หมดแล้ว ***..."พระกริ่งไจยะเบงจรหลวง ๑๒ นักษัตร"...***

=================================================
ออกจากแม่วาง... ก็มุ่งหน้าสู่สันป่าตอง เลี้ยวขวาลงไปสู่ทุ่งเสี้ยว
เพื่อจะไปขอเมตตา ครูบาอุ่น วัดโรงวัว
แต่ปรากฎว่าท่านรับนิมนต์ไปกรุงเทพ ยังไม่กลับ

ฝากไว้เป็นข้อมูล ครูบาอุ่น วัดโรงวัว ปีนี้น่าจะอายุ 80 แล้ว
เป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ได้รับนิมนต์ร่วมพิธีพุทธาภิเษกอยู่เสมอ
ประวัติท่าน... ผมไม่ทราบมากนัก
รู้แต่ว่า มีพวกดารามาให้ท่านลงทองบ่อยๆ
วัตถุมงคลก็มีเหรียญรุ่นแรกที่ลูกศิษย์กรุงเทพสร้างถวายเมื่อหลายปีก่อน
ที่วัดไม่มีแล้ว... ต้องลองหาตามแผงดูครับ

กำลังคิดกันว่าจะไปไหนต่อ
น้องตี๋ เจ้าภาพขับรถพาเราตระเวณก็มีธุระช่วงเย็นวันนั้นพอดี
เราก็เลยจบทริปสำหรับวันเสาร์ที่วัดโรงวัวนี่เองครับ....

=============================

หมายเหตุ: พักนี้เวปอืดๆ ชอบกล...

 

จบทริ๊ปวันแรก แอ่นแอ้นนนน


ครูบาอาจารย์แต่ละองค์ ดูท่านธรรมดา แต่ลึกๆไม่ธรมมดา

เอ๊ะ!!! จะไดนิ่ ท่านเฮย

 

เริ่มวันที่สอง(วันอาทิตย์)

วันนี้เวียงพิงค์เมืองงาม เมืองแผ่นดินทิพย์ล้านนาชุ่มช่ำไปด้วยสายฝน
ที่ตกกระหน่ำมาตั้งเมื่อคืน มีทั้งลมหลวง และอัสนีบาต ชวนนอนไม่หลับ ขนคิงลุกวาบๆ
เช้ามา สายฝนก็ยังบ่ขาดสาย...

เช้านี้นัดกับพี่วุฒิ(คุณวุฒิพงศ์) จะร่วมเดินทางนำพระกริ่งไปอธิฐานจิตกัน
วันนี้มีทั้งชุดของพระธาตุสันขวาง และชุดของถ้ำป่าไผ่ ป๊าดโซะ!!! หนักขนาดเน้อ
พี่วุฒิออกเดินทางร่วม 100 กิโลป๋าย จากเวียงเขลางค์เมืองรถม้า มาสู่นพบุรีสรีนครพิงค์ เพื่อมารับผมและสหายคำ
ออกเดินทางจากตัวเวียง มุ่งหน้าสู่หางดง...จุดมุ่งหมายแรกคือ

วัดศรีสว่าง(วัวลาย) พระครูศีลพิลาส หรือ ครูบาจันทร์แก้ว คนฺธสีโล อายุล่วงได้ 94 วัสสา
ไปถึงวัด ยังมีฝนปรอยๆ หลวงปู่เพิ่นอยู่พอดี เลยช่วยกันขนกล่องพระขึ้นสู่กุฏิ
ขึ้นไปก้มกราบหลวงปู่ แล้วบอกจุดประสงค์ ครูบาก็ถามถึงรายละเอียดการสร้าง แล้วเพิ่นก็ให้จัดเรียง
วนฝ้าย 3 รอบ จัดแจงให้ท่าน ท่านก็เสกให้เป็นอย่างดี เย็นยะเยือกจับใจ กอรปกับฝนที่ตกปรอยๆ



ท่านอธิฐานจิตเสร็จ ก็คุยกับท่านเรื่อยๆ ได้ทำบุญถวายปัจจัยกับท่านด้วย เป็นดีอุ่นใจในบุญกุศล
ไปครั้งนี้ยังได้ของดีจาก "ตุ๊ลุง" คือพระผงเกศาของท่าน แถมยังได้ผ้ายันต์รอยมือท่านคนละผืน สองผืน
สุขใจดีแท้...

