ปี 2012 แกนโลกจะพลิกกลับ โลกไร้ซึ่งมีชีวิตใดจะอยู่ได้ จริงหรือ ???

<TABLE class=forumpost cellSpacing=0><TBODY><TR class=header><TD class="topic starter">
</TD></TR><TR><TD class="left side"> </TD><TD class=content>ใครเข้ามาแล้ว ก็ลองอ่านข้อความข้างล่างนี้ดูนะคับ ผมเอามาจาก fw mail เป็นการแปลจากเว็บของอินเดีย ตาม url ด้านล้าง ใครรู้แล้วก็โทดทีคับ แต่ถ้ามันเป็นจริงตามที่ได้อ่านกันไป มันก็คงมีอะไรให้คิดกันมากมายละคับ ไงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆหรืออาจารย์ท่านใด อ่านแล้วก็ลองใช้วิจารณญาณคิดดูละกันคับ คิดแล้วก็เขียนโพสมาด้วยก็ได้คับ เผื่อคนอื่นๆมาอ่านจะได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันคับ ^^
ปล. ถ้าคิดว่าเรื่องที่อ่านไปเป็นประโยชน์ก็ช่วยบอกคนอื่นต่อไปด้วยละกันคับ
<HR>แกนโลกจะพลิกกลับขั้ว" Pole Shift " บรรดา ET กำลังให้ความช่วยเหลือในการรอดของมนุษย์

แบบจำลองคอมพิวเตอร์ ทำนายการพลิกกลับขั้วของแม่เหล็กโลก อาจนำมาสู่การสิ้นสุดอารยธรรมมนุษย์ในปี 2012

จากการทำงานของนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง ที่ได้ศึกษาปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัว บอกว่าโลกและดวงอาทิตย์ ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกันและสัมพันธ์กัน โดยจะแลกเปลี่ยนพลังงานและใช้จนหมดกระบวนการหนึ่ง จนเกิดกระบวนการของการพลิกกลับขั้วเกิดขึ้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน เมื่อสัตว์จำพวกไดโนเสาร์ที่สาบสูญไปในช่วงเวลานั้น

ในการค้นคว้าวิจัยส่วนตัวและของบริษัท ได้วิเคราะห์หรือทำนายด้วยระบบคอมพิวเตอร์ Hyderabad ซึ่งมีแนวโน้มเกี่ยวกับการยกระดับพลังงานขึ้นสูงสุด จะเกิดขึ้นในปี 2012 นี้

การพลิกกลับขั้วของแกนแม่เหล็กโลก คือกระบวนการเมื่อขั้วทิศเหนือและขั้วทิศใต้กลับตำแหน่งกัน เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น, ที่จุดหนึ่งของเวลา สนามแม่เหล็กโลกจะลดลงเกือบจะถึงศูนย์เกาซ์ โลกที่จุดนั้นของเวลามีคุณสมบัติของแม่เหล็กเป็นศูนย์ สิ่งนี้บังเอิญมาเกิดขึ้นพร้อมกัน กับการหมุนรอบพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ในทุกๆสิบเอ็ดปีพอดี

ในประวัตศาสตร์ของมนุษย์ยุคใหม่ ปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัวที่เคยเกิดขึ้นนั้นไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน แต่ในปัจจุบัน, แบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์สามารถทำนายผลลัพธ์ที่เป็นจริงได้ ซึ่ง NASA เคยนำคำพูดที่น่ากลัว มากล่าวถึงในที่สาธารณะเกี่ยวกับการพลิกกลับขั้วจะทำคุณสมบัติของแม่เหล็กของโลกอ่อนแอและเบี่ยงเบนไป แต่ไม่ใช่ศูนย์

ตามแบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์ Hyderabad การพลิกกลับเกี่ยวกับขั้วของโลกและดวงอาทิตย์สามารถเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาที่จริงจังดังต่อไปนี้

- ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบบขีปนาวุธ ,computer)

- การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ

- ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ่อนอย่างมาก

- ทำให้ภูเขาไฟเพิ่มขึ้น, เกิดการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แผ่นดินไหว และแผ่นดินถล่ม

- สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphere) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้

- กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมายจะเฉียดเข้าใกล้โลกได้ง่ายขึ้น

-แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ถ้าคุณรวมเค้าเรื่องการทำลายล้างกับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ความเป็นไปได้เหล่านี้เป็นไปได้ทั้งหมด, คุณสามารถดูได้โดยง่าย, โลกอาจจะกลายเป็นที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับอารยธรรมของมนุษย์เมื่อถึงปี 2012 และผู้ที่จะรอดได้นั้นอาจต้องมีชีวิตอยู่ใด้ดินหรือใต้เปลือกโลกเท่านั้น..

.
กลุ่มนักค้นคว้าเรื่อง UFO จำนวนมาก (ในต่างประเทศ) ที่ได้ทำการติดต่อกับพวกเขาอย่างลับๆ รายงานว่ามนุษย์ต่างดาวได้ตระหนักถึงเหตุการณ์เกี่ยวกับโลกในช่วงระยะอันใกล้นี้ ได้เข้ามาบันทึกและศึกษาเหตุการณ์การสูญพันธุ์ของรูปแบบอารยธรรมเกี่ยวกับมนุษย์ อันเนี่องมาจากการขาดของความรู้ของเราเอง ขณะนี้เขากำลังจัดเตรียมเครื่องมือสำหรับการตรวจวัดและคัดเลือกมนุษย์ที่เขาจะช่วยชิวิตเอาไว้ได้จำนวนหนึ่งแล้ว...

พวกเขาได้รับสัญญาณและรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับโลก ว่ามีบางสิ่งที่รุนแรงจะเกิดขึ้น ซึ่งเขากำลังเตรียมช่วยเหลือเราอย่างเงียบๆ รวมถึงการเคลื่อนย้ายเราไปสู่ปลายทางที่ปลอดภัยที่เราไม่อาจรู้ (ซึ่งฃ่าวนี้ตรงกับข้อมูลทางกลุ่มเขากะลาของไทยที่บอกไว้คล้ายกัน เกี่ยวกับการเตรียมการช่วยเหลือตามจุดต่างๆ 8จุด ทั้งในไทยและต่างประเทศ)

หลายๆเหตุการณ์ เช่นTsunami, มันเป็นไปได้ที่เราจะงงงวยและจ้องมองมัน กับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ถ้าเรื่องราวนี้ถูกต้อง, มันอาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่เราจะอยู่รอดจะเพื่ออารยธรรมของเรา บางทีเราอาจต้องเคลื่อนย้ายสู่ดาวเคราะห์อื่นๆ เช่นที่มันอาจจะเคยเกิดขึ้นบนดาวอังคารเมื่อหลายล้านปีมาแล้ว...

หากแปลไม่เข้าใจตามไปอ่านต้นฉบับที่นี่ครับ...
http://www.indiadaily.com/editorial/1753.asp
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่มา
http://pi.eng.src.ku.ac.th/mod/forum/discuss.php?d=1704

 

ประมาณปี 2012 หรอคะ...ต้องมารอดูกันนะ....อิอิ

 

กระบวนการพลิกขั้วนั้นหากเกิดขึ้น กระบวนการของธรรมชาติจะค่อยๆ ปรับสภาวะให้อยู่ในสภาวะที่สมดุลอีกครั้ง โดยกระบวนการดังกล่าวจากเริ่มปรับเปลี่ยนขั้วจนถึงขั้นสิ้นสุดนั้นจะใช้เวลาหลายปี ซึ่งผลกระทบจะตามมาเป็นระลอก คือการเปลี่ยนแปลงของพลังงานทำให้เกิดภัยพิบัติต่างๆตามมาเช่น พายุทอร์นาโด คลื่นยักษ์ แผ่นดินไหว ซึ่งก็ตรงกับคำพยากรณ์ที่ออกมาจากหลายๆแห่ง ทางออกก็แค่เตรียมตัวไว้ก่อนตามคำแนะนำ ซึ่งการเตรียมตัวที่ดีที่สุดคือการเตรียมตัวทางจิตของเรานั่นเอง

 

