กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ไม่ขอบอกนะคะ ว่าได้มาเช่นไร เพราะเขาไม่ใช่มนุษย์ค่ะ ท่านให้เกล็ดทองมา

เคยสวดมนต์แล้วผงทองร่วงเต็มหัวเลย หลังๆ เลยไม่เอา เพราะไปทำงานแล้วชาวบ้านเค้าว่า

เราเอาผงทองโรยหัวเล่นๆๆ

เพชรพญานาคเคยได้พกไปที่วัดต่างๆใน ตปท

หลวงปู่ หลวงพ่อ ท่านจะเดินมาหน้าวัดเหมือนยืนรอ

และถ้าวันไหน มลจะตั้งใจไปสวดมนต์ในอุโบสถใหญ่

ทั้งที่เป็นวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ ก็จะไม่มีใครสักคนอยู่ในอุโบสถนั้น ก็แปลกดี เป็นทุกวัด

สามารถนั่งสวดมนต์คนเดียวในนั้นได้ เป้น สองสามชั่วโมง

ซึ่งปกติวัดทั่วไป ผู้คนจะเข้าไปสักการะไหว้พระ หรือพระสงฆ์เป็นประจำ

ก็แปลกดีอาจจะบังเอิญก็ได้

แต่ถ้าไปปกติ พระที่ท่านว่าเป็นระดับเกจิ เพราะมลจะไปวัดป่าค่ะ

แล้ววัดลาวที่ไปมาไม่นานเนาะ พระครูบุญมี ครูบาบุญมี พี่ชายพระครูบาบุญชุ่ม

ท่านเดินออกมาตอนที่มลนั่งสวดมนต์

ท่านออกมาพูดภาษาบาลีและลาว " มนุษย์โสสิ " ท่านพูดกับมล 3 ครั้ง

" แม่หญิงเป็นคน แม่ใจเป็นคน ภพภูมิแม่เป็นคน ตอนนี้ "

ท่านเรียกมาผูกข้อมือสายสิญจน์และรดน้ำมนต์ ให้ และพูดพระคาถาอะไรจำไม่ได้ ท่านเป่าศรีษะ

"ใจอยู่กะตัว ขวัญอยู่กับตัว ท่องอิติปิโส พระชินตลอดเวลา ภาวนาให้ขึ้นใจ อย่าลืมมาทำอะไร"

//เล่าให้ฟังค่ะ

ส่วนเพชรพญานาค

มลเสี่ยงบารมีก่อนทุบค่ะ

เสียงเหมือนตีเหล็ก เป็นดวงจิตภพภูมิตนเอง ทีแรกไม่คิดหรอกค่ะว่าได้สีนี้

สีขาว แต่เปลี่ยนเป็นเหลือบชมพูบางครั้ง และ บางครั้เป็นสีม่วงเข้มถ้าไปภาวนาในสุสาน

หรือไปที่อุบัติเหตุเยอะๆ

เม็ดสีขาวนี้ เคยมากำตอนสวดมนต์กับนั่งสมาธิ ก็เห็นนั้นนี้ เลยไม่เอา ไม่ชอบเห็น

เพราะแค่นี้ก็ปวดกบาลแล้ว 5555 แต่อุทิศส่วนกุศลให้ท่านประจำ ท่านและเหล่าญาติภพภูมิก่อนที่ยังติดในภพภุมิเดิม ก้มาอนุโมทนาบุญ วันไหนขี้เกียจหรือพารานอยด์ วิปลาส โทสะ
ก็จะได้เรื่องทันที หิ้งพระสะเทือน""""

ส่วนเรื่องแปลกๆก้เพราะมีห้องมลอยู่ ชั้นใต้ดินบ้านฝรั่ง แบบถ้ำ
เป็นห้องซักผ้า ซึ่งคนในบ้านพักพนักงาน เค้าจะโจษจันกันว่า มีผี (?)
ก้อยู่มาเฉยๆ ไฟเปิดเอง ก็คิดว่าดีจังไม่ต้องเอื้อมเปิดมีอะไรมาเปิดให้ 5555
และที่น่าขนลุก เค้าว่ากันว่า มักจะฝันเห็นงูอนาคอนด้าสีดำ พันรอบบ้าน และดงงูจงอางสีดำ เต็มข้างล่าง พรักงานในบ้านก็มีทั้ง ไทยลาวเขมรและฝรั่ง ก็ จะซักผ้าแต่ละที เค้าจะชอบมาบอกห้องมล ขอซักผ้า 5555 บอกว่า สยึมกึ๋ย ได้ยินอะไรฟ่อๆ อะไรเราก็ไม่เคยจะได้ยินกะเขาหรอก

และเป็นเรื่องเล่า หาสาระไม่ได้ เอาว่า รักและศรัทธาแม้ว่าเค้าจะลบหลู่ดูหมิ่น

แต่มลเชื่อว่ามีจริงค่ะ ....

 

และชอบฝันว่า

เป็นพญานาคสีขาวเอาขนดล้อมวัด หรือพระราชวัง หรือที่บ่อยมากไม่นานนี้ ก็ล้อมพระธรรมจักร
เอาตัวรัดเหมือนงูหวงไข่ จนตัวเองถูกเผาไหม้เพราะมีอะไรจะมาทำลายพระธรรมจักร กงล้อนั้นแล้วไม่ยอมแบบยอมตาย ทั้งที่ทรมานน่าสังเวชมาก
คิดว่า วิปลาส อุปทาน แต่ ตื่นมาจ้ำเขียว บางทีเป็นแผลทั้งตัวเลยเจ็บจริง

ตอนเด็กๆ ก็มักจะฝันว่า ตัวเองเป็นเด็กผมจุกเด็กผู้หญิงปักดอกมะลิล้อมผมมวยจุกวิ่งไปวิ่งมา
เล่นกับพี่ๆน้องๆเยอะแยะ แต่วิธีเล่น คือเอามือมากำมาแบ เป็นลมมั้ง เป็นไฟมั้ง เป็นดินสีขาว สีดำ สีแดง แล้วหัวเราะชอบใจ ที่ขำติดตาคือ เป่าลมเป็นสีดำ หน้าดำเหมือนโดนถ่านแล้วขำ
แล้วชอบขี่หลังกอดคอผู้ชายชุดขาวที่เหมือนโตกว่าเรา ไปไหนมาไหน แล้วบางทีผู้ชายที่โตกว่าเราไม่มาก เขาจะจับเรานั่งตักแล้ว จับเราพนมมือท่องสวดอะไรบางอย่างบ่อยๆ แล้วก็เห็นหลวงปู่โต บางครั้งก็ฝันว่าเที่ยวตลาด ซื้อขนมเหมือนแถวชาวบ้านสมัยสุโขทัย อะไรไม่รุ้เดานะคะ แล้วชาวบ้านไล่จับเพราะที่ให้ไม่ใช่เงินเป็นก้อนหิน แล้วโดนทำโทษ ให้อมหินเต็มปาก เพราะเสกก้อนหินเป็นเงินกลมๆไปหลอกซื้อขนมแม่ค้ากิน 555

