คู่มือรักษาโรคด้วย "พลังจักรวาล"

ผมสนใจอยากจะศึกษาวิชานี้ครับ
ช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ ว่าควรเริ่มยังไงครับ
และขอจองหนังสือทั้ง 2 เล่มด้วยนะครับ
กรุณาแจ้งรายละเอียดผมด้วยนะครับ
rong_c55@hotmail.com
ขอบคุณมากครับ

 

ส่งรายละเอียดให้แล้วครับทางเมลล์ เมื่อได้หนังสือแล้วก็ลอง
อ่านดูให้เข้าใจก่อน ถ้าไม่เข้าใจก็ถามได้ในกระทู้หรือทาง PM ได้ครับ

และถ้าต้องการที่จะเรียนหรือเปิดจักระ เมื่ออ่านทบทวนเข้าใจแล้วก็
ค่อยว่ากันอีกทีครับว่าจะเปิดจักระกันเมื่อไหร่

 

กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้<O</O​

​

 

ผมโอนเงินเรียบร้อยแล้วนะครับ
รายละเอียดที่อยู่ผมส่งไปที่เมลล์แล้วนะครับ
ขอบคุณครับ

 

โอ้โห.......ไม่ได้เข้ามาเสียนาน มีอะไรดีๆ เยอะแยะไปหมดค่ะ.......

 

สาธุๆๆ ขอบคุณอาจารย์สำหรับคำตอบนะคะ จะลองทำดูค่ะ
แต่เรื่องชาที่หัวแม่เท้า สำหรับหนูมักจะเป็นเฉพาะตอนที่มันกระจุกตรงหัวนี่แหละค่ะ
และส่วนใหญ่จะเป็นตอนนอน เลยไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับท่านั่งค่ะ
เลยไม่แน่ใจว่าลมไปกระตุ้นโดนต่อม โดนเส้นประสาท หรือเส้นเลือดมันพองฯลฯ อะไรรึเปล่าน่ะค่ะ กลัวเป็นอัมพาตค่ะ T_T

 

สายนทีแห่งปราณที่ผ่านหัวแม่เท้า
จุดกำเนิด จะมาจากสดือ ผ่านหน้าขา ผ่านหัวแม่เท้า ไปทางนิ้วก้อยเท้า ขึ้นไปทางด้านข้างสะโพก เอว ต้นคอ ศีรษะ และไปจบที่ลูกตา
นทีนี้มีสองสายมีชื่อ สหัสรังสี(ตาซ้าย) และทวารี(ตาขวา)

โบราณ เวลาโขลกน้ำพริกแล้วกระเด็นเจ้าตา ท่านให้เอาน้ำลดหัวแม่เท้าด้วย ก็หายแสบตา สาเหตุเป็เพราะปราณมันถึงกัน

คุณมีอาการตอนที่มีพลังมากระจุกที่ศรีษะ แสดงว่า จะเริ่มมีอาการ มึนศีรษะ สายตาเริ่มมัว เข้าร่วมด้ย ถ้าเป็นมากอาจตาพร่า และปวดศีรษะ และเริ่มอาการของไมเกรน

เดินพลังตามที่บอก อาการต่างๆจะหมดไปเอง

 

ยังอยู่เมืองไทยหรือเปล่า?
ฝึกไปถึงใหนแล้ว

 

ขอบคุณครับ อ.suwi รบกวนถามอีก2ข้อครับ
1.มีอยู่ช่วงระยะเหนึ่งตอนนี้ไม่เป็นแล้ว ขณะเดินหรือยืนบางครั้งรู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่นๆไหลตรงหว่างขาด้านในทั้งสองข้างไหลลงมาเกือบถึงหัวเข่า ตอนนั้นตกใจรีบคลำนึกว่าท้องเสีย แต่ไม่มีอะไรเป็นอยู่ได้ซัก 2 วัน ผลุบๆโผล่ๆเป็นครั้งละประมาณ5วินาที
2.ปกติเอาลิ้นแตะเพดานปากตรงโคนฟันหน้าตลอดเวลา ยกเว้นตอนพูด+กินข้าว บางขณะเหมือนมีอะไรเคลื่อนไหวเป็นทางอยู่ในปากและเหงือกบริเวณฟันด้านหน้าบนจะรู้สึกชัดมาก ตอนมีสมาธิจดจ่อ สิ่งนี้คืออะไรครับ

