กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. เจไดหรือธิส

    เจไดหรือธิส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2017
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +359
    รอฟังด้วยครับ ท่าน จอมยุทธ์
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    อ้าว เจอแบบนี้ ต้องโม้เรื่องคาถาก่อนดีกว่า ๕๕๕
    หลานๆมาพูดอย่างนี้ เข้าทางพอดี...ได้โอกาศโม้เลย ๕๕
    เด่วของ คุณ ๙ ไว้ทีหลัง เพราะต่อไปเป็นแค่
    ในเชิงเทคนิค ไม่มีอะไรมาก ไว้เล่าทีหลัง...
    โม้ ให้รุ่นหลาน ฟังก่อนนะครับ ๕๕๕


    การกลัวสิ่งที่มองไม่เห็น แก้ด้วยการฝืน ๓ ถึง ๔ ครั้ง
    ไม่ว่ากิริยาใดๆก็ตาม กำลังของการฝืนจะเพียงพอ
    ที่จะทำให้ไม่กลัวในกิริยานั้นๆได้เอง.........เรื่องสิวๆ..

    และเคยสังเกตุอะไรไหม ในบทคาถา....
    ถ้าแปลเป็นภาษาไทย....เราจะพบว่า
    มักจะเป็นการสรรเสริญคุณความดีของท่านต่าง เพื่ออะไร ?

    ตอบ เพราะเป็นอุบายในการให้จิต เข้าถึงต้นกะแสที่ดีๆนั่นหละ
    จิตเป็นต้นกำเนิดพลังงานได้ ดังนั้นการจะเข้าถึงแหล่ง
    พลังงานที่ดีได้ ก็ต้องหาอุบายในการเข้าถึงนั่นหละ.....

    ชื่อไหมว่า เหล่าเทพเทวดานั้น
    ท่าน..ก็สวดแต่บทสรรเสริญคุณพระพุทธฯนั่นหละ.
    ส่วนตัวมีช่วงหนึ่ง นึกครึมอย่างไรก็ไม่ทราบ
    อยู่ดีๆ สงสัยนึกว่า ตัวเองเป็น ดารา เลยเอากล้อง
    มาตั้งถ่ายรูป เปิดโหมดวีดีโอ ไว้ถ่ายตัวเอง
    ตอนที่นั่งสมาธิในห้องพระ...ช่วงนั้นเหมือนบ้าพลังอยู่
    น่าจะ ๒ ถึง ๓ ปีแล้วมั่ง
    ถูก พระฯมากความสามารถ มากบารมี
    ความสามารถสูงท่านหนึ่ง
    ท่านย้ำและพูดว่า ฟังนะ...และกล่าวห้ามถึง ๓ ครั้งว่า
    ว่าห้ามไปเล่นเรื่องปรอทธาตุธาตุเป็นอันขาด
    ไม่งั้นจะกลายพันธ์ ๕๕๕
    นึกออกไหม ที่สีขาวๆ เป็นก้อนๆ ไม่ใช่แบบที่เค้าหุงนะ
    เล่นในที่นี้ คือ การเล่นแบบเรียกปรอท...

    ความจริงตอนนั้น ในนิมิต มาแล้วหละปรอทนะ
    แต่ว่า ยังแยกกันเป็น ๒ ส่วนอยู่ยังไม่ได้รวมกัน..
    ด้วยที่ท่านเตือนแล้ว เลิกก็เลิก ๕๕๕.....
    เลยเปลี่ยนแนว ขอได้ลองซักครั้งเหอะนะ ๕๕๕
    เลยเปลี่ยนมาลองใช้ ในการเรียก. พระธาตุดูบ้าง
    พระธาตุ สายพระป่า อย่างท่านที่ชัยภูมิ
    ท่านเรียกว่า ภูตอากาศ นะ...
    หลังจากที่ลองที่นั่งเกร็งกล้ามและทำได้แล้ว
    ในเวลา ๑๕ นาทีแล้ว ก็หายสงสัย
    แต่อย่างว่า วันนั้น เกิดห้าว นึกครึ้มอยากลองอีก
    เป็นที่มาของการตั้งกล้อง. ประมาณว่า เวลานั่งสมาธิ
    อาจจะได้เห็นอะไรแปลกๆ จะเหมือนอย่างที่ เจ้ ใบเต้ย
    ข้างบ้าน ที่ตอนแรกเข้าใจว่าเป็น นางตานี
    ที่อายุ ๑๙๐ ปีนางได้บอกไว้หรือเปล่า ๕๕๕
    จึงเป็นที่มา ของการได้ยินเสียงสวดมนต์เป็นกลุ่มนั่นแล

    คือ เสียงจะมาทันทีหลังจากที่เริ่มนั่งสมาธิ
    หรือสวดมนต์เสร็จในใจเสร็จ
    เพราะไปเปิดฟัง ตอนที่ส่วนตัวสวดมนต์จะไม่มีเสียงสวดมนต์มาแทรกเลย
    มันจะมีแต่เสียงคลื่นเฉยๆ ถือว่าไม่มีอะไร..
    และเสียงจะเริ่มขึ้น ทันที ตอนที่เริ่มนั่งนั้น
    เสียงดังกล่าวจะสวดดังต่อไปนี้
    เคยลองหา ไฟล์เสียงชุดนี้แล้ว ยังหาไม่เจอ
    และไม่แน่ใจว่า ได้ลบทิ้งไปหรือยัง
    เคยเอาไปให้ พวกน้องๆลองฟังมาแล้ว
    บางคนก็ได้ยิน บางคำก็กลัว บางคนก็ไม่ได้ยิน....

