มีวัตถุมงคลสายพระป่ากรรมฐานให้บูชาราคาเบาๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Somchai 2510, 8 กันยายน 2019.

  1. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 821
    เหรียญเจิญพรบนหลวงปู่เคน เขมาสโย พระอรหันต์เจ้าวัดป่าหนองหว้า อ.สว่างเเดนดิน จ.สกลนคร เหรียญสร้างปี 2557 เนื้อทองเเดงรมมันปู มีตอกโค๊ตยันต์ นะ หน้าเหรียญ
    *******ประวัติโดยย่อพอสังเขปหลวงปู่เคน เขมาสโย
    วัดป่าบ้านหนองหว้า อ.สว่างแดนดิน สกลนคร
    ชีวประวัติและปฏิปทาหลวงปู่เคน เขมาสโย ท่านมีชาติกำเนิดในสกุล “นิ่งแนน” ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๑ ตรงกับ วันจันทร์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ณ บ้านนาเตียง ต.ตาลเนิ้ง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เป็นบุตรของคุณพ่อไพ คุณแม่บับ ท่านเกิดได้ไม่นานแม่ก็เสียชีวิต น้าสาวเลยเอาท่านไปเลี้ยงเป็นลูก แล้วเปลี่ยนนามสกุลเป็น “ฤกษ์งาม”
    ในสมัยเด็ก ๆ องค์ท่าน มีจิตใจในทางเมตตา ใฝ่ใจใคร่รู้ในทางธรรมมาก และมีจิตเมตตา สงสารในสัตว์เล็ก สัตว์น้อย และมีชีวิตที่ไม่โลดโผนมากนัก ผิดกับวัยรุ่นวัยหนุ่ม ที่คะนองตามแบบหนุ่มบ้านนอกลูกทุ่งโดยทั่วไป ด้วยใจที่ใฝ่ในทางธรรม จึงออกปากขอโยมพ่อ โยมแม่ ขอออกบวช ก็เป็นที่น่ายินดีกับทุกคนที่ได้รับฟังเวลานั้น ช่วงนั้นเป็นเดือน ๑๑ เป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าว พอตอนเย็น ท่านกับเพื่อน ๆ ที่พร้อมจะบวชด้วยกันทั้ง ๔ คน ก็มาฝึกขานนาคกับหลวงปู่หอม ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่พรหม จิรปุญฺโญ ที่วัดป่าสามัคคีบำเพ็ญผล บ้านนาเตียง
    ท่านอุปสมบทเมื่ออายุ ๒๓ ปี ณ สิมกลางน้ำ วัดป่าบ้านหนองดินดำ(ภายหลังเปลี่ยนเป็น วัดป่าคามวาสี) ต.ตาลโกน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๙๓ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล โดยมีพระอธิการพุฒ ยโส (ภายหลังได้รับสมณศักดิ์ เป็นพระครูพุทธิวาคม) เป็นอุปัชฌาย์ หลวงปู่นนท์ โกวิโท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่หอม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    พระอาจารย์เคน ได้รับฉายาว่า "เขมาสโย" แปลว่า "ผู้ยินดีอาศัยในธรรม" ในการบวชครั้งนั้นได้มีการเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทพร้อมกัน ๔ นาค คือ
    ๑.นาคเคน ฤกษ์งาม หรือท่านพระอาจารย์เคน เขมาสโย
    ๒.นาคประสาร รำไพ หรือท่านพระอาจารย์ประสาร ปัญญาพโล
    ๓.นาคสมัย โสภาจาร หรือท่านพระอาจารย์สมัย ทีฆายุโก
    ๔.นาคชาลี โคตรสมบูรณ์ บวชเป็นสามเณร เพราะอายุยังไม่ถึง ต่อมาได้ลาสิกขาบท
    หลังจากท่านบวชแล้วก็ติดตามหลวงปู่นนท์ โกวิโท เที่ยวไปธุดงค์ที่ จ.นครพนม ได้ไปศึกษาธรรมอยู่กับหลวงปู่บุญมา มหายโส ที่วัดอรัญญิกาวาส อ.เมือง จ.นครพนม อยู่พักหนึ่ง

