**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 5820

    พระสมเด็จรุ่นแรกพิมพ์ปรกโพธิ์หลังพระพุทธบาทสี่รอย วัดพระพุทธบาทสี่รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่


    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ถ้ำผาปล่อง เเละครูบาอาจารย์ดินแดนล้านนา อธิษฐานจิต

    สวยเดิม ๆ ครับ


    ราคา 550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900


    IMG_9251.JPG IMG_9252.JPG
    Clip_15.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2020
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 5821

    พระผงเมตตา รุ่นแรก หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    รุ่นแรก ปี2517 พิมพ์เล็ก


    พระผงรูปเหมือนรุ่นแรกหลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่


    พระเนื้อผงรุ่นนี้บรรดาคณะลูกศิษย์ของหลวงปู่สิม ที่เป็นชาวอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ไปขออนุญาติจากหลวงปู่สิม สร้างขึ้นเพื่อนำเงินจากการบูชาพระเครื่อง ไปทำกุศลถวายวัดต่างๆหลายวัด เมื่อหลวงปู่สิม ท่านอนุญาตแล้วคณะลูกศิษย์จึงได้พากันออกไปหามวลสารที่จะนำมาสร้างพระเนื้อผงรุ่นนี้ก็ได้แก่ ผงวิเศษจากพระเกจิอาจารย์หลายๆท่านที่บรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่สิมได้เดินทางไปกราบนมัสการ ขอจากพระเกจิอาจารย์ท่านเหล่านั้นให้ช่วยจัดทำให้ ผงว่าน 108 ชนิด ผงขี้ธูปจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายที่เส้นเกศาและจีวรของหลวงปู่สิมเป็นเนื้อหาหลัก

    หลังจากที่เอาเนื้อหามวลสารเหล่านี้มาบด และตำให้ละเอียดและคลุกเคล้าเข้าด้วยกันแล้ว หลวงปู่สิมก็ได้มีเมตตาช่วยกดพิมพ์ให้เป็นปฐมฤกษ์จำนวน 3 องค์ จากนั้นก็ให้ลูกศิษย์คณะผู้จัดสร้าง ช่วยกันดำเนินการกดพิมพ์ต่อ จนได้พระเนื้อผงรูปเหมือนเต็มองค์รุ่นนี้จำนวน 3,333 องค์ ผู้ที่เข้าทำการกดพิมพ์ทุกคนจะต้องนุ่งขาวห่มขาวและทำจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์กันเสียก่อนเพื่อให้พิธีการสร้างพระเนื้อผงรุ่นนี้ออกมาให้ดีที่สุด

    พระดีน่าใช้ราคาเบา ๆ ครับ


    ราคา 850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_9441ำพำ.jpg IMG_9442ดกด.jpg

    Tj0MpfdtgLgZ7a87mt9am_LzAUoYZxXVlFaUX8Q9dFE4jthJ4aRTyz7DZWjBtr0OfGKYN2Vus-BfXyqFAoeF6v97VgeDriGA.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2020
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 5822

    พระสมเด็จ ครูบาอิน อินโท วีดฟ้าหลั่ง หลังยันต์ฟ้าฟีก
    (หัวใจไจยะเบงชร)

    สมเด็จ ไจยะเบงชรเนื้อผงพุทธคุณวัตถุมงคลอันทรงคุณค่าที่จัดสร้างมาในช่วงปลายๆก่อนหลวงปู่ครูบาอิน อินโท หรือ "ครูบาฟ้าหลั่ง" จะละสังขารไปไม่กี่ปี วัตถุมงคลรุ่นท้ายๆถึงแม้จะจัดสร้างมาในช่วงหลังๆจึงเสมือนเป็นมรดกทางวัตถุ ธรรมที่หลวงปู่ครูบาอินท่านได้ฝากไว้ให้ศิษย์ได้ระลึกนึกถึงท่าน

    สร้างพร้อมกับพระกริ่งไจยะเบงชรอันโด่งดัง

    ฟ้า ฟีก ยันต์หัวใจแห่งไชยเบงชร(ไจยะเบงจร) หรือ ชินบัญชร พระคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งยวด ใช้ป้องกันและเสริมความเป็นมงคลได้ทุกด้าน ยันต์ฟ้าฟีกหรือคาถาหัวใจไชยเบงชรที่ว่า "ระตะนังปุระโตอาสิ" ในวัฒนธรรมความเชื่อล้านนาเป็นคาถาที่ใช้อย่างแพร่หลาย แม้แต่ ครูบาเจ้าศรีวิไชย สิริวิชโย ต๋นบุญแห่งล้านนายังใช้เป็นยันต์ประจำตัวองค์ท่าน มีคุณด้านกันและปัดเป่าสรรพอันตรายเภทภัยต่างๆให้ออกไปจากตัวตน บ้านเรือน เมืองนคร เวลายามจะเกิดลมหลวงหรือพายุชาวบ้านชาวเมืองผู้มีวิชาจะใช้คาถานี้ในการไล่ ลมฝนฟ้าให้ห่างไปจากบ้านของตน ยันต์นี้ยังทำเป็นแผ่นติดเสาเรือนเพื่อกันไฟไหม้และกันฟ้าผ่าได้ฉมังยิ่งนัก
    ฟ้า ฟีก ตาลหิ้น .... ยันต์ฟ้าฟีก หรือคาถาตาลหิ้น เป็นการดึงเอาหัวใจของพระคาถาไจยะเบงชร ออกมา 8 อักขระ ว่าดังนี้ "ระตะนัง ปุระ โต อาสิ" มาเขียนย่อเป็นยันต์ลงในแผ่นกระดาษหรือแผ่นผ้าขนาดสี่เหลี่ยมสำหรับติดที่ ปลายเสาดั้งของบ้านเรือน โบสถ์ วิหาร เพื่อป้องกันฟ้าผ่า ไฟไหม้ เรียกว่า ?ยันต์หัวเสา? บ้าง ?ยันต์เสาดั้ง? บ้าง ?ยันต์ฟ้าฟีก? บ้าง การลงอักขระมีหลากหลายรูปแบบ บางครั้งก็ลงเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยม 9 ช่อง เวลาลงอักขระให้ลงเป็นตารางแบบม้าย่อง ตรงกลาง บางตำราก็ลง "ติ" บางตำราก็ลงเป็นตัวเลขล้านนา บางตำราก็ลงเป็นองค์พระ ( โอม , อุนาโลม ) อันนี้ก็แล้วแต่ว่าครูบาอาจารย์สืบสายตำรามากันอย่างไร อีกแบบหนึ่งเป็นรูปวงกลม ซ้อนกันหลายวง ตัดแบ่งเป็นช่องๆ ลงอักขระที่แตกต่างกัน นิยมทำเป็นยันต์หัวเสา ยันต์ฟ้าฟีก เป็นยันต์ที่เชื่อว่า มีฤทธิ์ ป้องกันบรรเทาภัยจาก ฟ้า ฝน ลมพายุได้ ตามความเชื่อโบราณ ว่ากันว่า เวลาเกิด "ฝนตกใหญ่ลมหลวง" ฝนฟ้าคะนองและมีพายุพัดแรงจัด ต่างคนก็ต่างมีวิธีป้องกันบ้านเรือน บ้างก็นำเอาจวัก ช้อน ชามไปแขวนบริเวณหน้าบ้าน บ้างก็เอามีดไปขัดประตู หน้าต่างแทนกลอน หรือไม่ก็เอามีดไปแทงทะลุเสียบคารอยฝาแตกให้ปลายมีชี้ไปทางทิศที่ลมมาถือว่า เป็นการ "แทงลม" บ้างก็เอามีดไปเสียบขัดไว้ที่ข้างฝา บ้างใช้มีดขัดกลอนประตูหน้าต่างนัยว่าเป็นการขัดหรือฝืนลม บางแห่งให้ลูกหลานไปซื้อเหล้าโรงมาประกอบพิธีไล่ลมที่เรียกว่า "ม้าเหล็กไล่ม้าลม" โดยนำเขียงไปวางที่ชานเรือน พ่อเจ้าเรือนจะถือมีดด้วยมือซ้าย กลั้นลมหายใจสับมีดอย่างแรงให้มีดสับคาเขียงและปลายมีดชี้ไปทางทิศที่ลมมา แล้วเสกเหล้าด้วยมนต์ "คาถาฟ้าฟีก" (ฟีก = หลีก) ว่า "ระตะนัง ปุระโต อาสิ" อมแล้วพ่นไปที่มีดพร้อมให้ลูกหลานตบมือส่งเสียงโห่ร้องว่า "เอ้าๆ ม้าเหล็กไล่ม้าลม..เอ้า ๆ ?เฮ้!ๆๆๆ" ... (อ.สนั่น ธรรมธิ เขียนไว้ครับ)

