พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet626, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    99
     
  2. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    698. พระดีในตำนาน พระพิมพ์นาคปรก กรุวัดมอญ จ.อ่างทอง ให้บูชา 1500 บาท

    upload_2022-8-21_11-21-37.png




    พระกรุวัดมอญ อ่างทอง
    วัดมอญ หรือวัดพิจารณ์โสภณ ตั้งอยู่ ณ บ้านโผงเผง หมู่ที่ ๘ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เป็นวัดราษฎร์ ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไหร่ เมื่อในอดีตมีหลวงปู่หว่างเป็นเจ้าอาวาส หลวงปู่หว่างท่านนี้เป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่ทรัพย์ วัดใหม่ปากบาง ทั้งสองต่างก็เป็นศิษย์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) สมเด็จฯ ท่านมักจะแวะมาหาหลวงปู่หว่างเสมอๆ เมื่อเวลาที่ท่านมาดูแลงานก่อสร้างพระมหาพุทธพิมพ์ที่วัดไชโยฯ
    ต่อมาภายหลังหลวงปู่หว่างท่านได้สร้างพระพิมพ์ขึ้นแล้วบรรจุไว้ในเจดีย์ เป็นพระเนื้อผงผสมว่านแก่น้ำมัน การพิมพ์พระใช้แม่พิมพ์สองชิ้นประกบกัน จึงปรากฏรอยตะเข็บขึ้นที่ขอบด้านข้างขององค์พระโดนรอบ
    แต่เดิมไม่มีใครทราบว่า ทำไมต้องกดพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์ในลักษณะนี้ แต่ปริศนาทุกอย่างก็ปรากฏคำตอบ เมื่อพระแตกกรุออกมาจากเจดีย์ในวัดที่หลวงปู่หว่างสร้างไว้ พบพระพิมพ์บางองค์ชำรุดแตกหัก ใจกลางองค์พระระหว่างเนื้อพระด้านหน้าและด้านหลัง ปรากฏผงสีเหลืองนวลบรรจุอยู่เหมือนไส้ขนม สันนิษฐานกันว่าเป็นผงวิเศษ ที่หลวงปู่หว่างท่านได้รับมาจากเจ้าพระคุณสมเด็จฯ (โต)

    พระกรุวัดมอญ เป็นพระเนื้อผงบรรจุกรุ มีอายุเป็นร้อยปี มักจะหาพระสภาพสวยสมบูรณ์ยากสักนิด พระกรุนี้มีหลายพิมพ์ ประวัติการสร้างแน่นอน สร้างและบรรจุในกรุเจดีย์ที่วัดมอญประมาณปี ๒๔๔๒ เป็นพระที่มีประสพการณ์ด้านแคล้วคลาดและ เมตตาสูงมาก มีในรายการประกวดสากลนิยมครับ
    ปัจจุบันพระกรุวัดมอญ เป็นที่เสาะหากันเป็นอย่างมากทั้งในท้องถิ่นและพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้เนื่องมาจากประสบการณ์ที่ปรากฎให้เห็นอย่างเด่นชัด บูชาแล้วเด่นทางแคล้วคลาดคงกระพัน มีไว้ใช้อุ่นใจครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2022
  3. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    699. อำนาจจิตท่านไม่ธรรมดา พระสมเด็จ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ออกวัดบางด้วน สมุทรปราการ ปี2493 ให้บูชา 2000 บาท


    upload_2022-8-21_11-15-27.png



    พระผงชุดนี้จัดสร้างขึ้นที่วัดบางด้วน สมุทรปราการ ในปีพ.ศ.2493 มีการสร้างจำนวนพระผงพุทธคุณมากถึง 32 พิมพ์ เหรียญ 1 พิมพ์ พระกริ่ง 1 พิมพ์ แต่คาดว่าจำนวนการสร้างแต่ละพิมพ์จำนวนไม่มากนัก ส่วนใหญ่เนื้อหามวลสารจัดจ้านโดยมีส่วนผสมพระผงสมเด็จวัดระฆัง สมเด็จวัดบางขุนพรหม พระผงวัดสามปลื้ม พระผงหลวงพ่อทอง วัดราชโยธา(อาจารย์หลวงปู่เผือก) และผงพุทธคุณของหลวงปู่เผือกฯ มักมีประสบการณ์กิดขึ้นให้เห็นบ่อยครั้ง ส่วนพิมพ์สมเด็จพิมพ์นี้ค่อยข้างหายากและมีสัดส่วนไม่ใหญ่โตมากนัก จึงเป็นที่นิยม นับว่าเป็นพระผงพิมพ์สมเด็จยุคแรกๆ ของหลวงปู่เผือกก็ว่าได้ ก่อนจะสร้างพระสมเด็จอกวี ที่กำลังดังอยู่ขณะนี้
    พระอาจารย์สมุห์ทองดี เจ้าอาวาสวัดบางด้วนในขณะนั้น ขออนุญาติจัดสร้างขึ้น โดยมีหลวงปู่เผือกเป็นประธานและปลุกเสก หลวงพ่อบุตร วัดใหญ่บางปลากรด,หลวงพ่อเผย วัดบางหญ้าแพรกร่วมปลุกเสก


    ประสบการณ์มีมาตั้งแต่ในโบถส์ เสียงฟ้าสะเทือนเลื่อนลั่นและ วัตถุมงคลปลิวกันให้ว่อนตอนปลุกเสกกันในโบถส์ ไม่ธรรมดาแล้วกันเป็นที่มาของรุ่นที่เรียกว่า รุ่นฟ้าผ่าหรือรุ่นโบถส์สะเทือน
     
  4. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    700. สมเด็จมหาลาภ รุ่นยันต์หัวใจเศรษฐี หรือรุุ่นครกลอย หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม ให้บูชา 750 บาท ปิดรายการครับ

