ทำไมศาสนาพุทธมีอายุแค่ 5,000 ปี

​

พระผู้มีพระภาคเจ้าของพวกเรา พระองค์ทรงมี "อนาคตังสญาณ" ที่จะทรงทราบด้วยพระญาณว่า

" ภายหลังจากที่พระองค์ปรินิพพานไปแล้ว จะมีอะไรเกิดขึ้นกับศาสนาของพระองค์ และพุทธบริษัทรุ่นหลัง ๆ อย่างพวกเรา " พระพุทธานุภาพของพระองค์ก็ยังคงมีอยู่ ตราบใดที่พระบรมสารีริกธาตุยังไม่อันตรธาน

พระองค์ได้ตรัสกับพระอานนท์ เมื่อครั้งที่พระนางปชาบดีทูลขอบวช ว่า " ถ้าหากเปรียบธรรมวินัยของเราตถาคต เหมือน "นาข้าวผืนใหญ่ผืนหนึ่ง ที่มีต้นข้าวงองงาม แต่ถ้าหากปล่อยให้มาตุคามเข้ามาบวชในธรรมวินัยนี้ ก็เหมือนปล่อยให้ เพลี้ย ศัตรูพืชเข้ามา
ศาสนาของพระองค์ถ้ามีอายุอยู่ได้ 5,000 ปีก็จะลดลงเหลือกึ่งหนึ่ง ... อย่าเลยอานนท์

( จากหนังสือ ของ อ.วศิน อินทสระ ที่ อ.วศิน อ้างจากพระไตรปิฎก)

อย่างนัยยะนี้ ก็เป็นนัยยะหนึ่ง ที่พระอรรถกถาจารย์ท่านได้ศึกษา และใช้เป็นแนวในการอธิบายขยายความ " พระพุทธพจน์ "

( ยังมีในที่อื่นอีกมากมาย เช่น ในมิลินทปัญหา ก็มีข้อความที่ อ้างอิงพระพุทธพจน์ )อรรถกถาจารย์ท่านมีเจตนาให้คนรุ่นหลัง
ไม่ตั้งอยู่ในความประมาท ซึ่งเป็นการดำเนินตามปัจฉิมโอวาทครั้งสุดท้ายของพระผู้มีพระภาค ครับ 5,000 ปีเท่านั้น สำหรับศาสนาของ พระโคตมะพุทธเจ้าแต่ของพระศรีอริยเมตไตรย พระศาสนาจะมีอายุได้ 180,000 ปี บางแห่งก็แสดงไว้ว่า 320,000 ปี ( จากการค้นคว้าของ ดร.ช่วย กรรณวัฒน์ อาจารย์บรรยายพระอภิธรรม ของ มูลนิธิแนบ มหานีรานนท์ )

ตรัสไว้ว่าเป็นอยู่โดยชอบ (ตามพุทธปัญญา อันเป็นพุทธวิสัยที่บัญญัติไว้ดีแล้วนั่น ไม่ใช่ ตามสาวกปัญญา อันเป็นสาวกวิสัย) โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์

ดังนั้น ไม่ต้องสงสัย เพราะ นิวรณ์อันเป็น อุปกิเลส ว่า พระศาสนาจะมีอายุ 5000 ปีจริงๆใช่ไหม

พระสัทธรรม (ธรรม วินัย ที่ปรากฎใน พระไตรปิฎฏ) ไม่ ถูกทำลาย ชาวพุทธ เป็นอยู่โดยชอบ ตามที่ตรัสทรงรับรองแล้วว่า "โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์"

ดังนั้น อีก ๕๐๐๐ ปี โน้น ยังมี บุคคล เป็นอยู่โดยชอบ (ตามพุทธปัญญา อันเป็นพุทธวิสัยที่บัญญัติไว้ดีแล้วนั่น ไม่ใช่ ตามสาวกปัญญา อันเป็นสาวกวิสัย) โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์ แน่ๆครับ








ที่มา http://www.larnbuddhism.com/

 

ก็ดีครับ ก็ได้ความรู้ไปอีกแบบหนึ่ง ทุกอย่างมันเป็นไปตามระบบของการกระทำหรือที่เราเรียกว่ากรรม ที่มี่ทั่งดีทั่งชั่ว แล้วแต่จะส่งผลนะครับ คุณ LukhGai ลองพิจารณาเองครับ

 

อย่าไปสนใจกับวันเดือนปีเลยครับ

วันคืนล่วงไปท่านกำลังทำอะไรอยู่

กาลเวลาย่อมกลืนกินทุกสิ่งสรรพ์ รวมทั้งตัวมันเองด้วย​

 