    หมายเหตุ ( สัญลักษณ์ _ แทนครึ่งจังหวะ และ __แทนหนึ่งจังหวะ และ การ พิมพ์ต่อกันแสดงว่า ท่องเร็วต่อกัน และ
    การเว้นวรรคแทนการเงียบ)

    นะ_โม__ตัส สะ_ภะ_คะ_วะ_โต__อะ_ระ_หะ_โต สัม__มา สัม__พุท ตัสสะ_ภะ_คะ_วะ_โต__อะ_ระ_หะ_โต สัม__มา
    สัม__พุท ตัสสะ_ภะ_คะ_วะ_โต__อะ_ระ_หะ_โต สัม__มา
    สัม__พุท ตัสสะ
    ประมาณนี้ ทำนองแบบนี้ หละ วนไปเรื่อย....
    เสียง ท่านที่นำสวดแบบที่เหมือนแป๊ะ บนโลกใบนี้นั้น
    ลองไปหา เสียงของ หลวงพ่อมีชื่อ ในอดีตที่ จ.อุทัยธานี
    ท่านนำสวดได้เลย จะเหมือนกันอย่างน่าประหลาดใจ....
    คือ ส่วนตัว มีโอกาส ได้มายิน ท่านนี้นำสวดภายหลัง
    น่าจะผ่านมาได้ซักปีกว่าๆ หลังจากที่ส่วนตัวได้ยินมา
    ตอนที่ไปเปิดไฟล์วีดีโอดู
    เลยเห้ย !!! ประหลาดใจมาก ทำไมเหมือนที่ตนเอง
    ได้ยินเสียงภพภูมิต่างๆ ที่ท่านมาสวดกันเป็นกลุ่มแบบแป๊ะๆเลย.
    ส่วนนี้โม้จบแระ




    และเคยส่งสัยไหมว่า คาถามบทนั้น บทนี้
    มักจะมีคำบรรยายว่า สวดแล้วเพื่อการนั้น
    เพื่องานนี้ จริงไหม ?

    ตอบว่า ไม่จริงทั้งหมด เพราะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบๆ
    หลายๆอย่างเช่น
    เช่น กำลังสมาธิใช้งานจริง , การเข้าถึงต้นกระแสนั้นๆ
    หรือ ทริคและเทคนิคต่างๆที่ปนไว้ในบทคาถานั้นๆ....
    ตลอดจนปลายทางของคาถาบทนั้น หรือ การไปใช้งาน
    ในทางด้านต่างๆนั้นเอง.........

    แต่โดยส่วนมากแล้วถ้าเป็น บทคาถาของพระเกจิต
    มีชื่อในอดีตแล้ว ปลายทางของคาถาจะเป็นไปดัง
    บทคาถาที่ท่านได้แต่งไว้นั้นเอง เพราะอะไร ??

    ตอบ เพราะการวาง วิถีของแรง หรือ ต้นกำเนิดของวิถีของ
    แรงหรือพลังงานนั้น ท่านได้วางไว้ให้จิตสร้าง ต้นกำเนิด
    ของแรงให้ส่งผลไปทางด้าน ที่ท่านได้บอกกล่าวไว้นั้นเอง
    ซึ่งตรงนี้ เราไม่มีความจำเป็นจะต้องไปรู้อะไร
    แต่ถ้า พอรู้ได้ เราจะทราบได้เอง เพียงแค่ได้ยิน
    เสียงของคาถา เราจะรู้ได้ว่า คาถาบทนี้ใช้เพื่อส่ง
    ผลทางด้านอะไร เพราะเรื่องของพลังงานนั้น
    วิถีของแรงในด้านต่างๆ จะเป็นเอกลักษณ์ของมันเอง.......


    ปล. พระคาถาจักรพรรดิ นะดีแล้ว...
    เพราะเป็นพระคาถาบทเดียวบนโลกใบนี้
    ที่สามารถสร้างให้จิตไปถึงวิถีทางด้าน บารมีได้
    เพราะอาศัยการสร้างสะสมด้วยการเชื่อมโยงเข้าถึง
    สิ่งๆต่างๆที่มองไม่เห็น ไม่ว่าภพภูมิใดๆก็ตาม
    เป็นเหตุหรืออุบายให้ ตัวจิตเข้าถึงเนื้อหาเดิมแท้ของจิต
    ดวงนั้นๆได้ด้วยตัวจิตดวงนั้นๆเอง..........
    ผลที่ได้คือ พวกความสามารถต่างๆไม่ว่าอะไรก็ตาม
    ที่จิตดวงนั้นๆเคยสร้างสะสมมา มันก็จะค่อยๆขึ้นมา
    ได้ของมันเอง


    โดยที่ไม่ต้องมานั่งเกร๊งกล้ามตรูดฝึกให้เมื่อยตุ้ม จนกว่า
    จะถึงในระดับที่ใช้งานทางจิตได้
    แล้วพอใช้งานได้แล้ว ก็ต้องมาใช้งานทางจิต
    จนกระทั่งอยู่ในระดับจิตเหนือจิต
    เพื่อให้การใช้งานเป็นอัตโนมัติแล้ว
    และ ก็ต้องมาทิ้งพวกความสามารถต่างๆเหล่านั้นอีก
    และมาเดินปัญญาต่ออีกรอบ
    เพื่อให้จิตกลับคืนสู่เนื้อหาเดิมแท้ของจิต และความสามารถ
    ที่จิตเคยสร้างเคยสะสมมา ถึงจะค่อยๆกลับขึ้นมา
    เหมือนพวกที่ใช้งานได้ทางจิตทั่วไป......

