กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ประมวลคติธรรมของหลวงปู่ดู่

๑. ครูอาจารย์ดีๆ มีอยู่มากก็จริง แต่สำคัญที่เราต้องปฏิบัติให้จริง สอนตัวเองให้มาก นั่นแหละจึงจะดี

๒. การปฏิบัติ ถ้าหยิบตำราโน้นนี้มาสงสัยถาม มักจะโต้เถียงกันเปล่า โดยมากชอบเอาจากอาจารย์โน่นนี่ว่าอย่างนั้นอย่างนี้มา …การจะปฏิบัติให้รู้ธรรมเห็นธรรม ต้องทำจริง จะได้อยู่ที่ทำจริง เอาให้จริงให้รู้ ถ้าไปเรียนกับครูอาจารย์อื่นโดยยังไม่ทำให้จริงให้รู้ ก็เหมือนดูถูกดูหมิ่นครูบาอาจารย์

๓. การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ศีลคือ ดิน สมาธิ คือ ลำต้น ปัญญาคือ ดอกผล เราต้องการให้ต้นไม้เจริญงอกงาม ก็ต้องหมั่นรดน้ำพรวนดิน และต้องคอยระมัดระวังมิให้ตัวหนอนคือ โลภ โกรธ หลง มากัดกิน

๔. ถ้าเป็นโลกแล้ว จะมีแต่ส่งออกไปข้างนอกตลอดเวลา แต่ถ้าคิดสิ่งที่เป็นธรรมแล้ว ต้องวกกลับเข้ามาหาตัวเอง เพราะธรรมแท้ๆ ย่อมเกิดในตัวของเรานี้ทั้งนั้น

๕. “โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม”
เรื่องโลกมีแต่เรื่องยุ่งของคนอื่นทั้งนั้นไม่มีที่สิ้นสุด เราไปแก้ ไขเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องธรรมนั้นมีที่สุด มาจบที่ตัวเรา ให้มาไล่ดูตัวเอง แก้ไขที่ตัวเราเอง... ตนของตนเตือนตนด้วยตนเอง

๖. ให้พยายามภาวนาไว้เรื่อยๆ ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ทำได้ตลอดเวลาถ้าเราจะทำ ดีกว่านั่งร้องเพลง จะซักผ้า หุงข้าว ต้มแกง นั่งรถ ทำได้ทั้งนั้น เขาเรียกว่า พยายามเกลี่ยจิตใจให้เข้าที่ ถ้าจะรอเวลาปฏิบัติ (นั่งสมาธิภาวนา) ทีเดียวมันยาก เพราะจิตมันแตกมาตลอดวัน

๗. ของดีอยู่ที่ตัวเรา ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต

๘. คนดีน่ะ เขาไม่ตีใคร

๙. ศีล สมาธิ ปัญญา ก็เหมือนรสแกงส้ม
ศีล เปรียบได้กับรสเปรี้ยว ความเปรี้ยวทำหน้าที่กัดกร่อนความสกปรกออก ทำนองเดียวกัน ศีลจะช่วยขัดเกลาความหยาบออกจากทางกาย วาจา ใจ
สมาธิ เปรียบได้กับรสเค็ม เพราะความเค็มช่วยรักษาอาหารต่างๆ ไม่ให้เน่าเสีย สมาธิก็เหมือนกัน สามารถรักษาจิตของเราให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดีได้
ปัญญา เปรียบได้กับรสเผ็ด เพราะปัญญามีลักษณะคิด อ่าน ตริตรอง โลดแล่นไป เพื่อขจัดอวิชชาความหลง

๑๐. การปฏิบัติ ถ้าอยากเป็นเร็วๆ มันก็ไม่เป็น หรือไม่อยากให้เป็น มันก็ประมาทเสีย เลยไม่เป็นอีกเหมือนกัน อยากเป็นก็ไม่ว่า ไม่อยากเป็นก็ไม่ว่า ทำใจให้เป็นกลางๆ ตั้งใจให้แน่วแน่ในกรรมฐานที่ตั้งไว้ ภาวนาเรื่อยไป เหมือนกับเรากินข้าว ไม่ต้องอยากให้มันอิ่ม ค่อยๆ กินไป มันก็อิ่มเอง ภาวนาก็เช่นกัน ไม่ต้องไปคาดหวังให้มันสงบ หน้าที่ของเราคือภาวนาไป ก็จะถึงของดีของวิเศษในตัว แล้วเราจะรู้ชัดว่าอะไรเป็นอะไร ให้หมั่นทำเรื่อยไป

๑๑. รวยกับซวยมันใกล้กันนะ จะเอารวยน่ะ จะหามายังไงก็ทุกข์ กลัวคนจะมาจี้มาปล้น หมดไปก็เป็นทุกข์อีก ไปคิดดูเถอะ มันไม่จบหรอก มีแต่เรื่องยุ่ง เอา “ดี” ดีกว่า

