ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

หลวงพ่อท่านเตือนบ่อยมากที่สุดคือเรื่องการช่วยเหลือคนนี่แหละค่ะ หลายปีก่อนท่านก็มักพูดเป็นนัยๆว่า เวลาช่วยคนอื่นก็มักเก็บเอาความทุกข์มาเป็นขอตัวเองแล้วก็ทุกข์เองจิตตก ท่านว่าความทุกข์มันก็เป็นของคนอื่นช่วยแล้วก็แล้วกัน ช่วยได้แค่ไหนก็แค่นั้น ท่านว่า การช่วยเหลือคนอื่นนั้นเป็นการสร้างบารมี สร้างกุศลก็จริง แต่ต้องไม่ลืมว่าวิบากกรรมนั้นเป็นของใครของมันจริงๆช่วยแนะนำกันได้ เปรียบเหมือนเราไปเจอคนล้มเรามีหน้าที่พยุงให้เขายืนได้ แต่เราไม่สามารถไปเดินแทนเขาได้ หน้าที่เดินเป็นของเขาไม่ใช่ตัวเราจะไปเดินแทนเขา (อันนี้คำพูดของหลวงพ่อนะค่ะ)<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

 

เอาใจช่วยครับ สู้ สู้ ครับ

ใจเย็นๆ ครับ

ทีละ ขั้น ทีละ ตอน

(Oops!! ไม่กล้าออกความเห็นมากครับ เดี๋ยวจะหาว่า สอนหนังสือ เจ้าอาวาส ฮิ ฮิ)

อย่างไงก็เอาใจช่วยครับ

บุญรักษาครับ

 

สวัสดีครับ คุณสงบระงับ

ขอบคุณครับสำหรับเรื่องเล่าดีๆ

เห็นด้วยกับคุณ Me, Myself ครับ อย่าลืมมาเล่าให้อ่านต่อน่ะครับ

บุญรักษาครับ

 

สร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก 10 วา
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=65729


ร่วมสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ "สมเด็จองค์ปฐม" ก้บวัดธรรมยาน

http://palungjit.org/showthread.php?t=119095
<!-- google_ad_section_end -->
อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนาย<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1ersonName>เวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

อนุโมทนาทุกท่านครับ ผมเอาบุญมาฝากครับ เมื่อวานได้สบทบทุนซื้อ
Server อภิญญาใหญ่101 เพื่อพี่น้องที่สนใจในธรรมจะสามารถศึกษาหาข้อมูล และใช้บริการเวปได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

[FONT=&quot]อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้า กรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรม ให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วันนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน[/FONT][FONT=&quot]<o>></o>>[/FONT]
[FONT=&quot]และ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงโมทนาส่วนกุศลนี้ขอจงเป็นสักขีพยานในการ บำเพ็ญกุศลของ ข้าพเจ้า ในครั้งนี้ด้วยเถิด[/FONT][FONT=&quot] <o>></o>>[/FONT]
[FONT=&quot]และ ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุขเช่นเดียว กับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ เถิด[/FONT][FONT=&quot] <o>></o>>[/FONT]


ด้วยอานิสงค์ในการบริจาคเงินเพื่อซื้อ "อภิญญาใหญ่ 101 Server" สำหรับงานเผยแพร่พระพุทธศาสนาในครั้งนี้ ผมไม่ได้ปรารถนาในมนุษย์สมบัติ ไม่ได้ปรารถนาในสวรรค์สมบัติ ไม่ได้ปรารถนาในความเป็นเทพเทวดาหรือพรหม ไม่ได้ปราถนาในการกลับมาเกิดอีกต่อไป ขอผลแห่งกุศลกรรมที่ผมได้เพียรกระทำมาแล้วทุกๆภพทุกชาติ จงเป็นปัจจัยให้ผมให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบัน ให้มีทิพจักขุญาณที่แจ่มใสดังมองในเวลาเที่ยงวัน สมบูรณ์ไปด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา อธิบาท4 สามารถตัดกิเลสให้เป็นสมุทเฉทประหารได้อย่างรวดเร็ว ฉับพลัน ทันที อย่าให้มีมารใดๆมาขัดขวางในการปฏิบติกรรมฐาน ให้ผมเป็นผู้แตกฉานในปฏิสัมภิทาญาณทั้ง4 สามารถที่นำพาพ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหาย ผู้มีพระคุณทั้งหลายให้ได้มีดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงกระแสแห่งพระนิพพานได้ทุกคน สนองพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยการนำพาเพื่อ มนุษย์ให้หลุดพ้นไปจากวัฏสงสารให้ได้มากที่สุด บำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรื่องให้ได้นานที่สุดตราบเท่าที่ขันธ์5จะ อำนวยด้วยเทอญ พระพุทธเจ้าข้า สาธุ...กราบ สาธุ...กราบ สาธุ...กราบ