    ภายหลังหลวงพ่อวัน อุตตโม แห่งวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ได้ฝากให้ท่านไปอยู่จำพรรษากับหลวงปู่คำ ยสกุลปุตโต เพื่อให้ท่านสอนวิปัสสนากรรมฐานในเบื้องต้นให้ ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่คำ มีอายุ ๖๐ ปี ที่วัดศรีจำปาชนบท บ้านพังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร เป็นพรรษแรก คือปี พ.ศ.๒๔๙๔ หลวงปู่คำ ให้อาตมาฝึกนั่งสมาธิเจริญคำภาวนาว่า “พุทโธ” ด้วยการให้พิจารณาการหายใจเข้าหายใจออกอย่างสม่ำเสมอ และให้มีสติกำหนดรู้อยู่ในการหายใจ ฝึกอยู่ได้หนึ่งพรรษาจิตยังหยาบอยู่ จึงต้องตั้งสติอยู่ในความไม่ประมาทอยู่เสมอ
    จากนั้นจึงไปศึกษาธรรมอยู่กับท่านพระอาจารย์จันทร์ ไปอยู่บ้านนาเหมือง จ.สกลนคร ท่านพระอาจารย์จันทร์ ได้สอนการอ่านตัวธรรมที่จารอยู่ในใบลานต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการฝึกจิตเจริญวิปัสสนากรรมฐาน จนจิตใจสงบดีขึ้นเป็นลำดับ ทำให้จิตใจไม่ฟุ้งซ่านเหมือนเมื่อก่อน จึงทำให้หูตาสว่างไสวไปอีกขั้นหนึ่ง คือมองอะไรก็เป็นธรรมดา จิตใจไม่ว้าวุ่นเป็นสมาธิดี ท่านพระอาจารย์เคนอยู่อบรมธรรมกับพระอาจารย์จันทร์อยู่ ๓ พรรษา คือปี พ.ศ.๒๔๙๕ ถึงปี พ.ศ.๒๔๙๗ จากนั้นก็ไปจำพรรษาที่วัดโนนแสนคำ บ้านทุ่งคำ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร ณ ที่นี้ ก็เป็นสัปปายะดี คือเป็นสถานที่ดี มีความสงบสงัด เป็นที่ถูกใจ เหมาะแก่การภาวนาปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง ท่านอยู่จำพรรษาที่นี่ ๑ พรรษ คือปี พ.ศ.๒๔๙๘
    จากนั้นจึงมาอยู่ศึกษาธรรมกับหลวงปู่หอม ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่พรหม จิรปุญฺโญ ที่วัดป่าสามัคคีบำเพ็ญผล บ้านนาเตียง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ๔ พรรษา คือ ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ถึงปี พ.ศ.๒๕๐๒ จากนั้นท่านทราบข่าวว่าหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เป็นลูกศิษย์รูปหนึ่งของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นพระที่มีปฏิปทาที่น่าเลื่อมใส จึงได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาอบรมธรรมอยู่กับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ที่วัดป่านิโครธาราม บ้านหนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี อีก ๑ พรรษา คือปี พ.ศ. ๒๕๐๓ หลวงปู่อ่อน ได้อบรมสั่งสอนในเรื่องทางการฝึกจิต ความเจริญทางจิตใจนั้น เราจะปล่อยไปเองตามธรรมชาติไม่ได้ เพราะใจจะไหลลงต่ำ ไม่ดีงาม เราต้องรู้จักควบคุมบังคับ ฝืนไม่ให้อาหารในทางเสื่อม ไม่อย่างนั้นจิตใจจะไม่เจริญก้าวหน้า ท่านสอนให้ยึดคำบริกรรม “พุทโธ” เป็นหลัก เพราะไม่มีคำบริกรรมอย่างใดจะดีเท่าการสรรเสริญพระพุทธเจ้า
    หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ อบรมเรื่องการอยู่ป่าเป็นวัตร เมื่อไปอยู่ป่าแล้ว อย่าไปยึดป่า อย่ามีอุปาทานในป่า เรามีนี่เพื่อทำปัญญาให้เกิด ถ้ายังไม่มีปัญญา ก็จะเห็นว่า รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์นั้น เป็นปฏิปักษ์กับเรา เป็นข้าศึกกับเรา ถ้าปัญญาดีแล้ว รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์นั้น ไม่ใช่ข้าศึก แต่เป็นสภาวะที่ให้ความรู้ความเห็นแก่เราอย่างแจ้งชัด เมื่อสามารถกลับความเห็นอย่างนี้ แสดงว่าปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อท่านพระอาจารย์เคน รับการอบรมจากหลวงปู่อ่อนแล้ว ก็ได้กราบลา แล้วธุดงค์ไปที่ดงหม้อทอง แล้วไปอยู่ตามเขาตามถ้ำต่าง ๆ ที่ อ.บ้านผือ
    สมัยนั้นยังมีป่าไม้ให้ร่มเย็น สมัยที่องค์ท่านออกเดินธุดงค์ ไม่ต้องกล่าวถึงความสะดวกสบายในการเดินทาง เรียกว่า มีแต่ป่ากับป่า ท่านเล่าว่าสิงสาราสัตว์ อย่างเสือ กวาง เก้ง แม้ช้างป่า มากมายจริง ๆ แต่ก็ไม่ทำให้องค์ท่านท้อในการเดินทางเข้าหาพ่อแม่ครูอาจารย์ การไปอยู่ ณ ที่ใด ก็ได้พิจารณายึดเอาคำสอนของครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ที่ท่านได้แนะนำให้ไปปฏิบัติตามครรลองของพระพุทธศาสนา การบิณฑบาตในสมัยนั้นก็ได้แต่ข้าวเหนียว ไม่มีกับข้าว อดบ้างอิ่มบ้างก็อดทนอดกลั้น แม้จะพบความยากลำบาก ก็ไม่กังวลกับสิ่งใดใด
    ท่านพระอาจารย์เคน เขมาสโย ได้ธุดงค์ข้ามไปฝั่งลาว ขึ้นไปธุดงค์อยู่รุกขมูลตามร่มไม้ เพิงหิน โถงถ้ำที่ภูเขาควาย ประเทศลาว ที่ภูเขาควายนี้เป็นที่มีอาถรรพณ์ และศักดิ์สิทธิ์ เต็มไปด้วยภูตผีวิญญาณร้าย พระธุดงค์มากมายเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่เป็นจำนวนมาก ท่านเล่าว่า ที่ภูเขาควายนี้เป็นภูเขาที่สูงมากของฝั่งลาว สูงกว่าดอยสุเทพเสียอีก เป็นภูเขาที่น่ากลัวจริง ๆ เพราะเป็นป่าทึบดงดิบหนา มีสัตว์ป่ามากมาย เช่นช้าง เสือ หมี งู และสัตว์มีพิษอื่น ๆ อยู่มาก ที่สำคัญอากาศบนยอดเขาภูเขาควายหนาวเย็นมาก ถ้ามองรอบตัวจะไม่เห็นอะไรเลย เพราะป่ามันทึบมาก
    เวลาขึ้นเขาไปต้องค่อย ๆ มีสติเหยียบก้อนหินขึ้นไปทีละก้อนอย่างเชื่องช้า เพราะหินบางก้อนลื่นมาก เขาก็สูงชันมาก กลัวจะพลาดตกลงไป ทั้งบนบ่าก็แบกกลด แบกบาตรอัฐบริขารหนักมาก ท่านนึกถึงตนเองสมัยนั้นก็น่าสงสารตนเองยิ่งนัก แต่เราเป็นพระที่ขึ้นชื่อว่าเสียสละในทุกสิ่งทุกอย่างก็เลยปลงได้ เพราะถือว่าครูบาอาจารย์ก็เคยลำบากมาก่อนแล้ว ท่านจึงได้ดีมีอรรถมีธรรม ครูบาอาจารย์ที่เคยมาเยือนที่ภูเขาควายแห่งนี้ในสมัยก่อน ได้แก่ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่เครื่อง ธัมมธโร หลวงปู่ขาว อนาลโย และพระอาจารย์ของท่านคือ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม ก็เคยมาเยือนที่ภูเขาควายเพื่อบำเพ็ญสมณธรรม ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้แล้วทั้งนั้น
    เมื่อขึ้นมาถึงยอดเขา ท่านพระอาจารย์เคน ได้เห็นตาผ้าขาว กำลังกวาดใบไม้อยู่บนพลาญหิน จึงรู้สึกดีใจว่าบนยอดภูเขาควายนี้ ก็มีผู้มาบำเพ็ญสมณธรรมเช่นกัน ท่านจึงรีบเดินตรงเข้าไปหาหวังพูดคุยเจรจาด้วย เพราะไม่ได้พูดคุยกับใครมานานแล้ว แต่พอไปถึงที่นั้นกลับไม่พบใคร มีแต่ความว่างเปล่า หรือจะเป็นเทพเทวดาอารักษ์รักษาป่าก็เกินจะคาดเดาได้ คืนนั้นท่านพระอาจารย์เคน พักอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ถ้ำที่ท่านไปอยู่ก็มีโครงกระดูก ไม่ทราบเป็นของพระธุดงค์หรือของโยมชาวบ้านที่มาล่าสัตว์ คงจะมาพักแล้วโดนงูกันตายก็เป็นได้ เพราะมีสิ่งของบางอย่างวางทิ้งไว้เช่นกาน้ำ การมาอยู่ที่ภูเขาควายก็ได้ความสงบสงัด ความวิเวกดี ได้ความก้าวหน้าในสมาธิตามลำดับ ท่านได้เที่ยวไปที่ต่าง ๆ ในเขตฝั่งลาวอยู่ถึง ๒ พรรษา คือปี พ.ศ.๒๕๐๔ ถึงปี พ.ศ.๒๕๐๕
    ในช่วงนั้นเกิดความไม่สงบของบ้านเมืองในประเทศลาว ชาวบ้านจึงให้ความเห็นให้ท่านเดินทางกลับมาฝั่งไทยจะดีกว่า ท่านธุดงค์ข้ามมาทางบึงกาฬ-ปากคาด-โซ่พิสัย เรื่อยมาทางคำตะกล้า-บ้านม่วง ผ่านวานรนิวาส จนมาถึงสว่างแดนดิน ท่านพระอาจารย์เคน เขมสโย ได้มาวิเวกมาบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ที่บ้านหนองหว้าครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๕ บริเวณด้านหลังกุฏิไม้(หลังเก่า)ขององค์ท่าน ท่านว่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เคยมาปักกลดอยู่ที่นี่ เมื่อก่อนแถบนี้เป็นป่ารกชัฏ แล้วก็ยังมีเสืออยู่ แต่ปัจจุบันก็เป็นอย่างที่เห็น กลายเป็นไร่นาของชาวบ้านหมดแล้ว สมัยที่ท่านพระอาจารย์เคน มาวิเวกอยู่ที่นี่ครั้งแรก มีชายรูปร่างสูงใหญ่ เป็นคนโบราณ ตัวดำทมึน เดินเข้ามาหา บอกว่าตามมาดูแลรักษา มิให้เกิดอันตรายใดใดทั้งสิ้น ขอให้ปฏิบัติธรรมไปด้วยความสบายใจ เขาบอกว่าเขาตามมาจากฝั่งลาว จะมาขออยู่ด้วยตลอดไป ท่านพระอาจารย์เคน ก็ไม่ได้ว่าอะไร
    จากนั้นท่านพระอาจารย์เคน ได้เข้าไปศึกษาอบรมธรรมอยู่กับท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม ที่ถ้ำพวง ภูผาเหล็ก อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ท่านพระอาจารย์วัน เป็นพระที่มีเมตตาธรรมมาก เป็นพระปฏิบัติดีเคร่งครัดพระธรรมวินัยรูปหนึ่ง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ท่านพระอาจารย์วัน นับเป็นอาจารย์ใหญ่ของท่านพระอาจารย์เคน ที่ท่านมีแต่ให้มาตลอด ข้อธรรมที่ไม่รู้ ท่านก็สอนให้รู้โดยไม่ปิดบังแต่อย่างใด ท่านสอนให้พิจารณษสังขารร่างกายนั้นเป็นของไม่เที่ยงเป็นทุกข์ อย่าไปยึดติดในสิ่งที่อยู่นอกกาย เช่น เนื้อหนังมังสาที่สวยงาม ล้วนแต่เป็นอนิจจังเป็นของไม่เที่ยงแท้ทั้งนั้น
    ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๐๖ ท่านได้มากลับมาอยู่กับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ที่วัดป่านิโครธาราม บ้านหนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี มีโยมอุบาสกคนหนึ่งชื่อ “จันทร์เรียน” ได้มาฝึกขานนาคด้วย มีท่านพระอาจารย์เคน และท่านพระอาจารย์สมัย ทีฆายุโก ช่วยกันสอนการออกเสียงอักขระ การขานนาคให้กับท่านจันทร์เรียน ท่านพระอาจารย์เคน จึงถือได้ว่าเป็นพระอาจารย์ และเมื่อครั้งท่านอาจารย์จันทร์เรียน อุปสมบทที่วัดโพธิสมภรณ์ ท่านพระอาจารย์เคน ก็ได้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ของท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร แห่งวัดถ้ำสหาย อีกด้วย
    จากนั้นท่านพระอาจารย์เคน ได้กลับไปวิเวกอยู่ที่ป่าช้า บ้านหนองหว้าอีกครั้งนึง แล้วจึงได้อยู่โปรดญาติโยม จนได้สร้างเป็นวัดป่าหนองหว้า ได้อยู่จำพรรษาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
    ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๔๖ หลวงปู่เคน เขมาสโย ท่านไปจำพรรษาที่วัดถ้ำสหายกับหลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร เนื่องจากหลวงปู่เคนท่านอาพาธ หลวงพ่อจันทร์เรียนเลยอาราธนานิมนต์ท่านไปอยู่ด้วย ท่านเล่าว่าสมัยอยู่วัดป่านิโครธาราม ญาติโยมเอาหลวงพ่อจันทร์เรียนไปฝากท่านให้สอนขานนาคเนื่องจากหลวงปู่อ่อน ญาณสิริไม่อยู่ เพราะหลวงปู่อ่อนไปทำธุระที่กรุงเทพ ฯ ที่แรกท่านว่าจะไม่รับ รอหลวงปู่อ่อนกลับมาค่อยเอามาฝากหลวงปู่อ่อนใหม่ ญาติโยมไม่ยอม จำเป็นท่านเลยรับไว้ และก็สอนขานนาคให้ หลวงพ่อจันทร์เรียน นึกถึงบุญคุณครูบาอาจารย์สมัยหลวงปู่เคน ท่านเคยสอนนาค และอยู่อบรมธรรมด้วยกันมาเสมอ
    หลวงปู่เคน เขมาสโย มีเพื่อนสหธรรมิกที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก คือ
    ๑.หลวงปู่ประสาร ปัญญาพโล วัดคามวาสี บ้านหนองดินดำ ต.ตาลโกน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ท่านมรณภาพแล้ว เมื่อวันพุธที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
    ๒.หลวงปู่สมัย ทีฆายุโก วัดป่าโนนแสงทอง ต.แวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ท่านมรณภาพแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑
    ๓.หลวงปู่เกิ่ง วิทิโต วัดป่าสามัคคีบำเพ็ญผล บ้านนาเตียง ต.ตาลเนิ้ง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ท่านมรณภาพแล้ว วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๖
    หลวงปู่เคน เขมาสโย ท่านเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูง อารมณ์ดี เยือกเย็นเสมอ พร้อมให้การสังเคราะห์ต่อศรัทธาญาติโยม ท่านมีอัธยาศัยเป็นพระที่ไม่ค่อยเก่งในการปฏิสัณฐานกับศรัทธาญาติโยมมากนัก เรียกว่าไม่ค่อยพูด นอกเสียจากว่านาน ๆ ครั้งองค์ท่านก็มีเมตตาสอนให้ข้อคิดคติธรรมบ้าง ในลักษณะคำสอนสั้น ๆ แต่ก็ถึงใจกับลูกศิษย์ลูกหา เมื่อได้น้อมใจที่พยายามเข้าใจในธรรมที่องค์ท่านเมตตาสอน ทั้งผิวพรรณขององค์ท่านก็สดใส ขาวผ่อง สมกับความเป็นพระอริยเจ้าผู้มีคุณธรรมขั้นสูง หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ศิษย์ผู้มีความผูกพันกับหลวงปู่เคน เคยกล่าวไว้ว่า "พระผู้เฒ่าไม่ต้องห่วงแล้ว ท่านสบายแล้ว”
    หลวงปู่เคน เขมาสโย ท่านได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จยุพราชสว่างแดนดิน เนื่องจากลื่นหกล้มที่กุฏิ ในช่วงก่อนวันคล้ายวันเกิดในวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ซึ่งทำให้สะโพกท่านหัก ภายหลังจึงได้นำตัวท่านส่งไปโรงพยาบาลสกลนคร และได้ละสังขารเข้าอนุปาิเสสนิพพานลงด้วยสาเหตุไตวาย เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๐๘.๔๕ นาฬิกา ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา สิริรวมอายุ ๘๖ ปี ๗ วัน พรรษา ๖๓
    58946418_n-jpg-_nc_cat-102-_nc_sid-2d5d41-_nc_ohc-laes_fxmx4ax80hvwd-_nc_ht-scontent-fkkc2-1-jpg.jpg
    sam_3035-jpg.jpg sam_7134-jpg.jpg sam_7135-jpg.jpg sam_1808-jpg.jpg