ใช้เวลาอยู่พอสมควร จึงกราบลากลับ เพราะยังมีภารกิจรออยู่
หลวงปู่ถามว่าจะไปที่ไหนกันต่อ...
บอกท่านไปว่า จะเข้าลำพูน ท่านว่า ให้ไปหาครูบาสุข เน้อ เกยกั๋น เจอกั๋นบ่อย
เข้าทางเลย ครูบาอาจารย์แนะนำอย่างนี้ ไม่พลาดๆ

แล้วหมู่เฮา ก็ออกจากวัดศรีสว่าง มุ่งสู่เมืองสันป่าตอง เพื่อแวะรับพี่ไก่สุดหล่อ กันต่อไปครับ...

 

แอบมีพิเศษ...

มีหลายคนสังเกตุสังก๋า กังขาว่า ทำไมมีรูปครูบาเจ้าสรีวิไชยยาชยะ ไปเสกด้วย
แล้วก็เห็นถุงผ้าฝ้ายสีแดงๆกลักๆ วางอยู่บนกล่องพระกริ่งเสมอ



เอ่.... ในถุงผ้าฝ้ายสีขักหั้นเป็นอะสังน้อ?

ในนั้นก็เป็นของดีอีกอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับครูบาเจ้าสรีวิไชย...
แต่ตอนนี้ยังบ่ถึงกาละเวลาอันควร จึงยังบ่ขอเปิดเผย

การไปหาครูบาจันทร์แก้วในวันนี้ พิเศษหน่อย คือว่าไม่ค่อยมีคนมามาก จึงมีเวลาสนทนากับท่านเยอะ
ได้นำรูปครูบาเจ้าฯให้เพิ่นดูกอย แล้วถามว่า "ตุ๊ลุงทันครูบาเจ้าฯไหม"
"ทัน ทันได้ไปตานกับเพิ่นอยู่ ตอนนั้นตุ๊ลุงยังหน้อย เป็นขโยมหน้อย ไปกับหมู่ศรัทธาบ้านนี้"

เพิ่น(ท่าน)เป็นยังไงบ้างตุ๊ลุง...
"ตุ๊ลุงก็จำบ่ค่อยได้ มันเมินแล้วเนาะ(ยิ้มๆ) ตอนนั้นมันหน้อยอยู่ จำบ่ค่อยได้เท่าใด"

เพิ่นใส่ผ้าสีนี้(สีจีวรเหมือนในรูป)ไหมตุ๊ลุง...
"เอ่...จำบ่ได้นา น่าจะคล้ายๆนี้ แต่ตอนนี้ตุ๊เจ้าใส่สีแดงกันไปเยอะ"



งั้นขอหลวงปู่จารรูปให้ผมหน่อยเน้อ...
ท่านก็ลงมือจารอักขระตัวเมือง ลงบนรูปให้อย่างดี ถึงท่านอายุจะ 94 แต่ยังเขียนได้คล่อง

แล้วท่านก็ถามว่า...
"อ่านตั๋วเมืองได้อยู่น่อ"...

ขอจบแบบห้วนๆไว้แบบนี้เน้อ พี่น้องอาวอาทั้งหลาย

 

หากท่านใด งง? กับศัพท์คำเมืองบางคำ ที่ผมเขียนไว้ โพสถามได้เลยนะครับ

 

สุดยอดๆๆๆ คึขนาดแต่ะ

ก๋ารเขียนนี้ก่อลังก๋ารล้านนาแต๊...สู้ๆๆ เน้อครับ อ้ายไก่,กฤชณัท

เอ๊ะ!!! มีฮูปเฮาติดมาโตยเฮ้ย อิอิอิ

 

อ้ายเทน.... ภาษาสันป่าตองเปิ้นว่า

"แมนมาก๊ะหนวด.... "


5555+++

 

โมตนา สาตุ๊ กับ ตุ๊กตั้น เน้อ

คำตั๋วเมืองเฮาก็ปอปู๊ดเป๋นเน้อ (smile)

 

