ร่วมบุญเพื่อบูรณะเสนาสนะกับครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า วัดเกษศรี (ต้นบุญแห่งเมืองพะเยา)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หมูพรครูบา, 12 กรกฎาคม 2009.

  1. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    [​IMG]

    ครั้งที่แล้วได้เคยเชิญชวนพี่น้องให้ร่วมบุญกันเพื่อร่วมกันสร้างโบสถ์ให้หลวงปู่บุญตา เจ้าอาวาสวัดอินทรีย์สังวรวนาราม ศิษย์สายหลวงปู่เทพโลกอุดร (องค์ด้านขวามือของภาพครับ) ซึ่งผมได้นำปัจจัยไปถวายเรียบร้อยแล้วเป็นเงิน 9,100 บาท ซึ่งหลวงปู่ท่านได้กล่าว "อนุโมทนา" มาพร้อมกันนี้ หากพี่น้องท่านใดยังไม่ได้รับทราบข่าวนี้ก็เชิญไปอ่านรายละเอียดได้ที่กระทู้นี้ด้วยนะครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    ก่อนอื่น..มาทำความรู้จักวัดเกษศรีกันก่อนนะครับ

    <TABLE align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    วัดเกษศรีสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๑๑๗ บ้านร้อง หมู่ ๖ ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา มีความเป็นมาที่ยาวนาน เป็นวัดเก่าแก่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ๒ องค์ คือ พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน หรือพระสิหิงค์ ๓ ขนาดหน้าตักประมาณ ๓๐ นิ้ว เนื้อทองสัมฤทธิ์จำนวน ๒ องค์ ซึ่งเป็นพระเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองภูกามยาวมาแต่โบราณ เนื้อที่ของวัดมีประมาณ ๕ ไร่ ๑ งาน ๗๐ ตารางวา ประกอบด้วยเสนาสนะต่าง ๆ อาทิ อุโบสถ ศาลาบาตร กุฎิสงฆ์ กุฎิรับรองแขก โรงครัว ศาลาการเปรียญ

    แต่เดิมวัดเกษศรี เป็นอารามเก่าแก่ดังจะเห็นได้จากต้นโพธิ์ใหญ่ที่อยู่ในวัดมีขนาดใหญ่อายุหลายร้อยปี ซึ่งอยู่คู่วัดมาแต่โบราณ ต่อมาจึงมีการสร้างและบูรณะฟื้นฟูให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งเมื่อราวพ.ศ.
    ๒๔๒๘ - ๒๔๓๕ คณะสาธุชนบ้านร้องได้นิมนต์พระครูบาเบี้ย ซึ่งเป็นพระสงฆ์ในเมืองพะเยามาเป็นเจ้าอาวาส ต่อมาก็มีลูกศิษย์ช่วยกันสืบสานปณิฐานจนถึงปัจจุบัน และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยมีลำดับเจ้าอาวาสตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนี้

    ๑. พระครูบาเบี้ย (พ.ศ. ๒๔๓๕ - พ.ศ. ๒๔๕๕)
    ๒. พระครูบาวงศ์ (พ.ศ. ๒๔๕๕ - พ.ศ. ๒๔๕๙)
    ๓. พระครูบาอินยะสงฆ์ (พ.ศ. ๒๔๕๙ - พ.ศ. ๒๔๖๕)
    ๔. พระครูบาอินทยศ (พ.ศ. ๒๔๖๕ - พ.ศ. ๒๔๗๗)
    ๕. พระครูบาอภิชัย (พ.ศ. ๒๔๗๗ - พ.ศ. ๒๔๗๙)
    ๖. พระครูบาอินทจักร (พ.ศ. ๒๔๗๙ - พ.ศ. ๒๔๘๕)
    ๗. พระครูบาล้วน (พ.ศ. ๒๔๘๕ - พ.ศ. ๒๔๘๗)
    ๘. พระครูบาบุญชู (พ.ศ. ๒๔๘๗ - พ.ศ. ๒๔๙๕)
    ๙. พระครูบารอด (พ.ศ. ๒๔๙๕ - พ.ศ. ๒๔๙๗)
    ๑๐. พระครูบาดวงแก้ว (พ.ศ. ๒๔๙๗ - พ.ศ. ๒๕๐๐)
    ๑๑. พระครูบาดวงแก้ว (พ.ศ. ๒๕๐๐ - พ.ศ. ๒๕๓๕)
    ๑๒. พระอธิการประดิษฐ์ ธีรวิโส (พ.ศ. ๒๕๔๓ - พ.ศ. ๒๕๔๙)
    ๑๓. พระเจษฎา โชติปญฺโญ (ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า) (พ.ศ. ๒๕๕๐ - ปัจจุบัน)

    ประวัติความเป็นมาแต่เดิม (จากการบอกเล่าสืบต่อกันมาของชาวบ้านที่มีอายุและเป็นคนเก่าแก่ในพื้นที่) ดังนี้

    องค์สุเทวฤาษี ซึ่งมีฐานะเป็นผู้เลี้ยงดูเจ้านางจามเทวี ณ เมืองละโว้ เป็นสหายธรรมกับองค์ฤาษีทั้ง ๙ ตนที่บำเพ็ญเพียรอยู่ ณ ป่าไม้สีเสียด (บริเวณวัดเกษศรี ในปัจจุบัน) ซึ่งเมื่อก่อนนั้นเป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ในบริเวณนั้นมีต้นโพธิ์อยู่ ๙ ต้น ซึ่งเป็นการอธิษฐานต้นโพธิ์โดยพระอรหันต์รูปหนึ่งมีนามว่า "พระอุปคุต" เพื่อที่จะให้มีผู้มีบุญญาธิการมาสร้างบารมีธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ หลังจากพุทธปรินิพพานไปเกือบ ๓๐๐ ปี โดยต้นโพธิ์ ๙ ต้นนี้องค์ฤาษีทั้ง ๙ ตนก็มาอธิษฐานบารมีธรรมครบทุกตน แต่ละตนก็ประจำต้นโพธิ์แล้วบำเพ็ญฌานสมาบัติ มีสระน้ำวิเศษอยู่สระหนึ่งชื่อ "สระโบกขรณี" ซึ่งส้างด้วยอิทธิฤทธิ์ขององค์ฤาษีทั้ง ๙ ตน เพื่อเป็นที่สรง ที่อาบ ที่ดื่ม ที่กิน ของมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย และเป็นคำขอขององค์สุเทวฤาษีที่ขอให้ฤาษีทั้ง ๙ ตนช่วยอธิษฐานบารมี เพื่อให้เป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดที่ได้ดื่มกิน ได้อาบน้ำ สรงน้ำ สรงเกล้าดำหัว จักมีอายุมั่นยืนยาว แคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคภัยและอันตรายทั้งปวง มีโชค มีความเจริญ สุขสวัสดี มีชัยชนะ

    โดยขณะที่ทำพิธีกรรมอยู่นั้นฤาษีทั้ง ๙ ตนต้องเข้าฌาณสมาบัติและอธิษฐานจิต ไม่ออกจากสมาธิเพื่อเป็นการปลุกเสกน้ำในสระให้เป็นน้ำวิเศษและสระโบกขรณีวิเศษ ขณะนั้นพญานาคหรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "นาคมานพ" (นาคตนนี้เป็นบุตรของพญานาคที่มอบทองคำให้สองตายาย เพื่อสร้างองค์พระเจ้าตนหลวง เมืองพะเยา แต่เนื่้องด้วยนาคตนนี้เป็นผู้ที่มีมิจฉาทิฐิ จึงถูกพญานาคผู้เป็นบิดา ใช้อาคมในการดัดนิสัยโดยให้อยู่ ณ สระน้ำโบกขรณีจนกว่าจะพ้นคำสาป) ซึ่งอยู่ ณ สระน้ำแห่งนั้นเกิดความไม่พอใจ จึงขึ้นมาจากสระโบกขรณีแล้วดลบันดาลให้ฝนฟ้า พายุต่าง ๆ โหมกระหน่ำ เพื่อให้การบำเพ็ญเพียรและพิธีกรรมของฤาษีทั้ง ๙ ตน ไม่สัมฤทธิ์ผล แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายหรือขัดขวางการบำเพ็ญฌานของฤาษีทั้ง ๙ ตนได้ จนในที่สุดเมื่อล่วงเข้าสู่วันที่ ๙ ฤาษีทั้ง ๙ ตนได้ออกจากฌานสมาบัติพร้อมกัน จึงได้ใช้ฤทธิ์เดชต่าง ๆ ที่ฤาษีแต่ละตนมีอยู่ ข่มพญานาคมานพให้อ่อนแรงและยอมแพ้ โดยการดลบันดาลให้พระอาทิตย์ปรากฎขึ้นท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำอยู่นั้น ปรากฎว่าด้วยบารมีของฤาษีทั้ง ๙ ตนได้เนรมิตดวงอาทิตย์ ๙ ดวงมาส่องที่พญานาคมานพให้ต้อนร้อนรน และส่องเฉพาะบริเวณสระน้ำเท่านั้น จนน้ำแห้งเหือดไปหมด ทำให้ได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก

    สุดท้ายจึงยอมจำนนต่อฤาษีทั้ง ๙ ตน และได้รับสัจจะว่า "จะกลับเนื้อกลับตัว จะไม่มีมิจฉาทิฏฐิอีกต่อไป และยินยอมที่จะปฏิบัติคำสั่งสอนของฤาษีทั้ง ๙ ตนทุกประการ" ฤาษีทั้ง ๙ ตนจึงได้คลายฤทธิ์และให้ทำอย่างเหมือนเดิม พญานาคมานพจึงรอดพ้นความทุกข์ทรมานและได้รับปากว่าจะขออยู่ที่นี่เพื่อดูแลสระโบกขรณีนี้ ตลอดถึงรอคอยผู้มีบุญญาธิการในการที่จะมาสรงน้ำในสระแห่งนี้ เพื่อเพิ่มบุญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ เมตตา มหานิยม โชคลาภ และแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง และขออาสาจะอยู่รอช่วยเสริมบารมีของผู้มีบุญญาธิการในการเสริมสร้างทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป ดังนั้นฤาษีทั้ง ๙ ตนต่างก็ดีใจและได้ส่งขาวไปยังองค์สุเทวฤาษีว่า หากผู้ใดไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ ราชบัณฑิต สมณะชีพราหมณ์ สามัญชน คนทั้งหลาย ได้ดื่มกิน สระเกล้าดำหัว ก็จักอยู่เป็นเป็สุข มีความเจริญในชีวิต แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันสระน้ำโบกขรณีนี้ได้ถูกขุดและบูรณะขึ้นใหม่ หลังจากถูกถมไปแล้วครั้งหนึ่งในอดีตนานมาแล้ว เพื่อให้ยังความศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิม และเพื่อให้เป็นสถานที่คุ่บ้านคู่เมืองภูกามยาว ดังตำนานที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานสืบต่อกันมา
     
  3. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    สำหรับสาธุชนและญาติธรรมที่ยังไม่เคยทราบประวัติครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า..เชิญอ่านประวัติของท่านอย่างเป็นทางการได้ก่อนครับ..