 

อนุโมทนาทุกท่านครับ ผมเอาบุญมาฝากครับ เมื่อวานได้สบทบโครงการซื้อ"อภิญญาใหญ่101 Server" เพื่อเว็บพลังจิตเผยแผ่พุทธศาสนา เป็นจำนวน1000บาท

 

แหม เมื่อวานเวปล่มตลอดเลยค่ะ กว่าจะโพสได้ทุกคนก็หนีไปนอนกันหมดแล้ว 55เพราะดึกมาก เสียดายเรื่องที่พิมพ์เอาไว้กะจะเล่าให้ทุกท่านได้อ่านกัน แถมเล่าไม่ค่อยเก่งด้วยกว่าจะกลั่นกรองได้เสียดายจริงๆค่ะ คราวนี้ก็เลยยกมาพิมพ์ที่อื่น(กลัวหายอีก) ขอบคุณ คุณ Ricardo DeCalgary มากค่ะ ตอนนี้ก็รออ่านกันค่ะ ว่าคุณMe, myself จะมาเล่าต่ออีกไหมลุ้นค่ะ ลุ้น <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

ทุกท่านคงจะเคยอ่านเจอที่หลวงพ่อกล่าวไว้ว่า ถ้าคนไหนยังไม่ถึงที่ตายแล้วต้องตายไป จะต้องอยู่เป็นสัมภเวสีเร่ร่อน จะไปไหนก็ไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลา คงจะเป็นจริงอย่างที่หลวงพ่อว่า ดิฉันจะเล่าเรื่องที่ดิฉันประสบมาให้ฟัง โปรดใช้ปัญญาของท่านพิจารณาด้วยนะคะ

ดิฉันมีลูกชายตอนนี้หนึ่งคน อายุก็ 17 ปีแล้ว แต่จริงๆแล้วถ้าดิฉันไม่แท้งลูกชายคนแรก ดิฉันก็จะมีลูกชายสองคน ถ้าคนโตมีชีวิตอยู่ปีนี้ก็อายุ 21 ปีพอดี ตอนที่รู้ว่าตั้งท้อง ก็จะฝันเห็นเด็กผู้ชายตลอด แล้วตัวเองก็รู้สึกอย่างนั้น ก็บอกแฟนเรื่อยๆ แต่เขาก็ไม่ค่อยจะเชื่อหรอกว่าจะเป็นผู้ชายเพราะว่าเพิ่งท้องได้แค่เดือนกว่าๆ ดิฉ้นก็พยายามบอกแฟนว่าให้พาไปฝากท้อง เพราะหมอบอกว่าสามเดือนแรกมันเสี่ยงต่อการแท้งได้ง่าย แฟนก็ไม่ยอมพาไปสักที ผลัดอยู่เรื่อย แล้วสมัยอยู่ด้วยกันแรกๆ ใช้รถมอเตอร์ไซด์ ดิฉันก็ต้องซ้อนท้ายแฟนไปทำงานทุกวันแล้วแฟนเป็นคนขี่รถเร็ว นั่นเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ดิฉันแท้งลูกคนแรก

วันที่ดิฉันแท้งลูก ตกกลางคืนแฟนฝันว่ามีผีเด็กผู้ชายพยายามไล่ฆ่าเขา เขาหนีไปจนเจอหลวงพ่อที่บ้านแล้วก็เลยไปหลบอยู่หลังหลวงพ่อ หลวงพ่อก็เลยขอบิณฑบาตรชีวิตเขา เขาว่าเด็กที่ตอนแรกเป็นผีก็กลายร่างมาเป็นเด็กหน้าตาดี สูง เขารู้เลยว่าคนนี้แหละที่เป็นลูกที่แท้งไป เขาคงแค้นพ่อเพราะไม่ยอมพาดิฉันไปฝากท้อง แล้วทำให้ดิฉันแท้งเขาเลยไม่ได้เกิด เขาบอกเขาเชื่อแล้วว่าลูกเป็นผู้ชาย ตอนหลังเราก็เลยไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูก ก็พยายามทำบ่อยๆ

