เมื่อจิตเกิด-ดับ การดูจิตจะเป็นไปตามความเป็นจริงได้อย่างไร???

พระอริยสาวก กาย(รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)กระสับกระส่าย จิตหากระสับกระส่ายไม่

[๕] <font color='#006600'>ดูกรคฤหบดี ก็อย่างไรเล่า?</font>
<font color='#0000FF'>บุคคลแม้เป็นผู้มี กาย กระสับกระส่าย </font>
<font color='#FF0000'>แต่หาเป็นผู้มี จิต กระสับกระส่ายไม่</font>

ดูกรคฤหบดี คือ
<font color='#FF0000'>อริยสาวก ผู้ได้สดับแล้วในธรรมวินัยนี้</font>
ผู้เห็นพระอริยะทั้งหลาย ผู้ฉลาดในธรรมของพระอริยะ
ผู้ได้รับแนะนำดีแล้วในอริยธรรม ผู้เห็นสัตบุรุษทั้งหลาย
ผู้ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ผู้ได้รับแนะนำดีแล้วในสัปปุริสธรรม

<font color='#FF0000'>ย่อมไม่เห็น</font> รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ <font color='#FF0000'>โดยความเป็นตน</font> ๑
<font color='#FF0000'>ย่อมไม่เห็น ตน มี</font> รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ๑
<font color='#FF0000'>ย่อมไม่เห็น</font> รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ <font color='#FF0000'>ใน ตน</font> ๑
<font color='#FF0000'>ย่อมไม่เห็น ตน ใน </font>รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ๑

<font color='#FF0000'>ไม่เป็นผู้ตั้งอยู่ด้วยความยึดมั่นว่า
เราเป็น </font>รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ <font color='#FF0000'>ของเรา

เมื่ออริยสาวกนั้น ไม่ตั้งอยู่ด้วยความยึดมั่นว่า
เราเป็น</font> รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ <font color='#FF0000'>ของเรา </font>

<font color='#0000FF'>รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั้นย่อมแปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป

เพราะรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป</font>
<font color='#FF0000'>โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส จึงไม่เกิดขึ้น</font>

<font color='#006600'>ดูกรคฤหบดี อย่างนี้แล</font>
<font color='#0000FF'>บุคคลแม้มี กาย กระสับกระส่าย </font>
<font color='#FF0000'>แต่หาเป็นผู้มี จิต กระสับกระส่ายไม่</font>

ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวคำเช่นนี้แล้ว
นกุลปิตคฤหบดี ชื่นชมยินดีภาษิตของท่านพระสารีบุตร ฉะนี้แล.

(smile)

 

จิต ไม่ใช่ กาย(รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)

<font color='#006600'>สรุป</font>

<font color='#0000FF'>ปุถุชน ผู้มิได้สดับ……
เพราะรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป
โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส จึงเกิดขึ้น</font>

<font color='#006600'>ดูกรคฤหบดี ด้วยเหตุอย่างนี้แล</font>
<font color='#0000FF'>บุคคลจึงชื่อว่าเป็นผู้มี กาย กระสับกระส่าย
และเป็นผู้มี จิต กระสับกระส่าย</font>

<font color='#006600'>*</font>

<font color='#FF0000'>พระอริยสาวก ผู้ได้สดับ......</font>
<font color='#0000FF'>เพราะ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป</font>
<font color='#FF0000'>โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส จึงไม่เกิดขึ้น</font>

<font color='#006600'>ดูกรคฤหบดี อย่างนี้แล</font>
<font color='#0000FF'>บุคคลแม้มี กาย กระสับกระส่าย</font>
<font color='#FF0000'>แต่หาเป็นผู้มี จิต กระสับกระส่ายไม่.</font>

(smile)

 

ปฏิบัติอริยมรรค ๘ ตามเสด็จ เพื่อแยกจิตออกจากกาย

<font color='#006600'>สรุปชัดๆ คือ</font>

<font color='#0000FF'>ปุถุชน กายกระสับกระส่าย จิตกระสับกระส่าย
เมื่อรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แปรปรวนไป (กายกระสับกระส่าย)
ทุกข์จึงเกิดขึ้นที่จิต (จิตกระสับกระส่าย)</font>