    ลองย้อนสังเกตุดูว่า คาถาบทเดียว สามารถข้ามขั้นตอนปกติ
    ที่พวกใช้งานทางจิตได้ กี่ขั้นตอน.........

    นี่หละ เค้าถึงเรียกว่า คาถาสายบารมี หรือ สายบุญฤิทธิ์นั่นหละ
    คำว่า บุญฤิทธิ์ ก็มาจากกิริยาที่ส่วนตัว เล่าเทียบกิริยา
    ต่างๆให้ฟังนั่นหละ.....เชื่อว่า หลายๆคนแม้แต่ที่เคารพนับถือ
    ท่านหรือแม้แต่สายตรงบางท่าน ก็อาจจะยังไม่เข้าใจ
    เรื่อง วิถีของแรงส่วนนี้......


    แต่มันมีทริค ในการให้เข้าถึงได้.......
    ซึ่งบังเอิญๆว่า มันจะไปตรงกับทริค
    ที่จะแนะนำ คุณ ๙ ต่อไป พอดี๊ๆ...
    อะไรจะบังเอิญป่านนั้น.....

    จบแระ เรื่องนิทาน ขี้โม้ ตอนนี้.......
     
  3. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    แต่เจนว่า เจนกับพี่เหมือนกัน
    เจนชอบตัวหนังสือแดงๆ ของพี่
    ต้องถูกรางวัลที่1
    (ตั้งแต่นานมาแล้ว ลอตเตอรี่เจนกะไม่เคยถูกเลยฮือๆ)
    ช่วงนี้เฉียดตลอด~~~~
     
  4. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    เสียดายเปิดดูไฟล์ไม่ได้คะอาจารย์
    แต่บันไดเลือนพญานาค สวยงามมากก
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ส่วนเรื่อง การฝึกในเรื่องโทรจิตนั้น
    จำเป็นจะต้องมี คู่ฝึกร่วมกันครับ....
    ส่วนตัวบอกก่อนว่า แล้วแต่จะชอบนะครับ
    ใครจะฝึกก็ฝึก และบอกไว้ก่อน
    ส่วนตัวถูกห้ามให้ฝึกเรื่องแนวๆนี้อยู่
    เพราะท่านบอกว่า ให้ทำเรื่องอื่นๆให้ได้ก่อน
    แต่ถ้ามีคนถาม พอจะแนะนำได้
    อีกอย่าง ก็ไม่ใช่การฝึกย้อนอดีตอะไร
    ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทำให้คนยึดภพยึดชาติได้ง่าย
    มันจะย้อนกลายมาเป็นวิบาก ต่อตัวผู้แนะนำได้
    เองอย่างคาดไม่ถึงนั่นเอง.....ถ้าแนะแล้ว
    ทำให้ผู้อ่านยึดมั่นถือมั่นครับ

    ดังนั้น ห้ามลืมสโลแกน เน้นฮา ได้ไม่ได้ช่างมัน
    เกิดหรือไม่เกิดก็ช่างมันไว้ให้มั่นด้วยนะครับ... ^_^

    ง่ายๆเลยก็คือ ต่างคนต่างจดเรื่องที่เราคิด
    ใส่กระดาษเอาไว้ เริ่มต้นจากทีระเรื่องก่อน
    แล้วลองถามกันว่า เมื่อกี้คิดเรื่องอะไรอยู่
    ก็มาดูว่า และก็ยื่นให้อีกคนดูว่า
    ตรงหรือไม่ตรงกับเรื่องที่เราเขียนเอาไว้หรือไม่
    ซึ่ง การที่ใครก็ตามทายผิดนั้นไม่ใช่ประเด็นหลัก
    เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาครับ....

    แต่สิ่งที่ควรจำก็คือ อารมย์ก่อนที่จะตอบคำถามอีก
    ฝ่ายหนึ่งนั้นเป็นอย่างไรนั่นเอง....
    ซึ่งยิ่งผิดบ่อย จะทำให้เราจำอารมย์ที่ผิดนั้นได้
    ว่า ครั้งต่อไป ถ้ามีอารมย์ก่อนตอบแบบนี้
    เราจะไม่สนใจในคำตอบนั้นเลย..........


