วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

รายการที่ 228 ปลัดขิกกัลปังหาดำ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 หลวงพ่อตัดจารเอง (3)

ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

ปลัดขิกที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นปลัดขิกกัลปังหาดำ
กัลปังหาดำหลวงพ่อตัดและพระอาจารย์ทินท่านได้บอกว่าเป็นยาครับ หากห้อยให้แนบเนื้อจะช่วยบรรเทาริดสีดวงได้ ซึ่งข้อนี้ศิษย์วัดชายนาหลายๆคนก็มีประสบการณ์ตรงกับตัวกัน เรียกว่าได้ทั้งพุทธคุณจากหลวงพ่อและตัวยาจากกัลปังหาดำสองเด้ง
ชุดที่นำมาแบ่งปันนี้พิเศษที่หลวงพ่อตัดลงเหล็กจารเอง ยาว 1.5 นิ้ว จำนวนสร้างไม่ถึง 100 ตัวครับ หายาก แนะนำให้เก็บไว้บูชาครับ เพราะอนาคตจะหา "ตัวจริง" ยากกว่านี้เยอะ
ผมมีมาแบ่งเพียง 3 ตัวเท่านั้นครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 229 สีผึ้ง หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2544(หลวงพ่อหุงเอง)

"พกเป็นเมตตา ทาเป็นมหาเสน่ห์"

สีผึ้งของหลวงพ่อตัด จะมีหลักๆอยู่ 2 รูปแบบคือ
1. สีผึ้งตลาด คือไปซื้อสีผึ้งตามตลาดมา แล้วหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกด้วยวิชาเมตตาที่ใช้เสกสีผึ้ง อันนี้ขอไม่เน้นมาก หลักๆจะมีแค่ชุดปี 2525 ปีเดียว

2. สีผึ้งที่หลวงพ่อตัดท่านหุงเอง
อันนี้อยากเน้นให้เห็นถึงกรรมวิธีทำ หลวงพ่อตัดท่านจะนำขี้ผึ้งแท้ มาผสมกับน้ำมันมะพร้าว โดยไม่ใช้ความร้อน คือไม่ผ่านไฟ นำมาคนให้เข้ากันแล้วนำไปใส่โถ ปิดด้วยกระจกใสเพื่อกันน้ำค้าง แล้วไปตากในที่โล่งให้โดนแสงอาทิตย์ และแสงจันทร์ หรือเรียกอีกอย่างว่า หุงด้วยแสงเดือน-แสงตะวัน ได้ทั้งความร้อนแรงจากแสงตะวัน และความเย็นจากแสงเดือน
สีผึ้งด้านในโถที่หุงไว้นั้น กลางวันก็จะเหลว กลางคืนก็จะแข็ง ระยะเวลาที่ใช้หุงก็เรียกได้ว่าเป็นเดือนถึงหลายเดือนขึ้นไป
การเวลาผ่านไปสีผึ้งในโถนั้นจะเปลี่ยนจากสีของขี้ผึ้งแท้ เป็นสีออกขาว หรือขาวอมเหลืองอ่อนๆ พอหลวงพ่อตัดท่านเห็นว่าสีผึ้งนั้น "ใช้ได้" ก็จะนำมาปลุกเสกด้วยวิชามหาเมตตาตามตำรับตาราที่ได้เรียนมา โดยวิธีการทำนี้ ผู้รู้ท่านบอกว่าคล้ายกับการทำสีผึ้งของหลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง

"สีผึ้ง" เป็นสิ่งที่หลวงพ่อตัดท่านหวงมากๆอย่างหนึ่ง ใครจะไปขอปลัดขิก ตะกรุด ท่านไม่มีหวง ยกเว้นแต่สีผึ้งนี่แหละที่หลวงพ่อท่านหวงพอสมควร ยุคแรกๆท่านจะไม่ใส่ส่วนผสมอื่นลงไปในสีผึ้งเลย จะมีแค่ขี้ผึ้งแท้ กับน้ำมันมะพร้าวเท่านั้น ส่วนในยุคหลังๆมาก็จะเห็นมีลูกศิษย์นำจำพวกว่านต่างๆไม่ว่าจะเป็น ว่านสาวหลง และว่านอื่นๆที่ดีทางเมตตามหานิยมมาเติมและผสมเข้าไป เพื่อเพิ่มผลทางเมตตามหาเสน่ห์เข้าไป ในยุคหลวงพ่อตัดเองก็ทำสีผึ้งไว้ไม่มาก และหลวงพ่อตัดท่านก็หวงมาก สิ่งนี้จึงไม่ค่อยแพร่หลาย จนน้อยคนที่จะรู้ว่าท่านเสกได้ และเสกได้ "ดีจริง" อีกด้วย