    >>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาเป็นมงคลด้วยครับ ******บูชาที่ 195 บาทฟรีส่งems
     
  2. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 822 เหรียญกลมรุ่นสมปรารถนาหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต พระอรหันต์เจ้าวัดสวนทิพย์ (ซอยวัดกู้) อ.ปากเกร็ด จ,นนทบุรี หลวงปู่บุญฤทธิ์เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ เนื้อทองฝาบาตร มีตอกโค๊ต คำว่า จิต หลังเหรียญ >>>>>ประวัติย่อๆพอสังเขปหลวงปู่บุญฤทธิ์
    หลวงปู่บุญฤทธิ์ มีนามเดิมว่า บุญฤทธิ์ จันทรสมบูรณ์ เป็นบุตรชายของหลวงพินิจจินเภท กับ คุณแส จันทรสมบูรณ์ ท่านเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2458 ที่บ้านท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.พิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ ในวัยเยาว์ มารดาเป็นผู้มีความศรัทธาในพุทธศาสนา รวมถึงเคยเข้ารับการอบรมในวัง จึงถ่ายทอดลักษณะนิสัย ระเบียบชีวิต แนวคิดต่างๆ ให้หลวงปู่ สอนให้หลวงปู่สวดมนต์ไหว้พระ อ่านหนังสือธรรมะจนติดเป็นนิสัย

    160202-3-2-jpg.jpg

    ในอดีตท่านเป็นนักศึกษาปริญญาจากต่างประเทศ เป็นข้าราชการหนุ่มอนาคตสดใส ครั้งอายุ 10-11 ปี ถูกส่งตัวเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเซ็นคาเบรียล กรุงเทพฯ รุ่นที่ 1 อาศัยอยู่กับคุณพระโสภณเพชรรัตน์ จนจบม.8 ภาษาฝรั่งเศส หลวงปู่บุญฤทธิ์ เคยได้รับรางวัลประกวดเรียงความชนะเลิศจาก จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ซึ่งเป็น รมต.กลาโหมสมัยนั้น จากนั้นได้สอบชิงทุน (กพ.) ได้ไปศึกษาต่อที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม พ.ศ. ๒๔๗๕ กลับจากเวียดนามรับราชการที่หอสมุดแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และภายหลังเป็นทูตที่พระตะบอง

    44521372_2427482870612125_1041978200088903680_n-jpg.jpg
    แต่ด้วยความเลื่อมใสปฏิปทาพระป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจึงลาออกจากราชการแล้วออกบวช โดยบรรพชาอุปสมบทในปี 2489 ที่วัดศรีเมือง จ.หนองคาย และปฏิบัติธรรม ออกธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขาโดยตลอด จนกลายเป็นศิษย์ของ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และจำพรรษาด้วยกัน อุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่ชอบอยู่หลายเดือน จากนั้น หลวงปู่บุญฤทธิ์ ได้เป็นพระธรรมทูต เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศกว่า 30 ปี เช่น เม็กซิโก สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ จีน เยอรมัน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ซึ่งหลวงปู่พูดได้ถึง 6 ภาษา กระทั่งจำพรรษาที่สำนักปฏิบัติธรรมสวนทิพย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนมีอาการอาพาธ ต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง และได้ละสังขารเมื่อวันที่ 14 พ.ย. เวลา 22.22 น. ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สิริอายุ 104 ปี
    “หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต” ละสังขารแล้ว ปี2561 สิริอายุ 104 ปี
    เปิดคำสอนสุดท้ายของ “หลวงปู่บุญฤทธิ์” ทุกสิ่งล้วนมีสังขาร
    >>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาด้วยครับ *****บูชาที่ 475 บาทฟรีส่งems SAM_7253.JPG SAM_7255.JPG SAM_1439.JPG
     