    upload_2022-8-21_13-35-25.png

    upload_2022-8-21_13-35-32.png



    พระสมเด็จรุ่นนี้จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2536 เพื่อตอบแทนแก่บรรดาพุทธบริษัทที่มีจิตศรัทธาบริจาคสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญเป็นวิหารทาน โดยหลวงพ่อวิชัยได้รวบรวมผงพุทธคุณต่างๆมาสร้างเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชา
    มวลสารต่างๆมีดังนี้
    - จีวรหลวงปู่เทพโลกอุดร
    - เกศา จีวร แป้งเสก หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข
    - เกศา น้ำมนต์ ชานหมาก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    - ยาฉุน หลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย
    - เกศา ผงพุทธคุณ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
    - ผ้าห่มพระธาตุเจดีย์ สมัย ร.5 วัดเฉลิมพระเกียรติ
    - มวลสารจากพระประธาน วัดศาลารี จ.นนทบุรี
    - ผงสุพรรณ จาก จ.สุพรรณบุรี
    - ผงพุทธคุณ สมเด็จพระสังฆราช สุก (ไก่เถื่อน) วัดพลับ
    - ผงพุทธคุณ จาก สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดเบญจมบพิตร
    - เกสรดอกไม้เสก จาก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ
    - ผงพุทธคุณ จาก วัดตรีทศเทพ
    - ผงพุทธคุณ จาก วัดเบญจมบพิตร
    - ข้าวสารหิน
    - ผงฤาษีตาไฟ ที่ หลวงพ่อวิชัย ท่านได้มาจากการธุดง
    - ผงพุทธคุณ จาก วัดอาวุธ
    - ผงพุทธคุณ จาก วัดสุทัศน์
    - ข้าวก้นบาตร พระอาจารย์ถาวร วัดปทุมวนาราม
    - ผงพุทธคุณ จาก พระราชธรรมเจติยาจารย์ วัดธรรมมงคล
    อนึ่งมวลสารต่างๆ เหล่านี้ได้รับอนุญาติจากพระคณาจารย์ทั้งหลายโดยถูกต้อง เพื่อนำมาสร้างพระผงสมเด็จวัดถ้ำผาจมและ หลวงพ่อวิชัย ท่านได้ทำการโขลกผสมผงทั้งหมดด้วยตัวท่านเ
    คำว่า 'ครกลอย' นั้นก็มาจากตอนที่ท่านกำลังตำผงมวลสารเพื่อนำมากดพิมพ์พระอยู่นั้นเอง ครก ก็ได้ลอยติด สาก ขึ้นมาเองครับ และมีคนถ่ายภาพได้ทันพอดี ท่านบอกว่าเพราะมวลสารได้ที่หรอก (หรืออภิญญาของท่านก็ไม่ทราบ) ครกเลยลอยติดสากขึ้นมา เลยเป็นชื่อที่มาของพระสมเ็ด็จรุ่นนี้นี่เอง
    หลวงพ่อวิชัย เขมิโย ท่านเป็นพระกรรมฐานที่ทรงคุณอีกรูปหนึ่งในปัจจุบัน ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำผาจม ที่ อ.แ่ม่สาย จ.เชียงราย ท่านเป็นพระอีกรูปหนึ่งที่ หลวงตามหาบัว แห่งวัดป่าบ้านตาด กล่าวรับรองว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลก ดังข้อความนี้
    อ้างอิง:
    อริยสงฆ์ที่ยังดำรงขันธ์อยู่..ที่หลวงตามหาบัว...กล่าวว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลก..
    เรียบเรียงโดย แดนโลกธาตุ
    พระอริยสงฆ์ที่องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน (พระอรหันต์แห่งประวัติชาติไทยองค์ปัจจุบัน แห่งวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ) ได้กล่าวถึงว่าท่านเหล่านี้ได้ปฏิบัติธรรมจนสามารถทำจิตให้บริสุทธิ์, และหมดแห่งกิจที่ควรทำแล้ว ก็จะมีครูบาอาจารย์ต่างๆในสายพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นมากมาย ที่ท่านหลวงตามหาบัวได้กล่าวถึงประจำ แต่ในบางครั้งท่านเหล่านั้นจะไม่พูดว่าได้ขั้นไหน ๆ แล้วเพราะท่านอาจจะมองเห็นปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น คนมารุมตอม.ไม่เว้นแต่ละวันทำให้ท่านไม่ได้พักผ่อน
    ยกตัวอย่างเหตุการณ์ ในวันนั้นที่ข้าพเจ้าถามพระเถระพระป่า (ไม่ขอเอ่ยนามท่าน) ข้าพเจ้าถามว่า.....ดังนี้
    ..หลวงปู่เป็นพระอรหันต์หรอครับ....
    ท่านก็จะตอบว่า..........ดูเอานี่ไงหันซ้ายหันขวา..
    แล้วท่านก็.....จะทำท่าหันไปข้างซ้าย...หันไปข้างขวาให้เราดู...
    คนถามก็จะอดหัวเราะไปกับท่านไม่ได้ครับ........
    แล้วท่านก็เมตตาบอกว่า....ไม่สำคัญที่จะไปถามว่าพระรูปไหนสำเร็จอะไร เราจะไปกังวลถามทำไม....เราปฏิบัติเองเรารู้เอง..ไม่ต้องถามคนอื่น...ทิ้ง ท้ายท่านเมตตาบอกว่า
    แต่บุญที่ทำกับพระอรหันต์ผู้หมดกิเลสนั้นได้กุศลมากเลยทีเดียวนะ....
    เหตุการณ์หนึ่งที่ผู้เขียนได้รับฟังมาจากหูโดยตรง....จากพระธรรมเทศฯองค์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ท่านได้รับรองว่าท่านนั้น ท่านนี้เป็นพระอริยบุคคลหมดกิเลส หลายรูปครับ
    ผู้เขียนจึงอดที่จะเอาเอาเทศนาของหลวงตามหาบัว นั้น มาให้ผู้อ่านรู้ด้วยไม่ได้ครับ ดังนี้ครับ........
    "พระหมดกิเลสในสายหลวงปู่มั่น นี้ก็ไม่ใช่น้อย แต่ท่านไม่เปล่งบอกใครเพราะเกี่ยวกับอรรถกับธรรมเห็นธรรมดีเลิศกว่า แต่ที่เราบอกเราก็ไม่ได้อวดอุตริ ใดๆ ทั้งสิ้น จริงคือจริงไม่มีปิดบัง ไม่สงสัยในธรรม ใครจะเอาตำราไหนมาอ้าง ก็ให้มันเอามาได้เลย ที่วัดป่าบ้านตาด เราไม่สะทกสะเทือน จะชี้แจงแถลงไขให้เข้าใจเอง เอ้าเชิญมา....."
    ที่ได้ฟังท่านเปรย ๆ มาก็พอจับใจความมาว่าท่านไหนได้แล้ว...เสียดายที่ไม่ได้อัดเทปไว้ครับ...
    และนี่ก็คือท่านเปรยว่าล้วนแล้วแต่เป็นพระอริยสงฆ์เนื้อนาบุญของโลกเลยทีเดียวท่านบอกว่า
    1. ท่านอาจารย์เจี๊ยะ จุนโท (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดป่าภูริทัตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
    2. หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    3. หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดป่าประชาชุมพลพัฒนาราม อ.เมือง จ.อุดรธานี
    4. หลวงปู่ขาล ฐานวโร (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดป่าบ้านเหล่า อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย
    5. พระอาจารย์แบน ธนากโร วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร
    6. หลวงปู่หลวง กตปุญโญ (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดคีรีสุบรรพต จ.ลำปาง
    7. อาจารย์เหรียญ วรลาโภ (มรณภาพแล้วยังไม่ประชุมเพลิง) วัดอรัญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    8. อาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย (มรณภาพแล้วยังไม่ประชุมเพลิง) วัดเขาสุกิม อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
    9. หลวงปู่หลอด ประโมทิโต วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
    10. หลวงปู่มหาเนียม สุวโจ วัดเจริญสมณกิจ (หลังศาลภูเก็ต ) อ.เมือง จ.ภูเก็ต
    11. หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล วัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
    12. หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
    13. พระอาจารย์สายทอง เตชธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม (ใกล้เขื่อนจุฬาภรณ์ ) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
    14. หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป วัดป่าประทีปปุญญาราม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร
    15. พระอาจารย์ประสิทธิ์ ปุญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    16. พระอาจารย์เลี่ยม ฐิตธัมโม วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    17. หลวงปู่ทา จารุธัมโม วัดถ้ำซับมืด จ.นครราชสีมา (มรณภาพแล้ว)
    18. พระอาจารย์เพียร วิริโย วัดป่าหนองกอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
    19. อาจารย์สาย เขมธัมโม วัดป่าพรหมวิหาร อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู
    20. อาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    21. หลวงปู่วิริยังค์ สิรินธโร วัดธรรมมงคล เขตพระโขนง จ.กรุงเทพมหานคร
    22. อาจารย์พวง สุขินทริโย วัดศรีธรรมมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร
    23. หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
    24. หลวงตาแตงอ่อน กัลป์ยาณธัมโม วัดป่าโชคไพศาล อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร
    25. หลวงปู่บุญหนา ธัมทินโน วัดป่าโสตถิผล อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
    26. หลวงปุ่บุญพิน กตปุญโญ วัดผาเทพนิมิตร อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร
    27. หลวงปู่ลี ฐิตธัมโม (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดเหสลึก อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    28. หลวงปู่แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
    29. หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดป่าสันติกาวาส อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี
    30. หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป วัดโพธิ์สมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี
    31. พระอาจารย์ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน อ.เมือง จ.เลย
    32. พระอาจารย์อุ่นหล้า ฐิตธัมโม วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    33. พระอาจารย์คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    34. พระอาจารย์อุทัย สิรินธโร วัดถ้ำพระ อ.เซกา จ.หนองคาย
    35. หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต สำนักสงฆ์สวนทิพย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
    36. พระอาจรย์วิไล เขมิโย วัดถ้ำพณาช้างเผือก อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
    37. หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูล จ.พิจิตร
    38. อาจารย์อ่ำ ธัมกาโม วัดธุดงคสถานสันติวรญาณ อ.วังโป่ง จ.เพรชบูรณ์
    39. หลวงปู่ถวิล จ.อุดรธานี (ไม่ทราบที่อยู่และฉายาท่าน)
    40. อาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสโก วัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี
    41. อาจารย์วันชัย วิจิตโต วัดภูสังโฆ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    42. หลวงปู่มี (เกล้า) ประมุตโต วัดดอยเทพนิมิตร (วัดถ้ำเกีย ) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    43. อาจารย์เสน ปัญญาธโร วัดป่าหนองแซง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    44. อาจารย์คำแพง อัตสันโต วัดป่าหนองวัวซอ (วัดบุญญานุสรณ์ ) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    45. พระอาจารย์ปัญญาวัฒโท (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
    46. หลวงปู่มี (เกล้า) ประมุตโต วัดดอยเทพนิมิตร (วัดถ้ำเกีย ) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    47. อาจารย์เสน ปัญญาธโร วัดป่าหนองแซง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    48. อาจารย์คำแพง อัตสันโต วัดป่าหนองวัวซอ (วัดบุญญานุสรณ์ ) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    49. พระอาจารย์ปัญญาวัฒโท (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
    50. ท่านฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมญาณ ) (ท่านมรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี (หลวงปู่สิม เคยปรารภให้อาจารย์มหาบัวฟัง)
    51. หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก จ.สุพรรณบุรี
    52. หลวงปู่วัดพระพุทธบาทตากผ้า (อันนี้หนังสือไม่ชัดครับเล่มนี้เก่ามากครับ )
    53. พระอาจารย์มหาโส กัสโป วัดป่าคำแคนเหนือ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
    54. หลวงปู่คำฟอง เขมจาโร (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดกุดเรือคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร
    55. หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป วัดป่าวิเวกธรรม (วัดป่าช้าเหล่างา) อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    56. หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดเกาะแก้วะดงคสถาน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์
    57. คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) สำนักชีบ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
    58. พระอาจารย์ทุย (ปรีดา) ฉันทกโร วัดป่าดานวิเวก อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย
    59. พระอาจารย์สรวง สิริปุญโญ วัดป่าศรีฐานใน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร
    60. พระอาจารย์สาคร ธัมวุธโธ วัดป่ามณีกาญจ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
    61. พระอาจารย์จันทร์โสม กิตติกาโม วัดป่านาสีดา อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี (มรณภาพแล้ว)
    62. พระอาจารย์แยง สุขกาโม วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย
    63. หลวงปู่แฟ็บ สุภัทโท วัดป่าดงหวาย อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร
    64. พระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร วัดถ้ำสหายธรรมจันทร์นิมิตร อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    65. หลวงปู่ผาง โกสโล วัดภูหินแตก อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
    66. หลวงปู่หล้า เขมปัตโต (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดบนนพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร
    67. ท่านพระอาจารย์สิงทอง ธัมวโร(มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ)วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    68. หลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร วัดถ้ำประทุน ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
    69. หลวงปู่ต้น สุทธิกาโม วัดบึงพลาราม ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
    70. หลวงปู่สมศักดิ์ ปัณฑิโต วัดบูรพาราม ( วัดหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์
    71. หลวงปู่ทอง จันทสิริ วัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
    72. หลวงปู่ทองใบ ปภสฺสโร สำนักวิปัสสนาธุระ (ภูย่าอู่) บ.นาหลวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
    73. หลวงปู่คูณ สุเมโธ วัดป่าภูทอง ต.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
    74. พระอาจารย์ฟัก สันติธัมโมวัดพิชัยพัฒนาราม ( วัดป่าเขาน้อยสามผาน ) ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
    75. หลวงปู่สุทัศน์ โกสโล วัดกระโจมทอง ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
    76. หลวงปู่อ้ม สุขกาโม วัดภูผาผึ้ง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร
    77. ท่านพระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม วัดป่าหนองไผ่ ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร
    78. ท่านพระอาจารย์หลอ นาถกโรวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม(วัดถ้ำพวง วัดพระอาจารย์วัน อุตโม) อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
    79. หลวงพ่อทองคำ กาญวันวัณโณ วัดถ้ำบูชา อ.เซกา จ.หนองคาย
    80. หลวงปู่ถิร ฐิตธัมโม (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดทิพยรัฐนิมิตร (วัดป่าบ้านจิก) อ.เมือง จ.อุดรธานี
    81. พระอาจารย์ทองอินทร์ กตปุญฺโญ วัดป่ากุง (วัดป่าประชาคมวนาราม ) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
    82. หลวงปู่เผย วิริโย วัดถ้ำผาปู่ ต.นาอ้อ จ.เลย
    83. หลวงปู่คำพอง ขันติโก วัดป่าอัมพวัน จ.เลย
    84. หลวงปู่อว้าน เขมโก วัดป่านาคนิมิตร อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร
    85. ท่านพระอาจารย์วิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย
    86. พระอาจารย์บุญทัน ปุญทัตโต (ท่านเพิ่งจะมรณภาพ เดือน ธค.49 ) วัดป่าสามัคคีสันติธรรม อ.ฝาง จ.ขอนแก่น
    87. หลวงปู่พิศดู ธรรมจารีย์ วัดเทพธารทอง ต.พลวง กิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
    88. หลวงปู่เนย สมจิตฺโต วัดป่าโนนแสนคำ บ.ทุ่งคำ ต.เจริญศิลป์ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร
    89. หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ วัดป่าพระอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    90. ท่านพระอาจารย์อุทัย ธมฺมวโร วัดภูย่าอู่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
    91. หลวงปู่ประสาร สุมโน วัดป่าหนองไคร้ ต.หนองหิน อ.เมือง จ.ยโสธร


