ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย zalievan, 9 ธันวาคม 2018.

  1. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    พุทธสติ
    หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต
    เมื่อพระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา พระธรรมจักร ท่านทรงแสดงอริยมรรคก่อน แล้วจึงทรงแสดง อริยสัจธรรม ๔ นี่คือที่สำคัญที่สุด ถูกต้องตามธรรม (ดา) คือ เมื่อรู้จักหนทางถูกเดินหนทางถูกแล้ว จึงถึง ที่ ถูกต้องการที่สรรพสัตว์ เทวดา พรหม มนุษย์ (นอกพุทธ ไม่สามารถได้รู้หนทางถูกต้องได้... ไม่สามารถพ้นทุกข์ได้นั้น ยกไว้เสีย) แม้พุทธบริษัท ที่ไม่ใช่ผู้บรรลุธรรมเป็นอริยบุคคลแต่โสดาบันขึ้นไปเมื่อไม่ปฏิบัติให้อริยมรรคบังเกิดขึ้น จะโดยได้ฟังพุทธธรรม โดยตรงจากพระพุทธองค์ หรือโดยได้ศึกษา พระพุทธวจนะ มีพระสูตร พระปริยัติธรรมทั้งหลายเป็นต้นแล้วลงมือปฏิบัติตามหลักศรัทธาที่ถูกต้อง คือ ศีล ภาวนา หรือตามธรรมสี่ประการ ที่จะให้บรรลุพุทธธรรม คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ ปัญญา จนบรรลุผล ก็ไม่พ้นทุกข์เหมือนกันอย่างดีที่สุดก็เพียงมีโอกาสได้ไปสู่ สุคติบ่อย ๆ มากกว่า และได้สร้างบุญบารมี สิบ ปัจจัยสำคัญ ที่จะให้ถึงการเข้าศึกษาพุทธได้สำเร็จ พุทธสติ มหาสติปัฏฐาน เป็นที่รวมอริยมรรค ในการปฏิบัติภาวนา เป็นเอกายมรรค นอกจากนี้ ไม่มีหนทาง ตัวอย่างเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นจริง ๆ ในสมัยพุทธกาลในเรื่องนี้ก็มี เช่น

