ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

เห็นชู2นิ้ว
สงสัยใบ้หวยแน่ๆเลย
ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

HAPPY BIRTHDAY คุณลักษณ์ และ คุณใหม่ค่ะ

ขอให้มีความสุข + สมหวัง + เจริญในธรรมยิ่งขึ้นไปนะคะ..

 

เรื่องของพ่อหลวงที่เราไม่เคยรู้

ได้รับมาจากอีเมล์ค๊าบ
ขอบคุณผู้ส่งมากๆค๊าบ
เรื่องของในหลวงที่เรา(อาจ)ไม่<wbr>เคยรู้

1. ทรงพระราชสมภพเวลา 08.45 น.
2. นายแพทย์ผู้ทำคลอดชื่อ ดับลิว สจ๊วต วิตมอร์ ทรงมีน้ำหนักแรกประสูติ 6 ปอนด์
3. พระนาม ' ภูมิพล ' ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็<wbr>จพระปกเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7


4. พระยศเมื่อแรกประสูติ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภูมิพลอดุลยเดช


5. ทรงมีชื่อเล่น ว่า เล็ก หรือ พระองค์เล็ก
6. ทรงเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรี<wbr>ยนมาแตร์เดอี เพราะช่วงพระชนมายุ 5 พรรษา ทรงเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่<wbr>งนี้ 1 ปี มีพระนามในใบลงทะเบียนว่า 'H.H Bhummibol Mahidol' หมายเลขประจำตัว 449


7. ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนีหรือ สมเด็จย่า อย่างธรรมดาว่า ' แม่ '
8. สมัยทรงพระเยาว์ ทรงได้ค่าขนม อาทิตย์ละครั้ง
9. แม้จะได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์ แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้<wbr>ไปขาย เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็<wbr>ดผักมาปลูกเพิ่ม
10. สมัยพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์<wbr>หลายชนิดทั้งสุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง ครั้งหนึ่งงูตายไปก็มีพิธีฝั<wbr>งศพอย่างใหญ่โต



11. สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมั<wbr>ยทรงพระเยาว์เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า ' บ๊อบบี้ '

12. ทรงฉลองพระเนตร(แว่นสายตา)ตั้<wbr>งแต่พระชันษายังไม่เต็ม 10 ขวบ เพราะครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่<wbr>าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำพระ<wbr>องค์ต้องลุกขึ้นบ่อยๆ



13. สมัยพระเยาว์ทรงซนบ้าง ?ากสมเด็จย่าจะลงโทษ จะเจรจากันก่อนว่า โทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะทรงต่อรองว่า 3 ที มากเกินไป 2 ทีพอแล้ว
14. ระหว่างประทับอยู่ สวิตเซอร์แลนด์นั้นระหว่างพี่น้<wbr>องจะทรงใช้ภาษาฝรั่งเศส แต่จะใช้ภาษาไทยกับสมเด็จย่<wbr>าเสมอ
15. ทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก ' การให้ ' โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋<wbr>องออมสินเรียกว่า ' กระป๋องคนจน ' เอาไว้ หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมี<wbr>กำไร จะต้องถูก ' เก็บภาษี ' หยอดใส่กระปุกนี้ 10% ทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรี<wbr>ยกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงิ<wbr>นในกระป๋องนี้ไปทำอะไร เช่น มอบให้โรงเรียนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน
16. ครั้งหนึ่ง ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่<wbr>าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆ เขามีจักรยานกัน สมเด็จย่าก็ตอบว่า ' ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญ ได้มาก ค่อยเอาไปซื้อจักรยาน '



17. กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของในหลวง คือ Coconet Midget ทรงซื้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์ เมื่อพระชนม์เพียง 8 พรรษา
18. ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรี<wbr>ยนแทนรถพระที่นั่ง
19. พระอัจฉริยภาพของในหลวง มีพื้นฐานมาจาก ' การเล่น ' สมัยทรงพระเยาว์ เพราะหากอยากได้ของเล่นอะไรต้<wbr>องทรง เก็บสตางค์ซื้อเอง หรือ ประดิษฐ์เอง ทรงเคยหุ้นค่าขนมกับพระเชษฐา ซื้อชิ้นส่วนวิทยุทีละชิ้นๆ แล้วเอามาประกอบเองเป็นวิทยุ แล้วแบ่งกันฟัง
20. สมเด็จย่าทรงสอนให้ในหลวงรู้จั<wbr>กการใช้แผนที่และภูมิ<wbr>ประเทศของไทย โดยโปรดเกล้าฯให้โรงเรียนเพาะช่<wbr>างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตั<wbr>วต่อ เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็<wbr>กๆเพื่อให้ทรงเล่นเป็นจิ๊กซอว์