    แล้ว เหตุใด จึงมีชื่อว่าคาถาตาลหิ้น...???... มีเรื่องเล่าแบบมุขปาถะ เรื่องหนึ่งว่า... ในแคว้นล้านนาสมัยของเจ้าหนานติ๊บจ๊าง (ทิพย์ช้าง)
    ต้น ตะกูล ทิพย์ช้างเชื้อเจ้าเจ็ดตน หลักฐานยังอยู่ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ท่านเป็นปู่ของ เจ้าชีวิตอ้าว เจ้าหลวงเชียงใหม่ ตามประวัติว่า ถ้าท่านอุทานว่า "อ้าว" เมื่อไหร่ต้องจับประหารเมื่อนั้น หนานติ๊บจ๊างมีอาจารย์อยู่ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านนับถือมากเป็นคนประสิทธิประสาทคาถาทั้งหลายทั้งมวลให้ (เข้าใจว่าเป็น พระมหาเถรวัดชมพู) วันหนึ่งท่านเรียกหนาน เข้าไปหาและบอกว่าจะให้ของดี มันเป็นคาถา แต่ไม่มีชื่อเรียก มี 8 คำ เมื่อเจ้าหนานท่องจนขึ้นใจแล้วก็จะทดสอบความขลัง จึงให้ทหารเอาปืนมาอยู่ใต้ต้นตาล ให้มากที่สุด จากนั้นเจ้าหนานก็ขึ้น ไปอยู่ยอดต้นตาล แล้วสั่งให้ทหารยิง ยิงเท่าไหร่ก็ไม่ถูกเจ้าหนานจนต้นตาลปลายด้วนหมด เจ้าหนานเลยตั้งชื่อ คาถาบทนี้ ว่า ยอดตาลหิ้น นั่นเอง .... อย่างที่ออกตัวไว้ตั้งแต่ต้น นี่เป็นเพียงเรื่องเล่าต่อๆ กันมา ไม่สามารถหาหลักฐานใดๆ ยืนยันได้ กล่าวโดยสรุปก็คือ ยันต์นี้ ถือเป็นยันต์ที่มีอานุภาพ มากเรื่องแคล้วคลาด ป้องกันภัย ภยันตรายต่างๆ และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ครูบาอาจารย์ทางเหนือใช้กันมากครับ


    สวยคราบแป้ง เดิมๆไม่ผ่านการใช้ครับ

    บูชาแล้วครับ

    Clip_18.jpg Clip_19.jpg VPeP98_8axxFlvxmwtY1xnjmv9AF9nFurw-nkvFh1Z_BBAK5HjMAJtVBCU9kpfmAMT9nX2MzWs9T-2gsaVEjpbj0UrcgoCqA.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2020
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 5823

    เหรียญ ชัยยะมังคะลัง ( ชัยมงคล )
    หลวงปู่ครูบาอิน อินโท
    วัดฟ้าหลั่ง เนื้อทองแดง

    จัดสร้างปี 2537 พระคาถาด้านหลัง ซึ่งเขียนเป็นภาษาล้านนา อ่านว่า... เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหนตุเต ชยมังคลัง... ซึ่งตัดตอนมาจากพระคาถาพระเจ้าชนะมาร... และยันต์พระเจ้าห้าพระองค์

    ราคา 550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_25.jpg Clip_26.jpg

    98_8axxflvxmwty1xnjmv9af9nfurw-nkvfh1z_bbak5hjmajtvbcu9kpfmamt9nx2mzws9t-2gsavejpbj0urcgocqa-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2020
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 5824

    พระอุปคุตชนะมารหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ปี 2537


    พระอุปคุตชนะมาร หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา

    (สุดยอดมวลสาร)
    มวลสารสำคัญหลายอย่าง ผงจากดินสังเวชณียสถานทั้ง4 แห่ง ผงพระธาตุ 500 อรหันต์ ผงพระธาตุพระสีวลี ผงพระธาตุพระอุปคุต
    พุทธคุณมหาลาภเจริญรุ่งเรือง ขจัดปัดเป่าอุปสรรคเวรภัยสิ่งไม่ดี


    ราคา 450 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    IMG_9387.JPG IMG_9388.JPG IMG_9390.JPG U13305236372379670828085362.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2020
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 5823