พระพุทธศาสนา อายุ 5000 ปี จริงหรือ

ผมเปิดค้นพระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
ก่อนที่มหามกุฎ และมหาจุฬา จะได้นำมาแปล และเรียบเรียงใหม่
ทั้งส่วนที่เป็นบาลีไม่มีคำว่า 5000 ปี
ทั้งส่วนที่เป็นภาษาไทยไม่มีคำว่า 5000 ปี
แต่มีขึ้นในชั้นหลัง โดยมีผู้เขียนเพิ่มติมเข้าไปให้มีคำว่า 5000 ปีขึ้นมา
สรุปได้ว่าการที่มีคำว่าศาสานพุทธจะมีอายุเพียง 5000 ปี เป็นการเขียนขึ้นมาในชั้นหลังโดยสาวกในชั้นต่อมา
การที่อ้างว่าเป็นคำจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า หรือไม่
จะต้องมีคำที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า
ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย.......
ดูก่อน อานนท์........
ดูก่อน คหบดี......
ดูก่อนพราหมณ์....... ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นคำจากพระโอษฐ์ นอกนั้นไม่ใช่
ในพระไตรปิฏกฉบับปัจจุบัน ใน 3 ส่วน เป็นคำที่พุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้เพียง 1 ส่วนเท่านั้น นอกจากเป็นการเพิ่มเติมเสริมแต่งเข้ามา เป็นการอธิบาย ขยายความในชั้นหลัง
พระพุทะเจ้าทรงตรัสถึงเรื่องดังกล่าวเอาไว้ว่า ธรรมะของพระองค์เปรียบเหมือนกลองศึก ที่เมื่อตีไปเรื่อยๆ ไม้ที่ทำกลองย่อมหลุดไป และบุคคลก็นำไม้ใหม่มาปะเข้าไปแทนที่ ดังนี้ เมื่อเป็นดังนี้นานวันเข้าก็เหลือแต่ไม้ใหม่ ไม่คงเหลือไม้เก่าที่เป้นของเดิม คำของพระพุทธองค์ก็เช่นเดียวกัน ถ้อยคำที่ต่อเติม เสริมแต่ง ให้มีความไพเราะเสนาะหูน่าฟัง เมื่อต่อเติมเข้ามาก็พลอยทำให้คำของพระพุทธองค์ค่อยๆหายไปฉันนั้น
อยากทราบละเอียดลองหา บาลีสยามรัฐ มาลองสืบค้นดูครับแล้วจะเข้าใจ หรือถ้ายากเย็นนัก ลองไปที่วัดนาป่าพง ปทุมธานีดู ก็จะได้คำตอบที่ตรงกันครับ

 

พุทธองค์เกิดก่อนตำรา

ตำรามาแต่งหลังท่านเข้านิพพานแล้วทั้งสิ้น

อยากรู้อะไรก็ให้ค้นดูที่จิต ลึกซึ้งกว่าในตำรามากนัก

จงเป็นกบนอกกะลา อย่าเป็นอย่างกบในกะลา

 

จากหลักธรรมที่กล่าวไว้ว่า อนิจจัง ทุกสิ่งไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ขอถามผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านว่า พุทธศาสนา และ พระธรรม จะอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์นี้ด้วยหรือไม่? ถ้าไม่เพราะอะไร ? ขอบคุณครับ

 

อดีตล่วงมาแล้ว อนาคตยังมาไม่ถึง การมีสติกับปัจจุบันคือแนวทางการเป็นอยู่โดยชอบ

 

สุดท้ายแล้วถ้าพวกเราช่วยกัน มันก็จะคงอยู่ตราบนิรันดร ชั่วกัปชั่วกัลป์
แม้จะขาดหายไปหรือเสื่อมไปอยู่ช่วงหนึ่ง(ไม่รุ้นานเท่าไหร่) แล้วรุ่งเรือง
ขึ้นมาใหม่ ด้วยพระศาสดาองค์ใหม่ก็ยังถือว่าดำรงค์อยู่ได้ ไม่มีวันตาย
มิเช่นนั้นจะมีคำว่า "อมตะธรรม" หรือครับ
(ในความคิดของผมนะครับ)

 

สัจจะธรรม ไม่เคยเลือนหาย แต่ เมื่อครบห้าพันปี แห่งยุคพระบรมศาสดา

พระสมณโคตมสัมมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นี้ ....

