ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sasiriya, 22 พฤษภาคม 2008.

  1. narayana2514

    narayana2514 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +90
    มาแล้ว มาแล้ว คุณศศิ ดีจริง ดีจริง
     
  2. narayana2514

    narayana2514 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +90
    มาแล้ว มาแล้ว คุณศศิ ดีจริง ดีจริง
     
  3. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751

    โหล ๆๆๆๆ หกโหลไม่พอ จะเอากี่โหลดีเอ่ย
    สวัสดีค่ะสมาชิกเรือนพญานาคทุกท่าน
    ขอบพระคุณในความห่วงใย
    ทุกเมลล์ที่ถามหา และทุกเสียงข้อความ sms ที่ส่งมา
    สวัสดีคุณอ้างว้างที่ส่งสัญญาณตามหา
    ได้รับแล้วค่ะทุกข้อความ เลยต้องรีบมาเซย์เฮลโลก่อน
    ก็ไม่ได้หายไปไหน ยุ่ง ๆ กับภาระกิจส่วนตัวนิดหน่อย
    แล้วก็ต้องไปเจริญสมาธิที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณสามเศียรทุกวัน
    ช่วงเวลาที่ผ่านมาตามบัญชาจากท่านช้างเอราวัณ
    เวลาเลยรันกันไม่ทัน ไม่มีเวลามานั่งพิมพ์ต๊อกแต๊กอยู่ตรงนี้
    แต่ก็ได้เรื่องราวจากท่านมาเล่าสู่กันฟัง
    คงจะคุ้มกับการหายไปหลายวันทั้งศิทั้งน้อง
    เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะคะ
    แต่ อย่าอ่านแค่อรรถรสความเพลิดเพลินนะคะ
    บอกแล้วว่าทุกข้อความเขียนของศศิริยะท่านอ่านแล้วต้องแปลความ
    ที่สอดแทรกอยู่เองนะคะว่าได้อะไร หากอ่านผ่าน ๆ คุณจะไม่ได้รับความรู้อะไรเลย

    ปล. คุณเม้งคะ วันหลังเขียนภาษาไทยก็ได้นะคะ
    ภาษาสมัยพ่อขุนเม็งรายเก็บไว้ก่อนนะ นะ 55555





    หนังสือ ปาฏิหาริย์..แรงบุญ..แรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    พิมพ์ครั้งที่ 4 วางจำหน่ายแล้วที่ ร้านนายอินทร์ทุกสาขา และร้านอื่น ๆ ทั่วประเทศ....
    www.sasiriya.com (ขอขอบพระคุณ คุณอ้างว้าง ผู้จัดทำเวปนี้ให้ มา ณ ที่นี้ค่ะ)


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2009
  4. watwa-aram

    watwa-aram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +974
    สวัสดีคะพี่ศศิแลคุณน้องอภิญญา...ช่วงนี้ภัยพิบัติเยอะมากเลยคะ แผ่นดินไหว โคลนถล่ม น้ำท่วม โรคร้าย.......ดีนะประเทศไทยของเรายังไม่ค่อยหนักหนาสาหัสเท่าไหร่ ..เห็นแล้วก็ได้แต่หดหู่ใจ สงสารคนที่มีผลกระทบ แต่ต้องทำใจ ....กับเร่งทำความดีคะ.....
     
  5. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751

    สวัสดีค่ะน้องวัดวา
    ดีจ๊ะ ติดตามข่าวสารทันโลก จะได้รู้ว่าโลกเราหมุนไปถึงไหนแล้ว
    ไม่ใช่ปิดหุูปิดตาอยู่แต่ในบ้านที่ทำงาน แล้วพอใครพูดบอก
    ก็หาว่าเพ้อเจ้อไร้สาระเรื่องไม่จริง
    ดี ๆ เจอข่าวก็มาเล่าสู่กันฟัง ชาวโลกจะได้รู้บ้าง
    โดยเฉพาะพี่กับน้องไม่มีเวลาดูข่าวสารเลย
    จะอยากรู้อะไรทีก็ถามจากผู้สื่อข่าวน้องอภิญญาของทุกคนนั่นแหล่ะ
    ประหยัดเวลาดี 5555

    ว่าแต่ใครว่าประเทศไทยไม่หนักหนาสาหัส
    น้องวัดวาจ๋า คนไทยโอดครวญจะตายกันทั้งเมืองแล้ว
    ไม่ต้องรอโรคระบาดภัยพิบัติมาลงหรอกจ๊า
    ว่าแต่แถว ๆ ที่ทำงานหนูแผ่นดินไหว โรคระบาดลงมั่งยัง
    ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
    ไปก่อนดีกว่า พูดแบบนี้อยู่นานเดี๋ยวชะตาราศีเราจะรุ่งริ่ง
    น้องวัดวามา งานพี่เข้าเลย
    ไม่มีเวลาพิมพ์เล่าเลยดูสิ
    เดี๋ยวเย็น ๆ ค่ำ ๆ วิเวก ๆ ก่อนแล้วกันนะคะ
    จะกลับมาคุยกันใหม่ เรื่องเร้นลับ
    ที่ชวนให้คุณต้องติดตามหร้อมรอยยิ้ม

    เป็นไงสโลแกนนี้ ไหวมั๊ย ๆ 555





    หนังสือ ปาฏิหาริย์..แรงบุญ..แรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    พิมพ์ครั้งที่ 4 วางจำหน่ายแล้วที่ ร้านนายอินทร์ทุกสาขา และร้านอื่น ๆ ทั่วประเทศ....
    www.sasiriya.com (ขอขอบพระคุณ คุณอ้างว้าง ผู้จัดทำเวปนี้ให้ มา ณ ที่นี้ค่ะ)
     
  6. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    เรียกแบบนี้ค่อยยังชั่ว
    วันก่อนเรียกมาที อ่านแล้วหนาวไข้จะขึ้นเอา
    55555
    เย็น ๆ ค่อยมาอ่านกันนะคะ
    เดี๋ยวมาใหม่ค๊า




    หนังสือ ปาฏิหาริย์..แรงบุญ..แรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    พิมพ์ครั้งที่ 4 วางจำหน่ายแล้วที่ ร้านนายอินทร์ทุกสาขา และร้านอื่น ๆ ทั่วประเทศ....
    www.sasiriya.com (ขอขอบพระคุณ คุณอ้างว้าง ผู้จัดทำเวปนี้ให้ มา ณ ที่นี้ค่ะ)
     
  7. watwa-aram

    watwa-aram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +974
    พี่ศศิก้อ...ก่อนไปก็ทิ้งประโยค ให้งานหนูเข้าด้วยอีกคนแล้วนะนี้ 5555 (เพราะมันอาจจะไหวหนักกว่า 12 ลิกเตอร์ เกิดสึนามิได้ง่าย ๆอย่าบอกใครเชียว ) อย่าลืมมาเล่านะคะ รอฟังอยู่คะ..
     
