ทุกคนรับรู้ได้ไหม
แสดงให้ทุกคนรับรู้ได้ไหม คุณ เป็นศาสดา
แห่งการตั้งศาลหรือเปล่า
ก็การตั้งศาลเป็นพิธีกรรมที่ไม่ใช่พุทธฯไม่ใช่หรือ
แต่ก็อยู่คู่กับพุทธ....แล้วจะไปรู้ ไปฟันธงได้อย่างไร
ว่าจะต้องเป็นอย่างที่ตนเองคิดหละครับ

และเทพ พรหม ระดับโน้นนี่นั้น หรือเทวดาต้องเปิดให้ถึง
จะคุยได้เพราะมันผิดกฏสวรรค์
กฏห๋านฟ้าอะไร พวกนี้ไร้สาระมาก
เป็นมโนจิต ล้วนๆ ติดอยู่ในวังวนของมายา

ถ้ามีจริงท่าน คงไม่มาปัญญาอ่อน มีกฏระเบียบในการ
เปิดว่าจะต้องให้ใครสื่อได้หรือสื่อไม่ได้หรอกครับ
ต้องมีการอนุยง อนุญาติอะไรหรอกครับ
พูดยังกับว่า เป็นมนุษย์โลก โลกนี้
ไม่ได้มีแต่ประเทศไทย และพุทธศาสนาอย่างเดียวนะครับ
ไร้สาระมาก

จะเทพ เทวดา พรหม พระพุทธฯหรืออะไรก็แล้วแต่
ท่านก็เหมือน แสงสว่างของดวงอาทิตย์ที่สอดส่อง
ลงมาบนโลกใบนี้ โดยไม่เลือกว่า เป็นใคร
หรือว่าจะหน้าตาเหมือนญาติ ท่านหรือเปล่าหรอกครับ
ว่าแต่จิตใครก็ตาม จะสามารถเข้าถึงท่านได้ไหม
ไม่มีหรอกต้องมีการอนุญาติ พูดจาไร้สาระมาก


ประเด็นสำคัญมันก็คือ ว่า จิตดวงนั้น มีเชื้อหรือของเก่า
ด้านการสื่อสารหรือเปล่า ซึ่งพวกนี้อาจจะเกิดขึ้นได้
จากการฝึกหรือไม่ฝึกอะไรมาก็เกิดได้
ถ้าใครฝึกได้ ก็แล้วแต่ ใครไม่ได้ก็แล้วแต่
มันไม่ใช่ว่า จะต้องฌานสูง ถึงจะฝึกได้หรือทำได้หรอกครับ

เคยรู้จักพวกที่วิถีญานเปิดไหมครับ พวกที่เดินหลบผี
จนแยกอะไรไม่ออกว่าอะไรเป็นโลกมนุษย์โลกความจริง
ยังไม่เคยเห็น พวกนี้มีสมาธิ มีฌาน ระดับสูงอะไรเลย
เค้าก็พูดคุยกันได้เป็นปกติ.....

 

