หลวงปู่พิบูลย์ถูกถ่วงน้ำไม่ตาย

ของบางอาจารย์ไม่สามารถกันได้ จะมีเฉพาะบางพระอาจารย์เท่านั้น เคยเห็นคนโดนผีเข้าในคอมีสายสิญจน์และรูปพระสงฆ์เกจิทางชัยบาดาล ผียังไม่เกรงใจเลย

 

สวัสดียามเช้าพี่ เล่าเรื่องผี รับปีใหม่เหรอ (deejai)

 

ขอบใจน้องหมอมากที่มาให้ความรู้ใหม่ๆ เรื่องนี้พี่เอกก็เพิ่งรู้เหมือนกัน

 

ทำไมพี่ๆไม่ทำหนังสือรวบรวมประวัติครูบาอาจารย์ใหม่ๆไว้เผยแพร่บ้างครับ
จะมีโครงการทำบ้างไหมรอติดตามอยู่ครับ

 

โอกาศต่อไปครับ ทั้งหนังสือ ทั้งหอบูรพาจารย์ ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียวครับ แต่วังคลีโอพัตรา สร้างใน 80 วัน

 

waad dee krub p'aek always missing n still cheer up u na krub /mak

 

ผมเป็นคนสร้างครับ ปู่ฤๅษีท่านอยู่กับผมมาก่อนแล้ว หลวงปู่ไม่เคยข้องเกี่ยวกับฤๅษีมาก่อนเลย หัวครูที่อัญเชิญมาครอบก็คือหัวบรมครูปู่ฤๅษี ๑๐๘ของผม หัวครูหัวนี้ถึงแม้คุณอัญเชิญครอบเองด้วยใจตั้งมั่นศรัทธา หยิบสวมหัวเองก็ได้ผล แต่ถ้าไปเอาหัวอื่นมาครอบอย่างที่แอบทำกันเป็นว่าเล่นครอบทุกวัน วันใดก็ได้เพื่อหากิน ไม่ได้ผล ปู่ฤาษีท่านคงไม่มาทุกวันให้หากินหรอกครับ

 

บางทีพระบางท่านไม่ได้เป็นวิชาบางอย่าง พวกศิษย์หรือนายทุนก็ทำออกมาให้ท่านเสก คนเอาไปใช้ไม่ได้ผล พระบางท่านไม่สำเร็จญาณเสกของจึงไม่ขลัง คนก็ไปสร้างภาพท่าว่าสุดยอดเกจิ ของออกมมากมายเหมือนของเล่น พอเอาไปใช้ไม่ได้ผลจริง ก็กลายเป็นขยะไสยศาสตร์ไป บางรายก็เจิมหน้าท้อง ทรวงอกนมผู้หญิงก็มี คนที่ไม่รู้เรื่องพระธรรมวินัยของพระ ก็เห็นชอบไปว่าท่านเมตตาเจิมให้ เลยแปลกๆไปในปัจจุบัน อาจารย์บางรายก็อ้างไปเรียนวิชามาจากเกจิดังๆ พอสืบทานอายุเขาแล้ว เกิดไม่ทันก็มี โตไม่ทันก็มี

 

วิชาที่ศิษย์ทำให้ก็ยังไม่มีจริงอีกต่างหากเมคเอาล้วนๆให้พิศดารเข้าว่าคนชอบอยากลองของแปลกแบบนี้ที่โฆษณาตามสื่อต่างๆมีเยอะ

 

การเข้านิโรธสมาบัตินั้น
ไม่ใช่ว่าพระอรหันต์หรือว่าพระอนาคามีทุกองค์จะเข้าได้ ต้องเป็นปฎิสัมภิธาญาณ(ขั้นสูงสุด) เท่านั้นที่เข้าได้
และการที่ท่านจะเข้าท่านก็ไม่ได้ประกาศซะเป็นข่าวหน้า 1 แต่ว่าท่านจะบอกกับพระที่สนิทกันไว้ให้รับทราบว่าท่านจะเข้านิโรธฯ
ตัวอย่างก็ ครูบาชุ่ม วัดวังมุ่ง ท่านจะเข้าท่านก็มาบอกหลวงพ่อฤาษีลิงดำว่าท่านจะเข้านิโรธฯนะ แต่ว่าด้วยหลวงพ่อท่านอยากให้ลูกศิษย์ได้เจอของจริง หลวงพ่อเลยบอกลูกศิษย์ของท่าน ซึ่งก็มีไม่มากอะไรแค่ไม่กี่หมื่นคน ทำเอาวัดครูบาแทบแตก ต้องมีตำรวจคอยจัดการระเบียบเพราะคนเตรียมทองเตรียมเพชรไปทำบุญเยอะ
การทำบุญกับพระที่ออกจากนิโรธสมาบัตินั้นมีผลให้เป็นเศรษฐีในปัจจุบันนะชาติทันที คนเลยอยากทำกัน

