สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 5 มีนาคม 2009.

  1. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    อ.ขันธ์มาดึก นะครับ
    เลยไม่ค่อยได้มีเวลาสนทนากัน
    ต้องขอลาอีกครั้งครับ
    เดี๋ยวตื่นใส่บาตรไม่ทันครับ
     
  2. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63

    ขอโอกาสครับ

    ต้องเอาความสงบถึงไหนครับ

    เรื่องเกิดดับ พอเข้าบ้างครับ ธรรมชาติมันเป็นอยู่อย่างนั้น เราแค่เข้าไปรู้เป็นอารมณ์
    ส่วนเรื่อง ตามในที่นี้ เป็นเรื่องสติที่แนบไปกับกิริยาจิต จากรูปนาม เป็นไตรลักษ์ จากไตรลักษ์ เป็นปรมัตถ์ธาตุ
    คือ อาการจิตที่หมุนรอบเกิดดับเป็นภพ เป็นอารมณ์
    หากชำแรกไป ก็เป็นธาตุ น้ำ ลม ไฟ และที่สุดคือไม่มีอะไรนอกจาก รู้เป็นอารมณ์

    ผิดถูกอย่างไรชี้แนะด้วยครับ
     
  3. ไม้ขัดหม้อข้าว...!

    ไม้ขัดหม้อข้าว...! สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +4
  4. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    แล้วผมไปบอกสรรเสริญนิมิตตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ

    จิตสภาพเป็นกลางๆ เกิดพร้อมเจตสิต ดับพร้อมเจตสิต

    จิตปรุง ที่จริงจิตไม่ได้ปรุง ทำหน้าที่รู้อย่างเดียว รู้ก็คือบรรทึกกรรมนั่นแหละ

    ส่วนตัวปรุงนิมิต โน่นครับ เจตสิตตัวแสบ
     
  5. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    เก่งกว่าผมอีก
    สาธุ ครับ

    ปล่อยให้ผมเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนอยู่ตั้งนาน
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อ้าว

    เราก็น้อมอยู่ ดันมันจนลงได้ เห็นแต่กองไฟ ก็พอดีตรงเจตนา

    ว่าแต่ว่า ผมเห็นนิมิตกองไฟแล้ว พี่โชแปงจะรับไว้สักกองไหม ในฐานะพุทธบุตร
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นั่นเป็นมิจฉาสมาธิ ถ้าเป็นสัมมาสมาธิ ต้องเอาปัญญานำ แล้วตี อวิชชาทั้งหลายให้แตก
    ตีผัสสะ เวทนาทั้งหลายให้แตก ให้สลายไป ไม่มีตัวตน ไป

    เช่น ถ้ามันเริ่มมีผัสสะ ก็ดูว่ามันวิ่งไปเองด้วยอวิชชา และ อกุศลนั้นเคยถางทางไว้ บ้างก็กรรมถางทางไว้ จิตมันจะวิ่งไปแต่ทางนั้น

    ทีนี้ต้องหมั่นทวน คือ ฝืน อย่าให้มันวิ่งไปแต่อย่างนั้น เราทวนได้ด้วยการใช้กำลังจิตนี้ กำหนดรู้ไปที่อื่น ทวนความรู้สึกทั้งหมดตรงนั้นแหละ ไปที่อื่น
    จนกว่า มันจะเหลือ อายตนะเบาๆ เกิดดับ จิตจะว่างทั้งตัวเหลือแต่ อายตนะเกิดดับก็นั่นแหละเบา พอเบาแล้วก็ทำให้เป็นวสี คราวนี้ มารเข้าไม่ถึงแล้วจะทำอะไรก็ทำไปสิ
    จะำพิจารณา จะเล่นโลดโผนเท่าไรมันก็ไม่ทุกข์
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้านะครับว่า กำลังดำเนินเจตนาบางประการ

    อะไรผิด อะไรถูก ใช่ว่าไม่รู้ แต่เพราะมี ศรัทธาที่จะทำอะไรบางอย่าง
    ก็คงต้องปล่อยตามไปก่อน .....

    ไม่ขออธิบายไปกว่านี้นะครับ ไม่ใช่เวลา
     
  9. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    มีเรื่องความฝัน ฟังกันสนุกๆครับ

    เมื่อหลายวันก่อนฝันเห็นพระชรารูปหนึ่งอยู่ริมปากถ้ำ ส่วนผมอยู่ริมสระน้ำ รู้สึกจะคลานอยู่เพราะเหนื่อย
    พระรูปนั้นเดินมาหาผมใกล้ ผมกำลังจะกราบที่เท้าท่าน
    ท่านก็น้อมเอามือมารับไว้ อีกมือลูบหลับแล้วพูดเบาๆเหมือนจะให้พรอะไรซะอย่าง
    รู้สึกถึงความอุ่นในมือท่านได้ เสียงท่านก็คุ้นหู เงยหน้าไปดูปรากฎว่าเป็นหลวงปู่ดุลย์ครับ จบ.
     
