ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

ม่ายรับ...ม่ายรับ...นักร้องคนนี้
ขืนให้ร้อง..เดี๋ยววงแตก...แต่..เอ...
รับไว้เป็นคนเก็บเครื่องดนตรี..
กวาดเวทีก็ดีเหมือนกันเนอะ

ว่าไงจ๊ะน้องเอ๊าะ ตกลงรับหน้าที่นี้ม๊ะ อิ อิ อิ

 

yimm แฮะๆ ขอน้อมรับก้อได้คับ ยอมเป็นเด็กเก็บของ
ก้อได้จ๊า แต่อย่าอดข้าวเค้าน๊า ยิ่งจะผอมแห้งแรงน้อยอยู่
wel lcome_mokeyเอ...วันนี้ไม่เห็น พี่ชาติ พี่เม้ง พี่ศศิ
คุณน้อง ป้าคัดเค้า พี่อ้างว้างและอีกหลายๆท่านที่ไม่ได้
กล่าวถึงหายไปไหนกันหนอ ช่วงนี้ฝนตกบ่อยเน็ตเข้าไม่ได้
กันรึป่าวจ้ะ ช่วยมาแวะเวียนที่เรือนพญานาค บ่อยๆนาค๊าบ
คนที่นี่เค้าคิดถึงนะจ้ะ(k) จิตใจที่ดีงามจะคงอยู่ตลอดไป

กระจกเงา

กระจกเงา...สะท้อน...ความเป็นจริง
เรื่องทุกสิ่ง...ชัดเจน...เด่นตรงหน้า
ไม่มีใคร...หลอกได้...ใต้แววตา
เลวชั่วช้า...ต่ำทราม...ตามใจตน

หลอกใคร - ใคร...หลอกได้...หลอกไปเถิด
อย่าเตลิด...หลอกตัว...มัวหมองหม่น
หลอกใคร - ใคร...หลอกได้...เว้นใจตน
เกิดเป็นคน...เลว - ดี...อยู่ที่ใจ

การกระทำ...เปรียบดั่ง...กระจกเงา
ฉายสะท้อน...ความเขลา...ของเราได้
คนคิดดี...ทำดี...ที่จิตใจ
แสดงออก...บอกได้...ในท่าที

คนคิดชั่ว...ทำชั่ว...ด้วยตัวเขา
กระจกเงา...สะท้อน...ตอนวิถี
คนทำดี...ต้องรับ...กลับผลดี
คนชั่วไม่ -. อาจหนี...ลี้ผลกรรม

;aa32​

​

 

ก็อยู่แถว ๆ นี้แหละไอ่นายเอ้ย...ไม่ได้หายหน่าหายต๋าไปไหนด๊อก...ยังคิดถึงน้องเอ๊าะอยู่เหมือนเดิ๊มนั้นหล่ะ..

เป็นไงน้อ..บ้านเอ๊งฝนก็ยังตกดี๋อยู่เนาะ...

ดูแลตั๊วเองหน่อยเด้อเดี๋ยวจิไม่สบายไป..เป็นห่วงเด้อ..

-Happy Smile_

ปล.เสียงในฟิล์มเด้อ..ไม่ได้พิมพ์ผิดด๊อก

 

พี่วัดวาอาราม ลืมอ่านอีกท่อนที่ผมเขียนหรือเปล่าครับ

ตอนนั้นกำลังอารมณ์ดี เลยตั้งใจสมมุติอายุตัวเองให้ใกล้กับคุณน้องอภิญญาครับ โดยสลับหลักอายุตัวเอง เลยต้องขึ้นต้นด้วย สวัสดีครับ คุณอภิญญา

จริงๆควรจะขึ้นต้นด้วย คุณน้องอภิญญา ครับ

ผมก็คนซื่อๆ ครับ เพียงแต่ชอบพูดเล่น

โดยความเข้าใจส่วนตัว ว่าถ้ายังไม่ได้ทำให้ผู้ใดเดือดร้อน ก็ยังไม่ผิด กรรมบท ๑๐ แต่ถ้ามีแล้วต้องขออภัยครับ (ขอท่านผู้รู้แนะนำด้วยครับ)

ฮิ ฮิ

 

