สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

กั๊ก กั๊ก กั๊ก ท่านรวิพันธ์ เกิดกำหนัด จนต้องไปหาที่ระบาย

ก้าวเท้าออกจากบ้าน ก็กอดคำว่า วิถีกวนอิม ไปด้วยเพื่อ
ที่จะได้ทำเป็นไม่เห็น กำหนัด ที่มันกินตั้งแต่ต้นจิตคิด

 

หูย... อรชุน

 

มึน...ตามอ่านไม่ทัน เรยแฮะ

 

คุณฮาฯ จนแล้วจนรอด คุณก็ยังตอบให้ตรงประเด็นไม่ได้อยู่ดี
ฉะนั้นคิดจะวิพากษ์หรือตั้งข้อสงสัย ข้อสังเกตแล้ว ควรตอบให้ตรงประเด็นครับ

ผมขอย้ำครับคำว่า อาศัยธรรม กับ เอาธรรม ต่างกันตรงไหน????
ส่วนกรรมฐาน๔๐นั้น คุณก็เลิกคิดเองเออเองได้แล้วครับ
อันนี้คุณวิมุตติพูดถูกครับ ทั้ง๔๐กองให้ผลสุดท้ายไม่เท่ากันครับ

ในพระสูตรมหาสติปัฏฐาน มีกล่าวถึงองค์กรรมฐานเพียงแค่ ๒๑บรรพะเท่านั้น
เริ่มจากอานาปานสติเป็นบาทฐานของทุกองค์กรรมฐานเท่านั้นครับ

;aa24

 

ธรรมภูต
คุณศรีฯ บ่นอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลย
เราถามแล้ว เธอยังลังเล ?
ใครถามใครลังเล?
คนที่ปฏิบัติจนกระทั่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ผุดขึ้นมาเองที่จิตแล้ว
จะมีอะไรทำให้ลังเลสงสัยได้อีกเหรอ???

ศรีตอบ
<O</Oผมเตือนคุณมาตลอดว่าคุณไม่ใช่พระอรหันต์ เป็นแต่กำมะลอ
ถึงระนาบเดียวกันยังไงเสีย ก็ต้องพอจะสังเกตเห็นบ้าง ถ้าไม่อคติ
เกินไปจนปิดบังตาในจนบอดสนิท.

*คุณศรีฯ คุณลืมกินยามาหรือยังต้องไปรับการรักษาอยู่หรือเปล่า???
ตกลงใครกันแน่ครับที่เป็นสุดยอดแห่งความกำมะลอ???
คุณไปเอาหลักฐานมาด้วยครับว่า
ผมไปอวดตนเองว่าเป็นพระอรหันต์ที่ไหน
เลิกมั่วได้แล้วครับ มันไม่ได้ช่วยให้คุณดูดีขึ้นจากคนธรรมดาเลย
คุณเตือนอะไรผมบ้างครับ??? มีแต่กล่าวร้ายไว้ก่อน

เท่าที่ผมจำได้ผมเพียงพูดว่า

 

ศรีตอบ
เราในที่ นี้คือปัญญาที่รู้รอบในกองสังขารขันธ์

ศรีตอบ
สัพเพสังขารา จนกระทั่งสัพเพธัมมา เรื่องสัพเพ ธัมมา อนัตตา นี้เป็นการรวบยอด
ที่ว่าเห็นสภาพของสังขารที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ แล้วก็เป็นอนัตตา
คุณธรรมภูต อย่าเที่ยวหาพระอรหันต์นอกตัวให้เลียเวลาอีกเลย

*คุณศรีฯ จะโม้อะไรคงไม่มีใครเค้าว่าหรอก
แต่อย่าใช้วิธีที่เลียนแบบกันมาคือกล่าวร้ายไว้ก่อนสิ มันไม่ดี
ดูแล้วไม่เหลือความเป็นอริยะอยู่เลย
คุณรู้ได้อย่างไรว่า ผมเที่ยวค้นหาพระอรหันต์ภายนอกขันธ์๕
เอาหลักฐานมาด้วยครับ
พูดลอยๆแบบนี้ใครๆในบอร์ดโดยเฉพาะพวกชอบแถเค้าทำกัน

;aa24<O</O
<O

 

ธรรมภูต<O</O
คุณศรีฯ ปัญญาตั้งอยู่ลอยๆไม่ได้นะครับ
ใครกันที่มีปัญญาที่รอบรู้กองสังขาร???

