คาถาคำอวยพรของสมเด็จองค์ปฐมสุดยอดที่สุดแล้ว

จากบัตรที่ได้มากับพระประจำวันเกิดของหลวงพ่อสพฤกษ์ วัดบ่องทอง ต.สองสลึง อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งตั้งแต่ได้มาใช้บทนี้ได้ผลตลอด ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ใช้ได้ทุกเรื่องทุกเหตุการณ์ ท่องง่าย จำง่าย แต่ได้ผลสูงมาก เคยให้เพื่อนไปใช้ดูก็ได้ผลเหมือนกันเลยเอามาลงให้ใช้กันดูนะครับ

พระทรงตรัสว่า "ให้ตั้งนะโมฯ 3 จบ แล้วกล่าวคำว่า 'พุทธโธ' 9 ครั้ง และจึงอธิษฐานตามใจปราถนา จะสัมฤทธิ์ผลทุกประการ เว้นแต่ว่ามีวิบากกรรมที่รุนแรง" นี่เป็นคำอวยพรของ สมเด็จองค์ปฐม พระนี้เป็นพระเป็น เป็นพระมีชีวิต เป็นของศักดิ์สิทธิ์ อันมหัศจรรย์ยิ่ง อุบัติขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกของเรา จะมีอายุยืนยาวคู่กับศาสนาพุทธตลอด 5,000 ปี

​

 

สมเด็จองค์ปฐม พระนี้เป็นพระเป็น เป็นพระมีชีวิต เป็นของศักดิ์สิทธิ์ อันมหัศจรรย์ยิ่ง อุบัติขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกของเรา จะมีอายุยืนยาวคู่กับศาสนาพุทธตลอด 5,000 ปี

โมทนาและเห็นด้วยครับ หากผู้ใดมีสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชาบ้าน เวลาปฏิบัติให้ลองมองที่พระพักตร์องค์ปฐมนะครับ เรื่องนี้เป็นปัจจัตตัง สมเด็จมีชีวิตจริงๆครับ ยิ้มงามมากๆ บางีแม้ไม่ได้สวด หากเรากราบนะโม 3 จบ แล้วนอบน้อมนมัสการ บรรจงกราบด้วยความเคารพนอบน้อมความกตัญญู ระลึกถึงบรมครู ท่านก็เมตตาแล้ว ของผมโชคดีตรงี่ที่ คุณพ่อท่านบูชาให้ครับ สวยมากมีแก้ว9ประการประดับ ยิ่งตอนที่ออกจากสมาธิ ลองมองพระพักตร์ดู แล้วจะทราบเองครับว่าความเมตตาที่มีชีวิตเป็นยังไง ด้วยเหตุนี้กระมังที่องค์หลวงพ่อ่ท่านถึงชอบมองพระพุทธรูปครับผม<!-- / message --><!-- sig -->

 

ชอบนั่งมองพระพักตร์เวลาสวดมนต์ค่ะ แต่ที่บ้านเป็นพระพุทธชินราชของจังหวัดพิษณุโลก มองแล้วจ้องแล้วรุ้สึกว่างามมากๆ ดูใจดีมีเมตตา เห็นแล้วรู้สึกอุ่นใจสบายใจ

 

ผมก็ชอบมองรูปพระองค์ท่านที่เอามาจากเวปนี้แหละครับ ผมตั้งไว้เป็น Wallpaper บนเครื่องผม ผมจะมองทั้งองค์เลยครับ มองยังไงยังไงก็ไม่เบื่อ ยิ่งมอง ยิ่งพินิจพิจารณาก็ยิ่งเห็นความสวยงามขึ้นทุกทีทุกที และดูเหมือนภาพยิ่งแจ่มชัดขึ้นทุกทีด้วยครับ เวลามองท่านด้วยความชื่นชมและเคารพ จะรู้สึกปราบปลื้มใจ และจะรู้สึกได้ว่าท่านมีเมตตามาก เหมือนท่านรู้ว่าผมมองท่านอยู่อย่างนั้นแหละครับ

 