21. ในหลวงทรงเครื่องดนตรีได้<wbr>หลายชนิด เช่น เปียโน กีตาร์ แซกโซโฟน แต่รู้หรือไม่ว่าเครื่องดนตรีชิ<wbr>้นแรกที่ทรงหัดเล่นคือ หีบเพลง (แอกคอร์เดียน)
22. ทรงสนพระทัยดนตรีอย่างจริงจั<wbr>งราวพระชนม์ 14-15 พรรษา ทรงซื้อแซกโซโฟนมือสองราคา 300 ฟรังก์มาหัดเล่น โดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่<wbr>งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่<wbr>าออกให้
23. ครูสอนดนตรีให้ในหลวง ชื่อ เวย์เบรชท์ เป็นชาว อัลซาส
24. ทรงพระราชนิพนธ์พลงครั้งแรก เมื่อพระชนมพรรษา 18 พรรษา เพลงพระราชนิพนธ์แรกคือ ' แสงเทียน ' จนถึงปัจจุบันพระราชนิพนธ์<wbr>เพลงไว้ทั้งหมด 48 เพลง
25. ทรงพระราชนิพนธ์เพลงได้ทุกแห่ง บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่<wbr>องดนตรีช่วย อย่างครั้งหนึ่งทรงเกิดแรงบั<wbr>นดาลพระทัย ทรงฉวยซองจดหมายตีเส้น 5 เส้นแล้วเขียนโน้ตทำนองเพลงขึ้<wbr>นเดี๋ยวนั้น กลายเป็นเพลง ' เราสู้ '
26. รู้ไหม... ? ทรงมีพระอุปนิสัยสนใจการถ่<wbr>ายภาพเหมือนใคร : เหมือนสมเด็จย่า และ รัชกาลที่ 5

27. นอกจากทรงโปรดการถ่ายภาพแล้ว ยังสนพระทัยการถ่ายภาพยนตร์ด้วย ทรงเคยนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์<wbr>ออกฉายแล้วนำเงินรายได้มาสร้<wbr>างอาคารสภากาชาดไทย ที่ รพ.จุฬาฯ โรงพยาบาลภูมิพล รวมทั้งใช้ในโครงการโรคโ ปลิโอและโรคเรื้อนด้วย
28. ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง ' นายอินทร์ ' และ ' ติโต ' ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์ แล้วให้เสมียนพิมพ์ แต่ ' พระมหาชนก ' ทรงพิมพ์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์

29. ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษได้<wbr>แก่ แบดมินตัน สกี และ เรือใบ ทรงเคยได้เหรียญทองจากการแข่งขั<wbr>นเรือใบประเภทโอเค ในกีฬาแหลมทอง(ต่อมาเปลี่ยนชื่<wbr>อเป็น ' กีฬาซีเกมส์ ') ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ. 2510

30. ครั้งหนึ่ง ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่<wbr>นานก็ทรงแล่นกลับฝั่ง และตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า เสด็จฯกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่<wbr>นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่<wbr>าฟาวส์ ทั้งๆที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้เห็นว่าทรงยึดกติ<wbr>กามากแค่ไหน
31. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์<wbr>แรกของโลกที่ได้รับสิทธิบั<wbr>ตรผลงานประดิษฐ ์คิดค้นเครื่องกลเติมอากาศที่ผิ<wbr>วน้ำหมุนช้าแบบทุ่มลอย หรือ ' กังหันชัยพัฒนา ' เมื่อปี 2536

33. ทรงเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเชื้<wbr>อเพลิงน้ำมันจากวัสดุ<wbr>การเกษตรเพื่อใช้เป็นพลั<wbr>งงานทดแทน เช่น แก๊สโซฮอล์ , ดีโซฮอลล์ และ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว
34. องค์การสหประชาชาติ ได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุ<wbr>ดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ในหลวงเมื่อ วันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เพื่อสดุดีพระเกียรติคุ<wbr>ณพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาชี<wbr>วิตความเป็นอยู่<wbr>ของประชาชนชาวไทย โดยมี นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางมาถวายรางวัลด้วยตนเอง