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=WorkCenterHeader> ประวัติครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า (พระเจษฎา โชติปญฺโญ)</SPAN></TD></TR><TR><TD class=WorkCenterContent>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=WorkCenterContentFont></TD></TR><TR><TD class=WorkCenterContentFont style="PADDING-RIGHT: 8px; PADDING-LEFT: 8px; PADDING-BOTTOM: 15px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 15px">[FONT= ]<TABLE align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>[/FONT]
    [​IMG] ชาติกำเนิด

    บ้านต๊ำน้ำล้อม ตำบลบ้านต๊ำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีสามีภรรยาคู่หนึ่งคือนายหน้อยแหน้น และนางบัวเขียว ใจลา ประกอบอาชีพทำนาและมีฐานะยากจนมาก ได้อยู่กินกันมาจนมีลูกสาว ๑ คน แต่เวลาผ่านไป ๑๐ ปียังไม่มีวี่แววว่าจะได้ลูกชายสักคน แม้ว่าจะมีการตั้งครรภ์ใหม่ก็มีเหตุต้องลงเลือดหรือแท้งไปถึง ๓ ครั้ง แต่ก็สังเกตดูว่าเป็นเด็กผู้ชายทุกครั้ง จึงได้ไปอธิษฐานกับองค์พระเจ้าตนหลวง ณ วัดศรีโคมคำ พระคู่บ้านคู่เมืองพะเยา ในคืนวันแปดเป็ง (วิสาขบูชา) พอตกกลางคืนนางบัวเขียวก็นิมิตว่า มีพญานาคตัวใหญ่ตัวหนึ่งเลื้อยออกมาจากใต้ฐานองค์พระเจ้าตนหลวง แล้วนำลูกแก้วลูกหนึ่งสวยงามแพรวพราวระยิบระยับ มีประกายงดงามประมาณค่ามิได้ ดุจดั่งลูกแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิราชหรือลูกแก้ววิเศษของมหาเทพเบื้องบน โดยพญานาคนั้นได้คาบลูกแก้ววิเศษมาคายไว้ที่อุ้งมือขวานางบัวเขียวพร้อมกับกลิ่นหอมตลบอบอวนดั่งดอกไม้ในสวรรค์ หลังจากนั้นไม่นานนางบัวเขียวก็ตั้งท้องลูกคนที่ ๒ มีความรู้สึกอยากไปวัดไปวามากกว่าเดิม ชอบนั่งสวดมนต์ ทำสมาธิ เจริญภาวนาและทานมังสวิรัติประจำ ไม่อยากทานเนื้อสัตว์ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา จนถึงเวลาที่คลอดกุมารน้อยตรงกับวันอังคาร ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๑๘ เวลา ๑๖.๐๙ น. ขณะนั้นฝนตกกระหน่ำครั้งใหญ่ฟ้าผ่า ฟ้าร้อง ดังกึกก้องปานว่าฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะทลาย แผ่นดินไหว สั่นสะเทือนไปทั่ว เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่ต้นไม้บริเวณข้างบ้านและแผ่นดินไหวจำนวน ๓ ครั้ง ในเวลาไล่เลี่ยกันไม่กี่นาทีก็เป็นเวลาที่กุมารน้อยคลอดออกมาจากครรภ์นางบัวเขียวผู้เป็นมารดา การเกิดของกุมารน้อยนี้น่าอัศจรรย์คือ นำเท้าออกมาก่อน พอเท้าออกมาถึงเข่า แผ่นดินไหวและฟ้าผ่าต้นไม้ข้างบ้านครั้งที่ ๑ พอลำตัวออกมาถึงบริเวณหน้าอก แผ่นดินไหวและฟ้าผ่าต้นไม้ข้างบ้านต้นเดิมครั้งที่ ๒ พอถึงเวลานำศีรษะออกมาแล้วนั้น แผ่นดินไหวและฟ้าผ่าต้นไม้ข้างบ้านต้นเดิมครั้งที่ ๓ แต่ฝนก็ยังตกกระหน่ำไม่หยุดจนคลอดทารกน้อยเสร็จเรียบร้อย สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับหมอตำแยและญาติพี่น้องของผู้เป็นพ่อและแม่ราว ๒๗ หลังคาเรือนหรือประมาณ ๓๕ คน กล่าวโดยสรุปเกี่ยวกับปรากฏการณ์อัศจรรย์การให้กำเนิดกุมารน้อยนี้มีอยู่ ๙ ประการคือ

    ๑. คืนวันวิสาขบูชาก่อนที่จะปฏิสนธิในครรภ์ หลังจากอธิษฐานขอพรจากพระเจ้าตนหลวง นางบัวเขียวผู้เป็นมารดานิมิตว่า มีพญานาคตัวใหญ่เท่าต้นตาลเลื้อยออกมาจากใต้ฐานพระเจ้าตนหลวง แล้วคาบลูกแก้วอันงดงามรัศมีเปล่งปลั่งมากนักมาคายไว้ที่มือขวานางบัวเขียวพร้อมกลิ่นหอมตลบอบอวล และจะฝันซ้ำ ๆ กันทุกวันพระ
    ๒. ขณะกำเนิดนั้นกุมารน้อยเอาเท้าออกก่อนไม่เหมือนทารกอื่น
    ๓. บริเวณศีรษะมีเมือกบาง ๆ คล้ายกับหมวกอยู่ (เป็นวุ้นสีเขียวคล้ำใส ๆ)
    ๔. หลังจากล้างตัวและศีรษะแล้วที่ผมบาง ๆ ของกุมารน้อยมีคล้ายกับทองคำเปลวบาง ๆ ระยิบระยับติดอยู่เต็มไปหมด
    ๕. ขณะที่คลอดกุมารน้อยนั้นมีกลิ่นหอมมากดุจดั่งดอกไม้สวรรค์ไปทั่ว
    ๖. มีสายแห่หรือสายรกพันบริเวณคอของกุมารน้อย ๓ รอบคล้ายกับงูพันพระศอองค์พระศิวะเจ้า
    ๗. กุมารน้อยไม่ร้องไห้เหมือนทารกอื่น (หมอตำแยต้องตีก้นหลายครั้งเกรงว่าจะเป็นใบ้)
    ๘. เมื่อตัดสายรกสายสะดือแล้ว ปรากฏว่ามีลูกแก้วเม็ดเล็ก ๆ (ทางเหนือเรียกว่า คตแก้ว หรือแก้วโป่งข่าม ) อยู่บริเวณสายรกห่างจากสะดือของกุมารน้อย ๑ คืบ
    ๙. ขณะคลอดกุมารน้อยนั้นมีฝนตกหนัก ฟ้าผ่าต้นไม้ต้นเดิมและแผ่นดินไหวถึง ๓ ครั้ง (ฟ้าผ่าและแผ่นดินไหวพร้อมกัน)

    ในค่ำคืนนั้นหลังจากกุมารน้อยได้กำเนิดขึ้นมาได้ ๑ คืน ผู้เป็นบิดาคือนายแหน้น นิมิตว่า มี พ่อค้า นักธุรกิจ ต่าง ๆ ทั้งชาวไทย จีน ฝรั่ง ต่างชาติ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง แต่ละท่านมียศสูง ๆ และร่ำรวยทั้งนั้น ต่างก็พากันล้อมกราบไหว้ลูกแก้ววิเศษ ซึ่งเมื่อมองดูด้านในของลูกแก้ววิเศษจะมีภาพพระพุทธรูปและครูบาเจ้าศรีวิชัยอยู่ภายใน โดยผู้คนเหล่านั้นที่มากราบไหว้ต่างก็มาพึ่งพาบุญบารมีของลูกแก้ววิเศษเพราะเชื่อว่าลูกแก้ววิเศษนั้นสามารถสร้างอานิสงส์ให้เขาเหล่านั้นร่ำรวย รุ่งเรือง มีฐานะดี โชคดียิ่งขึ้น และพ้นจากโรคภัยต่าง ๆ แล้วก็ตกใจตื่น หลังจากนั้นได้พิจารณาความฝันว่า “เอ แปลกนะ ต่อไปข้างหน้าลูกของเราจะต้องเป็นที่พึ่งพาของคนระดับต่าง ๆ พ่อค้า ประชาชน นักธุรกิจ ทหาร ตำรวจ ที่มียศสูง ๆ แน่นอน ประกอบกับคนที่ยังไม่รวยถ้าทำบุญบารมี ร่วมกันก็จะรวยยิ่งขึ้น”

