สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ALOHA

จิต ไม่ ใช่ จิต

จิต ไหม้ ใช่ จิต

ใช่ จิต ไหม้ จิต

ไม่ ไหม้ ใช่ จิต

จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต

จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต

จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต

จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต

จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต จิต หลาย จิต ไม่ ใช่ จิต.

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>โชแปง, sriaraya5


สวัสดีพระสี สบายดีไหม
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คุณมุณีฮา เค้าคบแต่บัณฑิตทางธรรม ธรรมที่แท้จริง
เค้ารู้ จากการครบหาบัณฑิต และก็นำไปปฏิบัติ

จนรู้เอง เห็นเอง ไม่ใช่ธรรมภูตอยู่ที่การอ่าน จำ นึกคิดเองเออเองจนสำคัญตัวว่าใช่

มุณีฮาคนพาลที่เป็นพาลปุถุชน ผู้หนาแน่นไปด้วยกิเลส

มุณีฮา เธอเห็นแล้ว ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นพระพุทธเจ้า.

 

ท่านโชแปง ผมสบายดี ขันธ์ห้าไม่มีที่ผม

ท่านโชแปงหาที่อยู่ได้รึยังครับ

 

ก็อยู่มันตรงหน้านั่นแหละท่าน

เล่าให้ฟังหน่อยสิท่าน ใจเป็นอย่างไร ยามไม่ม่มีขันธ์

 

ท่านยังขาดสตินะ ข้างหน้ามันใช่ธรรมะที่ไหน

ผมถามว่า หาที่อยู่ของใจได้ยัง

ที่ตั้งของใจ

 

ข้างหน้า ข้างหลัง ข้างข้าง ข้างบน ข้างล่าง

ทุกสิ่งล้วนเป็นธรรมะทั้งสิ้น

ใจที่มีธรรมะ ตั้งตรงไหนก็เป็นธรรมะ

ใจที่ไม่มีธรรมะ หาที่ตั้งเท่าไหร่ ก็หาไม่เจอ...

 

ถ้าจะคุยเซ็น โน่น ไปเล่นคำถาม งูตกถังขยะฉกอะไร นั่นแหละดีกว่า
กิเลสกองเท่าภูเขา ยังจะมาคุยทัสนะ

"กว้างไม่มี ยาวไม่มี ใจท่านเองที่ไหวไปบ้าง" ถามหน่อยว่า มันช่วยอะไรได้กับการดับกิเลส

จริงๆแล้วพวกที่อ่าน เว่ยหลาง หรือ ฮวงโป หรือ รินไซ ต้องไปดูประวัติศาสตร์ให้ดีว่า
ประวัติศาสตร์นี้ สามารถบิดเบือนได้ ก็ต่อเมื่อ ในยุคนั้น คนที่ครองกระแสส่วนมากได้คือใคร

เช่นเดียวกันว่า ถ้าวันนั้น คนที่โต้แย้งกับใบไม้นอกกำมือ แล้วไม่ปรากฎผลว่าใบไม้นอกกำมือผิด ใบไม้นอกกำมือก็คือผู้ที่ถูกต้อง ประวัติศาสตร์ก็จะเข้าใจแบบนั้น

ก็เช่นเดียวกัน ในพระสูตรของเว่ยหลาง กล่าวว่า ชินเชา ที่กล่าวถ้อยคำว่า กระจกขุ่นมัว ต้องคอยปัด นั่นแหละอาจารย์ชินเชาพูดถูกแล้ว
ส่วน เว่ยหลาง บอกว่า ไม่มีกระจก แล้วจะปัดอะไร

ผมในฐานะ เข้าข้างท่านอาจารย์ชินเชา ก็จะบอกว่า ไปทำให้ไม่มีกระจกก่อนแล้วค่อยมาพูด
ทีนี้ คนเรามันชอบไปทางกิเลส คืออะไรที่ หวือหวา เป็นของใหม่ก็รู้สึกวูปวาบ ก็ทัสนะของท่านเว่ยหลางคือของใหม่ คนก็ชอบ
พอชอบของใหม่ ก็กลายเป็นว่า ลืมของเก่า