ฟังพอขำๆนะคะ นิทานก่อนนอน

ภายหลังสวดพระคาถาพระมหาจักรพรรดิ ขอไม่ฝันอะไรก็ดีขึ้นคือไม่ฝันค่ะ เรื่องบางเรื่องอย่าไปค้นมากเดี๋ยว พาราเซตามอลขายดี

เพิ่งจะสวดมนต์ นั่งสมาธิ กรวดน้ำเสร็จสาธุอนุโมทนาส่งบุญกุศลให้กัลญาณมิตรและสายญาณพญานาคทุกท่านนะคะ สาธุ

 

ชอบพา ท่านทั้งสองไปสัมผัสธรรมชาติบ่อยๆ
แต่หมู่นี้ไม่ได้คิดถึง เพราะมัวแต่ฟุ้งเรื่องอื่น

ขอบคุณกระทู้นี้ค่ะ เอาเป็นว่า คนศรัทธาสิ่งใดเราเชื่อสิ่งนั้น และท่านมาเป็นกำลังใจ ให้เราถือศีลปฏิบัติธรรม ไม่ใช่ยึดติดจนปล่อยไม่ได้ ทีานมาทำให้เรารู้ว่า มีชีวิตเป็นคน เพื่อใช้กรรม และธรรม เพื่อการหลุดพ้นตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สาธุในบุญกุศลร่วมกันค่ะ

 

มล ขอนุญาต คุณ 9@Phonlee และเพื่อนสมาชิกเอาความหมายเพชรนาคา มาลงในกระทู้นี้นะคะ เป็นวิทยาทานค่ะเพื่อศรัทธาและเพื่อความเข้าใจค่ะ

มล มีแค่สองสีจ้า แต่สายญาณรุ่นพ่อท่านมี 9 สีเลยค่ะ เคยนิมิตจะได้สีแดงกับสีส้มมา แต่ตอนนี้ โทสะจริต พรหมวิหาร 4 ยังไม่พอเพียง บารมียังไม่ถึงค่ะ เพราะท่านว่าอันตราย ถ้าควบคุมโทสะไม่อยู่จะเป็นโทษมากกว่าให้คุณ แต่ท่านว่า มาแน่ในอนาคตค่ะ สาธุ


ปล. ของจริงของปลอม เป็น ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ และอจินไตยกรุณาใช้วิจารณญาณในการรับชมค่ะ แต่มล ไม่ได้เสียเงินไปเช่านะจ้าาาาาาาาาา จะว่าไปงมเจอ หรือลอยมาก็คิดเอาค้า

เครดิต google.com




ตำนานการก่อกำเนิดเพชรนาคา
นับย้อนหลังนานแสนนานไปสมัยพุทธกัปป์แห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ ในสมัยพุทธกาลแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโปนั่นเอง ซึ่งได้ลงมาตรัสรู้พระโพธิญาณเพื่อรื้อขนสัตว์กล่าวคือกิเลสเครืองฉาบทาจิตใจมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ และเพื่อโปรดสรรพสัตว์ให้ข้ามห้วงวัฏฏะสงสารในมหาภัทรกัปนี้ โดยอดีตกาลนานมาที่มีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้ 5 พระองค์ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ 4 ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนกึกก้องไปทั่วหมื่นโลกธาตุตลอดอนันตจักรวาล ด้วยพระบารมีแห่งพระโพธิญาณองค์มหาพระโพธิสัตว์ เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์บังเกิด ฝนโบกขรพรรษ กล่าวคือเป็นฝนอันเกิดแต่ความศักดิ์สิทธิ์ของผู้มีบุญญาบารมี หรือเกิดจากความอัศจรรย์ ตกลงมา ใครใคร่ให้เปียกก็เปียก ใครใคร่ไม่ให้เปียกก็ไม่เปียก ด้วยพระบุญญาธิการแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโป เมื่อได้ตกลงมาสู่พื้นพสุธาบางส่วนได้ประมวลตัวรวมธาตุดึงดูดธาตุทั้งสี่ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ จนบังเกิดก่อกำเนิดเป็น เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง หรือแก้วเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงนั่นเอง อาจจะเรียกอีกชื่อได้ว่า แก้วสารพัดนึก อันเป็นการก่อกำเนิดธาตุกายสิทธิ์ขึ้นมา มีรัศมีสว่างไสวเปล่งประกาย รัศมีถึง 7 สี ส่องแสงสว่างไปทั้งกลางวันและกลางคืน นับเป็นเวลา 7 วัน 7 ราตรี รัศมีแห่งเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงนี้ ส่องสว่างครอบคลุมจนไปถึงนครใต้เมืองบาดาล ดลบันดาลทำให้เกิดแสงสว่างเป็นรัศมี 7 ประการกลบรัศมีแสงสว่างอัญมณีพลอยอันมีค่าต่าง ๆ ที่อยู่ในนครบาดาลทั้งหมดจนเกิดความแตกตื่นโกลาหลไปทั่วทั้งนครบาดาล จนเหล่านาคีนาคาผู้ที่มีฤิทธิ์ต่างหาสาเหตุต่าง ๆ นา ๆ ถึงเหตุการณ์อันอัศจรรย์ใจเช่นนี้ จนทำให้กษัตริย์ผู้ครองเมืองนครบาดาลทั้ง 7 เมืองนามว่า พญานาคราชสุนันโท กษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ผู้ครองเมืองนครบาดาล ที่มีเหล่าบริวาร นาคี นาคา เหล่าพญานาคนาคีนาคาผู้มีฤทธิ์อำนาจกำลังแห่งตนมากมายนับไม่ถ้วน ได้ใช้กำลังบุญฤทธิ์ของตนอธิษฐาน ขอให้รู้ถึงสาเหตุของปรากฏการณ์อัศจรรย์ใจในครั้งนี้ด้วย เหตุของกำลังบุญฤทธิ์ที่ได้สร้างสะสมมานานในสมัยอดีตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนา และได้บวชเรียนเป็นพระภิกษุสาวกแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตกาล ซึ่งได้ตั้งจิตอธิษฐาน จะขอทำนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนา ก่อนที่จะละสังขารตายลงของตน ขอเว้นการอธิบายในเหตุของกฏแห่งกรรม ที่ทำให้กำเนิดเป็นพญานาคผู้มีฤทธิ์ เพราะถึงแม้จะเกิดเป็นพญานาคผู้มีฤทธิ์ก็ไปเกิดด้วยวิบากแห่งผลของกรรมที่ตนได้กระทำลงไปนั่นเอง ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ล่วงรู้ถึงการก่อกำเนิดแห่ง เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง ด้วยอำนาจผลบุญบารมีแห่ง พระโพธิญาณขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และรู้ถึงหน้าที่ของตนเองที่ได้อธิษฐานเอาไว้ พญานาคราชสุนันทโทผู้เป็นใหญ่ได้แสดงฤิทธิ์อำนาจแทรกแผ่นดินขึ้นมา พร้อมกับเหล่าบริวารทั้งหลาย ขึ้นมาสู่พื้นพิภพปฐพี มาดูต้นเหตุอันที่ทำให้เกิดความอัศจรรย์ ไปทั่วพื้นพิภพใต้เมืองบาดาล ท่านพญานาคราชสุนันโทได้มีคำสั่งให้เหล่าบริวารทั้งหลายต่างแสดงฤิทธิ์อานุภาพอัญเชิญไปเก็บรักษาเพื่อประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไปยังเมืองบาดาลของตนเอง
เหล่าพญานาค นาคี นาคา และบริวารทั้งหลาย ต่างก็อัญเชิญไปเก็บตามถ้ำ ตามภูเขา ตามหุบเหวแม่น้ำต่างๆ ตามภูเขาเหล่ากอป่าเขาลำเนาไพรต่างๆนาๆอันเป็นหมวดหมู่ที่พวกตนได้สิงสถิตย์พักอาศัยอยู่ ส่วนหนึ่งก็ได้นำดินสีต่าง ๆ มาพอกหุ้มเพชรนาคา หรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงเอาไว้ เพื่อให้รอดพ้นจากสายตา หรือน้ำมือจากพวกมนุษย์ใจบาปคิดคดกบฏฉ้อโกงช่อราษฏร์บังหลวงไม่อยู่ในศีลในธรรม หรือจากเหล่าเทพพรหม ที่เป็นมิจฉาทิฐิให้เห็นเป็นเพียงก้อนดินก้อนหินธรรมดา อีกกลุ่มหนึ่งได้นำไปไว้ในถ้ำที่ลึกลับที่ยากจะเข้าไปได้ นำไปประดิษฐสถานเอาไปไว้ในแอ่งน้ำต่าง ๆ ภายในแต่ละถ้ำ ตามที่เห็นสมควร พร้อมกับทั้งอธิษฐานบดบังรัศมีแห่งแก้วนี้เสีย จนรอเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไป และอันจะนำมาทำให้เกิดคุณประโยชน์ในเวลาที่จะช่วยค้ำชูสืบทอดพระพุทธศาสนาในยุคกาลกิณีอันจะเป็นเหตุให้พระพุทธศาสนาเสื่อมสูญต่อไปนั่นเอง