ผมก็ชอบมองรูปพระองค์ท่านที่เอามาจากเวปนี้แหละครับ ผมตั้งไว้เป็น Wallpaper บนเครื่องผม ผมจะมองทั้งองค์เลยครับ มองยังไงยังไงก็ไม่เบื่อ ยิ่งมอง ยิ่งพินิจพิจารณาก็ยิ่งเห็นความสวยงามขึ้นทุกทีทุกที และดูเหมือนภาพยิ่งแจ่มชัดขึ้นทุกทีด้วยครับ เวลามองท่านด้วยความชื่นชมและเคารพ จะรู้สึกปราบปลื้มใจ และจะรู้สึกได้ว่าท่านมีเมตตามาก เหมือนท่านรู้ว่าผมมองท่านอยู่อย่างนั้นแหละครับ

 

แนะนำให้ลองฟังเรื่องกำเนิดสมเด็จองค์ปฐมของหลวงพี่สมปองครับ ในห้องเสียงธรรมเทศนา ผมฟังครั้งแรกนั่งร้องไห้เลย ฟังเป็นสิบๆ รอบเลย




การบำเพ็ญบารมี ของสมเด็จองค์ปฐม...พระพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก
พุทธประวัติ การบำเพ็ญบารมี ของสมเด็จองค์ปฐม

 

[b-wai] [b-wai] [b-wai]

อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ อย่างมากครับ

 

โมทนา สาธุ
ผมกำลังหาบทสวดของสมเด็จองค์ปฐมที่เป็นของหลวงพ่อฤาษีฯ จำไม่ได้ว่าเคยอ่านเจอเล่มไหน ถ้าใครมีขอความอนุเคราะห์ด้วยนะครับ

 

เป็นจริงค่ะ ดิฉันไปวัดท่าซุงมาหลายครั้ง แต่ละครั้งจะต้องไปไห้วสมเด็จองค์ปฐมทุกครั้ง และนำหนังสือที่แจกเวลาทำบุญที่กล่าวถึงประวัติการสร้างสมเด็จองค์ปฐมของหลวงพ่อมาบูชาตอนเวลาสวดมนต์ค่ะ มองหนังสือทีไร(หน้าปกเป็นรูปสมเด็จองค์ปฐม) ก็เหมือนกับว่าองค์ท่านมองตอบเราทุกครั้งไป...มองแล้วงดงาม เย็นใจ..เสมอ ทำให้มีสมาธิตั้งมั่น สำหรับคาถาบูชาสมเด็จองค์ปฐม ดิฉันได้มาจากเวปพุทธภูมิค่ะ และนำมาสวดก่อนนอน คาถาบูชามีดังนี้(ไม่ทราบว่าจะเป็นของหลวงพ่อฤาษีลิงดำหรือเปล่านะคะ)
ตั้งนะโม 3 จบ
นะโม กาเยนะ วาจะยะ เจตะสา วา วะชินัง นามะปฏิมัง อิทธิธัมมะปาฏิหาริยะกะรัง สมเด็จองค์ปฐมต้นพุทธะรูปัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวาอะหัง
วันทามิ สัมพะโส สะธาโสตถี ภะวันตุเม
(หากผิดพลาดประการใด คุณพัชรวัฒน์ ไปดูที่เวปพุทธภูมิได้ค่ะ)

 

โมทนาบุญด้วยครับ

 

โมทนา สาธุ
ขอบคุณๆnonglucpมากครับ ผมก็หามาตลอด1-2เดือนมาแล้ว จำไม่ได้ว่าเจอที่ไหน หาตามมานานแล้ว ที่จริงถามคนในนี้ก็ได้ผมก็ลืมนึกถึง ตอนแรกโพสไว้แล้วก็ปิดหน้านี้ไปคิดว่าคงยังไม่มีใครตอบให้เพราะเป็นกระทู้ใหม่และยังมีคนอ่านน้อย แต่ลองเปิดกลับมาดูเล่นๆอีกครั้ง(จะปิดเครื่องอยู่แล้ว) ท่านคงมีเมตตาต่อผมๆก็เลยมาเจอที่คุณลงมาให้ ขอบคุณอีกครั้งครับ[b-wai]