หลวงตามหาบัว กล่าวไว้ชัดเจนว่า พวกบอกว่า บาปไม่มีนรกไม่มีนั้น พวกหูหนวกตาบอด
ก็พระพุทธเจ้าบอกว่ามี มันจะเอาทัสนะอันเป็นที่สุดมาพูดได้อย่างไรว่าไม่มี
กุศลไม่มี อกุศลไม่มี นี้พวกยึดมั่นถือมั่นในทัสนะตนให้มันดูหรูหรา แต่หลอกตัวเอง

ขนาดพระอรหันต์ท่านมาบอกว่า นรกมี บุญมี บาปมี พระพุทธเจ้าทุกพระองค์สอนให้ ทำกุศล ให้ละอกุศล และทำจิตให้ผ่องใส

ขอพาดพิง

ก็โกหกได้หน้าด้านๆ ไง นั่นแหละพวกไม่มีขันธ์ฺ

สกปรกนะไอ้พวกนี้

 

อ้าว....อริยะไซเบอร์

ยังด่าชาวบ้านไม่เสร็จอีกเหรอ
แจกนรกซะมันส์เลยนะ

ติดภารกิจซะหลายวันเลยไม่ได้มาตอบเรื่องสังขารุเปกขาญาณ
คงไม่มีใครอยากทราบแล้วมั้ง ถ้าอย่างนั้นคงไม่จำเป็นต้องตอบ

แต่มีคำถามมาถามอริยะไซเบอร์
เพราะนึกขึ้นได้ว่าชื่อกระทู้นี้ ชื่อสัมมาทิฏฐิ
ซึ่งมีความสัมพันธ์กับสังขารุเปกขาญาณอย่างมาก

จึงอยากถามอริยะไซเบอร์ว่า
สัมมาทิฏฐิ กับ สังขารุเปกขาญาณ
มีความสัมพันธ์กันอย่างไรในเชิงลึก

หายไปตั้งหลายวันนึกว่าอริยะไซเบอร์จะกล้าตอบ
ว่าสังขารุเปกขาญาณเป็นยังไง แล้วเป็นการปล่อยวางอะไร
กลับมาดูก็ไม่เห็นมาตอบ

ไม่กล้าจริงซะด้วย....

 

ท่านเข้าใจจิตพระอรหันต์ดีแค่ไหน

มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นต้น

ธรรมะที่มุ่งแสดงออกไป เป็นธรรมะที่เหมาะกับภูมิ
พระอรหันตมรรค บาปไม่บุญไม่มี นรกไม่มีสวรรค์ไม่มีพรหมไม่มี นิพพานไม่มี เมื่อพระอรหันตผลบังเกิดขึ้น ก็เป็นอันสิ้นอาสวะ

ที่พระอรหันต์ท่านบอกว่า นรกมี บุญมี บาปมี พระพุทธเจ้าทุกพระองค์สอนให้ ทำกุศล ให้ละอกุศล และทำจิตให้ผ่องใส

เพราะผู้ที่ยังหนาแน่นไปด้วยกิเลส จะสอน หรือแสดงธรรมะ
แบบปัญญาวิมุตติ ยังไม่ได้ ต้องให้ ละกิเลสอย่างหยาบ
กิเลสอย่างกลาง จนถึงละกิเลสอย่างละเอียด

ที่ไม่มุ่งแสดงปัญญาวิมุตติ ให้ปุถุชนคนหนา ก็ถ้าหากเขาไม่เชื่อในสิ่งที่เราสอนเพราะยังเป็นผู้เขลาเบาปัญญา แล้วยังไปทำประชดประชัน ก็จะมีแต่เสียนิสัยพระอรหันต์ ไม่อาจพ้นทุกข์พ้นภัยใน วัฏจักรสงสาร .

ถ้าปุถุชนคนหนาแน่น ไม่เชื่อว่านรกมี สวรรค์มี พรหมมี นิพพานมี และเค้าก็ไม่ได้ประชดประชันเพราะได้ฟังพระอรหันต์แสดงธรรมให้ฟัง เค้าก็เสมอตัว กรรมจะจัดสันนำสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมเกิดเอง แก่ เจ็บ ตาย เป็นของ<WBR>ธรรมดา.