    ๑. มหาอำมาตย์ คนหนึ่งมีเรื่องทุกข์ร้อนมาก วิ่งไปวัดเพื่อขอให้พระพุทธองค์ช่วย เมื่อเขาไปถึงวัด อันเป็นที่ประชุมชน พร้อมทั้งพุทธบริษัท มีพระพุทธองค์เป็นองค์ประธาน และพระพุทธองค์ก็ได้ประกาศล่วงหน้าแต่เช้าวันนั้นว่า เขาจะได้เป็นพระอรหันต์ในวันนั้นก่อนที่เขาจะเปิดปากพูด พระพุทธองค์ทรงตรัสเสียก่อนว่า มหาอำมาตย์ กังวลอะไรของเธอในอดีต วาง... กังวลอะไรของเธอในอนาคต วาง กังวล อะไรของเธอในปัจจุบัน วาง เขาได้สำเร็จอรหันต์ทันที ทราบในทันทีว่า พระพุทธองค์ได้ทรงประกาศทายไว้แล้ว พุทธบริษัทประชาชนทั้งหลาย ยกเว้นพระอรหันต์ ยังไม่เชื่อเป็นผลร้ายต่อพวกเขา โดยเมตตาธรรม ท่านผู้เป็นพระอรหันต์ ผู้พ้นโลก ไม่ใช่ปุถุชนมหาอำมาตย์ต่อไปล้ว จึงเหาะขึ้นสู่อากาศ สูงหลายชั่วลำตาล ๓ ครั้ง ชนทั้งหลายจึงเชื่อว่า พุทธทำนายในตอนเช้าวันนั้น เป็นจริง พระพุทธองค์ทรงแนะให้ท่านแสดงอดีตชาติว่าได้ทำบุญอะไรมา ท่านได้แสดงว่าได้ทำบุญไว้มากมาย โดยเฉพาะ นำชนมาสู่พุทธธรรมและได้มีอภิญญารู้ว่า อายุขัย ของท่านหมดแล้ว
    จึงไม่กลับมาสู่พื้นดิน นิพพานในอากาศ โดยเตโชธาตุลุกขึ้นเอง เมื่อจิตบริสุทธิ์แล้ว ธรรมทั้งหลาย กายใจก็บริสุทธิ์ แม้มหาภูตรูป (matter) ดินน้ำลมไฟที่ประกอบ รูปกาย ก็กลายเป็นพระธาตุล่วงลงมาดังดอกมะลิ พระพุทธองค์ให้ชนทั้งหลายเอาผ้าปูรับไว้แล้วพระเจดีย์บรรจุไว้ที่ทางสี่แพร่ง
    ลองทดลองทำดูซิ ในราว ๒๐ - ๓๐ ปี คงได้ผล ไม่มากก็น้อย โดยปริยัตติ ก็คือว่า วางกังวล ก็คือ วางกังวล (เลิกเกี่ยวข้องเลิกยึดมั่น) ขันธ์ห้า(ภาระหนัก) นั่นเอง ลองเจริญสติอันนี้ดูเถอะ นี่คือสติปัฏฐานด้านปฏิบัติ วางได้ ก็เรียบร้อยเท่านั้น
    จิต พ้นยึดมั่น ขันธ์ห้า (สังขาร) ก็เป็นจิตบริสุทธิ์ วิมุตติจิต หลุดพ้นหลงภพโลกเราเขา สังขารธรรมทั้งหลายไปได้ กุศลาธรรมา อกุศลาธรรมา อพยากตาธรรม สุขทุกข์ไม่สุขไม่ทุกข์ อดีตอนาคตปัจจุบัน สัญญา (โลกอวิชชา)

    ๒. ปริพาชกนักบวชตนหนึ่ง ไปขอฟังเทศน์พระพุทธองค์ที่ข้างถนน ระหว่างที่พระพุทธองค์และหมู่สงฆ์ออกบิณฑบาตตอนเช้าถึง ๓ ครั้ง อ้างว่ารอไม่ได้ เพราะไม่รู้อนาคต พระพุทธองค์ จึงทรงตรัสว่าถ้าเช่นนั้น เธอพึงตั้งใจฟังให้ดี เมื่อเธอเห็นรูป รูปนั้นสักแต่เห็น เขาสำเร็จ อนาคาธรรมทันที ไม่กลับมาสู่ภพอีกแล้ว แต่ยังอยากบวช พอเขาถอยออกมา ก็พอดีโคกระทิงคู่เวรเก่า วิ่งมาทางนั้น ชนเขาตายทันที
    หมู่ภิกษุสงฆ์ซุบซิบถามกันว่า เขาจะไปเกิดที่ไหนหนอ พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า 'เขาเป็นผู้ไม่ทำให้ตถาคตลำบากเปล่า' (เหมือนพวกเราทั้งหลาย)
    เอ้า ลองทำดู ๒๐ - ๓๐ ปี อาจรู้เรื่อง