 

โมทนา สาธุค่ะ

 

ผมเคยได้ก๊อปประวัติของสมเด็จองปฐมของหลวงพ่อพระราชพรหมยานไว้นานแล้วในนั้นมีคาถาบูชาองค์ปฐมอยู่ ผมได้ใช้สวดมาประจำ ก็บทเดียวกันกับของคุณ nongclucp แตมีคำที่ไม่เหมือนกันอยู่คำหนึ่งคือ วะชินัง (ของคุณ nongclucp) ส่วนของผม คัดลอกมาไม่ได้พิมเอง วะชิรัง ผมเองก็ไม่ทราบว่า คำใดถูกต้อง ผู้รู้ที่แท้จริงช่วยบอกด้วยนะครับ เพราะผู้ที่จำไปใช้นั้นจะได้สวดได้ถูกต้องรวมทั้งตัวผมด้วย

คาถาบูชาสมเด็จองค์ปฐม

<Oนะโม กาเยนะ วาจายะ เจตะสา วา วะชิรัง นามะ ปะฏิมังอิทธิธรรมะปาฏิหาริยะกะรัง​

สมเด็จพ่อองค์ปฐมต้นพุทธะรูปัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวาอะหัง วันทามิ สัพพะโส สะทา โสตถี ภะวันตุ เม</O




<O

คาถาแผ่เมตตาขอบารมีสมเด็จองค์ปฐม<O</O

สวดอย่างน้อย 9 จบ อย่างมากตลอดเวลา <O</O
นะโมพระพุทธสิกขีพระพุทธเจ้าขอได้โปรดดลบันตาลให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลกได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติวัฏฏสงสารโดยสิ้นเชิง
​

ด้วยพระบารมีมิอาจประมาณลูกขอนอบน้อมนมัสการด้วยจิตใจ ขอให้ลูกมีจิตสะอาดสว่างใสหลุดพ้นไซร้สู่บ้านนิพพานเทอญ สัมปะจิตฉามิ <O</O



