สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 5 มีนาคม 2009.

  1. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ตอบถูก แต่คะแนนจิตนิสัยแย่มาก

    ตอบถูกก็ไม่ใช่ว่านายทำได้

    คนแบบนายมีล้นโลกสงสาร

    ผู้ยังไม่ตกกระแสนิพพาน
     
  2. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ตอบผิด ตอบใหม่ได้ แต่คะแนนจิตนิสัยอาจดีขึ้น
    ถ้าทำไม่ได้ จะตอบถูกได้อย่างไร
    ถ้าตอบวกไปเวียนมา จะบอกว่าถูกต้องได้อย่างไร
    คนแบบนายมีมากล้นไม่พ้นโอฆสงสาร
    ผู้ไม่เคยสัมผัสกระแสนิพพาน ย่อมหลงตนเองเป็นธรรมดา

    (smile)
     
  3. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    หรือบางทีชายผู้นี้จะได้เฝ้าพระศาสดาอยู่แล้วตลอดคืน โดยไม่รู้สึกแม้สักน้อยว่าเป็น พระพุทธเจ้า?”

    อุปมาอุปมัยได้กับ

    “อาคันตุกะ กามนิตเป็น ผู้โง่ที่หลงผิดคล้ายเด็กที่ดื้อ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ชายอาคันตุกะผู้นี้สืบเสาะหาเรา เพื่อจะขอเป็นสาวกศึกษาหลักธรรม เราตถาคตเล็งเห็นอุปนิสัยแล้ว จึ่งแสดงหลักธรรมพอเป็นปัจจัย ในที่สุดก็สมเหตุ คือเขาแสดงความไม่พอใจ ดิ้นรนใฝ่มุ่งอยู่ในกามสุขทิพยารมณ์

    “ศาสดา ย่อมไม่กระหายอยากได้ศิษย์ แต่ศิษย์ต้องกระหายอยากได้ ศาสดา เอง” และบอกว่า อยากได้ ศาสดา ที่เป็น ผู้พ้นแล้วจากความกระหายอยากได้ศิษย์
    เมื่อถูกถามว่า “ก็ใครเล่า ท่านยกย่อง ที่กระหาย อยากได้เป็น ศาสดา
    กามนิต ตอบว่า “ข้าแต่ภารดา ผู้ซึ่งข้าพเจ้าอยากได้เป็น ศาสดา นั้น คือ พระสมณโคดมศากยบุตร ผู้สละสมบัติแห่งศากยราชออกบรรพชาแล้ว พระสมณโคดมพระองค์นี้ มีเกียรติศัพท์อันดีงามเฟื่องฟุ้งทั่วไปว่า เป็นพระผู้ซึ่งไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็น พระอรหันต์ เป็น ผู้บริสุทธิ์ รู้แจ้งในสิ่งทั้งปวง เป็น พระศาสดาของเทวดาและมนุษย์ เป็น ผู้ตรัสรู้มีปรีชาสามารถ คือ พระพุทธเจ้า ที่ข้าพเจ้าเดินทางมานี้ก็เพื่อจะเฝ้าพระผู้ซึ่งไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า และถวายตนเป็นศิษย์”


    พระพุทธองค์ทรงตรัสถามว่า “ดูก่อนผู้จารึกแสวงบุณย์ ก็ พระผู้ซึ่งไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นผู้ตรัสรู้แล้วนั้น บัดนี้อยู่ที่ไหน ?”

    http://www.rta.mi.th/chukiat/story/canika.html

    http://www.rta.mi.th/chukiat/story/kamanits_wife.html

    http://www.rta.mi.th/chukiat/story/kamanits_see.html

    http://www.rta.mi.th/chukiat/story/see_vasitty.html

    http://www.rta.mi.th/chukiat/story/kamanit_love.html

    http://www.rta.mi.th/chukiat/story/main_kamanit.htm

    http://www.rta.mi.th/chukiat/story/tamma_1.htm

    http://www.rta.mi.th/chukiat/story/child1.html

    http://www.rta.mi.th/chukiat/story/kan_kamanit.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2009
  4. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    อุปมาอุปมัยได้กับ