55 หัวร้อนจริงๆคุณดูจิตตัวเองเถอะครับทั้งที่ผมไม่ได้แท็กชื่ออะไรเลยแล้วไม่รุ้อะไรมาสอนผมแล้วมาดูถูกผม ผมก็ไม่ได้ว่าตัวเองเก่งเพราะมันยังมีอะไรอีกเยอะ อายุขัยมนุษย์เฉลี่ยไม่เกิน 75 ปีผมก็เอาคำสอนจากเทวดา(ผีและเทวดาอายุขัยจะเยอะกว่ามนุษย์ตามระดับชั้นแล้วเทวดาบางองค์ท่านเกิดก่อนยุคพระพุทธเจ้าแล้วบางองค์ก็ได้ฟังคำสอนมาจริงดังนั้นประสบการณ์ในการสอนและเจอจะเยอะกว่าคน) จากพระ จากอาจารย์ผมนี้ละมาปฏิบัติแล้วมันแก้ไขได้จริงผมจึงนำมาบอก ให้ไปสำรวจจิตตัวเองก่อนนะครับในจิตมีแต่อยากเอาชนะและความร้อนรุ่ม ผมแหย่คุณนิดเดียวไฟมันก็ติดซะละแล้วจะอธิบายเรื่องจิตให้ยืดยาวไปเพื่อทำไม แล้วคนมีวิชาหรือสัมผัสพวกนี้เค้าไม่ลงลึกมากหรอกครับ แล้วไม่อธิบายคำศัพท์ทางจิตให้มันยืดยาวหรอก ผมก็ผ่านมาเยอะเจอของจริง โดนผีกระทำรวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรมากมายสารพัด แล้วอาจารย์ผมไม่ได้เป็นพระด้วย ที่ผมมาบอกเล่าเรื่องนี้ผมเอามาจากประสบการณ์ตรงของผมเองแล้วผมก็เป็นคนถือศีล5อยุ่แล้วไม่มีความจำเป็นต้องมาหลอกหลวงอะไรให้มันได้อะไรขึ้นมา ให้ไปดูจิตตัวเองก่อนนะครับ ถ้าคุณเข้าถึงจริงๆเจอจริง สัมผัสมาจริงๆเข้าใจกฎแห่งกรรมได้คุยและเห็นของจริงคุณจะเข้าใจ แล้วจะไปสอนใครให้เข้าเรื่องจิตไม่ต้องยกคำศัพท์ระดับสูงมากหรอกเพราะคนที่เค้าไม่เคยหรือฝึกเรื่องพวกนี้เค้าไม่รู้อยุ่แล้วให้สอนคำภาษาธรรมชาติง่ายๆก็พอ อ่านแล้วขำแค่จิตเริ่มต้นของการสอนคนคุณก็ไม่มีขันติ ไม่มีความอดทนแล้วโดนสอบอารมณ์ก็ไม่ผ่านแล้วอย่าไปแนะนำหรือสอนใครเลยครับมันจะเป็นบาปติดตัวคุณเอง ไปกำหนดลมหายใจคุณให้มันสมดุลก่อนครับ ใจเย็นๆอ่านแล้วพิจารนาหลายรอบๆนะครับ แล้วผมก็คงไม่ถกเถียงอะไรอีกละเพราะถ้าคุณตายไปคุณจะรุ้ว่าของจริงมันเป็นยังไง ส่วนเรื่องผีอะไรทำนองนี้ผมรุ้จากประสบการณ์แล้วเจอของจริงจนผมแก้ไขเจ้ากรรมนายเวรที่จองผมไปได้หลายตนแล้วก็เพราะผีที่มีบารมีสูงระดับเจ้าพ่อท่านช่วยเจรจา ผ่านการทำบุญสังฆทานที่ทุกต้องเป็น100วัดขึ้นไป รวมทั้งใส่บาตรหลายปีแต่การใส่บาตรและทำบุญสังฆทานเพึ่งจะมารุ้วิธีทำที่ถูกต้อง4 ปีมานี้เอง จากชะตากรรมในอนาคตที่ต้องรับหนักหรือปางตายก็จะเบาลงเพราะเจ้ากรรมนายเวรอโหสิแต่เศษกรรมก็ต้องรับต่อไป อย่างที่ผมพิมตอนนี้ก็ทำบุญเช่นกันคือให้ธรรมทานจากประสบการณ์ตรงเพราะคนที่อ่านบางคนก็จะเข้าใจแล้วนำไปคิดทบทวนแล้วนำไปใช้แต่สิ่งเหล่านี้ก็ใช่ว่าทุกคนจะทำตามหรือเข้าใจเพราะจะโดนเจ้ากรรมนายเวรขวางทุกอย่างซึ่งผมก็เคยเจอมาแล้วมากมายกว่าจะเข้าใจ กว่าจะทำบุญถูกวิธีก็ต้องทำบุญสะสมเรื่อยๆเพื่อเป็นกำลังให้สามารถแก้ไขสิ่งเหล่านี้ได้ ส่วนเทวดาท่านจะเลือกนะครับว่าจะคุยกับใครก็ต้องเลือกคนอย่างน้อยก็ต้องมีศีลแล้วก็สื่อทางจิตได้ท่านถึงจะคุยหรือมาสอนไม่ใช่จะมาพูดแบบไม่เลือกแล้วถ้ามันไม่กฎอะไรเลยมันก็วุ่นวายสิครับเช่นมนุษย์คนไหนเป็นญาติตัวเองเป็นลูกเป็นหลานก็จะมาช่วยแล้วละเมิดกฎแก้ไขให้หมดสิครับ ถูกอย่างมันมีกฎแห่งกรรมและกฎของมันแล้วถึงมันมีช่องโหว่มันก็ต้องมีผลตามมาอยุ่ดี ไปสำรวจจิตตัวเองก่อนนะครับแค่พื้นฐานคุณยังไม่ผ่านเลย

