พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ผมมือไว แต่ใจมั่นคง(กับพระวังหน้า)นะครับคุณเพชร

:z14

;aa44

 

พี่ไฟดูดวันนี้ได้คุยให้ฟังว่า เซียนพระเดี๋ยวนี้เขาไม่โง่แล้วนา เขาใส่พระสมเด็จวังหน้ากัน เขาเพิ่งจะรู้ว่า ดียังไง รายละเอียดคงต้องขอให้พี่ไฟดูดเล่าให้ฟัง สายขาดพอดี...

 

ในเมื่อ"กระแส"ความนิยมในพระสมเด็จวังหน้าเริ่มเกิดแล้วนี้ เราก็พอจะเห็นแนวโน้มของพระสมเด็จในวงการหลักๆ ๓ วัดดัง นับแต่นิตยสารบุญพระเครื่องนำมาเปิดเผย เจ้าของ(ที่มีมากหลายท่าน) เริ่มนำออกมาทำบุญ โดยบอกราคาความนิยมของตลาด ว่า ๓ ล้าน แต่นำมาให้บูชาเพียง ๙,๘๐๐ พระสมเด็จที่เขาว่าแก่ตังอิ๊ว(จริงๆไม่ใช่ตังอิ๊ว) ราคาความนิยม ๑ ล้าน ให้บูชา ๔,๙๐๐ อีกแห่งที่วัดเขาอุดมพร จ.ชัยภูมิ ท่านเจ้าอาวาสก็มีพระสมเด็จวัดระฆังมากมายจริงๆ ก็นำออกให้บูชาเพื่อนำปัจจัยสร้างวัดเช่นกัน เพื่อนๆที่เข้ามาศึกษาพระวังหน้า พอจะเห็นอะไรบ้างไม๊ครับ..

 

ผมบอกได้ว่า อนาคต "พระวังหน้า" จะดังกว่านี้อีกมาก แต่ผมรู้มาได้อย่างไร ผมขอสงวนสิทธิ์ไม่แจ้งให้ทราบ ความลับเฉพาะกลุ่มครับ

แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมมีอุปสรรคขัดขวางเสมอ เงินไม่เข้าใครออกใคร เมื่อรับตังมา(ทำงาน)แล้ว ก็ต้องพยายามล้มพระวังหน้าให้ได้ ......

วันนี้ผมงานเข้าอีก อีกสักพักใหญ่ๆ ผมคงต้องออกไปข้างนอก กว่าจะกลับมาอีกครั้งน่าจะเย็น(มากๆ)

.

 

ผมเองก็ไม่เคยกลัวใคร พระวังหน้า(หลายพิมพ์ หลากเนื้อ) ผ่านตาผมมามาก อีกทั้งผมมีครูบาอาจารย์ที่เป็นทั้งฆารวาส(หลายท่าน และในหลายท่านก็มีท่านที่ไม่กลับมาเกิดอีกจากการรับรองของพระภิกษุ) และเป็นพระภิกษุ ที่สามารถดูเรื่องของ "นาม" (พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต) ได้เป็นอย่างดี

ที่ผมบอกว่า "พระวังหน้า"ผ่านตาผมมามาก ผมว่าไม่ต่ำกว่าตัวเลข 6 หลักครับ

 

แถมมีพี่บางท่าน ก็มีครูบาอาจารย์ (ขนาดวางพระไว้บนพานที่กรุงเทพฯ) แต่ครูบาอาจารย์ของพี่ท่านนี้อยุ่ภาคใต้(เกือบสุด) ยังสามารถนั่งสมาธิมาตรวจสอบพระพิมพ์ได้ และผลการตรวจสอบ ตรงกับ ผลการตรวจสอบทางผม !!!!!!!!

ดูผ่านกล้องส่องพระ เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถบอกได้ว่า ใช่หรือไม่ แท้หรือไม่แท้ หุหุหุ
.

 

และพี่ท่านนี้ ได้บอกผมว่า จะมอบ "พระธาตุสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี" ให้ผมเพิ่มเติมอีก เมื่อผมอัญเชิญ "พระธาตุสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี" มาแล้ว ผมจะอัญเชิญมามอบให้กับ พี่ๆ ที่รักทุกๆท่าน เพื่อนๆ ที่รักทุกๆท่าน น้องๆ ที่รักทุกๆท่านแน่นอน(ผมมอบให้ตามจำนวน "พระธาตุสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี" ที่ผมได้อัญเชิญมานะครับ) ยืนยัน

โมทนาสาธุกับพี่ท่านนี้ด้วยครับ

.