  8. เอ๊าะ2012

    เอ๊าะ2012 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +102
    ;36 มาแล้ว พี่ศิของเรา มาที
    มีเรื่องแปลกใจเสมอ รอลุ้นว่าเรื่องอะไร รับรอง
    เสียว...จนปวดฟัน 555...wel lcome_
     
  9. ปฏิสัมภิทัปปัตโต

    ปฏิสัมภิทัปปัตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +1,326
    _/\_สวัสดีค่ะ พี่ศิและคุณน้อง

    รู้สึกดีใจทุกครั้งเมื่อเห็นสัญลักษณ์รูปพญานาคปรากฏ พี่ศิมาแล้ว
    ยังไม่ทันฟังเรื่องที่จะเล่า แต่ตื่นเต้นไปล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วจ๊ะ
    แบบว่าจิตปรุงได้เร็วมาก อิ อิ
    ;aa50
     
  10. ปฏิสัมภิทัปปัตโต

    ปฏิสัมภิทัปปัตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +1,326
    สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณจิน ขออภัยที่ช้าไปหน่อย ไม่ได้เข้าเรือนหลายวันค่ะ
    ขอให้คุณจินและครอบครัว มีแต่ความสุข เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมนะคะ ครอบครัวอบอุ่นหรรษาทุกทิวาราตรีจ๊า


    และขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย ช่วยอวยพรให้คุณป้าคัดเค้า ได้บรรลุสิ่งที่ประสงค์ทุกประการเจ้าค่ะ
     
  11. titaporn

    titaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +418
    วันนี้มาชาร์ปแบต ให้จิตใจค่ะ เวลาเหนื่อยหรือมีเรื่องให้คิด กะเจี๊ยบชอบแวะมาอ่านมาดูข้อความพี่ๆๆน้องๆๆป้าๆๆลุงๆๆทุกท่าน อ่านแล้วเหมือนได้ชาร์ปแบตจริงๆๆค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณศศิ คิดถึงจังค่ะ
     
  12. kunmeng

    kunmeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,383
    ค่าพลัง:
    +395

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า
    อะไรเอ่ย
     
  13. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,241
    หวัดดี วันแม่ ครับ
    ณ วันนี้ ไม่มีแม่แล้ว
    แต่ ยังระลึกถีงเสมอ

    ใคร ที่ยังมีคุณแม่อยู่
    ฝากกราบด้วย ครับ
    และ รีบทำให้ท่านเถอะ ครับ
    ก่อนที่ ท่านจะจากเราไป
     
  14. chantima

    chantima เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    747
    ค่าพลัง:
    +407
    อนุโมทนากับธรรมทานครั้งนี้ของคุณkim9ค่ะขอให้ชดใช้กรรมหมดไวๆนะคะ
    วันนี้ได้ไปถวายสังฆทานที่วัดปทุมร่วมทำบุญผ้าป่าสร้างห้องน้ำที่วัด
    บูชาพระบรมสารีริกธาตุที่วัดทำบุญบูชาประคำสร้างสถานปฏิบัติเขากะลา
    ขอเชิญญาติสัมมาปฏิบัติทุกคนอนุโมทนาบุญและได้กุศลผลบุญทุกๆท่านนะคะ
     
  15. kim9

    kim9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +2,179
    ผมขอนุญาติ ลงข้อความ ที่ได้รับความช่วยเหลือ จากพี่ศศิริยะ และน้อง เป็นวิทยาทาน ในกรณีเคสของผมนะครับ
    ใครก็ตามที่ได้อ่านแล้ว รบกวนหยุดทำบาป ทำกรรมกันเถอะครับ ผมเห็นชัด ถนัดตา ด้วยกายและใจดวงนี้แล้วครับ
    อย่าทำกันอีกเลยครับ ขึ้นชื่อว่ากรรม ไม่ทำเลย ซะยังจะดีกว่า
    เพราะถ้ายังทำอยู่ ผลที่ตามมาคุณจะมานั่งร้องไห้เสียใจ ในสิ่งที่คุณกระทำไปแล้ว อย่างสาหัส สากรรจส์ เลยแหละครับ




    เรื่องนี้มันเกิดมาจาก ที่ตัวของผม มีปัญหาทางด้าน ระบบกระเพาะปัสสาวะ คือ เวลาที่ผมกินน้ำ ผมจะเข้าห้องน้ำ บ่อยมาก ไม่สามารถอั้นเอาไว้ได้
    เพราะเวลาที่อั้นมากๆ ผมจะเจ็บปวด ร่างกาย เหมือนร่างกายมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ มันทรมานมากๆ ปวดแบบเหมือน โดนชำแหละร่างกายนะครับ
    เหมือนโดนดึงกล้ามเนื้อ ออกจากกัน เป็นอาการที่ เจ็บมากจนน้ำตาแทบไหลเลยละครับ
    ถ้าใครไม่เจอกับตัวเองก็จะไม่รู้เลยครับ ว่ามันทรมานขนาดไหน
    และ อยู่มาวันนึงอยู่ดีๆ ร่างกายของผม ตรงฝั่งทาง มือด้านซ้าย ก็รู้สึกชาไม่มีแรง เหมือนคนเป็นโรคเส้นทับประสาทนะครับ
    คือจะไม่มีแรงทำอะไร แถมร่างกายซีกซ้าย ผมก็รู้สึกได้เลยว่า มันผิดปรกติ มีอาการเจ็บปวด ในกล้ามเนื้อ และ้เส้นเอ็น
    แทบจะทำอะไรไม่ไหวเลยแหละครับ เพราะทำให้ผมเหนื่อยง่าย ร่างกายอ่อนล้า เจ็บแปล๊บๆในเส้นเอ็น อยู่ตลอดเวลา
    ผมยังคิดเลยว่าคงต้องผ่าตัด แน่นอนงานนี้ เพราะอาการแบบนี้ ผมเคยอ่านเจอ เค้าบอกว่าเป็นอาการ เส้นทับประสาท ที่ส่วนมากจะเกิด
    กับผู้สูงอายุเท่านั้น พอผมมาเป็นแบบนี้ ทำให้ผมวิตกกังวลมาก เพราะเวลาที่อาการทั้ง 2 อย่างเกิดพร้อมกัน มันเหมือนจะตายให้ได้ เหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เจ็บปวดทรมาน มาก