เหล่า มนุษย์ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระสาวกตั้งแต่พระโสดาฯ จะไม่มี ( ที่มีแล้ว เป็นแล้ว ไม่ว่าคน เทวดา พรหม นั้นไม่นับ ) คือ การเข้าถึงพระรัตนตรัย มีองค์สาม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะไม่ครบ

เมื่อไม่มีตัวบุคคลอันเป็นมนุษย์ เข้าถึงธรรมเป็นสงฆ์ การสืบทอดด้วยความเป็นพุทธบุตรจึงขาดลง แม้สัจจะธรรมอันเป็นโลกุตรยังอยู่ พระพุทธกายเนื้อรวมตัวครั้งสุดท้ายด้วยนิมิตรแห่งพระบรมสารีริกธาตุรวมตัวแล้วอันตรธาน เป็นการปิดยุคพระศาสดา


.............."คน" ที่จะเข้าถึงธรรมไม่มีแล้ว แต่ พระธรรมยังคงอยู่เช่นนั้นเอง

 

ทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไป เป็นไปตามคำสอนของพระพุทธองค์ ขอแค่เราอย่าประมาทในการสร้างบุญบารมี ในขณะที่ชีวิตของเราตั้งอยู่นี้แหละ

 

ศาสนาพุทธมีอายุ 5000 ปี จริงหรือ ?

พุทธทำนาย ถอดความจากศิลาจารึก
เขตมหาวิหาร ประเทศอินเดีย



สาธุ อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและใน อนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า .....

ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคตล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของ โลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า อำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวาย ในกุศลตามวจนะของตถาคตก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบางแต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น

เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี เป็นต้นไป ไฟจะรุกรามมาทาง
ทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติด เมืองข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก

ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเลโลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ


ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่
ต้องอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบ
สอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศีลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐ พระวัสสา

ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อม
ยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรม
ของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล ๕ ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดดรู้จักพอ ไม่โป้ปดคตโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล "




ศาสนาพุทธมีอายุ 5000 ปี จริงหรือ ?

 

พระพุทธเจ้าเป็นลูกชาวไทยอาหม เป็นไทย ไทยที่นั่นมี ๒ พวก คือ
ไทยอาหมพวกหนึ่ง ไทยมะลิวัลย์พวกหนึ่ง

พระพุทธเจ้าเป็นลูกชาวไทยอาหม

ฉะนั้นเวลานั้นประวัติศาสตร์บอกว่า ชาวกรุงกบิลพัสดุ์ น่ะไม่ยอมแต่งงานกับคนเผ่าอื่น คือไทยกับแขกมันไม่ไหวจริงๆ มันเหม็นใช่ไหม (หัวเราะ) มันไม่ไหวนะ แต่ว่าพระพุทธศาสนาท่านประกาศ 5,000 ปีที่ประเทศไทยเรานี่ ไม่ใช่อุบัติที่โน่น ประกาศตั้งที่โน่น ไม่ใช่อย่างนั้น ประกาศครบ 5,000 ปีที่ประเทศไทยเราต่างหาก

ที่เราจะรู้กันว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนไทย ตามประวัติมีครั้งหนึ่ง ท่านโกมารภัจ เป็นหมอประจำพระองค์ ลามาเที่ยวที่ สุวรรณภูมิ ๒ ปี พอกลับไปแล้วก็เล่าให้พระพุทธเจ้าฟังว่า ชาวสุวรรณภูมิ (ชาวสุวรรณภูมิก็คือไทย) ใช้ภาษาโดดพูดเพราะมาก คำว่าภาษาโดดของเรา กิน เราเรียกว่า กิน ของเขา ภุญชะติ หลายคำใช่ไหม เรากินคำเดียว ไป ของเรา ไปหรือมา ถ้าไปของเขา คัจฉะติ ถ้ามา อาคัจฉะติ มันหลายคำ ภาษาไทยของเราโดด