"ปู๊ด" เป็นคำคุณศัพท์ หมายถึง ลักษณะอาการบวม พอง ออกมามากผิดปกติ
เช่น "หัวปู๊ด" หมายถึง "หัวโน"
หรือ "ต๋าปู๊ดต๋าแมน" หมายถึง "ถลึงตาถลนออกมานอกเบ้า"
หรือ "เต็กปู๊ดเต็กแมน" หมายถึง "พยายามปก้ไขตรงนี้ ตรงนั้นก็เสีย แก้ตรงนั้น ตรงนี้ก็แย่"

....เป็นต้น

อิอิ... แซวเล่นบ่ดายเน่อครับ

 

<<<<<<<<<<< วันอาทิตย์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>

เช้าวันอาทิตย์ อากาศเย็นๆ จากละอองฝนตกเมื่อคืนวันเสาร์
ผมรออยู่ที่บ้านเหมือนเดิม... เพราะฝนเริ่มลงเม็ด น้องโน้ง น้องเทน พี่วุฒิ ก็มารับ

เป้าหมายแรกของเรา "วัดต้นโชค" ชื่อจริงๆ คือวัดศรีลังกา ต.หนองตอง อ.หางดง
ชื่อวัดเป็นมงคล เหมาะกับการเสกวัตถุมงคล... แฮะๆๆ

พอขึ้นรถก็มีเรื่องคุยกัน เพลินจนเลยวัด...
ใครว่าผู้ชายเจอกันแล้วเมาท์ไม่เป็น 5555++ เราพิสูจน์มาแล้ว
ก็เลยต้องรบกวนพี่วุฒิ ยูเทิร์นกลับมาที่วัดต้นโชค
เพื่อไปขอเมตตาจาก "ครูบาอินถา ปญฺญาวชิโร" หรือ ตุ๊ลุงอินถา

ครั้งหนึ่ง... ผมจัดพิธีสืบชะตา...
ก็นิมนต์ครูบาอาจารย์ในเขตสันป่าตอง แม่วาง หางดง แบบคัดๆ เลยทีเดียว 9 รูป ตามสูตร
ไม่ได้นิมนต์ครูบาตั๋น และหลวงปู่ดวงดี เพราะท่านชรามากแล้ว ท่านนั่ง "แต้บ" หรือนั่งพับเพียบไม่ได้
รวมถึงหลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว วัดศรีสว่าง และครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อนด้วย

แต่กระนั้น ผมก็ถือโอกาสไปบอกกล่าวท่านเสียก่อน
คิดในใจว่า... ถึงท่านจะมาไม่ได้ แต่ขอท่านอนุโมทนาให้ (((เดินญาณหรือเปล่าไม่รู้???))) ก็น่าจะดี

ผมไปนิมนต์หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว นิมนต์เสร็จ ปฏิเสธให้ท่านเสร็จเลย
ผมรู้ครับว่าตุ๊ลุงนั่งแต้บบ่ได้ แต่มาบอก มากราบเฉยๆ
ท่านก็บอกว่า ดีละๆๆ เอางี้ ให้ไปนิมนต์ องค์นี้ๆๆๆ แทน

(((เตรียมตัว... จะประกาศรายชื่อแล้ว))))

1. ครูบาบุญมา วัดสุวรรณประดิษฐ์ (ช่างคำหน้อย) อ.หางดง
2. ครูบาอินตา วัดศาลา ต.น้ำแพร่ อ.หางดง
3. ครูบาอินถา วัดศรีลังกา (ต้นโชค) ต.หนองตอง อ.หางดง

หลวงปู่จันทร์แก้วบอกว่า "สามท่านนี้ ไปปลุกเสกพระด้วยกันบ่อย... ท่านก็เก่งเหมือนกัน"

อะฮ้าาา.... ขนาดมีคำรับรองอย่างนี้ ไม่ไปนิมนต์ได้ยังไง ใช่ไหมครับ!!!