    ทั่วไป เราจะเอาความรู้สึกแรก หรือ คำตอบแรกเท่านั้น
    ส่วนมันจะละเอียดหรือไม่ ก็ช่างมัน ไม่ต้องไปสนใจว่า
    จะต้องแป๊ะๆทุกอักษรนะครับ
    เช่น เราเขียนว่า ''จะไปธนาคาร เพื่อเบิกตังค์ หนึ่งพันบาท"
    ถ้าอีกฝ่าย บอกว่า ใช่เกี่ยวกับเรื่อง ตังค์หรือเปล่า
    เท่านี้ก็ถือว่า ใช้ได้แล้ว และก็ให้ เขียนเรื่องอื่นๆ
    อย่าเอาเรื่องเดิม หรือ มัวแต่บอกว่า ยังไม่ใช่ หรือ ผิด
    ยังไม่ตรง คืออย่าพยายามไปรอเพื่อให้อีกฝ่ายต้องตอบให้ถูก
    เพราะไม่งั้น มันจะกลายเป็น ปัจจุบัน เดาเรื่อยเปื่อยสญาน
    แทนที่จะได้ ปัจจุบันสญานนะครับ ๕๕๕๕๕

    คือ ถ้าได้ตอบซัก ๓ ถึง ๔ ครั้งแล้วยังไม่ใช่
    ให้บอกว่าช่างมัน เอาใหม่ และให้เขียนเรื่องอื่นๆแทน....
    อาจจะทิ้งช่วง ว่างๆ สดวกๆ
    หรือหาอะไรทำก่อนค่อยมาเล่นทายกันใหม่
    พอเข้าใจนะครับ.......
    พวกนี้เป็นเบสิคพื้นฐานทั่วไปนะครับ
    เอาแบบที่เล่าให้ฟังข้างบน ให้พอได้ก่อน



    ต่อมาเป็นในส่วนของเทคนิคคอลเทอม
    คืออุบายดึงให้จิตเป็นอัตโนมัติ
    หรือมีความสามารถแบบนี้เกิดขึ้นได้
    ตามธรรมชาติของมันเอง แบบชั่วคราว
    (คล้ายหลักการดึงจิตให้เป็นทิพย์ชั่วคราวแบบสวดมนต์นั่นหละ)
    เราก็ต้องอาศัย การเข้าถึงสภาวะแบบพวกนี้ไปก่อน
    แบบประมาณเฉียดๆ เฉียดบ่อยๆ มันก็อาจจะใช้งาน
    ได้บ้างในเวลาปกติ ตามธรรมชาติ
    แบบอัตโนมัติในการ ใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปนั่นหละ
    ใครจะไปรู้จริงไหม.....



    มาถึงช่วงสำคัญ ก็คือ เทคนิคคอมเทอม หรือ เทคนิคเฉพาะ
    บางก็เรียกทริค แล้วแต่จะเรียก

    ก็คือ ให้มาระลึกจุดที่ อยู่ตรงต่ำแหน่งลิ้นปี่ของร่างกายเราด้านหน้านะครับหรือ ต่ำแหน่งร่างกาย
    ที่ต่ำกว่าช่วงหน้าอกลงมาเล็กน้อย

    ให้ย้อนเข้าไปนับจากผิวหนังลึกเข้าไปผ่านผิวหนัง
    ตรงลิ้นปี่เข้าไปประมาณ ๑ ซม.
    ให้คิด หรือ ระลึก หรือ กำหนดจากตรงตำแหน่งที่บอก
    ให้เสมือนกับว่า มันเป็นศูนย์กลางและมีอยู่จุดเดียว.......


    แล้วเราก็ทำการเกร็งกล้ามเรา ด้วยการกำหนดออก
    จากจุดเดียวตรงตำแหน่งศูนย์กลางนี้ ให้มันขยาย
    ออกไปแบบทุกทิศทุกทาง ไม่ต้องสนใจว่ามันจะกว้าง
    แค่ไหน ขอเพียงแต่ให้มันได้เหมือนกับว่า ศูนย์กลางนี้
    มันถุกขยายออกไปเป็นพอ
    แรกๆจะเหนื่อยหน่อยเรื่องธรรมดา.....

    ให้ทำแบบนี้ให้ได้ ก่อนที่จะทำการตอบ
    ว่า อีกคนนั้น เค้าได้จดเรื่องอะไรไว้ในกระดาษทุกครั้ง
    โดยให้ทำ โดยไม่ต้องสนใจว่า เราจะได้คำตอบหรือไม่ได้
    เด่วอนาคตมันจะมีพัฒนาการของมันได้เอง...............

    หลักการนี้ ใช้ร่วมกับตอนสวดบทคาถาจักรพรรดิ์ได้เลย
    ซึ่งจะทำให้การเข้าถึงพลังงานไปได้เร็วยิ่งขึ้นกว่า
    แบบก่อนหน้า แต่บอกเลยว่า มีหอบรับประทาน.....


    ซึ่งมันเป็นหลักการเดียวกันเวลาจะใช้สื่อสารกับทาง
    ภพภูมินั่นหละ(ส่วนนี้เล่าให้ฟังแต่ไม่แนะนำให้เอา
    ไปใช้ทางด้านนี้นะ ยกเว้นว่า จะไว้คุยสื่อสาร
    กับญาติๆ สายเลือดเราเอง
    คนที่ใกล้ชิดเราเองที่เปลี่ยนภพภูมิไปไม่ว่ากัน
    ทำได้แต่อย่าบ่อย เพราะการจะเปลี่ยนพลังงาน
    มาเป็นการสื่อสารนั้น ในบางระดับต้องใช้พลังงานมาก
    ถ้าเราไม่อุทิศให้ท่านๆเหล่านั้นก่อนที่เราจะสื่อสาร
    อาจจะกลายเป็นเงียบกริ๊บ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น..)

    จบแระ เรื่องโม้ค่ำนี้.......



