ความจริงขององค์พระพิฆเณศ และการบูชาท่าน

ค่ะ อยู่ที่บางคล้า จ.ฉะเชิงเทราค่ะ

 

ขออนุญาตเล่าสู่กันฟังนะคะ คือก่อนหน้านี้ ประมาณเดือนสิงหาคม ในขณะที่นั่งอยู่ในรถกำลังจะเดินทางกลับบ้าน อยู่ๆ ก็หนักที่ตามาก จนต้องหลับตา เมื่อหลับตา ก็เห็นองค์พระพิฆเณศในท่าประทับยืน สีดำ องค์ใหญ่มาก ก็เกิดความสงสัยว่า อะไรกันหนอ เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็พยายาม serch ใน net พยายามหาว่าองค์ท่านในลักษณะนี้อยู่ ณ ที่ใด ก็หาไม่เจอ จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในขณะที่นั่งดูทีวี ก็เห็นโฆษณาเรื่องการสร้างองค์ท่าน จะมีพิธีที่นครปฐม พอเห็นก็ตกใจว่าที่คือสิ่งที่เห็นนี่หน่า ก็ยังเข้าใจว่าอยู่ที่นครปฐมเพราะไม่ได้ติดตามข่าว แต่เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา มีธุระที่จะต้องเดินทางไปทำบุญที่จังหวัดปราจีนบุรี ปกติที่บ้านจะใช้เส้นทางไปทางรังสิต แต่คราวนี้มีเหตุให้ต้องไปทางบางนาโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนกระทั่งผ่านมาถึงบางวัว ก็มีเหตุให้ต้องหยุดรถ เพื่อหยิบยาให้คุณตาที่เดินทางไปด้วย ซึ่งยาอยู่หลังรถ และบริเวณนั้นจะมีกลิ่นของคอกหมู พอขึ้นรถก็เกิดอาเจียนโดยมีแต่ลม ตอนแรกเข้าใจว่าคงเหม็นกลิ่นอึหมูแน่ แต่ไม่ใช่ รถผ่านตรงนั้นมาระยะหนึ่งได้ กลิ่นอึหมูก็ไม่มีแล้ว แต่ยังอาเจียนอยู่ พลันตาก็ไปเห็นป้ายบอกทางเพื่อจะไปสักการะพระองค์ท่าน จึงบอกแฟนว่า ขอแวะเข้าไปในบางคล้าก่อนนะ แล้่วเราค่อยไปกันต่อ อาการนั้นก็หายเป็นปกติ
นี่คือสิ่งอัศจรรย์สำหรับเราค่ะ ถ้าเดินทางไปทางบางวัว เลี้ยวซ้ายเข้าทางบางคล้า จากปากทางประมาณ 15 กม. ค่ะ แต่จะเป็นทางลดเลี้ยวตามสวนค่ะ ตอนนี้เขากำลังเริ่มประกอบจากฐานค่ะ ถ้าท่านใดมีโอกาสก็แวะไปสักการะท่านกันค่ะ
โอม ศรีคเนศายะ นะมะฮา

 

แล้วถ้านับถือท่าน แล้วกินเนื้อได้หรือเปล่าคะ

 

แล้วอย่างก้อยกับท่านเนี่ย
เคยผูกพันกันมาก่อนหรือเปล่าคะ

เพราะ มีรูปท่านบูชา แต่สัมผัสไม่ค่อยถึงเลย ..

ถวายน้ำทุกวัน แต่ไม่ค่อยได้บูชาอย่างอื่น แล้วก็สวดมนต์ไหว้พระปกติ เพราะ บูชาอยู่ใกล้ๆ โต๊ะหมู่

 

การบูชาด้วยน้ำเปล่ากับองค์ท่าน ก็ดีแล้วครับ ขอให้บูชาด้วยใจ และศรัทธาท่านมากๆ

การจะรู้ว่า เคยมีบุญสัมพันธ์กับองค์ท่านมาก่อนหรือไม่ ดูที่ความรู้สึกครับ
ถ้ารูสึกผูกพันกับท่านอย่างบอกไม่ถูก แสดงว่า เคยเกี่ยวดองกันมาก่อน

 

เรื่องพระพิฆเนศไม่ได้มีหัวเป็นช้าง หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ท่านกล่าวไว้นานมากแล้วครับ ไม่ใช่ความรู้ใหม่แต่อย่างใด ศิษย์ของท่านมากมายต่างก็เห็นแบบไม่ใช่ช้างมานานแล้วครับ

นอกจากนั้นท่านยังพูดถึง ท่านเทพเจ้ากวนอู ท่านพระเยซู และอีกหลายๆท่าน ฯลฯ

 