ผมก็เลยไปนิมนต์หลวงปู่ครูบาบุญมา วัดช่างคำน้อย อายุตอนนี้ 85 ปีแล้ว
วัดของท่าน... ถ้าวิ่งรถจากตัวเมืองเชียงใหม่ เข้าอำเภอหางดง วัดจะอยู่ขวามือ
ก่อนถึงตัวอำเภอนิดหน่อย... ซุ้มประตูโขงหน้าวัดใหญ่ๆ สวยๆ
ผมไม่ทราบรายละเอียดประวัติท่าน
แต่ก็เชื่อมั่น เพราะหลวงปู่จันทร์แก้วท่านรับรอง...
แต่น่าเสียดาย งานสืบชะตา ท่านไปไม่ได้เพราะท่านก็นั่งแต้บ นานๆ ไม่ได้เหมือนกัน

ไม่ละความพยายาม....

ผมก็ลัดเลาะข้างวัดช่างคำน้อย... ไปโผล่ถนนสายคันคลองชลประทาน
เลี้ยวขวาไปเส้นคันคลองใหญ่ ก็เจอวัดศาลา บ้านน้ำแพร่
ได้ไปกราบครูบาอินตา กตปุญโญ (พระครูพิพัธปุญญาภิรัตน์) อายุท่านน่าจะ 76-77 ปี แล้ว
ท่านมางานผมได้... แฮะๆๆ

ได้ หางดง 1 รูปแร๊ะ

ต่อมาที่วัดต้นโชค น่าเสียดาย ท่านติดกิจนิมนต์ไปแล้ว
ครูบาอินถา ปญฺญาวชิโร วัดต้นโชค
วัดของท่านอยู่เส้นสันป่าตองลำพูน
โขงประตูหน้าวัดสูงๆ อายุท่านผมไม่ทราบแน่ชัดแต่คาดว่าน่าจะเกือบ 80 แล้ว

สรุปก็เลยมีครูบาอินตา มางานสืบชะตาแค่รูปเดียว...
ผมเชื่อว่าครูบาอาจารย์ทั้งสามท่านที่หลวงปู่จันทร์แก้วแนะนำมา
ย่อมจะต้องมีอะไรดีๆ ที่ท่านสัมผัสได้กันอยู่

เมื่อไม่นานมานี้... ในเวปพลังจิตนี่แหละครับ
ผมเห็นพิธีปลุกเสกพระอะไรสักอย่าง... ที่วัดแถวๆ หางดง
ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นการรื้อวิหาร แล้วสร้างใหม่ ทางวัดเลยสร้างพระเนื้อดินขึ้นมา เป็นพิมพ์พระสิบสอง หรือพิมพ์ลำพูนอะไรนี่แหละครับ ผมจำไม่ค่อยได้
แต่รายละเอียดที่จำได้ก็คือ...
ครูบาอาจารย์ที่ปลุกเสกพระชุดนี้ก็คือ

ครูบาจันทร์แก้ว ครูบาบุญมา ครูบาอินตา และครูบาอินถา

"สี่ครูบา" นี้แหละครับ...
เกี่ยวกับครูบาอินถา... ผมมีข้อมูลเพียงเท่านี้ครับ
พี่ๆ น้องๆ ท่านใด มีข้อมูลเพิ่มเติม รบกวนช่วยโพสให้เป็นความรู้ด้วยครับ

 

ตามอ่านอยู่นะครับคุณธีระยุทธ อ่านทั้ง 2 กระทู้เลยครับ (รอดูภาพคุณธีระยุทธด้วยครับ555+)

 

====================================================
โปรดสังเกตุว่า ตอนครูบาอินถาท่านเสกพระ
รูปที่ถ่ายมาจะไม่เห็นรูปครูบาเจ้าศรีวิชัย กับรูปพระกริ่ง....
เพราะว่า... โต้งลืมไว้ที่วัดครูบาจันทร์แก้ว...

สงสัย... เป็นวาสนาที่ผมจะได้ไปกราบหลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว
เลยทำให้โต้งลืมรูป จนคณะของเราต้องย้อนกลับไปที่วัดศรีสว่างกันอีกครั้ง