    คิดว่ามันจะหายไปเอง แต่กลับ เป็นมากขึ้นๆ จนเจียนตาย
    พอเป็นอย่างนี้ ผมก็นึกถึง พี่ศศิริยะ และน้อง แทบจะทันที ก็เลย ขอความกรุณาให้ พี่ศศิริยะ และน้อง ช่วยเหลือ
    และผมขออนุญาติ ก็อบข้อความ ที่พี่ศศิริยะ และน้อง ได้กรุณาเมตตาบอก มาให้อ่านกันนะครับ

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    และนี่เป็นข้อความจากพี่ศศิริยะ และน้องนะครับ....................................

    **** น้องบอกว่าที่เจ็บป่วยมีอาการต่าง ๆ หลายจุดนั้นสืบเนื่องมาจากกรรมเก่ามันตามมาทันแล้วนะชาตินี้ ****
    น้อง เห็นกรรมที่ส่งผลมาให้คุณน้องคิม9 คือ ชาติภพนั้นคุณอยู่ในค่ายเหมือนค่ายทหารนะ ที่มีการสู้รบกันอยู่ตลอดเวลา แล้วน้องก็เห็นทหารที่เจ็บป่วยจากการสู้รบถูกหามมารักษาในค่าย ทีนี้คุณน่ะ ไม่ได้เป็นหมอนะในภพนั้น แต่ความอยากเป็นหมอ อยากรักษาคนป่วยในค่าย ก็มั่วนิ่มสวมรอยเป็นหมอตอนเขาวุ่น ๆ กัน เวลารักษาคนเจ็บ ก็ชอบหาเรื่องไปผ่าตัดเขา เขาไม่ต้องผ่าก็ไปผ่าเขาจนได้ เพราะความอยากรู้อยากลองเห็นคนเป็นหนูทดลอง และแล้วก็ไปเจอกรรมใหญ่รายหนึ่งเข้า เขาโดนของแหลมฝังอยู่ตรงท้องเขา แต่คุณก็ไม่รู้ว่าอยู่ตำแหน่งไหน ก็ซี้ซั้วผ่าเขามั่วไปหมด จนกระทบกระเทือนอวัยวะส่วนอื่น ๆ ลามไปด้วย ทำให้เขาเจ็บปวดทรมานมาก และก็ไม่รับผิดชอบนะ กรรมตัวนี้ล่ะที่ส่งผลมาให้คุณมีปัญหาเกี่ยวกับท้องกระเพาะปัสสาวะ และเส้นประสาททับต่าง ๆ ก็ผลโยงมาจากการไปชำแหละคนเขามั่วในชาตินั้นนั่นแหล่ะ เป็นผลกรรมที่คุณต้องได้รับตามกฏแห่งกรรมนะคะ

    ----------------------------------------------------------------------------


    ซึ่ง จากข้อความที่พี่ศศิริยะ และน้องได้กรุณาบอกนั้น ผมคิดว่า มันสมเหตุสมผลมากครับ เพราะตลอดเวลา ผมคิดอยู่เสมอว่า อยากที่จะมี คุณวิเศษที่สามารถ
    รักษาอาการ บาดเจ็บ,เจ็บป่วยของผู้คนได้ จะได้ช่วยแหละคนอื่นๆได้ เพราะอุปนิสัยของผมเป็น เช่นนั้นจริงๆ เรื่องนี้ที่ พี่ศศิริยะ และน้อง ได้บอกมานั้น ผมไม่เคยคิด ที่จะบอกกับใครเลย แต่พี่ศศิริยะ และน้อง กลับ รู้และไขข้อข้องใจ และสามารถ ช่วยเหลือผมได้ .........................................และนี่คือ นิสัยเก่า ของเราในชาติที่ผ่านมานั่นเอง เหมือนที่พี่ศศิริยะ บอกว่านั้นแหละครับว่า นี่คือจิตดวงเดิม ที่เราจำติดภพติดชาติมา
    รวมทั้งบาปและกรรมที่ตามติดตัวเรามา ทุกเม็ด ทุกหน่วย เพื่อที่เราจะต้องชดใช้หนี้กรรม ที่เราได้ทำเอาไว้

    ขึ้น ชื่อว่ากรรม ไม่ทำเลยซะยังจะดีกว่า ..................ผมหวังว่า เรื่องนี้จะเป็นอุทาหรน์ ให้กับคนที่ คิดจะทำบาปทำกรรม ให้ทุกๆท่าน หันมาถือศีล 5ให้ครบ ตั้งใจทำแต่กรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว มีหิริโอตัปปะ เกรงกลัวและ ละอายต่อบาป ที่คิดที่จะกระทำ ทั้งกาย วาจา และใจ กันนะครับ
    หาก เรื่องนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์กับใครและสามารถ ทำให้ คนๆนั้นเกรงกลัวและละอายต่อบาป ไม่คิดที่จะกระทำชั่วอีก และสามารถเ็ป็นอุทาหรน์ ได้บ้าง ผมก็ขออุทิศ กุศลในครั้งนี้ ให้กับเจ้ากรรมนายเวร ของผมที่ผม ได้เคยล่วงเกินท่านมา จากการที่ผม ไปผ่าตัดร่างกายของท่านในค่ายทหาร
    โดยประมาท และรู้เท่าไม่ถึงการณ์
    ขอให้ท่านอนุโมทนา ในผลบุญผลกุศล ในครั้งนี้ และขอได้โปรดจงอโหสิกรรม ให้เแก่ข้าพเจ้า
    นับตั้งแต่วันนี้ จนตราบเท่า เข้าถึงซึ่ง พระนิพพานในชาติัปัจจุบันนี้เถิด สาธุ.......................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2009
  16. cloud2Btakecare

    cloud2Btakecare Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +26
    อนุโมทนากับคุณคิมค่ะ

