สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

คุณศรีฯ เป็นไปได้ยังเอาอัตตาละอัตตา
เค้ามีแต่ปฏิเสธอัตตาด้วยอนัตตา(ไม่ใช่ตน)
จึงจะรู้จักที่พึ่งที่แท้จริง(ตน)มีอยู่จริงแต่ไม่มีรูปรางเท่านั้น

;aa24

 

ดูเหมือนจะยิ่งกว่าพระอรหันต์อีกนะครับ...

 

คุณศรีฯ คุณไม่รู้จริงๆหรือว่า
ท่านฝึกฝนจนชำนาญในการปล่อยวาง จนเป็นวสี
ไม่ว่าจะลืมตาหรือหลับตา ย่อมหยุดคิดหยุดนึกได้
รู้อยู่ที่รู้ มันก็หยุดอยู่แล้ว

;aa24

 

เอา แบบ คน ไม่ มี ความ รู้ เลย นะ ครับ

ตาม ที่ ผม เข้า ใจ เอา เอง

ถ้า ไม่ รู็ จะ ละ อะ ไร เหรอ คุณ ธรรม ภูติ

ที่ ละ ถ้า ไม่ รู้ ละ ถูก หรรือ คุณ ธรรม ภูติ

รู้ ชัด ก่อน ถึง รู้ ได้ ว่า

อ้อ มัน ไม่ เหลือ แล้ว

คุณ ไม่ ยอม ลง ใจ พิจารณา เอง นะ ครับ

จับ เอา ว่า ตรง ไหน พอ จะ แย้ง ได้ ก็ หยิบ ขึ้น มา

ถ้า ไม่ รู้ ว่า มี จะ ให้ ละ อะ ไร เล่า ท่าน ใน เมื่อ มัน ไม่ มี ใน เรา

 

อนุญาตแล้วนา ให้ไฟเขียวผมเองนา

ไม่ใช่แค่ปากอมขี้เท่านั้น

แต่ยังกลืนกินขี้ หลงตัวเอง

 

ตามรอยพระพุทธเจ้า

เดินตามรอยกันแต่อย่าให้ซ้ำรอยกัน

 

เอากุศลธรรม(กิเลส)ละอกุศลธรรม(กิเลส)
แล้วเมื่อไหร่หละถึงจะละธรรมทั้งปวงได้(โลกียธรรม)
ต้องทวนกระแสธรรม(โลกียธรรม)ไปสู่ธรรม(โลกุตรธรรม)

;aa24

 

ฮ่วย

อาศัย

กับ

เอา

ต่าง กัน มาก อยู่ นะ

ท่าน ไม่ ผิด หรอก แต่ ไม่ ยอม เข้า ใจ ด้วย ตัว เอง

 

ต่างโคตร ต่างวรรณะ ต่างการศึกษาฯลฯ
แต่เมื่อลงมือ(เดิน)ปฏิบัติตามรอยกันสู่อริยมรรคมีองค์๘แล้ว
ย่อมได้รับรสเดียวกันรอยเดียวกัน โดยไม่ต้องนัดหมาย

;aa24

 

ถ้า รู้ ว่า อะ ไร ไม่ ดี แล้ว

เรา ยัง จะ เอา สิ่ง ไม่ ดี อยู่ มั๊ย ท่าน

ถ้า เรา จะ เอา ก็ แสดง ว่า เรา เอา ส่วน ที่ ดี ของ มัน

หรือ เรา หลง ไป กับ ส่วน ไม่ ดี อัน อื่น ที่ แทรก อยู่ (ส่วนที่เรามองไม่เห็น)

ความ จำ บาง ส่วน ไหล กลับ มา

คำ สอน ของ พระพุทธองค์ ลึกซึ้ง จริง จริง

ทราบ ซึ้ง แล้ว

 

คุณฮาฯ ฮ่วยเฮ้ยอะไร???

ภาษาไทยกำกวม ต่างกันตรงไหน

อธิบายด้วย อย่าเนียนไม่ดี

;aa24

 

อาศัย คือ ต้อง พึ่ง

ใน ที่ นี้ คือ ต้อง ใช้ กิ เลส แต่ ใช้ อย่าง ไร

ไม่ ใช่ ทำ ให้ เกิด กิเลศ

แต่ เรา ต้อง หยิบ มา พิจารณา ว่า มัน คือ กิเลศ

เรา ต้อง รู้ จัก กับ กิเลศ ก่อน

เอา ของ คุณ คือ

มัน ต้อง ใช้ กุศลเป็น เครื่อง มือ ใน การกำจัด กิเลศ หรือ กดทับเอาไว้(อันนี้ผมเข้าใจเอาเองว่าถ้าใช้กุศลมันเป้นการกดทับ)

ถ้า ยัง ไม่ เข้า ใจ มัน ก็ วน วน อยู่ อย่าง นั้น

พอ มัน เกิด เรา รู้ เดี๋ยว มัน ก็ ดับ แล้ว มัน ก็ เกิด อีก

แต่ พอ รู้ ว่า มัน ไม่ ดี เรา รังเกียจ เรา จะ หา ทาง ทำ อย่าง ไร เพื่อ ไม่ ให้ มัน เกิด อีก

เรา จะ รู้ ว่า จาก ไหน อัน นี้ มา จาก ไหน อัน นี้ มา จาก ไหน ไล่ ไป จน เรา รู้ เรา ก็ ไม่ ทำ ให้ เกิด

ไม่ ใช่ เกิด แล้ว เรา ถึง ดับ มัน

ผม รู้ น้้อย จริง จริง อย่า ซัก ผม มาก เดี๋ยว ผม งง ไม่ ได้ ตลก นะ เดี๋ยว เข้า ใจ ผิด

 

คุณฮาฯ คุณถามใคร???