    ๓. ปฏิบัติทางสั้นที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ก็คือ "ภิกษุเองจะพึงวางกังวลในขันธ์ห้า เสีย" นี่คือ หัวใจสติ หัวใจอริยมรรค ถ้าวางกังวลได้ในขันธ์ห้า จิตพ้นเกี่ยวข้องขันธ์ห้า ก็พ้นทิฏฐิทั้งสิ้น เพราะพ้นสังขารทั้งสิ้น ถึงจิตวิสังขาร คือ จิตแท้ ไม่ใช่สังขาร ไม่มีสังขาร ไม่ใช่ภพโลกคนเทวดา สัตว์โลกทุกชนิด หรือที่พระนักปฏิบัติ เรียก จิตเป็นกลาง อมตจิต ที่บริสุทธิ์แล้วก็หยั่งลงสู่ อมตสัจธรรมบริสุทธิ์ พระวิสังขารธรรม คือ นิพพานธรรม อกาลิโก ไม่มีเรื่องกาลเวลาของโลกอวิชชาหลง เป็นอมตสัจธรรม ไม่ใช่ มตธรรม หลงความผิดว่า 'เรา' ego, self เกิด ตาย จะเกิดจะตายแม้โสดาบันก็เห็นอมตธรรม พระนิพพานเท่านั้นจริง ไม่ใช่มตธรรมโลกหลง เป็นเรา เขา, แก่ เจ็บ ตาย เมื่อจิตพ้นโลกหลง เป็นโลกุตตรจิต โลกุตตรสุข วิมุตติสุข แล้วโลกธรรมแปดหมดอำนาจ (สุขทุกข์ ได้ลาภ เสื่อมลาภ ฯลฯ)
    อ้าว ลองทำดู สัก ๒๐ - ๓๐ ปี คงได้ผลไม่มากก็น้อย

    ๔. ปฏิบัติทางไม่สั้นไม่ยาว วางกังวล เลิกเกี่ยวข้องขันธ์ห้าไปเลย เมื่อวางกังวลขันธ์ห้าได้ จิตทิ้งสังขาร เข้าถึงวิสังขาร พระนิพพาน อย่างท่านอาจารย์มั่นว่า รู้จริง ทิ้งสังขาร เกิด ดับ (ได้ยิน, ูรู้, ฟัง) (วิญญาณ) ไม่เหลียวไม่แล ไม่แลไม่เหลียว (สักแต่) คราวนี้ ใจ (จิต) เป็นใหญ่ (จิตแท้) ไม่หมายพึ่งสัญญา (ไม่มีสังขารหลง) ไม่มีหลงตนหลงภพหลงโลก รู้พ้นอยู่ต้นจิต ไม่คิดอ่าน (ภิกษุณีอรหันต์องค์หนึ่งกล่าวว่า เราถอน ตัณหา ได้แล้ว
    จิตตั้งมั่นอยู่ภายใน เมื่อจิตถึง วิสังขาร ก็เป็น จิตวิสังขาร (จิตพ้นอวิชชาปัจจยาสังขารา) หยั่งลงสู่ ธรรมวิสังขาร นิพพานเหมือนน้ำใสไหลจากห้วยสู่ น้ำใสในมหาสมุทร อันหาขอบเขตมิได้ ไม่ได้สูญหายไปไหน จะว่าหายโง่ หายจากโลกโง่ ภพโง่ ก็ได้ ไม่หายไปไหน อยู่ที่ อมตมหานิพพาน ก็ได้