น้องเจ๋งไปกิน/ดื่มอะไรมาถึงลดอายุได้ขนาดนี้ ต้องมาแบ่งกันบ้างเด้อ ถ้า๑เทียบลดอายุได้๓๐สิบ ส่งให้พี่ดีดี๒เทียบ ผมขอหนึ่งเทียบก็พอ อิอิ
ถ้าพี่ทิพย์ส่งขนมมาให้ ก็อย่าลืมส่งต่อมาให้ด้วยน้า พื่งจะเห็นขนมนี้เป็นครั้งแรกจ้า

ผมเอาบุญมาฝากให้เรือนพญานาคทุกๆท่านครับ ทำบุญถมดิน สำนักปฎิบัติธรรม พุทธพรรมปัญโญ นครสวรรค์ งานใหญ่ครับได้บุญและแถมได้พระทันหลวงปู่่ดู่มาตั้ง ๑๓ องค์ ผมดีใจมากครับเพราะยังไม่มีพระทันท่านครับ เกิบไว้ใช้เองสององค์นอกนั้นให้พี่ๆไปหมด
บุญกุศลอันจะพึงมีแก่ข้าพเจ้า ขอน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ขอถวายท่านพญาครุฆ-พญานาค ท่านช้างเอราวัณ คุณศศิ คุณน้องอภิญญา ผู้มีพระคุณทุกๆท่าน ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต และกัลยาณมิตรในเรือนพญานาคทุกๆท่าน
สาธุ สาธุ สาธุ

ธรรมรักษา<!-- google_ad_section_end -->

 