1ความจริงในอดีตแม่เหล็กโลกกลับขั้วประมาณทุกๆ1ล้านปี แต่ไม่ปรากฏว่ามีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอย่างรุนแรง
2แต่มีข้อสังเกตว่าภูเขาไฟกระโดงที่บุรีรัมย์ระเบิดเมื่อ8แสนปีที่แล้ว ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกหรือเปล่า
3คนไทยอยู่ในเขตที่เส้นแรงแม่เหล็กมีค่าน้อยถ้าเดินทางไปดูพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่นอรเวย์คงป่วยหนักไปแล้ว เพราะที่นั่นใกล้ขั้วแม่เหล็กโลกย่อมมีแรงแม่เหล็กมาก
4ไม่ต้องรอให้แม่เหล็กโลกกลับขั้วหรอก ลองเอานกเพนกวินจากแอนตาร์กติกไปไว้ที่อลาสกา และเอาแมวน้ำมาไว้กลับกัน มันจะป่วยตายหรือไม่ ผมว่าไม่น่าจะมีผลรุนแรงนะ

 

หวังอพยพ ไปดาวเคราะห์ดวงอื่น คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ใน 4-5 ปีนี้
คงต้องใช้เวลาหลายร้อยปีที่จะอพยพไปดาวเคราะห์ดวงอื่น เท่าที่เทคโนโลยีอันก้าวไกลของมนุษย์ชาติมีอยู่ เคยมีนักวิทยาศาสตร์เสนอความคิดมาแล้ว มาแค่ปรับบรรยากาศอย่างดาวอังคารให้มีสภาพให้มนุษย์อยู่ได้นี่ก็เป็นร้อยปีแล้ว การอพยพผู้คนอีก เราจะหนีจากแรงดึงดูดมหาศาลของโลก ให้คนจำนวนมากนับ 1000 ล้านคนได้ไง? ทรัพยากรในโลกไม่พอหรอก. ถ้าทำได้ง่ายๆเราคงไปอยู่ดาวอังคารกัน ได้นานแล้ว

ฉะนั้นในปี 2012 ไปไม่ทันแน่นอน. ถ้าอะไรจะเกิด เราก็หนี ถ้าหนีทันก็รอด ไม่ทันก็ภาวนาถึงพระถึงเจ้าที่แต่ละท่านนับถือละกันคร๊าบ.

 

เกิดมาแล้วก็ต้องตาย อย่าประมาทกันเถิด

 

นักบินอวกาศเขาคิดจะอพยพ เขาก็ไปกันแค่ 100 คนก็พอแล้วครับ

ส่วนมนุษย์ที่เหลือ ก็รับชะตากรรม อยู่บนโลกนี่แหละ

เอาไปเยอะก็หนักยานอวกาศเปล่าๆ

 

สุขใดไหนเล่าเท่าบ้านเรา เท่าประเทศไทยของเรา ผมคนหนึ่งที่ไม่ไปดาวอังคาร จะอยู่บนโลกนี้ประเทศไทยนี้แหละ

 

เรื่องแบบนี้ได้ยินมายี่สิบกว่าปีแล้วมันก็เลื่อนไปเรื่อยๆ ทุกๆ 10 ปี

 

อืมๆ....งืมๆ....เหอๆ

 

อาทิตย์ก่อน เพื่อนชาวอเมกันที่ทำงานด้วยกันก็เพิ่งคุยให้ฟัง เห็นเค้ามีสารคดีของดิสคอฟเฟอรี่อยู่ใน You Tube ก็เริ่มมีคนบางกลุ่มวิตกฯ ประมาณว่า มีคำทำนายของหลาย ๆ ตำนาน ระบุตรงกันเกี่ยวกับภัยพิบัติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในเดือน ธันวาคม 2012 เลยทึกทักกันว่าจะเป็นวันสิ้นโลก แต่เราว่าเราเชื่อเรื่องภัยพิบัติต่าง ๆ เกิดขึ้นแน่นอน แต่รับรองโลกไม่แตก รอไปอีก 2,4oo กว่าปี เป็นธรรมดาของโลก มันไม่เที่ยง มีแต่ทุกข์ สุขมีบ้าง แต่น้อยกว่า สุดท้ายก็สลายไป ไม่มีอะไรเหลือ มีแต่จิตเท่านั้น ที่ไม่เคยสลายและคงวนเวียนเกิด ตาย เกิด ตาย ย้ายที่อยู่ไม่รู้จักจบจักสิ้น ถ้าเข้าใจตามนี้แล้วอะไรจะเกิดก็ไม่มีหวั่นครับ