 

เป็นไง ได้พูดถึงผม แล้วรู้สึก ทำให้ตัวเองดูหล่อขึ้นไหมครับ
พอจะยกระดับ การสัมผัสสัมพันธ์กับภูมิร่างทรงของคุณ
ให้รู้สึกว่า ตัวเองดูเท่ห์ สาวๆกรี๊ดกร้าด(ประชด)
ดูมีความรู้ มีประสบการณ์
ดูเป็นคนดีมีศีลธรรม ดูเหมือนตนเองวิเศษขึ้นไหมครับ
ทั้งๆที่ ความสามารถทำได้จริงและสัมผัสจริง
ระดับเด็กอนุบาลครับ
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ขออภัยนะครับ ไม่ได้สอนคุณหรอกครับ
ไม่ได้ว่า คุณมาหลอกใครนะครับ
แค่บอกว่า เรื่องที่คุณยึดติด คุณมันไร้สาระ ปัญญาอ่อน

และบอกว่า การจะสื่อได้ ไม่ต้องอ้างว่า
เทวดาจะเลือกเฉพาะคน แบบคุณหรอก
กะบอก ชาวโลก ว่าตรูดี เทวดาจึงให้คุยได้ ๕๕๕๕๕
นี่หละครับที่ว่าขี้โม้ ๕๕๕๕


จะร้อนตัว สร้างภาพไปทำไมครับ ๕๕๕
ถ้ามีข้อความข้างบน แล้วมีข้อความข้างล่างกล่าวต่อ
และอ้างถึง พาดพิง กล่าวถึงข้อความข้างบน บางส่วน
ที่สำคัญมันเป็นข้อความต่างกัน
ใครอ่านเค้าก็รู้ เด็ก ป.๕ อ่านก็รู้ครับ
ว่ากล่าวถึงใครครับ

ไม่ต้องเอา คำพูด ว่าไม่แท๊กชื่อ
มาอ้างเพื่อให้ตนเองดูหล่อหรอกครับ
เค้าเรียกว่า ตู้ด ครับ คือจะว่า ก็ไม่ระบุชื่อ
พูดลอยๆ งั้นเหอะ จะโชว์ แมน ๕๕


คุณ Top2hot(ระบุชัดเจนนะครับ)
ก็แค่คนหลงสัมผัสตัวเองว่าตนรู้มาก
รู้มาก ทำไมไม่ลองไปเล่าให้ห้อง ผีๆ หรือ ไปสอนกรรมฐาน
ในห้อง อภิญญาสมาธิดูหละครับ
จะได้รู้ว่า ไอ้แค่ระดับ ร่างทรง ที่ทำให้ตนเองคิดเอาเอง
ว่าตนเอง รู้มากกว่าใครนั้น มันทำให้คุณ
ฉลาดหรือเก่งจริงหรือเปล่า ๕๕๕๕