     
  6. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    อาจารย์นพคะ
    เจนท่องคาถาพระมหาจักรพรรดิได้แบบไม่ต้องเปิดหนังสือดูแล้วคะ
    แต่ทีนี้
    เวลาที่เจน นอนภาวนา ท่องไปได้ 4-5บทแล้ว
    จากนั้นตะกุกตะกักและบางที่ ลืม
    ต้องดึงสติ ให้นึก และท่องใหม่
    แล้วจากนั้นหลับไปเลย
    พอรู้ตัวว่าตื่น ก็ท่องต่อ
    เจนทำแบบนี้ จะบาปไม่คะอาจารย์
     
  7. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    โห่ว ~~~ อ่านถึงตรงนี้ ยอมรับว่าขนลุกมากคะอาจารย์
    เพราะวันที่เจนฝันถึงปู่
    วันนั้นก่อนนอน สวดมนต์เจนสวดมนต์ปกติ
    และอุทิศบุญให้ทุกภพภูมิ และบรรพบุรุษ
    แถม (เจนแอบ ขอเจอท่านๆ ก็มีพญานาค บรรพบุรุษต่าง)
    ที่ขอเจอ อยากลองเจอแบบ ตาเนื้อ จะจะตา ป่าวลองของนะคะ
    ไม่ไม่สำเร็จ ~~~ (แอบกลัวคะแต่อยากเจอ) แค่รู้สึกเหงา
    อยากมีคนให้ระบาย
    เวลาที่เจน เศร้า ท้อใจ ทะเลาะกับพ่อ เจนมักจะอธิษฐานแบบนี้เสมอ
    สุดท้าย เจอปู่ในฝันคะอาจารย์

    ปล…… เจนท่องบทพระมหาจักรพรรดิ ตลอดแล้วคะ
    แบบว่า จำขึ้นใจแล้วคะอาจารย์ ทำตามที่อาจารย์สอน
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010

    ไม่บาปหรอก ถ้าท่องในขณะอยู่ท่านอน
    การตะกุกตะกัก เป็นเรื่องธรรมดา
    เพราะตัวจิตมันกำลังขึ้นๆลงๆหรือเปลี่ยนคลื่นความถี่อยู่
    และอีกอย่าง เราไม่ได้อยู่ในโหมดที่นั่งสวดมนต์
    หรือตั้งใจจะสวดมนต์. ส่วนนี้จะ
    ต้องการเพื่อให้จิตเกิดความสงบ....
    ด้วยการโน้มให้อยู่กับบทสวดนั้นๆ

    อุบายการสวดมนต์ท่านอนแล้วหลับก็คือ
    การทำให้จิตสงบ ด้วยการหลับแบบในฌาน
    ระดับปฐมฌานแบบมีตัวกระทำ......

    เพราะว่า ทุกคน เมื่อคลื่นความถี่ถึงระดับปฐมฌาน
    มันจะหลับอยู่แล้วทุกคนเป็นปกติ

    แต่ไม่ใช่ว่า
    การนอนหลับนั้น ทุกคนที่หลับจะหลับในฌาน
    แม้ว่าคลื่นความถี่จะระดับเดียวกันก็ตาม
    เพราะการหลับในฌานนั้น มันต้องมีตัวกระทำก่อน
    ไม่ว่าจะสวดมนต์ในใจ ฟังบทความธรรมะ
    ฟังเสียงสวดมนต์ จิตมันถึงจะเข้าถึงกิริยาของ
    คำว่าฌานได้.....คือ ค่อยๆลดคลื่นความถี่ลงมา
    แบบมีระบบ ไม่ใช่แบบเหนื่อยแล้วหลับหรือหลับเลย
    มันเป็นการหลับพักผ่อน ตามความต้องการของร่างกาย
    แบบปกติทั่วไป

    และการนอนสวดมนต์แล้วหลับนั้น
    เป็นอุบายดึงจิตให้เข้าสู่ความเป็นทิยพ์ แบบไม่ให้หลุด
    จากสภาวะนี้จนกลับมาสู่สภาวะการตื่นนอนปกติ
    (นึกตามนะ คลื่นสูงสุดคือ คลื่นตื่นทั่วไป ตามมาด้วยคลื่น
    จิตเป็นทิพย์ที่เห็นผีเห็นนามธรรมได้ หรือ คลื่นฝัน
    และตามด้วยคลื่นหลับ) ถ้าคนที่หลับปกติทั่วไป
    จะลดจากคลื่นปกติมาคลื่นหลับเลย....แล้วถ้าเกิด
    คลื่นมีการเพิ่มมาคลื่นเห็นผี ต่อไปจะพยายามรู้สึกตัว
    จนกระทั่งตื่น หรือกลับไปสู่คลื่นตื่น จึงเกิดอาการเหนื่อย
    แหกๆ เหงือตกนั่นหละ ยิ่งถ้ามีอาการคล้ายผีอำ....

    การนอนสวดมนต์นั้น ก็จะใช้อุบายในการลดจากคลื่น
    ตื่นนอนปกติ ลดลงมาคลื่นหลับ แต่ว่า การสวดมนต์นั้น
    ผลของบทสวดต่างๆนั้น นอกจากจะเป็นอุบายให้จิต
    เข้าสู่การหลับในสภาวะฌานแล้ว

    ยังจะเป็นส่วนที่ช่วยให้เมื่อหลับไปแล้ว
    ถ้าเกิดการหลับ แล้วเกิดว่า คลื่นยังย้อนขึ้นมา
    ยังคลื่นจิตเป็นทิพย์ หรือคลื่นเห็นนามธรรมแล้วนั้น
    จะยังสามารถรักษาให้จิตมีกำลังย้อนกลับคืนกลับสู่
    คลื่นหลับได้ โดยที่ไม่ขึ้นไปถึงคลื่นที่ทำให้ตื่น
    ดังนั้นหากเราลองสังเกตุดู
    มักจะพบว่า ถ้าเราสวดมนต์แล้วหลับ
    ถ้าดันเกิดฝันอะไรขึ้นมา
    เราก็จะยังหลับต่อไปได้นั่นเอง....