  3. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 823
    เหรียญรุ่นเเรกหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต พระอรหันต์เจ้าวัดถํ้ากลองเพล อ.เมือง จ,หนองบัวลำภู หลวงปู่บุญเพ็งเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นตั้งเเต่บวชเป็นเณร พอหลวงปู่มี่นละสังขารองค์ท่านก็ได้มากราบเป็นศิษย์หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถํ้ากลอง เหรียญสร้างปี 2536 เนื้อทองเเดงรมดำ ประวัติย่อปฏิปทาหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต
    หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต นามเดิม บุญเพ็ง จันใด จำนวนพี่น้อง 6 คน โดยองค์ท่านเป็นบุตรคนที่ 3 ครอบครัวมีอาชีพทำนา ท่านเป็นบุตรของนายคูณ และนางมา จันใด ถือกำเนิดตรงกับวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2472 แรม 3 ค่ำ เดือน 11 ปีมะเส็ง ณ บ้านศรีฐาน ต.กระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร
    ท่านศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนศรีฐาน ซึ่งเป็นโรงเรียนวัด จึงทำให้ท่านมีความผูกพันกับศาสนา ครั้นอายุ 12 ปี บวชเป็นผ้าขาวเพื่อศึกษาและปฏิบัติข้อวัตรของผู้ทรงศีล และบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีธรรมาราม อ.เมืองยโสธร ในเวลาต่อมาบรรพชา เป็นสามเณรที่วัดศรีธรรมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร
    ท่านเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2492 ที่วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร โดยมีพระอาจารย์มหาทองสุก สุจิตโต เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และท่านพระอาจารย์มหาไพบูลย์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต ในขณะที่ท่านเป็นสามเณรอายุ 16 ปี ท่านได้เดินทางด้วยเท้าพร้อมด้วยท่านพระอาจารย์สอ และสามเณรลี จากวัดศรีธรรมาราม จ.ยโสธร ไปบ้านหนองผือนาใน ต.นาใน อ.อพรรณานิคม จ.สกลนคร
    โดยใช้เวลาในการเดินทางเป็นระยะเวลา 15 วัน และท่านพร้อมคณะได้พักอยู่ห่างจากวัดป่าบ้านหนองผือประมาณ 12 กิโลเมตร โดยผลัดกันครั้งละรูป เดินทางเข้ามากราบท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ เพราะถ้าไปพร้อมๆ กันก็เกรงว่าจะไม่งาม อาจจะมีความวุ่นวายและขาดความสงบได้
    โดยหลวงปู่บุญเพ็ง เป็นรูปแรกที่ท่านเข้าไปก่อน ท่านได้เล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเข้าไปนมัสการท่านพระอาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่นว่า…
    “แรกๆ นะตัวเย็นเฉียบเลยนะ หยิกไม่รู้เรื่อง มันตื่นเต้นมาก เพราะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของท่านพระอาจารย์มั่น ว่ามีระเบียบ เรียบร้อยมาก เป็นพระผู้มีความเคร่งครัดต่อพระวินัยมาก”
    “ครั้งนั้นอาตตมายังจำได้ดีว่ามันตื่นเต้นมาก เมื่อเข้ากราบนมัสการ ก็เห็นความเป็นพระผู้มีปฏิปทาสูงมาก ยากที่จะมีใครทำได้เช่นท่าน งามจริงๆ แม้ท่านจะนั่งอยู่ในที่อันควรแล้ว ผิวพรรณของท่านเปล่งปลั่ง มองไม่เบื่อ เพราะเราไม่เคยเห็นอย่างนี้ สมกับคำล่ำลือจริงๆ ” ท่านพระอาจารย์มั่นท่านนั่งเฉยอยู่ มองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ท่านจึงเอ่ยขึ้นว่า “พอบอกได้สอนได้” หลังจากนั้นก็มีพระนำไปที่พัก ชึ่งก็เป็นป่าดงไม้ไผ่และรอบๆ บริเวณนั้นแหละ จิตใจของอาตมานั้นปีติดีใจมาก คิดว่า นี้เป็นโอกาสของเราแล้ว เราจะปฏิบัติศึกษาให้เกภูมิปัญญามากเท่าที่จะมากได้ทีเดียว”
    เมื่อหลวงปู่บุญเพ็ง ได้เข้ามาอยู่วัดป่าบ้านหนองผือ สมความตั้งใจแล้ว ได้รับหน้าที่อันเป็นกิจวัตรประจำวัน คือคอยดูแลและทำความสะอาดกุฏิ จัดสิ่งต่างๆ ภายในกุฏิของท่านพระอาจารย์มั่น
    และต่อมาได้อยู่ใกล้ชิด โดยได้รับหน้าที่ปรนนิบัติช่วยครูบาอาจารย์ในยามชรา ชึ่งในเวลานั้นท่านพระอาจารย์มั่นท่านชราภาพแล้ว
    หลวงปู่บุญเพ็งท่านเล่าอีกว่า…
    “นับเป็นลาภของอาตมาที่ได้มีโอกาสอันสำคัญนี้ และเป็นช่วงที่ได้อยู่ปรนนิบัติท่านด้วย อย่างไรก็ตามการได้อยู่ใกล้ชิดครูบาอาจารย์ ซึ่งในครั้งนั้นได้มีครูบาอาจารย์มาอยู่จำพรรษษมากองค์ด้วยกัน และแต่ละองค์ก็ล้วนแล้วแต่มีคุณวิเศษมีข้อวัตรปฏิบัติธรรมอย่างละเอียดอ่อน เป็นกำลังในกองทัพธรรมเจริญรุ่งเรือง”
    “ครั้งพอตกเวลาเย็น อาตมาก็ได้ไปปรนนิบัติต้มน้ำร้อนน้ำดื่มถวายท่าน บีบนวดบ้างในบางคราว พอทำกิจของตนเสร็จก็เข้าไปนั่งรวมกับหมู่คณะ ท่านพระอาจารย์ใหญ่ก็เทศน์คำสอนให้อุบายธรรมะที่กำลังติดขัดอยู่นั้นแหละ”
    “ท่านบอกแก้ไขให้โดยไม่ได้เอ่ยขอกราบเรียนเลย อย่างนี้ละคิดอย่างไร วาระจิตของท่านสงบมากแค่ไหน ทำไมท่านถึงรู้ได้อย่างแจ่มแจ้งเช่นนั้น คนเราสมัยนี้พอพูดถึงปาฏิหาริย์บ้าง เรื่องฤทธิ์บ้าง มันชอบใจ ติดหลงไปไม่รอด กำลังไม่พอแต่อยากเหาะได้นะ เอาเป็นว่าท่านพระอาจารย์มั่น ท่านดักใจได้ถูก แล้วท่านยังได้สอนธรรมะให้คลายสงสัยได้ยอดเยี่ยมอีกด้วย”
    “อาตมาเคยได้อยู่รับใช้ครูบาอาจารย์หลวงปู่มั่นเป็นเวลารวม 4 ปี คือตั้งแต่ พ.ศ.2489 ถึง พ.ศ. 2492 สิ่งที่ภาคภูมิใจก็คือ ได้อยู่ปรนนิบัติท่าน ได้อยู่ใกล้ชิดท่าน”
    “เมื่อติดขัดในปัญหาอันใดก็จะสามารถถามแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ยิ่งในวัยชราของท่าน อาตมาและหมู่คณะได้ปรนนิบัติท่านพยายามเยียวยารักษาท่าน เพราะท่านเป็นพ่อแม่ที่ให้สิ่งที่มีคุณค่าทั้งสิ้น ไม่เคยสอนให้เสียคน ท่านคอยกล่าวตักเตือน ท่านว่า “เวลาไม่รอใคร ความตายอยู่เบื้องหน้า จงอย่าประมาทเลย”
    “ปีสุดท้ายคือ พ.ศ.2492ท่านพระอาจารย์มั่นท่านอาพาธ อาการเจ็บป่วยนั้นแรงกล้าขึ้นเรื่อยๆ คณธศิษย์ทุกคนก็พยายามกันมาก ช่วยกันดูแลจัดเวรยาม คอยดูแลอาการเจ็บป่วยท่านพระอาจารย์ใหญ่ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง”
    “ภายหลังจากท่านพระอาจารย์มั่นมรณภาพและถวายเพลิงศพท่านไปแล้ว คณะศิษย์ทั้งหลายต่างแยกย้ายกันออกไป ในระยะ 4 ปี อาตมาคิดว่าได้เหตุผลในทางธรรม ได้รับจากหลวงปู่ครูบาอาจารย์มากมายพอควรทีเดียว”
    ปี พ.ศ.2500 หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโตเข้ามอบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ขาว อนาลโย ณ วัดป่าแก้วชุมพล บ้านชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร และขอโอกาสจากองค์หลวงปู่ออกธุดงค์หาประสบการณ์บริเวณเทือกเขาป่าภูพาน
    ปี พ.ศ.2503 เดินทางไปกราบหลวงปู่ขาว ขณะองค์หลวงปู่กำลังสร้างวัดถ้ำกลองเพล อ.เมืองหนองบัวลำภู โดยรับภาระดูแลการก่อสร้าง และอยู่รับใช้หลวงปู่ขาวในเวลาเดียวกัน จนท่านละสังขาร หลวงปู่ละสังขารเข้าอนุปาทิเสสนิพพานเมื่อวันที่ 27 ก.พ.61 ที่ รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.สิริอายุรวม 88 ปี 4 เดือน ด้วยอาการอาพาธ โรคเบาหวาน ความดัน ติดเชื้อในกระเเสเลือด
    dfqror7owzulq5fzxctqluxdzwqxjikgxnukxsgng223ekjkky9zpcmhp0xhta68o3w-jpg.jpg
    sam_7112-jpg.jpg sam_7151-jpg.jpg sam_7152-jpg.jpg sam_2008-jpg.jpg