เส้นทางจากวัดต้นโชค ถึงวัดศรีสว่างใกล้นิดเดียว
โดยออกจากวัดต้นโชค หันหน้าเข้าลำพูน ขับตรงมาอีกแค่ประมาณ 1-2 กิโล
จะเห็นศาลเจ้าจีนอยู่ซ้ายมือ เข้าซอยข้างศาลเจ้า ตรงดิ่งไปนิดเดียวก็ถึงวัดศรีสว่าง
ใกล้มาก...
ระหว่างทาง สมาชิกในรถก็ควักผ้ายันต์รอยมือ หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้วออกมาอวด
"ต๋าหัน" ก่อเกิด "ตัณหา" ผมก็อยากได้ขึ้นมาทันที
ความที่จะรีบมาหยิบรูปที่ลืมไว้แล้วกลับ
ก็เลยไปนั่งเลือกผ้ายันต์รอยมือ หลวงปู่จันทร์แก้วกันพักใหญ่ๆ
ผ้ายันต์พิมพ์ลายมือ มีจารยันต์ ติดรูป ปั๊มตราวัด แล้วก็รันหมายเลข
พวกเราอยากได้เลขสวยๆ... แต่... สงสัยโดนเลือกไปก่อนหน้านี้แล้ว
เอาเหอะ.. เลขไหนก็ดีทั้งนั้นแหละครับ หลวงปู่จันทร์แก้วท่านเสกให้แล้ว

แจ้งไว้เป็นข้อมูล "ลายแทง" เผื่อใครอยากร่วมทำบุญกับท่าน
ที่วัดตอนนี้มี...
1. พระผงเกศา รุ่นแรก ฝังพลอย องค์ละ 199.-
2. ผ้ายันต์รอยมือ สีเหลือง ผืนใหญ่, ผืนเล็ก, สีขาว, สีน้ำตาล (สีน้ำตาลนี่ไม่ค่อยเห็นที่ไหนทำกัน)
3. ผ้ายันต์นกขุ้ม
ผ้ายันต์ไม่ได้ตั้งราคา แล้วแต่เราจะทำบุญ

รีบไปเอาเสียครับ... ทำบุญผืนละร้อยก็ยังถือว่าไม่แพง

เลือกเสร็จ หลวงปู่ท่านเมตตา เป่าให้อีกรอบ โดยที่เราไม่ต้องขอเลย
เรื่องความเมตตา ความเย็น .ฯลฯ.. ของหลวงปู่จันทร์แก้ว นี่เชื่อเลยจริงๆ ครับ

=========================================================

 

ยืนยันอีกเสียงครับ หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้วท่านเมตตา+เย็นมากจริงๆ ครับ

 

งานนี้ ได้ผ้ายันต์รอยมือครูบาจันทร์แก้ว คนละผือ สองผืน สามผืน สี่ผืน...

เป็นดีม่วน ดีงัน แต้แล

 

==========================================================
ออกจากวัดวังทอง แวะเติมพลังกันคนละจาน แล้วเราก็มุ่งหน้าสู่อำเภอป่าซาง

การเดินทางวันนี้สบายๆ อากาศเย็นชื้นน้ำฝน ต้นไม้สองข้างทางก็ดูร่มรื่น
ดูแล้วมีความสุข...

เป้าหมายของเราคือ วัดป่าซางน้อย... วัดชื่อวัดป่าซางน้อย
แต่วัดอยู่เขต ตำบลบ้านแป้น อำเภอเมือง... ไม่ใช่อำเภอป่าซางนะครับ

ขับรถสายลำพูนป่าซางไปเรื่อยๆ... จนถึงวัดอินทขิล
ทางเข้าวัดป่าซางน้อยจะเป็นถนนซอยข้างกำแพงวัดอินทขิลนี่เอง

วัดอินทขิล ในอดีต มีครูบาอินทวงศ์ ที่คนลำพูนรู้จักกันดี ในนาม ครูบาอินทขิล
เหรียญรุ่นแรกของท่านปี 2511 มีอยู่ในงานประกวดพระเครื่องภาคเหนือเสมอ

ส่วนวัดป่าซางน้อย...
วัดของหลวงปู่ครูบาสุข ชาตสุโข (พระครูบวรสุขบท) อายุ 87 ปี
เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ที่วัดจัดงานทำบุญอายุ พร้อมทั้งสืบชะตาถวายหลวงปู่ครูบาสุข
มีครูบาอาจารย์ของภาคเหนือเข้าร่วมงานกันคับคั่ง