    พระเหนือพรหม ครูบาชัยวงศ์ ปี 37 เนื้อผงจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ครูบาชัยวงศ์เมตตาอธิษฐานจิต

    พระเหนือพรหม ปี 37 เนื้อผงจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    ครูบาชัยวงศาอธิษฐานจิต

    พระเหนือพรหม หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน พระเหนือพรหม ปี 37 หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน รุ่นนี้พระอาจารย์สุทิน (ลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก) สร้างให้ครูบาชัยยวงศ์ษา อธิษฐานจิตปลุกเสก โดยใช้ผงของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก เป็นมวลสารหลัก
    พระดีน่าใช้มากๆ สวย ๆครับ


    บูชาแล้วครับ

    IMG_9428.JPG IMG_9429.JPG
    u13305236372379670828085362-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2020
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 5825

    รูปหล่อรุ่นแรก(ถือน้ำเต้า) ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน(รัฐไทใหญ่) ประเทศพม่า ปี2539

    รูปหล่อยอดนิยมของท่านครูบาบุญชุ่ม สวย ๆ หายาก สร้างน้อยครับ

    บูชาแล้วครับ

    IMG_9369.JPG 9p.jpg IMG_9373.JPG IMG_9380.JPG aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTU2OC83ODQzODIyL25ld3MxMC5qcGc=.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2020
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 5826

    เหรียญพระสิงห์หนึ่งรุ่นแรก ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน(รัฐไทใหญ่) ประเทศพม่า

    วัตถุมงคลยุคแรกของท่านครูบา สวย ๆ ครับ



    คุณ j999 บูชาแล้วครับ


    IMG_9247.JPG IMG_9248.JPG ahr0chm6ly9zlmlzyw5vb2suy29tl25zlzavdwqvmtu2oc83odqzodiyl25ld3mxmc5qcgc-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2020
  9. Nattawut8899

    Nattawut8899 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +7,050
    รายการที่ 5817

    เข็มกลัด ภปร.ปี 2519 ที่ระลึก เสด็จเททองหล่อพระพุทธบุพพาภิมงคล วัดบุพพาราม จ.เชียงใหม่
    ราคา850 บาท

    จองครับ
     
  10. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,968
    ค่าพลัง:
    +5,381
    ขอจองครับ
     
  11. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,968
    ค่าพลัง:
    +5,381
    ขอจองครับ
     
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รับทราบการจอง ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Clip_5.jpg
      Clip_5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.6 KB
      เปิดดู:
      21
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รับทราบการจอง ขอบคุณครับ
     
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 5827

    วัวธนูอาคมรุ่นแรกอาจารย์เณร วิเศษสิงห์คำ วัดป่าสัก. ปี 2519 ผิวสวย ๆ พร้อมร้อยจารเดิม ๆ

    ตำนานวัวธนูวิ่งชนในบาตร ขนาดพิธีปลุกเสกกลางป่าช้า วัวธนูอาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ สร้างเมื่่อปี พ.ศ.2519 วัตถุมงคลที่ว่านี้ไม่เป็นสองรองใครโดยประวัติการเล่าต่อๆกันมาว่าจนถึงปัจจุบัน ท่านอาจารย์เณรได้ปลุกเสกวัวธนูนี้ในป่าช้าบ้านป่าสัก2วาระ ปลุกเสกวัดร้างบนเขา เขตจอมทอง1วาระ เมื่อขณะที่ท่านกำลังปลุกเสกวาระที่กลางป่าช้าชาวบ้านต่างได้มีเสียงวัววิ่งรอบป่าช้า และวัวธนูเนื้อทองแดงวิ่งชนกันในบาตรพระที่ท่านใช้ปลุกเสกนั่งปรก โดยท่านปลุกเสือในตัวสู้กับวัวธนูที่วิ่งในบาตร จนวัวธนูเนื้อทองแดงตัวหนึ่งกระเด็นออกมาจากบาตร(และมีเสียงวัวธนูตัวนั้นวิ่งรอบบริเวณป่าช้า จนเป็นที่ล่ำลือจนถึงทุกวันนี้ วัวธนูอาคมที่โ่ด่งดังมาจนถึงปัจจุบันและมีข้อความที่ท่านเขียนไว้ว่า "วัวนี้เป็นวัวที่เสกป่าช้า มีค่ายิ่งกว่าวัวธนูเงิน ผู้ใดทำสูญ ผู้นั้นพึงมิใช่คน เรารักยิ่งเสมือนบรมครู" วัวธนูที่ท่านสร้างมีเพียงรุ่นเดียวเมื่อปี 2519 มีอยู่สองเนื้อ วัวธนูเนื้อเงิน จำนวนการสร้าง 99 ตัว วัวส่วนหนึ่งแจกให้กรรมการผู้สร้างจำนวน 14 คน และวัวธนูเนื้อทองแดงรมดำ จำนวนการสร้าง 2,999 ตัว
    คาถา ปลุก วัวธนู
    โอมโคโน มหาโคโน โอมเสโส มหาเสโส
    โอมสะตะสะตา ผลายันตุ
    #โอมปลุก โอมปลุก กูจักปลุกวัวธนูกูหื้อมีกำลังเหมือนดังช้างสาร ป่าใหญ่ หื้อมีเตชะ อำนาจใหญ่เหมือนดัง ราชสีห์ล่าเนื้อ กูจักไจ้หื้อจนก่จน กูจักไจ้หื้อแตงก่แตง แม้นว่ากำแปง ปันแสนก่ปอพังทะลายได้ โอมสวาหะเท็ก
    ของดีน่าใช้มากครับ


    บูชาแล้วครับ

    j.jpg jkj.jpg sda.jpg cx.jpg nm.jpg Clip_9.jpg Clip_10.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2020
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 5828

    เหรียญรุ่นแรก ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล จ.เชียงใหม่ ปี 2515 เลี่บเก่าเดิมๆ

    ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร - “ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร” แห่งวัดป่าดอนมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ อดีตพระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา ต้นตำรับการสร้างวัวธนู
    มีนามเดิมว่า คำแสน เพ็งทัน เกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2436 ที่บ้านสันโค้งใหม่ ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
    บรรพชาเมื่ออายุ 17 ปี โดยมีพระอธิการโพธิ (ครูบา) วัดสันโค้ง เป็นพระอุปัชฌาย์ และต่อมาเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดดอนมูลแห่งนี้
    บวช 3 พรรษา ไปศึกษาต่อกับพระอธิการแก้ว ชยเสโน (ครูบาแก้ว) ที่วัดน้ำจำ ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยได้ศึกษาพระธรรมวินัยและเรียนกัมมัฏฐาน
    ก่อนหน้านั้น ทราบข่าวจากชาวบ้านว่าทางราชการได้จับครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา มากักขังไว้ที่วัดศรีดอนไชย จ.เชียงใหม่ ครูบาคำแสนมีความเคารพ และเลื่อมใสในครูบาศรีวิชัยเป็นอย่างยิ่ง ได้ชักชวนพระสงฆ์และชาวบ้านให้พากันไปเยี่ยม แต่คนทั้งหลายกลัวจะถูกตำหนิหรือถูกกลั่นแกล้งจากทางราชการ ในที่สุดก็เดินทางไปกับเณรและลูกศิษย์เพียง 2-3 คนเท่านั้นเดินทางประมาณ 15-16 กิโลเมตรกว่าจะถึงวัดศรีดอนไชย เมื่อเข้าไปภายในวิหารนั้นมีพระสงฆ์สูงอายุรูปหนึ่งนั่งอยู่ด้วยอาการสงบ ในลักษณะขัดสมาธิ ห่มผ้าสีกรัก ในขณะที่กราบลงไปนั้นก็เกิดความอ่อนไหว จนร้องไห้ด้วยความสงสารในครูบาศรีวิชัยที่ต้องมาถูกจองจำและจะถูกจับสึกที่ กรุงเทพฯ
    เสียงร้องไห้ของครูบาคำแสนในขณะนั้น ทำให้ครูบาศรีวิชัยเอื้อมมือมาตบที่ไหล่ พร้อมกล่าวว่า “ท่านเป็นพระจะร้องไห้ไม่ได้ พระเป็นผู้ตัดแล้วซึ่งกิเลส เมื่อเป็นเช่นนั้นต้องระงับอารมณ์ไม่ให้มีการร้องไห้เด็ดขาด” ขณะเดียวกันก็เริ่มสอนให้นั่งขัดสมาธิ เอามือประสานกันวางไว้บนตัก หลับตาพร้อมกับท่องคำว่า “นะโม” ในใจหลายสิบหลายร้อยจบให้ท่องไปเรื่อย
    ครูบาคำแสนปฏิบัติตามคำสั่ง ท่องไปท่องมาไม่นานอาการสะอึกสะอื้นและน้ำตาก็หายไป ครูบาศรีวิชัยจึงสั่งให้ลืมตาขึ้น
    ครูบาศรีวิชัยเทศน์อบรมเกี่ยวกับขันติให้ครูบาคำแสนฟัง พร้อมกับแนะนำสั่งสอนให้ศึกษาวิปัสสนา แล้วครูบาคำแสนก็นมัสการลา จึงนับว่าเป็นบทเรียนแรกในชีวิตเกี่ยวกับการศึกษาวิปัสสนา และท่านก็หาทางจะศึกษาในเรื่องนี้ ต่อมาเมื่อท่านเรียนกัมมัฏฐานจากครูบาแก้ว ชัยยะเสโน ท่านก็ขอลาครูบาแก้วออกเดินธุดงค์จาริกไปในที่ต่างๆ เมื่อคราวเข้าพรรษาท่านจึงจะกลับมาอยู่ที่วัดดอนมูล
    พออายุ 34 ปี พระอธิการธรรมเสนา เจ้าอาวาสวัดดอนมูลมรณภาพ คณะศรัทธาจึงได้นิมนต์ครูบาคำแสนเป็นเจ้าอาวาสสืบมา
    จนท่านมีอายุ 39 ปี มีพระธุดงค์ชื่อพระอาจารย์แหวน สุจิณโณ เดินธุดงค์มาพักอาศัยอยู่ที่วัดอู่ทรายคำ ในเมืองเชียงใหม่ เมื่อทราบดังนั้นท่านได้ให้โยมคนหนึ่ง ไปนิมนต์พระอาจารย์แหวน ให้มาเผยแผ่พระธรรมและอบรมที่วัดดอนมูล
    ต่อมาพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาพำนักอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง พระอาจารย์แหวนและครูบาคำแสนได้ไปนมัสการ และได้ถวายเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่นตั้งแต่บัดนั้นมา ต่อมาพระอาจารย์แหวนท่านได้จาริกไปมาในเมืองเชียงใหม่ และไปจำพรรษาที่วัดป่าห้วยน้ำริน อ.แม่แตง
    ส่วนครูบาคำแสน หลังจากได้เรียนพระกัมมัฏฐานจากพระอาจารย์มั่น แล้วท่านก็ได้เดินธุดงค์ไปยังประเทศพม่า ย่างกุ้ง หงสาวดี แล้วเดินย้อนกลับไปสู่ภาคอีสาน ไปอยู่กับท่านอาจารย์สิงห์ที่จังหวัดนครราชสีมา
    จากนั้นจึงได้เดินทางกลับขึ้นไปทางเหนือ ไปอยู่ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ถ้ำพระ จ.เชียงราย ถ้ำดอกคำพร้าว พระบาทสี่รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ใดเป็นที่วิเวก เป็นป่าเปลี่ยวท่านก็ได้พักภาวนาเรื่อยไปไม่หยุดไม่หย่อน ตามโอวาทของพระอาจารย์มั่น ที่ได้ให้ข้อคิดไว้ว่า “ทำจริงก็คงจะได้ของจริงเท่านั้น” ท่านเป็นลูกศิษย์ที่อยู่ในมหานิกาย ไม่ต้องญัตติใหม่เป็นธรรมยุต
    ครูบาคำแสนสร้างเครื่องรางของขลังหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตะกรุดโทน ผ้ายันต์มหาสิทธิมงคล มหาสิทธิโชค และเครื่องราง ที่ถือว่าท่านได้สร้างตามหลักโบราณ คือ วัวธนู
    "ครูบาคำแสน" เป็นสหายธรรมกับหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งหลวงพ่อฤๅษีลิงดำได้เคยพาลูกศิษย์ไปกราบและร่วมบุญกับท่านเสมอ ครับ


    บูชาแล้วครับ

    IMG_9444เก.jpg IMG_9445กดก.jpg Clip_8.jpg Clip_11.jpg
    PLZwTVTmBQSED4n834MPCnx4gCStAZbcCuwKd5GbhA6V&_nc_ohc=swIMqN188YMAX-1sy72&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2020
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 5829

    เหรียญหมดห่วงครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล จ.เชียงใหม่ ปี 251 เนื้อเงินผิวสวยเดิม ๆ หมายเลข 925

    ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร - “ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร” แห่งวัดป่าดอนมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ อดีตพระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา ต้นตำรับการสร้างวัวธนู
    มีนามเดิมว่า คำแสน เพ็งทัน เกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2436 ที่บ้านสันโค้งใหม่ ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
    บรรพชาเมื่ออายุ 17 ปี โดยมีพระอธิการโพธิ (ครูบา) วัดสันโค้ง เป็นพระอุปัชฌาย์ และต่อมาเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดดอนมูลแห่งนี้
    บวช 3 พรรษา ไปศึกษาต่อกับพระอธิการแก้ว ชยเสโน (ครูบาแก้ว) ที่วัดน้ำจำ ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยได้ศึกษาพระธรรมวินัยและเรียนกัมมัฏฐาน
    ก่อนหน้านั้น ทราบข่าวจากชาวบ้านว่าทางราชการได้จับครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา มากักขังไว้ที่วัดศรีดอนไชย จ.เชียงใหม่ ครูบาคำแสนมีความเคารพ และเลื่อมใสในครูบาศรีวิชัยเป็นอย่างยิ่ง ได้ชักชวนพระสงฆ์และชาวบ้านให้พากันไปเยี่ยม แต่คนทั้งหลายกลัวจะถูกตำหนิหรือถูกกลั่นแกล้งจากทางราชการ ในที่สุดก็เดินทางไปกับเณรและลูกศิษย์เพียง 2-3 คนเท่านั้นเดินทางประมาณ 15-16 กิโลเมตรกว่าจะถึงวัดศรีดอนไชย เมื่อเข้าไปภายในวิหารนั้นมีพระสงฆ์สูงอายุรูปหนึ่งนั่งอยู่ด้วยอาการสงบ ในลักษณะขัดสมาธิ ห่มผ้าสีกรัก ในขณะที่กราบลงไปนั้นก็เกิดความอ่อนไหว จนร้องไห้ด้วยความสงสารในครูบาศรีวิชัยที่ต้องมาถูกจองจำและจะถูกจับสึกที่ กรุงเทพฯ
    เสียงร้องไห้ของครูบาคำแสนในขณะนั้น ทำให้ครูบาศรีวิชัยเอื้อมมือมาตบที่ไหล่ พร้อมกล่าวว่า “ท่านเป็นพระจะร้องไห้ไม่ได้ พระเป็นผู้ตัดแล้วซึ่งกิเลส เมื่อเป็นเช่นนั้นต้องระงับอารมณ์ไม่ให้มีการร้องไห้เด็ดขาด” ขณะเดียวกันก็เริ่มสอนให้นั่งขัดสมาธิ เอามือประสานกันวางไว้บนตัก หลับตาพร้อมกับท่องคำว่า “นะโม” ในใจหลายสิบหลายร้อยจบให้ท่องไปเรื่อย
    ครูบาคำแสนปฏิบัติตามคำสั่ง ท่องไปท่องมาไม่นานอาการสะอึกสะอื้นและน้ำตาก็หายไป ครูบาศรีวิชัยจึงสั่งให้ลืมตาขึ้น
    ครูบาศรีวิชัยเทศน์อบรมเกี่ยวกับขันติให้ครูบาคำแสนฟัง พร้อมกับแนะนำสั่งสอนให้ศึกษาวิปัสสนา แล้วครูบาคำแสนก็นมัสการลา จึงนับว่าเป็นบทเรียนแรกในชีวิตเกี่ยวกับการศึกษาวิปัสสนา และท่านก็หาทางจะศึกษาในเรื่องนี้ ต่อมาเมื่อท่านเรียนกัมมัฏฐานจากครูบาแก้ว ชัยยะเสโน ท่านก็ขอลาครูบาแก้วออกเดินธุดงค์จาริกไปในที่ต่างๆ เมื่อคราวเข้าพรรษาท่านจึงจะกลับมาอยู่ที่วัดดอนมูล
    พออายุ 34 ปี พระอธิการธรรมเสนา เจ้าอาวาสวัดดอนมูลมรณภาพ คณะศรัทธาจึงได้นิมนต์ครูบาคำแสนเป็นเจ้าอาวาสสืบมา
    จนท่านมีอายุ 39 ปี มีพระธุดงค์ชื่อพระอาจารย์แหวน สุจิณโณ เดินธุดงค์มาพักอาศัยอยู่ที่วัดอู่ทรายคำ ในเมืองเชียงใหม่ เมื่อทราบดังนั้นท่านได้ให้โยมคนหนึ่ง ไปนิมนต์พระอาจารย์แหวน ให้มาเผยแผ่พระธรรมและอบรมที่วัดดอนมูล
    ต่อมาพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาพำนักอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง พระอาจารย์แหวนและครูบาคำแสนได้ไปนมัสการ และได้ถวายเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่นตั้งแต่บัดนั้นมา ต่อมาพระอาจารย์แหวนท่านได้จาริกไปมาในเมืองเชียงใหม่ และไปจำพรรษาที่วัดป่าห้วยน้ำริน อ.แม่แตง
    ส่วนครูบาคำแสน หลังจากได้เรียนพระกัมมัฏฐานจากพระอาจารย์มั่น แล้วท่านก็ได้เดินธุดงค์ไปยังประเทศพม่า ย่างกุ้ง หงสาวดี แล้วเดินย้อนกลับไปสู่ภาคอีสาน ไปอยู่กับท่านอาจารย์สิงห์ที่จังหวัดนครราชสีมา
    จากนั้นจึงได้เดินทางกลับขึ้นไปทางเหนือ ไปอยู่ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ถ้ำพระ จ.เชียงราย ถ้ำดอกคำพร้าว พระบาทสี่รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ใดเป็นที่วิเวก เป็นป่าเปลี่ยวท่านก็ได้พักภาวนาเรื่อยไปไม่หยุดไม่หย่อน ตามโอวาทของพระอาจารย์มั่น ที่ได้ให้ข้อคิดไว้ว่า “ทำจริงก็คงจะได้ของจริงเท่านั้น” ท่านเป็นลูกศิษย์ที่อยู่ในมหานิกาย ไม่ต้องญัตติใหม่เป็นธรรมยุต
    ครูบาคำแสนสร้างเครื่องรางของขลังหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตะกรุดโทน ผ้ายันต์มหาสิทธิมงคล มหาสิทธิโชค และเครื่องราง ที่ถือว่าท่านได้สร้างตามหลักโบราณ คือ วัวธนู
    "ครูบาคำแสน" เป็นสหายธรรมกับหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งหลวงพ่อฤๅษีลิงดำได้เคยพาลูกศิษย์ไปกราบและร่วมบุญกับท่านเสมอ ครับ