    >>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาเป็นมงคลด้วยครับ*******บูชาที่ 195 บาทฟรีส่งems
     
  4. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 824
    เหรียญรุ่นเเรกหลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร พระอรหันต์เจ้าวัดป่าวังเลิง อ.เมือง จ.มหาสารคาม หลวงปู่มหาบุญมีเป็นศิษย์หลวงปุ่มั่นยุคกลาง เหรียญสร้างปี 2536 เนื้อทองเเดงรมดำ ******ประวัติย่อๆหลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร วัดป่าวังเลิง

    s2-jpg.jpg
    มีนามเดิม บุญมี สมภาค ถือกำเนิดเมื่อวันศุกร์ที่ 14 ต.ค.2453 ณ บ้านขี้เหล็ก อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เป็นบุตรคนเดียวของพ่อทำมา-แม่หนุก สมภาค ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำนา ฐานะค่อนข้างจะยากจนเหมือนกับชาวอีสานทั่วไป
    ชีวิตช่วงวัยเด็กของหลวงปู่ เป็นคนใฝ่เรียนรู้ อ่อนโยน มีเรื่องเล่าว่า ช่วงที่หลวงปู่อายุ 8-9 ขวบ ได้ออกไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควายอยู่กับเพื่อนกลางทุ่งนา
    ท่านเก็บภาพพระพุทธรูปได้ จึงนำมาเก็บไว้ดูและเกิดแรงศรัทธาที่แรงกล้า จึงนำดินเหนียวมาปั้นเป็นพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ไว้บูชาที่บ้าน

    s6-jpg.jpg

    s3-jpg.jpg ย่างเข้าสู่วัยรุ่นอายุได้ 17 ปี บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดบ้านท่าขี้เหล็ก ได้ประมาณปีมารดาสุขภาพไม่ดี หลวงปู่เป็นลูกคนเดียวจึงต้องสึกออกมาดูแลบุพการี
    จนอายุได้ 21 ปี จึงอุปสมบทจำพรรษาอยู่ที่วัดในหมู่บ้าน โดยมีพระอาจารย์สิงห์ มีศักดิ์เป็นหลวงน้า ดำเนินการให้บวชในสายมหานิกาย แต่ด้วยจิตใจอยากเรียนด้านปริยัติธรรม แต่ไม่สะดวก เพราะ สำนักเรียนวัดเลียบต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เป็นวัดธรรมยุตจึงต้องญัตติเป็นพระฝ่ายธรรมยุต
    หลวงปู่บุญมี จึงต้องอุปสมบทใหม่ในปีพ.ศ.2474 โดยมีพระศาสนดิลก เจ้าอาวาสวัดเลียบ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาสว่าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายา “สิริธโร”
    หลังจากอุปสมบทแล้วได้ตั้งใจศึกษา เล่าเรียนจนสอบนักธรรมตรี โท เอก ด้วยความมุ่งมั่นอยากศึกษาพระธรรมวินัยที่ลึกซึ้งสูงขึ้น ในปี พ.ศ.2479 จึงเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เรียนที่สำนักวัดปทุมวนาราม สอบได้เปรียญธรรม 3ประโยคจากนั้นจึงเดินทางกลับบ้านเกิดและออกเดินธุดงค์ เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วภาคอีสาน
    เป็นพระสงฆ์ในยุคเดียวกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐาน แต่ไม่ได้พบกับ หลวงปู่มั่นเลย แต่เคยได้รับฟังธรรมะของพระอาจารย์ใหญ่ทำให้เกิดกำลังใจในการบำเพ็ญเพียรภาวนา
    สำหรับคำสอนที่พร่ำสอนศิษยานุศิษย์เน้นเรื่องของกรรมว่า “ทุกคนมีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ทั้งดี ทั้งชั่ว ทั้งบุญทั้งบาป”
    ย้ำเสมอว่าเรื่องกรรมไม่ใช่เรื่องเหลวไหลเป็นเรื่องจริงขอให้เชื่อในกฎแห่งกรรม “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”
    นอกจากนี้ ยังมีคำสอนผญาธรรมภาษาอีสานที่น่าสนใจ เช่น “เทียวทางโค้งหนทางมันนานฮอด มัวเก็บบักหว่า มันสิซ้าคำ ทาง” ล้วนเป็นคำสอนที่ลึกซึ้งให้คติเตือนใจใช้ในชีวิตประจำวันได้
    ตลอดชีวิตหลวงปู่มหาบุญมี ได้เดินธุดงควัตรและจำพรรษาอยู่ในวัดเขตพื้นที่ภาคอีสานหลายวัด เช่น วัดห้วยทราย จ.มุกดาหาร วัดคำม่วง จ.อุดรธานี วัดป่าหนองบัว จ.สกลนคร เป็นต้น

    s7-jpg.jpg
    สุดท้ายในปี พ.ศ.2533 ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าวังเลิง จ.มหาสารคาม
    บุกเบิกพัฒนาสร้างวัดป่าวังเลิงแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร เริ่มมีอาการอาพาธบ่อยครั้ง
    สุดท้ายมรณภาพละสังขารเข้าอนุปาทิเสสนิพพานอย่างสงบ เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2535 รวมอายุ 81 ปี sam_7159-jpg.jpg sam_7161-jpg.jpg sam_3774-jpg.jpg

    >>>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาด้วยครับ******บูชาที่ 205 บาฟรีส่งems(อนึ่ง.....หลวงปู่มหาบุญมีเเก่พรรษากว่าพระหลวงตามหาบัว 3 พรรษาเเละเคยธุดงค์ร่วมกันมาก่อน)
     
  5. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    ******เพื่อนสมาชิกที่สนใจ โอนเข้าบัญชีธนาคาร กรุงเทพ สาขาบ้านเเพง เลขบัญชีที่ 496-055842-9,ธนาคาร กรุงไทย สาขาบิ๊กซี ลำพูน เลขบัญชี 854-0-31280-8,ธนาคาร กสิกรไทย สาขาเสนา เลขที่บัญชี 016-3-45911-6, ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเสนา เลขที่บัญชี 770-270878-6 >>>>LINE 098-5981468 ขอขอบคุณครับ
     
  6. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,905
    ค่าพลัง:
    +6,826
    ขอจอง820ครับ
     
  7. ธรรมศิล

    ธรรมศิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +800
    ขอบูชาครับ 801 803 811 812 814 817 823 824
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2020
  8. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 825 เหรียญหล่อซุ้มนั่งธรรมมาสหลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอรหันต์เจ้าวัดป่าโคกมน(วัดเเรกที่หลวงปู่สร้างบ้านเกิด) อ.วังสะพุง จ.เลย หลวงปู่ชอบเป็นศิษย์ผู้ใหญ่หลวงปู่มั่น เหรียญสร้างปี 2536(รุ่นนี้ทันพระหลวงปู่ครับ) เนื้อทองเหลือง มีตอกโค๊ตยันต์ นะ ตรงผ้าสังฆาฏิ มีพระเกศา,พระธาตุมาบูชาเป้นมงคลด้วยครับ>>>>>>> องค์นี้เลี่ยมกันนํ้าเเบบวินเทจโบราณอย่างดี ********บูชาที่ 385 บาทฟรีส่งems SAM_7071.JPG SAM_7376.JPG SAM_7377.JPG SAM_7378.JPG SAM_1822.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2020
  9. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 826 พระผงสมเด็จพิมพ์ใหญ่รุ่นพิเศษ 92 ปีหลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอรหันต์เจ้าวัดป่าสัมมานุสรณ์ สร้างปี 2537 (ทันหลวงปู่ครับ) สมเด็จรุ่นนี้มีผสมเกศาเเละนั้าปัสสาวะของหลวงปู่ด้วยครับ องค์นี้พิเศษจะมีคราบขาวคล้ายพระธาตุผุดให้เห็นด้วยครับ >>>>>>> ( หมายเหตุ ......พระสมเด็จองค์นี้ไม่มีกล่องครับ ผมลงรูปที่มีกล่องให้ดูประกอบว่ามีลักษณะเป็นตัวอย่างในการตัดสินใจครับ) *******มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชา >>>>>บูชาที่ 405 บาทฟรีส่งems SAM_7381.JPG SAM_7382.JPG SAM_1965.JPG sam_7071-jpg.jpg sam_6743-jpg.jpg
     