    โดยการปลุกเสกพระสมเด็จรุ่นนี้ มี หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เมตตาปลุกเสกให้เป็นปฐมฤกษ์ เมื่อ วันที่ 1 มีนาคม 2537 ซึ่ง สมเด็จเกี่ยว องค์นี้ ลพ.พระราชพรหมญาณ ท่านบอกว่าสมเด็จท่านเป็นพระทองคำอีกรูปหนึ่ง จากนั้นจึงนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก โดย หลวงพ่อวิชัย เขมิโย และเกจิคณาจารย์หลายท่าน ณ อุโบสถ วัดถ้ำผาจม เมื่อ วันที่ 6 มีนาคม 2536
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2022
  5. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    701.เหรียญหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี ปี2515 พิมพ์นิยม พ่อมุ่ย/พ่อกวย/พ่อถิรร่วมเสก ให้บูชา 999 บาท


    upload_2022-8-21_14-12-24.png


    เหรียญหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี ปี2515 พิธีใหญ่คณาจารย์ดัง108 รูป ร่วมปลุกเสกอาทิ
    หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท
    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    ฯลฯ
    หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณมาแต่โบราณกาล ตามพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้ากาแลโปรดให้บูรณะวัดป่าเลไลยก์ เมื่อ พ.ศ.1724 แสดงว่าแสดงว่าวัดนี้ได้สร้างมาแล้วก่อนหน้านั้น องค์พระ"หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์"ประดิษฐานอยู่ในวิหารที่สูงใหญ่ มองเห็นเด่นแต่ไกล เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองปาง ป่าเลไลยก์ขนาดใหญ่สูง 23 เมตรเศษ สร้างตามแบบศิลปอู่ทองรุ่นที่สอง ซึ่งเป็นศิลปะฝีมือสกุลช่างอู่ทองแท้ ๆ เดิมทีองค์พระประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง พระหัตถ์ขวาหัก ช่างได้สร้างวิหารครอบ โดยให้ผนังวิหารชิดกับพระ หัตถ์ขวา ส่วนทางพระหัตถ์ซ้ายให้มีที่ว่าง ด้านหลังองค์พระสร้างชิดกับผนังวิหารทำให้แข็งแรง นับเป็นความ ชาญฉลาดของช่างเป็นอย่างยิ่ง มีผู้สันนิษฐานว่า หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ เดิมเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ประทับนั่งอยู่กลางแจ้ง พระกรทั้งสองข้างหักหายไป ผู้ที่มาบูรณใหม่ได้ทำเป็นปางป่าเลไลยก์ตามที่นิยมกันในสมัยหลัง ลักษณะประทับนั่งห้อยพระบาท พระหัตถ์ซ้ายวางคว่ำบนพระชานุข้างซ้าย พระหัตถ์ขวาวางหงายบนพระชานุข้างขวาในท่าทรงรับของถวาย พระวิหารที่สร้างครอบองค์พระ สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ จะเห็นว่าที่หน้าบันของพระวิหาร มีพระราชลัญจกรประจำพระองค์ คือเป็นรูปพระมหามงกุฎอยู่ระหว่างฉัตรคู่ปรากฎอยู่ ช่างปั้นและออกแบบพิมพ์ คือ ช่างเกษม มงคลเจริญ ปรมาจารย์ช่างปั้นพุทธศิลป์ชื่อดัง
     
  6. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    702. พระผงสุพรรณ ดินอินเดีย วัดพระธาตุสุพรรณ ปี2518 ให้บูชา 1350 บาท


    upload_2022-8-21_14-16-44.png


    พระผงสุพรรณ วัดพระธาตุสุพรรณ จ.สุพรรณบุรี จัดสร้างปี พ.ศ.2518 โดยทางวัดได้รวบรวมมวลสาร ผงพุทธคุณ ผงพระกรุเก่าของจ.สุพรรณบุรีที่แตกหักชำรุด และได้นำดินสังเวชนียสถานที่สำคัญต่างๆที่อินเดียเป็นมวลสารหลักของพระชุด นี้ด้วย ทำพิธีมหาพุทธาภิเศกที่อินเดียในวันมาฆบูชา วันที่ 15 ก.พ. ปี 2519 ณ.กรุงราชคฤห์ ประเทศอินเดีย และได้นำมาเข้าพิธีมหาพุทธาภิเศกที่วัดพระธาตุสุพรรณอีกครั้งหนึ่งโดยนิมนต์ พระเกจิอาจารย์ที่เรืองพระเวทวิทยาคมในสมัยนั้นมาร่วมอธิฐานจิตปลุกเสก เช่น

    1 หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    2 หลวงพ่อถิร วัดป่าเลย์ไลย
    3 หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    4 หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม
    5 หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม ฯลฯ
     
  7. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    703. พระร่วงหลังรางปืน วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ปี15 เนื้อทองเหลือง พิมพ์เจดีย์นูน สมเด็จ ย่า และสมเด็จพระนางเจ้าฯเสด็จเป็นประธาน ใหู้ชา 1550 บาท


    upload_2022-8-21_15-40-46.png

    พระร่วง รางปืน เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง ในอิริยาบถยืนบนแท่น ภายในซุ้มเรือนแก้ว พระหัตถ์ขวายกขึ้นระดับพระอุระ พระกรซ้ายทอดลงขนาดกับลำพระองค์ แบหงายฝ่าพระหัตถ์ออกด้านหน้าเป็นกิริยาประทานพร ครองเครื่องจีวรห่มคลุมบางแนบพระวรกาย ปรากฏเส้นขอบจีวร บริเวณรอบพระศอและมีชายจีวรเป็นเส้นพลิ้วบางขนานกับพระองค์ตกลงมาเบื้องล่าง รายละเอียดของพระพักตร์ชัดเจน สีพระพักตร์ค่อนข้างเคร่งขรึม สวมศิราภรณ์ ได้แก่ กระบังหน้าและมงกุฎรูปกรวยหรือที่เรียกกันว่า หมวกชีโบ นุ่งสบง คาดด้วยรัดประคดที่มีการตกแต่งลวดลายที่ปรากฏในศิลปะเขมร แบบบายน
    ที่มี ชื่อเรียกว่า " พระร่วงรางปืน" หรือ " พระ ร่วงหลังรางปืน" เนื่องจากด้านหลังขององค์พระมีลักษณะเป็นร่องลึกยาวนับเป็นพระพิมพ์ที่นิยม เล่นหากันมาเป็นเวลานานทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นจักรพรรดิ แห่งพระเนื้อชิน
    พระร่วง รางปืนจัดเป็นพระ พิมพ์สกุลช่างสกุลสุโขทัย ที่ได้รับอิทธพลจากศิลปะเขมรสมัยบายน หรือศิลปะแบบลพบุรีอายุราวพุทธศตวรรษ ที่ ๑๘ เป็นพระพิมพ์เนื้อชินตะกั่วสนิมแดง เดิมจึงเรียกว่าพระสนิมแดง

    สันนิษฐาน กันว่าคำเรียดขานพระพิมพ์ที่มีพุทธลักษณะเช่นนี้ว่า พระร่วง มีที่มาจากพระร่วงโรจนฤทธิ์ศรอินทราทิตย์ธรรมโมภาสมหาวชิราวุธปูชนียบพิตร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯให้ปฏิสังขรณ์ขึ้นจากพระพุทธ รูปที่ชำรุดเหลือเพียงพระเศียร พระหัตถ์ และพระบาทที่ทรงได้มาจากเมืองศรีสัชนาลัย และนำมาประดิษฐานไว้ที่วิหารด้านทิศเหนือขององค์พระปฐมเจดีย์ เนื่องจากนักสะสมเห็นว่ามีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกับพระสนิมแดง

    พิธีมหา พุทธาภิเษกพระพุทธสิหิงค์จำลอง 9 เมษายน 2515 ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ โดยพระเกจิคณาจารย์ 108 รูป ร่วมปลุกเสกในพิธี อาทิ
    1. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    2. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม
    3. หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
    4. หลวงพ่อเกษม เขมโก
    5. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    6. ครูบาคำแสน อินทจักรโก วัดสวนดอก
    7. ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล
    8. ครูบาชุ่ม โพธิโก
    9. อาจารย์นำ แก้วจันทร์
    และ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ( ฝ่ายฆราวาส) ฯลฯ
     