รูปร่างสัณฐานสีสันของเพชรนาคา
1. สัณฐานลูกรักบี้ จะมีรูปร่างกลมยาวเรียวหัว - ท้ายเรียวมนคล้ายหัวจรวด สามารถแบ่งเป็นประเภท
1.1 เป็นเพชรนาคา
1.2. เป็นเหล็กไหลชนิดดูดติดเหมือนแม่เล็ก หรือแบบดูดไม่ติด
2. สัณฐานเหมือนพลอยหลังเบี้ย จะมีรูปร่างสัณฐานแบ่งออกได้อีก 2 แบบ คือ
2.1. รูปกลม(แฮมเบอเกอร์) จะมีรูปลักษณะทรงกลมตรงกลางจะนูนขึ้นมาดังหลังเบี้ยทั้งสองด้าน ด้านข้างจะสามารถมองเห็นคล้ายขอบรอยเชื่อมของเพชรนาคา
2.2. รูปวงรี จะมีรูปทรงเป็นวงรีตรงกลางจะนูนขึ้นมาดังหลังเบี้ยทั้งสองด้าน
3. สัณฐานกลมแบบลูกแก้ว จะมีลักษณะกลมเป็นลูกแก้ว แต่สังเกตุดูดีๆแล้วบางเม็ดจะมีรอยขอบ รอบๆ
4. สัณฐานพิเศษที่หายาก จะมีคือ
4.1. ลักษณะลูกสมอจันท์ มีลักษณะออกจะกลมคล้ายดังลูกแก้วเหมือนกับสัณฐานกลมหลังเบี้ย
4.2. ลักษณะเป็นเขี้ยวแก้ว จะมีลักษณะรูปทรงสัณฐานเป็นเขี้ยว
4.3. ลักษณะรูปหยดน้ำ จะมีลักษณะรูปทรงคล้ายหยดน้ำขนาดใหญ่
4.4. ลักษณะเป็นฟันกราม จะมีลักษณะรูปทรงคล้ายฟันหน้าหรือฟันกรามของคน จะมีส่วนที่ยื่นออกมาดังรากฟัน
4.5. ลักษณะรูปหัวใจ
4.6. ลักษณะรูปดอกบัว
4.7. ลักษณะรูปหงอนพญานาค
4.8. ลักษณะเป็นไข่
และยังมีลักษณะอีกหลายๆประการ ซึ่งยังไม่ระบุตายตัวที่แน่นอน อันเกิดจากฤทธิ์อานุภาพต่างๆนาๆ ที่เกิดขึ้นในกาลครั้งนั้น
เพชรนาคา นั้นจะมีสีสันที่สวยงามส่องแสงเป็นประกายมาก ยิ่งเอาไปส่องด้วยแสงไฟจะส่องเป็นประกายสีถึง 7 สี และจะมีความมันเงาแวววาว บางสัณฐานภายในคล้ายกับมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่หรือคล้ายกับมีดวงตาซ่อนอยู่ภายใน แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นได้ชัดเจนนั้นจะเป็นสัณฐานเหมือนพลอยหลังเบี้ย จึงนับว่าแปลกอัศจรรย์เป็นอย่างมาก มีผู้ที่มีความชำนาญในการดูพลอยบอกว่า ถ้าพลอยดีชั้นดีเวลาส่องดูจะเห็นเป็นแถบสายรุ้งถ้าเป็นพลอยรองลงมาเวลาส่องดูจะเห็นเป็นประกายของสี ทั้ง 7 สี เมื่อนำเพชรนาคานำมาส่องดูจากสันฐานต่างๆ บางเม็ดด้านหนึ่งส่องดูเห็นเป็นแถบสีพอพลิกดูอีกด้านหนึ่ง ส่องดูเห็นเป็นประกายสีเหมือนมีชีวิตนี่ก็ถือเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากอย่างน่าอัศจรรย์อีกอย่างของเพชรพญานาคนั่นเอง
การแบ่งสีสัน ของ เพชรนาคา นั้นสามารถที่จะแบ่งออกได้ 3 ประเภทก็ คือ
1. สีอ่อนแต่ใส
2. สีเข้ม
3. สีเข้มออกโทนเทาดำ
เชื่อกันว่าในแต่ละสีนั้น จะมีอานุภาพพลังฤทธิ์อานุภาพที่แตกต่างกันไป ตามสีสัน และตามขนาดสัณฐานด้วย ยิ่งออกเป็นสีในประเภทที่ 3 ยิ่งมีพลังลึกลับอาถรรพ์เพิ่มมากขึ้น แต่คนที่มีบุญญาบารมีก็มักจะสะสมเก็บไว้ทุกๆสี ถือว่าเป็นสิ่งที่คู่ควรกับคุณงามความดีของตนๆ และถือว่าสามารถเป็นมรดกตกทอดไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้