ผักเซี่ยงดา ผู้ฆ่านํ้าตาล

สำหรับคนที่หลงใหลในเสน่ห์แห่งมนต์เมืองเหนือ และพอจะเคยผ่านหูเพลง “ของกิ๋นบ้านเฮา” ของตำนานโฟล์กซองคำเมืองอย่าง “จรัล มโนเพ็ชร” มาบ้าง อาจจะพอจำท่อนที่บรรยายถึง “อาหารเมือง” อันหลากหลาย
รวมถึงวัตถุดิบชนิดผักที่มีชื่อแปลกๆ ไม่คุ้นหู ในท่อนที่ร้องว่า “...แก๋งผักเซี่ยงดา ใส่ปล๋าแห้งตวยเน่อเจ้า แก๋งบอนแก๋งตุน กับแก๋งหยวกกล้วย. ต้ำบะหนุนยำเตา ส้าบะเขือผ่อย แก๋งเห็ดแก๋งหอย ก้อยปล๋าดุกอุย” คงกำลังงงว่า เจ้าผัก “เซี่ยงดา” ที่ จรัล ร้องเอาไว้นี้ หน้าตามันเป็นอย่างไร และมีสรรพคุณประโยชน์อะไรอย่างไรบ้าง
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้บอกเล่าสรรพคุณที่หลากหลายของเจ้าผักพื้นบ้านชื่อแปลกชนิดนี้ว่า “เซี่ยงดา หรือ เซ่งดา” ในภาษาเมืองของภาคเหนือ มันคือผัก “เชียงดา” หรือ “จินดา” ในภาคกลาง ส่วนในภูมิภาคอื่นๆ จะมีชื่อเรียกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็น “ผักว้น” ,“ม้วนไก่” หรือ “ผักเซ็ง” เป็นพืชในวงศ์ ASCLEPIADACEAE
มีลักษณะเป็นไม้เถา น้ำยางใส ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ดอกช่อ ออกที่ง่ามใบ สีเหลืองอมส้ม ผลรูปหอก มีข้อมูลที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือในภาษาฮินดู “Gurmar” คำๆ นี้แปลตรงตัวว่า “ผู้ฆ่าน้ำตาล”
“เชียงดาจะมีรสขมนิดๆ ชนิดที่เกิดในป่าจะขมกว่าชนิดที่นำมาปลูกในบ้านเป็นผักเพื่อบริโภค หากลองเด็ดใบแก่สักหน่อยมาเคี้ยวกินดู แล้วหลังจากนั้นกินน้ำตาลทรายเข้าไป มันจะไม่หวานเหมือนกินน้ำตาล แต่มันจะเหมือนกินทราย รสของเชียงดาจะทำให้น้ำตาลไร้รสชาติ และรสของมันจะติดลิ้นค่อนข้างนาน พาลทำให้คนที่เคี้ยวไม่อยากอาหารไปเลย”
หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวต่อไปอีกว่า ผักเชียงดาถูกใช้เป็นยารักษาเบาหวานในอินเดียและประเทศในแถบเอเชียมานานกว่า 2000 ปีแล้ว มีสารสำคัญคือ gymnemic acid ซึ่งสกัดมาจากรากและใบของผักเชียงดา มีรูปร่างเหมือนน้ำตาลกลูโคส จึงไปจับเซลล์รีเซพเตอร์ในลำไส้ ป้องกันการดูดซึมของน้ำตาล The U.S. National Library of Medicine (NLM) and the National Institutes of Health (NIH) พบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ว่าผักเชียงดา สามารถที่จะช่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานทั้งชนิด พึ่งอินซูลิน(type 1)
และไม่พึ่งอินซูล(type 2)ได้ เมื่อให้ร่วมกันอินซูลิน และยารักษาเบาหวานอื่นๆ และยังมีรายงานว่ามีบางรายใช้ผักเชียงดาตัวเดียวในการคุมระดับน้ำตาลในเลือดโดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่ผู้ป่วยเบาหวานจะต้องบอกให้แพทย์ทราบเมื่อกินผักเชียงดาช่วยคุมเบาหวานเพื่อที่จะลดอินซูลินและยาลง
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร “นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าผักเชียงดามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดมาตั้งแต่ปี 1926 และในปี 1981 มีการยืนยันผลการลดน้ำตาลในเลือดและเพิ่มปริมาณอินซูลินในสัตว์ทดลองและในคนที่เป็นอาสามัครที่แข็งแรง พบว่าผักเชียงดาไปฟื้นฟูเบต้าเซลของตับอ่อน (อวัยวะที่สร้างอินซูลิน)
ทำให้ผักเชียงดาสามารถช่วยคุมน้ำตาลได้ในคนเป็นเบาหวานทั้งชนิด type 1และ type 2 และตั้งแต่ในปี 1990 เป็นต้นมามีการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบประสิทธิภาพ กลไกออกฤทธิ์ ในการลดน้ำตาลในเลือดและมีการศึกษาความเป็นพิษอย่างมากมาย ยกตัวอย่างเช่น การศึกษา ในมหาวิทยาลัยมัทราสในประเทศอินเดียศึกษาผลของผักเชียงดาในหนูโดยให้สารพิษที่ทำลายเซลเบต้าในตับอ่อนของหนู
พบว่าหนูที่ได้รับผักเชียงดาทั้งในรูปของผงแห้งและสารสกัดมีระดับน้ำตาลในเลือดกลับมาเป็นปกติภายใน 20-60 วันระดับอินซูลินกลับมาเป็นปกติ และจำนวนของเบต้าเซลเพิ่มขึ้น”
สำหรับภูมิภาคบ้านเรา เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรรายนี้ให้ข้อมูลว่า ในกลุ่มหมอกลางบ้านไทยใหญ่มีตำราระบุถึง “ผักว้น” หรือเชียงดาว่าเป็น “ยาแก้หลวง” คือ เป็นยาที่ใช้แก้ได้หลายอาการ รักษาได้หลายโรค มีสรรพคุณคล้ายฟ้าทะลายโจร แก้ไข้ แก้แพ้ แก้เบาหวาน หน้าแล้งจะขุดรากมาทำยา หน้าฝนจะใช้เถาและใบ
โดยสับตากแห้งบดชงเป็นชาดื่ม นอกจากนี้ยังใช้แก้แพ้ กินของผิด ฉีดยาผิด เวียนศรีษะแก้ไข้สันนิบาต (ชักกระตุก) หรือเมื่อเกิดอาการคิดมาก มีอาการหย่องคือมีอาการจิตฟั่นเฟือน นอกจากนี้ คนไทยใหญ่ยังใช้ผักเชียงดายังใช้รักษาอาการท้องผูกโดยจะแกงผักเชียงดา รวมกับผักตำลังและยอดชะอมกิน นิยมกินในหน้าร้อน เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย
“ทราบว่า ประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจผักเชียงดาของไทยเป็นอย่างมากและได้นำเข้าใบและยอดอ่อนของผักเชียงดาจากประเทศไทยนำไปผลิตเป็นชาชงสมุนไพร (Herbal tea) ใช้ชงดื่มเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด ส่วนในเมืองไทยขณะนี้ทางอภัยภูเบศรพยายามรณรงค์ให้ปลูก และนำมาทำอาหารรับประทานกันในครัวเรือน
ซึ่งปกติทางเหนือก็จะทำรับประทานกันอยู่แล้ว และมีปลูกกันมากด้วย ที่ปลูกมากและรับประทานมากอีกที่หนึ่งคือที่จังหวัดเลย แต่ทางภาคกลางและภาคอื่นๆ อาจจะไม่ค่อยรู้จัก เราก็พยายามประชาสัมพันธ์ให้ความรู้อยู่ เพราะจากการศึกษาข้อมูลแล้วพบว่าผักเชียงดาเป็นผักที่มีประโยชน์มากจริงๆ”
อ่านถึงตรงนี้ผู้รักสุขภาพที่เป็นคอสมุนไพร หรือผู้ป่วยเบาหวานที่อยากหลีกเลี่ยงการใช้ยาแผนปัจจุบันหลายคนคงอยากจะได้ “เชียงดา” มาครอบครองเพื่อปลูกไว้ในสวนหลังบ้านกันแล้ว งานนี้พลาดไม่ได้ เพราะโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรอยากรณรงค์ให้ปลูกพืชมีประโยชน์ชนิดนี้กันมากๆ จึงได้หอบหิ้ว “กล้าเชียงดา” มาแจกในงานมหกรรมสมุนไพรที่จะจัดขึ้นที่เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2-6 กันยายนนี้ มาแจกกันฟรีๆ วันละ 300 ต้น
...สมุนไพรดีๆ แบบนี้ ไม่เอามาปลูกไม่ได้ซะแล้ว
ขอขอบพระคุณที่มาครับ คุณภควา
ธรรมรักษา
สาธุ สาธุ

