อานุภาพแห่งการรู้เฉยๆ

ความหมายของการมีสติ คือรู้แจ้งแแทงขันธ์

 

อย่าไปแปลแปลกประหลาดเลย

แปลตามพระไตรปิฎกนั่นแหล่ะ

 

สติก็การละรึกได้ไง ระลึก เห็น เห็นบ่อยๆ
มัน นิพิททา มันเลยวาง

 

พี่เอายุคนี้ดิ ที่เขาค่อยๆ ฝึกไป .....คนโบราณบรรลุ4 ขั้น ทีเดียว แบบเทพฝุดๆ คงมีท่านองคุลีมารเป็นโต้น ละมั้ง

 

ไปฟังหลวงพ่อเยื้อนดิ
หลวงปู่หล้า อีกองค์

 

เห็นตามจริงแรกๆต้องกล่อมจิตด้วยสมถะกรรมฐาน
กิเลสกะอาศัยความต่อเนื่อง
ธรรมกะคือกัน

 

สติแปลคือ การระลึกได้

มีสติ จะมีสัมปชัญญะไปในตัว เหมือนเปลวไฟ กะแสงสว่าง

มีเปลวไฟ แสงสว่างจะมีอัตโนมัติ

สัมปชัญญะ แปลว่า รู้ทัน ภาษาไทยบางทีจึงแปลว่ารู้สึกตัว

ระลึกได้ก็จะรู้สึกตัว

ธรรมฝ่ายตรัสรู้ ในโพฌชง มันจึง เป็นอัญญะมัญญะ สืบต่อกันเป็นอัตโนมัติเป็นลำดับของมัน

เวลาพูดถึงสติตัวเดียว ในภาษาปฏิบัติ อย่างอื่นจึงไม่ค่อยพูดถึง

เพราะผลงาน ผู้เข้าถึงสติ จะประจักษ์ชัดอยู่แล้วโดยไม่ต้องบอก

เว้นแต่ยังไม่เข้าสติ ที่แท้จริง

 

โยมช่วยอบรมให้ด้วยก็แล้วกัน..

หารสแห่งธรรมอันได้สำผัสเอง ไม่มีเลย..

ทีนี้โยมก็จี้ไปที่ผลได้เลย จะได้ไม่ต้องมากความ..

 

หลวงพี่หน้าจะโดนก่อนนะผมว่า55

 

สติเล็กน้อย ก่อนที่จะใช้แบบเล็กน้อยเป็น มันต้องเคยเต็มร้อยมาก่อน..

เหมือนมีเงินร้อย แบ่งใช้ทีละน้อย พอพร่องจากร้อยก็เติมให้เต็มไว้..

"ปุถุชน" ผู้ยังไม่ถึง โสดาบันบุคคล จะเอาสติเล็กน้อยมาจากไหน..

ก็ในเมื่อพระไตรปิฏกกล่าวไว้ว่า.. "พระโสดาบัน มีสติเล็กน้อย"

 

สติเล็กน้อยของพระโสดาบัน คือ สติรู้ตัวทั่วพร้อม หรือ เรียกว่า จิตถึงฐาน หรือ สติสัมโพชฌงค์..

ไม่ใช่สติโลกๆแบบคนทั่วไป แบบสติที่แปลว่า ระลึกได้..

ถ้านับเอาสติแบบคนทั่วไป งั้นทุกคนที่ปฏิบัติรู้กายรู้ใจก็สำเร็จโสดาบันกันหมดละ..

 

มันต้องให้นิพพิทาญาณเกิดขึ้นก่อน จิตถึงจะวิวัฏข้ามไปโสดาบันได้..

ไม่ใช่จะไปเอาตามตำรามาพยากรณ์ว่าใครได้โสดาบัน ใครได้สกิทาคา ใครได้อนาคา..

นั่นมันเป็นเอกสิทธิ์ของพระพุทธเจ้า

ส่วนนักปฏิบัตินั้นจะรู้ได้ด้วยตนเอง เมื่อสังโยชน์สิ้นไปเท่านั้น เท่านี้..

 

น้ำมูกจะไหลฟังละ55หยอกๆ

 

โยมร่อน คุยกับคนอื่นอย่าตะโกนสิโยม..

หรือโยมยืนคนละฝั่งกับคนอื่นๆ..

เร่งเข้านะโยม เดี๋ยวจะไม่ทันเพื่อน..

 

ทานบริบูรณ์แล้ว ศีลยังพร่อง ยังด่างพร้อย อยู่

แล้วภาวนาจะไปรอดเหรอโยม..

ทาน ศีล ภาวนา

นะ โยม นะ..

 

ถ้ากลัวว่าจะช้าไป ก็ ภาวนา เลยโยม..

ปรารภความเพียร ขั้นอุกฤต ไปเลย..

ภาวนา นั้นละ เป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา..

 

เจตนาวิรัตน์ไม่ได้เหรอครับ55
ขับรถต่อละครับ

 

ถ้าวางจิตเป็นก็ทำไปเลยโยม แต่คนยุคนี้ทำไมวางจิตไว้ที่ เจตนาวิรัติ ไม่เป็นก็ไม่รู้..

ทำไมเจตนาวิรัติมันยากสำหรับคนยุคนี้ก็ไม่รู้ ส่วนมากจะแปลความหมายผิดเพี้ยนกันไปต่างๆนาๆ..

ทั้งๆที่เจตนาวิรัตินั้นแหละกำจัดเจตสิกได้ เจตนาวิรัตินั้นแหละพาพ้นกรรม..

"เส้นผมบังภูเขา"

"แสวงหาไม่หยุดมันเลยไม่เห็น"

 

ช่วงนี้เข้าโหมดชม ลิเก