แรกๆดิฉันก็ไม่รู้หรอกว่า ลูกน่ะยังอยู่กับดิฉัน พอตอนมีลูกชายคนที่สอง พออายุได้สัก 4-5 ขวบ เขาก็จะถามว่าเขามีพี่ชายใช่ไหม แล้วพอตอนกินข้าวทีไร ก็จะร้องหาถ้วยอีก 1 ใบ แล้วเขาก็จะใส่ข้าวเอาไว้ บอกว่าให้พี่กิน เขาจะแบ่งอย่างนี้ทุกที ไปกินข้าวนอกบ้านก็ทำ แล้วเขาก็จะสนใจถามแต่เรื่องพี่เขาคนที่แท้งไปตลอดเวลา จนดิฉันไปหาเพื่อนคนที่มีองค์เทพอ่ะ แล้ววันนั้นพอดีเทพเด็กมาทรงพอดี เอาละซีทีนี้เด็กกะเด็กคุยกัน เขาก็บอกลูกชายดิฉันว่า พี่ตัวเองอ่ะ หล่อกว่าตัวเองอีก ฟันก็ไม่หลอ เออ..สนุกสนานกันใหญ่

กลับมาบ้านหลังจากนั้นก็เลยลองเปิดจิตตรวจสอบว่าเป็นจริงหรือไม่ ก็ปรากฎว่าเห็นเด็กผู้ชายหน้าตาคล้ายๆลูกชายคนเล็กแต่โตกว่า ก็เลยได้คุยกันก็รู้ว่าเขาเป็นลูกที่แท้งไป แต่ก็ไปไหนไม่ได้ ก็อยู่กับดิฉันนี่แหละ ดิฉันก็ไม่ได้รู้สึกกลัว แล้วเขาก็ไม่ได้มีท่าทีโกรธแค้นอะไร พูดจายิ้มแย้มแจ่มใส ตอนหลังดิฉันก็มาตั้งชื่อให้เขา แล้วลูกชายคนเล็กก็จะพยายามคุยกับพี่เขาตลอด (ก็ผ่านทางดิฉันนั้นแหละ ส่วนดิฉันก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาเป็นประจำอยู่แล้ว มีอะไรก็จะคุยกัน เหมือนคนอยู่ด้วยกันนี่แหละ

ครั้งหนึ่งเคยมีหมอดูทักว่าดิฉันอ่ะแท้งลูกไปคนนึงใช่ไหม เนี่ยเขาไปไหนไม่ได้ ต้องให้เราสะเดาะเคราะห์ทำบุญไปให้เขา เขาเรียกร้องเงินทองมากมาย ดิฉันก็ไม่ได้ทำหรอก เพราะดิฉันคิดว่าดิฉันไปนั่งวิปัสสนาอุทิศบุญให้เขาดีกว่า สุดท้ายดิฉันก็ได้ไปนั่งวิปัสสนาแล้วอุทิศบุญให้ลูก ครั้งนั้นลูกเปลี่ยนไปในทันที กลายเป็นเทวดา ใส่เครื่องแต่งกายใหม่ ดิฉันก็คิดว่าที่เราทำน่ะถูกแล้ว ตอนแรกก็เห็นนะว่าลูกนะเหาะขึ้นสวรรค์ไปแล้ว แต่ตอนหลังก็เห็นยังมาอีก ก็ถามว่าอ้าวมาทำไม เขาก็บอกว่าเป็นห่วงแม่จะมาคอยช่วยดูแลแม่แล้วกัน แล้วดิฉันก็เห็นพัฒนาการของเขามาตลอดนะคะ จากเด็กมาจนโตเป็นหนุ่ม แล้วก็ได้เขานี่แหละที่ช่วยพยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆมาตลอดที่อยากรู้ (ยกเว้นเรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรงแล้วฝืนกฎแห่งกรรม บอกไม่ได้)

ครั้งนึงลูกชายคนเล็กไปค้างบ้านปู่ย่าที่ต่างจังหวัดทางภาคใต้ ดิฉันไม่ได้ไปด้วย วันนึงตอนเช้าก็นั่งคิดถึงลูก ไม่รู้ว่าลูกเป็นไงบ้างก็เลยเรียกลูกชายคนโตมาถาม ก็บอกว่าอ๋อตอนนี้เหรอเขาพากันไปกินไข่กะทะ โกปี๋ ติ่มซำ ดิฉันก็แย้งว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะลูกชายคนเล็กไม่มีการตื่นเช้าขนาดนี้ ลูกก็ท้าให้โทรไปหา ดิฉันก็เลยโทรไปแล้วลูกชายรับก็ยังคิดว่า เอ๊ย..ทำไมมันตื่นเช้าได้เนี่ย ดิฉันก็ว่าทำไมตื่นเช้า เขาบอกว่าออกไปตลาดกันมา ดิฉันก็เลยว่า อย่าบอกนะว่าไปกินไข่กะทะ โกปี๋ ติ่มซำ ลูกก็ถามกลับมาว่า ทำไมแม่รู้ละ อ๋อ พี่...บอกใช่มะ สรุปที่ลูกชายคนโตบอกถูกต้องทุกอย่าง เวลาที่ลูกชายคนเล็กไปไหน ก็จะบอกให้พี่เขาตามไปดูให้ด้วยทุกครั้ง เขาก็จะตามไปช่วยดูให้ทุกที

