เคยมีใคร?วิจัยความตายมาบ้าง

ถ้าคุณเกรงกลัวอำนาจมืดจาก พะจ้าวหัวดรรอพวกนั้น

ก็มากราบไหว้ ผมดิ...มานับถือผม มาเป็นเพื่อนผม มาเชื่อผม
แล้วผมจะ ปกป้อง คุณเอง
รับรอง ผมจะพา ทำศึก กับพวก มันทั้งหลาย ...ผมก็สุดจะทน เหมือนกัน

นี่มารับ ดอกบัวแสง และอาวุธ จากผม...ผมจะอัพเกรดคุณ ให้พร้อมรบ

 

มีข้อแม้เดียว ว่า คุณต้องเป็นคนดี มีสัมมาทิฐิ ไม่งั้น
อาวุธของผม มันทำลายทุกอย่างที่เป็น มิจฉาทิฐิ ไม่เว้นแม้ตัวเอง
อาวุธแก้วสายฟ้าพิฆาตผ่าอนันตจักรวาล...

 

ทีนี้ ระหว่างอำนาจมืด กับ กรรมของตน...คุณกลัวสิ่งใด..?

กลัวกรรมของตนเองมากกว่าล่ะสิ....ท่า

คนเรา ถ้า ไม่มีความมั่นใจ ในความดีที่มีในตนเอง แล้วล่ะก้อ
ไปที่ไหน ก็ ...แพ้ สถานเดียว

 

แล้วไอดีเก่าผมโดนแบนเรื่องอารายอ่า จึงไปคุยกันในกลุ่มไลน์ดีกว่า ผมเบื่อโดนอำนาจมืดในเวบ

 

อยากเป็นผู้ไม่แพ้ ....ก็จงระวัง กรรมของตน
อยากมีเพื่อนดีดี อย่างผม ก็จงทำตัวเองให้ดี ให้ได้
ถ้าตราบใดที่ทำตัวเองให้ดีไม่ได้ ก็จง นอนรอการตัดสินจาก สิ่งอื่นเถอะ
ถูกนรก ตัดสิน
ถูกสวรรค์ตัดสิน
ถูกพะจ้าวตัดสิน
ถ฿กคนอื่นตัดสิน
ไม่มีสิทธิ ตัดสินตนเอง....น่าอนาถใจแท้

จะเอาแบบไหน..ก็เลือกเอา

 

อืม ก็ ไปหาที่โง่ ๆ อยู่ ต่อไปแล้วกัน

 

หน่วยของผมคือ หน่วยทรชนคนพิฆาตมิจฉาทิฐิทะลุอนันตจักรวาล
สามารถตัดสินตนเอง ด้วยตัวเอง ไม่ง้อ นรก สวรรค์ พะจ้าว เทวดาหน้าไหน

เปิดรับสมาชิก....แล้ว
คุณสมบัติ....เป็นสัมมาทิฐิ นับถือพระพุทธเจ้า ...เท่านั้น
ปล..ฉลาดหน่อย ก็ดี พร้อมรบกับมิจฉาทิฐิ ทั้งอนันตจักรวาล
มือาวุธพร้อม...ชุดเกราะ อาวุธ ดอกบัวแสง

ห้ามทำผิดศีลธรรม ไม่งั้นจะถูก อาวุธของตนเอง ทำลายเอา
ใครดีจริง ก็มาสมัครได้..

 

เขาอนุยาดให้ปลูกรึยัง บ้านละต้นก็ดี ไส่ต้ม ซดน้ำอร่อย
ยาบ้าจะได้ หมดๆไปซะที....

