การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนาและได้บุญเยอะที่สุด

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย รสมน, 21 พฤษภาคม 2009.

  1. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647

    จริงแล้วสำหรับผมนี่นะ...16 ญาณ ...นี่เป็นอะไรที่น่าปวดหัวอย่างยิ่ง......

    ผมไม่ท่องหละ....ไปท่องไปติดมันก็เป็นนิวรณ์.....(เมื่อไรกูจะถึงวะ....แล้วตอนนี้กูถึงใหนวะ).......ตกลงว่าฝึกสมถะด้วยครับ.....ไม่ใช่ฝึกแต่วิปัสสนา.....

    ความเห็นที่ว่าฝึกแต่วิปัสสนาแล้วดูถูกสมถะ.......นี่เป็นมิจฉาทิฏฐิ.......ปูนป้ายหัวไว้เลยใครที่พูดอย่างนี้......แม้พระโสดาบันก็ไม่ได้......
     
  2. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ท่านภูตเคยได้ยินเรื่อง คุณยายต้มน้ำไหมคะ ต้มไปต้มมา คุณยายสำเร็จพระอรหันต์
    แถมได้ฤทธิ เตโช โดยไม่รู้ตัว
     
  3. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณรสฯ ครับ
    คุณอย่าเอามาปนกันสิครับ ของแบบนี้เอามาปนกันไม่ได้ครับ

    สมถะ คือ ฌาน คือ สมาธิ
    วิปัสสนา คือ ญาณ คือ ปัญญา

    สมถะและวิปัสสนาต้องคู่กันไป (คำว่า "และ" ก็บอกอยู่แล้วว่าทั้ง ๒ อย่างต้องควบคู่กันไป)

    ;aa24
     
  4. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    จากที่กล่าวมาก็ถูกหมดเห็นไหมว่า
    ควรเลือกปฏิบัติทางไหนก็แล้ว
    แต่ว่าจะปฏิบัติทางไหนไม่ได้ห้าม
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ยอดเยี่ยมครับ ที่ได้เห็น สัมมาทิฎฐิ ในหลายๆท่าน

    เรื่อง สมาธิ นี้ต้อง สนับสนุนไว้เลย เพราะว่า ระยะหลังมานี่ จะไม่เอาสมาธิกันแล้ว

    กำัลังจิต กำลังใจของคน นี้ ต้องมีสมาธิเป็นพื้นฐาน

    แต่ก็ ไม่อยากจะทำลายกำลังใจ คุณ รสมน

    ก่อนที่ผมจะมาดำเนินวิปัสสนา ผมทำสมาธิ มาจนได้ทั้งหยุดลมหายใจ ทั้งเดินออกมานอกตัว ทั้งสารพัด มานานมาก สุดท้ายแล้วมาเจอครูบาอาจารย์แล้วจึงมาวิปัสสนา เจริญสติดูรูปนาม แต่ก็ไม่ได้ทิ้งสมาธิเลย
    ยังคงเจริญ ด้วยการสวดมนต์ พุทโธ มาจนถึงทุกวันนี้ อีกทางหนึ่งก็ เจริญ ปัญญา ไปด้วยกัน สมาธิ และ ปัญญา และ ศีล ปราณีตไปตามลำดับ ด้วยการอบรมไปเรื่อยๆ
     
  6. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณนานา คอนนาดู แล้วคุณรู้หรือเปล่าครับ
    ว่าคุณยายท่านนั้น ฝึกฝนอบรมจิตผ่านฌานมามากน้อยขนาดไหน

    ในครั้งพุทธกาลนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นนักจิตนิยม
    ฝึกฝนอบรมจิตกันมาแต่เล็กแต่น้อยกันทั้งสิ้น

    มีแต่คนในปัจจุบันเท่านั้นที่มักง่าย ชอบเอาง่ายเข้าว่า
    ขาดซึ่งความเพียรเพ่ง(ฌาน)เป็นพื้นฐาน

    อนุโมทนาครับ

    ;aa24
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ถูกแล้วครับ......ใครก็ตามฝึกมาทางใหนก็ตาม.....ไม่ว่ากรรมฐาน 40 หรือกรรมฐาน ในมหาสติปัฏฐานสูตร......ล้วนแต่ถูกต้อง......เพราะว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ทั้งหมด....

