สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 5 มีนาคม 2009.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณโช คุณยืนอยู่กลางลม ย่อมรู้สึกถึงลมเป็นธรรมดา
    ใช่ครับ รู้เพียงแค่นั้นหรือครับ ผมว่าไม่ใช่เพียงแค่นั้นครับ
    คุณใช้อะไรรู้สึกครับ กายหรือจิต?
    ถ้าตอบว่าทั้งสองอย่างทั้งกายและจิต
    แล้วทำไมลมใบไม้ไหวไม่โดนกายเรา
    เราก็รู้สึกได้เช่นกันใช่มั้ยครับว่ามีลม?
    ลมพายุพัดมาคุณได้ยินมั้ยครับ?
    เมื่อลมพัดมาเบาๆคุณลิ้มได้ถึงความรู้สึกเย็นสบายมั้ยครับ?

    ความมีน้ำใจที่ใสบริสุทธิ์ของกัลยาณมิตรนั้น
    เค้าวัดกันที่ความจริงใจและเอาความจริงมาพูดเพื่อให้กัลยาณมิตรได้พิจารณาครับ

    คุณสำนึกในกิเลส
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เพราะว่า คุณใช้บัญญัติมากไปหน่อยมันก็เลย ไม่เข้าใจ

    ทั้งหมด ตราบใดที่ยังไม่สุดส่วน มันก็มีทั้งสองอย่าง แบบที่คุณตั้งคำถามมานั่นแหละ
    ปัญหามันคือ ทำอย่างไร ให้มันสู่ในทางที่ดี ไม่ใช่ว่า ปลายทาง มีธรรมแบบใด
     
  3. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    มหาปุณณมสูตร
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    ข้อที่โมฆบุรุษบางคนในธรรมวินัยนี้ ไม่รู้แล้ว ตกอยู่ในอวิชชา ใจมีตัณหาเป็นใหญ่
    พึงสำคัญคำสั่งสอนของศาสดาอย่างสะเพร่า ด้วยความปริวิตกว่า
    จำเริญละ เท่าที่ว่ามานี้ เป็นอันว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเป็นอนัตตา
    กรรมที่อนัตตาทำแล้ว จักถูกตนได้อย่างไร

    รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
    ควรหรือหนอที่จะเล็งเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเรา นั่นอัตตาของเรา ฯ
    ภิ. ไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า ฯ

    พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล พวกเธอพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงดังนี้ว่า
    รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง
    ทั้งที่เป็นอดีต ทั้งที่เป็นอนาคต ทั้งที่เป็นปัจจุบัน เป็นไปในภายใน หรือมีในภายนอกก็ตาม
    หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม อยู่ในที่ไกลหรือในที่ใกล้ก็ตาม ทั้งหมดนั่น
    ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา

    อริยสาวกผู้สดับแล้วเห็นอยู่อย่างนี้
    ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในรูป แม้ในเวทนา แม้ในสัญญา แม้ในสังขาร แม้ในวิญญาณ
    เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น
    จิตหลุดพ้นจากอาสวะ เพราะไม่ถือมั่นในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

    ;aa24
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็ อุทพยญาณ ให้หาที่ใจ ไม่ใช่ให้ไปหาที่พระไตรปิฎก

    ถามว่า ไอ้นั่นใช่ จิตหรือไม่ ไอ้นี่ใช่นั่นหรือไม่ นี่มันถามแบบบัญญัติแบบสมมติ

    แต่ ถ้าถามด้วย ปัญญา มันจะถามว่า ที่เรียกว่า อุทัพยญาณ นั้นมีอาการแบบใด
    หรือ ว่า เห็นมาอย่างไร

    แล้วไอ้ที่กิเลสดับไปเอง หรือ เราวางให้มันดับ นี่อีก นี่ถามสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม ก็กิเลสที่ดับเองก็มี เราวางให้มันดับก็มี

    คุณ ธรรมภูติ คุณนี่ยังต้องปรับอีกมากมายเลย เพราะว่า คุณยังมีสมมติบังอยุ่มาก
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ขอโทษะนะครับ