พระพุทธเจ้าเลยถามว่า ชาวสุวรรณภูมิ เขาพูดอย่างไร ลองพูดให้ฟังซักประโยคซิ

ท่านโกมารภัจ ก็พูดให้ฟังประโยคหนึ่ง พระพุทธเจ้าก็เลยพูดภาษานี้เรื่อย ก็คุยกันสนุกสนาน คุยไปคุยมา คุยมาคุยไป ท่านโกมารภัจ ก็สงสัยคิดว่าพระพุทธเจ้ารู้ภาษานี้ได้อย่างไร คือว่าพระพุทธเจ้าอาจจะรู้ได้ทุกภาษาใช่ไหม ถามว่า พระองค์รู้ภาษานี้ได้อย่างไร จากความเป็นปฏิสัมภิทาญาณหรืออย่างอื่น
พระพุทธเจ้าบอกว่า ชาวกรุงกบิลพัสดุ์ ทั้งหมดใช้ภาษานี้เป็นภาษาพื้นเมืองไง จับได้ตอนนี้ว่าเป็นคนไทย ก็ใช้ภาษาพื้นเมือง ก็หมดทั้งประเทศเลยใช่ไหม ก็เลยเป็นชาวไทยไป แต่นี่เห็นว่าพวกแขกไม่ค่อยจะเลื่อมใสพระพุทธเจ้านัก แอนตี้พระพุทธศาสนา การประกาศพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าในอินเดียไม่ค่อยเดิน ได้ ๗ แคว้น และก็ในสมัยพระพุทธเจ้าเองก็เคยมาเข้าเขตในประเทศไทยเรา

อย่าง พระเจ้าอริฏฐะ พระเจ้าอริฏฐะ ที่ลำพูนท่านฟังข่าวจากคนพ่อค้าว่า เวลานี้พระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก ประกาศตนว่าท่านเป็นอรหันต์ด้วย สอนคนเป็นอรหันต์ด้วย และเวลานั้นคำว่า "อรหันต์" นี่มีมาก่อน พอประกาศพระศาสนาเขาถือเขาเป็นอรหันต์

"อรหันต์" แปลว่า สูงสุดตัดกิเลสได้

พระเจ้าอริฏฐะ ท่านโตแล้วก็เรียนลัด จะไปอย่างไรจากลำพูนไปพุทธคยา ข้ามเขาไปกี่ลูกใช่ไหม ท่านก็ใช้วิธีโตแล้วเรียนลัด ใช้จุดธูปกลางแจ้งว่า "ถ้าพระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลกจริง ขอให้เสด็จมาทรงโปรดที่นี่!"

พอตกเช้ามืดก็นอนฝันว่า มีพญาหงส์ทอง ๕ ตัว บินมาจากทิศตะวันตกมาลงที่พระลานหลวง ก็ตื่นพอดี ก็เปิดหน้าต่างดู เห็นพระ ๕ องค์ก็ลงไป เมื่อลงไปแล้วหัวหน้าก็บอกว่า

"อาตมาไม่ใช่พระพุทธเจ้า แต่เป็นอัครสาวกเบื้องซ้าย มีนามว่า โมคคัลลาน์ พระพุทธเจ้าใช้ให้นำพระอีก ๔ องค์ คือมาทั้ง ๕ องค์มาที่นี่ ที่พระองค์จุดธูปนิมนต์ เวลานี้พระพุทธเจ้ายังไม่ว่าง"

เขาทำบุญเป็นการใหญ่ ประกาศป่าวร้องทำบุญกัน เมื่อเสร็จจากภารกิจ พระโมคคัลลาน์ ก็ถอยหลังไปที่ ดอยโมคคัลลาน์ ใกล้ๆ ดอยอินทนนท์ เมื่อเขานำภัตตาหารถวายเสร็จ วันหนึ่งท่านก็พยาการณ์ว่า "ที่ตรงนี้ต่อไป (ที่ลำพูนนะ) จะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุรากขวัญเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า และก็บริเวณประเทศนี้ต่อไปจะทรงพระพุทธศาสนาครบ 5,000 ปี"

เมื่อ ๗ - ๘ วัน พอเป็นที่สมควร เรียกว่า พระพุทธเจ้าส่งมากรุยทางให้คนเข้าใจเสียก่อน ท่านก็ลากลับ ลากลับก็บินกลับอีกแน่ะ ไม่ใช้เครื่องบิน บินเองใช่ไหม เวลานั้นเครื่องบินยังไม่มีนะ พอบินกลับแล้ว

ทีนี้ พระเจ้าอริฏฐะ เอาใหม่ แหม...จุดทีแรกต้องการหัวหน้าใหญ่ ให้หัวหน้าเล็กมาได้ (หัวเราะ) จุดใหม่ ขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จเอง
อีคราวนี้นอนฝันอีกแล้ว ฝันว่ามีพญาช้างเผือกนำโขลงช้าง 500 เชือกลอยจากอากาศ ลอยมาทางอากาศทางทิศตะวันตกมาลงที่พระลานหลวง เช้ามืดเหมือนกัน พอเปิดหน้าต่างดู โอ้โฮ! พระเต็มหมด มีพระพุทธเจ้าเปล่งฉัพพรรณรังสีรัศมี ๖ ประการ สวยงามมาก ก็ลงไปประกาศให้ประชาชนทราบ ก็เลี้ยงพระ ฟังเทศน์ตามธรรมดาก็แล้วกันนะ