​

คุณประโยชน์ของการอุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาจิตให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลกไปกับฉัพพรรณรังสี รัศมี 6 ประการขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์แรกเริ่มมีดังนี้
<O1. โปรดช่วยสรรพสัตว์ได้ แดนเปรต อสุรกาย มนุษย์โลกสัตว์ทั้งที่มีชีวิตและเป็นภูมิผีวิญญาณเร่ร่อน แผ่ไปทั่วเทวโลก พรหมโลกได้รับโมทนาบุญกับเรา การแผ่เมตตา แผ่ส่วนกุศลไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลกรวมถึงเจ้ากรรมนายเวร จงทำทุกวัน จงตัดเวรตัดกรรม ให้อโหสิกรรมต่อกัน ยกเป็นอภัยทานถวายพระพุทธเจ้า ถ้าเราโกรธตอบจะเพิ่มภพชาติให้เกิดมาใช้หนี้เวรกรรมกันอีก
<O2. สวดด้วยจิตศรัทธาแท้ เทพ พรหมรักใคร่ สรรเสริญเมตตาติดตามรักษาเราให้อยู่เย็นเป็นสุข <O</O
3. สวดตลอดเวลา คิดปรารถนาสิ่งใดก็สมหวัง <O</O
4. สวดตลอดเวลาจิตเป็นสมาธิ ภาวนาจิตไม่ฟุ้งซ่าน จิตสะอาดปราศจากนิวรณ์ <O</O
5. จิตสะอาดสว่างไสว จิตหลุดพ้นจากการหลงยึดติดในขันธ์ 5 จิตเป็นจิตประภัสสรเป็น จิตพระอริยบุคคลได้ง่าย เพราะเป็นจิตที่มีเมตตา เคารพบูชาพระรัตนตรัยมองเห็นภัยในวัฏฏสงสาร เป็นจิตฉลาดไม่มีอวิชชาเป็นจิตที่มีพระนิพพานเป็นกรรมฐานได้ 8 กรรมฐาน คือ
<O1) พุทธานุสสติกรรมฐาน
2) ธรรมนุสสติกรรมฐาน
3) สังฆานุสสติกรรมฐาน
4) พรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
5) อุปสมานุสสติกรรมฐานนึกถึงความดียิ่งของพระนิพพาน <O</O
6. เป็นการอโหสิกรรมซึ่งกันและกันตัดเวรตัดกรรม ยกเป็นอภัยทาน ถวายพระพุทธเจ้า ถ้าเจ้าโกรธก็เป็นการเพิ่มภพเพิ่มชาติ <O</O
7. การอุทิศแผ่กุศลไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก จงทำทุก ๆ วันละอย่างน้อยสวด 9 จบช่วยทั้งคนทั้งผี ทั้งสัตว์โลก สัตว์นรก ช่วยเทพเทวดา มีโอกาสโมทนากับพวกเราด้วย
<O8. พระคาถาสวดพระนามพระพุทธเจ้านี้พระท่านให้ไว้แก่มวลมนุษย์มาจากเบื้องบนพระนิพพาน ให้สวดทุกวันเพื่อช่วยมวลเวไนยสัตว์ และตนเองก็หลุดพ้นจากนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานไม่ต้องได้เกิดในแหล่งอบายภูมิ 4 อย่างนี้ เป็นการเสริมบารมีให้แก่ตนและผู้อื่น
<O9. การแผ่พลังจิตให้เป็นพลังไปรอบทิศจักรวาลทั้ง 3 โลกนั้น ทำจิตให้ว่างจากขันธ์ 5 ว่างจากกิเลสตัณหา ทำบุญกุศลทุกอย่างขอถวายทางจิตให้องค์สมเด็จพระบรมครูพระพุทธเจ้าโปรดโมทนาบุญกุศลทุก ๆพระองค์เพื่อประโยชน์สูงสุดแด่มวลสรรพสัตว์ทุกจิตดวงธรรมญาณได้รับผลบุญที่ลูกแผ่ไปให้ทุกดวงจิตธรรมญาณเทอญการขอแรงพลังจิตขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นการขอแรงคลื่นวิทยุของท่านผู้เป็นใหญ่บุญบารมีใหญ่ช่วยอีกแรงหนึ่งเพื่อให้สรรพสัตว์ 3 โลก ได้ยินคลื่นวิทยุได้ดียิ่งขึ้นจิตของสัตว์อบายภูมิน้อยนักที่จะได้รับได้ยินเหมือนคนตาบอดแต่ถ้าเขาโมทนายินดีรับกับการอุทิศบุญกุศลแผ่เมตตาไปให้กับเขา ก็ทำให้เขาเป็นสุขพ้นทุกข์จากอบายภูมิได้ทุกคน เราต้องทำจิตให้สะอาดทำจิตว่างจากขันธ์ 5 ปล่อยพลังจิตไปทั่วรอบทิศจักรวาล