 

ครับผมได้รับเมลล์ ชื่อที่อยู่แล้วครับ เดี๋ยวจะจัดส่งให้
โดยเร็วนะครับ ขอบคุณครับ

 

คุณ deejaimark หลังจากเสร็จงานที่วัดราชสิงขรก็หายตัวไปเลย
สงสัยจะแอบไปซุ่มฝึกวิชาจักรนารานณ์ แน่ๆ เลย
อย่าหักโหมนะครับ(good)(good)(good)

 

คำตอบข้อ ๑.

มีนทีแห่งปราณที่สำคัญมากอีกสองสาย มีชื่อ อิทา(ด้านซ้าย) และปิงคลา(ขวา)
เริ่มจากสะดือ วิ่งผ่านขาหนีบ(ขั้วอัณฑะ ในบุรุษ) ลงหน้าขาด้านใน ลงไปที่เข่าด้านใน)
แล้วกระวัดมาด้านหน้าเข่า อ้อมไปด้านหลังวิ่งขึ้นไปที่สะโพก ไปที่ปลายกระดูกก้นกบ(จักระ 2)
แส้ววิ่งแนบกระดูกสันหลัง ช้าย-ขวา ขึ้นไปที่ต้นคอ
อิทา จะวิ่งขึ้นบนศีรษะผ่านจักระ 7 ผ่านหน้าผาก หัวคิ้ว แล้วมาสุดที่ปีกจมูกด้านซ้าย
ส่วน ปิงคลา เมื่อวิ่งมาถึงต้นคอด้านหลัง(เรียก กำด้น) จะวิ่งทะลุเข้าไปในหัวผ่านจักระ 6 ไปโผล่ที่หน้าผากประมาณสูงกว่าหว่างคิ้วเล็กน้อย
แล้วไปหัวคิ้วด้านขวา วิ่งต่อลงมาที่ปีกจมูกด้านขวา

สิ่งที่คุณรับรู้ หรือสัมผัส คือไออุ่นแห่งปราณที่วิ่งในนทีทั้งสองนี้
อ่านคำตอบข้อ ๒ จะทำให้คุณเข้าใจดีขึ้น

คำตอบข้อที่ ๒.

มีนทีแห่งปราณ ที่สำคัญมากๆที่สุดอีก ๑ สาย มีชื่อ สุมนานที เป็นเส้นกลางตัวมีสภาพดุจดังนที่ใหญ่ที่รวมสายน้ำจากนทีย่อยทุกๆสาย ทุกสาขา
เปรียบประดุจ แม่น้ำเจ้าพระยา ย่อมรวมน้ำจากนที ปิง วัง ยม น่าน และนทีสายเล็กสายน้อยอื่นๆ มารวมอยู่ในที่เดียวกัน

สุมนานที ด้านบน จะวิ่งจากสะดือขึ้นไป ผ่านลิ้นปี่ หลังกระดูกอก คอ และไปสุดที่ปลายลิ้น
สุมนานที ด้านล่าง จะวิ่งจากสะดือลงไปหาหัวเหน่า และลงไปที่ลำตัวของอวัยวะเพศ(ทั้งหญิงและชาย เป็นดุจเดียวกัน)

การกดลิ้นไว้ที่เพดาน ฐานฟันบน จึงเป็นการต่อเชื่อม ปราณแห่ง อิทา ปิงคลา ให้ไหลลงสู่ สุมนานที ซึ่งเป็นปกติธรรมชาติของมัน
ผู้ฝึกตนที่เริ่มมีประสาทสัมผัสพิเศษ จะเริ่มสัมผัสได้ถึงการเลื่อนไหล ในนทีทั้งปวง
.