35. พระนามเต็มของในหลวง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรา มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
36. รักแรกพบ ของในหลวงและหม่อมสิริกิติ์เกิ<wbr>ดขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด์ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯทรงให้สั<wbr>มภาษณ์ว่า ' น่าจะเป็น เกลียดแรกพบ มากกว่ารักแรกพบ เนื่องเพราะรับสั่งว่าจะเสด็จถึ<wbr>งเวลาบ่าย 4 โมง แต่จริงๆแล้วเสด็จมาถึงหนึ่งทุ่<wbr>ม ช้ากว่าเวลานัดหมายตั้งสามชั่<wbr>วโมง

37. ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริ กิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492 และจัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ที่วังสระปทุม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 โดยทรงจดทะเบียนสมรสเหมือนคนทั่<wbr>วไป ข้อความในสมุดทะเบียนก็เหมื<wbr>อนคนทั่วไปทุกอย่าง ปิดอากรแสตมป์ 10 สตางค์ เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท

37. หลังอภิเษกสมรส ทรง ' ฮันนีมูน ' ที่หัวหิน

38. ทรงผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2499 และประทับจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน
39. ระหว่างทรงผนวช พระอุปัชฌาย์และพระพี่เลี้ยง คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
40. ของใช้ส่วนพระองค์นั้นไม่จำเป็<wbr>นต้องแพงหรือต้องแบรนด์เนม ดังนั้นการถวายของให้ในหลวงจึ<wbr>งไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแพง อะไรที่มาจากน้ำใจจะทรงใช้ทั้<wbr>งนั้น
41. เครื่องประดับ : ในหลวงไม่ทรงโปรดสวมเครื่<wbr>องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่างๆ ยกเว้น นาฬิกา
42. พระเกศาที่ทรงตัดแล้ว : ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ธงชัยเฉลิ<wbr>มพลเพื่อมอบแก่ทหาร อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้สร้างวัตถุ<wbr>มงคล เพื่อมอบแก่ราษฎรที่ทำคุ<wbr>ณงามความดีแก่ประเทศชาติ
43. หลอดยาสีพระทนต์ ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่<wbr>นกระดาษ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอด ยังปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึ<wbr>งเกลียวคอหลอด ซึ่งเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสี<wbr>พระทนต์ช่วยรีด และ กดเป็นรอยบุ๋ม

44. วัน ที่ในหลวงเสียใจที่สุด คือวันที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรคต มีหนังสือเล่าไว้ว่า วันนั้นในหลวงไปเฝ้า แม่ถึงตีสี่ตีห้า พอแม่หลับจึงเสด็จฯกลับ เมื่อถึงวัง ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาแจ้งว่<wbr>า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์แล้ว ในหลวงรีบกลับไปที่โรงพยาบาล เห็นแม่นอนหลับตาอยุ่บนเตียง ในหลวงคุกเข่าเข้าไปกราบที่<wbr>อกแม่ ซบหน้านิ่งอยู่นาน ค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้นมาน้<wbr>ำพระเนตรไหลนอง
<img width="272" height="325">
45. โครงการอันเนื่<wbr>องมาจากพระราชดำริ จนถึงปัจจุบนมีจำนวนกว่า 3,000 โครงการ
46. ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่<wbr>างๆจะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์<wbr>อยู่ 3 สิ่ง คือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง(ตัดต่<wbr>อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอที่มียางลบ

47. ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุ<wbr>กอย่างแม้กระทั่งการโรเนี<wbr>ยวกระดาษที่จะนำมาให้ข้<wbr>าราชการที่เข้าเฝ้าฯถวายงาน
48. เก็บร่ม : ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จฯเยี<wbr>่ยมโครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่<wbr>งมาถึง ปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ข้าราชการและราษฎรที่เข้<wbr>าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคน เมื่อทรงเห็นดังนั้น จึงมีรับสั่งให้องครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงเยี่ยมข้<wbr>าราชการและราษฎรท่ามกลางสายฝน
49. ทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิ<wbr>ทยานำขึ้นทูลเกล้าฯ ร่วมกับข้อมูลจากต่างประเทศที่<wbr>หามาเอง เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่<wbr>อาจก่อความเสียหายแก่ประชาชน
50. โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์<wbr>จำนวน 32,866.73 บาท ซึ่งได้จากการขายหนังสือดนตรีที<wbr>่พระเจนดุริยางค์ จากการขายนมวัว ก็ค่อยๆเติบโตเป็นโครงการพั<wbr>ฒนามาจนเป็นอย่างที่เราเห็นกั<wbr>นทุกวันนี้