 

55555 ไม่ชัวร์อ่ะครับ แต่คาดว่าน่าจะติดงานวันเกิดที่เพชรบุรีครับไม่ทราบว่าวันเดียวกันหรือเปล่าครับ หุ หุ

 

ครั้งหนึ่งอาจารย์ของผมได้พูดถึงการสื่อถึงเทพแห่งกาลเวลา เพื่อการเลือกสรรเวลาที่เหมาะสมของแต่ละคน แต่ละช่วงชีวิต จะได้ไม่เสียเวลา เพราะครึ่งค่อนชีวิตคนส่วนใหญ่จะหมดเวลาไปกับสิ่งต่างๆ บางทีตั้งใจไปหาคนผู้หนึ่ง แต่ไม่พบ เพราะเวลาไม่พอดีกัน บางทีความคิดอยากทำโครงการอะไรเกิดขึ้น แต่กลับไม่มีเงิน บางเวลามีเงิน แต่กลับไม่มีความรู้ แล้วเราก็จะโทษถึงกาลเวลา

ผมได้พบตำนานเรื่องเทพกาลเวลา บางทีอาจจะเป็นเพียงตำนานเทพนิยายกรีก เท่านั้น หรือจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม ตำนานเทพแห่งกาลเวลานี้อาจจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างก็เป็นได้ ลองอ่านกันดูครับ..

นานมาแล้วมีเทพเจ้า 3 ตน ที่คอยดูแลเรื่องกาลเวลาของมนุษย์ อันได้แก่ เทพอดีต เทพปัจจุบัน เทพอนาคต เทพแต่ละตนมีหน้าที่ต่างกัน เทพอดีตทำหน้าที่เก็บบันทึกเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งดีและร้าย ทั้งสุขและทุกข์ เทพปัจจุบันทำหน้าที่เตือนสติมนุษย์ให้รู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ เทพอนาคตทำหน้าที่กระตุ้นให้มนุษย์นึกถึงชีวิตในวันข้างหน้า เทพทั้งสามทำงานร่วมกันด้วยดีตลอดมา จนมาถึงยุคสมัยหนึ่ง ยุคสมัยที่ผู้คนต่างแก่งแย่งแข่งขันกันเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อความสุขสบาย เพื่อให้มีมากกว่าคนอื่น ในยุคนี้ผู้คนให้ความสำคัญในเรื่องอนาคตค่อนข้างมาก ห่วงว่าชีวิตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะสุขสบายไหม ต่างใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบแข่งขัน ภายในใจก็คิดแต่เรื่องอนาคตของตัวเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เทพอนาคตมีพลังอำนาจเพิ่มมากขึ้น

แต่ยังมีผู้คนอีกจำนวนหนึ่ง ไม่นึกถึงอนาคต ไม่แก่งแย่งแข่งขันกับใคร ไม่นึกถึงแม้ปัจจุบัน พวกเขาติดอยู่ในอดีต ชอบหวนระลึกถึงวันเวลาเก่าๆอันแสนสุข บางคนติดอยู่กับเหตุการณ์ร้ายๆที่จำฝั่งใจ คนพวกนี้แม้อยู่ในปัจจุบัน แต่ใจของพวกเขาหาได้อยู่ในปัจจุบันไม่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เทพอดีตมีพลังอำนาจเพิ่มมากขึ้น

เมื่อเทพปัจจุบัน เห็นเทพอดีตและเทพอนาคตมีพลังเพิ่มมากขึ้น จึงรู้สึกน้อยใจที่มนุษย์ไม่เห็นความสำคัญของปัจจุบัน เทพปัจจุบันจึงได้หนีหายขึ้นไปในสรวงสวรรค์ และเลิกยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมของมนุษย์อีก

กาลเวลาผ่านไปโลกมนุษย์เริ่มปั่นป่วน เพราะเทพอดีตและเทพอนาคต เพียงแค่ 2 ตน ไม่สามารถควบคุมกาลเวลาของมนุษย์ได้ เทพอดีตเป็นเพียงความนึกคิดต่อสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ส่วนเทพอนาคตก็เป็นเพียงความนึกคิดต่อสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น มนุษย์จึงมีแต่เพียงความนึกคิดต่ออดีตและความวิตกกังวลต่ออนาคตแต่ขาดปัจจุบันที่จะลงมือทำ เทพทั้งสองจึงตกลงกันว่าจะออกไปตามหาเทพปัจจุบันและพากลับมาทำหน้าที่ตามเดิม เมื่อเทพทั้งสองไปพบเทพปัจจุบัน ทั้งสองก็ขอร้องให้เทพปัจจุบันกลับมาทำหน้าที่ตามเดิม เทพปัจจุบันหยุดคิดอยู่แป๊บนึง