๑๒. ความสำเร็จนั้น มิใช่อยู่ที่การสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาประทานให้ หากแต่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง ถ้าตั้งใจทำตามแบบแล้วทุกอย่าง
รับรองว่าต้องสำเร็จ ไม่ใช่จะสำเร็จ พระพุทธเจ้าท่านวางแบบเอาไว้แล้ว ครูบาอาจารย์ทุกองค์มีพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด ก็ได้ทำตามแบบ เป็นตัวอย่างให้เราดูอัฐิของท่านก็เลยกลายเป็นพระธาตุกันหมด

๑๓. รอให้แก่เฒ่าหรือจวนตัวแล้วจึงสนใจภาวนา ก็เหมือนคนหัดว่ายน้ำตอนเรือหรือแพใกล้แตก มันจะไม่ทันการณ์

๑๔. ที่ว่านิมิต แสงสว่างเป็นกิเลสก็ถูก แต่เบื้องแรกต้องอาศัยกิเลสไปละกิเลส
(อาศัยกิเลสละเอียดไปละกิเลสอย่างหยาบ) แต่ไม่ได้ให้ติดแสงสว่างหรือหลง
แสงสว่าง ท่านให้ใช้แสงสว่างให้ถูก ให้เกิดประโยชน์เหมือนอย่างกับเราเดินทางผ่านไปในที่มืด ก็ต้องอาศัยแสงไฟช่วยนำทาง หรืออย่างว่าเราจะข้ามแม่น้ำ ก็ต้องอาศัยเรือ อาศัยแพ เมื่อถึงฝั่งแล้ว เราจะแบกเรือแบกแพขึ้นฝั่งไปด้วยทำไม

๑๕. อย่าต้มน้ำทิ้งเปล่า ๆ โดยไม่ได้เอาน้ำร้อนไปใช้ประโยชน์ (หมายถึงอย่าเอาแต่ทำสมาธิโดยไม่พิจารณาธรรม)

๑๖. อย่าปฏิบัติแบบไฟไหม้ฟาง (หมายถึงไหม้วูบเดียวแล้วก็ดับ กล่าวคือ ขยันก็ทำ ขี้เกียจก็หยุด อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ต้องทำ (ปฏิบัติธรรม) ให้สม่ำเสมอให้ได้ทั้งในยามขยันและขี้เกียจ)





ขอขอบคุณแหล่งที่มา.....
http://www.luangpordu.com/?cid=453602

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 184 ลำดับ# 3666
ความข้องใจจากคุณchatreekain
พญานาค มีจริงหรือ ผมว่าพญานาคมีจริงแต่ไม่ถึงกับพ่นไฟเป็นลูกขึ้นสู่ท้องฟ้าได้หรอกครับเพราะว่าแรงดันใต้น้ำกับพญานาคที่พ่นไฟขึ้นมาเป็นลูกสู่ข้างบนฟ้าที่พวกเราเห็นและไปชมไปดูกันมันไม่น่าจะเป็นจริงหรอกครับ ผมว่าอาจเป็นเพียงแค่ลูกไฟใต้น้ำที่มันระเบิดพุ่งขึ้นมาสู้ข้างบนท้องฟ้ามากกว่าครับดูๆแล้วมันเหมือนเป็น ธาตุที่อยู่ใต้น้ำเป็นฤดูกาลบางครั้งที่มันจะพูดขึ้นมา ให้เราได้ชมกันมันไม่น่าจะเป็น พญานาคที่ พ่นไฟใต้น้ำและเป็นลูกระเบิดพุ่งขึ้นมาสู่ท้องฟ้ามันไม่น่าจะเป็นจริงนะครับแต่ว่าในทางเชื่อผมก็เชื่ออยู่ว่าพญานาคมีจริงแต่ไม่ทราบว่าพญานาคพ่นไฟได้หรือเปล่าครับ

(555......ไม่รู้เหมือนกัน)
เคยไปปีนั่นๆนานแล้ว(ปีที่เห็นเงาพระธาตุพนม)
ไปเฝ้าดูตั้งแต่ทุ่มยันตีหนึ่ง
ไม่เห็นลูกไฟพญานาคแม้แต่ลูกเดียว
สงสัยว่า...กลัวผมสอยไปใช้งานด้านอื่น55

"nopphakan, post: "
พยานาคส่วนตัวไม่เคยเห็นว่าพ่นไฟเช่นกัน
แต่ลูกกลมๆหลายๆสี ถ้าที่มองดูแล้ว
ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ นั่นคือดวงจิต
ส่วนสีขึ้นอยู่กับสิ่งที่สะสมมา

และเกิดจากการสะสมของ
เศษซากพืชซากสัตว์ก็มี

แต่หากสังเกตุจะเห็นความแตกต่างได้

ปล บ้างวัดก็มีให้เห็นได้ปกติ ตลอดปี
ตามห้องพระในวัด
หรือบริเวณที่มีพระองค์ใหญ่ๆ
ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องขึ้นจากน้ำครับ


ส่วนที่เรียกบังไฟพยานาค
ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะ สภาพแวดล้อมที่เกิด
เพราะขึ้นจากน้ำ จะเรียกบั้งไฟพยาเหยี่ยว
ก็ดูจะไม่เข้ากันทางภาษาที่ใช้
ยังมีช่วงเดือนที่เกิด แล้วเรียกสืบๆกันมา
เป็นประเพณีครับ ^_^

 

(อจ.นพ)
".....เอาง่ายๆ ก่อนสวด การขอขมากรรมและอุทิศส่วนกุศลทุกครั้งสามารถตัดการสร้างคลื่นก้าวกระโดดได้ดี....."