<O
ศรีตอบ<O</O
สติ-สมาธิ-ปัญญา-สตินทรีย์-สติวินโย-มหาปัญญา.
กระบวนการเจริญสติสัมปชัญญะ-สมาธิ-ปัญญา ดำเนินไปจนถึงขั้นมหาสติ-มหาปัญญา เพื่อการตรัสรู้ <O</O
<O
*คุณจะตอบมั่วอะไรของคุณอีก?งง คำถามผมพอสรุปได้ว่า<O</O
ใครกันที่มีปัญญาที่รอบรู้กองสังขาร??? ถ้าไม่ใช่จิต?<O</O
สติปัญญาตั้งอยู่ที่ไหน??? ถ้าไม่ใช่จิต? <O</O
<O
เพื่อการตรัสรู้หนะ กายเน่าๆหรือจิตเป็นผู้ตรัสรู้???<O</O
คำว่า

 

ศรีตอบ
ความหิวของจิตนี้ เพื่อเจริญมรรคเบื้องสูงต่อไป
ตอบพระสัจทธรรม ก็เปรียบด้วยน้ำอมตฤทธิ์ ผู้ได้ดื่มกิน ก็จะไม่รู้หิวกระหายอีกเลย
<O
*คุณศรีฯ จะตอบอะไรให้อยู่กับร่องกับรอยหน่อย <O
คุณเปรียบเทียบของคุณเองเออเอง<O
ใครเค้าจะไปรู้กับคุณด้วยหละ<O
พระสัจจธรรมเปรียบเหมือนน้ำอมฤต ผู้ใดได้ดื่มกิน<O
ผู้นั้นย่อมไม่ตาย เมื่อไม่ตายก็ไม่เกิด ก็เป็นอมตะ<O
มันเกี่ยวอะไรหิวหรือไม่หิวหละ เลิกแถได้แล้วจ้า

;aa24 <O

 

ศรีตอบ<O</O
ก็วันที่พระบรมศาสดา ตรัสรู้ ได้เห็นด้วยพระปัญญาอันยิ่ง ว่าทุกข์กับสุขติดกันอยู่
เมื่อจะละแต่ทุกข์ ก็ไปติดสุข พระองค์จึงพรากสุขออกจากทุกข์ เมื่อละสุขเป็นอันทุกข์ก็ละไปด้วย
พระนิพพานจึงเข้ามาแทนที่จิต เป็นผู้ไกลจากข้าศึกคือกิเลส

<O</O*คุณศรีฯ ถ้าจะตอบแบบแถอมตะจริงๆ <O</O
ถามตรงๆเถอะคุณปฏิบัติยังไงของคุณกันแน่ <O</O
ถึงกับไม่รู้จริงๆหรือว่า สภาวธรรมไหนเกิดก่อนหลัง <O</O
พูดมาได้พระองค์พรากสุขออกจากทุกข์ มีแต่ละเหตุแห่งทุกข์ได้จึงมีสุข <O</O
เมื่อรู้เห็นตามความเป็นจริงว่าแม้สุขก็ไม่เที่ยง เกิดความเบื่อหน่าย <O</O
เมื่อเบื่อหน่ายก็คลายกำหนัด...จิตก็หลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่น<O</O
<O
พูดมาได้ว่าพระนิพพานมาแทนที่จิต รู้หรือเปล่า??? คำว่านิพพานคือคุณลักษณะ?

;aa24

 

ธรรมภูต
คุณศรีฯ คุณตอบว่า

 

ศรีตอบ
ให้ถือใจแค่รู้ทุกข์ กับสุข บาปบุญ คุณโทษร้ายดี ก็พอ
บาปบุญเป็นของสมมติที่พระศาสดาใช้สำหรับ สอนกันแต่ในโลกนี้เท่านั้น
ถ้าจะไปนิพพาน ต้องวางโลกุตระให้เสียสิ้น<O
<O
*คุณศรีฯ เชื่อผมเถอะ จำไว้นะ เมื่อผิดแล้วอย่าตามแก้ เพราะยิ่งแก้จะยิ่งเละ<O
เหมือนผมเคยเตือนใครไปสักคนก่อนหน้านั้น แต่ไม่เชื่อผลเป็นยังไง? ยิ่งแก้ก็ยิ่งเละ?<O
ผิดแล้วหยุดเริ่มของถูกใหม่ ไม่ดีกว่าหรือ<O
<O
คุณพูดมาได้ไงว่า

 

ถ้าตอบอย่างนี้ผิด

สติ และ ปัญญา นี่ถ้าผู้ที่รู้ชัดเห็นชัดนี่ จะรู้ว่าออกมาจากจิต
ส่วนที่ตั้งสติปัญญาพิจารณาเรื่องอะไร ก็ตั้งอยู่ที่นั่น
พิจารณากายตั้งอยู่ที่กาย
พิจารณาเวทนาตั้งอยู่ที่เวทนา
พิจารณาที่จิตตั้งอยู่ที่จิต
พิจารณาที่ธรรมตั้งอยู่ที่ธรรม

ที่ถูกต้องเป็นแบบนี้

ส่วนผู้ที่รอบรู้กองสังขารคือจิตนี้ถูกต้อง
รู้ด้วยการพิจารณาของสติปัญญา

 