แค่สัมผัสแค่พื้นๆ เหมือนเด็กอนุบาล
และคิดว่า ตนเองวิเศษ (โม้ว่ามีศีล อ้างว่าเทวดา
จะต้องเลือกคุยเฉพาะบุคคล.
โม้ด้วยนะ มีผีมีบารมีระดับเจ้าพ่อช่วย ๕๕๕๕๕๕)

ตอนแรกอ้างเหมือนรู้เอง สุดท้ายก็อ้างอาจารย์ ๕๕๕๕๕
พูดเหมือนเป็น คนดีเนาะ มีมาบอกว่า แหย่นิดเดียว ๕๕๕๕
มาสอบอารมย์ ๕๕๕๕ คุณ หลงตัวเองหรือเปล่าครับ
คนดีๆ จะต้องแหย่ คนอื่นๆหรือครับ ๕๕๕๕๕
มาสอบอารมย์ คนอื่นๆหรือครับ ๕๕๕๕๕๕
มุขนี้คุ้นๆนะ พวกขี้โม้ ชอบใช้ เอาไว้แถครับ ๕๕๕๕

แหย่ ไม่ระบุชื่อ แต่มาตอบ แบบใครอ่านก็รู้
แถว บ้านเรียก ว่าตู๊ด นะครับ ๕๕๕
นี่ไงครับ ส่วนตัวถึงได้เรียกว่าคุณว่า ปัญญาอ่อนไงครับ

ด่าครับด่า ผมมาด่าครับ ถึงได้ใช้คำว่า ปัญญาอ่อน ไงครับ
และเป็น สุภาพ บุรุษ พอ เวลา ด่าใครจะระบุชื่อครับ
เพราะไม่มีนิสัย ตู๊ด ชอบอ้าง ชอบแก้ตัวครับ
แล้ว สุดท้าย ก็มายกตัวเองให้ดูดี ๕๕๕๕๕
และก็มาแซะ คืน แสดงความสามารถอ่านจิตได้
บอกว่า หัวร้อน ท้ายสุดบอกมีผีช่วยเจรจา
เรื่องที่ผ่านมา. ถุยยยยโม้ซะนึกว่า แก้ปัญหาเอง
ป่านนั้นโม้ว่าตนเองมีประสบการณ์มาก
ไม่ลงลึกกัน กลัวความแตกว่าที่ตนเองสัมผัสสัมพันธ์เป็น
ระดับร่างทรงหรือเปล่าครับ ๕๕๕๕๕๕

ย้ำว่า ที่พูดคือภาพรวมๆคือ ด่านะครับ
พูดให้เห็นภาพครับ
ว่าคุณ มันแค่เด็กอนุบาล
หรือแค่กระโหลกกะครับ
ส่วนตัวเรียก พวกขี้เท่อ ครับ

ใครหัวร้อนครับ มโนเดาสญานหรือครับ รู้ได้ไง ๕๕๕๕
ผมดูถูกคุณครับจริงครับ
บอกว่า คุณ กระจอก กระโหลกกะลาครับ
เพราะ เรื่องที่คุณเล่ามา มันปัญญาอ่อนครับ
เป็นเรื่อง นามธรรม ที่ยึดไม่ได้ ทั้งนั้น
โม้ไปโม้มา อ้าง ผีระดับเจ้าพ่อ ๕๕๕๕๕๕
เจ้าพ่อ ที่เอามาโม้ กะว่าให้ตนเองดูดี เนี่ย เป็น
ผีระดับ ร่างทรงหรือเปล่า ครับ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
คุณ ถึงได้มีนิสัย ขี้โม้จัง อ้างจัง ๕๕๕๕

ต้องขออนุยง อนุญาต ก่อนจะคุยได้
ต้องเลือกคนที่จะคุย ต้องประมาณ
เป็นคนดีเหมือนตนเอง ๕๕๕๕
เป็นอะไรที่ กระบือมากๆๆๆๆ
เรื่อง ใครจะคุยได้ เล่าไปแล้ว
ไอ้นี่ ยังโม้ ว่าต้องมีศีล และถูกเลือกแบบตนเอง
นี่หละ หลงตัวเองสุดๆ ๕๕๕๕