    การใช้ คนโง่ ให้เข้าไปตรวจดู ห้องโถงห้องหนึ่ง ที่ ไม่มีใครอยู่ที่นั่น ในขณะนั้น
    ว่า มีคนอยู่หรือไม่

    คนโง่ คนนั้นก็ย่อมบอกผู้ใช้ให้เข้าไปดูอย่างหน้าตาเฉยว่า
    ไม่มีคนอยู่ในห้องโถงเลยสักคน

    คนที่โง่ด้วยกันก็พากันเชื่อว่าเป็นความจริง

    แต่ผู้มีสติปัญญาย่อมไม่เชื่อคำบอกเล่า อันนั้น
    เพราะคนเข้าไปดูนั้นลืมนับตัวเองว่า
    ตัวเอง ก็คือ คนที่อยู่ในห้องโถง ด้วยเหมือนกัน

    (smile)
     
  5. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    สวัสดีท่านศรี ท่านสวนัง ท่านธรรมภูต อันว่าความฟุ้งซ่าน ความหดหู่ เหล่านี้ ท่านเห็น และทำเช่นไร เมื่ออาการข้างต้น เกิดขึ้น ^-^
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ทำอย่างไร เดี๋ยวผมตอบแทนให้

    ก่อนอื่น ต้องสำรวมใจ สำรวมวาจา สำรวมการกระทำก่อน เวลามันฟุ้งซ่านนะครับ

    เมื่อสำรวมแล้ว เรียกว่า ประหยัดกิริยา วาจา และใจ ก็ให้น้อมลงมาที่ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ และ สังฆานุสติ สวดมนต์ เอาใจแนบไปกับคำบริกรรม

    นี่หัดทำให้มาก จินนี่ มันจะได้ฉลาดขึ้นมาบ้าง
     
  7. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ใช่ ต้องสำรวมก่อน แม้ไม่เห็นเหตุ ก็สำรวมไป มันก็ระงับไว้ได้ แม้เห็นเหตุ จึงสำรวม มันก็ถูก

    มันได้ทั้งสิ้น จะเข้าสมถะ หรือจะวิปัสสนา ^-^
     
  8. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ประเดี๋ยวมันก็ดับไปเองแหละครับjinny95

    ความฟุ้งซ่าน ความหดหู่ เหล่านี้
     
  9. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ตถาคตไม่มีขึ้น ไม่มีลง ตถาคตย่อมพ้นจากคนโง่

    ธรรมะสวนัง เธอได้ตอบปัญหาตถาคตแล้วไม่ใช่หรือ

    ตถาคตที่เธอเห็นคืออะไร ถ้าไม่นับรูปนามที่สมมติ

    ตถาคตไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น อย่างที่ธรรมะสวนัง กำลังประมาทพระปัญญาคุณ

    ของพระพุทธเจ้า ตถาคตลาขาดจากอาการโง่ตั้งแต่ ตรัสรู้อันสูงสุดการบรรลุ

    อนุตตรสัมโพธิ์ได้ ต้องรู้แจ้งด้วยใจตนเอง ตถาคตก็เคยโง่มาก่อนขณะจิตเดียว


    แต่พอเห็นธรรมญาณก็เป็นอิสระจากการถูกขังตลอดกาลพ้นจากความโง่

    เราบอกท่านบอกว่า ไม่มี...แล้วจะมีอะไรมาพ้น...ในเมื่อมันไม่มี
    เราบอกท่านบอกว่า ไม่มี...เมื่อไม่มี จะพ้นด้วยอะไร...ในเมื่อมันไม่มี
    เราบอกท่านบอกว่า ไม่มี...เมื่อไม่มี จะไปอยู่ไหนได้...ในเมื่อมันไม่มี

    สรุป ณ. ตรงนั้นเองจึงไม่มีโง่ไม่มีฉลาด
     
  10. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    พิจารณาแบบละทิ้งเช่นนี้ ก็ไม่ถึงเหตุเสียที ละ ข่ม ระงับ ปลายทาง เดี๋ยวมันก็เกิดใหม่