ครูบาสุข ท่านเป็นที่รู้จักมานานแล้วครับ
โดยเฉพาะ พิธีสำคัญคือเหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย รุ่นสิริวิชโย และเหรียญรุ่น 115 ปี
ที่สร้างออกมาไล่เลี่ยกัน ท่านก็ร่วมปลุกเสก
(((เหรียญนี้ดังขึ้นทำเนียบพระเครื่องล้านนาไปแล้ว)))
พิธีพุทธาภิเษกในปัจจุบัน ท่านก็ได้รับนิมนต์อยู่เสมอๆ

ครูบาสุขท่านเป็นลูกศิษย์ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
ครูบาอินทวงศ์ วัดอินทขิล ก็เป็นอาจารย์ของท่าน
เหรียญรุ่นแรกของครูบาสุข ท่านออกตั้งแต่ปี 40 ตอนนี้กำลังค่อยๆ เป็นที่นิยม
งานวันที่ 17 ท่านแจกพระเนื้อดินเผา พิมพ์รูปเหมือนของท่านด้วย
แต่ที่วัดหมดแล้ว... อยากได้คงต้องหาจากผู้ที่ได้รับแจกตอนวันงานครับ

เราไปถึงวัดตอนท่านเพิ่งจะกลับจากกิจนิมนต์พอดี
ก็เลยนั่งรอท่านพักให้หายเหนื่อย... ได้มีโอกาสพูดคุยกับท่าน

ท่านถามผมว่า... คิดยังไงถึงเอาพระมาให้ท่านเสก???

อ้าว... เหวอเลยครับ... ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มากราบท่านเสียด้วย
ท่านก็หัวเราะ... ดูๆ แล้วท่านใจดีนะครับ แต่อาจจะเข้มงวดพอดู

ผมอ้อมแอ้มตอบไปว่า... รู้จักประวัติท่านผ่านหนังสือพระครับ
น้องโต้งรีบตอบขึ้นมาด้วยว่า หลวงปู่จันทร์แก้วก็แนะนำให้มาครับ...
ท่านเหมือนจะพอใจในคำตอบ... สาธุ... ระฆังช่วยชีวิต

พอหายเหนื่อย ท่านก็ลุกขึ้นห่มจีวร สังฆาฏิ รัดอกเรียบร้อย แล้วก็ให้เราเอาพระมาตั้งไว้หน้าโต๊หมู่บูชา
จากนั้นท่านก็ให้เอาสายสิญจ์วนรอบพระ แล้วโยงขึ้นวนรอบรูปหล่อครูบาพรหมจักร วัดพระบาทตากผ้า
รูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัย ครูบาวงษ์ โยงขึ้นไปวนรอบพระพุทธรูป แล้วก็โยงต่อมาให้ท่าน
ท่านบอกว่า เดี๋ยวท่านจะทำให้ ระหว่างนั้นก็ให้พวกเราทุกคนนั่งสมาธิ
ให้สวดบท อิติปิโส.. สวากขาโต... สุปฏิบัณโณ... วนไปเรื่อยๆ จนกว่าท่านจะเสร็จ

หลวงปู่ครูบาสุขท่านทำให้เต็มที่จริงๆ ครับ
ตั้งแต่ให้ผมจุดธูปเทียน บูชาพระ ยกขันดอกขึ้นจบศรีษะ
ท่านกล่าวชุมนุมเทวดา สัคเค กาเม จารูเป.....
ตั้งขันเสร็จ ก็ให้เรานั่งสมาธิ สวดมนต์ในใจตามที่ท่านสั่งไว้
แล้วท่านก็สวดคาถาของท่านไปสักพัก แล้วก็เงียบเสียงลง เจริญสมาธิอธิษฐานจิต
ท่านบอกตอนหลังว่า... สวดมนต์ออกเสียงนานๆ ท่านเหนื่อย เลยบริกรรมในใจ

ท่านอธิษฐานจิตให้นานมาก ร่วมๆ ชั่วโมง
นานจนผมเผลอหลับไปงีบเล็กๆ แฮะๆๆๆ

พอเสร็จแล้วท่านก็พรมน้ำมนต์ให้...
ก่อนกลับผมก็เรียนถามท่านถึงหนังสือประวัติที่ท่านแจกตอนงานวันที่ 17
ท่านก็บอกว่าอยู่ในกล่อง หยิบเอาเลย...

