จะขับเคลื่อนชีวิตไปเพื่อไรคับ

เมื่อความจริงมันปรากฎแบบนี้
แล้วคนเราขับเคลื่อนชีวิตไปเพื่อใคร
เพื่ออะไรฮับ
1.สารเคมี สารพิษอันตรายที่ใข้กันบนโลก
นี้มาจากธาตุต้นทางคือ ดิน น้ำ ไฟลม
บนโลกนี้ใช่ไหมฮับเมื่อ
เอามาแปรธาตุ
ผสมผสานกันแล้วจึงเกิดเป็นสารพิษร้ายแรงต่างชื่อ ต่างชนิดขึ้นมา
ใช่หรือไม่ ???
เมื่อผลิตแล้วเอามาขายเพื่อให้
คนเอาไปทำลายล้างกันทั้ง
ทางตรงและทางอ้อมเช่น เอาไปโปรยในสมรภูมิ หรือเอาไปฉีดทำลายแมลงศัตรู
ในแปลงพืชผักผลไม้ เพื่อต้องการรักษาและเพิ่มผลผลิต
แต่สุดท้ายตายทั้งแมลงและคนเป็นมะเร็งค่อยๆตาย
ใช่หรือไม่ฮับ

2. การเมืองที่เป็นพิษ(เลว) มันมาจากนอก
โลกไหมฮับ??
เปล่าเลย มาจากกการรวมตัวผสม
ปนเปของคนชั้นเลวในแต่ละเมืองนั่นเอง
ใช่มิใช่ฮับ

เมื่อเข้าใจสัจธรรมนี้แล้ว เราจะทำอย่างไรจึงจะ
ตัดวงจรที่อันตรายเหล่านั้นได้
เรียนกันมาเยอะคำตอบของท่านจะเป็นตัวพิสูจน์
ว่าการศึกษาไทยที่จัดให้ทั่นเรียนกันนั้น มันมีคุณภาพ
ขนาดไหนโชว์ภูมิกันได้เลยครับทั่น

 

เหตุผลที่เราตอบมันคงจะไม่ถูกสำหรับทุกคน เพราะต่างคนก็ต่างความคิด แล้วแต่ว่า ใครจะผ่านอะไรมา แล้วเลือกจะเดินต่อไปในทางไหน

บางคนเราพูดความจริงว่าโลกนี้มันเน่าเฟะเท่าไรเขาก็ไม่เชื่อ เขาก็เลือกไปทาง
บางคนอยากนิพพาน แต่วาสนาเขาไม่ถึงที่จะนิพพานได้ จะให้ฟันธงไปคำตอบเดียว ว่าขับเคลื่อนชืวิตไปเพื่อแสวงหาความหลุดพ้นมันก็คงไม่ถูก

ตอบกลาง ๆ ไว้ละกัน ว่าแต่ละคนก็ขับเคลื่อนชีวิตไปในทางของใครของมัน เพื่ออะไรเขารู้อยู่ของเขา จะเพื่อคนของเขา หรือเพื่อตัวเขาเองก็ตามแต่ บางคนไม่รู้เขาก็แสวงหาของเขาได้แหละลุง ดังนั้น อย่าไปหาคำตอบที่เฉพาะเจาะจงเลย เพราะ ความเฉพาะเจาะจง มันเป็นทางเลือก มันไม่ใช่ทั้งหมด แม้ศาสนาพุทธก็เป็นทางเลือกเหมือนกันในสายตาของคนที่ไม่ได้อยุ่ในศาสนาพุทธ

สาวกศาสนาก็คงจะมองว่าทางหลุดพ้นดีที่สุด
ส่วนมองสายตาของคนในโลกทั่วไป
อิสรภาพ ดีที่สุด

 

คำตอบหรูๆ ในเชิงความรู้และความจำความเข้าใจก็อย่างหนึ่ง
คำตอบในเชิงความความรู้และเชิงปฏิบัติด้วยก็อีกอย่างหนึ่ง
การศึกษาไทยมันถ้าทายกันในเชิง
ความรู้ความจำมากกว่าการปฏิบัติ
จึงไม่ค่อยรู้ว่าจะเอายังงัย
กับชีวิตดีฮับ

 

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เมื่อเข้าใจสัจธรรมนี้แล้ว เราจะทำอย่างไรจึงจะ
ตัดวงจรที่อันตรายเหล่านั้นได้
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

สิ่งที่เกินอำนาจก็ตัดไม่ได้ ยกเว้น คนเราจะมี กำลังมากพอที่จะแทรกแทรงอำนาจที่เหนือกว่าได้
สิ่งที่อยู่ใต้การควบคุมของเรา เราสามารถจัดการได้
สิ่งไหนไม่เข้าใจ 555 จัดการยากหน่อย การเรียนรู้แบบคนไทยนี่เนาะ
มีแต่ขยายความรู้ ความจำ ทำตามไม่บริหารปัญญา
ยากครับ กว่าผมจะเกิดปัญญานี่ก็เกิดมาบนโลกซะ 29 ปี
เอาเป็นว่า มันต้องพึ่งแรงขับดันภายในตัวและวาสนาพอสมควร