  8. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    704. สุดยอดพระดีแดนใต้ครับ หลวงปู่ทวดวัดปานศึกษาธิการาม อ.ควนเนียง จ.สงขลา ปี2506 พิมพ์หลังยันต์ห้า ให้บูชา 1950 บาท


    upload_2022-8-21_15-47-36.png

    upload_2022-8-21_15-47-42.png

    พระพิธีดี ปลุกเสกโดย
    -อาจารย์ทิม วัดช้างให้
    -หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน
    -อาจารย์วรรณ วัดปากพยูน
    -หลวงพ่อสงค์ วัดคงคาวดี
    -อาจารย์ศรีแก้ว วัดไทรใหญ่
    -อาจารย์ ชุม วัดควนปียาราม
    -อาจารย์ ปานวิศาโร วัดปาน
    จัดเป็นหลวงพ่อทวดต่างวัดอีกรุ่นที่ทันพระอาจารย์ทิมแห่งวัดช้างให้ปลุกเสก
     
  9. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    705. Full Option พระสมเด็จ 100 ปี พิมพ์เกศทะลุซุ้ม ฝังตะกรุด ฝังพลอยและแช่น้ำมนต์ หลังลายเซ็นต์ จัดสร้างเป็นที่ระลึกในวโรกาสที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกวัดบรนิเวศทรงพระเจริญพระชันษา 100 ปี ให้บูชา 850 บาท


    upload_2022-8-21_20-49-12.png

    upload_2022-8-21_20-49-19.png


    พระสมเด็จ 100 ปี จำนวนจัดสร้าง 7 พิมพ์ รวมทั้งหมด 20,000 องค์ ได้แก่

    พิมพ์ที่ 1. พิมพ์ใหญ่ ฝังพลอย ฝังตะกรุด หลังยันต์หมึก แช่น้ำมนต์

    พิมพ์ที่ 2. พิมพ์เกศทะลุซุ้ม ฝังพลอย ฝังตะกรุด หลังยันต์หมึก แช่น้ำมนต์

    พิมพ์ที่ 3. พิมพ์ใหญ่ ฝังตะกรุด โรยผงตะไบ หลังลายเซ็นต์ แช่น้ำมนต์

    พิมพ์ที่ 4. พิมพ์ใหญ่ ฝังพลอย ฝังตะกรุด หลังลายเซ็นต์ แช่น้ำมนต์

    พิมพ์ที่ 5. พิมพ์เกศทะลุซุ้ม ฝังพลอย ฝังตะกรุด หลังลายเซ็นต์ แช่น้ำมนต์

    พิมพ์ที่ 6. พิมพ์เกศทะลุซุ้ม ฝังตะกรุด โรยผงตะไบ หลังลายเซ็นต์ ไม่แช่น้ำมนต์ (กล่องพลาสติก)

    พิมพ์ที่ 7. พิมพ์เกศทะลุซุ้ม ฝังตะกรุด โรยผงตะไบและมวลสารเก่า หลังลายเซ็นต์ ไม่แช่น้ำมนต์ (กล่องพลาสติก)

    พิมพ์พิเศษ พิมพ์ที่ 8. พิมพ์ใหญ่ (กรรมการพิเศษ) โรยผงตะไบ แก่มวลสาร แช่น้ำมนต์ จำนวนจัดสร้าง 999 องค์

     
  10. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
  11. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    706. สุดยอดพระดี แดนใต้ครับ พระปิดตา ท่านพ่อกล่อม หรือ หลวงพ่อกล่อม วัดหูแร่ จ.สงขลา ปี14 #3 ให้บูชา 2,000 บาท จองแล้วครับ


    received_430686385793404.jpeg
    received_1019850575395688.jpeg

    โดยพระอาจารย์กล่อม ชื่อเต็ม " พระภควันเพชรหลีก" มวลสารนอกจากผงวิเศษแล้ว ยังมีเกสรดอกไม้,ว่านอีกหลายชนิด ที่สำคัญคือผสมผงเถ้าถ่านของการเผาแบงค์หลายชนิดของธนาคารชาติ สาขาภาคใต้หาดใหญ่ จนได้รับฉายา" พระปิดตาเงินล้านแห่งแดนทักษิณ พระปิดตาวัดหูแร่ หลวงพ่อกล่อม โกวิโท หาดใหญ่ สงขลา ๒๕๑๔ เนื้อผงผสมเถ้าธนบัตรเป็นพระเครื่องที่ "..คนใต้นิยมขูดผงใส่ของให้สาวกินคับ..."

    พระปิดตา"พระภควันเพชรหลีก"ที่พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้เมื่อปี๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่มวลสารมาจากคัมภีร์ขอมโบราณ มวลสารที่นำมาสร้างนอกจากผงวิเศษดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีเกสรดอกไม้และว่านอีกหลายชนิดเช่น ว่านเสน่ห์จันทร์ ว่านสาวหลง ว่านดอกทอง ว่านลูกไก่ทอง ว่านช้างประสมโขลง ว่านนางกวัก ว่านหลงรัง ว่านขุนแผน ว่านมหาลาภ ฯลฯ นอกจากนี้หลวงพ่อกล่อมยังให้ลูกศิษย์ไปขอผงเถ้าถ่านจากการเผาแบงก์ของธนาคาร มาผสมอีกด้วย เพื่อเป็นการถือเคล็ดทางโชคลาภและโภคทรัพย์ มีสร้าง ๓ พิมพ์คือพิมพ์ใหญ่,พิมพ์กลางกับพิมพ์เล็ก เนื้อผงใบลานผสมผงธนบัตรซึ่งได้ได้มาจากธนาคารแห่งประเทศไทยสาขาหาดใหญ่ ท่านก็ปลุกเสกแบบบินเดี่ยวโดยท่านลำพังผู้เดียว จากนั้นก็แจกให้ชาวบ้านไปใช้กันคนละองค์ แรกๆ ยังไม่ค่อยมีใครสนใจกันเท่าไหร่ แต่พอพระมีประสบการณ์มากขึ้น จึงมีคนมาขอพระปิดตากันจนหมดจากวัดไม่เหลือแม้แต่องค์เดียว พระปิดตารุ่นนี้นอกจากจะดีทางโชคลาภและโภคทรัพย์แล้ว ทางเมตตามหานิยม ก็เยี่ยมสุดเหมือนกัน ตอนแรกเลยนั้นมีหนุ่มคนหนึ่งเอาพระปิดตาไปขูดผงใส่อาหารให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงเกิดหลงจนได้อยู่เป็นสามี-ภรรยากัน พอหนุ่มคนอื่นๆรู้ข่าวก็ทำตามบ้าง และสำเร็จผลกันหลายคน แต่มีบางคนเมื่อได้ผู้หญิงเป็นภรรยาแล้ว กลับทิ้งๆ ขว้างๆ เสียกลางคัน พ่อแม่ฝ่ายหญิงจึงเอาเรื่องนี้ไปฟ้องเล่าให้หลวงพ่อกล่อมฟังพอทราบท่านจึง สั่งไม่ให้ใครทำอีก ถ้าทำแล้วต้องรับเลี้ยงตลอดจนตายไปกันข้างใดข้างหนึ่ง ห้ามทิ้งกลางคันเด็ดขาด ถ้าผิดจากที่สั่งท่านแช่งเอาไว้ ว่าทำอะไรก็ไม่เจริญขึ้นหลังจากนั้นจึงไม่ค่อยมีใครแอบขูดผงพระปิดตาใส่ อาหารให้ผู้หญิงกินอีก เพราะกลัวว่าหากเกิดเบื่อแล้วทิ้งๆ ขว้างๆ จะทำกินไม่ขึ้นเหมือนท่านแช่งไว้ พระปิดตาสำนักนี้เลยมีสร้อยห้อยท้ายเรียกกันว่า… ขูดผงต้องรับเลี้ยง

    พระปิดตา วัดหูแร่นี้สร้างรุ่นเดียวในปี ๒๕๑๔ สร้างและแจกไปประมาณ ๑,๐๐๐ องค์ แบ่งบรรจุไหฝังกรุไว้ประมาณ ๘,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ องค์ แตกกรุในปี ๒๕๕๑ มีพระแตกหักเสียหายอยู่ในไหไม่ใช่น้อย พระที่เราพบจึงมีทั้งแบบลงกรุ และไม่ลงกรุรวมกันแล้วจะมีพระทั้งหมดน่าจะไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ องค์ พระไม่ลงกรุจะสวยงามกว่าผิวใสสะอาด แห้งมีคราบน้ำว่านพอประมาณ ส่วนที่ลงกรุจะมีคราบกรุติดมาด้วย มากบ้างน้อยบ้าง พระรุ่นนี้มี ๓ พิมพ์ ๒ เนื้อ คือ เป็นเนื้อเทา กับเนื้อสีเทาเข้มจนเกือบดำ บางคนบอกผสมผงใบลาน แต่ท่านอาจจะใส่เถ้าธนบัตรจากธนาคารแห่งประเทศไทยมากเป็นพิเศษ ผิวจึงออกดำมากกว่า มีน้อยหายากประมาณว่าเนื้อเทา ๑๐๐ องค์จะมีเนื้อแก่ธนบัตรนี้เพียงองค์เดียว ส่วนที่ว่ามี ๓ พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็กนั้น ประกอบด้วยพิมพ์ใหญ่ บ้างก็เรียกพิมพ์กรรมการมีมือสามคู่ หรือหกมือ หาชมยาก ส่วนพิมพ์กลางเป็นพิมพ์ที่พบเห็นกันมากที่สุด และพิมพ์เล็ก ๆ ประมาณเหรียญห้าสิบตังเท่านั้น พระปิดตารุ่นนี้มีชื่อว่า "พระภควันเพชรหลีก" แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก แต่พระรุ่นนี้ได้หายไปจากวัดและวงการพระเมื่อประมาณ ๓๐ ปีที่ผ่านมาโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลยเป็นพระในดวงใจคนใต้เลยครับ เพราะส่วนใหญ่สายใต้จะเน้นด้านบู้คือพวกคงกระพัน มหาอุด แต่พระหลวงพ่อกล่อมโดดเด่นมากด้านเมตตามหานิยม โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง แบบไม่แพ้ขุนแผนเลยครับ ผมเคยถามคนใต้หลายคนแล้วว่าหลวงพ่ออะไรเก่งเรื่องเมตตาที่สุด ทุกคนจะตอบไปทางเดียวกันว่ามี ๒ รูป คือ หลวงพ่อจันทร์ วัดโฉลกหลำ กับหลวงพ่อกล่อมวัดหูแร่ นี่แหละครับ