    เหมือนต้นไม้บางอย่างที่ ตัดตรงกลาง ตัดตรงปลาย มันก็งอกเงยใหม่ได้

    เอาแบบตาลยอดด้วน ดีกว่าไหม ^-^
     
  11. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    *ศรีฯเอย ที่คุณว่าได้บอกไปแล้ว คุณบอกอะไรผมเหรอ
    ผมเห็นแต่ตอบแบบเลี่ยงๆแบบกลัวผิดและพยายามตอบแบบโชว์ตัวตนว่าได้นั่นได้นี่แล้ว
    คนที่ได้จริงๆนั้นไม่พูดวกวนเป็นน้ำในอ่างหรอก เดี๋ยวมีเดี๋ยวไม่มี เดี๋ยวใช่เดี๋ยวไม่ใช่
    เดี๋ยวเที่ยงเดี๋ยวไม่เที่ยง เอาแน่นอนไม่ได้สักอย่างเลย

    ส่วนเรื่องความเชื่อ หรือไม่เชื่อ เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะเลือกเชื่อหรือไม่เชื่อ
    ถ้าพูดได้ตรงต่อธรรมอันพระบรมครูตรัสไว้ดีแล้ว
    มีหรือที่คนอ่านเค้าจะไม่เชื่อ
    พูดในสิ่งที่มีเหตุมีผลใครไม่เชื่อก็มิจฉาทิฐิสิ
    แต่คุณพูดมานั้นมันไม่ใช่ “ภูมิธรรม”ที่คุณได้มาจากปฏิบัติเพื่อเข้าถึงและรู้แจ้งเห็นจริงนี่
    แต่เป็นเพียง“ภูมิรู้”ที่เกิดจากการอ่านจำนึกคิดจนตกผลึกแล้วเท่านั้น
    เอามาใช้ประโยชน์จริงไม่ได้หรอกเพราะยังไม่ทันอารมณ์
    ถึงบางอารมณ์ทันก็จริงแต่ก็ปล่อยวางไม่เป็น
    คนที่เค้าปฏิบัติแบบจริงจังที่ได้เพียงแค่พื้นฐานเท่านั้น
    ยังไม่ถูกแสง สี เสียง(น้องแคท)ดึงดูดไปเลยครับ
    แค่พื้นฐานยังไม่ผ่านแต่กลับชอบอวดโอ้ตัวเองเสียสูงเลิศเลอไปเลย

    เมื่อมีคนกล่าวแย้งแทนที่จะได้สำนึกและน้อมนำไปสมาทานปฏิบัติดู
    กลับกล่าวร้ายเค้าให้เสียหายโดยไม่เคยตอบให้ตรงคำถามเลย
    พยายามตอบแต่สิ่งตัวเองต้องการให้คนอื่นรู้เท่านั้น รู้แล้วได้อะไร???
    ในเมื่อถูกตั้งคำถามว่าทำอย่างไรถึงจะได้ในสิ่งที่อยากให้รู้ก็ไม่ได้รับคำตอบ???
    จะมีประโยชน์อะไรในการรู้ในสิ่งที่ทำไม่ได้???

    ศรีฯเอย อย่าลืมตอบหละ
    จิตพ้นวิเศษจากบ่วงอันเป็นทิพย์ ใช่ เพราะอะไร???
    ใช่จิตวิมุตติเป็นจิตที่หลุดพ้นจากกิเลส จิตบรรลุพระนิพพานใช่มั้ย???

    ในเมื่อจิตบรรลุพุทธภูมิได้ ทำไมจิตบรรลุพระนิพพานไม่ได้ล่ะ???
    ถ้าบรรลุแล้ว “ไม่รู้”จะบอกคนอื่นได้อย่างไรหละว่าบรรลุแล้ว???