  10. ธรรมศิล

    ธรรมศิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +800
    ขอบูชารายการ 825 ครับ
     
  11. surasakkarun

    surasakkarun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +136
  12. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 827 พระปิดตาจัมโบ้บูชาคุณรุ่นเเรกหลวงปู่จันทา ถาวโร พระอรหันต์เจ้าวัดป่าเขาน้อย อ.วังรายพูน จ.พิจิตร หลวงปู่จันทาเป็นศิษย์เอกหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถํ้ากลองเพล มีมวลสารที่สร้างลงตามใบฝอย หลังองค์พระฝังเม็ดพลอยเสกสีชมภู สร้างปี 2459(หายากมากพื้นที่เก็บหมด พื้นที่บูชาองค์ละ 900 ขึ้นครับ มีประสบการณ์) >>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาเป็นมงคลด้วยครับ *******บูชาที่ 605 บาทฟรีส่งems SAM_7399.JPG เปิดดูไฟล์ 5424354 SAM_7400.JPG SAM_7401.JPG SAM_7402.JPG SAM_7403.JPG SAM_7404.JPG SAM_7405.JPG SAM_6500.JPG SAM_6493.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2020
  13. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 828 01727191040_o.jpg?_nc_cat=108&_nc_sid=dbb9e7&_nc_ohc=otLaai-srfsAX_s6I8S&_nc_ht=scontent.fkkc2-1.jpg พระปิดตาปฐวีทรัพย์หลวงพ่อสมเกียรติ ชิตมาโร พระอรหันต์เจ้าวัดป่าถํ้าพระเทพนิมิต อ.กุดจับ จ.อุดรธานี องค์พระสร้างปี 2560 มีมวลสารที่สร้างลงตามใบฝอยครับ
    >>>>>ประวัติ หลวงrพ่อ สมเกียรติ ชิตมาโร
    วัดป่าถ้ำพระเทพนิมิต (ถ้ำตาลเลียน) บ้านทุ่งตาลเลียน ตำบลตาลเลียน
    อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี
    ท่านถือกำเนิดเมื่อวันอังคารที่ ๓ พฤษภาคม ๒๔๙๘ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะแม ท่านเกิดในสกุล “จันทร์วงศ์” เป็นบุตรชายคนที่ ๔ ในจำนวนพี่น้อง ๕ คน ณ บ้านสร้างเสี่ยน ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู สมัยเมื่อเกิดเป็นทารกแรกคลอดมีสายรกพันคอและเฉวี่ยงบ่าคล้ายสายสะพายบาตรออกมาด้วย บิดาท่านจึงอุทานออกมาว่า ลูกคนนี้ต้องได้บวชเป็นพระแน่นอน เมื่อเติบใหญ่ท่านพระอาจารย์สมเกียรติได้เคยบอกเพื่อน ๆ ว่า ถ้าอายุครบ ๒๑ ถึงอายุเกณฑ์ทหารแล้ว ถ้าจับไม่โดนใบแดง ติดทหาร ท่านจะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ นี่เป็นสัจจะวาจาที่ท่านตั้งไว้เป็นคำสัตย์
    หลังจากไม่ติดทหาร ท่านจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุติกนิกายเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ณ พัทสีมาวัดจันท์ประสิทธิ์ บ้านสร้างเสี่ยน ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีหลวงปู่บุญมา สุชีโว วัดป่าสุขเกษม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทองสูน สุธัมโม เป็นพระผู้สอนนาค และเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์จันทรลา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ชิตมาโร” แปลว่า “ผู้พิชิตมาร”
    ภายหลังอุปสมบทหลวงปู่หวัน จุลปัณฑิโต แห่งวัดถ้ำกลองเพล ได้ขอให้พระอาจารย์สมเกียรติ ชิตมาโร ขึ้นไปจำพรรษาที่วัดป่าภูเก้า บ้านดอนหัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าภูเก้า อยู่ถึง ๓ พรรษา จากนั้นในพรรษาที่ ๔ ท่านได้ไปอยู่ที่วัดป่าประสิทธิสามัคคี (วัดของท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม) บ้านต้าย อำเภอสว่างแดนดิน จังหหวัดสกลนคร พรรษาที่ ๕ อยู่ที่วัดญาณสังวร อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พรรษาที่ ๖ วัดป่าหมากแข้ง(วัดหลวงพ่อผจญ อสโม) อ.วังสะพุง จ.เลย พรรษาที่ ๗ วัดป่าทรายทอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย พรรษาที่ ๘ กลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดจันทร์ประสิทธิที่ท่านอุปสมบท พรรษาที่ ๙ วัดป่าสานตม ธรรมสถานของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย พรรษาที่ ๑๐-๑๑ วัดป่าถ้ำพระเทพนิมิตบ้านทุ่งตาลเลียน อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี พรรษาที่ ๑๒- ๑๓ ท่านปฏิปัติธรรมอยู่ที่ภูลังกากับหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ ณ วัดถ้ำยานาโพธิ์ อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม พรรษาที่ ๑๔ ได้ติดตามหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ มาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านใหม่ ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี จากนั้นจึงได้กลับมาอยู่ที่วัดถ้ำพระตาลเลียนแห่งนี้ ตั้งแต่พรรษาที่ ๑๕ จนถึงปัจจุบันนี้ พรรษาที่ ๔๑

    ( ในบางครั้งองค์หลวงปู่บุญมีท่านจะบอกกล่าวกับญาติโยมที่คุ้นเคยถึงหลวง พ่อสมเกียรติ ว่าลูกชายองค์โต -ทายาทธรรม และบางคราท่านก็จะแนะนำญาติโยมให้ไปกราบหลวงพ่อ สมกียรติ )

    " คติธรรมสอนใจ "

    " เมื่อธรรมมีกำลังแล้ว เราไม่เคยคาดเคยหมายแหละ หากเป็นขึ้นโดยกำลังของธรรม กำลังของธรรมกับกำลังของจิต กลมกลืนเป็นอันเดียวกันแล้ว หากเป็นขึ้นรู้ขึ้น สิ่งที่ไม่เคยรู้ก็รู้ สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็เห็น สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าเราจะตัดขาดไปได้ ก็ตัดขาดไปได้ ด้วยอำนาจของธรรม เป็นเครื่องมืออันทันสมัย ทันกาลทันเวลา ทันกับกิเลสทุกแง่ทุกมุมทุกประเภทของกิเลสนี่ละ ที่ท่านหลุดพ้นไปได้ ท่านหลุดพ้นด้วยวิธีการอย่างนี้แล "

    93934571027_n.jpg?_nc_cat=106&_nc_sid=110474&_nc_ohc=AaGRVkZTtJQAX8lUxDn&_nc_ht=scontent.fkkc2-1.jpg
    04796945965_n.jpg?_nc_cat=103&_nc_sid=110474&_nc_ohc=UBTwrekmadoAX8rwO0j&_nc_ht=scontent.fkkc2-1.jpg
    >>>>>>มีพระเกศาหลวงพ่อมาบูชาด้วยครับ *******บูชาที่ 355 บาทฟรีส่งems SAM_7408.JPG SAM_7411.JPG SAM_7410.JPG SAM_7412.JPG SAM_0845.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2020
  14. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    ****วันศุกร์พาญาติลูกพี่ลูกน้องกันไปหาหมอโรงพยาบาลสกลนครเเต่เช้า พอกลับมาเปิดหน้าจอเวป ปรากฏว่าหน้าจอระงับใช้งานเพราะว่าอายุสมาชิกหมด เลยลงสมัครใหม่ครับ เเต่เช้าเมื่อวาน วันนี้พึ่งได้รับการอนุมัติ วันนี้ จึงเรียนเเจ้งเพื่อให้เพื่อนสมาชิกทราบครับผม ขอขอบคุณครับ
     