ผมก็นับถือท่านไว้เป็น เทวตานุสฺสติ อยู่นะครับ ผมนับถือหลายองค์ครับ ทั้งเทพ-พระโพธิสัตว์ของทางฝ่ายมหายาน ของลัทธิเต๋า และของพราหมณ์ ทั้งพระภูมิ-เจ้าที่ แล้วก็ปู่ตา (ทางอีสานน่ะครับ) แต่ก็ไม่ได้งมงาย เราทำตามแนวทางของเทวดา ไม่ใช่ทรงเจ้าเข้าผี ชีวิตเราก็เรื่อยๆสบายๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรมาก แต่บางทีถ้าจะมีเหตุอะไรจะมีนิมิตหรือเสียงกระซิบบอกเราครับ คุณค่าของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เทพ เทวดาทุกชั้น ไม่ได้อยู่ที่วัตถุที่เราใช้สื่อเป็นอนุสสติในการกราบไหว้บูชา

 

ทานเนื้อได้ครับ ไม่มีปัญหาเลย ขอให้มีศรัทธาต่อท่านมากๆ หรือ รักท่านมากๆ สำคัญที่สุดเลยครับ

 

เรื่องดีๆ แบบนี้ต้องช่วยกันดันกระทู้หน่อย

 

แบงค์ สเกทช์กรรม
บอล วัดสุพล
อ ประทีป
อ กษิรา
อ จตุพร

ล้วนมีสายสัมพันธ์กับองค์ท่านทั้งนั้น

 

ผมก็มีอาการแปลก ๆ นะครับ เวลาไปกราบไหว้ท่านที่นครนายก
ที่มีรูปท่านองค์ ใหญ่ ๆ ผมมักจะมึนหัน อยากอาเจียน ทุก ๆ ครั้ง
ผมไปกี่ครั้ง ต่อกี่ครั้ง อาการก็เป็นแบบเดิมทุกที่ แต่เป็นเฉพาะบางสถานที่นะครับ
ผมเป็นอะไรกัน แน่ เป็นอุปทานไปเองหรือป่าวก็ไม่รู้
แต่ผมก็กราบไหว้ บูชา ท่านทุกวันนะครับ แล้วทุกวันพฤหัส ผมก็จะถวาย ผลไม้ ให้กับท่านด้วย

 

ผมก็เป็นนะครับแต่เป็นอาการปิติ ที่ได้เห็นรูปปั้นองค์ท่านตามที่ต่างๆ
แต่ก็เป็นแค่บางรูปเท่านั้น

 

ขอบคุณมากครับ
เป็นเทพที่ผมเคารพนับถือ
องค์หนึ่ง

 

เหตุผลที่ ของการบูชา

สวัสดีครับ ท่านสมาชิกผู้มีศรัทธา

ไม่ได้แวะมาดูเว็บเสียนาน เว็บนี้มีอะไรใหม่ๆ น่าสนใจมากมาย กระทู้นี้ คุณรักไร้พ่าย ได้จั่วหัวสายกุศลอันยาวเหยียดอีกแล้ว เริ่มจากการปลูกสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง มั่นคงให้กับมหาชนแบบนี้ ลงท้ายย่อมได้รับความสำเร็จเป็นที่หวังได้แน่นอน

ขออนุญาตเสริมเพิ่มเติม ดังนี้


การบูชาองค์พระพิฆเณศมหาเทพนั้น เราบูชาในความวิเศษแห่งองค์ท่าน ซึ่งมาจากพรจาก ๘ องค์เทพ มีรายละเอียดดังนี้


พระพรหม ประทานพรว่า "พระคเณศ ขอให้นามของเจ้า จงเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งจักรวาล และขอให้เจ้าจงอยู่ในลำดับแรกของการทำหน้าที่ทั้งหลาย และได้รับการกราบไหว้บูชาจากเทพเทวะทั้งปวง" (ในคณปตินิกาย จะระบุว่าพระแม่ลักษมีเป็นผู้ประทานพรนี้)

พระธรรม ประทานพรว่า "พระโอรสแห่งพระแม่ปารวตี ขอให้พระองค์ทรงเป็นที่รวมแห่งธรรมะ และคุณงามความดีทั้งหมด ขอให้พระองค์ทรงรอบรู้ในศาสตร์ และศิลป์ทั้งปวง และทรงเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา ทรงเป็นผู้ให้การปกป้องคุ้มครอง แก่บริวาร ผู้เคารพบูชาพระองค์ตลอดกาล"


พระลักษมี ประทานพรว่า "พระคเณศ ที่แห่งใดได้ถวายการบวงสรวงบูชาพระองค์ พร้อมด้วยการท่องสวดภาวนามนต์ ข้าพเจ้าจะเป็นผู้ให้ความร่ำรวยและโชคลาภแก่พวกเขา และขอให้พระองค์ทรงมีคู่ครองที่ดี"