    ;aa24
     
  12. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ศรีฯเอย
    ทุกวันนี้ความรู้ที่แท้จริงถูกบิดเบือนจาก
    พวกโง่เขลาเบาปัญญาที่พยายามขึ้นแสดงธรรม

    ซึ่งเพียงธรรมที่เกิดแต่ภูมิรู้ที่ตกผลึกแล้วเท่านั้น
    ไม่ใช่เกิดจากผลปฏิบัติอย่างแท้จริงจนได้ภูมิธรรม

    เพียงแค่จิตสงบรวมตัวลงได้เล็กๆน้อยๆเท่านั้น
    ก็เพ้อพกไปว่าตัวเองได้แล้วซึ่งอะไร
    แท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงอาการของจิตที่สงบในเบื้องต้นเท่านั้น

    ;aa24
     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ถ้าเรารู้อยู่ที่ระลึกรู้ได้ตลอดเวลาทุกลมหายใจเข้าออกแล้ว
    จะเอาอารมณ์ความฟุ้งซ่าน อารมณ์ความหงุดหงิด ความหดหู่
    เข้ามาสู่จิตได้ตอนไหน

    ต่อเมื่อเผลอสติเท่านั้น
    จิตก็แลบออกไปหาอารมณ์เหล่านั้นด้วยความเคยชิน

    เรามาสร้างความเคยชินใหม่ให้กับจิต
    เมื่ออารมณ์ต่างๆเกิดขึ้นที่จิต
    ก็น้อมนำจิตให้มารู้อยู่ที่ระลึกรู้(จิตที่มีสติกำกับ)
    อารมณ์ต่างๆก็จะถูกปล่อยวางออกไปเองเท่านั้น

    ;aa24
     
  14. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ศรีฯเอยใครกันแน่ที่กำลังประมาทในพุทธปัญญา
    ในเมื่ออะไรๆก็ไม่มี แล้วพระองค์ทรงออกผนวชเพื่ออะไร???
    เพื่อสื่งที่ไม่มีตัวตนนะเหรอ คุณกำลังสพประมาทพระพุทธองค์อยู่นะ

    พระองค์ทรงตรัสไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่า ทรงออกค้นหาอมตะธรรม
    ถ้าอมตะธรรมไม่มีตัวไม่มีตน คุณกำลังกล่าวร้ายพระองค์อยู่นะ
    เวรกรรม เวรกรรม..... แถมยังชอบแอบอ้างเป็นอาจิณอีกต่างหาก

    ;aa24
     
  15. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    ก็ เพราะ ยัง ไม่ ทรง รู้ ไง ถึง ออก ไป หา เพื่อ จะ เอา มา สงเคาระห์ สัตว์

    เฮ่อ มา ตาย ตอน จะ จบ

    ไป ว่า เขา อีก

    สิ่ง ทั้ง ปวง ไม่ ควร ยึด ถือ

    เรื่อง นี้ เน้น ย้ำ อยู่ ใน แทบ ทุก ที่

    เหมือน มัน ไม่ มี สาระ

    แต่ ถ้า ไม่ สำ คัญ ทำ ไม ต้อง ทรง ย้ำ อย่าง หนัก แน่น ใน เรื่อง นี้ ให้ พิจารณา อย่าง นี้
     
  16. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ตถาคต ลาขาดจากอาการโง่ตั้งแต่ ตรัสรู้อันสูงสุด
    การบรรลุอนุตตรสัมโพธิ์ได้ ต้องรู้แจ้งด้วยใจตนเอง

    สรุป ณ ตรงนี้เอง ต้องรู้แจ้งด้วยใจตนเอง

    (smile)
     
  17. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    haha55+ขออภัย ได้ยินที่นี่แล้วค่ะ.......ขอบคุณ

    (smile)
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณฮาฯ คุณจะชอบใครเชียร์ใคร มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ห้ามกันไม่ได้
    แต่อย่าลืมว่าพระบรมครูทรงวางหลักกาลามสูตรไว้ให้
    เพื่อเป็นหลักในการเชื่ออย่างมีเหตุผลครับ
    ไม่ใช่หลับหูหลับตาเชื่อโดยไม่คำนึงถึงหลักเหตุผล ว่าสิ่งที่พูดมามีเหตุผลมั้ย???

    ถ้าพระพุทธศาสนาของพวกเราชาวพุทธขาดซึ่งเหตุผลแล้ว
    เมื่อพูดไปแล้วใครจะเชื่อหละครับ
    พระบรมครูท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นศาสดาเอกของโลก
    แล้วธรรมะที่ท่านทรงนำมาเผยแผ่นั้นขาดเหตุผลได้หรือครับ???