หนุ่มน้อย-หนุ่มใหญ่หรือพ่อค้า-แม่ขายที่เคยได้รับสีผึ้งจากหลวงพ่อท่านไปก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสีผึ้งของหลวงพ่อตัดนั้น "ดีจริง" เวลาทาก่อนไปค้าขาย ไปติดต่อธุรกิจ หรือแม้กระทั่งใช้ไปทางเข้าหาผู้หญิง ผู้ชาย เจ้านาย ก็เรียกว่าเชื่อขนมกินได้ โดยมีวลีติดปากสืบต่อกันมาว่า "พกก็เป็นเมตตา ถ้าหากนำมาทาก็จะเป็นมหาเสน่ห์"
ส่วนตัวผมเองก็เชื่อโดยสนิทใจว่าสีผึ้งของหลวงพ่อตัดนั้นดีจริง เพราะมีประสบการณ์ส่วนตัว

สำหรับผู้พกพา หรือใช้สีผึ้งของหลวงพ่อเองก็ต้องทำตัวให้มีเสน่ห์เองด้วย ไม่ใช่ว่าทาสีผึ้งแล้วไปพูดจาไม่เสนาะหู พูดจาไม่ดีไม่เข้าหู แล้วใครเล่าจะมารักมาเมตตา ให้ทาสีผึ้งทั้งกระปุกก็ช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ

สีผึ้งชุดนี้เป็นสีผึ้งที่หลวงพ่อตัดท่านหุงเองเมื่อปี พ.ศ. 2544 เก่าเก็บ ตักแบ่งจากโหลออกมาบรรจุตลับไม้สักอย่างดีได้ไม่ถึงร้อยตลับ ซึ่งมีผู้ศรัทธาบูชาไปจนหมดอย่างรวดเร็ว และถูกเก็บเงียบไปหมดแล้ว ผมได้มา 5 ตลับ มีผู้ศรัทธาขอแบ่งบูชาไปแล้ว 1 ตลับ ผมเก็บไว้ใช้ 1 ตลับ คงเหลือที่นำมาแบ่งบูชากันเพียง 3 ตลับเท่านั้นครับ หมดจากนี้ผมก็ไม่รู้จะไปหาสีผึ้งที่หลวงพ่อตัดท่านหุงเองที่ชัวร์ๆแบบนี้ที่ไหนได้อีกแล้วเหมือนกัน

มีผู้จองบูชาทั้งหมดแล้ว

 

ขอจองตลับที่ 1 ครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

รับรายการที่226ค่ะ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ขอจองตลับที่๒ครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ผู้ใหญ่ข้าราชการแถบ จ.หนองคายที่เคยแบ่งบูชาวัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนาไปอาราธนา ได้กลับมาให้ฟีดแบค เล่าเรื่องราวให้ฟัง เลยขอนำมาบันทึกให้ผู้ศรัทธาได้อ่านกันครับ

 

รายการที่ 230 ตะกรุดจารมือยันต์มหาอุดเต็มสูตร เนื้อทองเหลืองแท้ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550

ตะกรุดดอกนี้เป็นแผ่นทองเหลืองแท้ ม้วนหนา แต่ไม่หนัก ความยาว 4 นิ้ว
เป็นยันต์มหาอุดเต็มสูตร ลายมือพระอาจารย์ทินมาตรฐานดูง่าย จารแน่นทั้งนอกและใน ไม่ค่อยพบเจอนะครับสำหรับแผ่นฝาบาตรแท้ๆแบบนี้ ที่ออกมาหมุนเวียนพบเจอกันบ่อยๆจะเป็นเนื้อตะกั่ว หรือแผ่นแปะตั๊งซะมากกว่า

เรื่องมหาอุดของหลวงพ่อตัด วัดชายนา โด่งดังไปทั่วประเทศแบบปากต่อปาก มิใช่แค่เพียงด้านมหาอุดล้วนๆ ยังแฝงไปด้วยแคล้วคลาดอย่างสูงสุดคือสามารถ "เตือนภัย" ได้
น่าเก็บไว้บูชาไว้สักดอก เอาไว้ติดตัวตอนเดินทางก็ดีครับ
ผมนำมาแบ่งบูชาที่ราคาสบายกระเป๋าครับดอกนี้