51. เวลามีพระราชอาคันตุกะเสด็<wbr>จมาเยี่ยมชมโครงการฯสวนจิตรลดา ในหลวงจะเสด็จฯลงมาอธิบายด้<wbr>วยพระองค์เอง เนื่องจากทรงรู้ทุกรายละเอียด
52. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า ' ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลื<wbr>อเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ
53. ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลั<wbr>งจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลั<wbr>งในอีก 5 ชั่วโมง ( 20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริ<wbr>พารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดิ<wbr>นสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน
54. อาหารทรงโปรด : โปรดผัดผักทุกชนิด เช่น ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก ผัดถั่วลันเตา
55. ผักที่ไม่โปรด : ผักชี ต้นหอม และตังฉ่าย
56. ทรงเสวย ข้าวกล้อง เป็นพระกระยาหารหลัก
57. ไม่เสวยปลานิล เพราะทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิ<wbr>ลคนแรกในประเทศไทย โดยใช้สระว่ายน้ำในพระตำหนั<wbr>กสวนจิตรลดาเป็นบ่อเลี้ยง แล้วแจกจ่ายพันธุ์ไปให้กรมประมง
58. เครื่องดื่มทรงโปรด : โปรดโอวัลตินเป็นพิเศษ เคยเสวยวันหนึ่งหลายครั้ง
59. ทีวีช่องโปรด ทรงโปรดข่าวช่องฝรั่งเศส ของยูบีซี เพื่อทรงรับฟังข่าวสารจากทั่<wbr>วโลก

60. ทรงฟัง จส. 100 และเคยโทรศัพท์<wbr>ไปรายงานสถานการณ์ต่างๆใน กทม.ไปที ่ จส. 100 ด้วย โดยใช้พระนามแฝง
61. หนังสือที่ในหลวงอ่าน : ตอนเช้าตื่นบรรทม ในหลวงจะเปิดดูหนังสือพิมพ์<wbr>รายวันทั้งไทยและเทศ ทุกฉบับ และก่อนเข้านอนจะทรงอ่านนิ<wbr>ตยสารไทม์ส นิวสวีก เอเชียวีก ฯลฯ ที่มีข่าวทั่วทุกมุมโลก
62. ร้านตัดเสื้อของในหลวง คือ ร้านยูไลย เจ้าของชื่อ ยูไลย ลาภประเสริฐ ถวายงานตัดเสื้อในหลวงมาตั้งแต่<wbr>ปี 2501 เมื่อนายยูไลยเสียชีวิต ก็มี ลูกชาย นายสมภพ ลาภประเสริฐ มาถวายงานต่อ จนถึงตอนนี้ก็เกือบ 50 ปีแล้ว
63. ห้องทรงงานของในหลวง อยู่ใก ล้ห้องบรรทม บนชั้น 8 ของตำหนักจิตรลดาฯเป็นห้องเล็กๆ ขนาด 3x4 เมตร ภายในห้องมีวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องพยากรณ์ แผนที่ ฯลฯ

64. สุนัขทรงเลี้ยง นอกจากคุณทองแดง สุวรรณชาด สุนัขประจำรัชกาล ที่ปัจจุบันอยู่ที่พระราชวั<wbr>งไกลกังวล แล้ว ยังมีสุนัขทรงเลี้ยงอีก 33 ตัว
65. ในหลวง เกิดจากคำที่ชาวเหนือใช้เรี<wbr>ยกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ' นายหลวง ' ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็น ในหลวง
66. ทรงเชี่ยวชาญถึง 6 ภาษา คือ ไทย ละติน ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และ สเปน
67. อาชีพของในหลวง เมื่อผู้แทนพระองค์ไปติดต่<wbr>อเอกสารสำคัญใดๆทรงโปรดให้<wbr>กรอกในช่อง อาชีพ ของพระองค์ว่า ' ทำราชการ '
68. ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที<wbr>่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่<wbr>างแรง ทำให้เศษกระจกเข้าพระเนตรข้<wbr>างขวา ตอนนั้นมีอายุเพียง 20 พรรษา และทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้<wbr>างเดียว ในการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุ<wbr>ขประชาชนชาวไทยมาตลอดกว่า 60 ปี

69. ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์อเมริกั<wbr>นลงข่าวลือเกี่ยวกับในหลวงว่า แซกโซโฟนที่ทรงอยู่เป็นประจำนั้<wbr>นเป็นแซกโซโฟนที่ทำด้วยทองคำเนื<wbr>้อแท้บริสุทธิ์ ซึ่งได้มีพระราชดำรัสว่า ' อันนี้ไม่จริงเลย สมมติว่าจริงก็จะหนักมาก ยกไม่ไหวหรอก '
70. ปีหนึ่งๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง ใช้เดือนละแท่ง จนกระทั่งกุด
71. หัวใจทรงเต้นไม่ปรกติ ในหลวงเคยประชวรหนักจนหัวใจเต้<wbr>นไม่ปกติ เนื่องจากติดเชื้อไมโครพลาสม่า ขณะขึ้นเยี่ยมราษฎรที่<wbr>อำเภอสะเมิงติดต่อกันหลายปี
72. รู้หรือไม่ว่า ในหลวงเป็นคนประดิษฐ์รู<wbr>ปแบบฟอนต์ภาษาในคอมพิวเตอร์ที่<wbr>ใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่าง ฟอนต์จิตรลดา ฟอนต์ภูพิงค์
73. ในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ<wbr>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติ<wbr>ครบ 60 ปี จัดขึ้นที่อิมแพ็ค มีประชาชนเข้าชมรวม 6 ล้านคน
74. ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบั<wbr>ตรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2493 จน 29 ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่าเสด็<wbr>จพระราชทานปริญญาบัตร 490 ครั้ง ประทับครั้งละ 3 ชม. ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน 470,000 ครั้ง น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3 ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน

75. ดอกไม้ประจำพระองค์ คือ ดอกดาวเรือง
76. สีประจำพระองค์คือ สีเหลือง

77. นั่งรถหารสอง : ทรงรับสั่งกับข้าราชบริ<wbr>พารเสมอว่า การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้<wbr>นเปลือง จึงให้นั่งรวมกัน ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด








อ่านจบแล้วกรุณาส่งต่อด้วยนะคะ เพื่อชาวไทยจะได้สำนึกรั<wbr>กในหลวงของเรามากๆ
ขอบคุณครับ
<wbr> <wbr> <wbr>

 

ขอบพระคุณคะคุณป้าดีดี และคำอวยพรที่มอบให้ลักษ์จากทุกๆท่านนะคะ
ลักษ์ไม่รบกวนคุณป้าดีดีไปเลี้ยงที่ใดเหรอคะ เอาเป็นว่าคุณป้าดีดีเอาธรรมมาฝากก็เป็นการเลี้ยงสุขสันต์วันเกิดลักษ์แล้วคะ

 

ก่อนนอนคืนนี้
ขอฝากเพลงเพราะๆให้พี่น้อง
ที่เฝ้าเรือนอยู่ัฟังนะคะ
และขอให้ทุกท่านหลับฝันดีค่ะ

 

แล้วตกลงพี่ศศิริยะ อยู่ที่ไหน แล้วครับ ญาติๆ ในนี้เค้าคิดถึงคร้าบบบบบบ
ไม่เห็นเข้ามาพูดคุยเลย ไม่มีพี่ศศิ เหงาแย่เลยครับ คิดถึงครับ คิดถึง เข้ามาอัพเดท ข้อมูลจากน้องบ้าง
พวกผมจะเฉาตายอยู่แล้วครับ ........อ๋อ พี่ศศิ แอบไปปฏิบัติธรรมก็ไม่บอก คิดถึงค้าบบบบ

 

คุณอ้างว้าง..
ยังไม่นอนหรือค่ะ
หนูน้อยน่ารักหลับเรียบร้อยแล้วใช่ไหมเ่อ่ย
พี่ดีดีฟังเพลงนี้แล้วอดคิดถึงไม่ได้
เสียงเด็กร้องเพลงไพเราะจริงๆ ลองฟังดูนะคะ

 

ยังเลยครับพี่ดีดี..

ส่ง MMS ไปให้นะครับผม..ฮะฮะ..ไม่รู้จะดูได้หรือเปล่าหนอ..

เดียวผมหาวิธีแปลงไฟล์ก่อนนะครับ...

ขอบคุณนะครับสำหรับเสียงเพลง...