    ก็เพราะพระองค์ยังไม่ทรงรู้จึงต้องออกค้นหาธรรมที่ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตายใช่มั้ย???
    ถ้าธรรมที่ว่านั้นไม่มีตัวตนแล้ว พระองค์จะบอกว่าค้นพบอมตะธรรมได้อย่างไรใช่มั้ย???
    มิเท่ากับว่าเป็นการกล่าวร้ายพระพุทธองค์หรือครับ
    เอาสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงมาเที่ยวสั่งสอน???

    เฮ่อ!!!คุณฮาฯคุณเป็นหางเครื่องที่ใช้ไม่ได้เลย
    ทั้งๆที่รู้ว่าเจ้าลัทธิจอมปลอมของคุณตอนจบตายไม่ดีแน่นอน
    แล้วยังไม่รู้จักตักเตือนให้รู้ตัวเสียอีก

    สิ่งทั้งปวงไม่ความยึดมั่นถือมั่นนั้น ที่พระองค์ทรงเน้นย้ำนั้น
    ทรงกล่าวถึงเรื่องในโลกทั้งสิ้น
    ส่วนอมตะธรรมที่พระองค์ทรงค้นพบนั้น
    เป็นเรื่องเหนือโลกพ้นโลกแล้ว
    เพราะทรงปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นในอุปทานขันธ์ทั้งปวง(เรื่องในโลก)ได้แล้ว
    จึงทรงพบที่พึ่งที่แท้จริง(มีอยู่จริง แต่ไม่มีรูปร่างให้จับต้องได้เท่านั้น)
    วันหลังจะพูดอะไรหัดดูบริบทก่อนหน้าด้วยว่าทรงกล่าวถึงอะไรจึงบอกให้ไม่ควรยึดถือ

    ถ้าคุณเลือกจะเชื่อโดยไม่พิจารณาให้รอบคอบแล้ว
    ผมคงช่วยเหลืออะไรคุณไม่ได้หรอกครับ
    เพราะคุณเองก็ไม่พยายามลองสมาทานดู เพื่อจะได้รู้จักของที่ถูกต้องเสียที
    ถ้ารู้จักของจริงของแท้แล้วเสมือนว่าคุณรู้จักธนบัตรจริงแล้ว
    ใครจะเอาธนบัตรปลอมมาหลอกล่อยังไงก็ไม่มีทางหลงกลหรอกครับ

    จะไม่ให้ผมว่าได้ยังไงหละครับ
    เพราะพูดอะไรออกมาก็วกไปเวียนมาหาสาระที่แท้จริงไม่ได้
    แถมยังชอบแอบอ้างตัวเอวว่าได้ตรัสรู่เองอีก
    แต่ชอบเราพระพุทธพจน์มาใช้เป็นคำพูดของตนเอง
    พอถูกซักถามก็ไม่เคยตอบตรงคำถามสักที
    แต่ใช้วิธีกล่าวร้ายกลับมาแทน

    ถ้าเป็นของจริงแล้ว คงไม่ถูกแสง สี เสียงดึงเข้าสู่หลุมดำหรอก
    แต่กลับพยายามเถียงคอเป็นเอ็นเพื่อให้เกิดความชอบธรรมให้ได้
    โดยหาสารพัดเหตุผลมารองรับทั้งๆที่ฟังไม่ขึ้นเลย
    เหมือนกับว่าถ้าเป็นสิ่งอ้างแล้วทำอะไรก็ไม่ผิด
    ซึ่งเป็นการลบหลู่ธรรมอันกล่าวไว้ดีแล้วของพระบรมครู....

