โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

ขับรถต้องระมัดระวังกันหน่อยนะครับ เราไม่ประมาทแต่คนอื่นขับประมาทมาปาดหน้าก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดดิคได้ครับ ยังดีว่าสมาชิกท่านนี้กับครอบครัวไม่เป็นอะไรมาก เจ็บจากแรงกระแทกนิดหน่อย ขอให้หายไวๆนะครับ

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

#อภินิหารผ้าจีวรหลวงปู่..
คุณเจษฎาได้เล่าประสบการณ์นี้ให้ฟังว่า เมื่อปี 2547 สมัยยังเป็นทหาร ทางการได้ส่งกำลังทหารจากค่ายกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 11 จ.ระยอง ไปผลัดประจำการหน่วยลาดตระเวณที่ จ.ปัตตานี จำนวน 30 นาย แต่คุณเจษฎาไม่ได้ถูกเรียกตัวด้วย แต่ด้วยความที่เป็นห่วงเพื่อนๆ จึงได้อธิษฐานขออนุญาตนำผ้าจีวรของหลวงปู่พิศดูมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆแจกให้กับเพื่อนๆทหารในหน่วยทุกคนที่ลงพื้นที่นราธิวาส เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
หลังจากลงไปอยู่ปฏิบัติหน้าที่แล้ว จนมีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่หน่วยลาดตระเวนชุดนี้ลงพื้นที่ ได้มีคนร้ายลอบวางระเบิด แรงระเบิดเสียงดังสนั่น..!!! กินพื้นที่เป็นวงกว้าง เมื่อทุกอย่างสงบลงแล้ว ได้หันกลับไปดู ก็ปรากฏว่าจุดที่คนร้ายวางระเบิดก็เป็นจุดที่ทหารกลุ่มนี้เพิ่งเดินผ่านมายังไม่ถึง 1 นาทีก่อนระเบิดจะทำงานนี่เอง เข้าใจว่า..ช่วงที่เดินผ่านจุดวางระเบิด คนร้ายพยายามกดชนวนระเบิด แต่ระบบกลับทำงานขัดข้อง เมื่อทหารกลุ่มนี้พ้นวิถีอันตรายแล้วระเบิดจึงได้ทำงาน ทุกคนจึงปลอดภัยไม่ได้รับอันตรายจากแรงระเบิดครั้งนี้เลย..
เชื่อว่าด้วยอำนาจพระพุทธคุณของผ้าจีวรของหลวงปู่พิศดูชิ้นเล็กๆนี้ ช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย นอกจากเหตุการนี้ทหารบางนายก็ยังเจอกับเหตุการอื่นๆอีก แต่ก็แคล้วคลาดมาตลอด จนการทั่งหมดวาระจึงกลับมาอย่างปลอดภัยทุกนาย..
ข้อมูลคุณSira pop

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

ew108299036th ปากเกร็ด

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับ หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง
ถูกใจเพจแล้ว · 10 พฤศจิกายน 2016 ·