ป.ล ลงที่พาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณไม่ได้ครับ ต้องเข้าที่ http://bluetear,bloggang.com รีวิวท่องเที่ยว อยู่ด้านซ้ายครับ เขานำเที่ยวพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณครับ-cool day-

 

wel lcome_dogสวัสดียามเช้าคับพี่อ้างว้าง
เมื่อคืนฝนตกทั้งคืนเลยคับที่โคราช ขอบคุณที่เป็นห่วงคับ
สำเนียงในฟิมพี่นี่ พอได๋เลยเน๊าะ
เช้านี้กาแฟสักถ้วยเนอะ พี่ทิด ทุกท่านด้วยนะจ้ะ :z8

 

..5++ จริงรึนี้.ๆๆๆๆๆ แบบว่าน้องตามมุกคุณพี่ไม่ทันนะดิ..และไม่ใช่น้องเข้าใจผิดคนเดียวหนา..รู้สึกจะมีท่านพี่อีกท่านหนึ่งเข้าใจผิด ด้วยนั่นก็คือ พี่จินนนนนนนนนน.55++ พี่จินส่งเสียงหน่อย...เราก็นึกชื่นชมว่าเด็กคนนี้ดีจังเลย ทำเอาจำฝังใจไปเลย 55++...สรุปแล้วต้องเรียกคุณพี่ริคาร์โด้..เอหรือจะคุณลุงดีหนอ555++

 

180 วินาทีกับข่าวสอด

รายงานความเคลื่อนไหวกลุ่มแดงเดือด (ที่ไม่ใช่เด็กหงส์หรือเด็กผี) สถานการณ์ทั่วไปเรียบร้อย ไม่มีความเคลื่อนไหว เนื่องจากฝ่ายรัฐบวม ออกกฏภาวะฉุกระหุกไป..ทำให้การเคลื่อนไหวต้องฉลอ ไปจนกว่าจะงดใช้กฎดังกล่าว ..

BNN+DNA รายงานสดจากกิ่งไม้ต้นประตู่สี่แยกทำเนียนรัฐบวม
จบข่าว

 

สวัสดีเจ้าค่ะคุณศิ คุณน้องอภิญญา
สมาชิกลูกหม้อในเรือน สมาชิกใหม่แลที่ยังนั่งเสวนา
อยู่ใต้ถุนเรือนก็ดี....มาด้วยความระลึกถึงกัลยาณมิตรทุกท่าน

เพลาที่จะเข้าเรือนมาไม่ทราบจะคุยเรื่องอะไรดี
ก็น้อมจิตรำลึกว่าอะไรที่มันผุดเด่นอยู่ให้เราเห็นตอนนี้
ก็เอาเรื่องนี้ละกัน เป็นอย่างนี้เรื่อยมา

วันนี้คำที่สะดุดใจของคัดเค้า
แลใช้เตือนใจตัวเองอยู่อีกคำ คือ ....
...อย่ารอวันพรุ่งนี้....