การแบ่งตามวรรณะตามโทนสีของเพชรนาคา สามารถแบ่งออกได้ คือ
1. สีน้ำเงิน วรรณะกษัตริย์
2. สีฟ้าน้ำทะเล วรรณะเชื้อพระวงศ์
3. สีเขียว วรรณะนักบวช, ผู้ทรงศีล
4. สีแดง วรรณะนักรบ, ขุนพล
5. สีม่วง วรรณะขุนนาง
6. สีขาว วรรณะ กลาง
7. สีเหลือง, สีส้ม , สีชมพู วรรณะทั่วไป
ฉะนั้น ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาที่ไปหรือประวัติของการเกิด เพชรนาคาพญานาคราช ขึ้น แต่ในสมัยปัจจุบันนี้ จะด้วยเหตุผลประการใดก็แล้วแต่ สิ่งที่เกิดขึ้นก็มีทั้งจริงและเท็จ ในเมื่อมีของแท้ก็ย่อมจะมีของปลอมนั่นเอง ไม่แตกต่างจากเงินทองข้าวของที่มนุษย์ใช้สอยอยู่ พูดง่ายๆว่า ตาดีได้ ตาร้ายเสีย นั่นเอง แต่จะให้ดีแล้ว ใครจะได้ครอบครองของดีของแท้หรือใครจะได้ครอบครองของปลอมของเก้นั่น ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สำคัญที่ว่า คนที่มีอยู่ได้อยู่ซึ่งสิ่งใดๆนั้น จะเป็นคนดีหรือคนชั่วแค่นั้นเอง ถ้าของดีตกไปอยู่กับน้ำมือของคนชั่วแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น นี่ก็น่าคิดและน่ากลัวหรือน่าเป็นห่วงมากกว่า อย่าไปเป็นห่วงแค่ว่าของจริงหรือของปลอม
เพชรพญานาค หรือ เพชรนาคา ความเป็นมานั้น เป็นมาอย่างไร ยากจะอธิบายเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งใดอันเกิดจากความเชื่อส่วนบุคคลแล้ว ถือเป็นเรื่องอธิบายยาก ถึงแม้จะมีแหล่งอ้างอิง จะจริงหรือจะเท็จ ก็ถือว่า เป็นสิทธิของมนุษย์ที่ต่างคนต่างมีความเชื่อและให้ความเคารพนับถือนั่นเอง เพราะความเชื่อของแต่ละบุคคล ล้วนเกิดมาจากความคิดเห็นส่วนตัวทั้งสิ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้ฉลาดในธรรมหรือใคร่ในธรรมะปฏิบัติ จึงได้แต่รู้ตามเห็นตามกันไปว่า สิ่งไหนที่นำมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจได้ และสามารถน้อมนำจิตให้คิดดีทำดี นั่นก็ถือว่า ไม่ต่างจากสรณะหรือที่พึ่งอันประเสริฐอีกประการหนึ่ง ตามวิถีความเชื่อของแต่ละบุคคล แต่สำหรับเหตุและผลอันจะทำให้คนเป็นคนดีได้นั้น ก็คงไม่พ้น ศีล สมาธิ และปัญญา กับการคิดดีและปฏิบัติดีให้ถูกต้องตามศีลธรรมนั่นเอง

พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านรู้ดีอยู่แล้วว่า ในห้วงจักรวาลนี้ ไม่มีอะไรดีไปนอกเหนือจากการคิดดีและทำดีมีศีลและมีธรรม แต่วัตถุมงคลต่างๆ ก็ถือเป็นการสร้างกุศโลบายเพื่อให้เกิดความเชื่อ และคิดดีทำดีเพื่อให้เกิดความยึดเหนี่ยวในการชำระจิตใจของตนเองเท่านั้น เมื่อคนไม่เกิดความเชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว ก็ย่อมยากต่อการผลันจิตให้น้อมมาทางการคิดดีทำดีได้ เพราะเหตุผลของความเชื่อ ด้วยว่าเมื่อมีความเชื่อก็ย่อมมีความหวังในสิ่งที่ตนอยากได้อยากมีนั่นเอง ทั้งนี้ก็ย่อมมีวิถีปฏิบัติแตกต่างไปตามเหตุภาวะปัจจัยของแต่ละคน แต่สำหรับคนที่เชื่อด้านนี้ ย่อมมีจิตใจค่อนข้างน้อมนำศีลและการปฏิบัติธรรมควบคู่กันไปให้เกิดกับตนเองเสมอๆ และครูบาอาจารย์ ท่านก็มีกุศโลบายที่แยบยลเสมอๆว่า เมื่อมีวัตถุที่คิดว่าเป็นมลคลทั้งหลายทั้งปวงแล้ว ต้องมีศีล มีภาวนา มีสมาธิ และปฏิบัติให้เกิดปัญญานั่นเอง ครูบาอาจารย์ท่านก็ไม่เคยสั่งสอนว่า วัตถุมงคลอันเกิดจากความเชื่อของคนทั้งหลายทั้งปวง จะเป็นที่พึ่งสูงสุดของมนุษย์เพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้แห่งธรรมกล่าวคือมรรคผลและพระนิพพานได้ นอกเสียการการปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลและมีคุณธรรมเท่านั้น

*** ความหมายหรือความเชื่อของคนในแต่ละสีของเพชรพญานาค ***

1. สีขาว หมายถึง พลังบารมีขององค์มหาพระโพธิสัตว์ ให้วางจิตให้อยู่ในสายกลาง มีสติเป็นผู้รู้ (เกิดปัญญา) เท่าทันในสภาวะปัจจุบัน เกิดความใสสะอาดบริสุทธิ์ มีจิตใจเยือกเย็นหนักแน่นมั่นคงไม่หวั่นไหวง่ายๆ เหมาะกับผู้ที่มีจิตใจอ่อนไหว รวนเร ไม่มีความมั่นใจ

2. สีชมพู หมายถึง สีแห่งพลังอานุภาพเมตตามหานิยม มีความโดดเด่น สะดุดตาดึงดูดคนรอบข้างที่เกี่ยวข้อง จะทำให้คนรอบข้างเกิดความเมตตาช่วยเหลืออย่างน่าอัศจรรย์ใจ ยิ่งสีชมพูเข้มออกสดใสยิ่งมีพลังมหาเสน่ห์ดึงดูดให้เป็นที่รักใคร่เป็นที่พึงปรารถนาของคนรอบข้างอย่างน่าอัศจรรย์

3. สีเหลือง หมายถึง ความมั่งคั่งมีโชค มีลาภ มีความเจริญสดใสรุ่งเรืองดัง “ทองคำ” ที่มีคุณค่าในตัวเอง กระแสแห่งสียิ่งสีสดใสเท่าใดยิ่งมีกระแสแห่งโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองเปล่งประกายมากขึ้นเท่านั้น และจะได้รับการช่วยเหลืออนุเคราะห์ ทำให้หน้าที่กิจการเจริญก้าวหน้าราบรื่น