<O[FONT=Arial Black][COLOR=black]10. [/COLOR][COLOR=black]สวดพระคาถาพระนามองค์สมเด็จพระปฐมบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า[/COLOR][COLOR=black]ฝากบุญกุศลไว้กับท่านท้าวยมราชได้แน่นอน โปรดสัตว์ได้ทั่วทั้ง [/COLOR][COLOR=black]3 [/COLOR][COLOR=black]ไตรภพ[/COLOR][COLOR=black]แล้วแต่จะกำหนดจิตโปรดได้หมดทุกประเภท ทั้งชาติกำเนิด [/COLOR][COLOR=black]4 [/COLOR][COLOR=black]คือ(เกิดในไข่ เกิดในคูต[/COLOR][COLOR=black]เกิดเป็นตัว เกิดขึ้นเอง เช่น ผี เทพ พรหม ) ภูมิวิถี [/COLOR][COLOR=black]6 [/COLOR][COLOR=black]คือ[/COLOR][/FONT]
[COLOR=black][FONT=Times New Roman][FONT=Times New Roman]<O[FONT=Arial Black][COLOR=black]1) [/COLOR][COLOR=black]สัตว์นรก[/COLOR][/FONT][COLOR=black][FONT=Arial Black] [/FONT]
[FONT=Arial Black]2) [/FONT][/COLOR][FONT=Arial Black][COLOR=black]เปรต[/COLOR][/FONT][COLOR=black][FONT=Arial Black] [/FONT]
[FONT=Arial Black]3) [/FONT][/COLOR][FONT=Arial Black][COLOR=black]อสุรกาย[/COLOR][/FONT][COLOR=black][FONT=Arial Black] [/FONT]
[FONT=Arial Black]4) [/FONT][/COLOR][FONT=Arial Black][COLOR=black]สัตว์เดรัจฉาน[/COLOR][/FONT][COLOR=black][FONT=Arial Black] [/FONT]
[FONT=Arial Black]5) [/FONT][/COLOR][FONT=Arial Black][COLOR=black]คน[/COLOR][/FONT][COLOR=black][FONT=Arial Black] [/FONT]
[FONT=Arial Black]6) [/FONT][/COLOR][FONT=Arial Black][COLOR=black]เทวดา พรหม[/COLOR][/FONT]
[COLOR=black]<O[FONT=Arial Black][COLOR=black]โปรดสัตว์ได้ตามวาระจิตของวิญญาณใด[/COLOR][COLOR=black]ถึงพร้อมย่อมสามารถเข้าถึงสุขติภูมิ คือ สวรรค์ และคนชั้นสูงมีความสุขตามฐานะ[/COLOR][COLOR=black]กฎของกรรมต่าง ๆ ที่คอยกีดกั้นขวางงาน เป็นเมตตาบารมี กฎของกรรมก็ตามไม่ทัน[/COLOR][COLOR=black]เพราะบุญใหญ่ เวลาการบำเพ็ญบารมีของแต่ละท่านก็แตกต่างกันคือ พระสาวกภูมิ[/COLOR][COLOR=black]ต้องบำเพ็ญบารมีนาน [/COLOR][COLOR=black]1 [/COLOR][COLOR=black]อสงไขยกับแสนกัป พระอัครสาวก ต้องบำเพ็ญบารมีนาน [/COLOR][COLOR=black]2 [/COLOR][COLOR=black]อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพุทธเจ้า ต้องบำเพ็ญบารมีนาน [/COLOR][COLOR=black]2 [/COLOR][COLOR=black]อสงไขยกับแสนกัป[/COLOR][COLOR=black]พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีนาน [/COLOR][COLOR=black]4 [/COLOR][/FONT][COLOR=black][FONT=Arial Black]อสงไขยกับแสนกัป พระพุทธเจ้าศรัทธาธิ[/FONT]
[FONT=Arial Black][COLOR=black]กะ[/COLOR][COLOR=black]ต้องบำเพ็ญบารมีนาน [/COLOR][COLOR=black]8 [/COLOR][COLOR=black]อสงไขยกับแสนกัป พระพุทธเจ้าวิริยะธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีนาน [/COLOR][COLOR=black]16 [/COLOR][COLOR=black]อสงไขยกับแสนกัป[/COLOR][COLOR=black] <O</O[/COLOR][/FONT]
[FONT=Arial Black][COLOR=blue]([/COLOR][COLOR=blue]คาถาแผ่เมตตาขอบารมีสมเด็จองค์ปฐมและอานิสงค์การสวดคาถาแผ่เมตตานี้ได้มาจากท่านพระยายมราช)[/COLOR]<O</O[/FONT]
[/COLOR][/COLOR][FONT=Arial Black][SIZE=4][COLOR=red]ทั้งหมดนี้ผมคัดลอกมาอีกทีครับ[/COLOR][/SIZE][/FONT]</O
[COLOR=black][FONT=Times New Roman][FONT=Times New Roman]<O</O[/FONT][/FONT][/COLOR]</O[/FONT][/FONT][/COLOR]</O</O</O</O</O</O</O