    หากดูกันตามจริง คุณแว็ด คนที่ผมทะลึ่งเข้าไปแนะนำ ดูจิต นี่

    คุณต้องดูนะครับว่า เขาทำมาก่อนผมแนะนำ หรือ ว่าเริ่มโดยผมแนะนำ

    หากพิจารณากันถี่ถ้วน ก็ต้องรู้ว่า คุณแว็ดเขาเรียนมาทางสายหลวงพ่อ
    จรัลก่อนแล้ว สำหรับการทำวิปัสสนา

    ผมแค่เติมเต็มในบางส่วนที่เขา ตั้งประเด็นมาถาม

    แล้วก็เหมือนเคย เรื่องการพิจารณา การทวน นั้น คุณแว็ดเขาเรียกจากคุณ xorce
    แล้วผมจะต้องแนะนำอะไรไปมากกว่าเท่าที่เขาปฏิบัติได้หละครับ หากผมอธิบาย
    ก้าวล่วงไป เดี๋ยวก็ไปขัดคุณ xorce เปล่าๆ
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ดูไปยาวๆ แล้วกัน หนังเรื่องนี้
     
  7. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    ไม่ อยาก เชื่อ ตัว เอง
    (ใช้ เวลา สอง วัน ใน การ ตาม อ่าน)

    ว่า จะ อ่าน มา ถึง ตรง นี้ ได้

    อ่าน แล้ว ก็ งง เพราะ ว่า ไม่ ภูมิ ธรรม ไม่ ถึง
     
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อาจานขันธ์ คุณไม่ใช้สมมติบัญญัติไว้พูดคุยกัน
    แล้วที่พูดๆอยู่นี่ใช่ใช้สมมติบัญญัติอยู่หรือเปล่า?

    พระบรมครูทรงบัญญัติสมมติต่างๆขึ้นมาเพื่อให้ใช้สื่อสารใช่มั้ย?
    ทรงมีวัตถุประสงค์ให้เพียงมีไว้ใช้เท่านั้น ไม่ใช่ให้ถอนทิ้ง
    ที่มีปัญหาอยู่ทุกวันนี้เพราะใช้กันไม่ถูกต้องเสียมากกว่า

    ที่สุดส่วนในทางของพุทธศาสนานั้น
    ไม่ใช่เพียงคิดๆนึกเอาเองได้เท่านั้น
    ต้องลงมือปฏิบัติอบรมฝึกฝนแยกจิตให้อิสระออกจาก รูป-นาม
    ก็จะรู้เห็นตามความป็นจริงว่านั่นไม่ใช่เรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตนของเรา

    ;aa24
     
  9. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    (good)

    บางคนเค้าคงมี ปฏิสัมภิทาญาณ มีความสามารถในการชี้ธรรมได้ตรงจุด
    บอกได้ว่า คนนั้นพื้นฐานอย่างนั้น ต้องเสริมตรงนี้
    บอกได้ว่า คนนี้พื้นฐานแนวนี้ ต้องเสริมตรงนั้น

    น่าจะไปรจนาคัมภีร์เท่ห์ๆ สักเล่นหนึ่ง มาแข่งกับวิสุทธิมรรคไปเลย หุๆๆๆๆๆ
    เด๋วผมช่วยตั้งชื่อให้ เอาเป็นอะไรดีน๊า...............?
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ลากไปนู้น

    คนเขาเขียน บรรยายออกมาก็ต่อเมื่อ มีคนถาม

    ไม่ใช่ ไม่มีเหตุ ก็บรรยายออกมา

    หากผมเป็นคนที่บรรยายออกมาโดยปราศจากเหตุ อันนั้น คุณ
    ค่อยมาทัก ให้ผมไปเขียนหนังสือ นะ
     
  11. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ดูที่ใจเขา

    ไปแระ วันนี้ยุ้ง...ยุ่ง
     
  12. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อาจานขันธ์ คุณนี่พูดไปเรื่อยเลย ผมถามว่าใช่จิตมั้ย
    ก็ตอบให้จบๆไปก็หมดเรื่อง ให้หาที่ใจ แล้วใช่จิตมั้ย?

