ธรรมะ ต้อง จด ลิขสิทธิ์ ด้วยเหรอ บ้าน่า..ใครคิดฟ่ะ ขอเหตุผลหน่อย

วันนั้นอ้ะ เอคุยกะพี่คนนึงพี่เขาบอกว่า เอ เอารูปหลวงพ่อหรือธรรมะหลวงพ่อไปโพสไม่ได้นะ ต้องไปขออนุญาติทางวัด เพราะเค้าจดลิขสิทธิ์แล้ว

อันนี้น่ากลัวมาก


จาก น้อง กระเจียว

 

ธรรมะ ต้องมี ลิขสิทธิ์ ด้วยเหรอ พระธรรม นี่ นะ ถ้า พระพุทธเจ้า ถือ ลิขสิจธิ์ นะ ป่านนี้ ศาสนา เสื่อม ไปนาน แล้ว

 

บริสุทธิ์ใจ นะครับ

 

ธรรมะ ต้องมี ลิขสิทธิ์ .... this is not good !!!

 

เค้าหวงพ่อของเค้า? พวกเราเหมือนกาฝากไปเลย ทั้งๆ ที่ใจศรัธาในธรรมะของท่านเหลือเกิน อยากตามรอยท่าน อย่างที่ตามรอยพระพุทธองค์ จริงแล้วเจตนาเค้าคือกลัวคนเอาธรรมะของท่านไปยำเละ ละมัง?...

 

การจดลิขสิทธิ์ก็เป็นการสมควรครับ แต่ผมอยากให้เปิดกว้าง มีข้อความต่อท้ายหนังสือลิขสิทธิ์ไว้ (คล้าย ๆ กับพวก GNU) ระบุว่าวิธีการนำไปเผยแพร่ วิธีการนำไปใช้ บุคคลใดนำไปใช้ได้บ้าง ไม่ควรใช้กับสถานที่ได้ ไม่ควรใช้ในเชิงพานิชย์ อะไรทำนองนี้น่ะครับ เพราะคนเคารพหลวงพ่อมีมากไม่ใช่มีแค่ลูกศิษย์กลุ่มไดกลุ่มหนึ่ง พระไตรปิฏกยังไม่มีใครจดลิขสิทธิ์เลยครับ อีกอย่างหนึ่งผมก็สงสัยว่าโดยปกติแล้ว ธรรมะก็คือเป็นผลงานของปัจเจกบุคคล เหมือนเพลง เหมือนความรู้ทางวิชาการ เมื่อหลวงพ่อมรณะภาพนั้น โดยปริยายต้องตกกับลูกหลานทางสายเลือด ดังนั้นผมก็งง เหมือนกันว่าทำไมลูกศิษ์กลุ่มหนึ่งไปจดลิขสิทธิ์ได้ มีใครเป็นสายเลือดทาง physical กับหลวงพ่อหรือ

คือผมแค่สงสัยในข้อกฏหมายว่าทำไปได้อย่างไร ทำไมหน่วยงานที่รับจดลิขสิทธิ์รับจดด้วย เพราะไม่ครบองค์ประกอบที่จะมีผู้ไดผู้หนึ่งจดเป็นลิขสิทธิ์ได้ และมีคนคัดค้านในภายหน้าได้อยู่เรื่อย ๆ มันจะวุ่นวายในที่สุด

 

สักวันฝรั่งคงจดลิขสิทธิพระไตรปิฏกแล้วใครอยากเรียนรู้ก็ต้องเสียค่าลิขสิทธิ.....

 

สงสัยที่ว่า ฝรั่งเขาจะมาครอบครองพระไตรปิฏก

ได้อย่างไรแล้วอีกอย่าง พระไตรปิฏกเห็นมีตั้งหลายภาษา งงๆ ตอบผมทีไม่ค่อยรู้น่ะ

 

ถ้าไม่ได้เคารพศรัทธาในสำนักใดๆก็ไม่น่านำมาวิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดความเศร้าหมอง เพราะคนนอกย่อมไม่รู้รายละเอียดที่มาที่ไป และยิ่งไม่ศรัทธาก็ย่อมไม่อ่าน ไม่ฟัง ไม่ศึกษา ถ้าอาจจะมีสิทธิวิจารณ์เชิงตำหนิได้ อย่างน้อยก็ควรได้ศึกษามาอย่างละเอียดแล้ว

สำหรับผู้ที่เคารพศรัทธาในหลวงพ่อ ก็จงไปอ่าน ไปศึกษาเถิด อะไรๆก็มีหมด ครบทุกเรื่อง มีเป็นทั้งหนังสือ ทั้งเทป ทั้งcd

รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้มีมาก เรื่องทุกเรื่องถ้ามองอย่างปุถุชนก็ผิดได้ถูกได้ตามกิเลสนิยมของคนๆนั้น จึงไม่ขอบอกว่าผิดหรือถูก แต่จะยกตัวอย่างเล็กน้อยให้รับรู้กันบ้างในแง่มุมที่อาจใช้สนับสนุนความชอบในการสงวนลิขสิทธิ เคยซื้อหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คประวัติพระสงฆ์รูปหนึ่ง อ่านไป ๆ เจอเนื้อความลอกจากหนังสือประวัติหลวงพ่อปานล้วนๆ แต่นำมายัดว่าเป็นประวัติของพระรูปนั้น นอกจากนี้ก็ยังเคยซื้ออ่านหนังสือเกี่ยวกับหลวงพ่อและมโนมยิทธิที่คนทำมาขายกิน โดยนำเนื้อความในหนังสือของวัดท่าซุงมาตัดต่อ โดยไม่มีสาระใดเป็นของใหม่เลย กลับทำความสมบูรณ์ลดลงไป

หนังสือหลายเล่มของหลวงพ่อ ท่านก็ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนว่ามอบลิขสิทธิ์ให้ท่านเจ้ากรมเสริมแต่ผู้เดียวก็มี โดยมีการแจงเหตุผลไว้แล้วด้วย

 

.... ธรรมะหลวงพ่อฤาษี มีหลากหลาย และบางอันก็ ... ล่อแหลมม ต่อพวกที่ ยังไม่ได้ศึกษาจริงๆ ........ ก็จดๆไว้ก็ดีครับ ลิขสิทธิ์... แต่ว่า เอาจริงๆ เราก็โพสต์ๆไปเถอะครับ เพราะเรามีเจตนาดีกัน ... สุดท้ายขอโทษกัน ก็หมดเรื่องราวกัน ...ไม่มีอะไรมากครับ อย่าไปลามเลย เดี๋ยวไปไกล

 

ธรรมะมีอยู่คู่โลก พระผู้มีพระภาคตรัสรู้ธรรม มาสั่งสอนพวกเรา ใครจะจดก้อจดไปเถอะครับ แต่อย่าเอาของพระพุทธเจ้าไปจดละ มันบาป.....ผมว่าหลวงพ่อก็ศึกษาธรรมะของพระพุทธองค์เพราะหลวงพ่อท่านเป็นพระสาวก ก็คงจะมีแต่ลูกศิษย์นี่แหละที่คิดอาไรแปลกๆ ถ้าท่านรู้คงเสียใจมากที่ เอาพระธรรมคำสั้งสอนไปจดลิขสิทธิ์ คิดได้ยังไงนี่...เฮ้อ มนุษย์ผู้บาป

 

เดี๋ยวกระทู้นี้จะบานปลายมั้ยคะเนี่ย

เย็นๆไว้ก่อนนะ

 

เค้าคงกลัวว่าจะเอารูปหลวงพ่อไปในทางที่ผิดน่ะสิครับ เพราะสมัยนี้พวกแก๊งมิจฉาชีพมันเยอะ หาเงินได้ทุกทาง โดยไม่รู้จักคำว่าถูกหรือผิด

กาลเวลาผ่านไป หลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่าง มีเปลี่ยนไปเป็นธรรมดาของโลก มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และสลายไป ตอนนี้ธรรมะและชีวิตยังคงอยู่ก็รีบๆ ขวนขวายศึกษากัน ก่อนที่ชีวิตจะหาไม่ อย่าไปคิดอะไรมากกับสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงต่อไปเลยครับ พวกเราเหล่าพุทธบุตร

 

ควรจดครับ

สิ่งของทุกอย่าง ถ้าจำเป็น ควรจดลิขสิทธิ์ไว้ กันการแอบอ้างครับ

 

คุณเจ้าของกระทู้คงเคยอ่านข้อคิดเห็นของข้าพเจ้า เพราะหลักการหรือธรรมะของข้าพเจ้าได้ยื่นจดลิขสิทธิ์เอาไว้
เหตุผลที่ยื่นขอจดลิขสิทธิ์ ก็เพราะ ข้าพเจ้าป้องกันไม่ใช้ชาวต่างชาตินำไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะพวกเขาเคยนำเอาความคิดนำเอาปัญญาของข้าพเจ้าไปใช้หลายเรื่องหลายอย่างที่สำคัญก็มี
"ระบบงานระบบหนึ่งที่นำไปใช้พัฒนาระบบงาน"หรือ ที่เรารู้จักันในนาม คิวซี
คิวซีเป็นความคิดของเด็กไทย อายุประมาณ 7 ขวบ โดยมีพี่คนไทย 2 คน มาจดบันทึกไป และได้บอกข้าพเจ้าว่า จะนำไปให้ฝรั่ง แต่พวกเขาได้นำไปใส่เป็นชื่อของพวกเขาเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา แต่ข้าพเจ้าจำได้ ข้าพเจ้ากล่าวต่อหน้าผู้บังคับบัญชาของข้าพเจ้าเลยว่า คิวซี คิดค้นได้โดยคนไทย ชื่อที่ตั้งขึ้น พี่คนไทยเป็นคนตั้งชื่อ แม้ไม่มีหลักฐานที่จะยืนยัน ข้าพเจ้าก็กล้าที่จะยืนยันว่า คิวซี เป็นของคนไทย นี้เป็นสาเหตุที่ ข้าพเจ้าต้องยื่นจดลิขสิทธิ์ หลักการหรือธรรมะของข้าพเจ้า
ประการที่สอง หลักการของข้าพเจ้าเป็นการศึกษาค้นคว้าและวิจัยจนได้ครบถ้วน ไม่ใช่เป็นการลอกเลียนแบบ อีกทั้งหลักการของข้าพเจ้าสามารถทำให้ผู้ปฏิบัติตนขจัดอาสวะได้ เป็นวิชชา 3 วิชชา 8 ซึ่งไม่มีในศาสนา ในที่นี้หมายความว่า ไม่มีในรายละเอียด หรือไม่มีหลักการหรือหัวข้อธรรมะในศาสนาใดใด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องยื่นจดลิขสิทธิ์ไว้ เพื่อป้องกันมิให้พวกเหลือบศาสนานำเอาไปใช้ทำมาหากินโดยไม่ได้รับอนุญาต เว้นแต่ข้าพเจ้าจะสอนด้วยตัวเองเท่านั้น