“เราทั้งสามไม่สามารถแยกกันเพื่อทำหน้าที่นี้ได้ เราทั้งสามต่างมีบทบาทหน้าที่ของตน” เทพปัจจุบัน เอยขึ้นพร้อมกับยื่นเงื่อนไขออกไปว่า “ข้าจะกลับไปทำหน้าที่ตามเดิม แต่บทบาทของเจ้าทั้งสองจะต้องเปลี่ยนไป เทพอดีตเจ้าจะต้องเป็นเพียงรอยเท้าเบื้องหลังข้า ตามทางที่ข้าเดินผ่าน เทพอนาคตเจ้าจะต้องเป็นเพียงเงาจากตัวข้า เมื่อข้าต้องแสงสว่างแห่งความมุ่งมั่น เจ้าทั้งสองพร้อมจะกลับไปกับข้า ตามเส้นทางสู่แสงสว่างแห่งความมุ่งมั่นหรือไม่ ”

เทพทั้งสองไม่มีทางเลือก จึงตอบตกลง และแล้วเทพทั้งสามจึงกลับไปทำหน้าที่เทพกาลเวลาแต่เพียงลำพัง

 

อนุโทนาด้วยครับ

 

กลับมาแล้วครับ

ถ้าคุณnongnooo ไม่ได้ไป ผมจะได้ไม่ต้องนำไปครับ

ถ้าให้เดา จะเดาว่า พระพิมพ์ชุดนี้ ผมไม่ได้แจกฟรีแน่ เนื่องจากเหตุปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นคุณเพชร ,คุณnongnooo ,พี่แอ๊ว ส่วนผมและคุณแด๋น น่าจะไม่พลาดที่จะไปในวันนัดพบกันครับ

คงไว้แจกเฉพาะท่านที่สมัครสมาชิกชมรมแน่เลย อิอิ

.

 

เดี๋ยวผมมาแจ้งเรื่องของล็อกเก็ต

และ

พระพิมพ์ "พุทธประวัติ" ครับ

.

 

พี่ท่านนึง ที่รับหน้าที่เรื่องรูปบนล็อกเก็ต แจ้งว่า รูปคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) , รูปหลวงปู่แจ้งฌาณ ,รูปหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ , รูปสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี รูปหลวงปู่ทั้ง 8 พระองค์จัดได้ลงตัวแล้ว

ส่วนรูปหลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า หลวงปู่ท่านสั่งให้รูปท่านเป็นรูปที่นั่งสมาธิ โดยมีจิตรกรเป็นผู้วาด และมีผู้ที่นั่งสมาธิเป็นผู้บอกให้วาด

ในส่วนของล็อกเก็ต กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ ใช้ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1-2 เดือน แต่เรื่องใบจองในคณะเรา ควรจะเรียบร้อยกันในวันนัดพบกันครับ

ส่วนเรื่องพระพิมพ์ "พุทธประวัติ" ในวันนัดพบกัน ผมจะแจ้งรายละเอียดว่า สร้างเมื่อปีไหน เมื่อไหร่ อย่างไรครับ บอกได้ว่า สุดยอดเช่นกัน

.

 

อัญเชิญพระพุทธสรีรธาตุ ประดิษฐานวัดปทุมวนาราม

˹ѧ

 

เดือนมิ.ย.นี้ วันอาทิตย์ทั้ง 4 วันนี่บริหารลำบากมาก อาทิตย์แรกติดเรื่องหลักสูตร Detox ร่างกาย 4 วัน(5-6-7-8) อาทิตย์ที่ 3 หรือ 4 วันใดวันหนึ่งติดเรื่องหลักสูตรชีวจิตของอาจารย์สาทิส ซึ่งวันอาทิตย์นี้จะเลือกวันที่เรียนกัน คราวนี้เลยเหลืออาทิตย์ที่ 2 เท่านั้น ก็ต้องวัดดวงกัน ยิ่งเดือนก.ค. ผมยิ่งบริหารเวลาลำบากเพราะตั้งแต่เดือนนี้ไปติดเสาร์-อาทิตย์เรียนหลักสูตรเภสัชกรรม หากติดจริงๆก็จะใช้วิธีส่งจิตไปร่วมทุกครั้งครับ ก็ขอโมทนากับเพื่อนทุกท่าน ทุกงานบุญที่ได้ร่วมกัน...