    พระครูมนูญ ธรรมานุวัตร เจ้าอาวาสวัดหูแร่ (๑๔ ม.ค.๕๒) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวัดหูแร่เป็นวัดภายในชุมชนสร้างมานานกว่า ๑๐๐ ปีแล้ว สิ่งก่อสร้างภายในวัดโดยเฉพาะพระอุโบสถของวัดหูแร่ที่สร้างด้วยไม้ใช้มือฝื มือช่างไม้โบราณแบบการตอกลิ่ม ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ดังนั้น ทางวัดและคณะกรรมการของวัดหูแร่ เห็นพ้องกันว่าจะจัดงานทอดกฐินและทอดผ้าป่า เพื่อหาทุนทรัพย์ในการบูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถ แต่ช่างได้มาประเมินราคาซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม ต้องใช้ทุนทรัพย์กว่า ๕ ล้านบาท และปรากฏว่าหลังจากงานทอดกฐิน และทอดผ้าป่าปีนั้นแล้วได้ทุนทรัพย์มาเพียงแค่ ๑ ล้านบาทเศษๆ เท่านั้น ไม่เพียงพอต่อการบูรณะพระอุโบสถดังกล่าว แต่ด้วยบารมีของบูรพคณาจารย์ ทำให้ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง พระครูมนูญได้นิมิตรว่า อดีตเจ้าอาวาสท่านนึง บอกให้ไปขุดค้นบริเวณหน้าสถูปของอดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๒ แล้วจะพบพระของเก่าให้นำมาหาทุนบูรณะโบสถ์ ท่านเจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัด จึงได้หาฤกษ์มงคลทำการขุดค้นตามนิมิตร ปรากฏว่าพบไหผักกาดดองใบใหญ่ ๒ ไห ฝั่งอยู่ใต้ดินบริเวณหน้าสถูปนั้นจริงๆ เมื่อเปิดออกดูพบพระปิดตาเพชรหลีกที่พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้ต้งแต่ปี ๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่พระอาจารย์กล่อมกดพิมพ์เองและทำการปลุกเสกแต่เพียงลำพัง ท่านตั้งชื่อไว้ว่า "พระภควันเพชรหลีก" แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก แต่ท่านแจกไปไม่มากทำให้พระรุ่นนี้ได้หายไปจากวัดและวงการพระกว่า ๓๐ ปีที่ผ่านมาโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย จนกระทั่งทางวัดไปขุดค้นพบฝั่งอยู่อีกสองไห มีพระปิดตาภควัมเพชรหลีกอยู่ ๓ พิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก คะเนดูว่าน่าจะมีพระอยู่ประมาณเกือบหมื่นองค์ แต่บางส่วนชำรุดไปตามกาลเวลา หากองค์ไหนยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ก็ได้นำออกมาให้ประชาชนที่สนใจเช่าบูชา โดยทางวัดเปิดให้เช่าเองตั้งแต่วันที่๑๓-๑๔ มกราคม ๒๕๕๑ ปัจจุบันพระปิดตาหูแร่ได้หมดไปจากวัดแล้ว พระปิดตา"เพชรหลีก"หลวงพ่อกล่อม โกวิโท วัดหูแร่....เป็นอีกหนึ่งสุดยอดพระปิดตามหาลาภจากดินแดนทักษิณ........... โดดเด่นอย่างเอกอุทางโชคลาภค้าขาย.............สร้างน้อย หายาก ของแท้นั้นแข้งและเข่าพระต้องหนาสูงชัน ขอบพระจะบางคม หลังกระดานไม่มีรอยปาด แต่เหมือนกดลงกับแผ่นกระดานเรียบๆ ใต้ฐานมีรูไม้แบน เสียบแคะพระออกจากแม่พิมพ์ เนื้อค่อนข้างแห้ง กรอบ ขึ้นไขว่าน สร้างจากธนบัตรที่แบงค์ชาตินำมาเป็นส่วนผสมเพื่อเอาเคล็ด ทำให้เด่นทางด้านการเงินโดยเฉพาะ ลองซะให้ได้ แล้วจะติดใจ..... คิก ๆ พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้เมื่อปี ๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่มวลสารมาจากคัมภีร์ขอมโบราณ ธนบัตรชำรุด และคาถาพุทธคุณหลายชนิดที่พระอาจารย์กล่อม เขียนขึ้นเองและผงพุทธคุณจากพระอาจารย์บุญ ชินวาโร อดีตเจ้าอาวาสที่เก็บรักษาไว้ เป็นมวลสารในการจัดสร้าง พระอาจารย์กล่อมทำการปลุกเสกและกดพิมพ์เอง โดยพระปิดตารุ่นนี้มีชื่อว่า พระภควันเพชรหลีก แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก เป็นพระในดวงใจคนใต้เลยครับ เมตตาอันดับสอง รองจาก หลวงพ่อจันทร์ เกาะโฉลกหลำ เป็นพระปิดตาที่เป็นที่สุดทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตา โชคลาภและค้าขาย เพราะพระของท่านมีส่วนผสมของว่าน ๑๐๙ ครบถ้วน เถ้าจากการเผาทำลายธนบัตรเก่าๆ ที่ชำรุด ได้รับบริจาคจากกรมธนารักษ์ สาขาหาดใหญ่นำมาผสมผสาน และผงพุทธคุณล้วนๆ จัดว่าเป็นพระปิดตาที่ขึ้นชื่อเปรียบประดุจดั่งพระของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ก็ไม่ปาน (ตำราระบุไว้อย่างนั้น) ถ้านำผงที่ขูดจากพระปิดตาวัดหูแร่ ไปผสมหรือใส่น้ำให้ผู้หญิงรับประทานก็ไม่ต่างกับเสน่ห์ยาแฝด(ในหนังสือพระ เครื่องเมืองใต้ฉบับโบราณระบุไว้ไว้อย่างนี้ ไม่มีเสริมไม่มีแต่ง หรือจะบดทำเป็นยารักษาโรคได้สารพัดชนิดโดยเฉพาะแมลง หรือ อสรพิษกัดต่อย ใช้ดีมากๆ พระของท่านจึงเหลือน้อย) ส่วนใหญ่ผู้ที่ทราบกิติคุณจะนำไปขูดใช้กัน ลองดูไม่ลองแล้วจะรู้จะทราบว่าจริงเท็จประการใด แต่ถ้าทำแล้วช่วยรายงานถึงผล..ด้วยนะครับ จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูงจ้า พุทธคุณตามชื่อครับ '''สาวหลง''' เป็นที่ประจักชัดเจน เคยมีคนลองของขูดเอาผง ไปป้ายสาวก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ "ถึงกับต้องมีวลีต่อท้ายกันเลย หลังจากที่หลวงพ่อกล่อมท่านได้กำชับไว้ คือขูดผงแล้วต้องรับเลี้ยง" พระปิดตารุ่นนี้คนหาดใหญ่หวงมาก เพื่อนๆมีหลายคนแต่ผมบุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมปล่อยกัน จึงได้มาแบ่งให้ท่านพี่น้องแค่องค์เดียวครับ พระปิดตารุ่นนี้มวลสารที่ใช้สร้างน่าสนใจมาก เช่นธนบัตรเก่า ว่านที่คุณวิเศษอีกหลายชนิดฯลฯ มีประสบการณ์มากมาย ยังเป็นของดีภาคใต้ หากจะเปรียบให้ท่านเข้าใจง่ายๆก็คือ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ของชาวชลบุรี หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ของชาวเมืองกาญจน์ หลวงพ่อกล่อม วัดหูแร่ ของชาวหาดใหญ่ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2022
  12. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
  13. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468

    upload_2022-8-23_11-18-5.png
     
  14. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    707.สมเด็จ หลวงพ่อทองใบ วัดอบทม จ.อ่างทอง ฉลองอายุ 85 ปี ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ พ.ศ.2537 ให้บูชา 750 บาท

    upload_2022-8-23_13-46-49.png

    พระสมเด็จผงมวลสารล้วนๆ รุ่นปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ ปี 37 หลวงพ่อทองใบ วัดอบทม อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ( พุทธคุณสูงมาก ๆ )

    พระ สมเด็จ รุ่นนี้หลวงพ่อปลุกเสกตลอดไตรมาสปี 2536 - 2537 ครับ... เป็นพระที่ท่านตั้งใจสร้างมากๆ เพราะเป็นรุ่นสุดท้ายก่อนท่านมรณะภาพ..
    โดยท่านได้ให้ศิษย์ช่วยกันตำผงพุทธคุณ และกดพิมพ์ภายในวัด ศิษย์เก่าแก่ เล่าให้ผมฟังว่า หลวงพ่อให้ผงพุทธคุณเป็นจำนวนมาก เพื่อการนี้โดยเฉพาะ สันนิษฐานว่า เป็นผง พุทธคุณ เกษา และผงเก่าๆ ของท่านที่ท่านเก็บไ้ว้มานาน เสกมานานกว่า 10 ปี เพื่อการสร้างครั้งนี้โดยเท่านั้น โดยศิษย์ผู้นี้ยังเล่าอีกว่า ท่านให้เข้าเวรกันเพื่อตำผง โขลกผง ผสมเนื้อพระ กดพิมพ์พระ เป็นระยะเลานานกว่า 1 เดือน จึงแล้วเสร็จ..พระทั้งหมดจึงเสร็จภายในวัด ไม่ได้จ้างโรงงานนะครับ...
    นับได้ว่าเป็นสุดยอดพระผงของ หลวงพ่อทองใบ ที่มีพุทธคุณสูงอย่างยิ่ง.สามารถอธิษฐานได้ 108 ประการ..โดดเด่น ด้านมหาลาภ เมตตามหานิยมสูงมาก ทั้งยังปรากฏพุทธคุณอย่างเอกอุ ด้านแคล้วคลาด มหาอุดอย่างยิ่ง..
    ท่านเป็นพระอริยะเจ้าชั้นสูงมากๆ ความเก่งของท่าน บรรยายในหน้ากระดาษไม่หมดครับ ท่านเป็นของจริงที่เสกพระบินได้ ( แปลกแต่จริง ไม่เห็นมีใครพูดถึง...)
    หลวงพ่อทรงอภิญญาสูงมากๆ จิตท่านเปรียบได้กับเพชรน้ำหนึ่ง เลยทีเดียว ธรรมที่ท่านถึงนั้น ก็ไม่ธรรมดา เพราะท่านจบกิจในพระพุทธศาสนาเรียบร้อยแล้ว ( เป็นพระอรหันต์).. ( ถึงพร้อมด้วย ปฏิสัมภิทาญานขั้นพิเศษ )
    สังขารท่าน ไม่เน่าไม่เปื่อย แข็งประดุจหิน ผิวกายท่านเป็นประกายสีทอง คงสภาพศพได้ 100 % เลยทีเดียว..