    ดังนั้น

    ถ้าเราหลับไปแล้ว....
    พอระลึกรู้ตัวได้ว่าลืมสวดมนต์นั้น
    แต่ที่สำคัญคือห้ามลืมตาเป็นอันขาด..
    และ ห้ามมาระลึกที่จะท่องคาถาต่ออีกไป
    เพราะมันจะทำให้คลื่นความถี่ของจิตเรามันสู่สภาวะการตื่น
    มันจะกลายเป็นว่า จะนอนหลับได้ยาก...

    ให้เราปล่อยไปเลย มันจะหลับต่อก็ช่างมัน
    เด่วผลจะเกิดได้จากการที่เราเฉยๆไม่ลืมตา
    แล้วนอนหลับต่อนั่นหละ.....

    พอเข้าใจเนาะ.... ^_^
     
  9. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    ว่าแล้วไง~~~ เจนฝืนท่องต่อคะ ทีนี้หลับยากเลย
    นี้เองสาเหตุ นอนไม่หลับ
    ที่แท้ เจนทำฝึดวิถี เอง
    ขอบคุณมากคะอาจารย์ ต่อไป หลับแล้ว จะไม่ฝืนท่องต่อ 5555
     
  10. ธีรนาฎ

    ธีรนาฎ สิ่งใดหนอ ที่เฝ้าคอยตามหา...

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +486
    จะพยายามฝึกน้ะค่ะ ขอบคุนค่ะ :)
     
  11. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,333
    ค่าพลัง:
    +4,793
    ขอโม้ มั่งกว่า เวลาผมนั่งสมาธิที่ Office เนี่ย พอถึงจุดที่จะ คร่อกๆ ฟรี้ๆ ก็มักจะมเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น กล่าวคือ รอบตัวผมมันเหมือนจะเปลี่ยนเป็นอีกมิติ ที่ทับซ้อนกัน มีป่ามีเขา มีกลิ่นไอดินมีเสี้ยงนกร้อง มีเสียงลมฟึ่บๆ หยั่งกะห้วยขาแข้งยังไงหยั่งงั้น จะเกิดขึ้นแปปนึง ก่อนที่จะหลับคาสมาธิครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2018
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ถ้านั่งในที่ทำงานหรือของีบ
    ในที่ทำงานซักพัก มักจะเป็นแบบนั้นหละ
    เพราะร่างกายมันเพลียร่วมด้วยส่วนหนึ่ง
    และพอจิตมันมาคลื่นเห็นนามธรรมได้
    แต่กำลังมันไม่ถึงที่จะตื่น
    เพราะมันเริ่มดึงเข้าโหมดพักผ่อน
    แล้วก่อนหน้า และด้วยที่มันไม่คุ้น
    กับการระลึกตัดนิมิตต่างๆ
    มีแต่ตามๆปล่อยๆจนชิน
    กำลังสะสมที่จะดึงให้ระลึกจนตื่น
    จะไม่เพียงพอนั่นเอง
    ยกเว้นถ้าร่างกายพักผ่อนเพียงพอแล้ว
    ถึงจะลืมตาตื่นได้
    ก็จะเป็นแบบ Higtmax นั้นหละ

    ถ้าสมมุติระลึกได้ทันตั้งแต่เห็นนิมิตได้บ่อยๆ
    เราจะลืมตาตื่นเลย ส่วนจะคร๊อกๆต่อ
    หรือไม่ ก็ตามอัธยาศัยเลย แล้วถ้าคิดจะนอน
    ต่ออาจจะมียาวกว่าปกติเล็กน้อย

    ประมานที่เล่าให้ฟังนี่หละ

     
  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +4,694
    ทริคสวดมนต์ข้างล่างนี้
    ...รอคอยมานานครับ
    "สุดยอด และขอบคุณครับท่าน"



    "....๑.ควรเลือกบทสวดมนต์ที่เราชอบ ไม่ยาว...."
    ...ตรงตามจริตของผมเลยครับ

    "....๒.เวลาท่องคาถา ให้ท่องไปเลยอย่าสนใจวรรคตอน
    เพียงแต่เวลาที่ท่อง ลิ้นกับปากห้ามขยับ...."

    --ทริคข้อนี่ พึ่งทราบจากอจ. เมื่อกี้ลองแล้วจิตสงบจริงๆ น่าจะดึงจิตให้เป็นทิพย์ตามที่ว่าได้ง่าย
    **แต่ไม่เข้าใจคำว่า"อย่าสนใจวรรคตอน??**


    "....๓.ถ้าท่องในท่านอน ก็ให้หลับไปเลยเด่วเห็นผลเอง...."

    --ปกติเป็นคนหลับง่ายภายใน ครึ่ง-2 นาที...คงไม่ได้ลอง
    และเพราะก่อนล้มตัวลงไปนอน จะนั่งสวดมนต์ก่อน


    "....๔.คนอื่นๆจะไม่รำคาญ เพราะเราไม่ได้ออกเสียง ๕๕...."