ต่อมาพระพุทธเจ้าเสด็จไปพักที่ ดอยพระโมคคัลลาน์ ตามเดิมอีก และหลังจากนั้นก็ประกาศบอกว่า "ที่นี่ต่อไปจะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุรากขวัญเบื้องซ้ายของตถาคต และก็ในเมืองนี้ต่อไปจะเป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก จะทรงพระพุทธศาสนาครบ 5,000 ปี"

นี่ไม่ได้ประกาศที่อินเดีย อย่าลืมนะ ใช่ไหม ท่านรู้ที่อินเดียเป็นอย่างไร และคนเคารพนับถือท่านอยู่ที่ไหน ก็เป็นอันว่าอินเดียไม่นับถือ ก็ได้สตังค์จากหลายๆประเทศสร้างบ้านสร้างเมือง อินเดียเก็บค่าเช่า(หัวเราะ)ใช่ไหม ไอ้ฉันก็ชอบใจอินเดียนะ กับข้าวอินเดียไม่มาก (หัวเราะ) ไปถึงรู้สึกบ้านเมืองเราครึ้มกว่าตั้งเยอะใช่ไหม..


จากหนังสือ "สนทนาธรรม เล่ม 10"
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี



พระพุทธเจ้าทรงประกาศพุทธศาสนาครบ 5,000 ปีที่ประเทศไทย<HR>

 

อาศัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านกล่าวว่า


พระพุทธศาสนามีอายุ 5000 ปี ... ก็คือ 5,000 ปี ไม่มีสงสัยในคำพูด ของพระอรหันต์



.

 

ต่อให้อายุศาสนายืนยาวเป็น ๕ ล้านปี
หากมนุษย์ไม่ตั้งใจ ศึกษาและปฏิบัติตามคำสอน
มันจะมีประโยชน์อันใดเล่า

อย่ามัวเสียเวลากับเรื่องเล็กน้อยจนงานใหญ่ต้องเสียการเลยครับ

 

พระพุทธเจ้ามีคุยกันสนุกสนานด้วยเหรอครับ อ่านแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี

 

อนุโมทนาครับ
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
ผมขออยู่ใต้ร่มพระธรรมแห่งพระพุทธศาสนา
ตลอดทุกภพทุกชาติไป

 

คนมีปัญญาย่อมไม่เชื่อง่ายๆ ต้องค้นคว้าหาหลักฐานอ้างอิง ทุกวันนี้มีการอ้างคำของพระพุทธองค์ อ้างคำครูอาจารย์โดยไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานทางโบราณคดี ขัดกับหลักกาลามสูตร เอาย่อๆ อย่าเชื่อแค่ว่ามีคนบอกต่อกันมา อย่าเชื่อเพราะผู้ที่บอกเป็นอาจารย์ มีคนคอยท้วงอย่างนี้ดีแล้วครับ

 

ปัญญา มีครับ...แต่ต้องทำมาหากิน ไม่มีเวลาไปนั่งเปิดพระไตรปิฎกอ่านครับ

พระอรหันต์ ท่านคงไม่พูดโกหก ก็เลยเชื่อง่าย ๆ ครับ

 

ใครเป็นพระอรหันต์ ท่านจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อท่านได้อยู่ในระดับเดียวกัน
สิ่งนี้มิอาจรู้ได้โดยผู้อื่น ท่านลองน้อมนำมาปฏิบัติจนรู้เองเห็นเองแล้วท่านจะเข้าใจ

 

จริงครับความเป็นอรหันต์มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่พยากรณ์ได้ แต่พระสงฆ์ท่านที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แม้จะไม่ใช่พระอรหันต์เมื่ออยู่ไกล้ท่านแล้วรู้สึกความสบายใจ ความเย็นใจ เท่านี้ผมก็กราบได้ด้วยความบริสุทธ์ใจแล้วครับ

มีคนถามหลวงพ่อฤาษีว่า พระดี ดูอย่างไร รู้ได้อย่างไร ท่านว่า ดูที่ศีลครบไหม ไม่ต้องดูมาก ถ้าศีล5 ไม่ครบ อย่างอื่นไม่ต้องดูกันละ ศีล 227ข้อ เป็นอันไม่ต้องพูดถึง