    วันนี้วันแม่ เป็นวันที่รู้สึกดีที่สุดในชีวิต
    เพราะว่าได้ชวนพี่น้อง 6 คนมาร่วมกันจัดงานเล็กๆ ให้พ่อกับแม่ค่ะ
    ได้ล้างเท้าท่าน กราบท่านด้วยดอกมะลิ ขอบคุณท่านที่ให้เราเกิดมา
    ขออโหสิกรรมในสิ่งที่ทำให้ท่านเสียใจ และขอพร คุณพ่อเป็นคนที่
    เข้มแข็งค่ะ แต่ก็พอมองออกว่าท่านปลื้มใจ น้ำตาคลอๆ เหมือนกัน
    ส่วนคุณแม่ ร้องไห้ออกมาเลย เมื่อล้างเท้าท่านเสร็จ พวกเราพี่น้อง
    ก็กราบท่านพร้อมๆกัน รู้สึกดีที่ได้ทำสิ่งดีดีในชีวิต คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี
    ที่สุดในชีวิตที่เคยทำมาเลยค่ะ
     
  17. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ท่านช้างเอราวัณสามเศียร......
    .....ใครว่าไม่มีจริง.....

    หลายท่านที่สงสัยว่าศิกับน้องหายไปไหนในช่วงนับสิบวันที่ผ่านมา
    ก็ไม่ได้หายไปไหนหรอกค่ะ บังเอิญติดภาระกิจหลายเรื่อง
    และมีอยู่วันหนึ่ง น้องเลิกเรียน เกิดอยากให้พาไปสักการะท่านช้างเอราวัณสามเศียร วันนั้นท่านช้างเอราวัณก็ได้สื่อสารผ่านทางจิตพูดคุยกับน้องให้ธรรมะหลายเรื่อง ท่านมีมหาเมตตาบารมีมาก ๆ นะคะ และศิเองก็กล้ายืนยันว่า ท่านมีจริง มิใช่แค่เรื่องราวปรำปราที่เล่าสืบต่อกันมา วันนั้นเลยถือโอกาสร้องเรียนบางสิ่งบางอย่างเรื่องส่วนตัวกับท่าน ท่านก็เมตตาโปรดให้ความกระจ่าง ท่านพูดผ่านทางจิตให้น้องรับทราบ และน้องก็พูดคำกล่าวของท่านออกมาให้ศิฟัง
    ซึ่งตัวศิเองทราบดีว่าน้องไม่มีวันใช้คำพูดภาษาธรรมแบบนั้นได้ด้วยตัวเอง
    ท่านเมตตากล่าวอีกว่า ท่านทราบทุกสิ่งทุกอย่าง เจ้าทั้งสองคนช่วยเหลือผู้คนด้วยความจริงจากจิตบริสุทธิ์ของเจ้า บุญที่เจ้าสร้างไว้นั้นมหาศาลยิ่งนัก และสิ่งที่เจ้าจะได้รับการตอบแทนนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด เจ้ารู้หรือไม่ ทุกอย่างถูกลิขิตไว้หมดแล้ว ใยจักคิดให้จิตขุ่นหมองอยู่ คนสร้างกรรมชั่ว ก็ต้องได้รับผล แม้เพียงมโนกรรม เจ้าคิดว่าข้าจักช่วยคนที่สร้างกรรมหนักก่อนเจ้ารึ.... ว่าแล้วท่านก็เลยเมตตาสั่งให้ไปเจริญสมาธิที่นั่นทุกวันที่ผ่านมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง
    เพื่อสร้างสมบุญบารมีให้ตัวเอง แล้วท่านจะจัดการทุกอย่างให้นั่นเอง จึงเป็นที่มาที่ศศิริยะหายไปเดินเล่นเจริญสมาธิอยู่ที่นั่น บวกกับภาระกิจส่วนตัวหลายอย่างจนไม่มีเวลามานั่งพูดคุยตรงนี้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตอนนี้ก็เสร็จสิ้นตามที่ท่านสั่งเรียบร้อยแล้ว ก็มีหลายเรื่องที่ขอท่านนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้ทุกท่านได้ทราบว่า ท่านมีมหาเมตตาเพียงใด และมีจริงหรือไม่ อีกทั้งบาปบุญนั้นมีจริงหรือไม่ ทำไมคนเราเกิดมาถึงได้มีทั้งคนจน คนรวยมาก ๆ คนสวย คนหล่อ คนไม่สวย คนไม่หล่อ คนทุกข์ คนสุข ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดจากบุญกรรมที่เราทุกคนได้ทำกันมาทั้งสิ้น ลองอ่านบทความนี้ ทำความเข้าใจ และพิจารณาด้วยวิจารณญาณให้ดี แล้วท่านจะเข้าใจว่า เพราะอะไรสังสารวัฏนี้จึงมีความแตกต่างกันในมนุษย์ทุกรูปทุกนาม

    เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2552

    ศิก็ได้มีโอกาสพาน้องไปที่นั่นอีกครั้ง หลังจากความข้างต้น ครานี้น้องคงมีเรื่องไปปรึกษาหารือท่านเป็นการส่วนตัว ท่านคงทราบว่าเราคงไม่ได้อยู่ในสภาวะอารมณ์ที่แช่มชื่นมากนัก ท่านก็มีมหาเมตตาพูดคุยผ่านน้องทำให้เราต้องหัวเราะออกมาจนได้ และสุดท้ายท่านก็กล่าวว่า เจ้าทั้งสองอารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่ไหม ประโยคนี้ทำให้ศิกับน้องซาบซึ้งในความเมตตากรุณาของท่านอย่างหาที่สุดไม่ได้ ท่านเป็นมหาเทพเบื้องบน แต่เมตตามนุษย์ปุถุชนพูดคุยอย่างไม่ถือองค์ให้น้องกับศิลืมสิ่งที่ขุ่นหมองใจไปจนหมดสิ้น และคงเป็นเรื่องราวรอยยิ้มที่ทุกท่านอ่านแล้วคงจะทราบได้ด้วยตนเอง ว่าท่านมีจริงหรือไม่ ขอเล่าเป็นบทสนทนาเพื่อความเข้าใจโดยง่ายก็แล้วกันนะคะ

    วันนั้นพอไปถึง สักการะท่านเสร็จ บังเอิญเป็นช่วงเย็นมากแล้ว
    ใกล้ปิดเวลาเข้าสักการะ ร้านขายขนมในนั้นก็ใกล้จะปิด
    น้องก็เลยถือโอกาสเดินไปซื้อน้ำแข็งใสมาแล้วก็มานั่งกินแบบไม่พูดพล่ามทำเพลง ยังไม่สนใจพูดคุยอะไรทั้งสิ้นกับท่าน สักพัก น้องก็หยุดกินแล้วบอกศิว่า

    น้อง : แม่ ๆ ดูสิ ท่านบอกหนูว่า เจ้ามาถึงก็ไม่ทำอะไรเลยนะ เอาแต่นั่งกิน
    แล้วหัวเราะหนูใหญ่เลย.....ท่านบอก สงสัยเจ้าคงอยากเป็นแบบคน
    เสื้อเขียวล่ะสิท่า ฮ่า ๆ ๆ ๆ
    ( ใครหนอเสื้อเขียว ก็มองหากันอยู่แถวที่ไหว้ก็ไม่เห็นใครใส่สีเขียว )
    น้อง : ท่านบอกให้หันหลังไปดู แม่ ๆ หันดูสิมีไม๊
    ( ว่าแล้วเราก็หันไปพร้อมกัน )
    น้อง : โอ้...มายก๊อดดดด ท่านว่าหนูแบบนี้ได้ไง หนูเคืองจริง ๆ นะ ฮึ่ม...
    ( อุแหม่... สาวเสื้อเขียวมีจริง ๆ เสียด้วยสิ อยู่ข้างหลัง น้ำหนักน่า
    จะอยู่ สัก 85 กิโล ฮ่าๆๆๆๆ แผนความเมตตาท่านจะแหย่ให้น้อง
    หัวเราะ 55555 )
    ท่านช้างเอราวัณ : ไง เจ้าไม่ชอบรึ งั้นเหมือนเสื้อสีม่วงก็ได้
    ( ว่าแล้วครานี้น้องก็เลยไม่สนใจขนมในมือแล้ว มองหาเสื้อสีม่วงว่า
    จะมีจริงไหม แม่จ้าว...สักอึดใจ สาวเสื้อม่วงก็เดินออกมาจากพุ่ม
    ไม้ผ่านหน้าเราไป ด้วยน้ำหนักเกินพิกัด เฉียดร้อยกิโล )
    น้อง : ก๊ากกกกก มีจริง ๆ ด้วยแม่ หนูไม่ได้หัวเราะคนเสื้อม่วงนะแม่ หนู
    หัวเราะท่าน ท่านคิดได้ไง พูดกับหนูแบบนี้หนูไม่ยอมมมมม ฮ่าๆๆ
    ท่านช้างเอราวัณ : ทำไม ถ้าไม่ถูกใจเจ้า เดี๋ยวเจ้าคอยดุดี ๆ นะ เดี๋ยวจะมี
    อีกคนออกมาจากข้างใน (พิพิธภัณฑ์) ข้าใบ้ให้ก็ได้ว่า
    ใส่เสื้อสีฟ้ามีจุด ให้เจ้าเหมือนคนนั้นก็ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
    ครานี้ศิกับน้องก็นั่งจ้องไปที่ประตูทางออกพิพิธภัณฑ์ สักประมาณ
    สามนาที มายก๊อดดด สาวใส่เสื้อฟ้าลายจุดเดินออกมาด้วย
    น้ำหนักไม่แตกต่างจากสองสีแรกทีเดียว คราวนี้น้องปล่อยก๊ากท่าน
    เต็มรัก จนต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน 5555 ท่านยังบอกอีกว่า
    ท่านช้างเอราวัณ : เดี๋ยวเจ้าคอยดูนะ อีกสักพักจะมีคนหนึ่งเดินออกมาตั้งท่า
    เหมือนนางแบบถ่ายรูปแข่งความงามกับข้าอยู่กลางลานน่ะ

    (ผ่านไปสองนาที )
    น้อง : ฮ่าๆ ๆๆ แม่ดูโน่น มีจริง ๆ ด้วยคนหนึ่งเดินมาเต๊ะท่าท้าวเอวเป็น
    นางแบบจริง ๆ ด้วย ฮ่าๆๆๆ
    ท่านช้างเอราวัณ : เจ้าจะเดินไปบอกเขาก็ได้นะ ว่าอย่ามาแข่งความงามกับ
    ข้าเลย วัน ๆ แสงจากกล้องเข้าตาข้าจนแสบตาไปหมด
    แล้ว
    น้อง : ขืนหนูเดินไปบอก เขาก็ว่าหนูบ้าสิ (ก๊าก )
    สรุป วันนั้นไม่ได้หัวเราะสาวเสื้อสีต่าง ๆ ที่ท่านแหย่น้องนะคะ
    แต่ขำมุขท่านนี่สิสุดยอดจริง ๆ แต่ละคน และก็มีจริง ๆ เสียด้วยสิ

    ( ว่าแล้วสายตาศิก็เหลือบไปเห็นศิลารูปเจ้าของผู้สร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เข้า เลยถือโอกาสขอสัมภาษณ์ท่านสักหน่อยให้หายข้องใจ )