    ราคา 3550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    jk.jpg b.jpg nj.jpg sada.jpg Clip_8.jpg Clip_11.jpg

    PLZwTVTmBQSED4n834MPCnx4gCStAZbcCuwKd5GbhA6V&_nc_ohc=swIMqN188YMAX-1sy72&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2020
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    เหรียญเม็ดกระดุม ขวัญถุง ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล จ.เชียงใหม่ เนื้อทองคำ

    ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร - “ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร” แห่งวัดป่าดอนมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ อดีตพระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา ต้นตำรับการสร้างวัวธนู
    มีนามเดิมว่า คำแสน เพ็งทัน เกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2436 ที่บ้านสันโค้งใหม่ ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
    บรรพชาเมื่ออายุ 17 ปี โดยมีพระอธิการโพธิ (ครูบา) วัดสันโค้ง เป็นพระอุปัชฌาย์ และต่อมาเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดดอนมูลแห่งนี้
    บวช 3 พรรษา ไปศึกษาต่อกับพระอธิการแก้ว ชยเสโน (ครูบาแก้ว) ที่วัดน้ำจำ ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยได้ศึกษาพระธรรมวินัยและเรียนกัมมัฏฐาน
    ก่อนหน้านั้น ทราบข่าวจากชาวบ้านว่าทางราชการได้จับครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา มากักขังไว้ที่วัดศรีดอนไชย จ.เชียงใหม่ ครูบาคำแสนมีความเคารพ และเลื่อมใสในครูบาศรีวิชัยเป็นอย่างยิ่ง ได้ชักชวนพระสงฆ์และชาวบ้านให้พากันไปเยี่ยม แต่คนทั้งหลายกลัวจะถูกตำหนิหรือถูกกลั่นแกล้งจากทางราชการ ในที่สุดก็เดินทางไปกับเณรและลูกศิษย์เพียง 2-3 คนเท่านั้นเดินทางประมาณ 15-16 กิโลเมตรกว่าจะถึงวัดศรีดอนไชย เมื่อเข้าไปภายในวิหารนั้นมีพระสงฆ์สูงอายุรูปหนึ่งนั่งอยู่ด้วยอาการสงบ ในลักษณะขัดสมาธิ ห่มผ้าสีกรัก ในขณะที่กราบลงไปนั้นก็เกิดความอ่อนไหว จนร้องไห้ด้วยความสงสารในครูบาศรีวิชัยที่ต้องมาถูกจองจำและจะถูกจับสึกที่ กรุงเทพฯ
    เสียงร้องไห้ของครูบาคำแสนในขณะนั้น ทำให้ครูบาศรีวิชัยเอื้อมมือมาตบที่ไหล่ พร้อมกล่าวว่า “ท่านเป็นพระจะร้องไห้ไม่ได้ พระเป็นผู้ตัดแล้วซึ่งกิเลส เมื่อเป็นเช่นนั้นต้องระงับอารมณ์ไม่ให้มีการร้องไห้เด็ดขาด” ขณะเดียวกันก็เริ่มสอนให้นั่งขัดสมาธิ เอามือประสานกันวางไว้บนตัก หลับตาพร้อมกับท่องคำว่า “นะโม” ในใจหลายสิบหลายร้อยจบให้ท่องไปเรื่อย
    ครูบาคำแสนปฏิบัติตามคำสั่ง ท่องไปท่องมาไม่นานอาการสะอึกสะอื้นและน้ำตาก็หายไป ครูบาศรีวิชัยจึงสั่งให้ลืมตาขึ้น
    ครูบาศรีวิชัยเทศน์อบรมเกี่ยวกับขันติให้ครูบาคำแสนฟัง พร้อมกับแนะนำสั่งสอนให้ศึกษาวิปัสสนา แล้วครูบาคำแสนก็นมัสการลา จึงนับว่าเป็นบทเรียนแรกในชีวิตเกี่ยวกับการศึกษาวิปัสสนา และท่านก็หาทางจะศึกษาในเรื่องนี้ ต่อมาเมื่อท่านเรียนกัมมัฏฐานจากครูบาแก้ว ชัยยะเสโน ท่านก็ขอลาครูบาแก้วออกเดินธุดงค์จาริกไปในที่ต่างๆ เมื่อคราวเข้าพรรษาท่านจึงจะกลับมาอยู่ที่วัดดอนมูล
    พออายุ 34 ปี พระอธิการธรรมเสนา เจ้าอาวาสวัดดอนมูลมรณภาพ คณะศรัทธาจึงได้นิมนต์ครูบาคำแสนเป็นเจ้าอาวาสสืบมา
    จนท่านมีอายุ 39 ปี มีพระธุดงค์ชื่อพระอาจารย์แหวน สุจิณโณ เดินธุดงค์มาพักอาศัยอยู่ที่วัดอู่ทรายคำ ในเมืองเชียงใหม่ เมื่อทราบดังนั้นท่านได้ให้โยมคนหนึ่ง ไปนิมนต์พระอาจารย์แหวน ให้มาเผยแผ่พระธรรมและอบรมที่วัดดอนมูล
    ต่อมาพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาพำนักอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง พระอาจารย์แหวนและครูบาคำแสนได้ไปนมัสการ และได้ถวายเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่นตั้งแต่บัดนั้นมา ต่อมาพระอาจารย์แหวนท่านได้จาริกไปมาในเมืองเชียงใหม่ และไปจำพรรษาที่วัดป่าห้วยน้ำริน อ.แม่แตง
    ส่วนครูบาคำแสน หลังจากได้เรียนพระกัมมัฏฐานจากพระอาจารย์มั่น แล้วท่านก็ได้เดินธุดงค์ไปยังประเทศพม่า ย่างกุ้ง หงสาวดี แล้วเดินย้อนกลับไปสู่ภาคอีสาน ไปอยู่กับท่านอาจารย์สิงห์ที่จังหวัดนครราชสีมา
    จากนั้นจึงได้เดินทางกลับขึ้นไปทางเหนือ ไปอยู่ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ถ้ำพระ จ.เชียงราย ถ้ำดอกคำพร้าว พระบาทสี่รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ใดเป็นที่วิเวก เป็นป่าเปลี่ยวท่านก็ได้พักภาวนาเรื่อยไปไม่หยุดไม่หย่อน ตามโอวาทของพระอาจารย์มั่น ที่ได้ให้ข้อคิดไว้ว่า “ทำจริงก็คงจะได้ของจริงเท่านั้น” ท่านเป็นลูกศิษย์ที่อยู่ในมหานิกาย ไม่ต้องญัตติใหม่เป็นธรรมยุต
    ครูบาคำแสนสร้างเครื่องรางของขลังหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตะกรุดโทน ผ้ายันต์มหาสิทธิมงคล มหาสิทธิโชค และเครื่องราง ที่ถือว่าท่านได้สร้างตามหลักโบราณ คือ วัวธนู
    "ครูบาคำแสน" เป็นสหายธรรมกับหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งหลวงพ่อฤๅษีลิงดำได้เคยพาลูกศิษย์ไปกราบและร่วมบุญกับท่านเสมอ ครับ


    n.jpg fgdo.jpg m.jpg Clip_7.jpg Clip_8.jpg Clip_11.jpg PLZwTVTmBQSED4n834MPCnx4gCStAZbcCuwKd5GbhA6V&_nc_ohc=swIMqN188YMAX-1sy72&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2020
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รานการที่ 5830