จะบอกว่า ตัวเองคุยได้ ตัวเองเป็นคนดี
มีศีลธรรม โม้ว่ามีศีล ๕ ว่างั้นเหอะ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ต้องให้ท่านเปิดให้ ๕๕๕๕๕๕๕
ปัญญาอ่อน และไร้สาระมากครับ

ปล.ส่วนตัวคนธรรมดานะครับ ไม่เก่ง
ไม่ดีอะไรอยู่แล้วครับ แต่ถ้าสงสัย
เชิญมาพิสูจน์ได้นะครับ
กรรมฐาน ๔๐ กองได้หมดทุกกองนะครับ
ในระดับที่แสดงได้ พิสูจน์ให้บุคคลอื่นๆรับรู้ได้
เอาไหมหละครับ ทั้งคุณ Top2hot ที่โม้ว่าตนมีศีล ๕
พูดประหนึ่งว่า ตนสื่อสารได้ดี แต่ท้ายสุดอ้างผีมีบารมีช่วย ๕๕๕
และทั้งคนที่อ้างถึง กับข้าพเจ้า คนธรรมดา
ไม่ดี ไม่เก่ง แบบนี่หละครับ ( ^_^)
ก็เห็นคุณ บอกว่า ผมแค่พื้นฐานยังไม่ผ่าน
ก็เลยอยากลองของหน่อยครับ
ทั้งคุณและอาจารย์ฆารวาสครับ
พอดีผมไม่เก่ง ไม่ดีอะไร อยู่แล้ว
จะมาโม้ เรื่องความดี เรื่องคุณธรรมทับถมผม
คงเสียเวลาเฉยๆครับ
แต่อยากลอง คนที่โม้ว่าตนเองเก่ง
และมีดีแบบคุณ ครับ พอเข้าใจนะ

พอดี พึ่งเห็นชื่อนี้สมัครมาใหม่
ไม่เคยเห็นในห้องผี ห้องอภิญญาเลย
สงสัยว่า ทำไมมันขี้โม้และปัญญาอ่อนจัง
พูดเหมือนคนเอาดีเข้าตัว(โม้ด้วย) เอาชั่วเข้าคนอื่นๆ
ยึดในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ไร้สาระ(เทวดาอนุญาติให้พูด
ต้องเป็นคนดีมีศีลธรรมเหมือนตนด้วย
ต้องมีประสบการณ์มากทางร่างทรงเหมือนตนด้วยอุ๊บ !!!!!
๕๕๕)
พูดไปพูดมา
อ้างผีระดับเจ้าพ่อมีบารมีช่วยเจรจาซะงั้น
พูดประหนึ่งว่า คุยด้วยตัวเองเหมือนที่โม้ไว้เยอะเหลือเกิ๊น
ที่ข้าพเจ้าได้อ่านตอนแรก ๕๕๕๕๕๕๕
(^_^)

 

สวัสดีค่ะคุณ Top2hot
ได้อ่านที่คุณเขียนเล่าจากประสบการณ์ น่าสนใจดีค่ะ
อยากทราบวิธีทำบุญสังฆทานที่ถูกต้องค่ะ จะได้นำไปปฎิบัติบ้าง อีกอย่างคือ ถ้าเราไปวัดแล้วไปซื้อของสังฆทานที่ทางวัดมีไว้ให้ (น่าจะเป็นของที่มีคนเอามาถวายแล้วทางวัดก็เอามาขายต่อ) บุญจะแตกต่างกันไหม

 

ตอบเจ้าของกระทู้นะ

มีจริง แต่ท่านอยู่ในวิมานของท่านเอง เราแค่สร้างศาลให้เพื่อแสดงความเคารพ

 

อยากฟังวิธีถวายสังฆทานที่ถูกต้องด้วยคนคะ รบกวนคุณtop2hotมาเขียนบอกด้วยนะคะ คุณเขียนเล่าได้น่าอ่านมากคะ