    เวลาฉันข้าวก็เอากับข้าวทุกอย่างใส่ในกาละมังแล้วฉันกะแมว กะสุนัข

    4 ทุ่มของทุกคืน ท่านจะลงไปเดินจงกรมยู่เสมอๆ ไม่เคยปล่อยเวลาให้ว่างเปล่า..

    เวลากลางคืนชอบเสกพระ โดยจะเอาพระใส่ถาดแล้วอธิษฐานจิต พระในถาดนี่โดดกันเกรียกราว..

    ศิษย์มาขอน้ำมนต์ ท่านนั่งเล่นหมากรุก ทำเป็นไม่สนใจ พอศิษย์จะกลับท่านบอกเสกน้ำมนต์ให้แล้ว ศิษย์โมโหเลยเทน้ำมนต์ทิ้ง แต่เดชะบุญ เทเท่าไหร่ก็เทไม่ออก ( เรื่องนี้มีพยานหลายคน พระที่วัดก็เห็น ไปถามได้เลยครับ )
     
  15. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    708. เหรียญพระยอดขุนพล วัดหลวงปรีชากูล จ.ปราจีนบุรี (พระกริ่ง หลักหมื่นไปนานแล้วครับ) ใหบูชา 750 บาท ปิดครับ

    upload_2022-8-23_13-51-46.png

    upload_2022-8-23_13-56-57.png

    upload_2022-8-23_13-57-5.png

    วัตถุมงคล ชุดสันติสุข วัดหลวงปรีชากูล จ.ปราจีนบุรี
    พิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่โดย 109 คณาจารย์ดัง เมื่อปี พ.ศ.2515
    พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสก ณ วัดหลวงปรีชากูล จ.ปราจีนบุรีเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2515
    จัดสร้างโดยศูนย์การศึกษาคณะสงฆ์ภาคตะวันออก หาทุนเพื่อการศึกษาแก่พระสงฆ์ทั่วไป และสร้างอาคารเรียนศูนย์การศึกษาคณะสงฆ์ปราจีนบุรี
    รายการพระที่สร้าง ก็มี พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ สันติสุข, เหรียญพระแก้วมรกต, เหรียญมหาพุทธาภิเษก, เหรียญยอดขุนพล, พระพุทธรูปปางประทานเอหิภิกขุ, พระสมเด็จสันติสุข และอื่นๆ
    ออกแบบ-แกะบล็อคโดยนายช่างเบอร์ 1 ของประเทศในยุคนั้น นั่นคือนายช่างเกษม มงคลเจริญ

    รายนามพระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก ในพิธีมหาพุทธาภิเษก 4 มีนาคม พ.ศ.2515 จำนวน 109 รูป ขอยกตัวอย่างอาทิเช่น...

    - ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
    - ลพ.มิ่ง วัดกก กทม.
    - ลพ.เงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
    - ลพ.เอีย วัดบ้านด่าน จ.ปราจีนบุรี
    - ลป.สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์
    - ลป.ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
    - ลพ.สังข์ วัดนากันตม จ.ศรีษะเกษ
    - ลพ.ชา วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
    - ลพ.เทียม วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา
    - ลพ.นอ วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา
    - ลพ.พริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จ.ลพบุรี
    - ลพ.แพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
    - ลพ.โอด วัดจันเสน จ.นครสวรรค์
    - ลพ.จ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์
    - ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก
    - ลพ.โด่ วัดนามะตูม จ.ชลบุรี
    - ลพ.เปี่ยม วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี
    - ลพ.หอม วัดซากหมาก จ.ระยอง
    - ลพ.ถิร วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี
    - ลพ.ขอม วัดโพธาราม จ.สุพรรบุรี
    - ลพ.เที่ยง วัดม่วงชุม จ.กาญจนบุรี
    - ลพ.อุตตะมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
    - ลพ.เนื่อง วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
    - ลพ.สาย วัดหนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร
    - ลพ.ฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร กทม.
    - ลป.เส่ง วัดกัลยาณมิตร กทม.
    - ลพ.ผิว วัดสง่างาม จ.ปราจีนบุรี
    - ลพ.ลมูล วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี
    - ลพ.บี้ วัดลานหอย จ.สุโขทัย
    - ลพ.เจริญ วัดทองนพคุณ จ.เพชรบุรี
    - ลพ.เกตุ วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2022
  16. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    709. พระผงรูปเหมือน พระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีโร) รุ่นแรก วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร ให้บูชา 850 บาท


    upload_2022-8-23_14-0-25.png

    จัดสร้างในวาระฉลองเลื่อนสมณศักดิ์
    เป็นพระราชาคณะชั้นรองสมเด็จหิรัญบัฎที่
    พระวิสุทธาธิบดี ศรีปริยัตยาภรณ์ สุนทรศีลาจาร ธรรมโวทานธารี ตรีปิฎกวิภูสิต มหาคณิสร บวรสังฆาราม คามวาสี เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖
    โดยมี พระสุวรรณธีราจารย์ (สุวรรณ มหาวีโร)
    อดีตรองเจ้าอาวาส วัดไตรมิตรวิทยาราม
    เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างถวายในวาระสำคัญนี้
    และมี พระมหาธงชัย ธมฺมธโช (ปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์ พระพรหมมังคลาจารย์) นำวัตถุมงคล ชุดนี้ ไปให้หลวงพ่อเกษม เขมโก ร่วมอธิฐานจิตให้
    แจกเมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๑๗
    ด้านหน้า เป็น รูปเหมือนพระวิสุทธาธิบดี
    ด้านหลังเป็น หลวงพ่อทองคำ
    ด้านล่าง ฝังตะกรุดไว้ ๓ ดอก
    พระเกจิอาจารย์ในยุคนั้นร่วมปลุกเสก
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ (ลำปาง)
    ข้อมูลจาก คุณอา ธีระศักดิ์ เจริญรัชย์
    ผู้เรียบเรียง: เพชร ไตรมิตร์
    (นาย อธิพัฒน์ ศักดิ์ประเสริฐ)
     
  17. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468

    upload_2022-8-23_19-30-0.png
     
  18. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    710.เด่นด้านโภคทรัพย์ โชคลาภ!!! พระสมเด็จเทียนชัย หลวงพ่อสมจิตร วัดสว่างอารมณ์ อดีตพระเกจิอาจารย์เรืองนามเรืองพุทธาคมแห่ง จ.สมุทรปราการ #2 ให้บูชา 999 บาท


    upload_2022-8-23_21-21-3.png

    upload_2022-5-23_20-9-22-png.png
    พระสมเด็จเทียนชัย หลวงพ่อสมจิตร วัดสว่างอารมณ์ อดีตพระเกจิอาจารย์เรืองนามเรืองพุทธาคมแห่ง จ.สมุทรปราการ ตามประวัติกล่าวใว้ว่าจัดสร้างเมื่อปี 2499 บางตำราก็ว่าสร้างเมื่อปี 2509 แต่ไม่ว่าจะสร้างปีไหน อย่างไรก็เป็นพระดีปีลึก มีผงมวลสารว่านมงคลผสมผสานเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผงพระสมเด็จกรุบางขุนพรหมที่ชำรุดแตกหัก
    หลวงพ่อสมจิตรมรณะภาพเมื่อปี 2520 ในปีเดียวกันนั้นเอง หลวงพ่อสุพจน์ คเวสโกก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมา ครั้นในราวปี2525 ท่านได้นำพระเครื่องของหลวงพ่อสมจิตร ที่หลงเหลือตกค้างจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วยพิมพ์สมเด็จเทียนชัย พิมพ์สมเด็จสามชั้น พิมพ์พระสังกัจจายน์ ออกเผยแพร่ให้ผู้ศรัทธาทำบุญบูชากัน ขอย้ำว่าเป็นพระเก่าหลงเหลือตกค้าง หาได้จัดสร้างขึ้นมาใหม่ พระทั้งหมดจะมีทั้งแบบมีคราบมากบ้างน้อยบ้าง และอีกแบบจะปรากฏเป็นสีขาวนวลสะอาดตา
    ปัจจุบันพระสมเด็จเทียนชัย ได้มีการจัดสร้าวย้อนยุคขึ้นใหม่ เป็นการแกะพิมพ์ขึ้นให้ดูสวยงามตามยุคสมัยเมื่อปี 2550 ส่วนพรสมเด็จเทียนชัยรุ่นเก่า ไม่ปรากฏว่ามีการนำบล็อกเก่ามาสร้างใหม่ จะมีก็แต่พระสมเด็จเทียนชัยทำเทียมเลียนแบบระบาดไปทั่ว ซึ่งในโพสต์นี้ก็ได้นำมาเปรียญเทียบให้ศึกษากัน
    พระสมเด็จเทียนชัยนับเป็นพระดีราคาเบา พระเก่าพุทธคุณเลิศล้ำ คุณค่าเกินราคา ควรค่าแก่การสะสมบูชาอย่างยิ่ง พระครูปลัดสมจิตร เปมิโย อดีตเจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่คนนอกพื้นที่รู้จักน้อย เพราะท่านเป็นพระสันโดษ พูดน้อย เป็นพระปฏิบัติ จึงไม่ค่อยมีการเผยแพร่เกียรติคุณของท่านให้เป็นที่รู้จักกัน

    ตามประวัติกล่าวว่า ท่านชอบธุดงค์ รุกขมูลไปเรื่อยๆ และชอบศึกษาพุทธาคมจากครูบาอาจารย์รุ่นเก่าๆ เรียกได้ว่า "เป็นคนแก่เรียน" แต่เนื่องจากประวัติความเป็นมาของท่านไม่ได้มีการจดบันทึกไว้ตั้งแต่ครั้งก่อน จึงไม่อาจทราบว่าท่านได้มอบตัวเป็นศิษย์ของครูบาอาจารย์รูปใดบ้าง