  15. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,905
    ค่าพลัง:
    +6,826
    ขอจอง827ครับ
     
  16. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 829 พระผงเนื้อว่านรุ่นถิ่นกำเนิดหลวงตาพวง สุขินททริโย พระอรหันต์เจ้าวัดศรีธรรมราม อ.เมือง จ.ยโสธร หลวงตาพวงเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นยุคสุดท้าย องค์พระสร้างปี 2539 เนื้อว่านองค์นี้มีพระเกศาฝังในองค์พระโผล่ที่เเก้มขวาหลวงตา เเละเกศาโผล่ที่ตัวอักษร ด หลังองค์พระ องค์พระสวยระยิบระยับทั้งหน้าหลัง หายากครับ >>>>>>มีพระเกศาขาวใสหลวงตามาบูชา******บูชาที่ 385 บาทฟรีส่งems >>>>> พระผงยุคต้นๆของหลวงตาพวง ประวัติย่อของหลวงตาพวง
    หลวงตาพวงเป็นชาว จ.ยโสธร นามเดิม พวง ลุล่วง เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มน้ำชี มีศิษยานุศิษย์ทั่วทุกภาค อาจารย์องค์แรก คือ พระอาจารย์สอ สุมังคโล ซึ่งพา ด.ช.พวง อายุ 14 ปี ไปฝากตัวเป็นศิษย์ดูแลหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล แห่งวัดดอนธาตุ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี หลังจากหลวงปู่เสาร์มรณภาพ ด.ช.พวง จึงบรรพชาเป็นสามเณร และอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์มาตลอด

    หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ กล่าวถึง หลวงตาพวง ชื่อ เสียงของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีในสายวงวัตถุมงคลโชคลาภ ของคนไทยทั่วประเทศเพราะด้วยปฏิปทาที่เรียบง่าย สมถะและเมตตาแก่ทุก ๆ คนที่ไปหา มิใช่แต่ชาวจังหวัดนครราชสีมาที่เลื่อมใสและศรัทธาท่าน ชาวยโสธรเองก็เช่นเดียวกันที่เลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติ และพากันไปกราบนมัสการหลวงพ่อคูณ เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งขอวัตถุมงคลเพื่อคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่าง ๆมิได้ขาด
    แต่ทุก ๆ ครั้งที่ชาวยโสธรไปกราบนมัสการหลวงพ่อคูณนั้น หากท่านทราบว่าเป็นชาวยโสธรแล้วหลวงพ่อคูณท่านจะไม่ยอมให้วัตถุมงคล และบอกว่าให้กลับไปเอาที่ยโสธร ท่านมักจะพูดว่า "ที่ ยโสธรมีคนเก่งกว่ากูมีอีก ผมหงอก ๆ ขาว ๆ ที่นั่งอยู่ริมแม่น้ำชีนั่นแหละ ท่านหมดกิเลสแล้ว ท่านไม่แสดงเฉยๆ กูยังไม่ถึงเท่าท่านเลย ไป"
    เมื่อสัมภาษณ์หลวงตาพวง ถึงเรื่องนี้ ท่านก็เล่าให้ฟังว่า "ก็เคยได้ยินมาจากญาติโยมหลายสิบคนแล้ว ที่เล่าให้ฟังเหมือนกันว่าเมื่อชาวยโสธรไปกราบหลวงพ่อคูณ ท่านมักจะไล่กลับมาหาหลวงตา"
    "หลวงตาเองก็ ไม่เคยได้พูดคุยกับหลวงพ่อคูณสักครั้งเดียว หลวงตาก็เคยไปวัดบ้านไร่มาสองครั้ง แต่ไม่เคยมีโอกาสพูดคุยกับท่านเพราะมีญาติโยมเป็นจำนวนมากจึงไม่มีโอกาสพูด คุยกัน หลวงพ่อคูณจะทราบได้อย่างไรก็ไม่ทราบหรืออาจเป็นเพราะมีลูกศิษย์เล่าให้ฟัง ถึงประวัติหลวงตากระมัง"

    ปาฏิหาริย์หลวงตาพวง เดินข้ามบิณฑบาตรแม่น้ำชี
    มีเรื่องเล่าขานกันใน หมู่ชาวบ้านแถบลำน้ำชีอันเป็นที่ตั้งของ วัดศรีธรรมารามซึ่งหลวงตาพวงเคยจำพรรษาอยู่ ฝั่งตรงข้ามของวัดศรีธรรมารามเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในเขตของอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ชาวบ้านเล่ากันว่ามีคนออกไปเก็บกับดักหนูที่ดักไว้ในช่วงเช้ามืดได้เห็นหลวง ตาพวงออกเดินบิณฑบาตโดยเดินบนแม่น้ำชีจากวัดศรีธรรมารามไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน ฝั่งอำเภอพนมไพร
    คุณสมจันทร์ โพธิศรี อยู่บ้านเลขที่ 68 บ้านกุดกุง (คุ้มหนองแสง) ต. เขื่อนคำ อ.เมือง จ. ยโสธร เล่าให้ฟังเป็นภาษาอิสานว่า "เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2538- 2539 เช้าวันหนึ่งข่อยไปดักหนูป่าแมะ ได้เห็นหลวงตาพวงเพิ่นเดินข้ามแม่น้ำชีไปแมะ ข่อยนี้แหละเป็นผู้เห็นท่านเองเลย" (คัดจากหนังสือโลกทิพย์)

    เมื่อถามเรื่องนี้กับหลวงตา หลวงตาก็ตอบว่า "เป็นเรื่องของเขาเห็นปรากฏในสายตา หลวงตาไม่ค้าน ไม่ได้ปฏิเสธ เขาคงเห็นด้วยสายตาของเขา จะเล่าลืออย่างไร หลวงตาไม่ได้พูด ไม่ได้อวดอะไร" แล้วหลวงตาก็เปลี่ยนเรื่องพูดถึงเรื่องหมู่บ้านในฝั่งอำเภอพนมไพรว่า " หลวงตาก็รับนิมนต์ไปสวดหรือไม่ก็ฉันที่หมู่บ้านฝั่งนี้เป็นประจำทุกวันออก พรรษาชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน ก็พากันมามอบกายถวายตัวเป็นลูกศิษย์ มากราบขอพรเพราะพวกเขาไม่มีที่พึ่งในหมู่บ้าน เขาจึงมาพึ่งหลวงตา เมื่อมีการงานอะไรพวกเขาก็มาช่วยเสมอ ๆ แม้แต่มาอยู่ที่วัดป่าใหม่นิคมพัฒนาราม พวกเขาก็ยังมา"

    หลวงตาพวง สุขินทริโย วัดศรีธรรมาราม จ.ยโสธร มรณภาพละสังขารเข้าอนุปาทิเสสนิพพาน
    เมื่อเวลา 10.52 น. วันที่ 2 เมษายน 2552
    ณ โรงพยาบาลยโสธร จังหวัดยโสธร หลวงตาพวงมีอาการอาพาธกะทันหันขณะเป็นประธานทอดผ้าป่ าที่วัดสิริดำรงวนาราม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมื่อคืนวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา โรงพยาบาลยโสธรรับตัวมารักษาต่ออยู่ในห้องไอซียูกระท ั่งมรณภาพ
    พระเทพสังวรญาณ หรือหลวงตาพวง สุขินทริโย สิริอายุ 81 ปี 11 เดือน เจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร
    *******หลวงตาพวง มีน้องชาย อีกหนึ่งท่านคือ หลวงปู่สรวง สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดบ้านศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร SAM_6789.JPG SAM_6790.JPG SAM_7419.JPG SAM_7420.JPG SAM_7421.JPG SAM_7422.JPG SAM_7423.JPG SAM_7424.JPG SAM_7425.JPG
     
  17. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 830 รูปหล่อลอยองค์ที่ระลึกสร้างบสถ์หลวงพ่อพุธ ฐานิโย พระอรหันตืเจ้าวัป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลวงพ่อพุธเป็นศิษย์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ปารย์มาจารย์พระสายวัป่าธรรมยุติ องค์พระสร้างปี 2535 สร้างที่วัดป่าชินรังสี(เป็นวัดสาขาวัดป่าสาลวัน)ของหลวงพ่อพุธ มาพร้อมกล่องเดิม มีตอกโค๊ต พ ตรงผ้าสังฆาฏิ ก้นอุดเทียนชัย มีพระเกศาหลวงพ่อมาบูชา้วยครับ >>>>>>บูชาที่ 355 บาทฟรีส่งems
    ประวัติและปฏิปทา
    ชาติภูมิ