 

ถ้าผมได้เป็นพะจ้าว
จะทำลาย ....โรงงานไฟฟ้าทุกแห่ง...โรงงานผลิตรถยนต์ทั้งหมด...โรงงานน้ำมันทั้งหมด...โรงงานผลิตอาวุธทั้งหมด....โรงงานทุกโรงงาน..โรงงานผลิตเหล้า ไวน์ ยาสูบ.....ทำลายดาวเทียมทั้งหมด...ทำลายพวกมิจฉาทิฐิทั้งหมดให้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานทั้งหมด .....กระเทย เกย์ ทอม พวกเบี่ยงเบนทางเพศไม่มีในโลก....ทำลายระบบการสื่อสารและอินเตอร์เนตทั้งหมด....

 

สัตว์นรกก็มิจฉาทิฐิ
สัตว์สวรรค์ก็มิจฉาทิฐิ
เทพ พรหมก็มิจฉาทิฐิ
มะนุดต่างดาวก็มิจฉาทิฐิ
ภพภูมิอื่นก็มิจฉาทิฐิ
คนมีอวิชชาก็ล้วน มิจฉาทิฐิ
ดับทั้งอนันตจักรวาลไปเลย

 

นี่แค่ ความคิดของผมนะ

แล้วทีนี้มาคิดดูกันเล่นๆ ว่า คนทั้งหมดในโลก เขาจะพากันคิดได้ถึงไหนกัน
โลกความคิด ก็คือโลกของใครของมัน ที่ซ้อนทับทับๆๆๆๆๆๆๆๆซ้อนๆๆๆๆๆๆๆๆ
กันอยู่ใน ปัจจุบันเดียวกัน..ยังไม่พอ บางคน ยัง แบกเอา โลกอดีต โลกอนาคต พ่วงเข้ามาด้วนอีกเนอะแยอะ มากมากาดคณานับ...ยังไม่พอ ในโลกความคิดของตนเองยังไปดึงเอาโลกความคิดของคนอื่นมาร่วมด้วย...ยังไม่พอ นังเอาโลกความคิดจองตนเองไปยัดเพิ่มให้กัยโลกความคิดของคนอื่นอีก..ยังไม่พอ ยังสร้างโลกมิติภพภูมิ ใหม่ขึ้นมาซ้อนๆๆๆๆๆๆทับๆๆๆๆๆๆ อย่างไม่หยุดหย่อน

ใคร ตามทันบ้าง ที่ผม ว่ามา

 

ในที่สุด คำว่า มนุษย์ ที่มี นามรูป ...ตามที่ควรจะเป็น..จึงไม่เป็นไปตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น...แปลว่า มันไม่พากันอยู่กับปัจจุบันของ กายใจ ได้จริงๆ ล้วนแต่ หลงไป กับ อวิชชา...กันทั้งนั้น

ใครจะช่วย? ใครจะแก้?

ปัญหาแบบนี้ มีใคร เคยคิดบ้าง ว่า มันมีอยู่จริงๆ และมันคือต้นตอทั้งหมด ของ วัฏะสงสาร อันบัตรทรบนี้

 

ทุกคนคงเคยคิด กับ...ความคิดนี้คือ

เรามีชีวิตอยู่ไปวันวันแบบนี้....ได้ไง อยากทำอย่างอื่น ที่มันไม่ต้องงี่เง่าตามคนอื่น เหมือนคนอื่นได้มั้ย..? ทำไมตรูต้องตื่นแต่เช้า ล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำ เพื่อไปทำงานที่งี่เง่า อยู่แบบนี้ ชีวิตงี่เง่าแบบนี้ ใครกำหนดมา ใครพาเป็น ใครพาทำ ทำไมตรูต้องขับรถ นั่งรถ ไปเจอกับแต่คนงี่เง่าอื่นๆ อีกมากมาย..เปิดทีวีก็เจอแต่เรื่องงี่เง่า อ่านข่าวหนังสือพิม ก็มีแต่เรื่องงี่เง่า นักการเมืองก็มีแต่พวกงี่เง่า คนคุยกัย ก็มีแต่เรื่องงี่เง่า...ไง น่าเบื่อหน่ายมั้ย ชีวิตงี่เง่า

ใครกำหนดชีวิตงี่เง่าแบบนี้ ขึ้นมา..
อยากกำหนดชีวิตเอง ก็ทำไม่ได้เพราะถูก ข้อกำหนด ข้อบังคับ ข้อแม้ บางอย่าง มันจำกัด เอาไว้....ต้องมีชีวิตตกอยู่ภายไต้เงื่อนไข กฏระเบียบอันงี่เง่า ที่ ...คนงี่เง่าตั้งขึ้นมา

 

เงื่อน...มาจากไหน?
เงื่อนไข....มาจากไหน.?