 

สังฆทานมีสูตรด้วยหรอฮะสงสัยความรู้ไหม่

 

พวกสัมพันธ์กับร่างทรง ก็จะมาแนวๆขี้โม้ประมาณนี้หละครับ
ไม่ว่าจะไปอยู่ในสังคมไหนๆก็ตาม
จะโม้ประหนึ่งเป็นอะไรที่ทำให้ตนเองดูวิเศษ เหมือนไม่ใช่คนธรรมดา
และก็จะพูดประมาณว่า สิ่งที่ตนมี ต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดาถึงจะเกิดได้
เรื่อง ศีลระดับเด็กอนุบาล ก็ยังเอามาโม้ว่าตนเองมี
พูดง่ายๆ เรื่องสัมผัสโม้ระดับโลก

ตอนแรกพูดเหมือนตนเองสื่อสารเอง
สุดท้ายให้ อาจารย์เคลียร์ ให้ผีระดับเจ้าพ่อที่อ้างมีฤิทธิ์เคลียร์ให้ ๕๕๕๕

ทั้งๆที่บอกแล้ว เรื่องสื่อสาร คนไม่เคยฝึกอะไร บางคนเค้าก็สื่อสารได้
แต่ไอ้นี่ มันจะพยายาม บอกว่า มันวิเศษ กว่าใคร
แรกๆอ้างระดับเทพ เทวดา ต้องอนุญาตถึงคุยได้ เพื่อเสริมว่าตนเองหล่อ
สุดท้าย ความแตก คนที่ช่วยเคลียร์ไม่ใช่ตนเองเคลียร์เอง
และเป็นอาจารย์มัน ผู้ที่สัมพันธ์ในลักษณะของการทรงเจ้า ๕๕๕๕๕

พวกนี้ถ้าให้ไปสอนสมาธิ สอนกรรมฐานจะสอนไม่เป็นหรอก
อ่านดูก็รู้สอนเหมือนพวกยึดติดเรื่องสัมผัสที่หลอกตัวเองว่าดูสูงกว่าใคร....
และ Top2hot พึ่งสมัครใหม่ด้วยนะ...
ให้สังเกตุวิธีการเขียน และการแซะให้ดีๆ....
ส่วนสาวก ร่างทรงใครจะเชื่อใครจะศรัทธาถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลนะครับ...
ว่าแต่หายไปไหน ด่าคนอื่นๆว่า แค่พื้นๆยังไม่ผ่าน
พอดีว่าส่วนตัวไม่ได้เก่งอะไรอยู่แล้ว
ก็เลยอยากจะขอท้าพิสูจน์เรื่องกรรมฐาน
ในระดับแสดงผลได้กับนาย Top2hot
เห็นบอกว่าข้าพเจ้าแค่พื้นฐานยังไม่ผ่าน เลยอยากจะลอง
เอา กรรมฐานอะไรก็ได้ กสิณก็ได้นะครับ ได้ทุกกอง..(^_^)
หรือ อาจารย์ไอ้ขี้โม้ที่เป็นฆารวาสที่มันอ้างหน่อย...ได้ทั้ง ๔๐ กองครับ
ผีระดับเจ้าพ่อมากบารมีไม่เกี่ยวนะ ๕๕๕๕ เพราะท่านไม่ใช่คน
ปล.ยังรอเจ้าคนสมัครใหม่ปากดีคนนี้อยู่นะครับ

 