พระสรัสวตี ประทานพรว่า "พระคเณศ ด้วยพลังอำนาจแห่งความรู้ทั้งหมด ข้าพเจ้าขอให้พระองค์ ทรงมีความจำเป็นเลิศ และขอทรงเป็นผู้ที่มีวิจารณญานสำหรับเหตุการณ์ทั้งหลายเป็นอย่างดี และยุติธรรม"


พระคายะตรี ประทานพรว่า "พระคเณศ ข้าเป็นมารดาแห่งพระเวททั้งหมด ข้าพเจ้าขอให้พระองค์ ทรงเป็นมหาเทพเหนือบรรดาผู้รู้ในพระเวททั้งหลาย"


พระหิมาลัย ประทานพรว่า "พระคเณศหลานรัก ขอให้เจ้ามีรัศมีสุกสว่างเหมือนดังพระกฤษณะ ด้วยการทำสมาธิมั่นในพระองค์"


พระเมนคำ (ชายาพระหิมาลัย) ประทานพรว่า "พระคเณศ ข้าพเจ้าขอให้พรแก่พระองค์ ขอให้ทรงมีน้ำพระทัยเมตตาเหมือนข้าพเจ้า ขอให้ทรงเป็นผู้ขจัดอุปสรรค์ทั้งหลายทั้งปวง และทรงเป็นผู้สร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นแก่จักรวาล"




พระนางอุมาปราวตี ในฐานะพระมารดาได้ประทานพรว่า "ลูกรัก ขอให้เจ้าจงเป็นใหญ่เหนือนักพรตทั้งหลาย เป็นพระผู้ประทานอำนาจอันยิ่งใหญ่เหนือธรรมชาติ มีความรู้เป็นเลิศและเป็นศูนย์กลางแห่งพรอันยิ่งใหญ่ทั้งหมด ขอให้เจ้าเป็นอมตะ มีทรัพย์มหาศาล และเป็นเทพแห่งความรู้ ความฉลาด และความสำเร็จทั้งปวง"



พรทั้งหมดนี้ รวมอยู่ในองค์พระพิฆเณศองค์เดียว และ ไม่มีเทพองค์ไหน ได้รวมพรไว้ที่องค์ได้มากเท่าองค์พระพิฆเณศ

สำหรับการบูชาพระพิฆเณศนั้น ในโหราศาสตร์วิชาดวงขุมทรัพย์ ได้ระบุไว้โดยละเอียด ทั้งแก่นธรรมและกระบวนวิธี ก็เป็นอย่างที่หลายๆ ท่านได้ทราบๆ มา แต่จะมีข้อปฏิบัติที่ผมอยากจะเน้น สองสามข้อดังนี้

๑. ต้องวิรัติ คือ งดเว้น เนื้อวัวให้ได้ แบบไม่ต้องกลับมาทานอีก
๒. ห้ามบูชาอาหารคาว หากเป็นอาหารหวาน ต้องไม่มีส่วนผสมของไข่ หรือ สิ่งมีชีวิต โดยเด็ดขาด
๓. การปฏิบัติบูชา มีธรรม ถือศีล ถือเป็นการบูชาอย่างที่สุด ไม่มีสิ่งใดประเสริฐกว่าอีกแล้ว

ถ้าจะบูชาด้วยสิ่งของ ต้องเป็นขนมลาดู ขนมโมทะกะ เท่านั้น ซึ่ง จะพบเห็นได้ในแทบทุกองค์เทวรูปว่า ท่านจะถือถาดขนม ก็คือขนมนี้นี่เอง ท่านโปรดปรานมากขนาดไหน ดูจากคลิปนี้ จะเข้าใจเลย

<embed src="http://www.manytv.com/player.swf" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" flashvars="file=http://www.manytv.com/flvplayer.php?file=cd2l2LnHDrXJ61f37xhHPFiHJ5M19a6/.flv&autostart=false&image=http://www.manytv.com/flvplayer.php?img=cd2l2LnHDrXJ61f37xhHPFiHJ5M19a6/&skin=http://www.manytv.com/manytv.swf&logo=http://www.manytv.com/images/ManyTVLogo.png" width="560" height="361">




<embed src="http://www.manytv.com/player.swf" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" flashvars="file=http://www.manytv.com/flvplayer.php?file=tD5iubv0XPFVC6HVnHkhYbuljn5D1lOr.flv&autostart=false&image=http://www.manytv.com/flvplayer.php?img=tD5iubv0XPFVC6HVnHkhYbuljn5D1lOr&skin=http://www.manytv.com/manytv.swf&logo=http://www.manytv.com/images/ManyTVLogo.png" width="560" height="361">