ถ้าปุถุชนคนหนาแน่นไปด้วยกิเลส มาได้ฟังธรรมะของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และหล่าอรหันต์ทั้งหลาย ก็จะเห็น
เป็นอัศจรรย์ พระผู้มีพระภาคตรัสอนุบุพพิกถาให้ปุถุชนฟัง ทรงพรรณานา เรื่องทาน<WBR>กถา ศีลกถา สัคคกถา โทษแห่งกามอันต่ำทราม เศร้าหมอง อานิสงส์ในเนกขัมมะ สมัยนี้ก็บวชใจเอา
กึ่งบวช กึ่งบำเพ็ญ ขัดเกลากิเลส จะเห็นว่ายุคนี้ง่ายที่สุด ธรรมะเข้าสู่ครอบครัว ครัวเรือน.

 

ธรรมภูต<O</O
คุณฮาฯ ที่พูดมานี้คุณกำลังจะสื่อให้
ผมเข้าใจว่าคุณทำได้หมดแล้วใช่มั้ย???
ถ้ารู้ชัดยึดก็ตัวเราแล้ว เราอะใครครับ???
ศรีตอบ<O</O
เราในที่ นี้คือปัญญาที่รู้รอบในกองสังขารขันธ์<O</O
<O</O

คุณศรีฯ ปัญญาตั้งอยู่ลอยๆไม่ได้นะครับ<O</O
ใครกันที่มีปัญญาที่รอบรู้กองสังขาร???
...<O

ธรรมภูต<O</O
อ้าวคุณบอกเองไม่ใช่หรือครับว่า
ในส่วนไม่ดีมีส่วนดีอยู่ แล้วทำไมจึงไม่อยากได้???
ศรีตอบ<O</O
ความหิวของจิตนี้ เพื่อเจริญมรรคเบื้องสูงต่อไป<O</O
<O</O

คุณศรีฯคนละประเด็นครับ คุณฮาฯบอกว่าในไม่ดีย่อมมีดีอยู่<O</O
ผมก็ตอบไปว่า คนไม่ดีเท่านั้นเห็นสิ่งดีในสิ่งไม่ดี<O</O
คุณฮาฯตอบ รู้ว่าไม่ดี ก็จึงไม่อยาก<O</O
ผมถามต่อว่าในส่วนไม่ดีมีส่วนดีอยู่ แล้วทำไมจึงไม่อยากได้???<O</O
<O</O

คุณศรีฯ คุณตอบว่า

 

ขอ ตอบ รวบ เลย นะ ครับ

แค่ เอา กับ อาศัย

อุป มา เหมือน กับ เด็ก น้อย กำ ลัง ศึก ษา วิ ชา ไป ไหน ก็ แบก ตำ รา ไป ด้วย เพื่อ เทียบ เคียง กับ สิ่ง ที่ ยัง ไม่ รู้ ชัด

แต่ พอ เด็ก น้อย ศึก ษา จน ช่ำ ชอง รู้ แจ้ง แล้ว ใน เรื่อง นั้น

จะ มี ประโยชน์อะไรอีกเล่าที่จะต้องคอยแบกตำราของเรื่องนั้นไว้ให้หนักเหนื่อย

ก่อน การ ประ กาศ ศาสนา ของ องค์พระศาสดา นั้น

ยัง ไม่ มี ผู้ ใด หรือ อาจ มี ที่ จะ พิจารณา ถึง อริยะสัจที่ทรงประกาศไว้

แต่ ที่ ผ่าน มา ก็ เป็น ผล ให้ รู้ ว่า มัน ไม่ ถึง ที่ สุด ถ้า ไม่ มี ที่ ผ่าน มา จะ รู้ ได้ อย่าง ไร ว่า ยัง มี ที่ ดี กว่า ประณีต กว่า

สำนักไหน ก็ มี อุบายในการทำสมาธิเพื่อเข้าถึง จิตระดับหนึ่ง ที่ ไม่ เหมือน กัน

ถ้า คุณ มอง ทั้ง 40 กอง เมื่อ ไป ถึง ที่ สุด ที่สุดจริงจริงนะ ไม่ ใช่ หยุด แค่ ฤทธิ์

มัน จะ ไป สู่ อารมณ์ ที่ ละ เอียดลึกซึ้ง เหมาะควรแก่การ ใช้ งาน เหมือน กัน เเทบ ทั้ง หมด

 

ใน 40 กอง บางอย่างก็เป็นสมถะ บางอย่างก็เป็นทั้งสมถะและวิปัสสนา

ต้องดูให้ดีอีกทีหนึ่ง

หากต้องการแค่สมถะ กองใดก็ได้

หากต้องการสมถะวิปัสสนา ตัวเลือกก็น้อยลง...