ขอตอบเจ้าของกระทู้นะ คิดว่าในศาลพระภูมิมีเจ้าที่จริง แต่ว่าแตกต่างกันไป จากที่ประสบมาตอนเด็กคือเห็นและคงมิได้มโนสมัยนั้นบางบ้านโทรทัศน์ขาวดำ และบางบ้านมิมี คือตอนเห็นประมาณช่วงหกโมงกว่าถึงทุ่มท่านมาแบบคล้ายชุดพระยาแรกนาแต่เครื่องทรงสีทองก่อนมามีไฟเปิดหนึ่งดวงก่อนปรากฎกำลังมองสำรวจทั่วไปส่วนเราอยู่บนชั้น2ที่ทำการไปรษณีย์แห่งหนึ่ง แม่กำลังมาส่งโทรเลข พอเห็นกลัวแหกปากแหกคอร้อง สุดท้ายท่านเงยหน้ามองคราวนี้แหกปากร้องอีกแม่เอากลับบ้านเลย หลายปีผ่านไปมาใหม่ลองสังเกตจึงพบว่าตรงนั้นเป็นที่ตั้งของศาลพระภูมิ ต่อมาเมื่อ 3 ปีได้ละมั้งจะขอข้ามรายละเอียด เอาเป็นว่าโดนสื่อจนต้องเป็นคนที่ตั้งศาลเจ้าแม่หลังใหม่จนเดินไปดูด้วยตนเองจึงพบว่าศาลเก่าชำรุดขาทรุดไปเพราะเป้นศาลไม้ทรงไทย ด้านหลังหน่วยงานโดยเป็นคนเดินไปเล่าเรื่องราวต่างๆให้เพื่อนร่วมงานฟังขอรวบรวมเงินและขอเข้าพบหัวหน้างานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานเรื่องศาลเจ้าแม่ด้านหลังที่ศาลไม้ขาทรุดลงกำลังจะพังศาลใหม่เป็นปูนสี่ขา สุดท้ายได้ตั้งศาลใหม่จริงทำสำเร็จ และไม่นานศาลเก่าก็พังจนทรุดหล่นไปเลย และเพื่อให้ศาลพระภูมิด้านหน้าหน่วยงานดูดีก็มีการตกแต่งใหม่ บางท่านบอกว่าพระภูมิเจ้าที่ท่านด้านหน้าท่านเป็นพรหม การทำพิธีก็คือเชิญท่านเข้ามาอยู่น่ะเพราะบางท่านท่านอยู่ที่นี่มานานแล้วและบางท่านท่านเป็นเจ้าของที่น่ะ เพื่อให้ช่วยปกป้องคุ้มครองทุกคนที่อยู่ที่นี่ ท่านเจ้าที่ก็เคยได้แสดงบางสิ่งให้ทั้งกลุ่มข้าพเจ้ารับทราบมาแล้ว แดดร้อนตรงหัวนี่ก็เถอะ เป็นกลิ่นธูปหอมพิเศษน่ะ แต่ที่พิเศษกว่านี้ก็คือมีคนมีญาณแต่เขาเป็นมุสลิมเขาอยู่ที่อื่นเขารู้ด้วยนะว่าที่อยู่ที่ทำงานของข้าพเจ้าน่ะใครเป็นผู้ปกปักรักษา ที่เขาทักน่ะตอนนั้นเขายังไม่เคยมาแต่ตอนหลังเขาก็ได้มาเพราะเกี่ยวข้องกันในเรื่องหน้าที่การงาน ที่มาตอบแม้มีผู้ตอบแล้วมากมายแต่ข้าพเจ้าขอตอบตามประสบการณ์จริง

 

ตอบเจ้าของกระทู้
เราเคยได้รับการบอกกล่าวว่า ศาลพระภูมิมีเจ้าที่อยู่ 3 แบบ
1. เป็นวิญญาณตายายที่เคยอยู่อาศัยในที่ดินนั้น
2. ดวงจิตของเจ้าที่ที่มีลักษณะเหมือนพราหมณ์
3. เทวดา พระชัยมงคล

 

มีจริงค่ะ เคยมาเข้าฝันหนู
เพราะหนูรดน้ำจนรูปปั้นยายตก ซึ่งหนูไม่รู้ว่ามันตก
แกเลยมาเข้าฝันหนู ตอนเช้าเลยไปดู รูปปั้นยายแกตกจริงๆ ชุดเดียวกันเป๊ะเลย