    ศศิริยะ : เอ ทำไมเจ้าของผู้สร้าง เขาถึงสร้างท่านล่ะ ทำไมไม่สร้างรูปปั้น
    องค์อื่น ๆ ล่ะคะ
    ท่านช้างเอราวัณ : ก็ข้าไปนิมิตให้เขาเห็นข้าเองน่ะแหล่ะ อีกอย่างเพราะข้า
    เห็นว่าชาตินี้เขามีกำลังทรัพย์มากพอที่จะสร้างข้าได้
    เพราะทุกชาติภพที่ผ่านมา เขาสร้างบุญใหญ่ด้วยการ
    สร้างสิ่งเคารพใหญ่ ๆ แบบนี้เสมอมา บุญใหญ่ที่สั่งสมมา
    ทุกชาติภพนั้นทำให้เขาร่ำรวยมากทุกชาติภพ และชาตินี้
    ภพนี้ที่เขาสร้างข้าขึ้นมานั้นถือเป็นสิ่งสร้างที่ยิ่งใหญ่กว่า
    ทุกชาติที่เขาเคยสร้างนะ
    ศศิริยะ : แล้วบุญตรงนี้ ที่สร้างท่านขึ้นมานั้น เขาได้รับอย่างไรบ้างคะ
    ท่านช้างเอราวัณ : บุญครั้งนี้ยิ่งใหญ่นัก ทำให้เขาไปเสวยมหาบุญอยู่ที่สวรรค์
    ชั้นที่ 8 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นชั้นที่เขาไม่ต้องลงมา
    เกิดเป็นมนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาจะเสวยบุญอยู่ที่นั่น
    ตลอดไปตราบที่เขาบำเพ็ญบนนั้นจนเข้าสู่นิพพาน
    ศศิริยะ : อนุโมทนาสาธุ
    ไหน ๆ ก็มีโอกาสแล้ว ขออนุญาติถามอีกสักนิดนะคะ ที่เคยมี
    ข่าวช่วงที่สร้างองค์ท่านยังไม่เสร็จดี ที่ข่าวว่าผู้หญิงคนหนึ่งมา
    บนขอโชคท่าน และได้จริง และท่านก็ไปทำให้เขาเสียชีวิตจริง
    ตามที่เขาบนบานนั้น จริงหรือไม่คะ
    ท่านช้างเอราวัณ : เฮ้อ... เจ้าคิดว่าข้าใจร้ายขนาดนั้นเชียวรึ ข้าอยู่ของข้า
    มนุษย์ก็พูดไปเรื่อย
    ( ตอนนี้ทุกท่านที่เคยอ่านข่าวดังกล่าว คงหายข้องใจแล้วนะคะ)
    ศศิริยะ : งั้นลูกขออนุญาตินำข้อความเหล่านี้ไปเขียนเป็นธรรมทานให้พุทธ-
    ศาสนิกชนรุ่นหลังได้เป็นอุทาหรณ์เรื่องกุศลกรรม บาปบุญได้หรือไม่
    คะท่าน
    ท่านช้างเอราวัณ : เจ้ายังคิดเขียนอีกรึ เจ้าถูกมนุษย์ที่ชอบทำบาป
    สร้างกรรมลอกเลียนเจ้าสองคน ไปเปิดประตูกรรม ประตู
    กิเลสให้้ผู้คนมากมายยังมิพอรึ แต่ผู้ใดสร้างกรรม ก็หนีกรรมและ
    ความวิบัติไม่พ้นหรอกนะ เจ้าก็รู้
    ศศิริยะ : ค่ะ แต่หากไม่ให้ผู้คนรู้ เขาก็จะไม่รู้ว่า การสร้างบุญนั้น สร้าง
    ทำไม ทำแล้วได้อะไร หายไปไหน มนุษย์จะได้เกิดหิริโอตัปปะ
    มากยิ่งขึ้น เมื่อรู้ว่าทุกอย่างมีจริง จะได้ไม่กล้าทำบาปสร้างกรรม
    กันอีกต่อไปนะคะท่าน คนที่สร้างกรรมแบบนั้นเขาก็ต้องได้รับกรรมของเขาไป
    ท่านช้างเอราวัณ : หากเจ้าคิดเช่นนั้น ข้าก็ไม่ว่าสิ่งใดเจ้าหรอก อยากเขียน
    ก็เขียนไป เจ้าทั้งสองมันบัวพ้นน้ำแล้ว ความคิดเจ้าก็พ้น
    น้ำวันยังค่ำนะ อยากทำก็ทำเถิด
    ศศิริยะ : ลูก ๆ งั้นเราก็เขียนบอกให้แฟนคลับเรามาสักการะท่านมาก ๆ ด้วยดี
    ไหม เราจะได้ได้บุญสองต่อไง
    ท่านช้างเอราวัณ : ฮ่าๆๆๆ เจ้านี่ ช่างเจ้าแผนการในเรื่องทำบุญได้บุญเหลือ
    เกินนะ ดี ๆ หากใครมาแล้วบอกว่าเจ้าทั้งสองเป็นคนชี้
    นำมา ข้าจะให้พรคนที่มาสักการะข้าเพราะเจ้าเป็นสอง
    เท่าของคนอื่น ๆ เลย
    ศศิริยะ : แล้วคนอื่น ๆ ที่มาเอง วัน ๆ ท่านรับฟังคำขอให้พรหมดไหมคะ
    ท่าน
    ท่านช้างเอราวัณ : คนไหนจิตใจดี ข้าก็ให้พรไป คนไหนจิตใจไม่ดี ทำบาป
    สร้างกรรม ข้าก็ไม่ให้พรหรอก
    ไว้เจ้าสองคนมาบ่อย ๆ นะ วัน ๆ ข้าไม่รู้จะคุยกับใคร
    ไม่มีมนุษย์คนไหนคุยกับข้าได้เหมือนลูกเจ้าเลยสักคน
    น้อง : แบบนี้เขาเรียกเก็บกด ๆ ฮ่าๆๆๆๆ
    ท่านช้างเอราวัณ : ฮ่าๆๆๆๆ เจ้านี่ก็พูดไปเรื่อย แต่จะว่าไปก็ใช่อยู่หรอก
    เจ้าก็มาคุยกับข้าบ่อย ๆ ก็แล้วกัน
    ศศิริยะ : ขออีกนิดนะคะท่าน แล้ววันนั้นที่รอคอยมาถึง ตรงนี้จะเป็นอย่างไร
    คะ
    ท่านช้างเอราวัณ : ข้าก็คงยืนโดดเดี่ยวเพียงผู้เดียวนั่นแหล่ะ
    น้อง : ไม่โดดเดี่ยวหรอกค๊า มีพี่ค๊อคเป็นเพื่อนให้ท่านจับกินเยอะแยะเลย
    แถวนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆ
    ท่านช้างเอราวัณ : เฮ้อ เจ้าจะไปเที่ยวก็รีบกลับไปเถอะ เย็นมากแล้ว
    น้อง : ท่านไปเที่ยวกับหนูไหมล่ะคะ
    ท่านช้างเอราวัณ : ข้าไปไม่ได้หรอก ปิดสถานที่แล้ว คนที่ทำงานในนี้เขาก็
    ต้องมาสักการะข้าก่อนกลับอีก ข้าต้องอยู่ให้พรเขา
    เจ้าไปเถอะ แล้วมาคุยกับข้าอีกนะ