คนเราเกิดมามีแต่วันนี้เพียงวันเดียวที่มีคุณค่าสูงสุด
พรุ่งนี้จักไม่มี ทุกอย่างไม่มี มองดูรอบกายไกลออกไป
มองแล้วมันไม่เห็นมีอะไรเลย

ทุกวินาที ณ ตรงนี้มีอะไร มีแต่ดวงจิตเราดวงเดียวเท่านั้น
ที่ยังคงเหลืออยู่ ทุกอย่างหายไปหมดไม่ทราบหายไปไหน
ตอบตัวเองยังไม่ได้ เหลือคำที่บอกอยู่ในจิตใจเราว่า
มันไม่มีพรุ่งนี้ มันมีแต่วันนี้ ตอนนี้ เพลานี้ที่เราเห็นอยู่
ที่เราเข้าใจอยู่ ได้แต่รำลึกถึงพระคุณของทุกสรรพสิ่ง
ที่หล่อหลอมให้เกิดเรามาจนถึงในวันนี้ แล้วได้พบเจอ
กับสิ่งที่เราค้นหามานาน ตลอดเพลาอันยาวโพ้นนับไม่ถ้วน
กับวันแห่งวัฏจักรที่กำลังถูกตัดทอนให้สั้นลงเรื่อย
เกิดความไม่อาลัยอาวรณ์ หากว่าเวลาจักเหลือน้อยลง

ตรงกันข้ามบางคนกลับสร้างเวลาที่จะอยู่ในสังสารวัฏให้ยาวนานขึ้น
คัดเค้าไม่ขอเลือกอยู่นาน แต่ขอเลือกไม่อยู่เลย
มองเห็นเวลาที่เหลือน้อยนิดยิ่งกว่าทองคำอัญมณีล้ำค่าใดๆ
ยิ่งกว่าสวรรค์ทุกชั้นทั้งหมดก็มิปรารถนา ...

โลกอันน่าอภิรมย์แห่งนี้ เป็นที่สถิตของทุกสรรพสิ่ง
มองเห็นมากมายหลากหลายเหลือเกินคละเคล้าปนกันยุ่งไปหมด
แล้วก็ได้ให้กำเนิดสิ่งที่ล้ำเลิศสุดยอดใดๆ ขึ้นมาจนได้
เพื่อให้เกิดสมดุลกันของสรรพสิ่ง นั่นคือ....พระพุทธเจ้า พระธรรม แลพระสงฆ์
เวลาคัดเค้าเหลืออยู่ทุกวินาทีจึงไม่ปล่อยให้ผ่านไปเปล่าๆ
สร้างให้มันเกิดมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แลจักให้มากเข้มข้นขึ้นทุกวันๆ

จริงอยู่คำว่าความพอดี ทางสายกลาง มีบอกไว้
เราก็รู้อยู่แก่ใจเราว่า แค่ไหน คือ พอดีสำหรับเรา
กับบางคนแล้ว ที่เราทำอยู่ เขาอาจบอกว่า มากเกินไป หรือ น้อยเกินไป
บรรทัดฐานตรงนี้คัดเค้าจึงวัดด้วยใจด้วยจิตตัวเอง
เราทำได้แค่ไหนก็เอาเลย เพียงแต่ทำเต็มกำลังสูบที่มี....

ใจมันหวนรำลึกอยู่เสมอว่า ทำไมป่าสวย ทำไมเหมือนเราเคยอยู่ในป่า
ในถ้ำ เราอยู่คนเดียวเราอยู่ได้ เราไม่ชอบอยู่หลายคน ชอบเงียบๆ
จิตมันมองไปไกลเหมือนดั่งความฝัน ดั่งว่าตนเองเคยเป็นพระภิกษุมาก่อน
แล้วปฏิบัติเพื่อความวิมุตหลุดพ้นเพียงถ่ายเดียวฉะนั้น....ได้แต่แปลกใจเหลือกำลัง