 

ขอบคุณมากครับ อ.suwi ที่ช่วยคลายข้อสงสัย

 

สงสัยว่าการเปิดจักกระคืออะไร เปิดแล้วเป็นอย่างไร
จะช่วยให้เราทำอะไรได้บ้าง
อาตมาเปิดได้ไหม
สาธุ

กรรมใดก่อไว้ย่อมได้ผลกรรม


ยอกรกราบไหว้ครูผู้ทรงคุณอันประเสริฐสุด
สาธุกุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ท่านทั้งหลายได้กระทำแล้วหรือกำลังจะกระทำก็ตามอาตมาขออนุโมทนากับบุญกุศลนั้นๆด้วย และบุญอันใดที่อาตมาได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ อาตมาขออุทิศให้<O</O



กับทุกๆท่านขอเวรภัยจงดับมอดลง
ขอทุกรูปนามจงประสบชัย​

<!-- / message --><!-- sig -->

 

จักระในร่างกายเรานั้นมีอยู่มากมายถึง 84,000 จักระ แต่ในวิชาพลังจักรวาลนั้น เราจะเรียนรู้อยู่ 7 จักระครับ จักระเป็นเหมือนประตูหรือทางผ่านของพลังและลมปราณให้เข้ามาสู่ร่างกายเราได้ครับ หลวงพี่ลองเปิดย้อนกลับไปดูในกระทู้นี้สักหน่อยครับ จะมีการอธิบายถึงจักระอยู่ครับ ถ้าหลวงพี่จะเปิดจักระคงไม่มีปัญหาครับ แต่คงต้องขอให้หลวงพี่ศึกษาและพิจารณาดูก่อนครับ

 

จักระคืออะไร?

จักระ คือ จุดรวมของช่องทางเดินของพลังต่างๆ มีลักษณะเป็นวงเล็กๆ
เรืองแสง มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. ผู้ฝึกสมาธิอย่างดีจะ
สามารถมองเห็นในตัวเองและของผู้อื่นได้ จักระในร่างกายมนุษย์มีมาก
มายถึง 84000 จักระ บางวิชาใช้ถึง 360 จักระ ส่วนวิชาพลังจักรวาล
เรียนรู้และใช้เพียง 7 จักระ เท่านั้น

จักระนี้จะหมุนตัวเองด้วยความเร็วสูงมาก จนไม่สามารถมอง
ได้ทัน การหมุน (Spin) นี้ เรียกว่า จักระทำงาน ซึ่งจะสามารถซึมซับ
หรือรับเอา พลังจักรวาลอันเป็นโอสถวิเศษเข้าสู่ร่างกาย
มนุษย์ได้ ความจริงแล้วจักระของมนุษย์สามารถซึมซับพลังจักรวาล
ได้จำนวนหนึ่งอยู่แล้ว เมื่อได้รับการกระตุ้นหรือเรียกว่า
"เปิดจักระ" จากผู้ที่มีความสามารถ จะทำให้จักระนั้นซึมซับ
พลังจักรวาล ได้ดียิ่งขึ้น จนสามารถนำพลังจักรวาลไป
ใช้รักษาโรคต่างๆ ให้กับตนเองและผู้อื่นอย่างน่ามหัศจรรย์



ปัจจุบันพลังจักรวาลได้รับการถ่ายทอดและเผยแพร่ไปทั่วโลกกว่าร้อย
ประเทศ โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา และในประเทศไทย
กระทรวงสาธารณะสุขได้รับรองให้การบำบัดรักษาด้วยพลังจักรวาล
เป็นแพทย์ทางเลือกอีกด้วย

พลังจักรวาลมีอยู่รอบตัวเรา
การเรียนพลังจักรวาลเพื่อ รับและส่งพลังให้ตนเอง และผู้อื่น