    .....ว่าแล้วเลยต้องลาท่านกลับก่อนที่เขาจะปิดสถานที่เสียก่อน....
    หวังว่าตอนนี้ทุกท่านคงได้ทราบแล้วว่า ทำไมถึงมีคนจน คนรวย เพราะอะไร
    การที่จะได้รับพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคำอ้อนวอนขอความช่วยเหลือต่าง ๆ นั้น
    ท่านต้องเป็นคนจิตใจเช่นไร ก่อนที่จะเดินเข้าไป
    ...... ไปกราบสักการะขอพรท่านกันนะคะ มองขึ้นไป แล้วคุณจะได้พบกับภาพแห่งมหาเมตตาบารมีที่แม้ไม่ต้องมีญาณทัสสนะก็สามารถสัมผัสได้
    .....ส่วนวันนั้นที่รอคอยจะเป็นเช่นไรตรงนั้น น้องขอสั่งห้ามศิกล่าวในนี้
    เนื่องจากเหตุอาจพลิกผันเปลี่ยนให้รุนแรงขึ้น
    ....มองภาพท่านภาพสุดท้ายที่นำมาลงกันให้ดี ๆ นะคะ
    ....ขอให้ทุกท่านโชคดีค่ะ........

    ศศิริยะ
    ( 12-8-52 )
    22.07 น






    หนังสือ ปาฏิหาริย์..แรงบุญ..แรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    พิมพ์ครั้งที่ 4 วางจำหน่ายแล้วที่ ร้านนายอินทร์ทุกสาขา และร้านอื่น ๆ ทั่วประเทศ....
    www.sasiriya.com (ขอขอบพระคุณ คุณอ้างว้าง ผู้จัดทำเวปนี้ให้ มา ณ ที่นี้ค่ะ)







     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2009
  18. narayana2514

    narayana2514 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +90
    สวัสดีครับ คุณศศิ และ น้อง ภาพที่ดู ตรง งวงด้านซ้ายบน คล้ายหน้าคนเลยครับ
    องค์พ่อเอราวัณ ผมเคยไป หลายปีมาละ พอดี ไปสมุทรสาครกับแฟน พอดี นั่งรถ ไป เงยหน้ามา เจอพอดี ตกใจ เพราะเคยได้ยิน จากเพื่อนว่า ไปไหว้ ช้างใหญ่ ก็ยังไม่ทันคิดอะไร พอได้เข้า สักการะบุชา น้ำตาไหลออกมา แบบ เหมือนว่าดีใจ อะไรซะขนาดนั้น ยังคิดเหมือนกันนะครับ ปลื้มใจ ชื่นใจ มากๆ แฟนยังหัวเราะผมเลย และก็ได้บูชา เหรียญมาหนึ่ง เหรียญ ครับ แล้วผมต้องไป สักการะ ท่าน อีกครั้งครับ
     
  19. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,601
    ค่าพลัง:
    +21,786
    สวัสดีครับ คุณศศิ คุณน้องอภิญญา และกัลยาณมิตรในเรือนพญานาคทุกๆท่าน
    ขอขอบพระคุณกับเรื่องท่านช้างเอรวัณสามเศียรด้วยครับ คำถามครับ ท่านช้างเอรวัณสามเศียร กับท่านท้าวเอรวัณ ใช่องค์เดียวกันหรือเเปล่าครับ ถ้าใช่แล้วทำไมถึงสร้างไม่เหมือนกันครับ รูปจริงของท่านเป็นแบบใหนครับ



    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางวัดที่นี่มีงานทำบุญวันแม่ ตั้งใจว่าจะไปทำบุญหน่อย ยุ่งจนไม่ได้ไปจนได้ อาทิตย์หน้าก็ไปไม่ได้อีกพี่ชายกับครอบครัวมาเที่ยวมาจากเมืองไทยครับ
    วันนี้เลยทำวันแม่ทางใจครับ

    ว่างเลยหาเรื่องมาให้อ่านเป็นความรู้ครับ ขออนุญาติด้วยครับ

    อ ย่า ท้ อ ถ อ ย
    ญาติโยมผู้หนึ่งเกิดความลังเลสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมที่ควรจะได้ผลมาก เพราะเธอมีความขยันหมั่นเพียร จึงมานมัสการกราบเรียนหลวงปู่ว่า
    "หลวงปู่คะ การที่ลูกนั่งไม่ดีนี่แสดงว่าชาติก่อนทำมาไม่ได้ใช่ไหมคะ"
    หลวงปู่ตอบว่า "แกรู้เหรอเรื่องแต่ก่อน ไม่ต้องไปสนใจ เพราะเรารู้ไม่ได้ เอาชาตินี้ให้มันดี ไม่ต้องคิดถึงชาติก่อน อย่าท้อถอย ทำไปเดี๋ยวก็ดีเอง"
    หลวงปู่ตอบตรงตามพุทธพจน์ที่ว่า อย่าสนใจอดีตเพราะเป็นสิ่งที่ล่วงมาแล้ว ให้สนใจในปัจจุบัน
    หลวงปู่แหวนเคยตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
    "อดีตเป็นธรรมเมา อนาคตเป็นธรรมเมา เฮาบ่มีอดีต เฮาบ่มีอนาคต เฮามีแต่ปัจจุบันเท่านั้น"
    คำพูดของท่านสมกับเป็นพระอริยสงฆ์ที่เราเคารพกราบไหว้ เพราะเป็นสัจจธรรมที่เป็นความจริงเสมอมา