 

ddalways, kim9

วันนี้อยู่ดึกจังเลยนะครับ...ดีใจจังมีคนเฝ้าเรือนเป็นเพื่อน...
รักษาสุขภาพด้วยนะครับ...มีนมอุ่น ๆ รองท้อง..ให้ในยามดึกครับผม..(พิเศษโกโก้ร้อน ของพี่ดีดี)

 

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับ hot chocolate
ของโปรดด้วยนะคะเนี่ย :>

ได้รับภาพ MMS แล้วค่ะ ดีใจจังที่เห็นภาพอย่างนี้
ไร้เดียงสาน่ารักมากค่ะ หากมีโอกาสแปลงไฟล์การแสดง
ของน้องหนูมาให้พี่ดีดีใหม่นะคะ ชอบดูเด็กๆ แสดงออกค่ะ
ดูแล้วมีความสุขค่ะ

พี่ดีดีค่ะ

 

เพลงเพราะจังเลยครับ พี่ ดีดี แสนดี

ขอบคุณครับ

 

สาธุ ขออนุโมทนากับบทความดี ๆ ของป๋าเม้งด้วยครับ

 

สวัสดีตอนเช้าพี่ศศิและคุณน้องอภิญญา แลพี่น้องในเรือนทุกท่าน.....ไม่ทราบว่าที่เรือนนี้มีใครหลบหลีก หลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่.....มีรูปมาฝากคะ...ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 

สุขสันต์วันเกิดค่ะ น้องปีใหม่ และน้องลักษณ์
ขอให้มีความสุข แข็งแรง ปลอดภัย ร่ำรวย
มีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมนะคะ

 

ขอบคุณน้องวัช...ที่นำภาพมาให้ชมครับ..ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

ขออนุญาตนำไปให้เพื่อนผองน้องพี่ในที่ทำงานได้ชมนะครับ..

ขอบคุณมากครับ..ดีใจจัง

 

.......มีความสุขจัง...ทำให้คนอื่นมีความรู้สึกแบบนี้ ได้...

 

ขอขอบคุณทุกคำอวยพรของ พี่ๆ น้องๆ พ้องเพื่อน (ไม่มีป้าๆ..อิอิ) ในเรือนแห่งนี้ (ซาบซึ้งมากมายเจ้าค่ะ..) และขอคำอวยพรนั้น จงสำเร็จแด่ทุกๆ ท่านในเรือนแห่งนี้ด้วยเทอญ...

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาเวปบ่อยเหมือนแต่ก่อนเนื่องจากติดภารกิจหลายอย่าง..แต่ยังพยายามเข้ามาอ่านให้สม่ำเสมอ คิดถึงทุกๆ ท่านนะคะ

สุขสันต์วันพระนะคะ.. มีใครกินมังสวิรัสทุกวันพระเหมือนหนูใหม่ไหมค่ะ

 

เราเป็นได้ทั้งเทียนไข...และ ไม้ขีดไฟ....ซึ่งต่างก็ให้แสงสว่าง (ยังจำกันได้ไหมเอ่ย.. )

ทั้งจุด ทั้งต่อ...ทั้งให้..ทั้งรับ...ให้มันสว่างไสว..ทั้งภายในและภายนอก
.
.
เมื่อกี้เพื่อนที่ทำงานก็เดินมาบอก...ขอบคุณนะ..ดีใจจัง เหมือนกัน..ฮะฮะ..

..ผมก็เลยยิ้มแบบมีความสุขจังเช่นกัน..

 

บอกข่าว หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร ได้ละสังขารเมื่อเวลา 16.18 น วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ณ วัดประชาชุมพลพัฒนาราม ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี

2500 โลกาสิไหวหวั่น...ตกมาปีนี้เหล่าพระอริยะเจ้าพากัน
เข้าสู่ปาทิเสสนิพพาน โอ้เราชาวพุทธ สลดใจยิ่งนัก ตามประสาปุถุชน
ขอกราบนมัสการหลวงปู่ด้วยเศียรเกล้า กราบระลึกถึงคุณงาม
ความดีของหลวงปู่ พระเถระอีกรูปสิ้นลงไป เหลือแต่เรา ๆ
ท่าน ๆ ที่ต้องหนีภัยวัฏฏะสงสาร โดยการเร่งความเพียร เพื่อ
ให้ใจพ้นทุกข์ ไม่มีทางอื่นใดอีกแล้ว....
เตรียมตัวกันหรือยังครับ...ชาวพุทธ
เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า...คงอีกไม่ไกล

 

วันนี้วันพระ