 

คาถานมัสการ สมเด็จองค์ปฐม ฉบัยวัดท่าซุง

คาถานี้ผมและคณะพระธาตุแก้วรัตนมณีโชติศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้สวดมาหลายปีแล้ว
บทสั้นที่พื่ๆท่านทั้งหลายได้เอามาลงให้เป็นธรรมทานให้คนได้สวดและได้โมทนาบุญ ผมก็สวดอยู่เหมือนกันแต่ผมจะได้ทีหลังประมาณ1-2ปีแล้วนี้เอง จากคณะทานบารมีส่งมาให้เพราะผมทำบุญกับคณะนี้อยู่ครับ
ที่ลงพระคาถานมัสการสมเด็จองค์ปฐมนี้มาเพื่อเผยแผ่ให้ทุกท่านได้สวดได้โมทนาบุญ และสืบทอดพระศาสนาให้ครบ 5000 ปี (คาถานี้ทุกท่านอาจไม่เคยเห็น)
คำนมัสการสมเด็จองค์ปฐม ฉบับวัดท่าซุง
วันทามิ พุทธัง ภะวะปารระตินณัง ตีโลกะเกตุง ติภะเวกะนาถัง โยโลกะเสฎโฐ สะกะลัง กิเลสัง เฉตะวานะ โพเธสิ ชะนัง อนันตังฯ ตะมะหัง องค์ปฐม พุทธัง อภิปูชะยามิ ตะมะหังพุทธัง เม สิรสา นมามิ มหากรุณิโก นาโถ อัตถายะหิตายะ สุขายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตะวา ปารมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตมัง สัพพะสัตตุปสัคคา สัพพุปัททะวันตรายะ นิวาระณะสะมัตถัสสะ สุคะตะมะมิตะพุทธิง โลกะนาถัง ปูชิตะวา ปุญญัสสิทานิ กตัสสะ ยานัญญานิ กตานิ เม กุสะละมุปะจิตัง ยันเตนะ เตชุสสะเทนะ จะ ตัสสะ ปารมิเตเชนะ วิละยะมุปะนะยันตะ สัพพุปัททะวา สะทา มหาลาโภ ภะวันตุเม เตสัง สัจเจนะ สีเลนะ ขันติเมตตาพเลนะ จะ เตปิ อัมเห อนุรักขันตุ อโรคะเยนะ สุเขนะ จะ สะทา อัมเห รักขันตุ สุรักขันตุ นุรุปัททะวา สันตุปะสัคคา วูปะสะเมนตุ โน
แปล
ข้าพเจ้าขอนมัสการพระพุทธเจ้า ผู้ข้ามพ้นผั่งแห่งภพ ผู้เป็นธงชัยแห่งโลกทั้งสามผู้เป็นที่พึ่งเอกของสามภพ ผู้ประเสริฐในโลก ตัดกิเลสทั้งสิ้นได้แล้ว ช่วยปลุกชนหาที่สุดมิได้ ให้ตื่น ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่งเฉพาะสมเด็จองค์ปฐมพุทธเจ้า ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมสมเด็จฯด้วยเศียรเกล้า พระบรมโลกนาถประกอบแล้วด้วยพระกรุณาอันยิ่งใหญ่ ยังบารมีทั้งสิ้นให้เต็มแล้วเพื่อประโยนช์เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่สัตว์ทั้งปวง ได้บรรลุแล้วซึ่งพระโพธิญาณอันอุดม พระองค์สามารถในอันห้ามเสียซึ่งความเดือดร้อน อุปสรรค และอุปัทอันตราย ทั้งปวง กุศลใดเราบูชาแล้วซึ่งสมเด็จองค์ปฐมสุคตโลกนาถเจ้า ผู้มีพระปัญญานับไม่ได้ บุญอันข้าพเจ้าทำแล้ว ณ กาลบัดนี้ด้วย บุญทั้งหลายอื่น อันข้าพเจ้าทำแล้วในกาลก่อน สร้างสมแล้วด้วยเดชอันแรงกล้าแห่งกุศลนั้นและด้วยเดชแห่งบารมีของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สรรพอุปัทวะ จงถึงความพินาศไป ขอลาภใหญ่ จงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วย สัจจะ ด้วยศีล ด้วยพลังแห่งขันติ และเมตตา ของพระพุทธเจ้านั้น แม้คุณธรรมเหล่านั้น จงตามรักษาซึ่งเราทั้งหลาย ด้วยความเป็นผู้ไม่มีโรค ด้วยความสุข รักษา เราทั้งหลายเป็นอันดี ทุกเมื่อ ให้ไม่มีอุปัทวะ แม้ความเดือดร้อนและอุปสรรทั้งหลายของเราจงสงบไป
อภิอนันทนาการจาก คณะพระธาตุแก้วรัตนมณีโชติ พีรพงศ์ ชมจินดา
ถวายบุญทั้งหมดนี้เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
​