    ไม่ว่าใจหรือจิตครูบาอาจารย์ใช้แทนกันบ่อยๆ
    ต่างกันแต่พระอาจารย์บางท่านชอบใช้ใจบ้าง จิตบ้างเท่านั้น
    ทั้งจิตทั้งใจล้วนหาได้ในพระไตรปิฎกทั้งนั้น

    ที่ถามไปหนะก็บอกอยู่แล้วว่าวิธี!!!
    คุณก็บอกมาสิว่าวิธีนี้มีอาการแบบนี้ วิธีนั้นอาการต่างออกไป
    ไม่รู้วิธีจะเห็นได้มั้ย? เห็นโดยไม่มีวิธีเห็น?
    แบบนั้นชาวบ้านเรียกว่านึกเห็นเอาเอง

    กิเลสมันจะดับเองได้ยังไง?
    มันมีของมันอยู่จริง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ยังไม่เรียกว่ากิเลสหรอก
    ต่อเมื่อเราไปยึดมันเข้า นั่นแหละ จึงเรียกว่านั่นเราเกิดมีกิเลสแล้ว
    คนอื่นที่ไม่สนใจที่จะไปยึดมัน มันก็ไม่ใช่กิเลสของเข้าสักหน่อย

    ผมถามไปยิ่งกว่าธรรมะที่ธรรมดาเสียอีก ต้องเข้าให้ถึงจึงจะรู้
    อาจานขันธ์ก็ลองปรับคำพูดให้มีประธาน มีกริยา มีกรรมมั้ง
    ไม่ใช่พูดมันลอยๆ ลอยไปก็ลอยมาหาที่ตั้งที่ระลึกไม่ได้


    ;aa24
     
  13. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>โชแปง </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    พี่โชแปง หวัดดีค่ะ

    พี่ ๆ แว๊ดมีคำถาม เรื่องดูจิต ที่พี่สอน ที่ว่าดูมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป นี่ต่างกับดูจิตที่หลาย ๆ คน โต้กันอย่างไรคะ

    แว๊ดจะได้เอามาเป็นเหตุผลประกอบ

    ขอบคุณค่ะ
     
  15. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    วิชาดูจิต ก็คือ สติ แต่ทีนี้ ตัวสตินี้ ถ้าคอยระลึกรุ้อยุ่มันก็เท่านั้น

    เช่นว่า เรากำลังทำอะไรเราคอยรุ้ตัวอยู่ จะกิน เดิน ยืน นั่งนอน นั้นแหละคอยระลึกรู้ จะรุ้มากรุ้น้อยไม่เป็นไร ถือว่าฝึก

    เวทนา คือ ระลึกได้ว่าตอนนี้ กำลัง ทุกข์ หรือ สุข

    จิต คือ ระลึกได้ว่า ตอนนี้ มันมีอะไรมากกว่า ทุกข์หรือสุขหรือไม่ เช่น โมโห ตัวโมโหอาจจะทุกข์ แต่ว่ารายละเอียดมันมีอยู่ว่า ความรุ้สึก อารมณ์ ที่มากกว่าแค่ ทุกข์ หรือ สุข ตรงนี้ให้คอยระลึกรู้

    ธรรม คือ ระลึกได้ว่า ตอนนี้เราเห็นข้อธรรมอะไรที่มันเป็นความจริง ประจักษ์ขึ้นในใจ นั่นแหละข้อธรรม เช่นว่า เห็นชัดเจนเลยว่า ความคิดฟุ้งซ่านเป็นภัย รุ้สึกเลยชัดๆว่าเป็น ภัยจริงๆ นี่เรียกว่า ธรรมเกิด หรือพูดง่ายๆ ว่า มีภาวนาปัญญาปรากฎขึ้นในใจ
    คือ รู้เอง ชัดเอง

    ทีนี้ ใครจะระลึกอย่างไร ก็ระลึกไปเถิด จะได้มากได้น้อย ก็ระลึกไป เวลาโกรธ เวลาไม่พอใจ ระลึกได้ก็ระลึกไป

    ไม่ต้องไปสร้างเงื่อนไขอันไม่จำเป็นเพิ่มเติม เช่นว่า อย่าไปคิดนะ อย่าไปเพิ่มเติม อย่าไปอย่างนั้น อย่าไปอย่างนี้

    ก็ ถ้าจิตขณะนั้น มันสบายดี จะพิจารณาอะไรก็พิจารณาไป หรือ ระลึกเห็นกิเลสแล้วมีกำลังใจจะต่อสู้กับมันก็สู้ไป