    [​IMG] คำพยากรณ์ครั้งแรก

    เมื่อเวลาผ่านไป ๓ วัน ข่าวดังกล่าวทราบถึงครูบาเจ้าอินโต วัดบุญยืน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดพะเยา ได้เดินทางไปที่บ้านของกุมารน้อย พอไปถึงบ้านก็เอ่ยขึ้นทักพ่ออุ้ยปัน ผู้เป็นตาของกุมารน้อยว่า “ พ่ออุ้ยปัน มีหน่ออริยโพธิสัตว์มาเกิดแล้วเน้อ ชาติสุดท้ายของเปิ้นแล้ว เลี้ยงไว้ดี ๆ เจ้าหน่อแก้วฟ้าไจยา มาเกิดแล้ว ต่อไปปายหน้าเปิ้น จะก้ำจูสาสะนา (ศาสนา) โผด (โปรด) คนหื้ออยู่ดีมีสุข มีทรัพย์สมบัติมากนัก (อริยทรัพย์ ๗ ประการ) คนตังหลายที่มีบารมีร่วมเปิ้นก็จะมี ทรัพย์สมบัติมากนักเช่นกัน“ พร้อมกันนั้นครูบาเจ้าอินโต ก็ค่อย ๆ ผูกข้อมือรับขวัญทารกน้อยและทำนายไว้ว่า “กุมารน้อยผู้นี้ เป็นผู้มีบุญหนัก ศักดิ์ใหญ่กลับชาติมาเกิด เป็นขวัญปากครูบาเจ้าพระอริยะต๋นบุญล้านนา (ขวัญสัจจะวาจาศักดิ์สิทธิ์ของครูบาเจ้าศรีวิชัย) นำแก้วคู่บารมีมาโผด (โปรด) คนตังหลายต่อไปข้างหน้า เด็กน้อยผู้นี้จะเป็นกำลังของพระพุทธศาสนาที่สำคัญคนหนึ่งและสามารถที่จะโปรดมวลมนุษย์ให้พ้นทุกข์ มีความสุข ความร่ำรวยด้วยลูกแก้วนี้ และวาจาสิทธิ์ของกุมารน้อย ซึ่งก็ถือว่าเป็นชาติสุดท้ายของกุมารน้อยผู้นี้ก็ว่าได้” พร้อมกับตั้งชื่อให้ไว้ว่า “หน่อแก้วฟ้าไจยา” หมายถึง "แก้วมณีมงคลแห่งชัยชนะที่ฟ้าหรือสรวงสวรรค์ประทานมาเพื่อความสุขความเจริญ ร่ำรวย" และครูบาเจ้าอินโตยังตั้งอีกชื่อหนึ่งให้ว่า “เจ้าอริยทรัพย์” หมายถึง "ผู้มีทรัพย์มากมีทั้งทรัพย์สมบัติภายในและทรัพย์สมบัติภายนอก" นอกจากนั้นแล้วครูบาเจ้าอินโตยังได้เน้นกับพ่ออุ้ยปันและญาติพี่น้องทุกคนว่า “บารมีนี้มีเฉพาะผู้ที่มาจากอดีตชาติที่ได้พึ่งพาบารมีซึ่งกันและกัน ดังนั้นการทดสอบจิตของเจ้าหน่อแก้วฟ้าไจยา เช่นการลองขอความช่วยเหลือจากแต่ละบุคคลว่าเป็นเช่นไร เคยบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติร่วมกันหรือไม่ หรือถ้าผู้ใดให้ความเชื่อถือและช่วยเหลือเต็มที่กับเจ้าหน่อแก้วฟ้า ผู้นั้นคือผู้ที่มาจากอดีตชาติ เป็นผู้มีทรัพย์ทิพย์จากอดีตที่คอยช่วยเหลือกันมาก่อน เพราะถือว่าช่วยเหลือในชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเจ้าหน่อแก้วฟ้าไจยาแล้ว บุคคลผู้นั้นและครอบครัวของเขาก็จะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยยิ่งๆ ขึ้นไป หน้าที่กิจการงานก็จะเจริญรุ่งเรือง เป็นผู้มีโชคชัยตลอด โรคภัยไข้เจ็บก็จักไม่เบียดเบียน โรคกรรมโรคเวรก็ย่อมเบาบางลง โดยเฉพาะผู้ให้ยานพาหนะและผู้ให้ทรัพย์เงินทองในการบำเพ็ญประโยชน์ร่วมกับ เจ้าหน่อแก้วฟ้าผู้นั้นไม่อดอยาก และคล่องตัวในกิจการงานต่างๆ มีแต่ได้กับได้อย่างเดียวเท่านั้น”

    [​IMG] ชีวิตวัยเยาว์

    แต่ภายหลังทางอำเภอให้ใช้ชื่อในใบทะเบียนบ้านว่า "เจษฎา" เพราะชื่อ หน่อแก้วฟ้าไจยา เป็นชื่อค่อนข้างโบราณและยาวเกินไป พร้อมกันนั้นอีก ๗ วัน ครูบาศรี วัดร่องไฮ ต.บ้านใหม่ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของพะเยาอีกรูปหนึ่ง ได้มาเยี่ยมและรับขวัญเป็นลูกบุญธรรมอีกคนหนึ่ง ก็ทำนายไว้เช่นเดียวกันกับครูบาเจ้าอินโต ว่า “กุมารน้อยผู้นี้เกิดมาชดใช้กรรมเก่าก่อน ต่อไปจะถูกใส่ความ ถูกกล่าวหาว่าร้ายต่าง ๆ นานา จากเจ้ากรรมนายเวรจากอดีตชาติมาในคราบผ้าเหลืองและชาวบ้าน ซึ่งเป็นญาติของพญาสวัสดิมาร จะมาทำลายความเพียร ความดี และบารมีเก่า แต่หากกุมารน้อยผ่านบททดสอบบารมีด้วยจิตใจอันแน่วแน่ได้ เจ้ากรรมนายเวร (ผู้ใส่ร้ายป้ายสี ดูถูกดูหมิ่น) ตลอดจนมารเหล่านั้นก็จะแพ้ภัยตนเอง ฉิบหายต่าง ๆ นานาประการ ตกนรกขุมอเวจี เพราะกุมารน้อยผู้นี้เกิดมาถือว่าเป็นชาติสุดท้ายแล้ว จะเป็นผู้ที่ให้พรคนทั้งหลายให้เจริญรุ่งเรืองโดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขาย นักธุรกิจระดับต่าง ๆ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง ระดับต่าง ๆ คนทุกชนชั้น เพราะกุมารน้อยผู้นี้จะเป็นผู้มีสัจจะวาจาสิทธิ์”

    จากสาเหตุนี้ทำให้พ่ออุ้ยปัน รักและทะนุถนอมเจ้าหน่อแก้วฟ้าเสมือน "ไข่ในหิน" โดยไม่ให้ใครแม้กระทั่งญาติพี่น้องมาเล่นด้วย หรือถูกเนื้อถูกตัวเพราะทราบดีว่าเป็นเด็กที่มีความพิเศษไม่เหมือนเด็กทั่วไป เดี๋ยวจะมีรอยราคิน รอยด่างพร้อย ส่วนฝ่ายบิดาและมารดาไม่อยากจะให้บวชเรียนเพราะทางบ้านมีฐานะยากจนและกลัวจะไม่ได้พึ่งแรง จึงไม่ค่อยอนุญาตให้เจ้าหน่อแก้วฟ้าไปไหว้พระที่วัดในหมู่บ้านเท่าไหร่ และก็กลัวว่าเจ้าหน่อแก้วฟ้าจะไปจำบทสวดมนต์ของพระสงฆ์ แต่ก็ไม่วายเมื่อมีงานศพหรืองานทำบุญบ้านใหม่ในหมู่บ้าน เจ้าหน่อแก้วฟ้ามักจะไปดูพระสงฆ์เวลาให้ศีล ให้พร แล้วกลับมาฝึกสวดไปเรื่อย ๆ ตามประสาเด็ก นอกจากนั้นแล้วยังนำวี (พัด) ที่เขานำมาพัดข้าวเปลือกหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว นำมาสวดมนต์ให้ศีลให้พรแล้วบอกว่าตนเองเป็นพระครูบาเจ้ามาเกิด เมื่อก่อนก็สวดมนต์อย่างนี้ปฏิบัติธรรมอย่างนี้

    โดยเล่าประวัติของตนเองเป็นเรื่องเป็นราวว่าตนคือครูบาเจ้าศรีวิชัยมาเกิด (จากการบอกเล่าของชาวบ้านญาติพี่น้อง ขณะนั้นเจ้าหน่อแก้วฟ้าอายุ ๔ ขวบ) ไฟฟ้าก็ยังไม่เข้าในหมู่บ้าน การสื่อสารต่าง ๆ ก็ยังไม่ถึง หนังสือก็ไม่มีให้อ่าน ทีวีไม่มีให้ดู หนังสือก็ยังไม่ทันได้เรียน แต่เจ้าหน่อแก้วฟ้าพูดเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนดั่งเทวดาสอนให้พูดอย่างนั้น จนครั้งหนึ่งน้าไก่ซึ่งเป็นญาติของเจ้าหน่อแก้วฟ้าซึ่งเดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ ก็แปลกใจว่าเด็กน้อยนี้พูดอะไรแปลก ๆ จะเป็นจริงหรือ เลยตัดสินใจพาเจ้าหน่อแก้วฟ้าไปที่วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นวัดของครูบาเจ้าศรีวิชัย และเป็นสถานที่ที่ เจ้าหน่อแก้วฟ้าพูดถึงบ่อย ๆ เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน่อแก้วฟ้าไม่รีรอ รีบลงรถแล้วก็ทำตัวเองเหมือนดั่งไกด์นำเที่ยว บอกสถานที่ต่าง ๆ ได้ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นสถานที่ป่วย หรือเดินจงกรม ฯลฯ และทักทาย เรียกชื่อ ผู้เฒ่าผู้แก่ ที่มาต้อนรับในวันนั้นได้ถูกต้อง โดยไม่รู้จักกันมาก่อน สร้างความ ประหลาดใจให้ญาติทั้งหลายยิ่งนัก และย้ำบ่อย ๆว่า “เราจะไม่เกิดอีกแล้ว ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย”