    ๕. ปฏิบัติระยะยาว
    อันนี้ก็เริ่มที่ 'รู้สักแต่รู้' หนะแหละ ผู้มีบารมีมาก แจ่มแจ้งนิพพานทันที ผู้มีบารมียังไม่มากพอ ก็ต้องฝึกจิตในสติ รู้สักแต่รู้ ได้ยินสักแต่ได้ยิน ฯลฯ จนกว่าจะเกิดเป็น โลกุตตรสติธรรม ให้ผลทันที สิ้น อยาก สิ้น ยึด สิ้น กรรม ภพหลง โลกหลง ตนหลง (ในขันธ์ห้า)
    แค่นี้ก็พอ "รู้" เป็นวิญญาณธรรมดา "รู้สักแต่รู้" เป็นวิญญาณสติ ทรงไว้ซึ่งพุทธธรรมเหนือโลก วิญญาณสติ เจริญขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็น จิตสติ ปรากฏขึ้น (เป็น โลกุตตรจิต ถึงโลกุตตรธรรม คือ พุทธสติ) เป็นจิตสมบูรณ์ ไม่มีบกพร่อง ไม่เดือดร้อนขาดเหลือ(perfect)
    ย่อมเข้าถึง ธรรมสมบูรณ์ สัจธรรม อมต นิพพาน) เป็นจิตธาตุ (จิตเดิมแท้) ไม่ใช่สังขาร โลกภพตนหลง เป็นจิตวิสังขาร (ถึง วิสังขารสัจธรรม อมต นิพพาน) หยั่งหลงสู่ วิสังขารธรรม (วิสังขารคตังจิตตัง) จิตตถาคต (บริสุทธิ์) หยั่งหลงสู่วิสังขารธรรม (ไม่มีหลงเสียแล้ว) ในตอนนี้ ถ้า วิราคะจิต ขั้นโลกุตตรจิตเกิดถึง โลกุตตรธรรม คือ วิราคะธรรม (พระนิพพาน) ได้ ถ้าเป็นจิตคลายกำหนัดในกาม เกิดขึ้น สังโยชน์ เครื่องผูกจิตละได้ยาก ก็ขาดไปเด็ดขาด (ไม่ใช่ชั่วคราว เช่น เข้าฌานสมาธิ)
    ทั้งสังโยชน์ที่มาด้วยกัน คือ โทสะ ปฏิฆะ ขัดเคืองใจ พยาบาท ก็ถูกตัดขาดจากจิตพร้อมกันเด็ดขาด รวมทั้งวิหิงสา ความคิดเบียดเบียนสัตวโลกกามภพดับไปจากจิต ถ้าจิตวิราคะในรูปฌานอรูปฌาน เกิดต่อไป สังโยชน์เบื้องสูง คือ รูปราคะ อรูปราคะ ก็ถูกต้องออกไปเด็ดขาดพร้อมสังโยชน์ที่เหลือ มีมานะ เป็นต้น เป็นอัน ภพสาม กาม, รูป, อรูดับ หรือ ลูกตุ้มนาฬิกา (pendulum) ที่แกว่งไปสุดทางหนึ่ง (คือ กาม) แล้วก็แกว่งกลับไปจนสุดอีกทางหนึ่ง คือ สมาธิ แกว่งไปมาไม่รู้จักสิ้นสุด (หรือโคจรของจิตอวิชชา) เป็นอันหยุดนิ่งตอนนี้สิ้นวัฏฏสงสาร ตัวทุกข์แท้ หรือ อุปาทานขันธ์ห้า อริยสัจทุกข์ ไม่ใช่แบบความคิดปุถุชน เสียโน่น เสียนี่ แต่เป็นทุกข์เพราะโง่ เพราะหลงตน ego concept สักกายทิฏฐิ ยึดขันธ์ห้าเป็นต้น

    ๖) สรุปแนวปฏิบัติสติ
    ธรรมทั้งหลายไม่พึงถือมั่น เป็นยอด พุทธสติ นั่นก็คือ รู้ สักแต่รู้ (hearing, hearing only-no doing - end, the world หรือ ธรรมเป็นธรรม (Dhamma be Dhamma) นโสเหตวัง วิวาโท ปรากฏ (สุดสมมุติภาษาไม่มีถามตอบ) น ตลัง กา สลัง โลกุตตรสันต์ เป็น สันติสุขเหนือโลก
    เท่านี้แหละโยม ทั้งหมด นอกจาก พุทโธ ธัมโม สังโฆ นิพานํปรมํสุขํ เป็นสุขยอดเยี่ยม หรือ นอกจากสัจธรรม คือ นวโลกุตตรธรรม มรรคสี่ผลสี่นิพพานหนึ่ง แล้วก็ไปไม่รอด โดยเฉพาะ เมื่อ สติคั่น วิราคะจิต เกิด กาย วาจา ใจ เป็น วิราคะทั้งหมด จิตถึงสัจธรรม อตังที่ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ อันบรมนิวาส กล่าวว่า เห็นตนเป็นธรรม เห็นธรรมเป็นตน (คือเห็นอริยสัจธรรม ขั้นใดขั้นหนึ่ง ในกายวาจาจิต) พอใช้ได้ จิต วิรัชชติ ไม่ติดในสรรพสิ่ง จึงเกิดขึ้น จิตวิมุติ หลุดพ้น ถึง วิมุติธรรม (พ้นสมมุติ) พระนิพพาน เป็นโลกุตตรสุข วิมุติสุข จึงจะพ้นอำนาจโลกได้เด็ดขาด ต่อให้โลกระเบิดก็ทำอะไรไม่ได้เลย เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้