    สิ่งที่ไม่มีประโยชน์พระพุทธองค์ทรงไม่สอนไว้.......

    ขอทุกท่านตั้งใจปฎิบัติ....ดีหมดทุกสายครับ.....ทางขึ้นภูเขาไม่ได้ทีทางเดียว.....

    โมทนาสาธุธรรมครับ.....
     
  8. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    คุณภานุคะ ที่เคยทราบมาคนที่ได้ญาน 16 แล้วก็ยังไม่พ้นการเวียนว่ายตายเกิด
    หากยังไม่ได้วิปปัสนาญาน
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ ดูจิตใจคนสมัยนี้สิครับ มันอ่อนปวกเปียกมาก

    เพราะว่า มันขาดพละ 5 พอมันขาดองค์พละ 5 นี้มันจะทำให้ทำอะไรเป็นประเภท จับฉ่าย หยิบโหย่ง ทำอะไรไม่มีกำลัง จิตใจนี่ ก็เหมือนกัน มันไหวๆ มันไหวจนกระทั่งว่า รูปนามเกิดให้ยุบยับไปหมด นั่นเป็นเพราะอวิชชา ทั้งก้อน ใจมันดูขณะนั้นมันก็เต็มไปด้วย อวิชชา

    จิตใจต้องมีกำลังให้มากกว่านี้ ด้วยการเจริญ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา

    เจริญให้ จิตใจนี้มีกำลัง เวลามันมีกำลังนี่มันจะเบิกบาน มันจะกระตือรือร้น คล่องแคล่ว เหมาะแก่การงาน มันจะเบาตัวเบาใจ มันไม่เต็มไปด้วย นิวรณ์ คือ ตั้งท่าจะทำอะไร ก็แผ่ว
    จะทำอะไร ก็เต็มไปด้วย ความทุกข์ ดาหน้าเต็มไปหมด ทั้งง่วงหงาวหาวนอน ขี้เกียจ

    พยาบาท สงสัย ฟุ้งซ่าน

    นี่คนเดี๋ยวนี้มันเป็นแบบนี้ มันยังจะคิดว่า ได้ธรรมกันอีกหรือ ฟุ้งอยู่ ดูความฟุ้งนั้น มันได้อะไรหรือ

    นั่นแหละครับ อะไรที่พระศาสดา สอนแล้ว ครูบาอาจารย์สอนแล้ว เชื่อท่าน อย่าเชื่อกิเลสในตัวเรา

    หลวงพ่อวิริยังค์ ตั้งสถาบัน เพื่อฝึกสมาธิ
    หลวงตามหาบัว สอนให้ทำสมาธิ ด้วยพุทโธ ให้ใจแนบไป ให้ฝึกจิตตภาวนา
    ลูกศิษย์พระอาจารย์มั่นทุกท่าน ถูกสอนให้ เจริญสมาธิเป็นฐานทุกคน
     
  10. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ดูก่อน ท่านภูต การเล่าเหมือนง่ายนะ
    ที่คุณยายต้มน้ำนั้น ก็เพราะ คุณยายท่านเห็น ว่าท่อนฟืนที่ใส่ไฟ ไปไม่ว่าใหญ่แค่ไหน ก็ล้วนถูกไฟ เผาไหม้หมด ใส่ไป ใส่ไป ก็หมด
    คุณยายเลยปล่อยวาง เท่านั้นแหล่ะท่านก็สำเร็จ ตอนแรกอ่านก็ไม่เชื่อหรอก
    เอามาเทียบเคียงกับหลักธรรมอย่างก็เลยเชื่อน่ะค่ะ นี่เป็นผลของวิปปัสนา
     
  11. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    อันนี้ผมไม่รู้ครับ.....ที่รู้คือผมไม่สนใจที่จะท่องจำ....เท่านั้นเอง.....มันจะถึงใหนช่างหัวมัน......เหยียบพระนิพพานเมื่อไรเมื่อนั้นหละ.......ตูชนะแล้ว.....
    (sing)
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ nanakorn คุณกำลังเข้าใจผิด คุณเข้าใจคำว่าวิปัสสนา ดีแค่ไหน