 

โมทนาบุญทุกท่านนะครับ
การชอบมองภาพพระเป็นการดี หลวงพ่อท่านบอกว่าเป็น พุทธานุสติกรรมฐาน (ตามระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าหรือตามระลึกถึงความดีของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์)เป็นกรรมฐานกองหนึ่งใน 40 กรรมฐานตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอน และเป็นกรรมฐามที่ไปนิพพานง่ายที่สุดด้วย การภาวนา พุทโธ ก็เป็น พุทธานุสติกรรมฐาน เหมือนกัน แต่ต้องให้ควบคู่กับ อานาปานุสติกรรมฐาน เพราะเป็นตัวคุมฌาน และเป็นกรรมฐานกองใหญ่ ซึ่งกรรมฐาน 40 กองต้องมีกองนี้เป็นหลักสมาธิจะทรงตัวดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่ที่ อานาปานุสติ คือลมหายใจเข้าออกได้ดี ได้นาน ฌานก็ทรงอยู่ได้ ถ้าลมหายใจไป ฌานก็หาย
ปิดท้ายอีกนิดหนึ่งนะครับ การที่มองภาพพระเป็นกรรมฐาน ถ้าเรามองภาพพระเป็นสีทองหรือสีเหลือง เราก็จะได้ฝึก กสินสีเหลืองไปด้วย และจับลมหายใจไปด้วย
รวมแล้วเราได้ฝึก กรรมฐานทั้งหมด 3 กองในเวลาเดียวกันเลยครับ (มีพุทธานุสติกรรมฐาน กสิน และอานาปานุสติกรรรมฐาน) คุ้มมากๆ แล้วแต่จริตของแต่บุคคลนะครับ ถ้าคนที่ปรารถนาพุทธภูมิต้องได้กรรมฐาน 40 กอง และต้องทำให้คล่องด้วย เพราะพุทธภูมินี้จะเป็นครูสอนสัตว์โลกในอนาคตกาล
กสิน มีทั้งหมด10 กอง หาอ่านด้ายตามเว็ปพลังจิตนี้นะครับ
โชคดีครับ.....

 

ภาพสมเด็จองค์ปฐม .. ภาพนี้ เป็นภาพที่ชอบมาก ๆ เช่นกัน ติดตาติดใจเสมอยามระลึก จับภาพองค์พระขึ้นมา
ดิฉันทดลองนำมาใช้ในการฝึกระงับ + กดกิเลสในช่วงต้นได้ดีมากเลยค่ะ

ยามที่รู้สึกตัวว่า .. กำลังเริ่มจะโกรธ เริ่มขุ่นมัว เริ่มน้อยอกน้อยใจ เริ่มเศร้าเสียใจ เริ่มรู้สึกอยากมี - อยากเป็น - อยากได้
เริ่มไม่พอใจจากเหตุต่าง ๆ เช่น ความปรารถนาที่ไม่สมหวัง , การพลัดพรากจากสิ่งรัก - สิ่งชอบใจ

ดิฉันจะรีบ ๆ กำหนดจิตจับรูปภาพนี้ ภาพของสมเด็จองค์ปฐมอันงดงามเหลือเกิน จับภาพท่านไว้มั่น ๆ แม้นว่า .. ใจมันจะสั่นริก ๆๆๆ และ อารมณ์กระเพื่อมไหว ๆๆๆ ต้องกดกิเลสนี้ไว้ก่อน