(ถาม1)...ที่ถามเพราะสงสัยประเด็นนี้มานาน
สงสัยคาใจมานาน...(ก่อนที่จะเห็นอจ.นพบอกข้างบน)
เพราะเคยได้ยินบางคนบอกทำนองนี้เช่นกัน

แต่ผมสงสัยว่า"ยังไม่เริ่มต้นสวดนโมตัสสะ....
....และบทคาถาอื่นๆนำก่อน
แล้วจะเริ่มด้วยขอขมากรรมหรือส่งบุญก่อนเลย
...มีความรู้สึกขัดๆ
ขัดๆคือสงสัยว่า...
"ขอขมา-ส่งบุญก่อนสวด...นาย ก.ข.จะได้รับเหรอ"

ล่าสุดเมื่อ2-3อาทิตย์ก่อน ถามเจ๊ญาติผู้ใหญ่
(เพราะสับสนจากการอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง)
เขาก็บอกประมาณว่า...
"ส่วนตัวเค้าจะรวบรวมบุญ ส่งบุญก่อน"


(ถาม2)
ระหว่างการสวดนึกคิดถึงภาพครูบาอาจารย์ของแต่ละบทคาถา
จะมีโอกาสเกิดคลื่นแทรก(คลื่นกระโดด)ได้หรือไม่


ขอบคุณครับ

 

...หนาวหนาวมาเยี่ยมเยือนอีกปีแร้ววว์
จะไปเที่ยวหนาวเติมไฟที่ไหนดี
1 ปีผ่านไปช่างเร็วจุง...เร็วจัง


เช้านี้มาเม้ามอยสถานที่น่าไปแบบสั้นๆ
.....มีไรบ้าง
ดอยอินทนนท์
ดอยอ่างขาง เชียงใหม่
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เชียงใหม่
ภูชี้ฟ้า เชียงราย
ภูเรือ เลย
เขาค้อ ภูทับเบิก เพชรบูรณ์
ปาย แม่ฮ่องสอน

อื่นๆ...โดยเฉพาะทริปวัดที่น่าไป(จากท่านอื่น)
...ถ้าว่างช่วยชี้แนะด้วยนะครับ


ขอเกริ่นนำ...ตามวัยตอนนั่น
ท่องเที่ยว...ธรรมชาติแบบโลกสวยก่อน

ดอยอินทนนท์ หลังคาแผ่นดินสยาม
ไปครั้งแรกคิดว่าสูงชันเหมือนขึ้นหลังคาบ้าน
ก่อนไปกลัวๆอยู่เหมือนกัน
แต่พอไปถึง...ไม่ได้สูงชันอย่างที่วิตก
น่าไปไหม...ควรไป

ดอยอ่างขาง เชียงใหม่
ชื่อเสียงลือกระฉ่อนเรื่องโค้งหักศอก
เอาเข้าจริง...ไม่น่ากลัวอะไร(ถ้าไม่ประมาท)
น่าไปไหม...น่าไป

ห้วยน้ำดัง เชียงใหม่
ทะเลหมอกสวยมาก
แค่ได้ดูมาจากภาพถ่ายว่าสวย...สวยจริงๆ
ไปมาครั้งแรก...ไม่รู้ว่ามันสวยอย่างไง
เพราะซวย...มีแต่หมอกหนาๆกระจายไปทั่ว
จึงขอแก้ตัว...ครั้งที่2...อกหักซ้ำ2
อกหักว่าชอกช้ำ...แต่นี่ช้ำกว่า
น่าไปไหม...ไปเถิดไป

ภูชี้ฟ้าเชียงราย
ทะเลหมอกสวยดั่งใจ
เขาสูง-ภูสวย
น่าไปไหม...ครั้งหนึ่ง..ครั้ง2-3 ก้อยังน่าไป

ภูเรือ เลย
ขึ้นเขาสูงชันปานกลาง
แต่พึงระวังเช้าตรู่ตี4-5จากตีนเขา
ด้วยความอยากดูทะเลหมอก/อาทิตย์ขึ้น
อาจเจอภัยเงียบที่มองเห็นระหว่างทาง
หมอกหนาระยะ2-3เมตรมองไม่เห็นทาง
หนทางรอดคือจอดข้างทางสถานเดียว
นิ่งๆฟังเสียงรถที่อาจเสี่ยงสวนทางลงมา
ถ้ามีคือภัยมา...บีบแตรๆๆๆ...เพื่อเตือนภัย
น่าไปไหม...ถ้าว่างก็ไป