 

สวัสดีครับพี่ๆ อ่านที่พี่ๆคุยกันแล้วก็ให้นึกเสียดาย วันนี้ผมเพิ่งกลับจากอบรม ก็ได้ตัดสินใจว่า
คงต้องมาบอกลาพักร้อนชั่วคราว เป็นระยะเวลาโดยประมาณ อย่างน้อย 1-2 ปี
กลับมาเรียนคราวนี้หนักหนาจริงๆครับ เฉพาะเวลาทำงาน ก็ต้องเริ่มตื่นไปทำงานตั้งแต่ประมาณตี 5
กว่าจะเสร็จงานทั่วไปก็ราวๆ 2 ทุ่ม แล้วยังต้องอยู่เวรต่ออีก นี่ยังไม่นับว่าต้องอ่านหนังสือไปสอบด้วย - -"
แถมระเบียบวินัยที่นี่ค่อนข้างเข้มงวด มีการสอบ และ ซักถามความรู้อยู่ตลอด เนื้อหาก็มาก
เข้าห้องผ่าตัด ก็ห้ามยืนหลับ (ของศัลยกรรมเขาไม่ว่า แต่ของผมอาจารย์สั่งมาว่าห้ามเด็ดขาด แล้วจะนอนตอนไหนวุ้ย)

เป็นอันว่าวันนัดพบ ผมคงมีอันไม่ได้ไปหาพี่ๆเป็นแน่แท้ ส่วนใบสั่งจองตามกติกา ผมคงต้องหาที่พิมพ์แล้วส่งไปรษณีย์ไปให้พี่อีกทีนะครับ
ดังนั้นเรื่องที่จะได้มีโอกาสไปร่วมตำมวลสาร หรือว่าร่วมในพิธี ก็คงมีอันว่าต้องพลาดไปอีกครั้ง
นึกย้อนไปถึงตอนที่เข้ามาในกระทู้นี้ใหม่ๆ ได้มีโอกาสอ่านกระทู้ย้อนหลัง แล้วรู้สึกเสียดายที่เข้ามาไม่ทันตอนทำพิธี
แต่ครั้งนี้ยิ่งเสียดายยิ่งกว่าเพราะโอกาสอยู่ตรงหน้า กลับไม่พร้อมที่จะไป T-T วาสนาด้านนี้คงจะไม่มี เสียดายจริงๆครับ

หลังจากนี้ผมเองก็คงจะติดตามกระทู้นี้อยู่สม่ำเสมอ แต่ไม่รู้ว่าจะเข้ามาทุกกี่วันก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก
ต้องขอบพระคุณสำหรับความเมตตาจากพี่ๆตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา และเมื่อโอกาสมาถึง อีก 4 ปีข้างหน้า ผมจะกลับมาวิ่งไล่ตามอีกครั้งครับ

 

ที่คุยกันเมื่อครู่เรื่องที่ post เพี้ยนๆจากพระไตรปิฎก เรื่องอริยสัจ 5 นี่ ผมไม่เคยทำ ผมมีสติไม่ทำแน่ ไม่ถ่ายทอดคำสอนที่ผิดเพี้ยนจากที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้อย่างแน่นอน อย่าว่าแต่มีสติเลย หลับก็ยังไม่เคยละเมอแบบนี้ ...หุ..หุ...

 

เข้าใจครับ ไปทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดนะครับ ผมก็ต้องมีเวลาเช่นนี้เหมือนกันอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า...

 

ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอหัวใจแกร่ง ด้วย ครับ

 

ผมขอแจ้งสองเรื่องครับ

เรื่องแรก ผมไม่มีครูบาอาจารย์ทางภาคใต้นะครับ แต่เป็นครูบาอาจารย์ของพี่ท่านนึง ผมเขียนละเอียดแล้วนะครับ

ส่วนเรื่องที่สอง ที่ผมขอแจ้ง เรื่องพระธาตุสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ผมเรียนให้ทราบ ผมได้รับคำแนะนำจากพี่ใหญ่ว่า ไม่มีพระธาตุสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เนื่องจากสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ยังมิได้เป็นพระอรหันต์ แต่สิ่งที่เสด็จมาที่พระบูชาสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ผมจะไปขอความเห็นจากท่านอาจารย์ประถมอีกครั้ง แล้วผมจะมาแจ้งให้ทราบครับ

โมทนาสาธุครับ

.