แต่ขอตอบแบบง่าย ๆ ที่ใครเข้าใจก็เข้าใจ ใครไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจ ว่า แยกมันเป็นประเด็น ๆ และจัดการมันเป็นประเด็น ๆ ไป อันไหนเกินแก้ก็ปล่อยวาง อันไหนแก้ได้ก็แก้เลย โดยที่มันก็ขึ้นกะสติปัญญาของแต่ละบุคคล

อย่างการใช้สารพิษ เราถ้าเรามีกำลังพอจะตัดการใช้สารพิษออกโดยมีความรู้ด้านเกษตรอยู่แล้วก็ทำได้ ถ้าไม่มีความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ก็แค่หาความรู้เพิ่มเติมเท่านั้นแหละ

สิ่งที่แก้ไม่ได้คือพิษการเมือง ก็ปล่อย ๆ มันไปเถอะ เดี๋ยวมันล่มจมของมันเอง ทั้งประเทศน่ะแหละ ทำใจยอมรับไว้ก็พอ เหมือนที่คนเราเมื่อเป็นมะเ็งโดยที่ไม่มีวิธีรักษาแล้วก็เลีี่ยงการตายไม่ได้น่ะแหละ

 

มีคนพุทธไม่มากนักจะเข้าใจและเชื่อ
ด้วยส่วนลึกของหัวใจว่าการมี
ชีวิตหรือการเกิดเป็นทุกข์
และมุ่งหน้าขับเคลื่อนชีวิตเพื่อไปสู่การ
ดับทุกข์โดยไม่ยอมเสียเวลาฮับ

 

การไม่เสียเวลาในทางพุทธ คือ ต้องเริ่มต้นด้วยการรู้จักตัวเองอย่างแท้จริงก่อน ว่าตัวเองเป็นคนยังไง บกพร่องยังไง ควรจะแก้ยังไง

ชาวพุทธหลายคนขาดข้อนี้แน่นอน เพราะ เน้นศรัทธามากเกินไป

รวมผมด้วย

 

การศึกษาที่รัฐจัดให้โดยไม่สอดคล้อง
กับหลักทางพุทธะ มันไม่ใช่
ทางหลักและไม่ใช่ทางเลือก
จึงพาพลเมืองไปพบกับความสุข
ในภาพรวมไม่ได้
จะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
จึงกลายเป็นความสุขของปัจเจก
สามัคคีกับส่วนใหญ่พัฒนาสังคม
ประเทศไม่ได้
นี่คือ สภาพเมืองไทย

 

เอาแค่ทำให้คนไทยเข้าใจหลักทางพุทธให้ถูกก่อนยังยากครับ

ดังนั้นจะไปทำให้ระบบการศึกษาสอกคล้องกับศาสนาพุทธน่ะเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาคิดว่า เรามาจากศาสนาพุทธ ศาสนาพุทธทำให้เราเป็นแบบนี้

ที่จริงไม่ใช่ ศาสนาพุทธมาทีหลังเรา และไม่ได้เปลี่ยนเรามากนักเพราะเราไม่ได้เข้าใจศาสนาพุทธเลย

 

ถูกต้องเมืองเราจึงอยู่กันแบบมั่วๆ เหมือนตาบอดเดินออกนอกเส้นทาง
ทั้งผู้นำและผู้ตาม
มันจึงออกจากวงจรทั้ง ข้อ 1 และข้อ 2
ไม่ได้เพราะบอดจูงบอด ใช่หรือไม่คับ

 

ก็มีทั้งบอดจูงบอด หัวบอดท้ายทำได้แค่ต้องเป็นใบ้ แหละมั้งครับ

 

งั้นกระบือไทยส่วนใหญ่ต้อง
๑.กินอาหาร
ปนเปื้อนสารพิษกันต่อไป
๒.ใช้บริการนักการเมืองที่ทุจริตฉ้อฉล
อย่างปกปิดและเปิดเผยเชิงนโยบาย
กันต่อไปตราบนานเท่านาน
เพราะคนไทยเราจนปัญญาฮับ

 

แก้ปัญหาเรื่องตังก่อน ถ้ายังทำงานเพื่อเงินก็ไม่มีวันเจริญหลอก คนดีมีความสามารถมักบ้าก่อนเพราะรับพิษจากสังคมไม่ไหว ยิ่งตอนนี้สังคมหัวร้อนด้วยหมดสภาพประเทศแล้ว

 

หาปุ่มหัวร้อนแพล็บ!!