ยังมีเรื่องจะเล่าต่ออีก เดี๋ยวเอาไว้พรุ่งนี้มาต่อนะคะ พอดีลูกชายจะใช้คอมพิวเตอร์

 

ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับเรื่องเล่าดีๆ

อ่านแล้วมีกำลังใจในการ ปฏิบัติมากขึ้นครับ

ตอนนี้ก็เป็นเต่า ต้วมเตี๊ยม ไปก่อน

บุญรักษาครับ

 

ถ้าเล่าเรื่องการแท้งลูกนี่ เราก็มีเรื่องเล่านิดหน่อยพอเป็นวิทยาทานสำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านทุกท่านค่ะถือว่าแบ่งปันประสบการณ์กันนะค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนบ้านของเราเขาตั้งท้องนะค่ะ ท้องอ่อนๆเราก็พอทราบอะไรบ้างเล็กน้อยเขามาถามเรื่องลุกในท้อง ก็เลยบอกเขาว่า “ลูกที่มาเกิดมีบุญวาสนามาก ตั้งบุญรับเขาดีๆนะถ้ากำลังบุญพ่อแม่ไม่พอเขาก็จะไม่อยู่กับเราค่ะ “ตอนนั้นเขายังไม่ค่อยเชื่อค่ะ เขาชอบแอบหนีสามีไปทำเรื่องเกี่ยวกับอบายมุขจนต่อมาก่อนวันคลอด1วันเด็กก็ตายในท้องค่ะ หมอบอก รกพันคอ เขาก็ว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวมีไหม แต่เขาบอกกับเราว่า เด็กหน้าตาผิวพรรณดีมาก ผิดพ่อผิดแม่ เขาก็ถามอีกว่าจะทำอย่างไรดีสงสัยเด็กมีบุญจริงๆเลยไม่รอด ก็แนะนำให้เขาตั้งชื่อให้ลูก และให้อุทิศบุญให้ทุกครั้งที่ทำบุญ ให้เอ่ยชื่อเขาด้วย คราวนี้เขาทำตามค่ะ ต่อมาไม่นานเขาก็ท้องอีกครั้งค่ะพอเขาท้องได้ไม่นาน เราก็ฝันอีกค่ะ ฝันว่าพ่อเขาโยนเด็กออกนอกหน้าต่าง แม่ก็วิ่งตามออกมาแต่ไม่ไม่มีใครช่วยเด็กได้เลยค่ะเรากระโดดออกไปรับเด็กไว้ได้ แล้วเห็นแม่เด็กยืนสวดบทมหากรุณาธรณีสูตร (เขาไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับเจ้าแม่กวนอิมเลยค่ะเป็นคนไม่สวดมนต์ด้วย) เมื่อตื่นมาเราจึงนำบทสวดมหากรุณาธารณีสูตรไปให้เขาและเล่าความฝันให้เขาฟังและบอกให้เขาสวดบทนี้ด้วยค่ะ ช่วงที่เล่าเขานั้นเขาบอกเราตลอดว่า เขาขนลุกถึงหัวเลย และก็บอกเขาอีกว่า ให้ไปทางบุญมากๆนะทำบุญรับเด็กเยอะๆ คราวนี้เขาเชื่อค่ะ นั่งรถไปทำงานเขาก็สวดค่ะ ว่างจากการทำงานก็สวด ก่อนนอนก็สวด ทำบุญบ่อย และเขาก็ยอมเลิกกินเนื้อวัวด้วย ต่อมาเขาก็ได้คลอดลูกเด็กออกมาปรกติค่ะ เป็นเด็กผู้หญิง ค่ะfficeffice" /><O></O>

 

เอาบุญมาฝากครับ ผมได้สบทบทุนบริจาคซื้อ"อภิญญาใหญ่ 101 Server"เป็นจำนวน1000 บาท เพื่อที่เว็บพลังจิตจะสามารถเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้เร็วขึ้น ให้พระพุทธศาสนาของพระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ต่อไปให้ครบ 5 พันปี และให้พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์มีจิตแน่วแน่ในเส้นทางเพื่อช่วยขนสัตว์ให้พ้น สังสารวัฏฏ์

[FONT=&quot]อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้า กรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรม ให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วันนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน[/FONT][FONT=&quot]<o>></o>>[/FONT]
[FONT=&quot]และ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงโมทนาส่วนกุศลนี้ขอจงเป็นสักขีพยานในการ บำเพ็ญกุศลของ ข้าพเจ้า ในครั้งนี้ด้วยเถิด[/FONT][FONT=&quot] <o>></o>>[/FONT]
[FONT=&quot]และ ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุขเช่นเดียว กับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ เถิด[/FONT][FONT=&quot] <o>></o>>[/FONT]