#ความอัศจรรย์ใจของผู้ป่วยที่ใกล้ตาย และความเมตตาขององค์หลวงปู่
เรื่องที่ผมจะเล่านี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมานี้เอง เป็นประสบการณ์ของคุณน้าของรุ่นน้องของผม ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ รุ่นน้องผมเล่าไว้ดังนี้ครับ..
คุณน้าของน้องคนนี้ป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ว่าสติ และกำลังใจของคุณน้ายังสมบูรณ์ดีอยู่ พูดจาโต้ตอบกันรู้เรื่อง ไม่มีหลงลืม แต่ว่ามีปัญหาบางอย่างคือ คุณน้าชอบเห็น และฝันเห็นวิญญาณที่โรงพยาบาลจะมาชวนไปอยู่ด้วยเสมอๆ บางครั้งคุณน้าก็เห็นวิญญาณมายืนอยู่หน้าประตูห้อง บอกว่าเขามาชวนอีกแล้ว แต่พอญาติๆหันไปมองก็ไม่เห็นมีใครอยู่ เป็นอย่างนี้มาหลายวันแล้ว ซึ่งรุ่นน้องของผมคนนี้เขาก็มีความเชื่อในเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เพราะเคยเข้ากราบครูบาอาจารย์เก่งๆมาหลายรูป และเคยปฏิบัติธรรมมาพอสมควร ซึ่งหนึ่งในครูบาอาจารย์ที่เคยไปกราบเหล่านั้น ก็มีองค์หลวงปู่พิศดูอยู่ด้วย.. น้องคนนี้ก็มีความศรัทธาในองค์หลวงปู่พิศดูมาก จึงได้ลองเอารูปคาถาป้องกันภัย ขององค์หลวงปู่พิศดู มาวางบนหัวนอนของคุณน้า และอธิษฐานว่า.. " ขอบารมีหลวงปู่ช่วยคุ้มครองน้าของผมด้วย ขออย่าให้มีภูตผี วิญญาณต่างๆมารบกวนเลย " ซึ่งตั้งแต่รุ่นน้องผมเอารูปคาถาป้องกันภัยของหลวงปู่มาวางบนหัวนอนของคุณน้า คุณน้าก็ไม่เคยพบเจอวิญญาณมารบกวนอีกเลย..
จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง อาการป่วยกำเริบมาก จิตของคุณน้าได้หลุดออกจากร่างไป ซึ่งก็ทำให้พบเจอบุรุษ 2 คน นุ่งผ้าแดงแบบคนโบราณ ตัวสูงใหญ่มากๆ ซึ่งใหญ่กว่าคนปกติมาก(นายนิรยบาล) มาคอยรับเอาวิญญาณของคุณน้าไป ซึ่งชายดังกล่าวได้พาคุณน้าลงไปยังเมืองนรก ซึ่งมีแต่การทรมานสัตว์โลกที่กระทำบาปกรรม ที่ตายแล้วด้วยจิตอันเป็นอกุศลกรรมต่าง.. ฯลฯ ซึ่งคุณน่าท่านนี้เห็นแล้วก็ตกใจและกลัวมากๆ จึงได้รู้ว่า ตนเองได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว ก็เลยนึกเสียดายว่า ยังไม่ได้บอกลาลูกหลาน และญาติๆเลย และตนเองสมัยมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ค่อยได้ทำบุญทำทาน แต่ว่าเป็นคนชอบไหว้เจ้าเป็นประจำ เพราะด้วยเป็นคนมีเชื้อสายจีน ในระหว่างที่คิดรำพึงรำพันอยู่นั้น ก็ได้พบพระภิกษุชราอยู่รูปหนึ่ง รูปร่างผอมบาง ยืนขวางทางเอาไว้ ภิกษุชรารูปนั้นได้เจรจาขอบิณฑบาตรชีวิตของคุณน้าท่านนี้ ให้ได้กลับมายังโลกมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้มีโอกาสมาทำบุญ และบอกลาญาติพี่น้อง ลูกหลาน ซึ่งนายนิรยบาล ก็มิได้ขัดข้องประการใด ก็เหมือนมีพลังบางอย่างผลักคุณน้าให้กลับมายังร่างเช่นเดิม..!!!
พอคุณน้าท่านนี้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง จึงได้เล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้ญาติๆฟัง แล้วบอกว่า
" ฉันไปเห็นมาแล้ว นรกนั้นน่ากลัวกว่าที่เราคิดเอาไว้เยอะ นรกมีแต่ความร้อน ไฟนรกนั้นร้อนแรงมากๆ มีแต่เสียงร้องโหยหวนดังก้องไปหมด... แต่ฉันยังโชคดีนะที่มีหลวงปู่องค์หนึ่งท่านมาขวางทางไว้ และเจรจาขอชีวิตให้ จึงได้กลับมาได้ และที่กลับมานี้อยากจะมาบอกว่า ให้ทุกคนหมั่นทำความดีกันเอาไว้เยอะๆ อย่าได้ประมาท เพราะในนรกนั้นน่ากลัวจริงๆ... ฯลฯ "
ซึ่งวันนั้นรุ่นน้องของผมก็อยู่ฟังคุณน้าเล่าด้วย จึงได้ถามคุณน้าว่า หลวงปู่องค์ที่ไปช่วยน้าเป็นใคร น้าก็บอกว่า ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อนเลย แต่ยังจำหน้าตาท่านได้อยู่.. รุ่นน้องผมก็เลยไปหยิบรูปหลวงปู่ที่วางอยู่ใกล้ๆหัวนอนของคุณน้ามาให้ดู พอคุณน้าเห็นรูปหลวงปู่รูปนั้นก็ยิ้มดีใจแล้วบอกว่า นี่แหละองค์นี้แหละ เป็นองค์เดียวกันกับที่ไปช่วยน้าเลย.. ท่านเป็นใคร..?? รุ่นน้องผมเลยบอกว่า ท่านชื่อหลวงปู่พิศดู อยู่จันทบุรี ท่านเป็นพระอริยะที่เก่งมากๆ ผมนับถือท่านมากๆ เลยเอามาวางไว้ในห้อง ขอให้ท่านช่วยคุ้มครองน้าด้วย.. คุณน้าจึงบอกว่า หลวงปู่ท่านเก่งมาก และมีเมตตากับน้ามาก..
และหลังจากนั้นคุณน้าก็บอกว่า " หลวงปู่ท่านยังมาหาน้าอีกนะ ท่านบอกอะไรบางอย่างด้วย แต่ว่าเป็นความลับ.. " หลังจากเหตุการวันนั้นผ่านมาอีกหลายอาทิตย์ อาการคุณน้าคนนี้ก็เริ่มทรุดลงตามลำดับ แต่ว่าสติยังสมบูรณ์ดี และสุดท้ายคุณน้าท่านนี้ก็จากไปอย่างสงบ ราบเรียบ โดยไม่มีอาการทรมานทางกายใดๆเลย ทุกคนเชื่อว่า คุณน้าไปสู่ที่ๆดี ที่ๆสูงแล้วครับ..
แถมยังมีเรื่องที่น่าแปลกอีกเรื่องหนึ่งพอหลังจากจัดงานบำเพ็ญกุศลศพของคุณน้า บ้านกงเต็ก ที่ทางญาติจัดหามาทำพิธี ซึ่งจะมีเลขที่บ้านติดอยู่ ซึ่งทางญาติๆก็เอาไปลองเสี่ยงโชคดูก็ปรารกฏว่า งวดนั้นก็เลยถูกหวย ได้รับโชคกันไปหลายคน และพออีกงวดต่อมา ก็ยังถูกติดต่อกันมาอีกเป็นงวดที่ 2 แล้ว ซึ่งรุ่นน้องของผม ก็ถูกกับเขาด้วยทั้ง 2 งวดแล้วครับ นี่ก็กะว่ากำลังจะลุ้นงวดที่ 3 กันอีกครับ.. สาธุ