    ว่าโดยย่อ รู้สังขารไม่เที่ยง วางกังวลทั้งหมด
    -----------------------------------------
     
  2. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ข้ออรรทข้อธรรมทั้งหมดที่เอามาแปะนั้น คือ ที่บันทึกไว้ในโทรศัพย์ของเรา...เราเอาไว้อ่านมีทั้งวิธีปฏิบัติอื่นๆอีกมากมาย...เราเอาไว้ฝึกใจตนสอนใจตน...นี้แค่เอามาแบ่งปันเพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์...หากท่านใดไม่สนใจก็เลื่อนข้ามไปได้เลย...เพราะธรรมะนั้นไม่มีพิษไม่มีภัยกับผู้ใด
    คุณสมบัติของธรรม คือ...
    ยังประโยชน์...แล้ว...ยังความสุข
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ปุกาด ปุกาด

    พยต เข้าห้องเบอะบะนาน ขำไม่กี่คำ
    ฟันร่วง เลยรีบออกมา

    หา จุ ตุ
     
  4. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ผู้ที่เห็นไม่ตรงตามจริง "จึงต้องเอาคำพูดของคนอื่นมาสอดแทรกไว้ในความเห็นตน" เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ "เพราะตนขาดสัจจะ(ธรรม)"

    โดยแท้แล้วเขาเหล่านั้น "ไม่มีอะไรเลย" และ "ไม่เห็นอะไรเลย" จึงต้องยกผู้อื่นมาเพื่อให้ตนดูน่าเชื่อถือ ทั้งๆที่ปราภว่าตนเป็นสายพระป่า "แต่กลับยกครูบาอาจารย์มาเพื่อสร้าง ชื่อให้แก่ตน" นี่แหละหนอ "สัตว์"
     
  5. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391

    ก๊าก กั๊กๆๆๆๆๆๆ

    (ขำเทวดาทั้งหลาย)

    (อยู่อย่างเบิกบานด้วยตนเอง)
     
  6. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    ก็อย่างว่าท่านคนมันชีวิตไม่มีอะไรจริงๆ เกาะพ่อแม่แดก ไปวันๆ อายุก็ขนาดนี้แล้วยังต้องให้พ่อแม่คอยเลี้ยงดูอีก ถ้าคนมันมีจิตรู้จักกตัญญูพ่อแม่บ้างมันหางานแถวนั้นทำไปก็ได้รับจ้างล้างส้วม ทำความสะอาดเล้าสัตว์ก็ว่ากันไป นี่นอนกระดิกตีนอยู่บ้านเข้ามาเล่นเวปประกาศตัวเองเป็นพระยาธรรมเรี่ยราดเที่ยวสั่งสอนคนอื่นมั่วๆ
     
  7. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391

    ก๊าก กั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆ

    (เกาะพ่อแม่แดกอย่างเบิกบาน)



    (อยู่อย่างเบิกบานด้วยตนเอง)
     
  8. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    IMG_20190128_145612.jpg
     
  9. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    FB_IMG_1546985863455.jpg
     
  10. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391

    ก๊าก กั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆ

    จึ๊กกระดึ๋ย จึ๊กกระดึ๋ย จ๊วบๆ



    (อยู่อย่างเบิกบานด้วยตนเอง)
     
  11. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    เกาะพ่อแม่แดก เกาะพ่อแม่แดก เกาะพ่อแม่แดก เกาะพ่อแม่แดก
    อุฟวย อุฟวย อุฟวย อุฟวย อุฟวย อุฟวย อุฟวย อุฟวย อุฟวย!!!
     