    เมื่ออายุได้ ๕ ขวบ ก็ได้เกิดวิบากกรรมมาตัดรอน โดยเจ้าหน่อแก้วฟ้าถูกรถมอเตอร์ไซค์ชนจนขาซ้ายหัก ซึ่งเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะไม่มีเงินที่จะไปรักษาจากโรงพยาบาล ต้องใช้เวลานอนรักษาตัวแบบโบราณ ๗ เดือน ช่วงที่นอนรักษาตัวและฟักฟื้นก็ได้ร่ำเรียนวิชาอักษรล้านนา ตั๋วเมืองและคาถาอาคมเบื้องต้นจากพ่ออุ้ยปัน บัวเงิน ผู้เป็นตาและท่านเป็นลูกศิษย์ของครูบาเจ้าศรีวิชัย จนเจ้าหน่อแก้วฟ้าอ่านออกเขียนได้เป็นพื้นฐาน หลังจากนั้นเจ้าหน่อแก้วฟ้าได้เข้าศึกษาเล่าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ขณะนั้นอายุได้ ๗ ปี เวลาผ่านไปพออายุได้ ๘ ปี ช่วงที่ไปเรียนหนังสือหลังจากเลิกเรียนแล้ว เจ้าหน่อแก้วฟ้ามักจะไปนั่งสมาธิบริเวณป่าช้าหน้าโรงเรียนหรือวัดเก่าแก่บริเวณหัวนาที่มีซากปรักหักพังเพราะร่มเย็นและมีสมาธิดี นอกจากนั้นเจ้าหน่อแก้วฟ้ายังชอบปั้นพระพุทธรูปองค์เล็กองค์ใหญ่ แล้วชักชวนเพื่อน ๆ ไปไหว้และนั่งสมาธิ จากเหตุดังกล่าวนี้เป็นเหตุให้เพื่อนไม่ค่อยจะเล่นด้วยเพราะชอบอยู่กับป่าช้าและวัดเก่า ซึ่งคนทั่วไปไม่นิยมกัน และยังถูกกล่าวหาต่างๆ ว่าผีบ้าบ้าง ไม่เต็มบาทบ้าง หรือป่วยเป็นโรคจิตบ้าง ฯลฯ

    ต่อมาเจ้าหน่อแก้วฟ้ามีโอกาสพบพระธุดงค์รูปหนึ่งที่ป่าช้า ท่านนุ่งห่มจีวรสีกรักดำ อายุประมาณ ๗๐ กว่าปี หลังค่อมตัวเล็ก ท่านเมตตาสอนธรรมและวิธีการปฏิบัติธรรมให้ จนในที่สุดเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ชอบในการนั่งสมาธิภาวนามาตั้งแต่นั้น จนความทราบถึงผู้เป็นบิดาต้องดุด่าว่ากล่าวว่า “ทำไมทำตัวไม่เหมือนคนอื่นเขา ชอบไปแต่ป่าช้าและวัดเก่าแก่ คราวหลังถ้าไปอีกจะตีให้เจ็บตัวแน่” ด้วยฐานะทางบ้านยากจนมากแทบจะไม่มีอะไรจะกิน จำเป็นต้องทำมาหากินทุกอย่างโดยพี่สาวและพี่เขยต้องช่วยกันออกไปหาปลาหานกและพาเจ้าหน่อแก้วฟ้าไปด้วย แต่เจ้าหน่อแก้วฟ้ามักจะแอบปล่อยปลา และนกที่พี่สาวพี่เขยหามาได้เป็นประจำ จนถูกผู้เป็นบิดาดุด่าว่ากล่าวหลายครั้งหลายหน โดยครั้งสุดท้ายเจ้าหน่อแก้วฟ้าน้อยใจหนีออกจากบ้านไปพักบ้านญาติ นอกจากนั้นแล้วผู้เป็นบิดาชอบบังคับให้เจ้าหน่อแก้วฟ้ากินอาหารที่เป็นส่วนของสัตว์ต่าง ๆ แต่เจ้าหน่อแก้วฟ้าไม่ชอบเลยต้องกินข้าวพร้อมกับน้ำตาและรีบออกไปอาเจียนหลังบ้าน

    [​IMG] เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

    พอจบชั้น ป.๖ ก็มีจิตคิดที่บวชทดแทนคุณบิดามารดา ซึ่งฝ่ายบิดามารดาไม่อยากจะให้บวชเพราะกลัวเจ้าหน่อแก้วฟ้าจะไม่ยอมสึกในภายหลัง แต่เจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ได้บวชจนได้โดยมีครูบาสงบ วัดต๊ำน้ำล้อม เป็นพระอุปัชฌาย์ เนื่องจากพ่ออุ้ยนวล ทำดี (พี่ชายของยายและเป็นลูกศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิชัยอีกคนหนึ่ง) ได้เสียชีวิต เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๓๑ เจ้าหน่อแก้วฟ้าจึงได้ขอทดแทนคุณ คือบวชจูงศพ แล้วก็ไม่คิดจะสึก แต่ทางบิดามารดาและญาติพี่น้อง ได้ขอให้เจ้าหน่อแก้วฟ้าสึกและมาบวชเณรตามประเพณีแบบเบ้าโบราณ จึงได้สึก ๑ วันแล้วทำพิธีขวัญนาคและบรรพชาเป็นสามเณร ในวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๓๑ โดยมีครูบาสงบ วัดต๊ำน้ำล้อม (ลูกศิษย์ครูบาแก้ว วัดปงสนุกใต้ จังหวัดลำปาง) เป็นพระอุปัชฌาย์ และเริ่มต้นร่ำเรียนนักธรรมชั้นตรี โท เอก และวิปัสสนากัมมัฏฐานจากครูบาอาจารย์ที่มีหลายท่าน เช่น

    [​IMG] หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระบาทเขารวก จ.พิจิตร
    [​IMG] หลวงปู่ดาบส สุมโน จ.เชียงราย
    [​IMG]
    ครูบาเจ้าปู่นริศ นรินฺโท ลานธรรมบารมีศรีปทุมแสงธรรมหนอ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา สอนการปฏิบัติธรรมภาวนาชั้นสูง และคาถาอาคมต่าง ๆ จนหมดความรู้
    [​IMG] ครูบาศรี วัดร่องไฮ บ้านใหม่ จ.พะเยา สอนอักขรภาษาล้านนา และคาถายันต์ต่าง ๆ
    [​IMG] หลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดี สุภทฺโท วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ สอนคาถาอาคมและการปฏิบัติสมาธิ
    [​IMG] หลวงปู่หล้า ตาทิพย์ จ.เชียงใหม่ สอนคาถาอาคมและการใช้ทิพยญาณ การปฏิบัติธรรมชั้นสูง
    [​IMG] หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย
    [​IMG]
    ครูบาเจ้ากลิ่นกู้ วัดข่วงเป่าชัย จ.ลำปาง สอนการนั่งทางใน
    [​IMG]
    ครูบาคำผาย วัดพระธาตุจอมไคร้ จ.พะเยา
    [​IMG] ครูบาเจ้าพรหมจักร จ.ลำพูน สอนการปฏิบัติสมาธิภาวนา และคาถาหลายอย่าง
    [​IMG]
    ครูบาเจ้าชัยยะวงศา วัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน สอนคาถาเรียกทรัพย์ เรียกเงิน
    [​IMG]
    ครูบาเจ้าคำอ้าย วัดทุ่งพร้าว อ.ดอกคำใต้ สอนคาถาอาคมต่าง ๆ
    [​IMG]
    ครูบาเจ้าน้อย วัดต๋อมใต้ จ.พะเยา สอนการปฏิบัติธรรมและคาถาอาคม
    [​IMG]
    ครูบาเจ้าเกษม เขมโก จ.ลำปาง สอนธรรมะเบื้องต้น
    [​IMG] ครูบาอ่อน วัดสนต้นหวีด จ.พะเยา
    [​IMG]
    หลวงปู่ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี สอนการปฏิบัติสายมโนมยิทธิ
    [​IMG]
    หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม สอนคาถาคงกระพัน และค้าขายดี
    [​IMG]
    ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร ประเทศพม่า สอนการปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน
    [​IMG]
    ครูบาเจ้ามนตรี ธมฺมเมธี วัดพระธาตุสุโทน จ.แพร่ มีเมตตาสอนธรรมะ
    [​IMG]
    หลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสสนา จ.สกลนคร มีเมตตาถ่ายทอดความรู้ในการปฏิบัติภาวนา และคาถาอาคมต่างๆ จนหมดซึ่งท่านหลวงปู่ขาวบอกว่า "หมดแล้ว"
    [​IMG]
    หลวงปู่ดำ เขมโร วัดพระบาทเขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา สอนการอธิษฐานจิตภาวนาให้สำเร็จ
    [​IMG]
    ครูบาแสงหล้า ประเทศสหภาพพม่า
    [​IMG]
    ครูบาเหนือชัย โฆสิโต (ขี่ม้าบิณฑบาตร) วัดถ้ำป่าอาชาทอง จ.เชียงราย


    [​IMG] คำพยากรณ์จากครูบาอาจารย์

    ขณะที่ศึกษาปฏิบัติธรรมกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่าง ๆ สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ได้รับความอนุเคราะห์เมตตาสั่งสอน อบรมธรรม วิธีการปฏิบัติกัมมัฎฐานแต่ละรูปแบบ และถูกทดสอบภูมิธรรมมาเรื่อย ๆ นอกจากนั้นแล้วพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่มีญาณบารมีธรรมสูงได้กล่าวทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าให้สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าตรงกัน ๕ รูป คือ หลวงปู่ดาบส สุมโน หลวงปู่โง่น โสรโย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงปู่ฤาษีลิง และครูบาเจ้าดวงดี สุภัทโท ไว้ว่า "สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้านี้ หากแม้นว่าไม่ต่ออายุไว้ในพระพุทธศาสนาแล้ว ก็จักมีอายุในธาตุขันธ์ (กายเนื้อ) จวบจนอายุได้ ๓๕ ปีก็ละจะสังขาร เพราะว่าเป็นชาติสุดท้ายของท่านแล้ว แต่สำหรับสานุศิษย์ที่ต้องการพึ่งบุญบารมีและเคารพศรัทธาในวัตรปฏิบัติของท่านแล้วไซร้ ก็จงอาราธนานิมนต์ให้ท่านอยู่ได้ปีต่อปี โดยให้จัดทำกฐินอานิสงส์ให้ท่านคิดเป็นเงินกหาปนะ ๒ กหาปนะครึ่ง (คิดเป็นเงินปัจจุบันประมาณ ๓๙๙ บาท) ต่อการต่ออายุ ๑ วัน ผู้ใดทำบุญต่ออายุให้ท่านได้แต่ละปีนั้น จักได้อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ จะมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน การเงิน มีอายุมั่นยืนยาว สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง มีความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีไม่อดกลั้นอดอยาก"