ด้วยอานิสงค์ในการบริจาคเงินเพื่อซื้อ "อภิญญาใหญ่ 101 Server" สำหรับงานเผยแพร่พระพุทธศาสนาในครั้งนี้ ผมไม่ได้ปรารถนาในมนุษย์สมบัติ ไม่ได้ปรารถนาในสวรรค์สมบัติ ไม่ได้ปรารถนาในความเป็นเทพเทวดาหรือพรหม ไม่ได้ปราถนาในการกลับมาเกิดอีกต่อไป ขอผลแห่งกุศลกรรมที่ผมได้เพียรกระทำมาแล้วทุกๆภพทุกชาติ จงเป็นปัจจัยให้ผมให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบัน ให้มีทิพจักขุญาณที่แจ่มใสดังมองในเวลาเที่ยงวัน สมบูรณ์ไปด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา อธิบาท4 สามารถตัดกิเลสให้เป็นสมุทเฉทประหารได้อย่างรวดเร็ว ฉับพลัน ทันที อย่าให้มีมารใดๆนิวรณ์ใดๆมาขัดขวางในการปฏิบติกรรมฐาน ให้ผมเป็นผู้แตกฉานในจตุปฏิสัมภิทาญาณ สามารถที่นำพาพ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหาย ผู้มีพระคุณทั้งหลายให้ได้มีดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงกระแสแห่งพระนิพพานได้ทุกคน สนองพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยการนำพาเพื่อ มนุษย์ให้หลุดพ้นไปจากวัฏสงสารให้ได้มากที่สุด บำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรื่องให้ได้นานที่สุดตราบเท่าที่ขันธ์5จะ อำนวยด้วยเทอญ พระพุทธเจ้าข้า สาธุ...กราบ สาธุ...กราบ สาธุ...กราบ

 

เอ้อ...พิมพ์ไปแล้วหายอีกแล้ว ต้องพิมพ์ใหม่

 

เอาใจช่วยค่ะ พิมพ์ใหม่กันค่ะ;aa40

 

อ่ะ มาเล่าต่อจากเมื่อวาน
<O
สมัยก่อน ก่อนที่จะรู้จักเรื่องมโนมยิทธิ เรื่องพระพุทธเจ้า เรื่องนิพพาน ดิฉันก็จะคุยอยู่กับลูกชายคนโตแล้วก็ญาติๆที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งก็มี ก๋ง ย่า อี๋ (น้องสาวย่า แต่พวกเราเรียกอี๋ตามพวกอาๆ) อาผู้ชาย แล้วก็อาสะใภ้ นอกจากนั้นก็คุยกับพวกพระภูมิ เจ้าที่ เทวดาฯ บ้างแล้วแต่โอกาส<O
<O
ก๋งกับอาผู้ชายตั้งแต่เสียชีวิตไปดิฉันไม่เคยฝันเห็นเลย คงเห็นและติดต่อได้แค่ ย่า อี๋ แล้วก็อาสะใภ้เท่านั้น ทั้งสามคนดวงวิญญาณจะอาศัยอยู่ที่บ้านของย่า แต่จริงๆแล้วย่ากับอี๋เสียชีวิตที่บ้านอา แต่เนื่องด้วยย่าเป็นคนห่วงของ ห่วงสมบัติ จิตแกคิดถึงแต่บ้าน ก่อนตายก็ร่ำร้องอยากกลับบ้านแก ทำให้วิญญาณของแกเลยไปอยู่ที่บ้าน อี๋เป็นน้องสาวที่รักใคร่สนิทสนมกับย่ามาก พอตายไปก็เลยไปอยู่ด้วยกัน ส่วนอาสะใภ้กินยาฆ่าตัวตายที่บ้านย่า ทำให้ทั้งสามคนจึงวนเวียนอยู่ที่บ้านหลังนั้นไปไหนไม่ได้<O
<O
ดิฉันก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ตลอด เวลาผ่านไปหลายปีมาก ถึงจะเห็นว่าย่าเปลี่ยนไป จากที่เคยมีหน้าตาดำคล้ำ ร่างกายไม่สดใส ก็กลายเป็นหน้าตาดีขึ้น ร่างกายสว่างขึ้น ก็ทำให้เห็นว่าการที่เราทำบุญแล้วอุทิศให้แกก็ไม่ได้สูญหายไปไหน เพียงแต่ต้องใช้เวลามาก เพราะบางคนก็ยังมีกรรมอยู่ ส่วนอาสะใภ้นั้นฆ่าตัวตาย จริงๆต้องไปเป็นเปรต ไปไหนไม่ได้เหมือนกัน ยังดีที่ว่าลูกชายของอาสะใภ้บวชหน้าไฟ แล้วก็บวชต่อมาอีกหลายปี ซึ่งก็ทำให้อาสะใภ้ได้บุญกุศลจากพระลูกชายนานพอสมควร จึงทำให้แกดีขึ้นเหมือนกัน <O
<O
ก๋งกับอาผู้ชาย ดิฉันไม่เคยเห็นเลยหลังจากที่ตายไป ก็เลยอยากรู้ว่าพวกเขาเป็นยังไงบ้าง วันนึงดิฉันจึงกำหนดจิตขอพบ ก็ปรากฏว่าเห็นก๋งเหาะลงมาจากสวรรค์ใส่ชุดจี้กง ถือพัดอยู่ในมือเล่มนึง ก๋งก็บอกว่าก๋งสบายดี เป็นจี้กงไม่ได้ลำบากอะไร ส่วนอาผู้ชายก็ได้ไปสวรรค์เหมือนกัน ดิฉันเห็นรัศมีที่ศีรษะของอาเป็นวงใหญ่มาก ทั้งสองคนตอนมีชีวิตอยู่ ทำบุญไว้เยอะเหมือนกัน เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนไปดีแล้ว ดิฉันก็เลยไม่ค่อยได้เรียกพวกเขามาคุยด้วยหรอก คงคุยอยู่แต่กับลูกชายคนโต ย่า อี๋ แล้วก็อาสะใภ้