  10. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อยู่ที่ความเข้าใจในวิธีการนะครับ ...ใช่ว่าจะไม่ดี

    การเห็น นิมิตร ด้วยรูป สามารถ นำมาเป็นเครื่องทำให้เกิดสติได้
    การฟังนิมิตรด้วยเสียง สามารถ นำมาเป็นเครื่องทำให้เกิดสติได้
    การได้กลิ่นนิมิตรด้วยกลิ่น สามารถ นำมาเป็นเครื่องทำให้เกิดสติได้
    การได้รสนิมิตรด้วยรสสามารถ นำมาเป็นเครื่องทำให้เกิดสติได้
    การได้สัมผัสนิมิตรด้วยสัมผัส สามารถ นำมาเป็นเครื่องทำให้เกิดสติได้
    การเกิดนิมิตรอ่างใดอย่างหนึ่ง สามารถ นำมาเป็นเครื่องทำให้เกิดสติได้...หากผู้ศึกษา ศึกษาวิธีการอย่างเข้าใจ ก็จะลงได้ทุกสนามรบ

    การเกิด นิมิตรอย่างใดอย่างหนึ่ง คือการฝึกสติคือ การสังเกตุดูที่ใจ ฝึกรู้ไปเนืองๆ...พอชำนาญ มันจะเกิดเอง สติสัมปชัญญะจะตามครบ เป็นสัมมาสติ ที่เกิดด้วยปัญญา เรียกว่ารู้ปัจจุบันขณะ แจ้งธรรมนั้นปัจจุบันขณะ
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นี่ พูดให้ฟัง แต่ก่อนนี่เวลานั่งสมาธิ ของผมนี่ มือไม้ร้อนไปหมด ความร้อนนี่มันวิ่งไปทางนั้นทางนี้ มันค่อยๆ ดันมาแน่นตรงปลายมือ เราสงสัยอยู่นาน

    จนมีผู้รู้ มาสอนเหมือนเดิม เพราะผมคงมีวาสนาทางในเหมือนกัน ท่านก็ว่า อาการที่ท่านเป็นคือ ปัจจยาการ เราก็ไม่เข้าใจว่า ปัจจยาการคืออะไร ก็เดา่ว่า มันคงแปลว่ามีปัจจัยนะ

    แต่ ปัจจยาการนี้ เขาเรียกเป็นคำแทน ปฏิจสมุบาท ปฏิจสมุบาทนี้ จิตเคยแล่นอย่างไร มันจะแล่นอย่างนั้น การทวนกระแสปฏิยสบุบาท ก็สามารถทำได้ ไม่ให้มันวิ่งไปตามปัจจยาการ
    นั่นแหละ จะดับทุกตรงนั้น

    คอยระวังอย่าให้จิตมันแล่นไป คอยตั้งหน้าตั้งตาระวังเหมือนักกีฬาวิ่ง คอยเสียงนกหวีดอย่างนั้นเลยนะ มันจะไม่แล่นไป แล้วเราจะทัน ต่ออวิชชา
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แหะ แหะ นี่ไม่ได้โทษคุณขันธ์นะ ตอนนี้ กองไฟผมกลายเป็นลมไปเรียบร้อย

    ทำอีกก็ไม่เห็นแล้ว เสียดาย สมาธิยังตั้งมั่นอยู่เลย แต่ทำอีกนี่แน่นๆ แล้วคง
    ต้องหยุด

    ก็นั้นแหละครับ ปัจจัยการ แต่ผมมีศรัทธาไปกว่านั้น แต่จะเอาไปทำอะไรนั้น
    คงบอกไม่ได้

    แต่จะเห็นว่า ผมไม่ใช่เอาแต่ดูจิต หากเวลาไหนทำอะไรได้ ผมก็จะฝนทางนั้น
    เข้าๆ ออกๆ สลับโลก สลับธรรม

    ที่เหลือก ยกให้ โชแปง หุหุ
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    หายหมดและ จิตตั้งมั่น
     
  14. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คำว่า ปัจจยาการนี้ แหละ เรียกว่า อาหาร ในพระสูตรที่ผมยกมาตอนต้นเรื่อง อันได้แก่วิญญาณ ผัสสะ คิด ( สังขาร ) เพราะฉะนั้น หากเราทราบดีว่า อาหาร ให้กิเลส คือ