    ;aa24
     
  19. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ความต่างที่เหมือน ว่าจะรู้พ้นจากโลกสมมติตามบัญญัติของศาสนา

    เหตุแห่งความทุกข์และความเศร้าหมองที่เกิดขึ้นในชีวิต

    ล้วนเกิดจากจิตที่เต็มไปด้วยอัตตา คือแก่นธรรมที่ค้นพบ

    คำทำนายเกี่ยวกับศรัทธาใหม่ของนอสตราดามุส

    โคลงบทที่ ซ.[FONT=&quot] 10
    ค. [FONT=&quot]75 [/FONT]และ ซ. [FONT=&quot]2 [/FONT]ค. [FONT=&quot]29[/FONT]

    [FONT=&quot]"He will appear in Asia at home in Europe[/FONT]
    [FONT=&quot]One who is issued from great Hermes…"[/FONT]

    เขาจะปรากฏตัวในเอเชียจากบ้านในทวีปยุโรป
    บุคคลหนึ่งเป็นผู้มาจากผู้ส่งสาส์นสำคัญของเทพเจ้า

    [FONT=&quot]"The man from the East will come out of his seat, [/FONT]
    [FONT=&quot]Passing across the Apentines to see France[/FONT]
    [FONT=&quot]He will fly through the sky, the rains and snows, [/FONT]
    [FONT=&quot]And strike everyone with the rod." [/FONT]

    ผู้ชายจากโลกตะวันออกจะมาสู่ตำแหน่งของเขา
    ผ่านข้ามผู้เลียนแบบ ไปยังประเทศฝรั่งเศส
    เขาจะเดินทางโดยเครื่องบินทางอากาศ [FONT=&quot],[/FONT]ฝนและหิมะตก
    จากนั้นโจมตีทุกคนพร้อมด้วยปืนสั้น

    ในโคลงบทที่ ซ.[FONT=&quot] 3 [/FONT]ค. [FONT=&quot]31 [/FONT]นอสตราดามุสบันทึกคำทำนายไว้ดังนี้

    [FONT=&quot]"The moon in the middle of the night… [/FONT]
    [FONT=&quot]The young sage alone with his mind has seen it. [/FONT]
    [FONT=&quot]His disciples invite him to become immortal… [/FONT]
    [FONT=&quot]His body in the fire…"[/FONT]

    พระจันทร์อยู่ตรงกลางของค่ำคืน
    คนหนุ่มที่รอบรู้โดยลำพังประกอบกับจิตใจของเขาได้รับและได้เห็นสิ่งนั้น
    สาวกของเขาเชิญให้เขาเป็นผู้ที่คงอยู่ชั่วนิรันดร์
    ความรู้สึกแรงกล้าอยู่ภายในร่างกายของเขา

    โคลงทำนาย ซ.[FONT=&quot] 2 [/FONT]ค. [FONT=&quot]28[/FONT]

    [FONT=&quot]"Second to the last of the prophet’s name, [/FONT]
    [FONT=&quot]Will take Diana’s day(The moon’s day) as his day of silent rest… [/FONT]
    [FONT=&quot]He will travel far and wide in his drive to infuriate, [/FONT]
    [FONT=&quot]delivering a great people from subjection." [/FONT]

    ลำดับที่สองถึงสุดท้ายของชื่อผู้รู้เหตุการณ์ภายหน้า
    จะใช้วันของเทพธิดาแห่งพระจันทร์ขณะที่ช่วงเวลาของเขาเงียบสงบ
    เขาจะเดินทางกว้างและไกล มุ่งไปในความโกรธของเขา
    ปลดปล่อยประชาชนที่ดีจากการตกอยู่ใต้อำนาจ

    [FONT=&quot]"They see the truth with eye closed, [/FONT]
    [FONT=&quot]Speak the fact with closed mount… [/FONT]
    [FONT=&quot]Then at the time of need the awaited one will come late…"[/FONT]

    พวกเขาเห็นข้อเท็จจริงด้วยการหลับตา
    พูดความจริงร่วมกับนำออกแสดงเฉพาะกลุ่ม
    หลังจากนั้น ณเวลาแห่งความต้อง การรอคอยสิ่งหนึ่งจะมาล่าช้า

    [FONT=&quot]"the great amount of silver of Diana (Moon) and Mercury (Hermes) [/FONT]
    [FONT=&quot]The images will be seen in the lake (the mind of meditation) [/FONT]
    [FONT=&quot]the sculptor looking for new clay, [/FONT]
    [FONT=&quot]He and his followers will be soaked in Gold." [/FONT]