<Oแล้วอยู่มาวันนีงเจ้าลูกชายก็พาเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนึงมาหา อายุสัก 4-5 ขวบได้ บอกว่าเอาน้องมาให้แม่เลี้ยงคนนึง ดิฉันก็ว่า ลูกใครอ่ะ แล้วไปพามาจากไหน เขาก็ว่าเห็นเดินเร่ร่อนอยู่ ก็เลยพามาอยู่กับแม่ จะได้รับส่วนบุญส่วนกุศล (ใจบุญจริงๆลูกชั้น) ก็เลยถามว่าชื่ออะไร เขาก็ว่าเขาชื่อศศิมา แต่ก็ไม่ได้ถามว่าเป็นอะไรตายมา ดิฉันก็รับไว้แล้วก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้อยู่หลายปีเหมือนกัน เขาก็เรียกดิฉันว่าแม่ทุกครั้ง เป็นเด็กน่ารัก คุยเก่ง ขี้อ้อนเอาใจ (น่าจะเป็นนิสัยของเด็กผู้หญิง) จนตอนหลังมาสังเกตุว่าไม่ได้ยินเสียงเรียกคุณแม่ขา แล้วก็ไม่เห็นแกในจิต เลยได้ถามลูกชายว่า น้องไปไหน เขาก็ว่าไปเกิดแล้ว ดิฉันก็ดีใจกับแกด้วย ลูกชายเคยทำให้เห็นหนหนึ่งว่าเขาไปเกิดใหม่เป็นเด็กผู้หญิง ตอนที่เห็นแกก็เริ่มโตแล้ว ดูท่าว่ามีความสุขดี แต่ดิฉันก็ยังทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลให้แกเรื่อยๆ คงเป็นเพราะความเคยชิน

 