พอดีเหลือเกิน... เจอรูปบูชา พร้อมเคลือบกรอบวิทยาศาสตร์
ขนาดประมาณ 1 ฟุต วางอยู่ในกล่องด้วย
ผมก็ถามท่านว่า รูปนี้ท่านให้บูชาหรือเปล่าครับ
ท่านกลับบอกว่า "อยากได้เหรอ เอาไปสิ"

เราไปกันสี่คน รูปมีอยู่แค่ 3 ใบ
สงสารพี่วุฒิ ต้องเสียสละให้น้องๆ ไป...

ดูรูปตอนท่านเสกพระให้กันดีกว่าครับ

==========================================


พระครูบวรสุขบท (ครูบาสุข ชาตสุโข) อายุ 87 ปี
ต.บ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูน



ตอนท่านอธิษฐานจิต นานร่วมๆ 1ชั่วโมง



ดูภาพชัดๆ อีกทีครับ



เสร็จแล้วท่านก็พรมน้ำมนต์...

 

อย่าลืมเล่าถึงพุทธคุณ ที่ครูบาสุข เพิ่นเสกให้เน้อ อ้ายบ่าว

อิอิ

 

จากวัดป่าซางน้อย ย้อนกลับมาออกปากซอยข้างวัดอินทขิล
ผมขอให้พี่วุฒิ แวะแป๊บนึง แล้วผมก็วิ่งเข้าไปในวัดอินทขิล
ไปบูชารูปครูบาอินทวงศ์ เป็นรูปล้อมด้วยยันต์ภาษาล้านนา
คล้ายๆ รูปล้อมยันต์ครูบาศรีวิชัย แต่เป็นคาถาคนละบทกัน

ผมเห็นรูปนี้ที่ในกุฏิของหลวงปู่ครูบาสุข
เลยตั้งใจว่า ขากลับจะแวะบูชา
ได้มา 4 ใบ ใบละ 19 บาทเท่านั้น กะจะแบ่งกันคนละใบ
พอดีโต้งเขาฝากผมเก็บไว้ก่อน เพราะกลัวว่ารูปจะยับ
สุดท้ายลืมกันหมด...
รูปก็เลยอยู่ที่ผมหมดเลย ... สรุป.. ไม่แบ่งละ...

=========================================

 

และเป็นที่น่าเสียดาย...

การลงไปเวียงพิงค์เชียงใหม่คราวนี้ พลาดเกจิชื่อดังไป 2 องค์ครับ
คือ หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี เพิ่นเพิ่งออกจากโรงพยาบาล จึงยังไม่อยากไปรบกวนท่าน
อีกหนึ่งคือ หลวงปู่ครูบาอินตา ธนักขันโธ วัดวังทอง ท่านอยู่โรงพยาบาล เพราะอ่อนเพลีย

แต่ก็ไม่เป็นไรครับ หากบุญพาวาสนานำ พระกริ่งชุดนี้จะได้รับเมตตาจากทั้ง 2 องค์ เสกให้ครับพี่น้อง

 

แต้ๆๆๆๆ ปอลืมละ...

 

หลังจากเสกพระเสร็จ...
โต้งก็กราบเรียนถามหลวงปู่ไปว่า ท่านเสกพระกริ่งให้ไปทางไหน
ท่านบอกว่า... ท่านเสกให้ใช้ได้ทุกอย่าง แล้วแต่เราจะอธิษฐานเอา
แต่ท่านเน้นให้ผู้เอาพระไปใช้สักการะบูชา "ได้อยู่ดีมีสุข"
ท่านบอกวjาคนที่อยู่ดีมีสุข ก็จะสุขภาพดี พอสุขภาพดี ก็ทำมาหากินหาเลี้ยงชีพได้
มีจะมีรายได้ มีเงินมีทอง... อันนี้แหละที่เรียกว่ามีลาภ

ท่านยังบอกอีกว่า
พุทธบูชา มหาเตชะ ... การบูชาพระพุทธ ทำให้มีเดช
ธรรมบูชา มหาปัญญา... การบูชาพระธรรม ทำให้เกิดปัญญา
สังฆบูชา มหาลาภา... การบูชาพระสงฆ์ ทำให้เกิดลาภ

ท่านสอนว่าอั้นครับ....

======================