    เหรียญรุ่นแรกครูบาอุ่น วัดโรงวัว อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เหรียญสวยเดิม

    หลวงปู่ครูบาอุ่น อตฺถกาโม วัดโรงวัว อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ อายุ 91 ปี 70 พรรษา.พระเกจิผู้มีพรรษาสูงและทรงวิยาคมแห่งสันป่าตอง

    เหรียญรุ่นแรกของท่านจัดสร้างน้อยหายากมากครับ

    สวยเดิม ๆ


    บูชาเเล้วครับ

    bk.jpg m[.jpg vc.jpg Q7I7wiObk5-65IRpT1X_VDVkT041aGT4YAR9rTIskFw5&_nc_ohc=V6_AjBi93l8AX-vRzwZ&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2020
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    พระบูชาครูบาสร้อย ขันติสาโร วัดมงคลคีรีเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ขนาด 9 นิ้ว หมายเลข 274 หายากมากครับ

    "ครูบาสร้อย ขันติสาโร" หรือ "ครูบาศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านมะตะวอ" หลายท่านคงคุ้นหูหรือเคยได้ยินกิตติศัพท์ของท่านบ้างไม่มากก็น้อย

    ถ้า ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อนหลายๆ ท่านคงคุ้นหูว่ามีครูบาที่มีอาคมขลังศักดิ์สิทธิ์อยู่รูปหนึ่งในเขตทางภาค เหนือ ที่กล่าวมานั้นคือ "หลวงพ่อครูบาสร้อย ขันติสาโร" แม่ตะวอ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก

    ชาวบ้านแถบใกล้เคียง หรือต่างจังหวัดที่เคยมากราบท่านจะทราบดีว่าท่านเป็นพระที่มีอาคมขลังมากรูป หนึ่ง ถ้าท่านที่เคยไปกราบท่านจะทราบดีว่าท่านมีของดีอยู่อย่างหนึ่งที่ท่านมักแจก ให้กับลูกศิษย์ที่นับถือ คือ "กระบอกยาอันศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งภายในมีของดีบรรจุอยู่คือ สีผึ้ง ชานหมาก เกศา ว่าน พระสีวลีองค์จิ๋ว และมีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ชาวกะเหรี่ยง พม่า และชนเผ่าต่างๆ นับถือกันมากครับ ถ้าท่านใดเจอที่ไหนบูชาเก็บไว้คุ้มครองกายได้ดีทีเดียวครับ

    "กระบอก ยาศักดิ์สิทธิ์" เป็นวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่งซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับ ท่านเป็นอย่างมาก เพราะแต่ก่อนถ้าใครได้ไปกราบครูบาหรือครูบารับนิมนต์ไปไหนท่านจะนำหลอดยานี้ ติดมาแจกให้กับลูกศิษย์อยู่เสมอ

    ลูกศิษย์ส่วนมากมีคล้องหรือติดตัว กันแทบทุกคน ทำให้เกิดประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด คงกระพัน เป็นเมตตามหานิยม เล่าให้ฟังเหมือนโม้หรืออุตริ ของอย่างนี้ต้องลองใช้เองหรือสอบถามลูกศิษย์ทางสายครูบาสร้อยจะรู้ว่าดีแค่ ไหน

    วัข้อมูลประวัติ ครูบาสร้อย ขันติสาโร พระเกจิวัดมงคลคีรีเขตร์

    'ครูบาสร้อย ขันติสาโร' หรือ 'พระครูนิมมานการโสภณ' วัดมงคลคีรีเขตร์ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีวิทยาคมรูปหนึ่งภาคเหนือ

    เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ก.ย. 2472 ตรงกับวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 10 ปีมะเส็ง พื้นที่เขตตำบลละหานทราย อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

    เมื่ออายุได้ 7 ขวบ โยมมารดาของท่านได้ถึงแก่กรรม ท่านได้มาอยู่ในความดูแลของคุณยาย ซึ่งคุณยายของท่านชอบเข้าวัดฟังธรรมตามวิถีชีวิตชนบท และมักพาท่านไปด้วยเสมอ ทำ ให้ท่านได้ใกล้ชิดกับวัดมาตลอด

    เมื่อเรียนจบชั้นประถม 4 เด็กชายสร้อยจึงได้ขออนุญาตคุณยายบรรพชาที่วัดชุมพร มีหลวงพ่อมั่น เป็นพระอุปัชฌาย์

    หลังจากนั้น ได้ถวายตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อ มั่น ฝึกบริกรรมด้วยการนับลูกประคำเป็นการฝึกสมาธิ เรียนวิทยาคมต่างๆ ควบคู่ไปกับการปฏิบัติสมาธิด้วย

    อยู่กับหลวงพ่อมั่น จวบจนอายุ 22 ปี จึงได้อุปสมบท มี หลวงพ่อมั่น เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และหลวงพ่อสุต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ขันติสาโร

    หลังจากบวช หลวงพ่อสุขได้กล่าวชวนไป อยู่ด้วย ซึ่งส่วนตัวมีความเลื่อมใสศรัทธาและประสงค์ขอเรียนวิทยาคมจากหลวงพ่อสุข

    ในช่วงต้นหลวงพ่อสุขได้เน้นหนักในเรื่องการปฏิบัติกัมมัฏฐาน ในพรรษาถัดมา หลวงพ่อมั่น ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านได้มรณภาพลง ท่านจึงได้กลับไปจัดงานถวายหลวงพ่อมั่น เสร็จสิ้นแล้วจึงกลับมายังวัดหลวงพ่อสุขดังเดิม