ไม่นานวันนึงดิฉันก็เห็นผู้หญิงจีนแก่ๆ โทรมๆ ใส่เสื้อผ้าเก่าสีเทาๆทึมๆมาหา บอกว่ามาขออยู่ด้วย ลำบากมาก-อดอยากลูกหลานที่เมืองจีนเขาไม่ทำบุญให้ ได้แต่เผากระดาษมาให้ตามประเพณี ดิฉันก็ถามว่าแล้วอาม่าเป็นใคร เขาก็บอกว่าเป็นแม่ของก๋งของดิฉัน (เคยเห็นรูปในบ้านก๋ง หน้าตาก็คล้ายๆกันอยู่) แล้วดิฉันก็ว่า แล้วรู้จักดิฉันได้ยังไง เพราะไม่เคยพบกันตอนมีชีวิตอยู่ พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าก๋งยังมีแม่แล้วก็น้องชายอยู่ที่เมืองจีนอีก เพราะก๋งไม่เคยบอกใคร มารู้ตอนที่ก๋งตายแล้ว แล้วน้องชายก๋งเขียนจดหมายมาขอเงินเพราะก๋งต้องส่งให้เป็นประจำทุกเดือน อาม่าก็บอกว่าก็มาตามเสียงอุทิศส่วนกุศลที่ดิฉันบอกว่าให้แก่ญาติทั้งหลาย (แสดงว่าได้ผลจริงๆ) ท่านก็เลยตามมา ตกลงดิฉันก็รับอาม่ามาอยู่ในสังกัดที่ต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้อีกคน เวลาผ่านไปพอสมควร อาม่าก็มีหน้าตาสดใสขึ้น มีชุดใหม่ใส่ ตรุษจีนก็มีการเปลี่ยนชุด มีวิมานอยู่อย่างสุขสบาย ทุกวันนี้ก็ยังแวะมาเยี่ยมเยียนเป็นครั้งคราว ดิฉันก็ยังทำบุญอุทิศไปให้แกอย่างสม่ำเสมอ
<O
ยัง ยังไม่หมดค่ะท่านกัลยาณมิตร ตอนหลังมีลูกสาวของเพื่อนรุ่นน้องที่เขาไปทำแท้งมา มาขออยู่ด้วยอีกคน ดิฉันก็รับไว้อีก ซึ่งจริงๆเด็กที่ถูกทำแท้งหรือแท้งเองมักจะตามติดอยู่กับพ่อแม่ของเด็กนะคะ แต่สำหรับเด็กคนนี้ เขาเคยมาหาดิฉันก่อนแล้ว ว่าให้ไปช่วยพูดกับแม่เขาหน่อยว่าอย่าทำแท้งเขา แต่ว่าก็ไม่ได้เป็นผล เพราะแม่เขาไม่ฟังอะไรทั้งนั้นสุดท้ายก็ไปทำแท้ง เขาเลยว่าแม่ใจร้าย ก็เลยมาขออาศัยอยู่กับดิฉัน แล้วเขาจะเรียกดิฉันว่ายาย เพราะว่าแม่เขาเรียกดิฉันว่าน้า ก็เลยมีอีกหนึ่งวิญญาณที่ต้องคอยอุทิศส่วนกุศลไปให้ วันแรกที่เขามาอยู่ เขาสั่งให้ไปบอกแม่เขาว่า เพราะแม่เป็นคนโลเล ตัดสินใจอะไรไม่เด็ดขาด ระวังแม่จะแห้วในสิ่งที่แม่หวังไว้ ดิฉันก็ไปบอกแม่เขาตามที่เขาบอกมา ผลปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น สิ่งที่แม่เขาหวังไว้มานาน ก็แห้วจริงๆ เพื่อนเสียใจมากแล้วก็พูดว่า พอลูกพูดปุ๊บ แห้วทันทีเลย ดิฉันก็ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะเป็นเรื่องที่ดิฉันเตือนมาก่อนหน้านี้แล้ว <O
<O
ลูกของเขาก็อยู่กับดิฉันได้พักใหญ่ๆ จนเพื่อนที่มีองค์เทพไปต่อว่าเพื่อนว่า ทำไมมีลูกแล้วไม่เลี้ยง ทำไมต้องเอาไปฝากให้ดิฉันเลี้ยง เป็นภาระดิฉัน เขาก็เลยร้องไห้ เพื่อนที่มีองค์เทพก็ว่าให้ไปหาพระปางสะดุ้งมารองค์เล็กๆมา เขาจะเรียกวิญญาณให้ไปอยู่ในนี้แล้วก็เอาไปไว้วัด ให้เขาไปสวดมนต์กับพระ วิญญาณจะได้ไปเป็นเทพ เทวดา ดิฉันไม่ได้รู้เรื่องที่เขาคุยกันว่าจะเอาวิญญาณลูกไปใส่ไว้ในพระ จนเพื่อนอีกคนมาเล่าให้ฟัง ดิฉันจึงไปถามเพื่อนที่มีองค์เทพ เขาก็ว่าจริง ตอนนี้ไม่อยู่แล้วแหละ ดิฉันจึงลองเรียกเขามา ซึ่งเสียงเขาอยู่ไกลมาก เขากำลังเดินทางไปวัดที่ต่างจังหวัดกับแม่เขา เขาก็ว่าลาก่อน หลังจากนั้นก็ไม่เคยเจออีกเลย<O
<O
ดิฉันก็มาคิดคราวนี้ลูกชายดิฉันก็ไม่มีน้องให้เลี้ยงอีกแล้ว ก็ไปซะอีกคนแล้ว ก็ยังคิดว่าเขาจะไปพาใครมาอีกหรือเปล่า สุดท้ายเป็นดิฉันเองแหละที่พามา เรื่องมีอยู่ว่าเพื่อนเขาเชิญองค์แม่อุมาให้มาประทับทรง แล้วองค์แม่ก็ได้เอาเทียนไปขีดๆเขียนๆที่องค์พระปางสะดุ้งมารองค์เล็กๆแล้วก็เอามาใส่ในมือดิฉัน ดิฉันก็รับมาแบบงงๆๆ เหอ เหอ จนตอนหลังเทพออกแล้ว ดิฉันก็ไปเล่าให้เพื่อนฟัง เขาก็ว่า อ๋อ..เขาเรียกวิญญาณน้องเล็ก ใส่ไว้ในองค์พระ จะได้มีร่างอยู่ แล้วจะเอาไปไว้วัด แต่สงสัยองค์พระแม่คงฝากเราไว้ชั่วคราวก่อน เพราะดิฉันต้องสวดมนต์ทุกวันอยู่แล้ว ก็จะได้พาน้องเล็กสวดมนต์ คืนนั้นดิฉันก็นำพระกลับมาบ้านด้วย แต่ก็ไม่ได้รู้ประวัติน้องเล็กเลย สุดท้ายก็เลยเรียกน้องเล็กมาถามว่า น้องเล็กเป็นอะไรตายมา เขาก็ว่าโดนทำแท้ง แล้วก็ถูกเอาร่างไปฝังไว้ที่ต้นชมพู่ ดิฉันก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะถาม เขาคงรู้สึกแย่อยู่แล้ว วันรุ่งขึ้นดิฉันก็ไปหาเพื่อน ก็ว่าจะไปถามเพื่อนว่าที่ดิฉันรู้มามันจริงหรือเปล่า (เช็คตัวเองด้วย ว่าเรื่องอย่างนี้มันจริงไหม)เพื่อนก็เล่าให้ฟังว่า น้องเล็กเขาน่าสงสาร ถูกพ่อตัวเองทำแท้ง ทำแท้งแบบไม่ธรรมดาด้วย เพราะท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว พ่อให้แม่น้องเล็กนอนลงแล้วก็เอาเท้ากระทืบยอดอก เหยียบให้ออก แล้วตอนออกมาน้องเล็กก็ยังหายใจอยู่ พ่อเขาก็ฆ่าให้ตาย แล้วก็เอาร่างไปฝังไว้ที่โคนต้นชมพู่จริงๆ ดิฉันฟังแล้วรู้สึกหดหู่ เศร้าใจมากไม่คิดว่าคนเราจะโหดร้ายได้ขนาดนี้ เพื่อนบอกว่า ที่เขาไม่อยากให้เกิดเพราะว่าพ่อเขาก็คือตาของเขา (แม่เขาโดนพ่อแท้ๆข่มขืน) เขาบอกตอนแรกน้องเล็กแค้นมาก อาฆาตมาก กว่าจะทำให้ดีขึ้นให้เลิกอาฆาตใช้เวลานานมาก ดิฉันก็บอกเพื่อนว่า แต่ตอนนี้ที่เห็นน้องเล็กเขาก็ดีขึ้นมากนะ ยิ้มแย้มแจ่มใส คุยหัวเราะสนุกสนาน ก็อยู่กับลูกชายคนโตของดิฉัน เพื่อนก็บอกว่าฝากไว้ชั่วคราว ไว้จะเอาไปให้อยู่กับหลวงพ่อที่วัด ดิฉันก็ว่าไม่เป็นไร แต่จนถึงทุกวันนี้น้องเล็กก็ยังอยู่ในความอุปการะของดิฉันยังไม่ได้ไปอยู่ที่วัดไหน ดิฉันก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้บ่อยๆ เขาก็เรียกดิฉันว่าแม่เหมือนกัน<O