    พระราชสังวรญาณ หรือ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย มีชาติกำเนิดในสกุล “อินหา” เกิดเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๔ ตรงกับวันพุธ เดือน ๓ ปีระกา เวลา ๐๕.๑๐ น. ที่บ้านหนองโดน ตำบลหนองโดน อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี
    บิดาชี่อพร มารดาชื่อสอน อินหา ท่านเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ซึ่งมีอาชีพกสิกรรม
    บรรพชา
    บรรพชา ณ วัดอินทสุวรรณ บ้านโคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๙ อายุ ๑๕ ปี โดยมีท่านพระครูวิบูลย์ธรรมขันธ์ เจ้าคณะอำเภอสว่างแดนดินฝ่ายมหานิกาย เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูโพธิภูมิไพโรจน์ (หมุน โพธิญาโณ) เป็นอาจารย์สอนในขณะเป็นสามเณร ท่านสามารถสอบนักธรรมชั้นตรีได้ ณ วัดแห่งนี้
    การบรรพชาครั้งที่ ๒ เป็นสามเณรธรรมยุตเมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ ณ วัดบูรพาราม โดยมีพระศาสนดิลก แห่ง วัดศรีอุบลรัตนาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นพระอุปัชฌาย์ มีท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโลและพระอาจารย์พร สุมโน เป็นอาจารย์สอนภาวนาและข้อวัตรปฏิบัติในขณะนั้น
    พ.ศ. ๒๔๘๒ สอบนักธรรมชั้นโทได้ที่สำนักเรียนวัดสุปัฏวนาราม
    พ.ศ. ๒๔๘๓ สอบนักธรรมชั้นเอกได้ที่สำนักเรียนวัดสุปัฏวนาราม
    พ.ศ. ๒๔๘๔ ท่านเดินทางเข้ามาเรียนหนังสือบาลีต่อที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ สามารถสอบเปรียญธรรม ๓ ประโยคได้ในขณะเป็นสามเณร
    อุปสมบท
    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    อุปสมบท ณ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ โดยมีพระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ) เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูปทุมธรรมธาดา ภายหลังดำรงตำแหน่งเป็นพระธรรมปาโมกข์ (บุญมั่น มนฺตาสโย) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดบัวเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายามคธว่า “ฐานิโย” ซึ่งแปลความหมายว่า ผู้ตั้งมั่นในคุณธรรม
    จำพรรษา
    พรรษาที่ ๑ - ๒ (พ.ศ. ๒๔๘๕ - ๒๔๘๖)
    จำพรรษา ที่ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
    พรรษาที่ ๓ - ๗ (พ.ศ. ๒๔๘๗ -๒๔๘๙) จำพรรษา ที่ วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
    พรรษาที่ ๖ (พ.ศ.๒๔๙๐) จำพรรษา ที่วัดเขาสวนกวาง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น
    พรรษาที่ ๗ - ๑๒ (พ.ศ. ๒๗๙๐ - ๒๔๙๖) จำพรรษา ที่วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี (๒๔๙๑ สอบเปรียญธรรม ๔ ประโยคได้)
    พรรษาที่ ๑๓ - ๒๖ (พ.ศ. ๒๔๙๗ - ๒๕๑๐) จำพรรษา ที่วัดแสนสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี (เป็นเจ้าคณะอำเภอวารินชำราบและเป็นพระครูพุทธิสารสุนทร)
    พรรษาที่ ๒๗ - ๒๘ (พ.ศ. ๒๕๑๑ -๒๕๑๒) จำพรรษา ที่วัดหลวงสุมังคลาราม อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ (เป็นพระราชาคณะที่พระชินวงศาจารย์)
    พรรษาที่ ๒๙ - ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๑๓ - ๒๕๒๗) จำพรรษา ที่วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา (เป็นพระราชาคณะที่พระภาวนาพิศาลเถร)
    พรรษาที่ ๔๔ (พ.ศ. ๒๕๒๘) จำพรรษา ที่สุญญาคาร (เรือนว่าง) อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
    พรรษาที่ ๔๕ - ๔๖ (พ.ศ. ๒๕๒๙ - ๒๕๓๐) จำพรรษา ที่วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
    พรรษาที่ ๔๗ - ๔๘ (พ.ศ. ๒๕๓๑ - ๒๕๓๒) จำพรรษา ที่วัดวะภูแก้ว บ้านวะภูแก้ว ตำบลมะเกลือใหม่ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา
    พรรษาที่ ๔๙ (พ.ศ. ๒๕๓๓) จำพรรษา ที่วัดป่าชินรังสี ตำบลคลองนา อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
    พรรษาที่ ๕๐ (พ.ศ. ๒๘๓๔ ) จำพรรษา ที่วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
    พรรษาที่ ๕๑ - ๕๔ (พ.ศ. ๒๕๓๕ -๒๕๓๘) จำพรรษา ที่วัดป่าชินรังสี ตำบลคลองนา อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา (เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสังวรญาณ)
    พรรษาที่ ๕๕ - ๕๗ (พ.ศ. ๒๕๓๙ - ๒๕๔๑) จำพรรษา ที่วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
    15may.jpg

    -:- หลวงพ่อพุธ ปรารภเรื่อง การละสังขาร -:-

    เมื่อปี พ.ศ.2539 หลวงพ่อพุธท่านอาพาธ ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ท่านได้ปรารภเรื่องการละสังขารไว้ว่า ...
    ต่อไปนี้จะลองทายชีวิตของตนเองดู ...
    ตกเดือนมีนาคม มันจะเกิดอะไรหนักๆ สักอย่างหนึ่งทุกรอบปี

    ปีนี้อายุ 76 เป็นปีมรณะ ... ปีอายุ 77 พอผ่านจากนี้ไปแล้วไม่มีอะไร แต่ปีอายุ 78 ... ถ้ารอดปีอายุ 78 ไปได้แล้วจะอยู่ถึงอายุ 90

    คณะศิษย์ที่ฟังอยู่ได้กราบอาราธนา ขอให้หลวงพ่อมีอายุถึง 100 ปี ซึ่งหลวงพ่อนิ่งไม่รับ และได้กล่าวว่า ...

    แล้วแต่พ่อเสี่ยวเขา ...

    เมื่อกราบเรียนถามว่าพ่อเสี่ยวหมายถึงใคร...

    หลวงพ่อตอบว่า ... พ่อเสี่ยว คือ พระยายมราช ...

    ซึ่งคณะศิษย์ได้กราบอาราธนาขอให้หลวงพ่อมีอายุถึง 100 ปีอีกครั้ง

    หลวงพ่อกล่าวว่า ... เออ ... อยู่จนอยู่ไม่ได้นั่นแหละ ...

    แล้วหลวงพ่อท่านก็ละสังขารเมื่ออายุ 78 ปี
    ในวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2542

    การพยากรณ์วันละสังขาร มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรที่ไปพบประมาณ 2 ปี ก่อนละสังขาร ซึ่งช่วงนั้นท่านยังไม่ได้อาพาธด้วยโรคมะเร็ง มีแต่เบาหวานโรคเดียว
    วันนั้นท่านสั่งให้ลูกศิษย์จัดตู้หนังสือ พระที่จัดอยู่ไปพบกระดาษแผ่นเล็กๆ เป็นลายมือของหลวงพ่อ เป็นกราฟเลข 7 ตัว มีวงกลมรอบเลข 78 ว่า

    "เตรียมตัวได้ชีวิตต้องสิ้นสุด" ไม่ได้กราบเรียนถามว่าท่านเขียนไว้ตั้งแต่เมื่อไร

    ภายหลังที่ท่านมรณภาพ คณะกรรมการวัดและคณะศิษย์ได้ไปตรวจนับข้าวของเครื่องใช้ในกุฏิท่านเพื่อขึ้นทะเบียน ได้พบแผ่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือหลวงพ่อ ท่านเขียนไว้ว่า ...

    “เกิด..แก่..เจ็บ..ตาย..เป็นเรื่องธรรมดา..
    ถ้าเราไม่ยอมรับความจริง ก็เหมือนเราไม่เชื่อคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่สมกับเป็นชาวพุทธ”

    อวาทธรรม หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา SAM_7426.JPG SAM_7431.JPG SAM_7432.JPG SAM_7434.JPG SAM_6786.JPG

     
  18. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    บูชาครับ
     
  19. Khun Kriang

    Khun Kriang สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2019
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +4
    จองครับ
     
  20. Khun Kriang

    Khun Kriang สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2019
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +4
    จองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...