    อ ยา ก จะ ไ ป นิ พ พา น
    ผู้ที่มากราบนมัสการหลวงปู่หลายๆ คน มาถึงก็แจ้งความประสงค์กับหลวงปู่ ปรารถนาไม่เกิด อยากไปนิพพานในชาตินี้ จะได้พ้นทุกข์ บางคนก็ตั้งเจตนาจริง บางคนก็พูดไปอย่างนั้น หลวงปู่เคยให้ข้อคิดสำหรับคนที่ไม่ตั้งใจจริงเหมือนคำพูดที่ปรารถนา ว่า
    "อยากจะไปนิพพาน แต่ศีล ๕ ยังรักษาไม่ได้ จะไปได้อย่างไร"
    "วันนี้มีผู้หญิงอยู่คนมากราบข้า บอกว่าจะไปนิพพาน ข้าไม่พูดแต่มองดู ปากยังทาแดงแจ๋ เล็บตีนเล็บมือยังแดงแจ๋ หัวตะพานจะไปถึงหรือเปล่า"
    ดังนั้น หลวงปู่จึงสอนพวกเราทั้งหลาย เมื่อตั้งใจสิ่งใดแล้ว ต้องทำหรือปฏิบัติจึงจะสมปรารถนา หลวงปู่ทวดกล่าวว่า "การปฏิบัติจะตัดภพชาติให้สั้นลงทีละครึ่ง เช่น ถ้าเราจะเกิดอีก ๑๐๐ ชาติ ก็เหลือ ๕๐ ถ้าจะเกิด ๒๐ ชาติ ก็เหลือ ๑๐"
    ผู้เขียนเคยอ่านหนังสือหลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน ท่านเคยเปรียบเทียบดังนี้ "ทำทานเหมือนการไปด้วยถ่อ รักษาศีลไปด้วยรถยนต์ ภาวนาก็ขี่เรือบินไป อาจถึงนิพพานได้ในชาตินี้"
    คนโบราณจึงกล่าวไว้ว่า "ใกล้ก็ไม่ใกล้ ไกลก็ไม่ไกล มองเห็นไวไว เป็นทิวลิบลิบ" ซึ่งเทียบได้กับพระนิพพานคือปลายจมูกนี่เอง หลวงปู่กล่าวว่า "จะว่ายากก็ไม่ใช่ จะว่าง่ายก็ไม่เชิง ผู้ปฏิบัติพึงรู้เองเห็นเอง เพราะเป็นปัจจัตตัง"

    ผู้ ห ญิ ง ไ ป ไ ด้ ห รื อ ไ ม่
    มีนักปฏิบัติท่านหนึ่งนำข้อข้องใจมากราบเรียนหลวงปู่ดังนี้
    นักปฏิบัติ "ลูกปฏิบัติไปถึงวิมานแก้วไปเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ ชาตินี้ลูกไปนิพพานได้ไหมเจ้าคะ"
    หลวงปู่ยิ้ม "หลับตาไปได้ แล้วลืมตาไปได้หรือเปล่า"
    นักปฏิบัติ "ยังเจ้าค่ะ"
    หลวงปู่ "ต้องทำให้ได้ทั้งหลับตาและลืมตา หลับก็เห็นพระ ลืมก็เห็นพระ อย่างนี้ไปได้แน่นอน"
    หลวงปู่ท่านบอกผู้เขียนว่า "ทุกอิริยาบท ถ้าเราเห็นพระได้ จิตของเราจะไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เคลื่อนจากความดี พระมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่งไหว้ตรงไหนก็เจอ" ทำให้ผู้เขียนนึกถึงคำพูดของ หลวงปู่อินทร์ จันทูปโม ที่ว่า "ที่กล่าวว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต เป็นสิ่งจริงแท้ เพราะพออาตมาได้ธรรม มองไปทางไหนก็เจอแต่พระ บนอากาศก็มี บนบกก็มีไหว้ได้ทั้งนั้น เกิดความซาบซึ้งในธรรมจนน้ำตาไหล ถ้าใครไม่รู้มาเห็นเข้าคงนึกว่า อาตมาบ้าแน่นอน"

    อีกเรื่อง
    มีท่านใดเคยอาบกายทิพย์บ้างครับ ผมทำเดือนละครั้งครับ เราอาบแต่กายนอกแต่ไม่ได้อาบกายทิพย์ วิธีทำ
    เท้าเปล่าติดพื้นดินหรือหินก็ได้(ยืนหรือนั่งก็ได้ นอกบ้าน) ใจสงบสวดนะโม๓จบ สวดบทบูชาพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ แล้วจับรูปพระพุทธเจ้าหรือพระบูชาที่เราชอบ ตั้งไว้บนกระหม่อม แล้วอฐิษฐานให้ท่านช่วยชำระกายทิพย์ให้เรา โดยให้ท่านเทนํ้ามนต์จากบนหัวค่อยๆใหลลงมาช้าๆจนผ่านเท้าลงสู่พื้นดิน สัก ๑๐ นาที พอเสร็จก็ขออภัยและฝากพระแม่ธรนีช่วยดูแลรักษานํ้าที่ชำระกายทิพย์ให้เราด้วยครับlove_
    สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2009
  20. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,241
    อนุโมทนา กับ คุณศศิ ครับ
    กับ การนำเรื่องราวดีๆ มาให้ แฟนคลับ ได้อ่าน
    ขอบคุณ ครับ

    เคยไปกราบขอพรท่านครั้งหนึ่ง ก็ หลายปีแล้ว ครับ
    หวังว่า
    อีกไม่นาน
    จะมีเวลา และ โอกาส ไปกราบขอพรท่านอีกครั้ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...