ศรีตอบ
ปัญญาในที่นี้ แบ่งเป็น 2
ปัญญาโลกียะ เป็นปัญญาที่ตีบตันมักไหลไปในทางต่ำเสมอ ๆ จนคนที่เรียนจบปริญญายังคิดสั้นฆ่าตัวตาย
ดร.ผิดหวังจากความรัก ก็จบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตายหรือเป็นสาเหตุให้คนรักตาย ฆ่าแกงกันด้วยความหึงหวง
กับปัญญาโลกุตระ ไม่ได้เอาจิตเอาใจไปผูกกับความมีตัวมีตน ของตนเอง ของคนอื่น
มีแต่คิดบวก ถ้ากิเลสยังไม่หมดเราจะไม่ประมาท <O
<O
คุณจะแก้ตัวเพื่ออะไรครับ???งง<O
ปัญญาทางโลก กับ ปัญญาทางธรรมต่างกันโดยสิ้นเชิงใครๆก็รู้<O</O
ผมเห็นแต่คุณนี่แหล่ะที่ไม่รู้ พูดมาได้

 

ศรีตอบ
มหาสิต มหาปัญญา จะตอบอะไร ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาจูงจมูก
และก็ไม่เห็นมีความจำเป็นจะต้องตอบ เพื่อสนองกิเลสของใคร<O</O
<O</O
<O</O

คุณศรีฯ คุณจะตอบหรือไม่ตอบก็ได้ เป็นสิทธิส่วนบุคคล<O</O
ไม่มีใครเค้าไปบังคับคุณได้หรอกครับ<O</O
ที่คุณพยายามตอบเพื่อแก้ให้กับตัวเอง<O</O
ก็เป็นการชี้ให้เห็นอยู่แล้วว่าคุณตอบเพื่อสนองต่อกิเลสตัวเองเท่านั้น <O</O
<O</O

ยังจะทำโก้เสียอีกว่าไม่จำเป็นต้องตอบ <O</O
เพื่อสนองกิเลสใคร???ไม่ต้องแก้ขวยก็ไม่มีใครเค้าว่าหรอกครับ....

;aa24<O

 

แหะ แหะ

คุณ ธรรม ภูติ ครับ

ผม ได้ ตอบ ตาม ที่ ผม รู้ ไป หมด แล้ว ครับ

ถ้า ไม่ ถูก ต้อง ก็ ตาม นั้น ครับ

คง ไม่ มี อะ ไร เพิ่ม เติม

เพราะ เพิ่ม ไป มัน คง วน วน อยู่ ที่ เดิม เพราะ ว่า ผม ยัง รู้ น้อย อยู่ ครับ

ขอบ คุณ ที่ เข้า มา สอน ผม ครับ

มี โอกาศ คง ได้ สนทนากันอีก

 

ดีแล้ว ที่ยอมรับว่าตนเองรู้น้อย ไม่ใช่น้อยธรรมดา น้อยมากๆ
ต้องไปฝึกสมาธิ ให้มากกว่านี้ ปัญญาจะได้กระจ่างกว่านี้
ผมแนะนำด้วยความหวังดี สวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกให้มาก แล้วอย่าพูดเรื่อยเปื่อย แล้วจะฉลาด

 

ผมเพิ่งรู้หนะว่าปัจจุบันนี้ พวกอริยตราตั้งทั้งหลาย
ทั้งที่ตั้งตัวเองหรือคนอื่นแต่งตั้งให้
ใช้วิธีการปฏิบัติธรรมโดยไปนั่งดูคอนเสิร์ต
เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ!!!!งง

ในอดีตครูบาอาจารย์แต่เก่าก่อน ท่านสอนให้นั่งสมาธิ
เพื่อผ่อนคลายความตึงเดรียดและปล่อยวาง
ทำให้จิตสงบโดยการระลึกรู้อยู่แต่ที่จุดลมกระทบเท่านั้น
อย่าให้จิตแลบออกจากฐาน เพื่อไปรับอารมณ์ความตึงเครียด
เป็นการปล่อยวางความฟุ้งซ่านไปในตนเองครับ

ขอเถอะคุณศรีฯ ตัวเองอยากไปเอง ก็อย่าอ้างกวนองกวนอิมเลย
ท่านเสียหายหมด กวนอิมที่ไหนไปนั่งดูคอนเสิร์ต...

;aa24

 

อาจานเกสท์ ถ้าตอบอย่างนี้ไม่ผิดหรอกครับ

แต่ในการปฏิบัติจริง สภาวธรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะนั้น
ตามความเป็นจริงแล้ว แต่ละครั้งแต่ละขณะ
ยังได้ไม่เสมอกันเลยเพราะ ความสงบตั้งมั่นของจิต
ในแต่ละครั้งยังไม่เท่านั้นกัน?

ฉะนั้นการพิจารณาในหมวดธรรมทั้ง๔ดังที่กล่าวมา
จิตเกิดหวั่นไหวไปตามสภาวธรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะ
ทำอย่างไรจิตจึงจะสงบตั้งมั่นได้อย่างรวดเร็ว?

ธรรมทั้งหลายล้วนรวมลงที่จิต
ไม่เว้นแม้แต่สติและปัญญาใชมั้ยครับ?

;aa24

 

คุณธรรมภูต
ถ้ายอมรับความจริง
ก็ตรงต่อธรรม
ตรงต่อจอมศาสดา

 

ธรรมะเรายังละประสาอะไรกับอธรรม