บอกตัวเองว่า เรากำลังฝึกหัดกำจัดความเลวในจิต อธิษฐานต่อครูบาอาจารย์ พระพุทธเจ้าแล้วว่า .. อิมาหังภะคะวา ..ฯ ลฯ เราต้องทำได้ ๆๆๆ

เมื่อกดมันไว้สำเร็จแล้ว ไม่แสดงอาการของความเลวในจิตนั้น ๆ ออกมา แล้วมาทบทวน คิดใคร่ครวญดูว่า อาการนี้ ๆ ของจิต มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ? เราลองประมวลเหตุผลออกมาทั้งหมด .. ว่าจิตมันยึดอะไร .. แล้วจึงมีอาการ โยงไปโยงมา โดยทั้งมวลแล้ว มันก็มาลง สรุปที่ยึดตัวเอง .. ทู๊กที

แล้วค่อย ๆ ดึงเอาสิ่งที่เราเรียนรู้มาแล้ว ทางทฤษฎี มาขัดเกลา ซักฟอกผ้าขี้ริ้วจิตผืนนี้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ว่าสังโยชน์สิบประการ พรหมวิหารสี่ กฎไตรลักษณ์ อนิจจัง + ทุกขัง + อนัตตา ฯ ล ฯ ระดมดึงข้อธรรมต่าง ๆ มาบ่งชี้ ให้จิตของเรามันเห็นความเป็นจริงให้ได้ จนกระทั่งจิตมันค่อย ๆ ยอมรับความเป็นจริงที่แท้นั้น แล้วจิตค่อย ๆ คลายอาการความยึดมั่น - ถือมั่น นั้น ๆ ลง

บางทีทำแรก ๆ มันก็สอบตก มันโกรธไปแล้ว มันระเบิดอารมณ์ ออกไปอย่างกดระงับไว้ไม่อยู่ ก็มานั่งร้องห่มร้องไห้ภายหลังก็มี ว่าสอบตกอีกแล้ว สักพักอึดใจ เมื่ออาการเคร่งเครียดคลายไปจากอารมณ์ มันก็หัวเราะออกมา อย่างตลกขบขันตนเอง มองเห็นความโง่ ไร้สาระสิ้นดี กับอาการความเลวนั้น ๆ ที่ได้แสดงออกมา ให้ตนเอง เห็นจิต อาการความยึดของจิต

ทุกวันนี้ก็ฝึกหัด ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ ทำซ้ำ ๆ ๆ ๆ ต่ออารมณ์ต่าง ๆ มันเป็นเรื่องที่ท้าทายตนเองอย่างดีเยี่ยม ที่เราจะทำให้จิตตนเอง สามารถค้นหาความเลวในจิต แล้วพยายามพากเพียรที่จะเรียนรู้มัน หาอุบาย + วิธีการต่าง ๆ ให้จิตมันยอมรับความจริง แล้วปล่อยปละ - ละวางความเลวนั้น ๆ ให้ค่อย ๆ จางหายไปจากใจ
แต่ต้องไม่ท้อ ไม่ถอย ทำซ้ำ ๆ ทำไม่เลิก

 

ขอโมทนาบุญนะครับ
ทุกอย่างที่เราทุกข์หรือสุขมันอยู่ที่จิต ๆไปสัมผัสอารมณ์หรือยึดอารมณ์นั้นมันถึงมีความทุกข์หรือสุข ความทุกข์หรือสุข ย่อมมีสภาพไม่เที่ยง ค่อยๆพยายามเรียนรู้โลก และยิ้ม ยอมรับสภาพความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน อย่างมีสติ เพื่อไม่ต้องกลับมาเกิดอีก มีนิพพานเป็นที่ไป
จิตที่มีอานุภาพย่อมมีสติและรู้ตามความเป็นจริงเสมอ หมั่นฝึกฝนสมาธิบ่อยๆนะครับ จะเป็นกำใจให้ พระที่อยู่ที่นิพพานรอพวกท่านอยู่ เพราะ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง​

 

โมทนา สาธุ ครับ

 

ต้องขออภัยมากๆค่ะ ตามที่คุณ Narong บอกนั้นถูกต้องแล้วค่ะ

 

โมทนาด้วยครับ