คัดเค้ามาวันนี้ได้นำสิ่งที่คัดเค้าคอยเตือนตัวเองมาเล่าสู่ฟัง
บางเพลาเกิดคำถามในใจ อยากเรียนถามท่านผู้รู้บ้าง
แต่ก็เกิดความแปลกกับตนเองขึ้นมาอีกว่า เอ....
เราจะตั้งคำถามนี้อย่างไร จึงจะได้คำตอบที่ตรง
เพราะคัดเค้าสื่อไม่ถูกเลย บางครั้งพอจะถาม
กลับไม่สามารถสื่อมาเป็นตัวอักษรได้ มันไม่ยอมออกมาเฉยๆ
เคยเรียนกับคุณศิให้ทราบแล้ว คุณศิจึงบอกให้เข้าใจ
แต่ทุกสรรพสิ่งมันมีเวลาของมัน เมื่อถึงเวลาจะเกิดคำตอบอย่างนั้น
จึงได้แต่ตามดู ตามรู้ ตามเห็นไปเรื่อยๆ โดยอย่าตั้งคำถาม อย่าสงสัย
เรียกว่า เดินทางไปบนรถหรือเครื่องบิน ขณะเดินทางเฝ้าเพียรถาม
ว่าถึงไหนแล้ว นี่เรียกอะไร เมื่อไรจะถึง....เป็นต้น
ถึงเมื่อไรก็รู้เอง......ไม่มีป้ายบอกด้วย.....อย่าเพิ่งกระโดดลงก่อน
หากไม่มีเหตุฉุกเฉินเตือนภัยก็...ให้น้อมใจมั่นทำด้วยความสงบ
เมื่อนั้นปลายทางจักมีแสงสว่างส่งให้เห็น(ปัญญา) เราจักรู้เมื่อนั้นเนาะ...
คัดเค้าไม่ต้องการให้เกิดคำว่า....เสียดาย...ตอนหมดเวลาสุดท้าย
ที่ทำไม่ได้แล้วน่ะเจ้าค่ะ....

ถามเองตอบเอง ถูกกี่มากน้อยต้องพึ่งคุณศิคุณน้องด้วยนะเจ้าคะ
วันนี้คัดเค้าขอตัวก่อน แล้วจักกลับเรือนอีกคราเมื่อออกพรรษา
หวังว่าคงมีคนคิดถึงคัดเค้านะเจ้าคะ

ด้วยความรำลึกถึงเสมอ
คัดเค้า

 

สวัสดีครับคุณศิ คุณน้องอภิญญา ป๋าเม้ง คุณอ้างว้าง พี่ดีดี คุณคัดเค้า น้องวัชรา พี่ริคาโด้ พี่ชัยวัฒน์ คุณเจนนี่ คุณเมย์ และเพื่อน ๆ กัลยาณมิตรทุกท่าน

เมื่อวานได้พาครอบครัวไปสักการะท่านพ่อช้างเอราวัณ สมุทรปราการมาครับ และได้ถวายกล้วย อ้อย สัปปะรด มะพร้าว ๑ ชุดแด่ท่านพ่อด้วย จำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนตอนที่พิพิธภัณฑ์ยังสร้างไม่เสร็จเคยไปสักการะท่านหลายครั้ง แล้วก็ว่างเว้นไปจนกระทั่งคุณศิได้กรุณามาแนะนำอีกครั้ง ถนนหนทางเปลี่ยนแปลงไปพอสมควรครับ
ตอนขับรถก็ขับเลยทางเข้าด้วยเพราะสับสนกับทางขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก เลยกลับรถวกมาอีกครั้ง เพื่อน ๆ ที่จะไปกรุณาสังเกตุเส้นทางให้ดี ๆ นะครับ ทางเข้าพิพิธภัณฑ์จะต้องขับรถชิดซ้ายแล้วก็ไปลอดใต้ทางด่วนถนนกาญจนภิเษกครับ สักการะท่านแล้วก็แวะเรือนที่จำหน่ายของที่ระลึก ภรรยาและบุตรสาวก็เลือกคนละชิ้นสองชิ้น ส่วนผมได้บูชาเหรียญกลมชุบทองเป็นรูปพ่อเอราวัณมาครับ ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์และระบุปีสร้าง พ.ศ. 2546 สวยงามมากครับ

กลับมาจากสักการะท่านพ่อเอราวัณแล้วก็รู้สึกปลอดโปร่งใจเป็นอันมาก
เมื่อคืนนอนหลับฝันไปว่าตัวเองได้หล่อพระจำนวน ๓ องค์ พระที่หล่อเสร็จออกมางดงามมาก

ขอให้เพื่อน ๆ ทุกท่านมีความสุขกับการทำงานและมีโชคดีนะครับ

 