    --เคยไปพักที่บ้านญาติ ตี 4 ได้ยินเสียงสวดมนต์ดังถึงชั้น3 ตอนแรกนึกว่าใครตั้งนาฬิกาปลุกไว้..บอกตรงๆรำคาญเหมือนกัน หรือแกคิดว่ายิ่งดังยิ่งดี
    ...ไม่ทราบว่าบาปไหมถ้าเรารู้สึก"(แค่)รำคาญ"

    "....๖.ถ้านั่งสวด ให้มองเหนือนิ้วกลางที่พนมมือประมาณ ๕ ถึง ๑๐ ซม. ทำตาให้นิ่งๆ...."
    --ไม่ทราบว่าพนมมือให้ความสูงประมาณไหน(คาง-จมูก-ตา)
     
  14. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +4,694

    เช้านี้ได้ทริคเด็ดเรื่องโทรจิต...จากท่านอจ.นพ
    ไว้ 1-2 วันนี้จะรวบรวมตั้งแต่เริ่มต้นที่คุยเรื่องโทรจิต
    ...จัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน

    ...ไม่ทราบว่าการคาดเดา(คิขุเดาสญาณ)ว่า...
    มีคนกี่คนอยู่ในลิฟท์ หรือใครมาเคาะประตูเรียก
    เป็นศาสตร์เดียวกันกับ "โทรจิต" หรือไม่
    และหรือการฝึกน่าจะคล้ายๆกัน ก็คือ...

    "....ให้มาระลึกจุดที่ อยู่ตรงตำแหน่งลิ้นปี่ของร่างกายเรา
    ด้านหน้านะครับหรือ ตำแหน่งร่างกาย
    ที่ต่ำกว่าช่วงหน้าอกลงมาเล็กน้อย

    ให้ย้อนเข้าไปนับจากผิวหนังลึกเข้าไปผ่านผิวหนัง
    ตรงลิ้นปี่เข้าไปประมาณ ๑ ซม.
    ให้คิด หรือ ระลึก หรือ กำหนดจากตรงตำแหน่งที่บอก
    ให้เสมือนกับว่า มันเป็นศูนย์กลางและมีอยู่จุดเดียว....

    แล้วเราก็ทำการเกร็งกล้ามเรา ด้วยการกำหนดออก
    จากจุดเดียวตรงตำแหน่งศูนย์กลางนี้ ให้มันขยาย
    ออกไปแบบทุกทิศทุกทาง ไม่ต้องสนใจว่ามันจะกว้าง
    แค่ไหน ขอเพียงแต่ให้มันได้เหมือนกับว่า ศูนย์กลางนี้
    มันถุกขยายออกไปเป็นพอ
    แรกๆจะเหนื่อยหน่อยเรื่องธรรมดา.....

    ให้ทำแบบนี้ให้ได้ ก่อนที่จะทำการตอบ...."


    ขอบคุณมากครับ

     
  15. หนุ่มโชคชัย

    หนุ่มโชคชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +4,442
    ไม่เอามาฝากเฮียด้วย ก็เป็นเช่นนี้แล อิ อิ
     
  16. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    477
    ค่าพลัง:
    +1,205
    สวดคาถาจักรพรรดิจะออกเย็นๆหน่อยเวลาสวดก่อนจะนึกถึงภาพหลวงปู่ดูไปด้วย แต่สวดคาถาเงินล้านจะออกร้อนๆหน่อย รู้สึกอย่างงั้น สงสัยจะร้อนเงิน...ห้าห้า เคยอ่านก่อนสวดให้นึกถึงพระพุทธเจ้าพระพุทธกัสสปก่อน แต่เคยฟังมาอีกคนบอกว่าให้สวดแล้วมโนภาพให้คาถาเป็นทองคำมาล้อมตัวไว้ก่อนไปเสี่ยงโชค เรื่องมโนนี่งานถนัดได้ทุกอย่าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2018
  17. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    เจนกินเผื่อเฮียไงคะ ไป4จานเลย คนเดียวเน้นๆ
     
  18. หนุ่มโชคชัย

    หนุ่มโชคชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +4,442
    อ้อ มิน่าล่ะ เฮียก็ต้องเข้าห้องน้ำเหมือนกัน 55555
     
  19. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    วันนี้ มาเปิดอ่าน ทริค ที่อาจารย์นพสอน
    ตั้งแต่แรกๆ เลยคะ มีความรู้สึกว่า
    พลาด อะไรไป บ้าง
    ตามขั้นตอน หรือ ข้ามอะไรไปบ้าง

    เมื่อคืนนี้ก็สวดมนต์ และ อุทิศบุญให้ภพภูมิ
    ทำตามอาจารย์นพสอนคะ
    จะว่าไปแล้ว เจนจำที่ฝันไม่ได้เลย ~~~ฮือๆ
    อุสา พยายามจดจำเพื่อมาถามอาจารย์
    แต่ลืมไปเลย และสลัดความจำนี้ทิ้งไม่ได้
    มันตะหงิดใจคะอาจารย์ เจนรู้แค่ว่า
    เป็นความฝันที่เกี่ยวกับพญานาค มีบ่อน้ำ เป็นบ่อ
    แบบว่า บ่อ สร่าง เขาเรียกไรอ่ะ ที่มันลึกๆลงไป
    มีบุคคลอายุมากปริศนาอยู่ที่ปากบ่อกับเจนนี้แหละคะ
    เขาเอาอะไรให้เจนไม่รู้คะ ลืม
    ลืมเลยยยยย อัลไลเนี่ย~~~~