<font color='#FF0000'>พระอริยสาวก <font color='#0000FF'>กายกระสับกระส่าย</font> จิตหากระสับกระส่ายไม่
<font color='#0000FF'>เมื่อรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แปรปรวนไป (กายกระสับกระส่าย)</font>
ทุกข์ไม่เกิดขึ้นที่จิต (จิตหากระสับกระส่ายไม่)</font>

***

<font color='#0000FF'>เพราะ ปุถุชน ไม่ได้รับการอบรมจิต</font>
จิตมีอวิชชาครอบงำอยู่ ไม่รู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง
จิตรู้ผิดหลงผิดจากความเป็นจริง
จึงหลงเข้าใจผิดว่าขันธ์ ๕ (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) เป็น ตน

<font color='#0000FF'>เพราะจิตยึดถือขันธ์ ๕ เป็นตน
เมื่อขันธ์ ๕ (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) แปรปรวนไป
จิตจึงแปรปรวนตาม</font>


<font color='#FF0000'>พระอริยสาวก ได้รับการอบรมจิต</font>
จิตหลุดพ้นจากการครอบงำของอวิชชา
เกิดวิชชาขึ้นแทนที่ รู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง
จิตเป็นพุทโธ ผู้รู้ ผู้ตื่นผู้เบิกบาน
รู้เห็นด้วยปัญญาตามความเป็นจริงแล้วว่า
ขันธ์ ๕ (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ไม่ใช่ตน

<font color='#FF0000'>จิตปล่อยวางการยึดถือขันธ์ ๕ เป็นตน</font>
<font color='#0000FF'>เมื่อขันธ์ ๕ (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) แปรปรวนไป </font>
<font color='#FF0000'>จิตจึงไม่แปรปรวนตาม</font>

<font color='#9900FF'>จิตรู้อยู่ เห็นอยู่ว่า ขันธ์ ๕ ไม่ใช่เรา เราไม่ใช่ขันธ์ ๕ ขันธ์ ๕ ไม่ใช่ตนของเรา</font>

(smile)

 

วิญญาณขันธ์ เป็นขันธ์ ๑ ในขันธ์ ๕ ไม่ใช่ จิต

<font color='#9900FF'>นกุลปิตาสูตร พระสูตรนี้ ชี้ชัดเจนให้เห็นว่า
วิญญาณขันธ์ เป็นขันธ์ ๑ ในขันธ์ ๕ ไม่ใช่ จิต</font>

<font color='#0000FF'>แต่ปุถุชนไม่ได้รับการอบรมจิต
จิตมีอวิชชาครอบงำอยู่(ไม่รู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง)
หลงเข้าใจผิด ว่าขันธ์ ๕ ซึ่งก็รวม วิญญาณขันธ์ ด้วยเป็น ตน

จึงหลงเกิดตายตามขันธ์ ๕ หรือ ก็คือ เกิดดับตามวิญญาณขันธ์ นั่นเอง
จึงบอกว่า จิตเกิดดับ ด้วยอำนาจอวิชชาที่ครอบงำนั่นเอง
เพราะไม่รู้จักตนเองที่แท้จริง ว่าตนเป็นผู้รู้ ผู้เห็นอยู่
เมื่อขันธ์ ๕ แปรปรวนไป จิตจึงแปรปรวนตามขันธ์ ๕ ที่แปรปรวนไป</font>


<font color='#006600'>เมื่อปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ ตามเสด็จพระบรมศาสดา
เพราะอวิชชาดับไปจากจิต......วิญญาณดับ...ฯลฯ.....ทุกข์ดับ ปฏิจจสมุปบาทธรรมดับ

จิต ผู้รู้ ผู้เห็น รู้ผิดเห็นผิดไปจากความเป็นจริงมาตลอดเพราะอวิชชาครอบงำ
เกิดวิชชาขึ้นแทนที่ (รู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง)
จิตเป็นพุทโธ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

รู้เห็นด้วยปัญญาตามความเป็นจริงแล้ว เกิดญาณรู้แล้ว
ญาณรู้ คือ จิตผู้รู้ (พุทโธ = ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน)

จิต รู้อยู่ เห็นอยู่ ว่าขันธ์ ๕ ไม่ใช่ตน
จิตปล่อยวางการยึดถือขันธ์ ๕ เป็นตน
เมื่อขันธ์ ๕ แปรปรวนไป จิตจึงไม่แปรปรวนตามขันธ์ ๕ ที่แปรปรวนไป</font>

 