การรับและส่งพลังเมื่อจักระเปิด 100%แล้ว

ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วย ร่างกาย และจิตวิญญาณ
เมื่อเปิดจักระ 100% จะทำให้สามารถรับและส่งพลังได้เต็มที่ เสริมระดับการรับรู้ของจิตวิญญาณ ทำให้พัฒนาจิตวิญญาณสูงขึ้น มีการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว จนเกิดการรู้แจ้ง<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o></o>

สมาธิของพลังจักรวาล

เป็นการปฎิบัติเพื่อช่วยเหลือตัวเอง ครอบครัว ประเทศชาติ มนุษยชาติ และสรรพสิ่ง

 

มารโลกันต์มาแล้วขอรับ ท่านอาจารย์ SUWIนันท์
ขอประนมมือไหว้ที่หน้าอกอย่างงามเลยครับ ท่านอาจารย์ SUWI ทักทายคุณ triangle-w และคุณ Little yoda ด้วยความคิดถึงครับ หลังจากได้รับหนังสือการฝึกพลังเกศา , โลมา
ไปแล้ว เน็ทผมใช้งานไม่ได้ครับ สรุปว่าวันนี้ครับที่เน็ทเริ่มทำงานเป็นปรกติ
อาการธาตุไฟเข้าแทรก ต่าง ๆ ที่เคยเป็น ตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้งครับ



์

 

ความรู้เกี่ยวกับจักระ มีผู้ตอบแล้ว ใจลึกๆยังไม่หายคัน

เมื่อตัดสินใจเข้าโบถส์ แปลงเพศแล้ว
สิ่งแรกที่บรมครูผู้เป็นใหญ่ ถ่ายทอดต่อๆกันมา ให้บอกต่อผู้เปลี่ยนเพศคือ

เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ

ทั้งห้าคำนี้ทรงคุณใหญ่หลวงนัก ปัจจุบันเข้าใจไม่ไคร่ตรงกันบิดเบี้ยวไปมา ประโยชน์ส่วนลึกจึงสูญหาย
เมื่อใจลึกๆปรารถณาใคร่รู้ ก็จงทำการติดต่อในสิ่งปรารถนาให้ปรากฏเถิด

 

เมื่อมาแล้ว
ก็มาเล่าอาการไฟธาตุที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย ให้สหายทั้งหลายทราบด้วย
อาการเป็นอย่างไร แก้อย่างไร ฯลฯ

กำลังจะเขียนเรื่อไฟธาตแตกให้อ่านกัน ยังเรื่มเรื่องไม่ถูก
มาเป็น กรณีศึกษาให้เพื่อนๆได้รับรู้
และมาเป็นต้นเรื่องให้หน่อย

 

นอกจากข้อความด้านบนแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างครับท่านอาจารย์ SUWI แต่ที่จำแม่นคือ อาการแสบร้อนที่สันหลังแถวเอว แสบร้อนที่ฝีเย๊บ และคล้ายกับมีก้อนเนื้อก้อนใหญ่อัดกันอยู่แถวหลังศรีษ่ะ ปวดและมึน (จากใบหูถึงกลางกรหม่อม) ประมาณครึ่งหัว เวลานั่งสมาธิทุกครั้งจะแสบฝีเย็บขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่จิตกำหนดที่กระหม่อม หรือหน้าผาก ผมนำพลังคอสมิคไปรักษาผู้ป่วย 3 ราย (ภายในวันเดียว) และมือจับต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน ความปวดแสบปวดร้อน มันไม่หาย
ในช่วงนั้นผมนึกอยากบอกคืนวิชาทั้งหมดที่ฝึกมา ไม่ว่าจะเป็นพลังชนิดไหน ๆ ไม่เอาล่ะ พอละ มีแต่ทุกข์ มีแต่ร้อนรุ่มทรมาน หมดกะลังใจจิงเจง