    แต่ก็มีอีกวิธีหนึ่งก็คือสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าจะต้อง "เข้ากรรม" (ศิษย์มักจะเรียกว่า "นิโรธกรรม") ถือว่าเป็นการต่ออายุธาตุขันธ์ และเป็นการต่ออายุให้พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป เพราะสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้านั้น เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า เป็นตัวแทนของพุทธบริษัทที่จะต้องพัฒนาและนำพาพระพุทธศาสนาที่เริ่มต้นจากรากหญ้าให้เป็นรากแก้วที่แข็งแกร่ง เผยแพร่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองด้วยศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ศาสนบุคคล ศาสนพิธี และศาสนธรรม เป็นหลักชัยของชาวพุทธผู้มีปัญญา ให้มีขวัญมีกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติธรรมตามแนวของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่าง ๆ ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาดีแล้วตั้งแต่ในอดีต ให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองคู่กับประเทศไทยและโลกทั้ง ๓ หรือหมื่นโลกธาตุตลอดกาลนาน

    [​IMG] บารมีธรรมบังเกิด

    จากความรู้ที่ครูบาอาจารย์เจ้าเมตตาสั่งสอนและชี้แนะมานี้ทำให้สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าสามารถปฏิบัติธรรมได้ในระดับที่ดีขึ้นตามลำดับและสามารถฝ่าฟันอุปสรรคในการปฏิบัติธรรมได้อย่างง่ายดาย ทำให้ท่านสามารถเริ่มสร้างบารมีธรรมตั้งแต่เป็นสามเณรน้อย ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านหลายต่อหลายคนที่พบปาฏิหาริย์ เช่น เรื่องการย่นระยะทาง ซึ่งหากเป็นการเดินทางไปจังหวัดเชียงรายโดยทั่วไปแล้วจากพะเยา-เชียงราย วิ่งรถปกติจะใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงตัวเมืองเชียงราย มีอยู่วันหนึ่งออกจากพะเยาสายไปหน่อยเวลาประมาณ ๐๘.๐๐ น. ต้องรีบไปงานมงคลที่ตัวเมืองเชียงราย ขณะนั้นเมื่อถึงทางตรงบริเวณ อ.แม่ใจ สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็บอกให้โชว์เฟอร์ขับรถช้าหน่อยแล้วหลับตาสักครู่ปรากฏว่า สร้างความแปลกประหลาดใจให้โชว์เฟอร์ยิ่งนักเพราะรถนั้นวิ่งมาถึงบริเวณห้าแยกพ่อขุนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งถือว่าใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงกว่าทันเวลาที่ทำพิธีมงคลที่บ้านญาติธรรม จ.เชียงราย

    นอกจากนั้นแล้วเมื่อคราวสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าอายุ ๑๕ ปี เคยอธิษฐานจิตอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุให้เสด็จต่อหน้าสาธุชนเกือบร้อยคน ณ วัดเก่ากลางทุ่งนา สร้างปรากฏการณ์มหัศจรรย์ให้แก่ผู้พบเห็น และมีคนพบเห็นบ่อยครั้งกับการที่สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าไปไหนมาไหนรวดเร็วมาก เช่นการเดินจากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่งได้เร็วเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปจะทำได้ จนชาวบ้านลือว่าสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าล่องหนได้ นอกจากนั้นแล้วสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ายังเคยทักเกี่ยวกับเรื่องลางสังหรณ์ได้อย่างแม่นยำ เช่น บอกว่าอีกไม่กี่นาทีรถจะชนคนนั้นคนนี้ก็เป็นจริงตามนั้น เรื่องการบิณฑบาตรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะมีคนหลายคนเห็นว่าท่านบิณฑบาตพร้อม ๆ กันหลายที่คล้ายกับแยกร่างได้ แต่หากมีคนถามว่าท่านใช้ฤทธิ์หรือแยกร่างได้ใช่ไหม สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็จะตอบบ่ายเบี่ยงว่า “เข้าใจผิดมั้ง ถ้าแยกร่างได้จริงเราจะแยกร่างสร้างวัดช่วยกันหิ้วปูนสร้างวัดให้เสร็จละสิแล้วหัวเราะ” มีคนเห็นท่านเวลาอยู่ในวัดหรือเดินทางไปไหนเดี๋ยวก็หนุ่มเดี๋ยวก็แก่ สร้างความแปลกประหลาดใจยิ่งนัก มักมีคนมาถามว่าหลวงตาแก่ ๆ เมื่อกี้ไปไหนเสียล่ะ สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็จะตอบว่า “หลวงตาหรือ อ้อไปแล้ว”


    การทำพิธีกรรมล้านนาต่าง ๆ ของสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้า เช่น เสริมสิริมงคล พลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน ยันต์ดวงตาลปัตร พลิกดวง เสริมบารมี บูชาเทียน ๙ หน้า ๙ บารมี เทียนหนุนดวง ค้ำชะตา ให้กับพ่อค้าแม่ขาย นักธุรกิจ นักการเมือง ประชาชน ทหาร ตำรวจ ถ้าไม่ติดขัดกับวิบากกรรมเก่าของเขาเองก็จะสำเร็จตามนั้น จนเป็นที่กล่าวขาน แต่หากมีใครมาถามว่าวัตถุมงคลหรือยันต์ของสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าดีจริงหรือ สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ตอบว่า "แล้วแต่บุญบารมีและศีลของแต่ละบุคคลห้ามงมงาย ถ้าทำดีก็ดี มีศีลพร้อมปฏิบัติตามหลักธรรมก็ย่อมได้ดีแน่นอน" สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ามักจะพูดหลีกเลี่ยงแบบนี้เสมอและมักจะเก็บตัว ไม่ค่อยอยากจะให้ใครมาหามากมายเพราะไม่มีเวลาได้ ปฏิบัติธรรมในสมัยนั้น

    [​IMG] ออกธุดงค์ครั้งแรก

    หลังจากนั้นก็ขอลาบิดามารดาออกธุดงค์เพียงลำพังรูปเดียว แต่ปรากฏว่าทางบิดามารดาและญาติไม่ยอม สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าเลยตัดสินใจหนีออกธุดงค์ตั้งแต่เป็นเณรอายุ ๑๖ ปี ธุดงค์ตั้งแต่พะเยา เชียงราย เมืองแพร่ เมืองน่าน แล้วก็หลงทางป่าเพราะยังไม่ชำนาญเส้นทาง แต่ก็ได้พบเจอครูบาอาจารย์สายวิปัสสนาหลายรูปไม่ว่าจะเป็นรูปที่ยังดำรงขันธ์หรือดับขันธ์ไปแล้ว ตลอดจจนสิงสาราสัตว์ต่าง ๆ เช่น ช้าง ผีพราย เปรต คนธรรม์ พญานาค ยักษ์ ชาวบังบด แม้กระทั่งหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ฯลฯ ก็เจอมาหมดแล้ว ไม่มีอะไรฉันบางครั้งก็ต้องฉัน ใบไม้แทน บางครั้งเทวดาสงสารก็ลงมาใส่บาตรบ้าง เดินทางด้วยเท้าเปล่าไปเรื่อย ๆ จนไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน มีอยู่วันหนึ่งเป็นไข้มาลาเรียอ่อนแรงมาก ตั้งสติกำหนดไปแล้วเจอทางออกสู่ถนนใหญ่บริเวณข้างป่า รอรถคันไหนก็ไม่มีที่จะผ่านมามีแต่ช้างเป็นฝูงจำนวนหลายเชือกเดินผ่านแทบจะหมดสติ สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าจึงอธิษฐานไว้ในใจว่า “กรรมใดหนอที่ทำให้ข้าพเจ้ามาตกที่นั่งลำบากเช่นนี้ แม้กระทั่งคนหรือรถยานพาหนะก็ยังไม่ ปรากฏมี หากแม้นว่าใครมีบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ร่วมกันในอดีตชาติเคยเกื้อหนุนกันมาก่อน ที่เคยเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีร่ำรวยเงินทองมาจากอดีตชาติ ก็ขอให้มาพบเจอข้าพเจ้าแล้วพาข้าพเจ้าไปรักษาตัว รักษาธาตุขันธ์เพื่อให้กลับมาใช้ธาตุขันธ์นี้บำเพ็ญความดีบำเพ็ญบารมีในชาติสุดท้ายนี้ เพราะเราต้องเจอผู้อุปการะคุณผู้มีบุญเหล่านั้นเรื่อย ๆ ไป ผู้ใดให้ทรัพย์ เงินทอง และยานพาหนะแก่เราแล้ว เราจะนำไป สร้างประโยชน์คุณความดีบารมีอันยิ่งในชาติสุดท้ายนี้ ก็ขออานิสงส์บุญกุศลเก่าที่สั่งสมมาจงเกื้อหนุนให้เขาเหล่านั้นที่ค้ำชูข้าพเจ้าด้วยเงินทองในการสร้างวัดศาสนา ก็ขอให้เขารุ่งเรือง ร่ำรวย ร้อยเท่าพันทวีคูณ มีบารมีแคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคภัยทั้งปวง มีความสุขตลอดกาลเทอญ”
    พลันขณะนั้นก็มีรถอีแต๋นคันเก่า ๆ คันหนึ่งซึ่งหาบอ้อยผ่านทางนี้พอดีก็อดสงสารสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าไม่ได้ เลยนำส่งโรงพยาบาลสุราษฏร์ธานีแล้วติดต่อกลับมาหาญาติที่พะเยา ญาติก็เลยนิมนต์สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ากลับมาที่พะเยา ภายหลังทราบข่าวว่าผู้ที่นำส่งสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ามาส่งที่โรงพยาบาลนั้นคือนายนิยะ มาโต๊ะ ถูกหวยรางวัลที่ ๑ จำนวน ๘ ใบ รวยเป็นเศรษฐี และมีความตั้งใจตามหาสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ามาโดยตลอด เมื่อได้พบกันแล้วนายนิยะ มาโต๊ะได้นำรถยนต์คันใหม่มาถวายสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้า แต่สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ารับมอบแล้วก็มอบให้โรงพยาบาลไว้ใช้เป็นสมบัติของราชการ ต่อมาก็ทราบข่าวอีกว่ากิจการงานของนายนิยะ มาโต๊ะ ก็เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีอีกคนหนึ่ง

    หลังจากสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ากลับจากธุดงค์แล้วใช้เวลาหลายเดือนพอสมควร ตอนนั้นอายุได้ ๑๗ ปี ผู้เป็นบิดาได้มอบสมบัติชิ้นสุดท้ายให้แก่สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าคือ หลวงพ่อโสธร ทองเหลือง ปี ๒๕๐๐ ให้ไว้กับตัวแทนผู้เป็นบิดาเพราะผู้เป็นบิดาจะอยู่ไม่ได้แล้วเป็นโรคน้ำท่วมปอดและมะเร็ง ปอด ผู้เป็นบิดาได้ขอร้องให้สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้างดธุดงค์ ขอให้อยู่กับแม่และเรียนหนังสือต่อ ฝ่ายผู้เป็นมารดาก็ขอร้องเช่นกันและแล้วก็เกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เพราะผู้เป็นบิดาคือนายหน้อยแหน้น ใจลา ได้เสียชีวิตด้วยโรคน้ำท่วมปอดและมะเร็งปอดด้วยวัย ๕๐ ปี ในวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๓๗ สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้แก่ทุกคนในครอบครัวและญาติทุกคนเป็นอย่างยิ่ง

    [​IMG] รับนิมนต์มาวัดเกษศรี

    ต่อจวบจนอายุครบอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ตรงกับวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๓๘ โดยมีครูบาสงบ วัดต๊ำน้ำล้อม เจ้าคณะตำบลบ้านต๊ำ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์อิ่นแก้ว รตนปญฺโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์บุญแทน กิตติปญฺโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้วครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและยึดถือการปฏิบัติธรรมโดยไม่ย่อหย่อน นอกจากนั้นครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้ายังได้ปฏิบัติศาสนกิจทางพระพุทธศาสนา บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม เผยแผ่ธรรมะของพระพุทธเจ้า สอนพระปริยัติธรรม และรับใช้ครูบาอาจารย์มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๐ สาธุชนชาวบ้าน บ้านร้องและบ้านสีเสียด ทั้ง ๒ หมู่บ้านได้ขออาราธนานิมนต์ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้ามาจำพรรษาและรักษาการเจ้าอาวาส ณ วัดเกษศรี (บ้านร้อง) โดยครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าได้รับนิมนต์มาเพื่อร่วมสร้างป๋าระมี (บารมี) ตามแบบครูบาเจ้าศรีวิชัย เนื่องจากว่าในอดีตวัดเกษศรีเป็นวัดเก่าแก่ที่ชำรุดทรุดโทรมขาดการบูรณะมาช้านาน ถือว่าเป็นหน้าที่หลักของครูบาหน่อแก้วฟ้าที่จะต้องมาร่วมสร้างบารมีกับนักบุญร่วมชาติก่อนปางหลัง

    เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๑ ถึง วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา เป็นช่วงสิ้นปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า จึงได้ตัดสินใจเข้ากรรม (นิโรธกรรม) แบบแพลอยน้ำ มีกระต๊อบบนแพ ๑ หลัง กว้างยาวเมตรครึ่ง นั่งภาวนาอยู่ที่เดียวบนแพลอยน้ำ โดยเป็นการบำเพ็ญอุกฤษฎ์ ๙ อย่างคือ
    ๑. งดฉันอาหารทุกประเภท
    ๒. งดฉันน้ำทุกประเภท
    ๓. งดถ่ายหนัก (อุจจาระ)
    ๔. งดถ่ายเบา (ปัสสาวะ)
    ๕. งดลุกจากอาสนะ (ที่นั่ง)
    ๖. งดนอนหลับ ทั้งกลางวันและกลางคืน
    ๗. งดพูดจาด้วยการปิดวาจา
    ๘. อยู่ลำพังบนแพลอยกลางน้ำ
    ๙. ปฏิบัติกรรมฐานอย่างเดียว
    เพื่อเอาอานิสงส์นี้ถือเป็นการแก้เคราะห์กรรมเก่าให้เหล่าสาธุชนทั้งหลาย เปิดทรัพย์เปิดโชคชัย บารมีสุขให้สาธุชน ทั้งหลายมีความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง ร่ำรวย แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายใด ๆ อายุมั่นขวัญยืน ค้ำชูพระพุทธศาสนาให้เจริญ รุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป ก็มีสาธุชนทั้งหลายมาจากทั่วสารทิศ ที่มาชมบารมีครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า และขอพรจากท่านครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ทำให้ ท่านสาธุชนเหล่านั้นมีโชคมีชัย รวยและปลอดภัยจากโรคภัยกันถ้วนหน้า

    [​IMG] หลักชัยของพุทธศานิกชน

    เมื่อก่อนคนทั้งหลายก็ยังไม่มีความเชื่อมั่นในตัวครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า เพราะว่าเป็นหนุ่มตนน้อย หน้าตายังเป็นละอ่อนอยู่ ไม่น่าจะมีความสามารถอะไร จนบางคนวิพากษ์วิจารณ์ดูหมิ่น ดูถูก พูดจาถากถางว่าจะไปสักกี่น้ำ จะทำอะไรได้เพราะอายุยังน้อยอยู่จนเวลาผ่านไป ๕ เดือน ด้วยบารมีธรรมเก่าของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ก็ได้จัดตั้งกลุ่มเยาวชนคนรักษ์วัดกลองสะบัดชัยขึ้น เพื่อให้มีชัยชนะและความสำเร็จเหมือนชื่อหน่อแก้วฟ้าไจยา จนเยาวชนวัดเกษศรีมีชื่อเสียงโด่งดังข้ามจังหวัด ด้วยความสามารถและความสามัคคีของกลุ่มเยาวชนเองที่มีหลักชัยคือครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้านั่นเอง

    ปัจจุบันมีสาธุชนต่างที่ใกล้และที่ไกล ต่างบ้าน ต่างอำเภอ ต่างจังหวัด และต่างประเทศมากราบนมัสการ รวมถึงถวายปัจจัยและสิ่งของเพื่อสืบทอดพระศาสนาและเป็นการร่วมบุญบารมีกับครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ในแต่ละวันครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ด้วยเหตุที่ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าเป็นผู้เจริญในเมตตาและบารมีธรรม จึงปรารถนาที่จะโปรดและให้ความช่วยเหลือแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะยากดีมีจน เป็นใคร มาจากไหน หากเขาเหล่านั้นเป็นผู้ตกทุกข์ได้ยากและมีความตั้งใจที่จะขอบารมีจากท่าน ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็จะโปรดให้ความอนุเคราะห์อย่างไม่เลือกชนชั้นวรรณะ โดยไม่เห็นแก่ลาภสักการะที่มีสาธุชนนำมาถวายให้แต่อย่างใด ครูบาเจ้ามักจะกล่าวว่า “อาตมาเองเป็นครูบาตนเดียวที่ยากจนที่สุด แต่รวยน้ำใจมากที่สุด” หมายถึงว่าท่านนำลาภสักการะต่าง ๆ เหล่านั้นที่ได้รับจากสาธุชน นำไปสืบสานพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนและเพื่อช่วยเหลือสังคมในด้านสาธารณกุศลจนเป็นที่ประจักษ์ อาทิ
    [​IMG] ชี้แนะคนที่ขาดกำลังใจ หรือ ที่พึ่งทางใจ ให้มีที่ปรึกษาชี้แนะที่ถูกทาง สอดคล้องตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา เพื่อให้ทางออกที่เหมาะสมและนำไปใช้แก้ไขปัญหาชีวิตประจำวัน
    [​IMG] สำหรับคนที่ต้องการความสุขสงบในจิตใจสามารถมาปรึกษาสนทนาธรรมและปฏิบัติธรรมตามความสามารถในสติปัญญาของตน
    [​IMG] สืบสานและเผยแผ่พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาแบบล้านนา เพื่อเป็นการรักษาประเพณีอันดีงามและเป็นการสร้างคนดีในสังคมอีกทางหนึ่ง
    [​IMG] นำปัจจัยสมทบการก่อสร้าง ถาวรวัตถุภายใน วัดเกษศรี ให้มีความเจริญรุ่งเรืองถือว่าเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาวัดเกษศรีให้เจริญถาวรคู่กับบ้านเมืองภูกามยาว
    [​IMG] นำปัจจัยสมทบกองทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรภายในวัดเกษศรี ให้หมู่คณะสงฆ์และสามเณรมีความรู้และความสามารถ เพื่อเป็นกำลังสำคัญของบ้านเมืองและพระศาสนาสืบไป
    [​IMG] นำปัจจัยสมทบค่าภัตตาหารเช้า-เพล แด่พระภิกษุสามเณร ภายในวัดเกษศรี ให้มีกำลังกาย กำลังใจในการประพฤติวัตร ปฏิบัติธรรมตามสติกำลัง เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง
    [​IMG] นำปัจจัยสมทบกองทุนคณะสงฆ์ในตำบล ตำบลใกล้เคียง ในอำเภอภูกามยาว และในจังหวัดพะเยาโดยจะถวายในวันปวารณาเข้าพรรษาในแต่ละปี และใช้จ่ายในกิจการงานพระพุทธศาสนาของวัดเกษศรี
    [​IMG] นำปัจจัยสมทบทุนการศึกษานักเรียนที่เรียนดี แต่ยากจนในโรงเรียน ต่างๆ ในดุลพินิจ เป็นการให้โอกาสคนที่เรียนดี มีวิชาติดตัว เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง
    ๙.นำปัจจัยสมทบเพื่อการสงเคราะห์ผู้ป่วย เด็กกำพร้า คนชรา และ คนยากจน ตามชนบทต่าง ๆ ให้บรรเทาความเดือดร้อน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