เขาค้อ-ภูทับเบิก
เส้นทางใหม่(ขาลง)ไม่ได้คดเคี้ยวมาก
เกินจินตนาตามภาพที่คนลือๆ
แต่เส้นทางเก่าที่ขึ้นฝั่งภูหินร่องก้า
ขับไปเรื่อยๆ...แค่ระวัง...ถ้าทางยังไม่ดี(ถ้า)
ภูทับเบิก...หนาวสวย
...สวรรค์ของคนชอบกินกะหล่ำปี
แต่คงจะค่อยๆลดน้อยลงไปๆ
ถ้าไม่มีมาตรการป้องกัน..............
น่าไปไหม...อยากไปอีกถ้ากะหล่ำยังอยู่

ปาย แม่ฮ่องสอน
ร้อยโค้งพันโค้งแสนลี้ลับ
ห้วยน้ำดังไปปายอีกแค่อึดใจ
ช่วงก่อนถึงทางขับสบาย...ง่ายขึ้น
น่าไปไหมปาย...ไป ไป
แม่ฮ่องสอนน่าไปไหม...ไปปายแล้วก็ไปเถิด



วัดสวยๆประทับใจ..ชโลมใจกว่า
...ช่วยแนะนำด้วยจิ

 

".....เอาง่ายๆ ก่อนสวด การขอขมากรรมและอุทิศส่วนกุศลทุกครั้งสามารถตัดการสร้างคลื่นก้าวกระโดดได้ดี....."
ตอบ 1ว่า ใช่ครับ

และการขอขมากรรม เป็นอุบายในคลี่คลาย หรือ ตัดกระแสตก
ค้างเดิมในจิต
ที่เป็นเหตุขวางให้คลื่น
อยู่ระดับเดียวกันได้ยาก
ในขณะที่สวดมนต์ปกตินั่นเอง
สังเกตุนะใช้คำว่า คลี่คลาย(หมายถึงเบาลง)และตัด(หมายถึง ป้องกันการเข้ามาอีก)




และการอุทิศส่วนกุศ เป็นอุบาย
ในการผลักกระแส ตกค้างเดิมในจิต
ให้ส่งออกไปภายนอก ด้วยการอาศัย
กำลังหรือแรงจากบุญเป็นตัวส่ง
ดังนั้น เมื่อมีการส่งออก ย่อมมีการรับได้
ส่วนจะรับได้ มากน้อยแค่ไหน
ไม่ควรไปสนใจครับ


ส่วนการร่วมบุญคือ

การขอบารมีพระรัตนตรัยและท่านต่างๆมาตั้งไว้ก่อน
และระลึกบุญที่เราเคยทำไว้ แล้วนำมารวมกับบารมีที่ขอไว้นั้น

แล้วจึงทำการส่ง เป็นเทคนิค
การอุทิศส่วนกุศล ปกติครับ

มีเสริมด้วยการ ระลึกให้กว้างสุด
เป็นเทคนิคเสริมเพื่อขยายวงในการส่ง
และการผลักออกจาก
กลางลิ้นปี่ เป็นเทคนิคในส่งออกอย่างหนึ่งนั่นเอง


สังเกตุไหมว่า ก่อนนั่ง
มี ๑ ขอขมากรรม และ ๒ อุทิศส่วนกุศล

และ หลังนั่ง มี แต่ ๒. อุทิศส่วนกุศลอย่างเดียว เพราะมีกำลังบุญแล้ว
จึงส่งออกไปอีกทีไงครับ



ตอบ 2 การระลึกถึงภาพ เป็นอุบาย
ในการเชื่อมกระแสนั่นหละครับ
เหมือนเราดูรูปบรรพบรุษ รูปไม่ใช่ท่าน
แต่ทำให้เราระลึกถึงท่าน ระลึกถึงด้านไหนแค่นั้นเอง ด้านต่างๆที่ระลึก
ก็คือ กระแสอย่างหนึ่งนั่นหละครับ

ดังนั้นเมื่อระลึกได้แล้วจากภาพ
ก็เข้าถึงกระแสได้ ถือว่าในแนวกระแสเดียวกัน ต่อไปแค่ระลึกก็ถึง
โดยไม่จำเป็นต้องใช้ภาพก็ได้ครับ

ย้อน อ่าน กรณีเกิดคลื่นแทรกอีกครั้ง
ว่าสาเหตุ เกิดจากอะไรครับ

 

ถ้าแว๊นไป เหมาะสำหรับไปเล่นโค้ง
ก็จะไปทางเหนือๆ ที่โค้งเยอะๆหน่อย

แต่ขับรถยนต์ไป ก็ต้องทำใจถ้าจะไป
ที่ๆมีโค้งเยอะๆ อาจจะไม่สนุกตรงนี้


สถานที่ท่องเที่ยว ก็มีทั้งที่มีชื่อเสียง
คือ ธรรมชาติเฉพาะ เป็นเอกลักษณ์
มีความสวยงามตามเอกลักษณของตน