วันหลังจะถามอะไรใครระบุให้ชัดเจนด้วย

อย่าพูดลอยๆสิ ก็เลยไม่รู้คุณพูดกับใคร

ของไม่ดีจะมีส่วนดี สำหรับคนที่ไม่ดีเท่านั้น

ส่วนคนดีจะมองเห็นของไม่ดีว่าไม่ดี

ไม่มาหาส่วนดีในของไม่ดีให้เสียเวลาหรอก

;aa24

 

เริ่มแล้ว

 

เอ้า ไหน ไหน ก็ เริ่ม สนทนา กัน แล้ว

เอา ตาม แบบ ของ ผม แล้ว กัน นะ



คุณฮาฯ คุณถามใคร???

วันหลังจะถามอะไรใครระบุให้ชัดเจนด้วย

อารม์ืลอยลอย ต้อง การ สื่อสารกับท่านอยู่ ท่าน ธรรมภูติ



อย่าพูดลอยๆสิ ก็เลยไม่รู้คุณพูดกับใคร

ขอโทษด้วยครับ แหะ แหะ



ของไม่ดีจะมีส่วนดี สำหรับคนที่ไม่ดีเท่านั้น

อัน นี้ ขอ แย้ง ครับ

ทุก อย่าง มี ทั้ง ดี และ ไม่ ดี

หา ยาก ที่ สิ่ง ใด จะ มี อยู่ เพียง ส่วน เดียว



ส่วนคนดีจะมองเห็นของไม่ดีว่าไม่ดี

คนดีจริง มอง แต่ ว่า มัน ทุก์ื ไม่ เที่ยง ไม่ ใช่ ตัว ไม่ ใช่ ตน ไม่ น่า ยึด ถือ ให้ เป็น ไป ดั่ง ใจ เรา



ไม่มาหาส่วนดีในของไม่ดีให้เสียเวลาหรอก

มิ ใช่ หา แต่ มอง เห็น

 

คุณฮาฯ ผมถามไปนิดเดียว

อธิบายตั้งเยอะแยะ ถามว่าอาศัยกิเลสกับเอากิเลส

ต่างกันตรงไหน???

อาศัยก็ยึด เอาก็ยึด

มันต่างกันตรงไหน???

กุศลก็ยึด อกุศลก็ยึด

มันต่างกันตรงไหน???

เวลาหมด หมดเวลา บาย

;aa24

 

คุณฮาฯ ผมถามไปนิดเดียว

อธิบายตั้งเยอะแยะ

ขอโทษจริง จริง ครับ บอก แล้ว ไง ครับ ว่า ความ รู้ น้อย นิด จริง จริง
เลย ไม่ สามารถ อธิบาย แบบ กระชับ ที่ ทำได้ ก็แบบ ที่ ตัว เองเข้าใจ

ถามว่าอาศัยกิเลสกับเอากิเลส

ต่างกันตรงไหน???

อาศัยก็ยึด เอาก็ยึด

มันต่างกันตรงไหน???

กุศลก็ยึด อกุศลก็ยึด

มันต่างกันตรงไหน???

ไม่ ใช่ ยึด ครับ

ถ้า รู้ ชัด ยัง ยึด ก็ ตัว เรา แล้ว

ก็ ไม่ ดี เรา ไม่ อยาก ได้ เรา รู้ แล้ว เรา จะ ยึด ทำ ไม

ตอน แรก ต้อง ใช้ ครับ

แต่ เมื่อ หมด ประโยชน์ ก็ ทิ้ง ครับ

เวลาหมด หมดเวลา บาย

ขอบ คุณ ที่ มา สอน ผม ครับ

 

นิโรธสมาบัติ คือ การเข้าฌานเสวยความสุขอันประเสริฐ ระงับความทุกขเวทนาทางกายเป็น<WBR>ความสุขเหนือโลก คือ โลกุตตระสุขนิพพานของพระอนาคามี และพระอรหันต์ขีณาสพทั้งหลาย เท่านั้น

<CENTER>ถ้าใครต้องการกุศลคือความฉลาดในทางธรรมะขอจงอนุโมทนาเอาเถิดท่านผูเจริญทั้งหลาย

</CENTER>
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->พระศรีเข้าสมาบัติอยู่หรือ
ท่านแสดงธรรม มีใครรับรู้ธรรมของท่านไหม
ท่านจะอธิบายธรรมว่าอะไรหนอ

โชแปงและทุก ๆ คนในสากลโลก
คืนนี้เราจะเข้าผลสมาบัติขณะจิตเดียว

แค่ทำจิตให้สงบเท่ากับช้างกระดิกหูงูแลบลิ้น
ย่อมมีอนิสงส์มากกว่าการสร้างมหาเจดีย์

นิโรธสมาบัติต้องได้สมาบัติแปดมาก่อน
ผลอันมาจากจิตเห็นจิต และดับเวทนาในกาย
เสวยวิมุตติสุขจากผลทีตนทำได้แล้วเข้านิโรธสมาบัติแล้วแต่ตามกำหนดเวลาของท่านตั้งแต่ 1 ชั่วโมง ถึง 7 วัน
อยู่ที่ฝึกยับยั้งได้นาน แต่ไม่ควร เกิน 7 วัน

 

ขอตอบแทน มุณีฮาฮา คำ สอน ของ พระพุทธองค์ ลึกซึ้ง จริง จริง

ทราบ ซึ้ง แล้ว สาธุลูกพระพุทธเจ้า<!-- / message --><!-- sig -->