ส่วนมากมาจาก..คนอื่น ที่งี่เง่า ทำให้เราตกอยู่ภายไต้เงื่อนไขอันงี่เง่าของคนอื่น..ต้องอย่างงั้นอย่างงี้...โดยเฉพาะถ้าได้เจอกับ หัวหน้า หรือเจ้านายที่งี่เง่า เพื่อนร่วมงานที่งี่เง่า...

อ้าวทำไม.? คนทุกวันนี้ ถึงชอบโลกส่วนตัว ก้มหน้ากับโทรสัพ ปิดห้องเปิดเพลงดังๆ...ก็เพราะมันเบื่อระอากับ คนอื่นที่งี่เง่า รอบตัวไง
พูดกันกับคนอื่น มันคุยกันไม่รู้เรื่อง...นี่อหล่ะประชาธิปไตยของแท้ ต้องกัดกันเหมือนสุนัข....ก็ประชาธิปไตยไง ของใครของมัน ของเมึงอย่าเผือกเรื่องของกรู

นี่แหล่ะประชาธิปไตย

เลือกตั้งคราวหน้า เอาแบบนี้
ให้กระดาษเปล่าๆ อยากเลือกใคร ให้เขียนชื่อลงไปเองเลย
ไม่มีเบอร์ให้กา ไม่มีรายชื่อพรรค....ต้องเลือกแบบนี้ ถึงจะเป็นประชาธิปไตย
อยากเลือกตัวเอง เลือกคนข้างบ้าน ก็เขียนชื่อลงไป....

 

เลือก สส....มีแต่รายชื่อผู้สมัคร....กับวิสัยท้ศน์ของ สส ผู้สมัคร..ไม่มีการหาเสียง ไม่ต้องบอกชื่อพรรค...ไม่มีเบอร์ผู้สมัคร

มีแต่ป้ายรูปผู้สมัคร กับวิสัยทัศน์...เท่านั้น

เวลาเลือก ให้เขียนชื่อ ผู้ที่ตนเลือก มา หนึ่งชื่อ ใครก็ได้ ไม่เลือกผู้สมัครก็ได้
จะเลือกใครก็ได้ที่ตนชอบ เลือกตนเองก็ได้...ทีนี้แหล่ะ ..มันจะได้รู้ ความจริงกันซะทีว่า....ประชาชนเขาเลือกใคร
จะเลือก สว เลือก นายก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. ต้องเลือกแบบนี้
ทีนี้..ข้าราชการ คนที่จะมาเป็นข้าราชการ ต้องได้รับการแต่งตั้งจาก เจ้ากระทรวง...ถ้าข้าราชการคนใดมันทำผิด เจ้ากระทรวงผู้แต่งตั้ง มันต้องได้รับโทษไปด้วย ในฐานะที่มัน แต่งตั้งและรับรอง ให้ มาเป็นข้าราชการ...มันต้องแบบนี้...จึงเรียก ประชาธืปไตย

แบบนี้ มันถึง จะมีความรับผิดชอบกันขึ้นมาบ้าง
ไม่ไช่ อะไรๆก็ ช่างแมร่งมัน อยู่แบบนี้

มีชีวิตอยู่ไปวันวัน ไม่ต่างจากสุนัขจรจัด เท่านั้นเอง
นี่หรือ..มนุษย์

 

นี่มันอะไร?
หาความดีงาม ไม่มี?
หาคุณค่าของชีวิต ไม่มี?
หาประโยชน์ในจิตใจ ไม่มี?
หาความ สะดวก ปลอดโปร่ง ไม่มี?
หาความสงบเรียบร้อย ไม่มี?
หาความสงบสุข ไม่มี?
หาความปลอดภัย ไม่มี?
หาที่เป็นส่วนตัว ไม่มี?
หาอิสระ ไม่มี?
หากัลยาณมิตร ไม่มี?
หาที่ไม่ต้องเจอกับคนงี่เง่า ไม่มี?