หรือ มีอาคารที่พักอาศัย เป็นเอกลักษณะเฉพาะ ธรรมชาติเฉพาะ หรือ ธรรมชาติทั่วไป

กับสถานที่ไม่มีชื่อเสียง ธรรมชาติทั่วไป



ลองตั้งธงก่อน ว่า ๑. ชอบธรรมชาติแบบไหน เช่น แบบมีเฉพาะหน้าหนาว หรือมีธรรมชาติเฉพาะตน หรือมีเอกลักษณะเฉพาะตน เช่น มีน้ำมีภูเขา มีน้ำเด่น มีภูเขาเด่น มีต้นไม้เด่น มีเนินดินเด่น มีก้อนหินเด่น มีสิ่งปลูกสร้างเด่น ฯลฯ
๒.ชอบที่พักแบบไหน แบบไม้ แบบไม้ผสมปูน แบบปูน แบบกางเต๊นต์ แบบต่างประเทศ แบบผสม แบบอาคารชุด แบบแยกห่าง แบบรีสอร์ท

๓.ดูสิ่งอำนวยความสะดวก ต่างๆ น้ำ ไฟ เนท อาหาร การเดินทาง ความปลอดภัย

๔.ค่าใช้จ่ายครับ...
๕. ตรวจสอบความพร้อม ของยานพาหนะ
๖. วางแผนการเดินทาง ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง รวมอุปกรณ์สำรองสำหรับผักผ่อนระหว่างการเดินทาง
๗.พักผ่อนร่างกายให้เต๊มที่ ปฏิบัติเคารพกฏจราจร เคารพสถานที่ บุคคล มีความเป็นมิตรในตน มีเมตตาตามโอกาศ...
๙. อย่าลืมเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ รู้จักอุทิศส่วนกุศลให้ชิน ไม่ว่า เจอศพน้องหมาน้องแมว หรือไปยังสถานที่ใดๆ
ผ่านไปยังที่ใดๆ ตลอดจนให้ท่านที่อยู่ตามเส้นทางที่เราเดินทางไปครับ

พร้อมแล้ว มีเวลาลุยโล้ด
ส่วนตัวจะพยายามเร่งงาน
ให้เร็วสุด เพื่อว่า จะได้ไปแว๊น
กับเค้าบ้าง ปฏิเสธไปหลายงานแล้ว
เนื่องจาก ภารกิจส่วนตนยังไม่เสร็จ ๕๕

 

(อจ.นพ)
".....ส่วนการรวมบุญคือ
การขอบารมีพระรัตนตรัยและท่านต่างๆมาตั้งไว้ก่อน
และระลึกบุญที่เราเคยทำไว้ แล้วนำมารวมกับบารมีที่ขอไว้นั้น
แล้วจึงทำการส่ง เป็นเทคนิค
การอุทิศส่วนกุศล ปกติครับ
มีเสริมด้วยการ ระลึกให้กว้างสุด
เป็นเทคนิคเสริมเพื่อขยายวงในการส่ง
และการผลักออกจาก
กลางลิ้นปี่ เป็นเทคนิคในส่งออกอย่างหนึ่งนั่นเอง....."

คอร์สสวดมนต์นี้ถามติดต่อกันหลายวัน
ได้ทริคเด็ดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถูกใจมากๆครับ
อย่างเช่น...
".....ระลึกให้กว้างสุด
เป็นเทคนิคเสริมเพื่อขยายวงในการส่ง....."

(ถาม1.)
(ส่วนตัวปกติ)จะส่งบุญให้3แดนโลกธาตุ ส่งให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลก ส่งให้บิดามารดา (และส่งให้อื่นๆ...)ปิดท้ายส่งให้สัมภเวสี สรรพวิญญาณ รวมทั้งสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น
ส่งแบบเหมารวมมิตรมีทั้งภูมิสูง-ภูมิต่ำพร้อมกัน
เคยสงสัยว่าจะเหมาะสมหรือไม่
ตอนนี้สรุปว่า"ทำได้" ?????

ได้ทริคใหม่คือ "ระลึกให้กว้างสุด"
"และการผลักออกจากกลางลิ้นปี่"
เป็นเทคนิคในการส่งออกอย่างหนึ่งนั่นเอง

(อจ.นพ)
".....การระลึกถึงภาพ เป็นอุบาย
ในการเชื่อมกระแสนั่นหละครับ
เหมือนเราดูรูปบรรพบรุษ รูปไม่ใช่ท่าน
แต่ทำให้เราระลึกถึงท่าน
ระลึกถึงด้านไหนแค่นั้นเอง ด้านต่างๆที่ระลึก
ก็คือ กระแสอย่างหนึ่งนั่นหละครับ
ดังนั้นเมื่อระลึกได้แล้วจากภาพ
ก็เข้าถึงกระแสได้ ถือว่าในแนวกระแสเดียวกัน
ต่อไปแค่ระลึกก็ถึง
โดยไม่จำเป็นต้องใช้ภาพก็ได้ครับ....."