ต้องหมั่นสังเกตสังกา หมั่นวิเคราะห์พิจารณา หมั่นหยุดตัวเองให้ได้จริง ๆ อะไรคือหยุด อะไรคือปัจจุบัน อะไรคือการรู้ตามความเป็นจริง อะไรคือตำรับตำรา อะไรคือปัญญาความเข้าใจจริง อัตตา อนัตตา ลำเอียง ไม่ลำเอียง หลง ลวง จริง หรือเท็จ ไม่มีใครเอาความรู้ของใครมาแทนที่อวิชชาในใจกันได้ ต้องเรียนรู้ศึกษาและทำความเข้าใจกันเอาเอง จนกว่าจะเต็มรอบ ช่วยได้อย่างมากก็แค่บอกแนวทางให้ลองเดินตามมาก็เท่านั้นเอง...


ศึกษาอะไรให้ศึกษาอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดผล

 

แล้วทำอย่างไง ทำให้นิ่งเหรอ นิ่งไปเรื่อย นิ่งจนเสถียร ^-^

 

ร่างกายของเธอนั่นฉันใด ร่างกายนี้ก็ฉันนั้น ร่างกายเป็นของเปื่อยเน่า มีกลิ่นเหม็น<WBR>ฟุ้งไป


จะมีประโยชน์อะไร ด้วยการที่เธอต้องมาดูร่างกายอันเปื่อยเน่านี้ .... ควรหรือหนอ ที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา?

 

คนที่สมควรข่ม ก็ต้องข่ม
คนที่ไม่สมควรข่มก็ ไม่ข่ม

ก็ไม่เคยปรากฎว่า นายขันธ์ จะไปข่ม คนอื่นๆ นอกจากพวก ล้น ผิดปกติเท่านั้นแหละ

 

การปฏิบัติอริยมรรค ๘ ตามเสด็จ ก็คือการบังคับจิต
ให้รู้แล้วไม่ยึดอารมณ์ เพราะรู้จักอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง(รู้ถูก)
???

A....................................

B. ......... ................................


C. .....................

 

จิต ไม่ใช่ กาย(รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

อันนี้แหละผิดเพราะจิต คือ เวทนาสัญญา สังขาร และวิญญาณประกอปขึ้น



เพราะ ปุถุชน ไม่ได้รับการอบรมจิต
จิตมีอวิชชาครอบงำอยู่ ไม่รู้อริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง
จิตรู้ผิดหลงผิดจากความเป็นจริง
จึงหลงเข้าใจผิดว่าขันธ์ ๕ (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) เป็น ตน

เพราะจิตยึดถือขันธ์ ๕ เป็นตน
เมื่อขันธ์ ๕ (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) แปรปรวนไป
จิตจึงแปรปรวนตาม

จึงหลงเข้าใจผิดว่าขันธ์ ๕ (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) เป็น ตน
คำนี้แปลว่าเข้าใจไปว่าขันนี้เที่ยงตั้งอยู่และไม่ดับนั้นแหละคือเข้าใจผิดและไปยึด เช่นที่คุนเห็นจิตว่าเที่ยงตั้งอยู่และเข้ายึดไว้

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>นิวรณ์*, 2ชาติ บรรลุธรรม. . . </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

k. ...
Kwan... and .....k.kwan

...

two land ...

6+6=12 ...

2na ...

jinny...

หม้ออุ่นทิพย์...

อ.khun...

เฮียพูด...

p'savanang...

alber...

T.....

keng...

felling that's in my mind......may be right...may be wrong... just fun.

 

the last one wimutii...

and khun.sri....

 

ไม่แน่ใจว่าใช่ ข้าพเจ้าหรือเปล่า

ถ้าใช่ก็อยากบอกว่า ผมนิยมใช้มือถือครับ สะดวกดี อิอิ...

 

อิอิ.........may be right...may be wrong... just fun.<!-- google_ad_section_end -->

 

ไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะครับคุณป้าขวัญ

รูปนามปริเฉท เกิดบ้างหรือยังเอ่ย เล่นกระทู้มากๆใช่ว่าจะดี ประคองๆไว้นะครับ...อิอิ

 

ไม่รู้ รูปนามปริเฉท คือไร แต่แล่นออกไปในมหานที ทุกวี่วัน

 

คุณวิมุตติ ลองขับราชรถออกมาชมพระอาทิตย์ บ้างรึยัง

 

เปรียบเปรยแบบนี้ ผมไม่อยากคิดไปเอง

คุณพี่กรุณาแสดงให้ชัดอีกหน่อยเถิด...