​

ขนม "โมติคูร์ ลาดู" นั้น เป็นขนมอินเดียโบราณ สืบค้นได้ว่าเริ่มมี
การทำขนมชนิดนี้ขึ้นมาเพื่อบูชาองค์เทพ บนสรวงสวรรค์ ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 12
ขนมโมติคูร์ ลาดู นั้นเอง ก็มีการเรียกในชื่อที่ต่างๆ กัน เช่น "ลาดู" , "ลัดดู", "ลาดูป" เป็นไปตามอิทธิพลของภาษาท้องถิ่น ที่มีการออกเสียงและสำเนียงแตกต่างกันไปบ้าง
ขนมโมติคูร์ ลาดู เป็นขนมที่นิยมทำกันขึ้นเพื่อถวายเหล่าเทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจ ของประชาชนชาวอินเดียจำนวนมาก ตลอดมา ตำนานโบราณหลายเล่ม ระบุตรงกันว่า ขนมโมติคูร์ ลาดู นี้ เป็นขนมที่องค์มหาเทพพิฆคเณศ ทรงโปรดเป็นพิเศษ จึงเกิดการบูชาด้วยขนมที่ท่านทรงโปรดมากที่สุด สืบทอดกันเป็นประเพณีนับโบราณกาลมา

​

องค์มหาเทพพิฆคเณศ แทบทุกปาง จะทรงถือถากขนมโมติคูร์ ลาดู เสมอ​

การทำขนมลาดูนี้ จะเริ่มทำในวันที่ 10 หลังจากเสร็จพิธี "นวราตรี" เรียบร้อยแล้ว เป็นขนมที่ทุกๆ งานเลี้ยงจะต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานบูชาพระแม่ลักษมีเทพ ในเทศกาลแห่งแสงสว่างที่ชื่อว่า "เดปาวาลี" ด้วยแล้ว ขนมโมติคูร์ ลาดู จะเป็นขนมหลักที่ขาดไปไม่ได้เป็นอันขาด ความหวานของขนมจะเป็นตัวแทนของการมีกิน มีใช้ และ มั่งคั่งของผู้บูชา

ขนมโมติคูร์ ลาดู เป็นขนมที่จะมีในงานมงคลต่างๆ เป็นขนมที่มีรสชาติหวาน มัน กลมกล่อม ทำจากแป้ง เนย และ น้ำตาล ผ่านกรรมวิธีการปรุงหลายขั้นตอน ขนมลาดูที่รสดีนั้น จะต้องเคี่ยวไฟอ่อนใน "กี" หรือ เนยเหลวแบบอินเดีย และเพราะเป็นขนมไหว้บูชาพระ จึงมักทำกันครั้งละมากๆ จำนวนขนมที่ทำก็มากด้วย ใช้คนหลายคนช่วยกันเคี่ยวกันตลอดเวลาห้ามหยุดพัก นิยมถวายบูชาองค์พระพิฆคเณศครั้ง 9 ลูก เป็นอย่างต่ำ จัดใส่จานว่างเรียงให้สวยงาม ถวายพร้อมกับนมสด ขนมอื่นๆ หรือผลไม้ ตามแต่ฐานะของผู้บูชา
ทำการสักการะบูชา ให้ถึงที่สุดด้วยการชำระทั้งกายและใจให้บริสุทธิ์ในวันที่จะทำพิธีบูชา ด้วยการถือศีลอด ไม่กินเนื้อสัตว์ทุกชนิด ตั้งใจภาวนาสมาธิให้จิตมีกำลัง แล้วอธิษฐานในสิ่งที่ปราถนาด้วยการแผ่อุทิศบุญกุศลที่ได้จากการปฏิบัติทาน ปฏิบัติศีล และปฏิบัติภาวนาในวันนั้น แก่องค์เทพทั้งหลาย ขอให้ท่านได้ช่วยเอื้อเฟื้อ ช่วยลดอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต อำนวยความสำเร็จให้กับชีวิต จะได้มีกำลังในการปฏิบัติดี สร้างบุญกุศลต่อไป


ท่านใดต้องการสั่งซื้อขนมนี้ไปบูชา มีขายที่นี่ครับ www.mongkut.com

 

ขอบคุณ อ มงกุฎครัย ที่มาช่วยให้ข้อมูล

 

สิ่งสำคัญในการจะบูชาท่านคือ ใจ ครับ

ใจที่รักท่านมากๆ เหมือนที่เรารักญาติพี่น้องของเรา
เอาความรู้สึกแบบนั้นส่งไปให้ท่านนะครับ