    ผลรวมธาตุเงินที่สำคัญของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
    มโนภาพจะอยู่ภายในจิตใจแห่งการทำสมาธิ
    ช่างแกะสลักจะค้นหาดินแบบใหม่
    เขาและผู้ติดตามของเขาจะอยู่ในสีทอง

    เรื่องเดียวกันอยู่ที่คนแปลกันไปตามภูมิรู้ที่มี

    He will appear in Asia at home in Europe…
    One who is issued from great Hermes…"

    "ท่านจะปรากฏกายในเอเชีย ตั้งถิ่นฐานในยุโรป…
    ผู้ซึ่งเป็นผลมาจากองค์เทพผู้ยิ่งใหญ่…" (ซ. 10 ค. 75)
    "The man from the East will come out of his seat,
    Passing across the Apentines to see France,
    He will fly through the sky, the rains and snows,
    And strike everyone with the rod." "บุรุษจากตะวันออกจะลุกออกจากที่ประทับ
    เดินทางผ่าน(เทือกเขา) อาเพนไนส์เข้าสู่ฝรั่งเศส
    เขาจะบินมาบนท้องฟ้า ฝ่าสายฝน และหิมะ
    และตีกระทบด้วยไม้วิเศษ"
    <B>
    "The moon in the middle of the night…

    </B>
    The young sage alone with his mind has seen it.
    His disciples invite him to become immortal…
    His body in the fire…" "ดวงจันทร์ลอยเด่นยามราตรี…
    หนุ่มคงแก่เรียนผู้สันโดษมองเห็นภาพในดวงจิต
    เหล่าสาวกจะอัญเชิญท่านไปสู่ความเป็นอมตะ
    ร่างของท่านอยู่ในเพลิง"

    "Second to the last of the prophet’s name,
    Will take Diana’s day(The moon’s day) as his day of silent rest…
    He will travel far and wide in his drive to infuriate,
    delivering a great people from subjection."
    "พยางค์ที่สองของนามศาสดาพยากรณ์
    จะใช้วันแห่งพระจันทร์เป็นวันสำหรับพักในความเงียบ
    เขาจะเดินทางกว้างและไกล ส่งแรงขับทำให้ผู้คนสะดุดใจ
    และนำพามหาชนให้หลุดพ้นจากความเป็นข้า(ของบ่วงกรรม?)"

    "They see the truth with eye closed,
    Speak the fact with closed mount…
    Then at the time of need the awaited one will come late…"
    "พวกเขาเห็นสัจจธรรมด้วยดวงตาที่ปิด…
    เปล่งสัจจวาจาด้วยปากที่ปิดแน่น…
    บุคคลอันเป็นที่พึ่งยามต้องการจะมาถึงช้า … "
    <B>
    "the great amount of silver of Diana (Moon) and Mercury (Hermes)

    </B>
    The images will be seen in the lake (the mind of meditation)
    the sculptor looking for new clay,
    He and his followers will be soaked in Gold." "รัศมีสีเงินของแสงจันทร์กับบารมีแห่งองค์เทพแผ่กระจายกว้าง
    ภาพลักษณ์ที่ปรากฏในความสงบของผืนทะเลสาบ
    ประติมากรเสาะหาดินปั้นใหม่
    ร่างของท่านกับผู้ติดตาม (สาวก) จะถูกฉาบ (หล่อ) ด้วยทองคำ
    </O:p[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2009
  20. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    คุณธรรมภูตคนจำพวกนี้ก็คือคุณ ไม่รู้จักพระพุทธเจ้า
    แต่มักอ้างว่าพระพุทธตรัสอย่างนี้

    ก็มีแต่อยู่ในจำพวก ทิฏฐิทำให้ท่านเป็นคนตาบอด

    อคติมักทำให้ท่านเป็นคนโง่อยู่เสมอ

    เราจะเชื่อพระบรมครูท่านก็ต่อเมื่อเราได้ตรัสรู้ด้วยตัวเราเอง

    ธรรม 84000 ศาสดาเอกของโลกก็เอาไปไม่ได้

    ต้องทิ้งไว้ให้พระเจ้าองค์ใหม่
     

แชร์หน้านี้

Loading...