    จนครั้งหนึ่งท่านจาริกไปพื้นที่ว่างเปล่าที่ต.คลองด่าน และได้นิมิตเห็นหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย มาบอกให้ท่านสร้างวัด ณ ที่แห่งนี้ เพราะครั้งหนึ่งสมัยที่หลวงพ่อปานจาริกผ่านมาทางนี้ ท่านทราบด้วยญาณว่า ณ ที่แห่งนี้ต่อไปจะต้องเป็นธรณีสงฆ์ จึงได้อธิษฐานไว้เพื่อรอให้ผู้ที่เหมาะสมมา สร้างวัดเพื่อจะได้เป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาในภายภาคหน้าและจะประสบความสำเร็จในกาลต่อมา หลังจากหลวงพ่อสมจิตรทราบถึงนิมิตดังกล่าวจึงได้เริ่มสร้างวัด ณ ที่แห่งนั้นโดยให้ชื่อว่า "วัดสว่างอารมณ์" ตั้งแต่นั้นมา

    ท่านถือกำเนิดในตระกูลแย้มขวัญยืน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2462 เป็นบุตรของนายแต้ม และนางบรรจง มีพี่น้อง 2 คน ท่านเป็นพี่ชายคนโต ส่วนน้องชายชื่อนายบุญเจือ มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บริเวณถนนตก เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เมื่ออายุ 12 ปี ได้ออกจากบ้านหายไปหลายปีจนทุกคนในครอบครัว เข้าใจว่า "เสียชีวิตไปแล้ว" จนกระทั่งวันหนึ่งในปี พ.ศ.2497 มีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินเข้ามาในบ้าน และถามหาโยมแต้มกับโยมบรรจง พร้อมกับได้แนะนำตัวเองว่า อาตมาคือเด็กชายสมจิตร ลูกชายคนโตที่หายจากบ้านไปเมื่อประมาณ 24 ปีก่อน

    ทุกคนต่างตกตะลึงและประหลาดใจมากจึงพยายามจ้องมองและพิจารณาดูอยู่นานจึง จำได้เพราะใบหน้าเปลี่ยนแปลงไปมาก และต่างพากันร้องไห้ด้วยความดีใจที่ยังได้มีโอกาสมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โยมแม่บรรจงซึ่งในขณะนั้นดวงตาทั้งสองข้างบอดสนิทไม่สามารถมองอะไรเห็นได้ตั้งแต่ท่านหายไปจากบ้าน ถึงกับร้องไห้โฮเป็นการใหญ่ พร้อมกับเอื้อมมือสองข้างมาจับต้องใบหน้าของท่านอาจารย์สมจิตรซึ่งเป็นพระลูกชายในขณะนั้น

    นอกจากนี้ ท่านอาจารย์สมจิตรก็ยังต้องสูญเสียบิดาในช่วงเวลาดังกล่าวเช่นกัน จึงทำให้ท่านอาจารย์สมจิตรรู้สึกเศร้าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง และได้ตั้งจิตอธิษฐานอย่างแน่วแน่ในวันนั้นโดยกล่าวต่อหน้ามารดาและญาติพี่น้องว่า "ท่านจะขอถือบวชไปตลอดชีวิตและจะขอตายในผืนผ้าเหลืองเท่านั้น" หลังจากวันนั้นท่านก็มุ่งปฏิบัติธรรมและออกธุดงค์อย่างเคร่งครัด เพื่ออุทิศผลบุญกุศลให้กับบิดา-มารดา ตลอดจนญาติพี่น้องเพื่อเป็นการไถ่ถอนความผิดที่ทำให้ทุกคนต้องเสียใจและเป็นห่วงมานานหลายปี

    ท่านถือธุดงค์เดี่ยวไปในที่ต่างๆ อยู่ตลอดเวลา โดยจะปักกลดอยู่ห่างจากหมู่บ้านหรือชุมชนพอสมควร ชาวบ้านที่รู้ข่าวว่ามีพระมาปักกลดก็จะพากันมาทำบุญตักบาตร โดยนำอาหารและเครื่องใช้ต่างๆ มาถวาย บ่อย ครั้งที่ชาวบ้านจะนำปัญหาหรือข้อขัดข้องใจมาขอความเมตตาให้ช่วยเหลือ ท่านก็จะสั่งสอนและชี้แนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ไปตามวิถีแห่งธรรมะ ตามหลักของพระพุทธศาสนา หรือบางครั้งก็ให้คำทำนายทายทักตามดวงชะตาและโชควาสนาของแต่ละท่านไป ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก เพราะคำทำนายของท่านมักจะแม่นยำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำทายทักที่เป็นข้อห้ามของท่าน หากโยมหรือลูกศิษย์ที่ท่านได้ทายทักห้ามไว้ แล้วไม่เชื่อยังฝืนกระทำก็จะได้รับความเสียหายและสูญเสียเกือบทุกรายไป

    จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านและลูกศิษย์มีความเชื่อถือศรัทธามาก จนเรียกท่านว่า "อาจารย์สมจิตร" และคอยติดตามท่านอยู่เสมอว่าท่านจะมาปักกลดอีกครั้งเมื่อใด เนื่องจากท่านเป็นพระธุดงค์เดี่ยวตลอดเวลา จึงไม่ค่อยอยู่กับที่นานนัก ทำให้ไม่ค่อยมีใครทราบหรือรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของท่านมากนัก บ่อยครั้งที่มีญาติโยมบางคนที่มาทำบุญซักถามเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ท่านก็มักจะยิ้มแล้วพูดสั้นๆ ว่า "ขอให้มองไปข้างหน้า.." ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่มีใครเลยจะทราบว่า ท่านหมายถึงอะไร
    จนกระทั่งท่านได้มาธุดงค์มาที่คลองด่านแห่งนี้ ชาวบ้านเห็นปฏิปทาอันน่าเลื่อมใส จึงกราบอาราธนาให้ไปพักในวัดสว่างอารมณ์ ที่ปากอ่าวบ้านล่าง ซึ่งขณะนั้นวัดสว่างอารมณ์ว่างเจ้าอาวาสลงพอดี และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสอันดับรูปที่ 5 ในเวลาต่อมา หลวงพ่อสมจิตรจึงรับภาระธุระเจ้าอาวาส เห็นว่าพระอุโบสถเดิมที่หลวงพ่อปานสร้างไว้ทรุดโทรมลงมาก จนไม่อาจจะซ่อมแซมในบริเวณที่เดิมได้ จึงได้ก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้นในบริเวณที่ตั้งในปัจจุบัน

    ต่อมาท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรม เป็นพระครูปลัด เป็นครูบาอาจารย์ที่มีลูกศิษย์และชาวบ้านให้ความเคารพนับถือและศรัทธาเป็นจำนวนมาก ทั้งใกล้และไกลในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น มักจะมีเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น และทำให้บรรดาลูกศิษย์หรือผู้ที่มาพบท่านอาจารย์รู้สึกประหลาดใจต่อเหตุการณ์และคำทำนายทายทักของท่านอาจารย์เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการทำนายทายทักที่มีความแม่นยำมาก

    หลวงพ่อสมจิตรมรณภาพ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2520 สิริอายุ 59 ปี พรรษา 23 หลังจากนั้นได้จัดงานพระราชทานเพลิงศพในวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ.2542

    ในการจัดสร้างวัตถุมงคลนั้น แรกๆ ท่านไม่นิยม แต่เนื่องด้วยจำเป็นจะต้องหาสิ่งตอบแทนน้ำใจของญาติโยมที่เสียสละปัจจัยมาช่วยสร้างวัดกับท่าน แท้จริงแล้วท่านมีความสามารถในการเขียนลบผงพุทธคุณได้เยี่ยมยอดไม่แพ้ครูบาอาจารย์รูปใด แต่ไม่เคยพูดหรือเล่าให้ใครฟัง

    ดังนั้นท่านจึงดำริสร้างพระผงพุทธคุณขึ้นมาชุดหนึ่งในปี 2499 มีอยู่หลายพิมพ์ อาทิ สมเด็จเทียนชัย เป็นพิมพ์ที่นิยมสุดสร้างเป็นรูปสมเด็จโต บริกรรมบาตรน้ำมนต์ ตามภาพที่ท่านนิมิตเห็นนอก จากนั้นยังสร้างพิมพ์พระสมเด็จสามชั้น พิมพ์พระสังกัจจายน์ พระปิดตา เป็นต้น รวมๆ แล้วหลายพิมพ์โดยท่านเป็นผู้เขียนและลบผงวิเศษ นอกจากนั้นยังได้นำพระสมเด็จบางขุนพรหมที่แตกหักมาบดละเอียดและผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ตลอดจนปลุกเสกเดี่ยวในอุโบสถจนมั่นใจจึงนำมามอบให้ญาติโยมไว้บูชากัน อีกส่วนหนึ่งได้บรรจุไว้ที่ฐานชุกชีใต้องค์พระประธานของวัด
    ปรากฏว่าพระเครื่องของท่านนั้นมีประสบการณ์เรื่องเมตตา มหานิยม และค้าขายโด่งดังมาก จนกระทั่งคนพื้นที่แถบนั้นต้องดั้นด้นไปหาเพื่อขอพระมาบูชากัน แต่เนื่องด้วยมีอยู่ครั้งหนึ่งศิษย์ของท่านอุตรินำพระของท่านไปขูดผสมน้ำให้หญิงสาวคนหนึ่งดื่มเข้าไป แล้วเกิดความลุ่มหลงและรักเจ้าหนุ่มคนนั้นอย่างจริงจังยิ่งทำให้ผู้คนหลั่งไหลไปขอพระจากท่าน ซึ่งท่านก็ยินดีแจกจ่ายให้ทุกๆคน พร้อมทั้งกำชับห้ามนำไปใช้ในทางผิดศีลธรรม
     