ได้ทริคใหม่เพิ่มคือ
"การระลึกถึงภาพ เป็นอุบายในการเชื่อมกระแส"

 

55....หลังเสริมทริคเด็ดการสวดมนต์แล้ว
ท่องเที่ยวไปกับอาจารย์นพ...ดีกว่า

ทั้ง 9 ประการ
1.ส่วนตัวรักธรรมชาติแบบป่าเขามากกว่าทะเล
ป่าเขามีเมฆหมอกอุ่นไอรัก
เปลี่ยนแปลงไปตามจังหวะและช่วงเวลา

ทะเลมีภูมิทัศน์ที่จำเจซ้ำซาก
เว้นแต่คราวนั่นซึนามิที่อันดามัน
...หลายๆสถานที่เปลี่ยนแปลงไปพอสมควร
อันความชื่นชอบตามที่ว่า
วันนั่นถ้าอยู่ตรงชายหาด
คงได้วิ่งไปดูช่วงน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่คลื่นยักษ์จะถาโถมกวาดเรียบทั้งชายหาด
ด้วยถูกจริต...ไม่ชอบความจำเจซ้ำซาก
...คงเอวังจบลงด้วยซึนามิที่ไม่ซ้ำซาก

2.ชอบที่พักแบบไหน
เคยนอนกางเต๊นฑ์ครั้งแรกที่ดอยผาชู้
ที่อุทยาน จว.น่าน
ชอบครับ อากาศหนาวเย็น...อบอุ่นดี
ไม่ต้องสงสัยว่า "ทำไมครั้งแรกต้องที่ดอยผาชู้"
555...ไม่มีอะไรต้องสงสัย
มิใช่ไรอื่น อย่าคิดมาก
...แค่ที่พักไม่ควรเต็มในวันธรรมดา (ไม่ได้จองไว้)
...ด้วยบังเอิญมีหน่วยงานเอกชนจองเต็ม

(ขอกระโดดไปข้อ9.)
๙. อย่าลืมเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ รู้จักอุทิศส่วนกุศลให้ชิน ไม่ว่า เจอศพน้องหมาน้องแมว หรือไปยังสถานที่ใดๆ
ผ่านไปยังที่ใดๆ ตลอดจนให้ท่านที่อยู่ตามเส้นทางที่เราเดินทางไปครับ

...ทำประจำครับ...ถ้าเห็น...ไม่เว้นกา ไก่
(เคยลังเลสงสัยว่า"เรานี่จะหลุดโลก เกินตำรามากไปหรือป่าว")...555
เพราะคิดเอง..ทำเอง...ทำทุกครั้งที่เห็น

มีครั้งหนึ่งระหว่างทางออกจากจว.ตาก
พอส่งบุญให้ซากสัตว์ที่ตายกลางทาง
...วิ่งไปได้สักระยะไม่กี่สิบกิโล
เสียงกระจกดังเปรี้ยง...เป็นดาวกระจาย

อีกครั้งที่ระยองแวะทะเล พักรถแป๊บเดียว
แล้วขับรถไปพักที่บรุ๊คไซด์วัลเล่
55....ใครๆก้อมาค้างทะเล...แต่ผมไม่

พอขับไปเจอซากสัตว์(น่าจะสุนัข)
อุทิศบุญเสร็จสรรพ...วิ่วไปได้ไม่กี่อึดใจ
กระจกถูกหินกระเด็นเจาะเป็นรอยถั่วเขียวแต่ไม่ร้าว

ทำให้คิดมาก...เลิกอุทิศบุญไปช่วงหนึ่ง
...ไม่เอาดีกว่า "กลัว"
เพราะคิดเอง เออเองว่า...
พวกนี้มันรุมแย่งส่วนบุญกันจนพาลมาที่รถเรา

555...แล้วมันจะเกี่ยวกันไหมเนี่ย

 

เจอไฟล์วีดีโอตอนสวดมนต์ในห้องพระ
ที่มีเสียงสวดมนต์แทรกอยู่ด้วยแล้วครับ
แต่เสียงเหลือจากสวดเป็นกลุ่ม
เป็นเสียงเดี่ยวแทน
เอาไว้แปลงเป็นไฟล์เสียงก่อน
จะลองมาลงให้ฟังทดสอบ
ความสามารถด้านหูกันหน่อย
พอขำๆ

 

ขอจองที่นั่งแถวหนึ่ง...อย่างเร็ว
ของชอบในยามเช้าตรู่
แต่ถ้าส่งมาช่วงมืดค่ำ...
...จะเก็บไว้ฟังยามเช้า 55


...เมื่อคืนนี่เองโทรคุยกะเจ๊ผู้ใหญ่
เรื่องสวดมนต์-ส่งบุญเป็นหัวข้อหลัก

ช่วงหนึ่งเจ๊เล่าให้ฟังว่า...
ครั้งหนึ่งไปญี่ปุ่น
พอเข้าไปในห้องพักรู้สึกว่าห้องนั่นพิกลๆ
จึงสัพเพส่งบุญให้ 1 ชุดเล็ก
...พอตกกลางคืน...
ได้ยินเสียงคุยกันเป็นภาษาต่างด้าวใกล้ๆตัว
...เดาว่าน่าจะเป็นภาษาญี่ปุ่น
เจ๊จึงสัพเพชุดใหญ่ไปอีกรอบ