 

จริงๆ แล้ว กรรมฐาน 40 กองเป็น สมถะ หมด
เพียงแต่ว่า ผู้ใช้จะมีภูมิวิปัสสนา ถึง พอที่จะไปเลือกใช้กรรมฐานนั้นได้เต็มรูปแบบหรือไม่

ยกตัวอย่างเช่น อานาปานสติภาวนา เป็น สมถะ แต่ผุ้ที่ผ่านวิปัสสนา ดูรูปนาม แล้วเท่านั้นจึงจะเห็น นามธรรมในจิตที่ละเอียดได้

การยกนามธรรมนั้นขึ้นเห็น แล้วปล่อยผ่านไป จึงเป็นสมถะ เพราะไม่ได้พิจารณาใน ลักษณะของ ธรรมชาติ แห่ง รูปนามนั้นเลย จิตนั้นไม่ได้น้อมเข้าสู่ ความเห็นจริง เพราะจิตขณะนั้นไม่ได้พิจารณา คงรู้อย่างเดียว อันเป็น สมถะกรรมฐาน แต่เจริญสติเข้าด้วยกัน

สรุปว่า ถ้าหยุดเพ่งเป็นกิริยาอาการแห่ง สมาธิ
วิธีการหยุดเพ่งมองสิ่งเหล่านั้นเหล่านั้นเรียกว่า สมถะ

ถ้า วิปัสสนา คือ การแตกออกด้วยปัญญา คือ ออกดูว่า สิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นอย่างไร จิตออกจากอาการรวมตัว
วิปัสสนาญาณ คือ ความรู้อันเกิดจากการพิจารณาสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง การจะเห็นจริงได้ ก็ต้องสืบสาวราวเรื่องจากอดีต อนาคต มาจนถึง ปัจจุบันขณะ แล้วจึงจะเห็นความจริง ในปัจจุบันขณะนั้น เรียกว่า ญาณ เกิด

อาการโดยกว้าง อาการโดยแคบ ก็เป็นวิปัสสนาหมด หากว่า เคลื่อนออกดูสรรพสิ่ง อย่างเคลื่อนไหว ไม่ได้หยุดนิ่ง

อาการโดยกว้าง อาการโดยแคบ ก็เป็นสมถะหมด หากว่า หยุดเพ่งดูสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างไม่เคลื่อนไหว

อานาปานสติ นั้น คือ สมถะ แต่ว่ามีสติกำกับเพื่อละ สรรพรูปนาม โดยจะต้องผ่านวิปัสสนามาแล้ว ตั้งใจจะกระทำ เพื่อหยั่งลงสู่ องค์ สัมมาสติ และ สัมมาสมาธิ ของอริยมรรค

ลองไปพิจารณา

 

เปรียบได้กับลูกโป่ง ที่มีแต่อากาศที่ว่างเปล่า

 

กรี๊สสสส... เธอ เปลี่ยนไป๋ นะ... (ขออภัยเก็บอาการไม่อยู่)

 

ด้วยแรงใจที่เปลี่ยมล้น. ฉันจึงรักเธอ

ที่ผ่านแล้ว เมื่ออาทิตย์ที่ 29 มีนาคม

ผมก็ไปดูการแสดงคอนเสิร์ตน้องแคท เพื่อให้เกิดความ<WBR>เพลิดเพลิน ผ่อนคลายความตึงเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ
ผลแรกที่เกิดกับชีวิตของผม รู้สึกกำลังใจเต็ม คำปลอบโยนเต็มเปลี่ยม ไม่มีซักคำที่จะว่า หรือกดดัน เพราะเป็นเพลงที่
ผ่อนคราย และสามารถนั่งสมาธิเพ่งเสียงและแสง ธรรมวิถีกวนอิม เป็นยังงี้ไงครับ.

 

พระสีอานไปดูคอนเสิร์ตน้องแคทเพื่อผ่อนคลายด้วย อิอิ