    ตัวรับรู้ ตัวผัสสะ ตัวคิด นี้ พอมันได้ยินเสียง ก็ต้องจ่อสติไว้ที่ตัวรู้เลยว่า มันจะเห็นเป็นเรื่องเป็นราวอย่างไรแค่ไหน คอยดูว่าเวลาจิตมันแล่นไป นั้นมันมี สมุทัยอย่างไร นี้ให้ดูให้ชำนาญ

    สุดท้าย เรื่องราวทั้งหมดที่อยู่ในใจอันเป็นปัจจุบันธรรม นี้ให้ปล่อยทิ้งให้หมด ในจิตในใจจะไม่เหลืออะไรเลย เกิดเป็นความว่างได้
     
  15. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    [​IMG] อะไรเนี่ย
     
  16. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    น่าคิดนะ.. .....
    ว่าแล้วก็เล่าให้ฟัง เฉยๆ .... สมัยก่อน นังสมาธิภาวนาไป ไม่ได้สนใจอะไร อยู่ๆ รูปหลวงปู่แหวน มานั่งอยู่ตรงหน้า ได้ยินมาว่า ให้มีความเพียร... แล้วห็รูปหลวงปู่แหวนก็หายไป...
    เช้ามาถามครูท่าน ...ท่านบอกว่าได้พบนิมิตรแบบนี้พึงเข้าใจว่าหลวงปู่แหวนท่านก็มาทางสายหลวงปู่มั่น ทางที่เราเดินนั้น หลงทางอยู่ ควรเดินทางสายเอก...จบเรื่องเล่า
     
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ถ้าหมายถึงรูป เป็น วิหารเจ้าแม่กวนอิม ผมออกแบบไว้ ยังไม่ได้สร้างนะครับ รอสร้างอยู่ ของในหลวงท่าน
     
  18. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    นิมิตเป็นของเล่นของคนไม่ติด
    แต่เป็นของติดสำหรับคนเล่นนิมิต
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เวลา จะนั่งกรรมฐาน ก็สำรวจตั้งแต่กายเลย ว่า กายตรงไหนเกร็ง ตรงไหนรู้สึกหยาบ ตรงไหน
    มันขัด เพราะว่ากายในกายได้แก่กายลมนั้นวิ่งไปในช่องทางที่ผิด ก็เหมือนจิตนั้นแหละ เคยอย่างไรมันก็วิ่งไปอย่างเก่า กายนี้ก็เช่นเดียวกัน หากว่า กายลมมันเคยวิ่งอย่างไรมันก็ไปกระจุกไปอั้นกันตรงนั้น ก็ต้องขยับกาย เอาจิตมาคุมกายลม ให้มันวิ่งไปตามทางอื่น ก็จะทำให้กายนี้ ดี สมบูรณ์
    ส่วนเวทนา ผมเป็นคนเวทนาน้อย แต่เคยค้างอยู่กับเวทนานี้นานมากๆ จิตเราถ้าไปจับอะไรแล้วมันจะวิพากษ์ทันที ตรงนี้ต้องใ้ช้กุศลบ่อยๆ เพื่อขัดเกลาทางแห่งเวทนา คือ ใช้กุศลในการไม่เอาจิตแปรไปเป็นเวทนา คือ อย่าเอาใจไปสัมผัสกับสิ่งอื่นบ่อยๆ แต่ให้จิตเป็นเอกคตาบ่อยๆ

    สำหรับ จิต จิตนี้ไหล ทั้งวันทั้งคืน ก็ให้คอยมีสติ รู้ และอย่าให้มันดองอกุศลเอาไว้ ค่อยตกแต่งจิตนี้ให้ เบิกบาน และ ปราโมช เข้าไว้ ตรงนี้ต้อง สังเกตุมันให้มาก

    ธรรม จะเป็นตัวละเอียดสุด คือ ความปรากฎความเข้าใจลึกซึ้ง ในความเป็นจริงแต่ละส่วนๆ

    มันจะเกิด แล้ว เรามักจะนึกว่านั่นอัศจรรย์ แต่จริงๆ แล้วเราต้องหันกลับมาพิจารณาว่า กระบวนการที่ธรรมเกิดในใจเรานั้น ธรรมดับไปอย่างไร และเรามีอายตนะอย่างไรในการสัมผัสนั้น

    ตรงนี้ ค่อยๆ ศึกษา เมื่อรู้รอบแล้วจะเข้าใจที่ผมพูดทั้งหมด เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน
     
  20. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    ลองออกแบบให้เล่นแสง มุมตกกระทบดูสิครับ

    หรือเอาหลักดาราศาสตร์ พระอาทิตย์พระจันท์ เหมือนเขาพระวิหาร ท่าจะแจ่ม
    คนจะจำชื่อคนออกแบบไปอีกนาน หุหุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...