 

โห...เหนื่อยแทนเลยค่ะ แล้วอย่างนี้เวลาไปไหนมาไหนก็เห็นพระภูมิ,เจ้าที่สัมภะเวสีได้เรื่อยๆเลยหรอค่ะ หรือว่าเห็นหรือคุยได้เฉพาะที่เราต้องการ หรือยังไงค่ะสงสัยจัง น่ากลัวด้วย แต่ก็อนุโมทนาบุญค่ะ

 

ก็ถ้าดิฉันไม่เปิดจิตรับรู้ ก็ไม่รู้ไม่เห็นหรอกค่ะ นอกจากว่าเขาต้องการสื่อสารด้วย เขาก็ต้องหาวิธีแหละค่ะ เหมือนอย่างที่เคยเล่าไว้ตอนก่อนๆ

เห็นเรื่อยๆก็ไม่กลัวหรอกค่ะ แต่ส่วนมากก็จะมาในรูปดีๆ เคยเหมือนกันมาแบบเละๆ ดิฉันก็ว่าต้องมาในรูปดีๆนะ ไม่งั้นไม่คุยด้วย (แน่ะ..มีต่อรอง จิตของเรา ตัวของเราก็ถ้าเราไม่อนุญาตใครก็ทำไรไม่ได้หรอกค่ะ)

 

เปิดจิต-ปิดจิต ทำยังไงครับ