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ew307659025th ดุสิต

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

เปิดพระปัจเจกพุทธเจ้าด้านหลังปั๊มยันต์

พระปัจเจกพุทธเจ้า เนื้อผง รุ่น "สมปรารถนา" ชุดนี้ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2552 โดยคณะศิษย์ผู้สร้างถวายได้จําลองพุทธลักษณะองค์พระปัจเจกมาจากรูปหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เป็นสมบัติของวัด ซึ่งมีอายุกว่าหลายร้อยปีถึงพันปี รูปแบบพิมพ์ทรงสี่เหลี่ยม ประทับนั่งอยู่ในซุ้มประตู บนซุ้มประตูเขียนคําว่า "สติ" อักขระด้านล่างสุดบริเวณฐาน อ่านว่า พระปัจเจกโพธิ พระปัจเจกพุทธเจ้ารุ่นนี้ ครูบากฤษดาท่านเมตตาตั้งชื่อรุ่นว่า "สมปรารถนา" ท่านว่ารุ่นนี้ศักสิทธิ์ตั้งแต่ปั๊มแล้ว เพราะเจตนาดี

 

เรื่องลี้ลับในวัดเทพธารทองเป็นสิ่งที่ต้องเล่ากันอย่างไม่รู้จบ ผู้ที่เคยประสบมาก็มีจำนวนมาก ยิ่งถ้าเป็นลูกศิษย์ที่ถวายงานรับใช้องค์หลวงปู่พิศดู หรือลูกศิษย์รุ่นแรกๆเขาเจอกันแทบเป็นเรื่องปกติ ถึงขนาดหลวงปู่ยังเอ่ยปากว่า..
" ที่ๆวัดเทพนี้แรงนะ มีทุกอย่าง(ภพภูมิ) ทั้งนาค ยักษ์ และชาวลับแล ใครทำไม่ดี หรือไม่ปฏิบัติอยู่ไม่ได้ง่ายๆ.."

วันนี้จะขอเล่าให้ฟังสักเรื่อง ซึ่งเกิดขึ้นกับพี่ลูกศิษย์อุปัฏฐากหลวงปู่คนหนึ่ง พี่เขาเล่าให้ฟังว่า..

สมัยที่พี่เขาเข้าไปอยู่รับใช้หลวงปู่ที่วัด เวลาว่างก็จะนั่งภาวนา เดินจงกรม หรือไม่ก็จับกลุ่มสนทนากันธรรมกันที่โรงไฟ มีอยู่วันหนึ่งเป็นเวลาค่อนข้างดึกแล้ว หลวงปู่ท่านได้ปิดไฟจำวัดแล้ว พี่เขากับเพื่อนก็ลงมานั่งกันอยู่ที่โรงไฟแต่ยังไม่ได้เข้านอน พอสักพักใหญ่ก็ปรากฏเห็นกลุ่มแสงกลมๆสว่างหลากสีจำนวนหลายดวง ลอยมาจากทางเขาคิชฌกูฏ เข้ามาในวัด แล้วก็ลอยเข้าไปในกุฏิที่หลวงปู่จำวัดอยู่ พี่เขากับเพื่อนเห็นสิ่งนี้ก็รู้สึกอัศจรรย์ใจอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้ทักอะไรเพราะรู้สึกว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ยังไม่ทราบว่ากลุ่มแสงนี้คืออะไร..
พอรุ่งเช้าได้ขึ้นมาเล่าให้หลวงปู่ฟัง และถามหลวงปู่ว่ากลุ่มแสงที่เห็นเมื่อคืนนั้นคืออะไร..?
หลวงปู่ได้ตอบว่า " อ้อ..เห็นด้วยเหรอ เป็นพวกเทวดาเขามาหาเรา.."

เรื่องแบบนี้ตามแต่วาสนาของแต่ละบุคคลจริงๆครับ ก็เป็นอีกเรื่องที่หยิบยกมาเล่าสู่กันฟัง..
‎Sira Pop

 

สวัสดียามเที่ยงครับป๋า