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

รายการที่ 231 ผ้ายันต์พยัคย์พญาธร(เพชรพยัคย์) หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2542

พยัคย์พญาธร หรือเพชรพยัคย์นี้เป็นต้นแบบของเพชรพญาธรแขนอ่อนตาหวานที่จะพบเห็นได้บนผ้ายันต์ปั๊ม หรือจารมือในยุคหลังๆ ซึ่งส่วนของผ้ายันต์ที่เป็นรูปลักษณ์ของเพชรพยัคย์นั้นจะเป็นยุคต้น พบเจอน้อย เนื่องจากพอมีการทำออกมาช่วงหนึ่งแล้วหลวงพ่อตัดท่านบอกว่ามัน "ดุเกินไป" จึงดำริให้มีการเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นเพชรพญาธรแขนอ่อนตาหวาน เปลี่ยนอักขระบนผ้ายันต์ให้ไปทางเมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขายแทน ซึ่งผ้ายันต์พยัคย์ฯนี้จะหวังผลทางด้านเฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน ป้องกันสิ่งที่มองไม่เห็นได้ดีครับผม

จัดว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุมงคลที่ปัจจุบันหาพบยากแล้ว
ผืนนี้สภาพสวยสมบูรณ์มากๆ ขนาด 9.5*8.5 นิ้ว ใส่กรอบบูชาไว้ที่บ้าน ห้างร้าน หรือเอาไว้ติดรถก็เป็นมหามงคลครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับผม

 

คาถาจินดามณีน้อยลายมือพระอาจารย์ทิน

ลงให้ผู้ศรัทธาเอาไว้ไปสวดไปท่องกันครับ

 

รายการที่ 232 ล็อกเก็ตเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548

วัตถุมงคลในชุดเลื่อนฯ ปี 2548 เป็นวัตถุมงคลที่มากประสบการณ์ของหลวงพ่อตัดอีกหนึ่งชุดครับ ล็อกเก็ตเองก็เป็นหนึ่งในวัตถุมงคลที่น่าอาราธนาบูชามากๆ ด้วยความที่เป็นรูปหลวงพ่อ แขวนไว้สื่อกับท่านได้โดยตรง ชุดนี้จะมีของมงคลคือเกศาของหลวงพ่อตัดด้วย ไม่ค่อยออกมาหมุนเวียนแล้วครับสำหรับล็อกเก็ตของหลวงพ่อ เอาไว้อาราธนาอธิษฐานขอทางด้านเมตตา เลื่อนยศ หนุนชะตาชีวิตแทนเหรียญเลื่อนฯที่ปัจจุบันหายากมากแล้วได้ครับ

องค์ที่นำมาแบ่งปันนี้สภาพสวยสมบูรณ์มาก เกศาติดชัด ใส่ตลับพร้อมขึ้นคอ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 233 พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก(สมเด็จขาโต๊ะ) หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2518

พระผงรูปเหมือนรุ่นแรกนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความสำคัญครับ เพราะหลวงพ่อตัดท่านเคยบอกศิษย์หลายๆคนไว้ว่า

"นี่รูปกู กูทำเอง พวกมึงเก็บไว้ให้ดีๆนะต่อไปจะหาไม่ได้"

โดยมวลสารหลักๆของสมเด็จขาโต๊ะคือว่านต่างๆที่หลวงพ่อตัดท่านปลูกไว้ในบริเวณวัด และเกศาของหลวงพ่อตัด

ด้านหลังจะลงด้วยยันต์เอกของหลวงพ่อ "อุสะหะสะปะสะอุ" ซึ่งเป็นยันต์เดียวกับที่ลงบนเหรียญรุ่นแรกของท่าน ซึ่งมีคนเคยไปถามท่านว่าคือคาถาอะไร ท่านก็ตอบแนวเล่นๆว่า "คาถากันแมลงกินฟัน"
แต่พอไปสืบสาวราวเรื่องลึกๆแล้วนั้น เป็นคาถาทางมหาอุดที่หลวงพ่อตัดท่านสำเร็จตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่มอยู่ที่วัดเขากระจิว โดนในขณะนั้นท่านได้ใช้เสกลงบนกิ่งไม้ แล้วให้ศิษย์วัดเขากระจิวเอาไปลองยิง ก็ปรากฏว่ายิ่งไม่ออก