(ผมเล่าบ้าง)
ครั้งหนึ่งไปพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง
ใกล้ๆน้ำตกแม่กลาง เชียงใหม่
เป็นบ้านทรงไทย แบบโบราณจริงๆ
...เข้าไปในห้องเกิดความรู้สึกเร้นลับพิกลๆ
พอตีสองตีสาม
ขณะที่นอนหลับสนิทด้วยความเพลีย
...มันมาแล้วโว้ย
ดึงขาผมอย่างแรงถึง 2 ครั้ง
ตอนนั่นผมสัพเพส่งบุญไม่เป็น
...จึงแค่สวดคาถาลป.ทวดซ้ำๆ
พอหลับต่อ...ผีมันคงหลับตาม(มั่ง)
ทีนี่หลับยาวถึงสว่างเลย

ตอนนั่นไปไหนมาไหนจะแขวงรุ่น1 ปี97
...แต่ปัจจุบันนี้ไม่กล้าครับ
กลัวภัยมืดจากโจร...มากกว่ากลัวผี

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
สวดส่งให้โจร ไม่ทราบว่าได้ผลหรือไม่ ?
(ถามอาจารย์นพครับ)

555...ปิดท้ายยังไม่เลิกถาม

 

กับโจรไม่ได้ผลครับ
แต่อานิสงค์การสวดให้ภพภูมิ
ทำให้เรากลายเป็นพวก ดวงโจรยกเว้นครับ
คือเหมือนมองไม่เห็น เหมือนไม่สนใจ
เหมือนไม่ใช่เป้าหมาย
เช่น เราอยู่ห้องเช่าเป็นแถว
ห้องอื่นโดนขโมยขึ้นหมดยกเว้นห้องเรา
หรือลืมวางของไว้ แต่ไม่มีคนสังเกตุเห็น

ปล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควร
ประมาทนั่นเองครับ เช่น ลองวางแบงค์
๕ ร้อยไว้หน้าบ้าน ทดสอบดวงโจรงดเว้น
แบบนี้ยังไงก็หายครับ ๕๕

 

ฝันเฟื่อง ฝันว่าไปเจอสตรีนางนึงใส่ชุดแบบนี้ แต่ผมเป็นเมดูซ่าจ้องมองอย่างหื่นกระหาย

 

(อจ.นพ)
"กับโจรไม่ได้ผลครับ
แต่อานิสงค์การสวดให้ภพภูมิ
ทำให้เรากลายเป็นพวก ดวงโจรยกเว้นครับ
คือเหมือนมองไม่เห็น เหมือนไม่สนใจ
เหมือนไม่ใช่เป้าหมาย....."



...น่าจะเป็นจริงตามที่กล่าวข้างบน
เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา
แถวบ้านถูกโจรขโมยย่องขึ้นบ้าน
กวาดทรัพย์สิน2หลังรวดในคืนนั่น
บ้านผมอยู่ในกลุ่ม1-2-3 ซึ่งมีรั้วติดๆกัน
ที่พิเศษกว่าคือบ้านผม...
"ควรจะโดนขึ้นเป็นกรณีพิเศษ"
เพราะมีกำแพงรั้วติดด้านนอกหมู่บ้านถึง2ด้าน
ส่วนอีก 2 หลังที่โดนอยู่ตรงกลาง
เหมือนไข่ในหิน...แต่กลับโดนเจาะไข่
โดนยกเค้าทรัพย์สินไปหลายรายการ
ผ่านไปหลายปีปานนี้ยังไม่ได้ข่าวว่าโจรโดนจับ

เมื่อฟังจากอาจารย์นพเล่า
วันนี้ผมเลยได้คำตอบว่า"น่าจะเป็นเพราะเหตุนั่น"
เหตุที่ดวงโจรยกเว้นมั่ง
หรือพวกโจรอาจเห็นเงาอะไรแว๊บๆภายในบ้าน
...นึกว่ายังไม่หลับกัน
(ที่บ้านจะเปิดไฟ 3-5 w.ทิ้งไว้ทั้งคืน)

...ยิ่งช่วงนี้ไม่ต้องเข้ามาเลย นะพวกโจร
เพราะบ้านฉัน...สัพเพถี่มากๆนะจ๊ะ
"สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา"

อาจารย์นพครับ...ถามอะไรหน่อย(สั้นๆ)
"เปิดเทปฟังสวดมนต์ได้อานิสงส์พอๆกะสวดเองหรือไม่"

 

"ภาษาไทยวันละคำ...วันละประโยค"
(แซวเล่นนะครับ)

(Higtmax)
".....แต่ผมเป็นเมดูซ่าจ้องมองอย่างหื่นกระหาย"

อ่านตอนแรกคิดว่าหมายถึงตัวคุณHigt เองเป็นเมดูซ่า...
...ที่จ้องมองหล่อน(ตามภาพ)อย่างหื่น กระหาย
...พอคิดได้อีกที
คำว่า ผม หมายถึงเส้นผม ทรงผม
เพราะเมนดูซ่าเป็นผู้หญิงสวยในนวนิยายกรีกโบราณ
ที่มีเส้นผมเป็นงูเลื้อยยั้วเยี้ยอยู่บนหัว
จริงๆเดิมทีหล่อนเป็นสาวสวยที่ใสซื่อ
มีชายหนุ่มมากมายหมายปองอยากครอบครอง
ไม่ว่าจะหนุ่มโสด หนุ่มโสดเมียเผลอ.......