ใครมันพาทำ พาเป็น แบบนี้?

 

ทั้งหมดทั้งมวลที่ ผมพร่ามออกมา ก็ จะมาถาม ในประเด็นว่า

คุณ จะใช้ชีวิต จะรอวันตาย ของคุณ....แบบไหน?

 

+++ ช่าย..... หลังจากดับ "อนันตจักรวาล" แล้ว มันจะไปเจอ "ต้นตอทั้งหมด ของ วัฏะสงสาร อันบัตรทรบนี้"

+++ มันคิดเอาเองไม่ได้ แต่ว่า "มันมีอยู่จริง ๆ" หนะซี
+++ เป็นสภาวะ "โคตร อ้างว้าง ตายซาก" เป็น อนันตกาล จริง ๆ
+++ ภาษาเปรียบเทียบ น่าจะเป็น "อวกาศดั้งเดิม นิรวาณ (พราหม์) สูญญตา และอื่น ๆ"
+++ แต่ที่แน่ ๆ คือ "มันไม่ใช่ แดนเกษม" ที่พระพุทธองค์ แสดงไว้
+++ ถ้า น้าจร ไปถึงตรงนี้เมือไร ให้ ภาวนา "ช่าง มะแร่ง" ตาม style น้าจร ต่อไป
+++ น่าจะพ้นออกมาได้ ด้วยการภาวนา "ช่าง มะแร่ง" ของ น้าจร นี่แหละ
+++ พวก god+alien+จิต ทั้งหมด เกิดมาจากที่นี่ โดยไม่มีเจตนา
+++ และ เจตนา ทั้งหลาย ไม่มี/เกิดไม่ได้ ในแดนนี้

+++ ถ้า น้าจรเคยผ่าน "ต้นตอทั้งหมด ของ วัฏะสงสาร อันบัตรทรบนี้" มาก่อน
+++ ก็คงทราบดีอยู่แล้ว ว่า "มันไม่น่าอภิรมณ์อะไรเลย"
+++ แค่นี้ก่อน นะครับ

 

ผมยอมรับ ว่า....ผมเคยผ่านดินแดนอันอ้างว้าง นี้มาแล้ว...
แต่ผมไม่เคยพบ ดินแดนอันเกษม ที่คุณกล่าวอ้างถึง...
ผมพบแต่กับ ความจริง....เท่านั้น...ก็คือ พบความจริงของตนเอง ความเป็นมนุษย์ ที่มีแค่กายกับใจ...

บ้าน.?......อะไรคือบ้าน? ที่ไหนคือบ้าน.?
ใจ มัน ได้กลับมาบ้าน อีกครั้ง...กายคือบ้าน
...
ที่ผ่านมา ใจกับกาย มันอยู่คนละที่....
เมื่อได้รู้ความจริง ใจก็ได้กลับมาอยู่กับกาย
หาได้มีดินแดนอันเกษม เพ้อเจ้อ อะไรนั่นไม่
เพราะดินแดนอันเกษม แทนที่จะเป็น โลกใบนี
กลับพบว่า โลกใบนี้ มีแต่คนงี่เง่า ที่ทำลายโลกอันเกษมไปเสียได้
แล้วไง ล่ะ
ผมจึงต้องมา พร่ามๆๆๆๆ
เพื่อหา ดินแดนอันเกษม ของความเป็นมนุษย์คืนกลับมา
อยู่นี่ไง