    ไหนลองว่ามาซิ คุณรู้หรือไม่ว่า วิปัสสนาเพื่ออะไร
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ปัญหาเดิมครับคุณ รสมน ไม่ต้องสนใจก็ได้

    ปัญหาเดิมๆ ก็คือ ความคลาดเคลื่อนในการ เห็นคำว่า วิปัสสนา ของพวกเขา

    พวกเขา ที่มาชี้แจงคุณ รสมน อยู่นั้น จะกลัวมากกับคำว่า วิปัสสนา เมื่อพวก
    เขาเห็นคำนี้ เขาจะจดจำทันทีว่า เป็นเรื่องของการนึกคิด

    ก็เรียกว่า พวกเขาเองนั่นแหละที่เข้าใจคำว่า วิปัสสนา เป็นสิ่งๆหนึ่งที่ปราศจาก
    สมาธิรวมอยู่ด้วย และพวกเขาเองนั่นแหละที่ แยกคำว่า วิปัสสนา ออกจาก สมถะ
    อยู่ตลอด

    ซึ่ง จริงๆ คำว่า วิปัสสนา ในความหมายที่ถูก บางคนรู้ไหม ก็พบว่า มีบางคนรู้
    และกล่าวออกมาด้วย คำว่า วิปัสสนา นั้นคือ ลักขณูปณิชฌาณ ดังนั้น มัน
    เป็นเรื่องการทำฌาณอยู่ในตัวอยู่แล้วโดยการพิจารณาไตรลักษณ์ในรูปนาม

    หาก คุณ รสมน รู้อยู่แล้วว่า เวลาเราพูดคำว่า วิปัสสนา เมื่อไหร่ก็หมายถึง ลัก
    ขณูปณิชฌาณ เสมออยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปโต้ตอบกับพวกบกพร่องทางสัญญา
    ชอบแยกวิปัสสนาออกจากสมถะ และคนที่ไม่เข้าใจ ลักขณูปณิฌาณ แล้วเที่ยวเอา
    ความคิดตัวเองยัดข้อหาผู้อื่น

    ประโยคที่คุณ รสมน พูดว่า ฆราวาสเหมาะกับการวิปัสสนาล้วนๆ

    หากเรารู้อยู่ว่า เป็น ลักขณูปณิชฌาณ หากไม่มีใครมานั่งหาเรื่องจับผิด
    ติดคิดด้วยตัวเขาเอง ก็จะรู้ว่า เรากำลังพูดว่า

    "ฆราวาสเหมาะกับการทำลักขณูปณิชฌาณล้วนๆ" นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2009
  14. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    กีต้า สายมันเพี้ยนน่ะ ตั้งสายไหม่เถอะ
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    วิปัสสนานี้ ดูให้ใจมันลงให้กับธรรม อันจะมีผลคือ วางได้

    วางอะไร ก็วางตัวที่มันหลงอยุ่นั่นแหละ ทีนี้เราหลงอะไร
    เราก็ติดภพอยู่ จากตัวนี้ จิตนี้ อารมณ์นี้ ความคิดนี้ เวทนานี้ นี่มันติดเป็นชั้นๆ ไป

    เราวิปัสสนาให้เห็นว่า ทั้งๆหมดที่มันเป็นเราอยู่นี่ มันวางได้หมดทุกอายตนะ

    มันจะละเอียดขึ้นไปเรื่อยๆ วางได้เป็นชั้นๆ ไป และชั้นลึกๆ ละเอียดจะต้องมีกำลังสมาธิ

    การวางความคิดยัง อยู่แค่เปลือก
     
  16. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    กรณีนี้..ก็เหมือนพระอานนท์
    แต่ทั้งพระอานนท์และคุณยายท่านนี้..เป็นผู้มีวาสนาบารมีจวนเต็ม เป็นพระอริยะชั้นต้น
    จะยกมาเทียบเคียงกับเราๆ.ท่านๆ..ไม่ได้
    ธรรมะที่นำมาใช้..ต้องถูกจุดที่เราติดขัดจริงๆ...
    เหมือนเกาให้ถูกที่คัน..มันถึงจะแก้กันได้
    ดั่งพ่อแม่ครูจารย์มั่น..ท่านมีข่ายญาณ..รู้ทั้งภายในภายนอก
    ท่านมีคุณสมบัติข้อนี้...
    ท่านจึงเป็นที่เคารพยกย่องเหนือเศียรเกล้าฯ ของเหล่าศิษย์ทั้งหลาย
     