*** หมายเหตุ… ผู้ใดได้เพชรนาคาสีเหลืองไว้ครอบครอง จะต้องมีจิตใจที่ชอบทำบุญ ทำทานเป็นกิจวัตร ทำตามกำลังของตนเอง และต้องเป็นผู้ที่อยู่ในศีลในธรรม ยิ่งจะส่งพลังให้เพชรนาคาสีเหลืองและองค์เทพที่รักษาดูแล มีบุญบารมีเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลมา ให้แก่ผู้ครอบครองด้วย ***

4. สีส้ม หมายถึง พลังแห่งการป้องกันภัยจากอันตรายต่างๆ เหมาะกับบุคคลที่กล้าทำ กล้าคิด กล้าที่จะเผชิญ และเป็นผู้ที่มีความคิดก้าวหน้า ยุติธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ซึ่งจะเป็นกระแสพลังที่ป้องกัน พลังที่ไม่ดีที่เข้ามากระทบ มาเบียดเบียนต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด มีเทพที่มีคุณธรรมดูแลรักษา

5. สีม่วง หมายถึง พลังที่มีอำนาจลึกลับยากที่จะหยั่งถึงได้ มักจะเกียวกับวิญญาณ โอปปาติกะ ยิ่งสีที่เข้มจนเกือบดำไม่ต้องพูดถึง มีพลังลึกลับอานุภาพมากขึ้นเป็นทวีคูณ ป้องกันภูตผีปีศาจ คุณไสย การกระทำย่ำยีต่างๆ ให้เสื่อมสลายหายไป และเป็นสีที่สามารถดูดซับพลังอำนาจลึกลับทั้งดีและไม่ดีได้ขึ้นอยู่กับผู้ที่เป็นเจ้าของ

5.1. สีม่วงพิเศษ จะมีเฉพาะเม็ดขนาดใหญ่จัมโบ้ รูปวงรีความยาว 2.5 ซ.ม.ขึ้นไป จะเป็นสีที่มีพลังอำนาจแห่ง ความลึกลับ สามารถป้องกันการถูก กระทำ คุณไสย คุณผี การกระทำย้ำยีต่างๆ ให้เสื่อมอานุภาพ ศัตรูหมู่มารต่าง ๆ ไม่กล้าที่จะคิดร้าย มีอานุภาพแผ่พลังครอบคลุม เป็นปริมณฑลได้ทั้งบ้าน

หมายเหตุ… บุคคลที่ครอบครองเพชรนาคาสีม่วงนี้ จะเป็นคนที่มีพลังลึกลับหรือมีสัมผัสพิเศษเรื่องลึกลับ บางคนอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ และเป็นคนที่ช่างคิด ช่างตรึกตรอง ฉะนั้นควรที่จะต้องฝึกปฏิบัติจิตให้มีความเมตตา หนักแน่น จะทำให้อานุภาพของเพชรนาคาสีม่วงนี้ จะเปล่งประกายออกมาครอบคลุมทั่วร่างตลอดเวลา เสมือนเกราะแก้วคุ้มกาย

6. สีแดง หมายถึง สีแห่งกำลังฤทธิ์อำนาจ กล้าหาญ เด็ดเดียว ความคิดฉับไวเฉียบคม ตัดสินใจรวดเร็วตรงเป้าหมาย ทันอกทันใจ เป็นที่เคารพน่าเกรงขาม ผู้ที่ได้ครอบครอบเพชรนาคาสีแดงนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมฝึกฝนให้จิตมี “สติ” รู้เท่าทันอารมณ์ มิเช่นนั้นจะเกิดผลกระทบที่ไม่ดีเกิดขึ้น ทั้งตนเองและผู้อื่น ยิ่งเพชรนาคาที่มีสีเข้มขึ้นมากเท่าใด ยิ่งจะมีพลังมากเท่านั้น

6.1. สีแดงพิเศษ จะมีเฉพาะเม็ดขนาดใหญ่จัมโบ้ รูปวงรีความยาวประมาณ 2.5 ซ.ม.ขึ้นไป จะเป็นสีที่พลังอานุภาพฤทธิ์อำนาจสูงกว่าสีปกติมาก เพราะเป็น “เพชรนาคาสีแดงขอบดำ” ครูบาอาจารย์บอกว่า “เป็นพลังอนันตจักรวาล” ผู้ที่สามารถที่จะครอบครองได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีบุญบารมี หรือต้องเป็นผู้ที่มี “จิต” เป็นฤทธิ์เป็นเดช ที่ฝึกฝนมาทางนี้ มิเช่นนั้นไม่สามารถที่จะรองรับพลังอานุภาพของเพชรนาคาสีแดงพิเศษนี้ได้

7. สีเขียว หมายถึง ความเมตตา มีเดช มีบารมี ของเหล่าเทพ พรหม เทวดา มีพลังอำนาจลี้ลับไหลเวียนเป็นกระแสล้อมรอบตัว จึงทำให้ผู้ครอบครองแคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ ยิ่งสีเข้มยิ่งมีอานุภาพของพลังที่สื่อผ่านเพชรนาคายิ่งมากเป็นทวีคุณ เป็นที่เคารพนอบน้อมเป็นที่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดพูดจาอะไร ที่ไม่เกินไปกว่าบุญกุศลที่ควรได้ จะสมความตั้งใจทุกประการ

8. สีฟ้า หมายถึง สีที่เหมาะกับ ผู้ที่มีบุญวาสนาที่ได้สร้างสมมา มีน้ำใจกว้างขวางใสสะอาด น่าเคารพนอบน้อม จึงทำให้พูดจาติดต่อค้าขายคล่องตัวลื่นไหลสะดวก เป็นผู้ที่มีบุญฤทธิ์ที่เหล่าเทพยดาดูแลค้ำชู เดินทางไปไหนจะมีความสะดวกสบาย

9. สีน้ำเงิน หมายถึง สีของผู้ที่มีอำนาจวาสนาบารมีขั้นสูงสุด มีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ เป็นผู้นำผู้ปกครองมีทั้ง เดช บารมีเป็นที่เคารพน่าเกรงขาม ผู้ครอบครองเพชรนาคาสีน้ำเงินนั้นเปรียบเสมือนมีขุมทรัพย์มหาศาล มีพลังที่ป้องกันศัตรู ภัยอันตรายต่างๆทั้งแปดทิศ และมีเทพ พรหม เทวดาดูแลปกปักรักษาตลอดเวลา
สีชา สีดำ (สีพิเศษ) หมายถึง สีที่มีพลังอานุภาพสามารถที่จะยับยั่งอารมณ์ความคิดที่ใช้แต่อารมณ์ ทำให้มีสติ มีปัญญา มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ถูกที่ควร เหมาะกับผู้ที่ขาดแหล่งพึงพิงทางจิตใจหรือผู้ที่มีจิตใจเลื่อนลอยเศร้าเสียใจผิดหวังท้อแท้ และมีความพิเศษก็คือ จะมีอานุภาพทางมีโชคมีลาภและ การคุมกันอันตรายทุกๆ ด้านอย่างที่คาดไม่ถึง