  12. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391

    ก๊าก กั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    (หลอกว่าโมโหเรื่องเอ่ยถึงพ่อแม่ก็เชื่อ..เล่นซะใหญ่โตแต่โง่อย่างควาย)



    ..อยู่อย่างเบิกบานด้วยตนเอง..แม้ไม่มีเงินใช้ก็ยังเบิกบาน...
     
  13. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    เห็นสักว่าเห็น รู้สักว่ารู้ ทราบสักว่าทราบ....เมื่อทราบชัดแล้วไม่ติดอยู่...ไม่มีแม้โลกนี้โลกหน้า


    (อยู่อย่างเบิกบานด้วยตนเอง)
     
  14. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    คุณทำไม่ได้หรอกครับอันนี้ "เมื่อรู้อยู่" ย่อมไม่ "กั้ก กั้ก กั้ก" อะนะ "อันนี้เขาเรียกเมา" ฮับ สรุป "จะรู้อยู่ หรือ จะกั้กเอาให้แน่ฮับ"
     
  15. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    เมื่อเห็นสักว่าเห็น...เมื่อทราบสักว่าทราบ...เมื่อพิมพ์อักษรสักว่าพิมพ์...เมื่อเกิดผัสสะสักว่าเกิด...มีเกิดย่อมมีดับ...เมื่อธรรมารมณ์เกิดแต่ไม่ปรุงแต่งต่อ...เดี๋ยวมันก็ดับไปเอง.....


    มันยากตรงไหน..ที่ยากเพราะคนมันไปยึดเอาเป็นตนเป็นของตน
     
  16. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    เมื่อเป็นรู้ "มันเกิดมามันก็ไม่ใช่เรา" ดังนั้นจึงไม่มีใคร "กั้กๆๆ" แล้วสรุป "สักว่าเห็นได้ยังไง ยังมีคนกั้กๆอยู่เลย"

    "ความจริงย่อมไม่มีในโจรฉันใด นักปฏิบัติที่ไม่รู้ตามจริงก็ไม่ต่างกับโจรปล้นศาสนาฉันนั้นแล"
     
  17. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    เมื่อเดินจิตเข้าสู่ฝั่งโลกุตระได้แล้ว...เมื่อจิตเห็นจิตแล้วจะรู้แจ้งเอง...การฝึกตนเองก็ง่ายขึ้นมาก....จิตมันฉลาด....เมื่อเห็นตามจริงแล้วมันจะอ๋อเอง...หรือเรียกว่าจิตถึงบางอ้อ....จิตรู้ตามจริงแล้วจิตมันก็วางเอง..ไม่ได้บังคับยากเลย
     
  18. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    เกาะพ่อแม่แดกอย่างเบิกบาน ออ ที่แท้เปนไอ้หงบขอทานนี่เอง กรั่กๆๆ
     
  19. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    จิตย่อมรู้ตามจริงไม่ได้ "เมื่อตั้งมั่นไว้(สมาธิ)ที่ลมหายใจ" ซึ่งคุณปรับเปลี่ยนธรรมว่าเป็นสติ(เปลี่ยนจากคำว่าสมาธิเป็นสติ) "ที่ระหว่างปลายจมูก"

    เช่นกันกับที่ "ปลุกจิตโทสะสำแดงกายทิพย์ที่กล่าวอ้างไม่ได้" เมื่อ "ทำอธิปติปัจจัยโย"(ตั้งมั่นและอยู่กับสภาวะนั้นๆเป็นกาย) ไม่ได้ "นี่แหละความจริง"

    และ"ที่สำคัญเมื่อมีการบังคับ/เจตนา" แสดงว่า "มีอัตตาเต็มๆ" นี่แลความจริง

    แสดงธรรมต่อไปเลยครับ "ผมรอชี้แจงอยู่ผู้อ่านได้ประโยชน์ด้วย"
     
  20. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    683
    ค่าพลัง:
    +1,513
    ต้องมีเสียงกระซิบด้วยนะมึง ไม่งั้นมันไม่รุ้ตัวว่าถึงแล้ว ฮิ้วว
     

แชร์หน้านี้

Loading...