    ทีนี้ ดูจิตเพี้ยนๆ ที่สอนกัน คือ อย่าไปทำอะไรเพิ่มเติม ดูเฉยๆ ก็ถามว่า ตอนนี้ผมมีกำลังใจจะฟาดฟันกับกิเลส ทำไมผมต้องดูเฉยๆ ด้วย ก็มันมีกำลังใจนี่ จะมาห้ามทำไม

    นี่ ทำอะไร ให้ดูจิตดูใจตน เลือกเฟ้นวิธีการ ที่เหมาะสมกับใจตน ในขณะนั้น

    อย่าเอาเกณฑ์ ที่ไม่ใช่ธรรมไป บังคับสิครับ มันไม่ใช่ธรรม
     
  17. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    กระจ่างแจ้งเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  18. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63

    ถ้าหมายถึง การเจริญวิปัสนา
    แว๊ดไม่ต้องไปเจาะจงดู ด้วยการใช้ความคิดนำ ว่าอ่อ เกิดขึ้น อ่อตั้งอยู่ อ่อดับไป
    หากทำอย่างนี้ไม่เป็นไปตามจริงหรอก มีแต่เสียงพากษ์ในหัวนะ

    ดูไปตามที่รู้สึกนั่นแหละ ท้องพอง ท้องยุบ เมื่อกี้พอง ตอนนี้ยุบอีกแล้ว
    ดูไปตามที่รู้สึกนั่นแหละ เซ็งเกิด เซ็งหาย เมื่อกี้เซ็ง ตอนนี้เซ็งหายไปอีกแล้ว
    ดูไปตามที่รู้สึกนั่นแหละ เมื่อยเกิด เมื่อยหาย เมื่อกี้เมื่อย ตอนนี้เมื่อยหายไปอีกแล้ว

    ดูไปตามที่รู้สึกนั่นแหละ ท้องพองเริ่ม กับท้องพองสุด เมื่อกี้เริ่มพอง ตอนนี้พองสุด
    ดูไปตามที่รู้สึกนั่นแหละ เซ็งเริ่ม อึดอัดเริ่ม ทนไม่ได้เริ่มก็รู้ เซ็งหาย อึดอัดหายก็รู้
    ดูไปตามที่รู้สึกนั่นแหละ เมื่อยเกิด ก็รู้ แล้วเปลี่ยนท่าบ้างก็ได้เลือดจะได้ไหลเวียน ใครใจเด็ดก็นั้นให้มันทะลุเวทนาไปเลย

    ที้พูดถึงเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน
    สงสัยไหม ไปวัด เขาให้ทำอะไรช้าๆ แล้วในชีวิตจริงจะใช้ได้หรอ
    ตอบว่า ช้าหรือเร็วเป็นเพียงขั้นตอน เป็นเพียงอุบายฝึกจิต

    เราฝึกดูเพื่อให้ดูเป็น ถูกไหม
    ใจตอนที่เซ็งดับ ปวดเมื่อยดับ เป็นอย่างไรเราก็รู้แล้วว่ามีอยู่
    ใจที่ไปฟุ้งซ่าน ไม่เฟ้อ ร้อนรน เป็นอย่างไร เราก็ได้รู้ ได้เห็นมาแล้ว ว่ามีอยู่เป็นอารมณ์
    ที่พูดมา เป็นปัจจุบันธรรมไหม

    เด๋วมาพูดต่อ ขอไปทานข้าวก่อน
     
  19. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    สายดูจิตที่ออกมาแสดงความคิดเห็น
    ดูจะมีแต่ท่าน นิวรณ์ ท่านเดียว
    ขอความคิดเห็นท่านอื่น ที่อยู่สายดูจิตด้วยครับ
    หายไปไหนหมด........
    ใจดำปล่อยท่านนิวรณ์ ให้เดียวดายอยู่ได้อย่างไร
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แหะ แหะ ไม่ได้สู้คนเดียว คราวนี้มากับพระ

    มาดูกันว่า ที่ว่าไม่ทำอะไรเลย คิดว่า เฉยๆ หรือ ที่มีบางคนคิดว่า คือการดูจิต

    มาดูว่า พระอธิบายเรื่องนี้ไว้อย่างไร แตกต่างกับการดูจิตอย่างไร

    [music]http://203.130.131.118/sound/anencha.mp3[/music]
     

แชร์หน้านี้

Loading...