"ตัวเราแต่ละบุคคลนั้น ถือเสืมอนหนึ่งเป็นตู้พระไตรปิฏก เป็นที่บรรจุพระธรรม ๘๔,๐๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสชี้แจงแสดงนั้นเอง มันอยู่เต็มตัวเรา เดี๋ยวนี้จิตไม่มาเพีรยเพ่งดูที่นี้ มัวส่งจิตใจไปที่อื่น จึงไม่รู้ มันมีอยู่เราก็ไม่เห็น เพราะไม่รู้ ไม่เป็นปัจจุบันจึงให้รวมจิตรวมใจเข้ามาในปัจจุบัน ทุกลมหายใจเข้าออก จิตใจดวงผู้รู้ก็มีอยู่ที่นี้แหละ"

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

 

นานาจิตตัง ครับ หมั่นทำบุญกุศลให้มากๆ และก็ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม

 

คิดเหรอว่าเทคโนโลยีจะช่วยอะไรมนุษย์ให้รอดพ้นได้ ขนาดสึนามิรู้ทั้งรู้ว่าจะเกิดยังทำอะไรไม่ได้กับมันเลย ไม่มีใครจะรอดพ้นน้ำมือธรรมชาติไปได้หรอก สมควรแล้วแหละอาศัยเค้าอยู่แล้วยังไปทำร้าย ทำลายเค้าอีก ถึงเวลาที่เค้าเอาคืนแล้ว

 

น่าสนใจดีครับ

 

โลกใหม่ที่ถามหากำลังจะมาแล้ว

 

น่าสนุกดีครับ ผมชอบเลย

ตื่นเต้นดี

 

เดี๋ยวถึงเวลาก็เลื่อนไปอีกอ่ะแหละ แล้วก็เลื่อนไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด น่าเบื่อ
สู้หมอกฤษณ์คอนเฟิร์มทายดวงดารายังจะแม่นกว่าอีก
+ฮ่าๆๆ

 

ในโลกใบนี้ มีคนเกิดมากกว่า หรือ คนตายมากกว่า???

คำตอบคือ เกิดเท่าไหร่ ก็ตายเท่านั้น

ความไม่ประมาท ครอบธรรมไว้ทั้งหมด

วัยหนุ่มสาว ร่างกายแข็งแรง จึงมักคิดว่าตนเองห่างไกลความตาย

ความจริงแล้ว ทุกลมหายใจ ที่ผ่านไป ความตายก็ใกล้เข้ามาทุกขณะ ทุกขณะ

มรณะนุสติกรรมฐาน เจริญให้มาก ย่อมมีผลดี...จะต้องไปกลัวอะไรกับสิ่งที่หนีไม่พ้น สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ จะเข้าถึงโลกุตตรธรรมได้ในชาตินี้หรือไม่?

ใครบ้างตระหนักถึง น้อยคนระลึกได้ ผ่านมาแล้วผ่านไป อีกนานเท่าไหร่ จะจบการเดินทาง...

 

ตอนอยู่ๆก็จิตนาการหาดินแดนนิพพาน
พอจะตายเข้าจริงสับสนไม่รู้จะไปไหนกัน..

ตามดูจิตที่มันบอกว่ากลัวกันเถิด

 

โห..ยังกะในหนังแนะ ถึงขั้นมนุษย์สูญพันธ์เลยหรอ ..เราว่าไม่น่านะ สิ่งศักสิทธิ์มีจริงต้องรู้ว่าเราและอีกหลายๆคนยังอยากเป็นคนดีอยู่ คงจะต่อเวลาทำดีให้อีกซักนิด ..ห่ะๆๆ สาธุๆ