 

กรรม งั้นหากมีการจด คิดเล่นๆ กันนะ
อีกหน่อย พระพุทธเจ้าในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า ที่ท่านลงมารื้อสัตว์ค้นสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน
ท่านก็ต้องจดลิขสิทธิ์ไว้ก่อนท่านปรินิพาน แล้วศาสนานั่นจะเป็นอย่างไร
แต่ถึงยังไงเมื่อสุดท้ายแล้ว ย่อมตกเป็นสมบัติของโลกอยู่ดี
หากเป็นหนังสือที่แต่งขึ้นมาโดยเอาหลักธรรมอ้างอิง หรือนำคำสั่งสอนมาของศาสนามาใช้ อันนี้ควรล่ะควรจด
เพราะการที่คนคนหนึ่งหรือหมู่คณะใดคณะหนึ่ง จะแต่งหนังสือหรือนิยาย ถึงแม้จะเป็นหนังสือธรรมะ โดยเอาหลักธรรมของศาสนามาใช้ อันนี้เห็นควรด้วยต้องจด เพราะเกิดจากการค้นคว้า
แต่หากใครคิดเอาหลักธรรมของศาสนาพุทธไปจดเนี่ยะ คิดอะไรกัน ลองดูซิ ฝรั่งหน้าไหนคิดจดล่ะก็ชาวพุทธทั่วโลกคงยอมล่ะ ถึงฝรั่งหน้านั่นจะนับถือพุทธก็ตามเหอะ
แต่การนำหลักธรรมข้อคิดข้อเขียนของหลวงพ่อท่านต่างๆมาใช้ กรุณาอย่าตัดอย่าทอน อย่าดัดแปลง และอย่าเป็นไปเพื่อการเรี่ยไรเป็นดีค่ะ หากจะทำพระไตรปฎิก ควรนำข้อความจากพระไตรปฎิกมาใช้ ถึงแม้ว่าเรา อยากให้หลวงพ่อท่านได้บุญได้กุศลจากการกระทำที่เจตนาบริสุทธิ์ของเรา แต่เมื่อประมวลรวมกันแล้ว ออกมาไม่ดี
ก็ไม่ควรอย่างยิ่งนะค่ะ
การสร้างพระไตรปฎิกถือว่าเป็นการดีมาก ๆ แต่อะนะคนเราต่างจิตต่างใจ หากจะเป็นการดี (โดยมารยาท)
ควรแจ้งไปที่ต้นทางก่อนว่า เราทำเพื่อจุดประสงค์อะไร เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่ายด้วยค่ะ

 

ธรรมะ เป็น ของธรรมชาติ เป็นของสาธารณะ ส่วนรวม มันอยู่ของมัน อย่างนั้น พระพุทธเจ้า เป็น ผู้ค้นพบ แล้วเอามาสอน ผ่านพระพุทธเจ้าไปกี่องค์ ธรรมะก็ยังอยู่

สิ้นโลกเหลือธรรม

เป็นของฟรี เข้าถึงได้ ไม่ต้องเสียตัง ค่าลิขสิทธิ์

ประเด็นคือ ธรรมะ ของพระอาจารย์ บางท่าน ใช่ใหมครับ กลัวบิดเบือน กลัวปรามาส ต้องขออนุญาติก่อน

ถ้าเอาเผยแพร่แบบไม่ตัดตอน เขาคงไม่ว่า มั้งครับ

 

เห็นด้วยกับพี่เวบสโนครับ

 

เวปโนว สู้ ๆ ไม่ต้องไปกลัวหรอก ตามกฎหมายลิขสิทธิ์นั้นจะสามารถเอาผิดได้ก็ต่อเมื่อนำส่งที่จดลิขสิทธ์นั้น
ไปเผยแพร่ในเชิงพานิชย์ เวปนี้ไม่เกี่ยวอยู่แล้ว ไม่ต้องตื่นตระหนก อย่างเก่งพวกโง่ ๆ ที่หวงสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง
ก็คงวิจารณ์ได้เท่านั้น ถ้าเป็นเรื่อง ก็ฟ้องกลับ ได้ตังเพียบ

ถ้าได้ตัง ก็เอามาจัดทริปธุดงค์กันนะ ชวนเราไปด้วยเด้อ