    [​IMG]
    มารบ่มี บารมีบ่เกิด

    จากความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นและแน่วแน่ของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปี ทำให้ผู้ที่มิจฉาทิฎิและมีอคติด้วยความไม่รู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในวัตรปฏิบัติและปฏิปทาของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า จึงพยายามที่หาเหตุบ้าง กล่าวร้ายบ้าง ต่าง ๆ นานา แต่ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ไม่เคยนำมาใส่ใจเพราะท่านถือว่า “มารบ่มี บารมีบ่เกิด หรือศัตรูคือยาชูกำลัง” ดูอย่างครูบาเจ้าศรีวิชัย (ต๋นบุญแห่งล้านนา) ก็ยังเจอปัญหามาอย่างมากมายนานับประการ แต่ท่านก็สามารถฝ่าฝันฟันได้จนสำเร็จในที่สุดแม้ว่าจะใช้ระยะเวลาอย่างยาวนาน ถือว่าเป็นการบำเพ็ญบารมีชั้นสูงที่ทำได้ยากประการหนึ่ง
    ทุกวันนี้ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าไจยา ได้รับการยอมรับว่าเป็นครูบาหนุ่มนักปฏิบัติธรรมและนักพัฒนา อย่างแท้จริง ที่สร้างบารมีโดยการให้ทานและมีเมตตากับคนทุกเพศทุกวัยทุกชนชั้นวรรณะไม่เลือกยากดีมีจน หรือเลือกที่รักมักที่ชัง ถ้าใครมาหาท่านพบปะสนทนาธรรมกับท่าน ท่านก็ยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายปราศรัยกัน ถ้าไม่ติดธุระหรือการงานใด ท่านก็มีเมตตาช่วยเหลือพูดคุยแนะนำ สนทนาธรรม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น นอกจากนั้นแล้วครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้ายังได้นำพิธีกรรมสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ของทางล้านนาที่กำลังจะสูญหายไปมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับพิธีกรรมต่าง ๆ และหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และยังช่วยเหลือสาธุชนทั่วไปโดยเป็นยาใจหรือธรรมะโอสถแก่สาธุชนทั้งหลายให้ตั้งจิตตั้งใจ เป็นคนดี ละความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส เชื่อมั่นในตัวเอง ขยันหมั่นเพียร มีสติ พึ่งตนเอง มีศีลห้า ทำตนให้ เป็นประโยชน์ต่อสังคม ฯลฯ นี่คือหลักในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า อันเป็นการสร้างบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ แม้ว่าครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าจะเกิดชาติสุดท้ายแล้วก็ตาม ก็ขอฝากความดีนี้ไว้ในโลก นำสัตว์ทั้งหลายที่มีบารมีร่วมกันข้ามพ้นโอฆวัฏฏะสงสาร แม้นว่าเขาเหล่านั้นยังไม่หลุดพ้นก็ขอ ให้เขาเหล่านั้นที่มีบารมีกระทำร่วมกับครูบาเจ้า ขอให้มีความสุข ความเจริญ ความรุ่งเรือง ความร่ำรวย เป็นเจ้าคนนายคน มีรถมียาน พาหนะ มีความสะดวกคล่องแคล่วในการงาน การค้าการขาย แคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคภัย ไข้เจ็บ มีอายุมั่นขวัญยืน ความไม่มี ความไม่ได้ ขออย่าให้เกิดกับคนทั้งหลายที่บำเพ็ญบารมีมาร่วมกับครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ขอให้เขาเหล่านั้นพบพระพุทธศาสนาทุกชาติ ทุก ๆ ภพ ด้วยเทอญ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    [​IMG]


    สำหรับสาธุชนที่เคยร่วมสร้างบารมีในอดีตชาติกับครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า และมีความประสงค์จะร่วมสร้างบารมีกับท่านในภพชาติปัจจุบัน ขอเชิญร่วมสร้างถาวรวัตถุและบูรณะเสนาสนะต่าง ๆ ในวัดเกษศรี นี้ให้เสร็จสิ้น สมความประสงค์ของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า เพราะ ณ สถานที่แห่งนี้มีความเกี่ยวเนื่องในอดีตชาติกับท่านเป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้งานที่ยังไม่แล้วเสร็จ อาทิ
    ๑. สร้างซุ้มประตูวัดเกษศรี
    ๒. สร้างศาลาการเปรียญ
    ๓. สร้างกุฏิสงฆ์
    ๔. บูรณะพระอุโบสถ ซึ่งกำลังทรุดโทรมอยู่มาก
    ๕. สร้างพระบรมธาตุเจ้าเกษศรีสิริมงคลภูกามยาว (พระธาตุเจ้าเศรษฐี ๑๐ ทิศ)

    ด้วยอานิสงส์แห่งการบำเพ็ญทานบารมีเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาร่วมกับครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า (วาจาสิทธิ์)

    "ขอให้ท่านทั้งหลายเป็นผู้อย่าได้จน อย่าได้ทุกข์ อย่าได้ไม่สมหวัง จงเป็นคนร่ำรวย รุ่งเรือง เป็น เศรษฐีมหาเศรษฐี มีชื่อเสียง มีหน้าที่การงานที่ดี การเงินการงานมั่นคง เงินทองไหลมาเทมา ความเจ็บ ความไม่มี ความไม่ได้ ความไม่ สมหวังอย่าพึงมีแก่ท่านผู้ร่วมสร้างมหาบารมีอันยิ่งนี้ โรคภัยไข้เจ็บก็ขออย่าได้พานพบ โรคภัยต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ก็ขอให้ทุเลาเบาบางลงไป เคราะห์กรรมต่าง ๆ อย่าได้ใกล้ตัวของท่านผู้สร้างมหาบารมีนี้ และขอให้ท่านที่ร่วมสร้างบารมีอันยิ่งใหญ่กับครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า จงประสบแด่ความสุข ความเจริญ ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ให้เจริญรุ่งเรืองในมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ ทิพยสมบัติ นิพพานสมบัติ บรมสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเทอญ"


    สาธุชนที่ประสงค์จะร่วมสร้างบารมีกับครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า สามารถร่วมบุญโดยโอนปัจจัยผ่านธนาคาร ตามข้อมูลดังนี้

    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพะเยา
    ชื่อบัญชี "สร้างวัดเกษศรี กระทำการแทนโดยพระเจษฏา/นายนรินทร์/นายเชิด
    หมายเลขบัญชี ๗๘๑-๒-๒๐๒๓๑-๑
     
  5. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    ดังนั้นเพื่องานบูรณะเสนาสนะต่าง ๆ ภายในวัดเกษศรี สำเร็จได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ผมกับเพื่อน ๆ จึงอาสาที่จะช่วยประชาสัมพันธ์วัตถุมงคลที่ได้รับการอธิษฐานจิตโดยการเข้านิโรธกรรมของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ในวาระต่าง ๆ (ปัจจุบันท่านอายุ 34 ปี เข้านิโรธรรกรรมมาแล้ว 4 ครั้ง) ให้สาธุชนและญาติธรรมที่สนใจได้ร่วมบุญและสร้างบารมีอันยิ่งใหญ่กับครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าในภพชาตินี้กันครับ

    โดยปัจจัยจากการบูชานั้นให้พี่น้องและญาติธรรมทุกท่านโอนเข้าบัญชีของวัดเกษศรีโดยตรงครับ แล้วรบกวนโพสต์แจ้งในกระทู้หรือโทรแจ้งที่ 0863930749 / 0824570005 เพื่อประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเพื่อให้ดำเนินการจัดส่งวัตถุมงคลให้กับทุกท่านโดยรวดเร็วนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 กรกฎาคม 2009
  6. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    ทั้งนี้วัตถุมงคลที่ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าได้เมตตาอนุญาตให้มอบเป็นที่ระลึกในการสร้างบารมีครั้งนี้นั้น ทุกรายการได้รับการอธิษฐานจิตจากการเข้านิโรธกรรมของท่านในครั้งผ่าน ๆ มา

    โดยการเข้านิโรธกรรมของท่านจะเป็นการบำเพ็ญนิโรธกรรมขั้นอุกกฤษฎ์ ซึ่งเป็นการบำเพ็ญนิโรธกรรมชั้นสูง 9 อย่างตามแบบอย่างครูบาเจ้าศรีวิชัย อันประกอบด้วย

    1. งดฉันอาหารทุกประเภท
    2. งดฉันน้ำทุกชนิด
    3. งดถ่ายหนัก (อุจจาระ)
    4. งดถ่ายเบา (ปัสสาวะ)
    5. งดการนอนหลับ (ทั้งกลางวันและกลางคืน)
    6. งดการลุกจากอาสนะ (ที่นั่ง)
    7. งดการพูดจา (ปิดวาจา)
    8. อยู่ลำพังบนแพลอยน้ำ
    9. ปฏิบัติกรรมฐานและอธิษฐานจิตให้สาธุชนทุกท่านที่ไปขอพรหน้ากุฎิ

    โดยความเชื่อแต่โบราณเชื่อกันว่าผู้ที่ได้ร่วมบุญกับพระภิกษุสงฆ์ที่เข้านิโรธกรรมนั้น จะเสริมส่งบุญบารมี พลิกดวงให้เจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป ทำมาค้าขึ้น เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดจากภยันอันตรายทั้งปวงตลอดไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 กรกฎาคม 2009
  7. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    พระอุปคุตจกบาตร (บูชาขนาดเล็ก) ศิลปะพม่า ตามความเชื่อนั้นอานิสงส์เพื่อความอุดมสมบูรณ์ ไม่อดไม่อยาก เสริมส่งบารมีในการดำเนินชีวิต และยังสามารถป้องกันภยันอันตรายได้ครับ องค์พระมีขนาดหน้าตัก 2 นิ้ว สูง 3.5 นิ้ว

    - ร่วมทำบุญองค์ละ 199 บาท (มี 15 องค์) ** ค่าจัดส่ง EMS 50 บาท **
    - ประสงค์บูชารายการใดแจ้งในกระทู้ หรือ โทร. 086-3930749 / 082-4570005
    - โอนเงินเข้าบัญชีวัดเกษศรี ดังนี้
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพะเยา
    ชื่อบัญชี "สร้างวัดเกษศรี กระทำการแทนโดยพระเจษฏา/นายนรินทร์/นายเชิด
    หมายเลขบัญชี ๗๘๑-๒-๒๐๒๓๑-๑
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0478.jpg
      DSCN0478.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.1 KB
      เปิดดู:
      60
    • DSCN0479.jpg
      DSCN0479.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103 KB
      เปิดดู:
      63
    • DSCN0480.jpg
      DSCN0480.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.8 KB
      เปิดดู:
      69
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 กรกฎาคม 2009
  8. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    พระอุปคุตจกบาตร (บูชาขนาดกลาง) ศิลปะพม่า ตามความเชื่อนั้นอานิสงส์เพื่อความอุดมสมบูรณ์ ไม่อดไม่อยาก เสริมส่งบารมีในการดำเนินชีวิต และยังสามารถป้องกันภยันอันตรายได้ครับ องค์พระมีขนาดหน้าตัก 2.5 นิ้ว สูง 4.5 นิ้ว