*** หมายเหตุ... นพเกล้า ซึ่งจะประกอบด้วย เพชรนาคา 9 อันได้แก่ 1. สีขาว, 2. สีชมพู, 3. สีเหลือง, 4. สีม่วง, 5. สีส้ม, 6. สีแดง, 7. สีเขียว, 8. สีฟ้า 9,. สีน้ำเงิน(คราม) โดยปกตินั้นจะรวมกันได้ยากมาก ถ้าผู้ใดสามารถครอบครองได้ ถือว่าผู้นั้นมีบุญบารมีขั้นสูงสุด และอีกประการหนึ่ง สีของแก้วจะมีมากหลากหลายสี มีทั้งสีอ่อน สีแก่หรือสีเข้ม ซึ่งมากกว่า 9 สี ผู้ใดที่สามารถเก็บสะสมได้ทุกๆสีแล้ว จะเกิดเป็นศิริมหามงคลเป็นอย่างยิ่ง และแก้วแต่ละสีนั้นล้วนมีคุณค่าและมีความเป็นศิริมงคลอยู่แล้ว ผู้ที่มีบุญบารมีมากก็ล้วนมีแก้วแหวนเงินทองมากนั่นเองตามความเชื่อของคนมาแต่สมัยโบราณกาลแล้ว จึงไม่แปลกใจว่า จักรพรรดิ์ปกครองแผ่นดิน จึงมักมีผู้คนชอบถวายแก้วแหวนเงินทอง ด้วยตามความเชื่อแล้ว แก้วแหวนเงินทองของมีค่าล้วนควรคู่กับพระเจ้าจักรพรรดิ์หรือพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้นที่มีบุญบารมีคู่ควรกับของมีค่าประเภทแก้วแหวนเงินทอง ฉะนั้น บุคคลใดสามารถครอบครองเป็นเจ้าของได้มาก นั่นก็หมายความว่า เป็นผู้มีบุญญาบารมี อาจจะกล่าวได้ว่า เป็นสมบัติของตนมาแต่เดิมในภพชาติผ่านๆมาหรือในอดีตชาติก็กล่าวได้ไม่ผิด เพราะไม่มีเหตุบังเอิญในภพชาติแน่นอน ***

ถึงอย่างไรแล้ว วัตถุมงคลสิ่งทั้งหลายทั้งปวงในโลก ก็ล้วนเกิดขึ้นจากจิตศรัทธา อันเป็นเหตุที่มาของความคิดเห็นต่างๆ จะแตกต่างกันไปมากน้อยเพียงใดนั้น ก็ไม่สามารถจะไปขัดแย้งของผู้มีความเชื่อได้ เพราะคนที่เชื่อ เมื่อเชื่อแล้วก็ไม่ได้หมายว่าพวกเขาจะละทิ้งความดีอันเกิดจากความคิดและการกระทำไปได้ คนที่เชื่อและนับถือด้านนี้ ล้วนมีจิตมุ่งมั่นที่จะกระทำคุณงามความดีแทบทั้งสิ้น ฉะนั้น ความเห็นต่างจึงกล่าวได้ว่า ไม่เกิดประโยชน์อันใดเลยกับคนที่มีความศรัทธาต่อสิ่งเหล่านี้นั่นเอง เมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุอันใดก็ตาม อันจะนำความผาสุขมาสู่จิตใจของตนเองและคนอื่น และเมื่อคิดและเชื่อตลอดถึงได้กระทำลงไปแล้ว เกิดผลคือทำให้ส่วนรวมสังคมเกิดสันติสุขและสมานฉันท์ สิ่งนั้นก็ไม่ใช่เหตุแห่งโทษอันเลวทราม เป็นเหตุนำความดีความสุขมาสู่สาธารณะชน เหตุนั้นสิ่งนั้นก็คือเป็นสิ่งอันประกอบด้วยธรรมนั่นเอง เพราะไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อตนเองและคนอื่น เหมือนชาวพุทธทั่วๆนิยมกราบพระพุทธรูปซึ่งทำมาจากทองเหลือและวัสดุต่างๆมากมาย ก็ยังกราบยังให้ความเคารพนั่นเองเพราะเหตุผลนั่นคือเกิดจากความเชื่อ ส่วนศาสนาอื่นเขาก็มีความเชื่อ และเคารพกราบไหว้สิ่งต่างๆตามความเชื่อของเขาเช่นกัน ฉะนั้น ความโต้แย้งและขัดแย้งต่อผู้มีความเชื่อและศรัทธาต่อสิ่งใดๆ จึงไม่ก่อเกิดประโยชน์อันใดแถมยังจะเป็นการทำลายและทำให้เกิดความวุ่นวายไม่สงบมากกว่าต่อส่วนรวมของคนที่เชื่อนั่นเอง

 

เพชรพญานาค ที่มาบ้างก็ว่า ได้มาจากการทุบออกจากก้อนหิน และมีบรรจุอยู่ในเบ้าหินต่างๆ และหินนั้นก็มักอยู่ตามถ้ำตามภูเขา หรือตามแหล่งน้ำต่างๆ ตามป่าตามภูเขา นี่ก็ถือว่าได้เป็นแหล่งที่มาอย่างน่าอัศจรรย์ บางคนก็เรียกว่า หินศิลาคอน แต่ความเชื่อนี้ ก็ยังเป็นที่พิสูจย์กันยาก หากคนไม่เชื่อและไม่เกิดศรัทธาก็คิดว่า คนทำขึ้นมาและเอาไปซ่อนไว้ตามถ้ำหรือตามป่าตามภูเขาเป็นแน่แท้ นี่ก็แล้วแต่ใครจะคาดเดาและคิดตามความเห็นของตนเอง เพราะเรื่องความเชื่อนั้นถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลไม่มีใครสามารถจะไปหักห้ามได้

###มลเอาค้อนทุบเกือบชั่วโมงไม่ได้ เหมือนทุบเหล็กค่ะ เป้งเป้งๆ ต้องตั้งนะโม สามจบ และอิติปิโส ตามด้วยคาถาอัญเชิญพญานาคองคนาคาธิบดี และตั้งจิตเสี่ยงบารมี ขอให้เพชรนาคาที่ลูกได้เป็นภพภูมิดวงจิตที่ลูกฝากไว้เมื่อภพภูมิก่อน จะปวารณาตนตามสัจจะอธิษฐาน ขอวิบากกรรมอย่าตัดรอน ขอพญาศรีสุนันโทนาคราชผู้ก่อกำเนิดเพชรนาคาและวงศ์วารเผ่าพันธุ์พญานาคราชทั้งหลายทั้งสามแดนโลกธาตุ จงโปรดมาเป็นพยานมาอวยพรลูกนี้ให้ได้เพชรนาคาประจำสี วรรณะตน เพื่อเป็นเครื่องบูชา สักการะบูชา เพื่อปกป้องทำนุบำรุงพระศาสนาเพื่อสยามประเทศเพื่อรักษาขอบเขตพัทธสีมา เพื่อพระมหากษัตริย์ไทยตลอดจนพระอริยเจ้า ผู้มีบุญญาธิการ จนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่ ...ทุบสองครั้งออกมาเลย ข้างในเป็นทรายแห้งค่ะ ละเอียดระยิบระยับ เป็นมณีนาคาสีขาวเจ้าค่ะ ....

อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นว่า ศรัทธาหรือความเชื่อของคนนั้น เกิดขึ้นด้วยจุดประสงค์อะไร หากแต่ความเชื่อและศรัทธานั้นเกิดขึ้นเพื่อยังจิตยังใจของตนให้หันกลับมาคิดและกระทำคุณงามความดีมีศีลมีคุณธรรมนั้นก็ย่อมไม่ผิด ไม่จำเพราะจะไม่ผิดด้านศีลธรรมเท่านั้นยังไม่ผิดต่อกฏหมายบ้านเมืองอีกด้วย เพราะชื่อว่าการคิดและการกระทำคุณงามความดีนั้นล้วนแต่เกิดจากการมีศรัทธาเป็นที่ตั้งทั้งสิ้น ด้วยว่า เมื่อเชื่อว่าทำดีก็ย่อมจะได้ดีนั่นเอง ส่วนคนที่เชื่อว่า ทำดีไม่ได้ดีนั้นเขาก็มีความเชื่อไปทางนั้น ก็เลยทำให้ไม่คิดไม่เชื่อว่าเป็นคนดีเป็นคนซื่อสัตย์จะทำให้ดีขึ้นมาได้เลยไม่ทำเพราะไม่เชื่อและไม่ศรัทธาต่อการคิดและการกระทำของตนโดยอาจจะเชื่อว่าทำชั่วได้ดีมีถมไป ทำดีได้ดีแทบไม่มีไม่ได้ดีมีแต่ทำให้ตนเองฉิบหายวายวอดก็ยังมีเลย นี่คือความเชื่อของคนที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง

จบลงความหมายเพชรพญานาคคร่าวๆเท่านี้ค่ะ สาธุ

 

ได้ยินจากหูน่าจะเสียงจากภายนอกนะคะ
ช่วงนั่งสมาธิถ้าเราเผลอหลับ มักจะเป็นครูอาจารย์มาสะกิด
แต่นี่นั่งนาน แต่มารบกวนซะงั้น อาจมาทดสอบก็ได้มั้งคะ

 

ว้าว สีดำของเจน เจนตาลุกวาวตรง มีโชคมีลาภ
เจนหวังตลอด อยากเลี้ยงดูพ่อให้ดีที่สุด ให้สมกับที่พ่อเลี้ยงเจน
เจนมักจะขอ และ กำเพชรพญานาค นอนเสมอ เวลาที่ท้อ จนร้องไห้
บางที่ตัดพ้อต่อโชคชะตา ช่วงเวลาที่เงินสะดุด
และจะมีเหตุ ที่ได้เงินมาแบบ ฟลุ๊คๆ เจนถือว่าท่านช่วย
เจนเชื่อเสมอคะ บรรพบุรุษท่านอยู่เคียงข้าง

แต่โชคใหญ่ๆ ไม่ค่อยมี ส่วนมาก เล็กน้อย
พอเดินชีวิตต่อ
ทั้งชีวิต เจนหวังแค่ ดูแล คนในบ้านให้เขาไม่ลำบาก
ตอนนี้ ฝันเริ่มจะเป็นจริงคะ
ดีใจไว้รอ บ้านหลังใหม่ จะได้ไม่ต้อง
เสียเงินจ่ายค่าเช่าบ้านทุกเดือน ต่อไปก็เก็บเงิน
ให้พ่อ ให้ลูกสองคนสเน็กกับสตัง เรียนหนังสือ

พิมพ์ไปน้ำตาจะไหล คนอ่อนไหว แต่ต้องฝืนใจให้เข้มแข็ง
เบยย~~~~ เจนก็มีคำคมด้วยเด้อ อิอิ

 

วันนี้รวย

 

รวยๆ จ้า สาธุๆ

 

“ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน”

เอาใจช่วยค่ะ

 

ขอบคุณมากคะพี่มล สู้ๆ

 

แต่มลไม่เล่นหวยค่ะ
ไม่เคยได้โชค แต่ให้เลข ไปเรื่อยเปื่อย ขำๆ

เพราะการพนันไม่เคยให้ใครรวย
มลจะชอบเก็บตังค์ สะสมทรัพย์เสียมากกว่า
แต่เป็นหนี้ เพราะความสงสาร และใจอ่อนมากกว่าค่ะ

ทุกวันนี้ หนี ลูกหนี้ 55555555
บางทีขำขำ ว่า เออเราหนอ ช่างรวยจริง ลูกหนี้เรา
เจ้าของกิจการ ทั้งนั้น เคยเล่นแชร์ ตอนนี้เข็ด
เพราะกลายเป็นบีบคั้นพวกเขา ไปๆมาๆ
ยกหนี้ให้ แถมเงินให้ด้วย ให้จนไม่มีอะไรเหลือ

ไอ้นิสัยขี้สงสาร กับ ใจอ่อนนี้แก้ไม่หาย

กำเพชรนาคาไว้ “ ท่านพญานาคเจ้าขา โลกมนุษย์ใช้ตังค์นะเจ้าคะ เอาบุญไป ขอตังค์ให้หนูมลหน่อยจิเจ้าคะ หนูมลสัญญาว่า จะแบ่งเงินทำบุญไปเรื่อยๆเหมือนการภาวนาแน่นอนเจ้าค่ะ ”

 

แหะๆ หลับบ่อยค่ะ ...

 

ฟังคุณเจน แล้ว รู้เลยอะว่าเจออะไรบ้าง เหนื่อยแค่ไหน... แต่ไม่บอกใคร...