(โอเคแค่นี้...พอหอมปากหอมคอ)

 

สาธุๆ

 

Tips & Tricks
หน้า187 ลำดับที่#3721
เป็นความฝันของเจน
เจนฝันถึง งูสีแดง แดงมาก
มันจะพยายามเลื้อยเข้ามาในบ้าน
เจนห่วงว่าลูกที่อยู่ในบ้านจะเจออันตราย
เจนเลยหยิบเอาแท่งยาวๆจากที่ต่อเครื่องดูดฝุ่น
สับใส่งูหัวขาด สงสัยเรื่องความเมตตาเจนไม่ผ่านใช่มั้ยอาจารย์นพ)

nopphakan post ,
ไม่ผ่านเรื่องเมตตาอยู่แล้ว ๕๕๕
อย่างที่เคยบอก สอบได้เรื่องตลก สอบตกเรื่องธรรมดา
ผ่านบ้าง ตกบ้าง ถือว่าหรูแล้ว
สำหรับฆราวาส ที่รอแก้เคล็ดด้วยมาม่า
ในวันหวยออกทั่วไป ๕๕๕
กรณีแบบนี้ จะผ่าน คือ ต้องดูเชิงก่อน
เช่น สมมุติงู กำลังจะเลื้อยเข้ามา
ต้องดูก่อนว่า เลื้อยผ่านไปเฉยๆ
หรือว่า กำลังจะกัด ประมาณนี้....
เข้าใจไหมว่า พุ่งมา ทำท่าจะกัด
แต่ไม่ได้หมายความว่า จะทำร้ายเรา
หรือจะกัดเราจริงๆ อาจจะแค่ขู่
หรือ ทำท่าพุ่ง แล้วเลื้อยหนีก็ได้ ฯลฯ
คือในส่วนนามธรรม มันจะตีความ
ตรงๆแบบทางโลกไม่ได้...

ส่วนบุคคลที่จะผ่านได้
คือ ต้องประมาณว่า ต่อให้พุ่งมาจะกัดเรา
เราก็ยอมให้กัดเราเลย โดยไม่ใช่อาวุธใดๆโต้ตอบ
โดยที่เราไม่กลัวตายเลย (ซึ่งปกติก็หลายสิบครั้งกว่าจะผ่านกัน
มี พระเกจิบางท่าน ที่ส่วนตัวรู้จัก เรียกว่า ระเบิดฟอร์มฆ่าผีตาย
เป็นกองทัพมาก่อนก็มี สมัยที่ท่านไปข้องเกี่ยวกับกสิณ
เรียกว่า เคยสอบตกกันทั้งนั้นนั่นหละ)

แต่สมมุติว่า เรารู้ทัน ว่าต้องยอมตาย
เพราะว่ามีคนแนะมา เผลอๆในฝัน
งูซึ่งตอนแรก ทำท่าจะพุ่งมากัดเรา
อาจจะมาหยุด ยักคิ้วยิ้มให้เราก็ได้
(ประมาณว่า รู้นะ ว่าคิดอะไร ๕๕๕)
ในความเป็นจริง
บางคนอาจจะเป็นสัตว์อะไรก็ได้ ทุกแบบ
หรือพวกผีในตำนานก็ได้หมด
แล้วแต่คน

เรื่องแบบนี้ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป.....
แต่จำเป็นจะต้องผ่าน เฉพาะบุคคล
ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้งานทางจิต
ในเรื่องนั้นๆเท่านั้น......ซึ่งเป็นบางกลุ่ม
สำหรับพวกนักปฏิบัติ
ไม่งั้นมันจะทำได้แต่ในนิมิต
แต่ใช้จริงในชีวิตประจำวันไม่ได้

ไม่งั้นเอะอะ ใครพูดผิดหูหน่อย จะไปบ้าพลังใส่
อะไรประมาณนี้.....มันจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี

 

พอๆกันครับ....เปิดเทบจะได้อานิสงค์ตรงมีภพภูมิมาฟังร่วมด้วยครับ

 

เมื่อวันที่ 29 ฝันว่าอยู่ในโบสถ์มีงูมากมายมาล้อมรอบตัวผม ทั้งงูเล็กงูใหญ่ และเหมือนได้ยิ่งเสียงพญานาคคำราม ผมเห็นแว๊บอยู่หน้าพระประธาน ส่วนตัวผมอยู่หลังพระประธาน หลังจากนั้นเมื่อตื่นผมได้รับมอบหมายให้เป็นสะพานบุญ งานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระพุทธเจ้า 29 พระองค์
ทำให้รู้สึกปิติมากๆครับ

 

สาธุครับ

 

สาธุครับอนุโมทนาบุญกันครับ