เห็นอ้างว้างอยู่ดูแลเรือนทุกวันกับพี่น้องในเรือนหลายคนพร้อมหน้าอุ่นใจเจ้าค่ะ
พี่ดีดีแสนสวย คุณเจนนี่ คุณไพฑูรย์ หนุ่มเอ๊าะ คุณเม้ง คุณชาติ คุณทิพย์
คุณหนุ่มริคาร์โด้ คุณชัยวัฒน์ ลูกสาวกกหนูวัช หนูลักษณ์ หนูจิ๊บ หนูปราง
หนู่กุ๊ก หนู่ปิ๋ม หนูเบญจมาศ/อเนก หนูเมย์ สาวปีใหม่ .....

เอาเป็นว่าคิดถึงทุกคนเลยมีบัญชีสมาชิกอยู่ในใจแล้ว
อย่าน้อยใจที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ คัดเค้าส่งบุญให้ทุกวันละกันนะเจ้าคะ......สาธุ

 

สวัสดีครับ คุณป้าคัดเค้า..

...วันนี้คุณป้ามาเยี่ยมลูกหลาน..ดีใจจัง..


..ออกพรรษาแล้วเจอกันนะครับ...สาธุึครับ

 

สาธุครับ ที่ได้มีบุญวาสนาได้ :z8 ไปสักการะท่านพ่อช้างเอราวัณสามเศียร

 

. แม่คัดเค้าจะหายไปนานขนาดนั้นเชียวเหรออีกตั้งเดือน คิดถึง คิดถึง คิดถึง
คิดถึง มาก-มากที่สุดนะคะ.......

 

โอ้โห..วันนี้ น้องวัช มามาดสาวไทย
ดูแล้ว ค่อยนุ่มนวลอ่อนหวานหน่อย อิ อิ อิ

อย่างนี้ รับรองหมู่บ้านคานทองนิเวศน์
ขายน้องวัชไม่ได้..ไม่ได้จริงๆ 5555

ล้อเล่ลลลล ..อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ
ไม่ฉวย..ไม่ฉวย เดี๋ยวหน้าแก่กว่าพี่ดีดี
จะหาว่าไม่เตือน 555

 

อนุโมทนาสาธุ !
ในทุกสิ่งทุกการกระทำที่ดีแล้วของป้าคัดเค้าค่ะ

นี่แหละหนา ที่เรียกว่า
"ความสุขสงบใด ไม่เท่าใจกำหนด"

หากชาตินี้ ป้าดีดีมีบุญวาสนาเพียงพอ
คงจะได้มีโอกาส (นำพาร่างกายอันสวยงามนี้ อิ อิ อิ)
ไปบำเพ็ญอย่างที่ป้าคัดเค้ามีโอกาสบ้าง

ทุกวันนี้ วนเวีัยนอยู่กับภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ
ที่แบกไว้เต็มหัวใจและบ่าทั้งสองข้าง 555

ทำไงได้ ..เกิดมาเพื่อสร้าง..ก็อย่างนี้แหละ!

ถ้ามีโอกาส ขอป้าคัดเค้า รีบเข้าเรือน
เพื่อบ่มเตือน น้องๆ ลูกๆหลานๆ ที่น่ารักของเรา
ให้พวกเขาได้รับบุญกุศลและชีวิตที่ดีขึ้นเนืองๆ ต่อไปนะคะ

สุดท้าย มิมีใดจะกล่าว นอกจาก คำว่า
ยินดีและดีใจยิ่งนัก ที่ได้รับข้อความ ..ข่าวสาร..จากป้าคัดเค้า ค่ะ

;39;39;39

 

ตกใจ..นึกว่ามีสมาชิกใหม่มาเยี่ยมเรือน..

...ขอต้อนรับคุณวัชนักข่าวสาวประจำทำเนียบ..



..จะรอเกาะติดขอบกำแพงรั้ว..กับข่าวที่ไม่มั่ว...ส่งตรงจากวงใน..

 

;aa47
สวัสดีครับพี่ดีดี..

ในวันแรกของสัปดาห์..ทีมีพลังกายพลังใจเต็มเปี่ยม..เพื่อสร้างสิ่งดีงามต่อไป...

วันนี้มาเฝ้าเรือนเป็นเพื่อนกันแล้ว..ดีจัง..ฮ่าฮ่า..

-Happy Smile_