อีกคาถึงหนึ่งคือ "พุทธะสังธัมมังโลเก" อีกหนึ่งคาถาบนเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อท่านเช่นกัน ศิษย์ก้นกุฏิท่านหนึ่ง ขออนุญาตเอ่ยนาม คือพี่บัณฑิต เก่งทอง พี่ท่านนี้เป็นผู้สร้างพระกริ่งรุ่นแรกถวายหลวงพ่อตัดก็เคยได้ถามหลวงพ่อว่า
"ตอนหลวงพ่อเสกพระกริ่งรุ่นแรก หลวงพ่อเสกด้วยอะไร?"
หลวงพ่อตัดท่านก็ตอบมาว่า
"พุทธะสังธัมมังโลเก"
ซึ่งความหมายคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์คุ้มครองโลก
ตราบใดที่เรายังเหยียบอยู่บนโลก พระรัตนตรัยก็จะคุ้มครองเรา นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคาถาสำคัญที่หลวงพ่อตัดท่านเลือกนำมาบรรจุลงบนสมเด็จขาโต๊ะ

และสุดท้ายคือ "ปวโร" อันเป็นฉายาของหลวงพ่อตัด
สมัยที่ท่านยังดำรงสังขารอยู่นั้นท่านก็ได้เป็นพระอุปปัชชา และพระที่ท่านบวชให้ทุกรูปนั้น ท่านก็จะทำตะกรุดให้หนึ่งดอก ที่เรียกกันว่า "ตะกรุดฉายา" โดยหลวงพ่อตัดท่านจะลงคาถาสำคัญๆต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือท่านจะลง "ปวโร" ไว้ด้านบนและด้านล่างจะเป็นฉายาของพระที่บวชใหม่แต่ละรูป ซึ่งแตกต่างกันไป ความหมายคือบารมีหลวงพ่อจะคุ้มครองพระที่บวชกับท่าน เหมือนอาจารย์จะดูแลศิษย์ตลอดไป
หากผู้ที่ไม่ได้บวชกับท่านก็จะหาวัตถุมงคลในรูปแบบต่างๆที่มีการลงฉายาของท่านไว้ เสมือนว่ามีนามของหลวงพ่อท่าคุ้มครองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสามารถพบเห็นผู้ศรัทธาในยุคหลังที่หลวงพ่อท่านมรณะภาพไปแล้วหลายๆคนก็มักจะมีสมเด็จขาโต๊ะติดกายกัน

นอกจากพุทธคุณที่ดีทุกทางแล้ว ยังสามารถรักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้อีกด้วย โดยการนำพระไปฝนผสมกับน้ำมะนาวแล้วนำมาใส่บริเวณแผล เวลาเข้าป่าขาพกสมเด็จขาโต๊ะไปนอกจากได้ทางพุทธคุณแล้วก็เหมือนกับว่ามียาติดตัวไปด้วย

องค์ที่นำมาแบ่งปันนี้สภาพพอสวย ขึ้นคอได้ไม่อายใครครับ

มีผู้บูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 234 พระปิดตาเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 ปลุกเสกพิธีวันเพ็ญ

ปิดตาเยี่ยวชะนีเนื้อโซนนี้ถูกจัดให้เป็นเนื้อที่นิยมที่สุดครับ ว่านด้านเมตตา+ผงเยี่ยวชะนีใส่กันแบบไม่ยั้ง ด้านหลังที่เห็นเหลืองๆคือผงเยี่ยวชะนีนำมาโรยและกดไปกับบล็อค หลวงพ่อตัดปลุกเสกในพิธีวันเพ็ญปี 2550 วันที่พระอาจารย์ทินท่านบอกว่าถ้าหลวงพ่อตัดเสกวันนี้ วัตถุมงคลที่เป็นเมตตามหานิยมจะดีมากๆ
ในส่วนของจำนวนการสร้าง ทำไว้ทั้งหมด 2 ถาด หรือไม่เกิน 500 องค์(หลายโซนเนื้อรวมกัน) ถือว่าน้อยมากนะครับถ้าเทียบกับพิมพ์อื่นๆ

องค์นี้ฝังตะกรุด 2 ดอก หน้า-หลัง และพลอยเสกของหลวงพ่อตัด ด้านหลังผงเยี่ยวชะนีแน่นๆเต็มหลัง องค์นี้สวยสมบูรณ์มาก หายากมากแล้วครับ เลี่ยมกรอบพร้อมขึ้นคอบูชาครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ขอจองครับ