    จากนั้นภาพก็ตัดมาที่ ญาติพี่น้องทางพ่อ
    แต่คราวนี้ไม่มีปู่ย่า มีแต่ อา ทั้งหลาย
    เถียงกับอา (เจนจะพยายามลดแรงแค้นในใจ)
    เถียงเพราะทางเขาอ่ะ เห็นแก่ตัวเอง ไม่นึกถึงคนรอบข้าง
    และทำทุกอย่าง เพราะผลประโยชน์ เจนเลยเถียงใหญ่เลย
    เจนไม่ชอบเลย ที่ฝันถึงพวกเขา ทั้งที่เจนไม่นึกหา
    แต่มักจะฝันถึง เวลา ขออธิษฐานถึงบรรพบุรุษ
    และเหมือนว่าอา จะเอา กำไล สร้อยข้อมือคล้ายๆ แหวนและมีสร้อยยาวๆ
    คล้ายของคนอินเดียใส่กัน เป็นทองแท้ ให้เจนมา
    แต่เจนรับมา แล้วพูดกับอา เหมือนว่า
    ไม่ต้องให้เพื่อที่จะสร้างสถานณการให้เจนเป็นคนผิดหรอก
    เจนไม่เอา และคำพูดไม่ดีของอา เจนบันทึกใส่มือถือไว้ละ
    พูดไปวิ่งไป นึกภาพคนวิ่งสองคนคุยกันมั้ยคะ 555
    ตื่นมา เจนรู้สึกแย่มากๆ เจนไม่อยากมีความรู้สึกนี้
    เจนจะไม่มีอคติกับพวกเขาแล้ว และ อยากตัดทุกๆอย่าง
    ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา
    เจนขอคงไว้แค่ ปู่ย่าอยู่ในใจก็พอ
    ขนาดฝัน พวกเขายังตามมาหลอกหลอน
    คงเพราะเจนรักพ่อห่วงพอหวงพ่อมาก

    อาจารย์นพคะ เจนจะลดแรงพวกนี้ลงยังไงดี
    เจนหวงพ่อมากเลย อะไรที่ทำให้พ่อเจนเสียใจ
    หรือเป็นเรื่องที่ พ่อเจนเสียเปรียบ เจนจะแค้น พวกคนพวกนั้นมาก
    ไม่ว่าจะกับใคร แม้กระทั่ง พี่น้องของพ่อ
    เพราะพ่อเจนดีมาก และต้องมาเสียใจ เจอเหตุการณ์แย่มามาก
    เจนเลยแค้นแทนพ่อ และเจนตัด ความรู้สึกนี้ไม่ได้เลย
    วันนี้มาร่ายยาวหน่อย
    เจนไม่มีแนวทางจะไปเลยคะอาจารย์

    พ่อมักจะพูดว่า เจนเวลาโมโห เหมือนยักษ์
    เจนเกลียดความเอาเปรียบ
    และเจนมักจะ รู้สึกโมโห มาก ถ้าคนที่เจนรักเคารพ
    ถูกเอาเปรียบ

    เจนจะต้องหนีไปป่า ดีมั้ยคะ
    ป่าช้าไม่เอา กลัวผี
    ป่าดีดีก็กลัวทาก กลัวงู
    โอ้ย ไม่เข้าใจอารมณ์นี้เลย
     
  20. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,772
    พอพูดถึงบ่อ
    เคยฝันนานมาแล้ว ว่า มีบุคคล2คน
    มีความเกี่ยวข้องพญานาค (มีตัวตนจริง)
    มาทักทายเจน (ซึ่งชีวิตจริงไม่เคยเจอกันเลย)
    เขามาหาเพื่อนจะให้ตัวเจนเองนี้ ไปเป็นศิษย์เขา
    ศิษย์ในความคิดเจน คือเขาคืออาจารย์ เจนคือศิษย์
    ถ้าตามหลักจริงๆในชีวิตจริง เจนคงต้องยกขันครูแน่
    เขามาเยี่ยมเจนถึงบ้าน แต่บ้านหลังที่ฝันว่าอยู่นี้
    มันเป็นบ้านของปู่ย่าเจน เขามาหา มาเยี่ยม
    จะมาทำพิธีบางอย่างด้วย แต่จากนั้นเขาไม่รอ
    เขาขอกลับแล้ว
    เจนเลยถาม จะกลับแล้วหรอคะ ไม่รอพบอาจารย์ของเจนหน่อยหรอ
    ภาพที่เห็น เป็นคนแก่ ชาย ผอม ตัวเล็ก อายุ60ขึ้นแน่
    อาจารย์เจนท่านนี้ จะเป็นคนที่มาทำพิธีเปิดบ่อให้เจนคะ
    ซึ่งเจนคุยกับเขา ภาพลักษณ์ของอาจารย์ท่านนี้ก็ปรากฏมา
    แต่จากนั้นไม่ได้ติดใจคิดต่อ ตื่นมาก็มีบ้างที่นึก
    จากนั้นก็ลืมไปเลย
    พอเมื่อคืนนี้ฝันถึงบ่อสร่างน้ำ เจนก็มานึกฝันนี้ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...