มลรักษาศีลห้า มลรักษาสัจจะ มลขออวยพรและเป็นกำลังใจให้คุณเจนนะคะ


“เหมือนแก้วมณีโชติงามไพโรจน์ยิ่งหนักหนา
คิดใดได้ขึ้นมาเห็นทันตาตามต้องการ
ขอให้คุณเจนและครอบครัวพบแต่สิ่งดีงามตลอดไปไม่ว่าจะทำสิ่งใด ขอให้ไม่ขัดข้อง ประสบความสำเร็จด้วยบุญกุศลที่สั่งสมมาด้วยความกตัญญู และความงามแห่งศีล นะคะ “

 

ขอบคุณมากคะพี่มล เป็นคำอวยพรที่อ่านแล้ว ปลื้มใจมากคะ
สิ่งที่หวัง ก็แค่อยากให้คนที่รัก ที่เราคอยดูแล
ให้เขาสุขใจ

 

*แปลกดีด้วยคน*
ไม่น่าเพราะเกิดจากความบังเอิญนะครับ

...แต่ที่สงสัยคือ
เห็นข่าวสารออกมามากมายว่า "เพชรนาคา"
ปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีแต่ของปลอม
เขาบอกขายเกลื่อนตามที่ต่างๆ
(ส่วนตัวผมก็ไม่เคยเห็นใครวางขายกัน)
...หรือมี...แต่ผมไม่เห็น

เนื่องจากเพชรนาคาเป็นของที่หายากมากๆ
แล้วจะเอาเพชรที่ไหนมาวางขายกันง่ายๆ
สนนราคาคงต้องสูงลิ่ว


แม้เพราะเหตุนี้...แต่ผมก็เชื่อว่า "มีจริง"
และ...คงไม่ใช่ใครจะครอบครองได้ง่ายๆ

เว้นแต่คนที่มีบุญเก่าติดตัวมา

...ส่วนที่ผมได้มานานพอสมควร
ผมมองปลอมไว้ตั้งแต่ 15 ปีที่แล้ว
แปลกตรงที่ว่า...
ผมไม่เคยคุยเรื่องพญานาค
กับผู้ใหญ่ที่นับถือคนนี้เลย
และไม่สนใจเรื่องราว "พญานาค"
แล้วท่านให้มาทำไม...
ยังจำภาพเย็นวันนั่นได้
...แกตื่นเต้นขณะกำลังเคาะหิน
...มาเป็นหินก้อนกลมๆเช่นรูปข้างบน
(ที่ว่าได้มาจากพระฤาษีในถ้ำ...จริงแน่นอน)
เพราะแกเป็นสายบุญเก่า...ชนิดมือหนัก
บริจาคทีเป็นหมื่นเป็นหลายแสน
....กึ่งน้องๆเศรษฐี

555 เรารวยสักเสี้ยวหนึ่งของแกก็ดีนะ
...วันนี้ วันที่ 16 ขอรวยด้วยคนนะครับ
**ท่านปู่นาคราช**

ที่เก็บเพชรนาคาไว้ถึงทุกวันนี้
(แทบจะลืมไปแล้ว)
เพราะ...เห็นสวยดี
และเพื่อเป็นที่ระลึก

ปล. ที่คุณมลบอกว่า "ข้างในเม็ดทรายแห้งๆ"
ไม่ทราบว่าจะรบกวนไหม
ถ้าจะซูมภาพใกล้ๆ ถ่ายให้ดูสัก 2-3 รูป
...เพื่อเก็บไว้ศึกษาได้ไหม

ขอบคุณครับที่เขียนให้อ่าน

 

องค์นี้ได้มานานละ ประมาณปี 51-53 นี้แหละ ขนาดประมาณลูกเทนนิส พระท่านให้มาตอนทำผ้าป่าไปถวายเพื่อสร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นวัดเล็กๆ ตั้งอยู่บนยอดเขาเกือบติดขอบชายแดนไทยกัมพูชา ตอนนั้นมีเวลารวบรวมปัจจัยน้อยมาก แค่ประมาณเดือนเดียวเอง อธิษฐานว่าถ้าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นประโยชน์ต่อพุทธศาสนิกชนสืบต่อไป ขอให้ระดมทุนได้ถึงแสนบาท แต่ถ้าไม่ก็ตามยะถากรรม ปรากฏว่า ได้แสนนิด ๆ ค่ะ

หลวงพ่อท่านมอบให้มาเป็นที่ระลึก ก็ตั้งไว้หน้าหิ้งงั้นๆ ละ คือไม่ได้ใส่ใจท่านเลย อีตาซ้ามีไม่รู้นึกยังไงนำลงมาจากห้องมาวางบนหลังตู้ซึ่งสูงจากพิ้นประมาณ 2 ม.กว่า แล้วพลาดหลุดจากมือหล่นโพล๊ะกับพื้นกระเบื้อง ผลก็คือ แตกค่ะ ยุบลงไปเลยครึ่งซม. แล้วก็วางไว้บนตู้อย่างนั้น...

อีกต่อมาประมาณ 2 ปี นำมาดูอีกทีปรากฏว่า ลูกแก้วซ่อมตัวเองขึ้นมาแบบว่าสมานเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน นิ้วสัมผัสไม่สะดุดมือเลย เพียงแต่ยังคงทิ้งรอยร้าวข้างในที่ยังมองเห็นได้จากสายตาอยู่ ลูกศรชี้ตามภาพบนเลยค่ะ

และเมื่อมาดูอีกทีแอบแปลกใจนิดหนึ่ง คือนอกจากจะซ่อมตัวเองขึ้นมาได้แล้ว ยังเป็นอย่างนี้ข้างในลูกแก้วอีกด้วย ตามภาพล่าง

เห็นเป็นภาพอะไรเอ่ย ?

 

ว้าว เหมือนว่าสมานแผลได้เลยคะ
สวยมากเลยคะพี่ เป็นสีเข้มสวย
ส่วนตัวชอบสีดำอยู่แล้ว
มาเจอลูกแก้วของพี่ สีแดงเข้มสวยมากคะ

 

พระ

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 8 ลำดับที่ # 153
nopphakan, post:

อีกเรื่องเรียกว่า การเห็นตัวเลข
ไม่ใช่ไปฝึกเพื่อให้เห็นเลข
หรือเพื่อเอาเลข หาเลข ทำเลข
อะไรนะ แบบนี้ไม่ใช่แนว

ซึ่งการเห็นตัวเลข
มีหลายวิธีในการปรากฏเป็นตัวเลข
ให้เราเห็น
มันไม่ได้ต้องฝึกอะไรหรอก
กำลังในการเห็นก็อารมย์
ประมานเท่าที่เจอผีนั้นหละ

จะตรงสุดและมา ๓ ตัว
คือเลขที่แบบที่ลอยมาในแบบ
โค้งๆทางด้านขวา เป็นแท่งสีเขียวใสไม่มาก
และลอยมาทีละตัว
แต่มันจะสลับกันไม่ตรงตามลำดับที่ออกแป๊ะ
หรือต้องเพิ่มลดในนั้นแค่ตัวเดียว
ถ้าการปรากฎแบบอื่นๆ
ไม่ว่าจะมีใครบอก จะรู้ ๒ ตัว
แต่จะไม่บอกบนหรือล่าง
นี่คือแบบทั่วๆ

ยกเว้นกรณีที่ เจ้าที่แถวที่เราอยู่
ชอบพอกัน ท่านมาบอกเป็นอีกกรณี
ที่ไม่รวมในวิธีทั่วไปแบบข้างบน

พอขำๆ เล่าได้ เอาพอฮาๆ
เพื่อความบันเทิงของชีวิตพอ ^_^