  19. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    711. สมเด็จพิมพ์คะแนน หลัง “ธ ” ยุคแรก หลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม ผสมผงยันต์เกราะเพชร หลวงปู่ปาน ให้บูชา 750 บาท

    upload_2022-8-24_11-8-41.png

    upload_2022-8-24_11-11-52.png

    หลวงพ่อบุญธรรม ธมฺมาราโม วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม 1 ในพระคณาจารย์ 108 รูป ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกพระเครื่องฉลอง 25 ศตวรรษ ท่านเป็นลูกศิษย์และมีศักดิ์เป็นหลาน (โยมแม่เป็นพี่สาวแท้ๆของหลวงพ่อปาน) หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.อยุธยา สืบทอดวิชาเป่ายันต์เกราะเพ็ชรมาโดยตรง และในการปลุกเสกวัตถุมงคลแต่ละรุ่นท่านจะใช้วิชายันต์เกราะเพ็ชรปลุกเสกทุกครั้ง
    หลวงพ่อบุญธรรม จันทร์หอม วัดพระปฐมเจดีย์ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2435 สมัยเป็นฆราวาสท่านเคยเรียนวิชากลับ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ต่อมายึดอาชีพเป็นหมอพื้นบ้านและเปิดร้านขายยาเล็กๆ ที่เชิงสะพานอ่อน จังหวัดนครปฐม และ ได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2475 หลวงพ่อบุญธรรม สามารถเป็นร่างประทับทรงเทพเจ้าต่างๆได้หลายองค์ และจากข้อมูลของคุณประเทือง สุยสว่าง ในหนังสือ "อภินิหารวิญญาณ ภาคสองพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2512 หน้า 98 " บันทึกว่าเมื่อพ.ศ. 2506 หลวงพ่อบุญธรรม ไปทำพิธีปลุกเสก หลวงปู่ทวด ณ วัดไทรใต้ จังหวัดนครสวรรค์ ครั้งนั้น หลวงปู่ทวด เข้าประทับทรง ทั้งกลางวันและกลางคืน 2วัน และเมื่อ หลวงปู่ทวด ออกประทับทรง หลวงพ่อบุญธรรม ถึงกับหน้ามืดจะเป็นลมเลยทีเดียว หลวงพ่อบุญธรรม มรณภาพเมื่อวันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2507 เวลา 15.20 น
     
  20. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,307
    ค่าพลัง:
    +468
    712. พระดีในตำนาน สมเด็จ อรหังแดง กรุวัดสรรเพชรญ์ นครปฐม ให้บูชา 2650 บาท

    upload_2022-8-24_11-31-26.png



    พระชุดนี้ บรรจุอยู่ที่ฐานชุกชี ของพระประธานโบสถ์วัดสรรเพชร เปิดกรุเมื่อปี 2457 นับถึงปัจจุบันตั้งแต่เปิดกรุมาก็เกือบร้อยปีแล้วครับ

    พระสมเด็จอรหัง กรุวัดสรรเพชร ตำบลยายชา อำเภอสามพราน จ.นครปฐม พ.ศ.2457 โดยประมาณ สร้างโดย หลวงพ่อดำ เกจิอาจารย์รุ่นเดียวกับ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ท่านเป็นผู้สร้างพระสมเด็จรุ่นนี้ มีทั้งบรรจุกรุที่วัด ที่พบเห็นบรรจุกรุ มักจะเป็นเนื้อสีแดงเป็นส่วนใหญ่ เนื้อสีดำพบน้อยมากเนื้อหามวลสาร คล้ายกับพระสมเด็จอรหัง หลวงปู่สุก วัดไก่เถื่อน พระกรุสมเด็จวัดสรรเพชร เนื้อค่อนข้างแกร่งเป็นพระที่น่าสะสม ไม่ว่า จะเป็นด้านความเก่า ความขลังของผู้สร้าง และประสบการณ์ ทั้งคนในพื้นที่ทั้งใกล้และไกลที่ได้เช่าบูชาพระไปในตอนเปิดกรุจากวัดนั้น ต่างพบกับประสบการณ์และเล่าขานกันมาอย่างมายาวนาน ซึ่งพระกรุวัดสรรเพชรนี้ได้ แตกทะลักออกจากฐานพระประธานในพระอุโบสถหลังเก่าและมีจำนวนไม่มากนัก

    พระสมเด็จอรหัง กรุวัดสรรเพชร เท่าที่ทราบ มี 4 เนื้อด้วยกัน คือ เนื้อขาว เนื้อดำ เนื้อแดงทั้งนอกและใน และเนื้อแดงนอกแต่เนื้อในออกสีเทา แบบพิมพ์ก็มีเหมือนของวัดมหาธาตุและวัดสร้อยทอง คือพิมพ์ 3 ชั้น พิมพ์ฐานคู่(สังฆาฎิ) และพิมพ์ 7 ชั้น

    มี 3 เนื้อคือ เนื้อดำ เนื้อแดง และเนื้อเทา เนื่องจากเนื้อขาวค่อนข้างหายากมากๆครับ ซึ่งผมไม่เคยเห็น แต่ได้รับการยืนยันจากผู้ใหญ่ที่ผมเช่ามาว่ามีแน่นอนครับ

    ผมรู้จักกับผู้ใหญ่ท่านนี้ เนื่องจากเคารพและศรัทธาในพระเครื่องที่ได้รับการอธิษฐานจิตจากท่านเจ้าคุณนรฯ และบังเอิญท่านเก็บสะสมพระเจ้าคุณนรฯไว้เป็นจำนวนนมาก พระเจ้าคุณนรฯที่สวยงามและหาได้ยากในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ผมได้มาจากผู้ใหญ่ท่านนี้ครับ

    ท่านเป็นช่าง และนักสะสมพระที่เชี่ยวชาญในเรื่องพระเนื้อผงคนหนึ่ง วันหนึ่งท่านไปสร้างสนามเทนนิสให้คนที่รักใคร่นับถือกัน และลูกชายเจ้าของบ้านแขวนสมเด็จอรหัง ท่านขอชมและเห็นว่าเนื้อเก่า จึงถามว่าได้มาอย่างไร ลูกชายเจ้าของบ้านบอกว่าเช่ามาจากวัดสรรเพชร นครปฐม ประจวบเหมาะกับท่านต้องการไปเช่าสมเด็จวัดสรรเพชรที่อธิษฐานจิตโดยเจ้าคุณนรฯ ซึ่งมีทั้งพิมพ์สมเด็จฯ และพิมพ์ประทานพร

    ท่านเตรียมเงินไปมากพอสมควร พูดง่ายๆว่า เวลาไปเช่าพระจากทางวัด ท่านไม่เช่าแค่ 5 องค์ 10 องค์ หากเหมาได้ท่านก้เหมาเลย (เพราะฉะนั้น พระบางพิมพ์ จึงอยู่กับท่านผู้นี้เกือบทั้งหมด) ท่านกะว่าจะไปเช่าเจ้าคุณนรฯ แต่ได้ถามหลวงปู่เพิ่ม(ขณะนั้นท่านเป็นเจ้าอาวาส)เกี่ยวกับสมเด็จอรหัง หลวงปู่เพิ่มได้ให้พระลูกวัดยกกล่องพระออกมาจากในห้อง ทั้งนี้พระลูกวัดยังไม่ทราบเลยว่า วัดสรรเพชรมีพระอรหัง แล้วหลวงปู่เพิ่มก็เล่าให้ฟังว่า พระชุดนี้มีพระจากกรุงเทพฯชื่ออาจารย์ผ่องนำมาใส่กรุไว้นานมากแล้ว ต่อมาทางวัดสรรเพชรได้รื้ออุโบสถเพื่อสร้างใหม่ จึงได้รื้อฐานชุกชีพระประธานและนำพระชุดนี้ออกมาเก็บไว้เมื่อปี 2457 ซึ่งในตอนนั้น หลวงปู่เพิ่มท่านเป็นพระลูกวัด และเมื่อท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านก็เก็บไว้ไม่ได้ให้ออกทำบุญแต่อย่างใด จนผ่านมาหลายสิบปีจึงออกให้ทำบุญบ้าง ใครขอก็ให้ไปบ้าง

    สรุปแล้วยังเหลือพระในกล่องจำนวนหนึ่งเท่าที่เห็น ผู้ใหญ่ท่านนี้ดูแล้วเป็นพระเก่า จึงได้ขออนุญาตหลวงปู่ถวายเงินให้ทางวัดทั้งหมด 3 หมื่นกว่าเกือบ 4 หมื่นบาท โดยจะขอพระที่เหลือนี้ไปทั้งหมด ซึ่งหลวงปู้เพิ่มท่านก็อนุญาต ท่านมานับจำนวนพระทั้งหมดแล้วได้ 300 กว่าองค์ มีบางองค์เกาะติดกันแน่น เนื่องจากคราบแคลเซียมเกาะยึดไว้

    ผู้ใหญ่ท่านนี้ค่อนข้างจะเป็นคนหวงพระมาก ท่านเก็บเงียบ พระที่ท่านสะสมไว้ตั้งแต่ยังหนุ่ม ส่วนใหญ่ยังเก็บไว้และปล่อยออกไปค่อนข้างยาก ปัจจุบันท่านอายุ 70 ปีแล้ว จึงค่อยปล่อยออกมาบ้าง ซึ่งผมก็เลยมีโอกาสได้เป็นเจ้าของ ปัจจุบันพระอรหังชุดนี้ผมยังเชื่อว่าอยู่กับท่านอีกหลายสิบองค์ครับ

    พระสมเด็จอรหัง กรุวัดสรรเพชร หากเปรียบเทียบกับกรุของวัดสร้อยทอง เนื้อสีแดงของกรุวัดสรรเพชรจะอ่อนกว่าของวัดสร้อยทอง และยันต์อรหังด้านหลังก็ต่างกันครับ หากนำมาเปรียบเทียบกันจะเห็นชัด ทั้งนี้ยันต์อรหังของกรุวัดสรรเพชรจะเป็นแบบปั๊มลงไปในเนื้อ(ไม่ใช่เขียน) ซึ่งมีทั้งที่เป็นเฉพาะตัวหนังสือ(แบบที่โชว์) กับแบบปั๊มในช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า(ที่เรียกกันว่าหลังโต๊ะกัง)
     

แชร์หน้านี้

Loading...