    - ร่วมทำบุญองค์ละ 299 บาท (มี 10 องค์) ** ค่าจัดส่ง EMS 50 บาท **
    - ประสงค์บูชารายการใดแจ้งในกระทู้ หรือ โทร. 086-3930749 / 082-4570005
    - โอนเงินเข้าบัญชีวัดเกษศรี ดังนี้
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพะเยา
    ชื่อบัญชี "สร้างวัดเกษศรี กระทำการแทนโดยพระเจษฏา/นายนรินทร์/นายเชิด
    หมายเลขบัญชี ๗๘๑-๒-๒๐๒๓๑-๑ <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0481.jpg
      DSCN0481.jpg
      ขนาดไฟล์:
      148.6 KB
      เปิดดู:
      67
    • DSCN0482.jpg
      DSCN0482.jpg
      ขนาดไฟล์:
      136.3 KB
      เปิดดู:
      76
    • DSCN0483.jpg
      DSCN0483.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.5 KB
      เปิดดู:
      71
  9. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    พระอุปคุตจกบาตร (บูชาขนาดใหญ่) ศิลปะพม่า ตามความเชื่อนั้นอานิสงส์เพื่อความอุดมสมบูรณ์ ไม่อดไม่อยาก เสริมส่งบารมีในการดำเนินชีวิต และยังสามารถป้องกันภยันอันตรายได้ครับ องค์พระมีขนาดหน้าตัก 4 นิ้ว สูง 6.5 นิ้ว

    - ร่วมทำบุญองค์ละ 499 บาท (มี 8 องค์) ** ค่าจัดส่ง EMS 80 บาท **
    - ประสงค์บูชารายการใดแจ้งในกระทู้ หรือ โทร. 086-3930749 / 082-4570005
    - โอนเงินเข้าบัญชีวัดเกษศรี ดังนี้
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพะเยา
    ชื่อบัญชี "สร้างวัดเกษศรี กระทำการแทนโดยพระเจษฏา/นายนรินทร์/นายเชิด
    หมายเลขบัญชี ๗๘๑-๒-๒๐๒๓๑-๑ <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0484.jpg
      DSCN0484.jpg
      ขนาดไฟล์:
      172.7 KB
      เปิดดู:
      70
    • DSCN0485.jpg
      DSCN0485.jpg
      ขนาดไฟล์:
      157.7 KB
      เปิดดู:
      72
    • DSCN0486.jpg
      DSCN0486.jpg
      ขนาดไฟล์:
      119.6 KB
      เปิดดู:
      92
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กรกฎาคม 2009
  10. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    ประคำคอ 108 แกะจากเนื้อไม้มงคลหลายชนิด บางเส้นก็ไม้คูณ บางเส้นก็ไม้ขนุน ประคำชุดนี้ก็สร้างประสบการณ์ให้กับศิษย์คนพื้นที่มาแล้วคือรถประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนต้องขายซากรถ แต่เจ้าตัวรอดได้อย่างปาฏิหารย์พร้อมประคำคอ 108 โด่งดังไปทั่วอำเภอภูกามยาวครับ

    - ร่วมทำบุญเส้นละ 99 บาท (มี 50 เส้น) ** ค่าจัดส่ง EMS 50 บาท **
    - ประสงค์บูชารายการใดแจ้งในกระทู้ หรือ โทร. 086-3930749 / 082-4570005
    - โอนเงินเข้าบัญชีวัดเกษศรี ดังนี้
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพะเยา
    ชื่อบัญชี "สร้างวัดเกษศรี กระทำการแทนโดยพระเจษฏา/นายนรินทร์/นายเชิด
    หมายเลขบัญชี ๗๘๑-๒-๒๐๒๓๑-๑ <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0487.jpg
      DSCN0487.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.3 KB
      เปิดดู:
      99
  11. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    พญานาคคาบแก้ว ถือว่าเป็นวัตถุมงคลเนื้อผงรุ่นแรกของครูบาท่าน ขนาด 2.5 x 3 ซม. มวลสารหลักที่ขอกล่าว ณ ที่นี้ก็มี เกศาครูบาเจ้าดวงดี จ.เชียงใหม่ ครูบาเจ้าบุญชุ่ม จ.เชียงราย หลวงปู่ขาว จ.สกลนคร และผงวิเศษที่ครูบาอาจารย์หลายรูปได้มอบให้อาทิ ครูบาเจ้าเกษม จ.ลำปาง วัตถุมงคลชุดนี้ท่านบอกว่าเอาไปใช้แล้วคล่องแคล่วและไหลลื่นดังพญานาค ไม่อดไม่อยาก คิดสิ่งใดก็สมปรารถนาดังดวงแก้ว ด้านหลังจะเป็นตาลปัตรพลิกดวง ซึ่งมีอานุภาพ "กลับร้ายเป็นดี หากดีก็จะดียิ่งขึ้น" มีศิษย์สายอีสานเคยอธิษฐานขอโชคก็สำเร็จเช่นกันครับ

    - ร่วมทำบุญองค์ละ 299 บาท (มี 50 องค์) ** ค่าจัดส่ง EMS 50 บาท **
    - ประสงค์บูชารายการใดแจ้งในกระทู้ หรือ โทร. 086-3930749 / 082-4570005
    - โอนเงินเข้าบัญชีวัดเกษศรี ดังนี้
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพะเยา
    ชื่อบัญชี "สร้างวัดเกษศรี กระทำการแทนโดยพระเจษฏา/นายนรินทร์/นายเชิด
    หมายเลขบัญชี ๗๘๑-๒-๒๐๒๓๑-๑ <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0491.jpg
      DSCN0491.jpg
      ขนาดไฟล์:
      171.4 KB
      เปิดดู:
      85
    • DSCN0492.jpg
      DSCN0492.jpg
      ขนาดไฟล์:
      169.3 KB
      เปิดดู:
      100
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กรกฎาคม 2009
  12. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    ฝ้ายผูกข้อมือ สมัยแรก ๆ ที่ครูบาท่านรับนิมนต์มาบูรณะวัดเกษศรี คนพื้นที่ก็รู้ว่าท่านไม่ธรรมดาตั้งแต่เป็นเณรจึงอยากขอ "ของดี" ไว้ติดตัวกัน ท่านจึงดำริให้เอาฝ้ายผูกข้อมือมาให้ท่านอธิษฐานตอนเข้านิโรธกรรมเมื่อปลายปีที่แล้ว ปรากฎว่าแจกไปไม่นานก็มีเด็กหนุ่มคนบ้านร้องขับรถมอเตอร์ไซต์โดนชนตูม ตกไหล่ทางไม่ตายแต่รถบู้บี้ ทั้งตัวก็มีแต่ฝ้ายผูกข้อมือล่ะครับ ตัวฝ้ายผูกข้อมือยาว 9 นิ้วมี 3 แบบให้เลือกครับ

    - ร่วมทำบุญเส้นละ 19 บาท (มีแบบละ 50 เส้น) ** ค่าจัดส่ง EMS 50 บาท **
    - ประสงค์บูชารายการใดแจ้งในกระทู้ หรือ โทร. 086-3930749 / 082-4570005
    - โอนเงินเข้าบัญชีวัดเกษศรี ดังนี้
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพะเยา
    ชื่อบัญชี "สร้างวัดเกษศรี กระทำการแทนโดยพระเจษฏา/นายนรินทร์/นายเชิด
    หมายเลขบัญชี ๗๘๑-๒-๒๐๒๓๑-๑ <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0488.jpg
      DSCN0488.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.4 KB
      เปิดดู:
      73
    • DSCN0489.jpg
      DSCN0489.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116 KB
      เปิดดู:
      113
    • DSCN0490.jpg
      DSCN0490.jpg
      ขนาดไฟล์:
      143.9 KB
      เปิดดู:
      103
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กรกฎาคม 2009
  13. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้องและญาติธรรมที่แวะมาเยี่ยมกระทู้กันทุกท่านครับ

    ท่านใดประสงค์ที่จะร่วมบุญสร้างบารมีครั้งยิ่งใหญ่ในคราวนี้ก็เชิญได้เลยนะครับ..
     
  14. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อยู่พระเยามาบ่อฮู่เต่าใด...กะลังมาฮู้จักครูบาบ่าเดี่ยวเนี้ย....
     
  15. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    สวัสดีครับพี่ Phanudet ทุกอย่างล้วนแต่มีเหตุและปัจจัยครับ

    มีญาติธรรมแจ้งมาหลังไมค์ว่าประวัติและประสบการณ์ในองค์ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้านั้น ได้มีการเผยแพร่ลงในหนังสือ

    ตนบุญพระโพธิสัตว์ผู้ปรารถนา..พุทธภูมิ
    อ่าน..ก่อนจะเสียดายที่ไม่ได้อ่าน 8

    เรียบเรียงโดย ภันธกานต์ กิ้มทอง (โจ)
    หน้า 204-293

    ** หนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังสือขายดีทั้งในร้าน 7-11 และในร้านซีเอ็ดครับ ปัจจุบันไม่แน่ใจว่าพิมพ์ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0005.jpg
      DSCN0005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      160.9 KB
      เปิดดู:
      143
  16. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ครับผมโมทนาสาธุครับ....มีโอกาศจะได้เข้าไปกราบท่าน....เพื่อจะได้ร่วมบุญกับท่านโดยตรง....
     
  17. tanach

    tanach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,181
    อนุโมทนาครับ ขอร่วมบุญตามรายการนี้ครับ 200 บาท เมื่อโอนเงินแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ
     
  18. Minee

    Minee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2005
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +140
    ขอร่วมทำบุญ
    พระอุปคุตจกบาตร ขนาดละ 1 องค์
    ประคำคอ 108 จำนวน 2 เส้น
    ฝ้ายผูกข้อมือ 3 แบบ แบบละ 5 เส้น

    ขออนุโมทนาค่ะ
     
  19. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    เรียนพี่ tanach

    สอบถามเพิ่มครับว่าปัจจัย 200 บาทที่ร่วมบุญมาเส้น ประสงค์บูชาประคำคอกี่เส้นครับ หากเป็นสองเส้นผมขอรบกวนช่วยค่าจัดส่ง 50 บาทด้วยนะครับ

    รบกวนพี่ยืนยันและแจ้งให้ทราบด้วยครับ
    -----------------------------------------------

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ Suppakan ด้วยครับ
     
  20. tanach

    tanach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,181
    2 เส้นครับ เดี๋ยวโอนให้ 250 บาทครับ (ขอโทษที่ลืมแจ้งรายละเอียดนะครับ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...