  17. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    คำว่าวิปัสนาคือ
    จิตที่สงบ ซึ่งมันภาวนาด้วยตัวของมันเอง มันจะส่งผลให้จะพิจารณาอะไร
    ไม่ว่าจะละเอียดแค่ไหน ก็สามารถเข้าใจได้ทันที โดยที่มีธาตุรู้เข้ามาช่วยเสริม
    ให้แข็งแกร่ง สิ่งที่ได้ก็คือผลที่ถูกต้อง นานาจิตตัง
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอจงยังสมาธิให้เกิดขึ้นเถิด
    ผู้ที่มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง"

    คุณนานาฯครับ ที่คุณยายเห็นต่างจากคนทั่วไปนั้น
    เพราะท่านมีกำลังแห่งสติปัญญากล้า
    อันเนื่องสืบมาจากผ่านการฝึกฝนอบรมจิตมายาวนาน
    จนมีกำลังแห่งฌานในการปล่อยวางอารมณ์ในจังหวะที่เหมาะสมกับจริต
    ที่ถูกต้อง จึงปล่อยวางได้หมดจดรวดเร็วครับ

    ;aa24
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อย่างคำว่า สมถะ->สมาธิ วิปัสสนา->สมาธิ นี่ก็มัก งง เอง สำหรับพวกเขา

    ก็เพราะ เขาชอบแยกคำว่า สมถะ ออก จากวิปัสสนา เลยทำให้ งง กับคำว่า สมาธิ

    สมถะ ไม่ใช่ตัวเดียว กับสมาธิ

    วิปัสสนา ก็ไม่ใช่ตัวเดียว กับสมาธิ

    การทำสมถะ ยึดอารมณใดๆก็ได้ลงเป็นหนึ่ง พอให้จิตมันสงบ พอสงบ แล้วพ้น
    เจตนาความจงใจ ก็จะเกิดอาการจิตรวมขึ้น อาการที่จิตรวม ก็เรียกว่า เกิดสมาธิ
    แล้วจึงเดินเข้าสู่ฌาณ(4)

    การพิจารณารูปนามลงเป็นไตรลักษณ์(วิปัสสนา) ก็จะพิจารณาไปเรื่อยๆ จนพ้น
    การคิดไม่ได้จงใจคิดพิจารณา ก็จะเกิดอาการจิตรวมขึ้น อาการจิตรวม ก็เรียก สมาธิ
    แต่เป็นสั้นกว่าการทำแบบสมถะนำ จึงเรียกเสียใหม่ว่า ขณิกสมาธิ แต่เมื่อทำเรื่อยๆ
    เนืองๆ ก็จะได้ สมาธิ แล้วได้ฌาณ(4) เหมือนกัน ( ถ้าตอนจิตรวมได้แต่ขณิกสมาธิ
    ตลอดไม่เคยออกไปยึดวิหารธรรมอื่น และฌาณ4 ได้ครั้งเดียวแล้วตัดเข้ามรรคเลย
    ก็จะไม่ได้ฤทธิ์ --- แต่ทั้งนี้ ตัวตัดสินว่าจะมีฤทธ์ ก็ไม่ได้ขึ้นกับการภาวนาในชาตินี้
    หากชาติไหนเคยทำสมถะถึงฌาณมาแล้ว ก็จะได้เป็นญาณลาภีไป )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2009
  20. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    อันนี้ขอชี้แจงนะคะ นานาเทียบเอาหลายฉบับน่ะค่ะ
    โดยเท่าที่ทราบนี่ เป็นเพราะคุณยายท่านเห็นความทุกข์ หรือ ที่สุดแห่งทุกข์
    ท่านเห็นว่ามันไม่เที่ยง คล้ายๆว่ามันเกิดโดยเอง เพราะความเพียรอย่างต่อเนื่อง นะแต่ไม่ได้เพียรแบบกำหนดข่มว่าต้องเพียร คนละความหมายกัน สิ่งที่หลายท่านชี้แจงมา นานาจะรับไว้พิจารณา อนุโมทนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...