    หลวงพ่อสุข ได้เริ่มสอนวิชาต่างๆ แก่ท่าน วิชาที่สำคัญ คือ การตรวจดูบุญวาสนา เพื่อช่วยในการรักษาโรคภัยต่างๆ

    พ.ศ.2497 ครูบาสร้อยได้ขอลาหลวงปู่สุขเข้าสู่กรุงเทพมหานคร โดยจุดหมายคือ วัดมหาธาตุฯ ด้วยขณะนั้นขึ้นชื่อในเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ท่านได้อยู่ศึกษาเป็นเวลา 7 เดือน จึงลาพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) ผู้สอนท่านกลับคืนยังบุรีรัมย์ เมื่อญาติโยมได้รู้ข่าวการกลับมาของท่าน จึงได้ต้อนรับและนิมนต์ให้ท่านอยู่ที่วัดกลางนา

    แต่หลังจากออกพรรษาท่านได้ตัดสินใจออกธุดงค์ ถือรุกขมูลลัดเลาะไปตามจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ ต่อไปยังอุบลราชธานี จนยาวไปถึงนครพนม ข้ามไปยังฝั่งลาวแล้วข้ามกลับมายังมุกดาหาร ต่อเรื่อยไปจนเข้าสู่เทือกเขาภูพาน เขตสกลนคร เรื่อยไปจนเข้าหล่มสักเข้าพิษณุโลก ซึ่งช่วงนี้ท่านหลงป่าอยู่ จนทะลุออกมายังอุตรดิตถ์

    จากการหลงป่าครั้งนี้ ท่านจึงเปลี่ยนมาเดินโดยใช้เส้นทางรถไฟช่วย ล่วงได้ 7 วัน ท่านก็ถึงดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ได้มีโอกาสพบ 'หลวงปู่แหวน สุจิณโณ' พระสายปฏิบัติชื่อดัง และได้ขอศึกษาข้อธรรมต่างๆ

    หลวงปู่แหวนท่านเน้นไปทางอสุภกัมมัฏ ฐาน ซึ่งช่วงนี้ท่านได้พบกับข้อธรรมที่ลึกซึ้งมาก ขึ้น จากนั้นท่านได้กราบลาหลวงปู่แหวน ออกธุดงค์ถือรุกขมูลไปจนถึงแม่สะเรียง พักที่วัดศรี บุญเรือง

    ท่านตั้งใจจะไปที่แม่ฮ่องสอน แต่ด้วยติดกาลพรรษา จึงได้อยู่จำพรรษาที่วัดศรีบุญเรือง จนล่วงกาลพรรษา ท่านจะออกเดินทางต่อ พอดีได้ทราบจากญาติโยมว่าที่ท่าสองยางมีวัดร้างอยู่

    ท่านได้ไปดูสถานที่แห่งนั้น พบว่าเงียบสงบเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม จึงได้ตกลงใจสร้างวัดมงคลคีรีเขตร์

    ครูบาสร้อยได้พัฒนาวัดมงคลคีรีเขตร์ จนเจริญรุ่งเรืองเป็นที่รู้จักของญาติโยมและคณะศรัทธา จนท่านได้รับการขนานนามว่า เทพเจ้าแห่งท่าสองยาง

    วัตถุมงคลของครูบาสร้อยมีจัดสร้างขึ้นมาก มายทั้งพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะประเภทเหรียญ ที่ได้รับความนิยมจากบรรดาเซียนพระและนักสะสมพระเครื่องเป็นอย่างยิ่ง คือ เหรียญครูบาสร้อย รุ่นสุริยุปราคา ปี 2538

    เหรียญครูบาสร้อย เป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านแคล้วคลาดปลอดภัย

    นอกจากนี้ ชาวบ้านในแถบพื้นที่ใกล้เคียง ที่เคยเดินทางไปกราบนมัสการท่าน จะรู้ดีว่าท่านเป็นพระภิกษุที่มากด้วยเมตตา นอกจากให้เข้าพบโดยง่ายแล้ว ยังชอบแจกวัตถุมงคล กระบอก ยาอันศักดิ์สิทธิ์ ภายในมีของดีบรรจุอยู่คือ สีผึ้ง ชานหมาก เกศา ว่าน พระสีวลีองค์จิ๋ว ชาวกะเหรี่ยง พม่า และชนเผ่าต่างๆ นับถือและชื่นชอบกันมาก

    กระบอกยาศักดิ์สิทธิ์ เป็นวัตถุมงคลอีกชนิดหนึ่ง ที่สร้างชื่อเสียงให้กับครูบาสร้อยเป็นอย่างมาก ท่านจะนำหลอดยานี้แจกให้กับลูกศิษย์อยู่เสมอ มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม

    ครูบาสร้อยได้ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2541 สิริอายุ 69 พรรษา 49

    ปัจจุบันอยู่ในโลงแก้วในกุฏิ ที่ท่านเคยอยู่โดยไม่เน่าเปื่อยครับ


    ddp.jpg Clip_7.jpg jko.jpg i.jpg sx.jpg h.jpg hi.jpg ccx.jpg ่่.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2020
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,131
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่5831

    เหรียญครูบาชัยวงศ์ รุ่นอิทธิมงคล 9 เนื้อเงิน สวย


    หลวงปู่เมตตาอนุญาตให้จัดสร้างขึ้น โดยรวมเอาอิทธิมงคลทั้งเก้ารวมไว้ในรุ่นนี้ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ผู้ได้เช่าบูชา และเป็นรุ่นเดียวที่หลวงปู่ได้ปลุกเศกบล๊อกพิมพ์
    อธิษฐานจิตโดยสุดยอดเกจิเมืองเหนือแห่งยุค
    1. ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง จังหวัดเชียงใหม่
    2. ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี จังหวัดเชียงใหม่
    3. ครูบานุ่น วัดล้อมแรด จังหวัดลำปาง
    4. ครูบาชัยวงษาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    เวลา 09.09 น. หลวงปู่ครูบาอิน ทำพิธีจุดเทียนชัย
    โดยหลวงปู่ครูบาชัยวงค์เป็นผู้ทำพิธีดับเทียนชัย
    เหรียญประสบการณ์อีกรุ่นของหลวงปู่ครูบาชัยวงค์

    #เนื้อเงิน ตอก2โค๊ตจัดสร้างน้อยหายากมาก สวยเดิมๆไม่ผ่านการใช้ ครับ

    ราคา 4700 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    gfi.jpg Clip_8.jpg c.jpg rer.jpg r.jpg Clip_12.jpg Clip_13.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2020

แชร์หน้านี้

Loading...