 

ปกติการครอบเศียรฤาษี นี่ พวกที่เรียนวิชานาฏศิลป์ ฟ้อนรำ ดนตรีไทย พวกแสดงลิเก จะครอบกันนะ ทางไสยศาสตร์เขาไม่ได้เอาเศียรมาครอบกันไม่ใช่เหรอ ซึ่งครอบโดยเอาตำราที่เรียนมาให้ครูประสิทธิ์ประสาทความรู้ ใช่ไหมครับ เรื่องครอบเศียรฤาษีถ้าจำไม่ผิด เริ่มมาจากหลวงพ่อแล วัดพระทรง เพชรบุรี เพราะหลวงพ่อแล ท่านเคยป็นลิเกมาก่อน แต่ที่แพร่หลายก็หลวงพ่อบุญมี วัดมารวิชัย ท่านถ่ายภาพนั่งถือเศียรฤาษี คราวนี้ต่อมาพระรุ่นหลังๆ มักจะมีภาพถ่ายนั่งถือเศียรฤาษีแทบทุกอาจารย์ทั่วไทยเลย กลายเป็นการเอาอย่างตามๆกันมา วัตถุมงคลหลวงพ่อบุญมี ผมมีบูชาคือ ท้าวเวสสุวรรณ หน้าเทพ ขนาดพกพา ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ พระผงสมเด็จของท่าน เคยให้สมเด็จปรกโพธิ์แก่รุ่นน้องไป เขามาเล่าว่าสาวๆมาคุยด้วยตลอด เมตตาดีมาก เมื่อก่อนมีตะกรุดเมตตา ดอกตะกั่วเล็กๆเชือกไนล่อนเขียว ต่อมาเพื่อนผมมาตื้อเช่าต่อไป เพื่อนเอาไปใช้ไม่นานก็ดันทำหายซะอีก ผมก็นับถือท่าน อีกทั้งหลวงพ่อเชิญ หลวงพ่อไวทย์

 

เบื่อพวกบิดเบือนอ้างนิโรธกรรม ทางเหนือไม่มีหรอกครับมีแต่เข้ากรรมซึ่งก็คือธุดงควัตร ๑๓

 

ถูกต้องนะครับ แต่เดิมการครอบครูทางไสยศาสตร์นั้นไม่มีการนำหัวฤๅษีมาครอบปัจจุบันก็ไม่มีเช่นกัน ส่วนการครอบหัวครูฤๅษีนั้นประยุกต์มาจากครูนาฏศิลป์และลิเก ทีแรกครอบให้ศิลปิน ดารานักแสดงก่อน ต่อมาชาวบ้านทั่วไปก็อยากได้บ้างตามกระแสเลยมีการประยุกต์มาครอบกันทั่วไปทุกสำนักแต่ครอบเพื่อให้มงคลบังเกิด ซึ่งต่างกับการครอบครูที่เรียนวิชาไสยศาสตร์ ครอบแบบนั้นเขาครอบไม่ไห้เคลื่อนเสื่อมถอยครับ ครอบเพื่อให้ไปเป็นครูรุ่นต่อไป เรียนมาแต่ไมสำเร็จก็ไม่ครอบให้นะครับ ให้ยกขันธ์ขอเรียนอย่างเดียวอยู่อย่างนั้น

 

คึกคักกันตั้งแต่สายๆเลยนะเนี่ย...

 

ที่มาของบรมครูปู่ฤาษีพัดโบกกับความคิดเห็นส่วนตัวของผม

ที่มาของบรมครูปู่ฤๅษี
<O
จำได้ว่าผมพบหลวงปู่ครูบาสิทธิครั้งแรกที่วัดไผ่ล้อมตอนที่ท่านมาเสกเหรียญนพรัตน์นพคุณขณะนั้นผมมีหน้าที่นิมนต์และดูแลพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศกว่า ๑๐๘รูปมานั่งปรกปลุกเสก พอท่านมาถึงโบสถ์หลังเก่าซึ่งเป็นที่รับรองพระเกจิได้นั่งคุยกันสักพักผมเกิดศรัทธาในตัวหลวงปู่มากจึงฝากตัวเป็นศิษย์และนำผ้ายกครูของผม(ผ้าแดง)และประคำครูให้ท่านเสกขณะนั้นจำได้เลยว่าเกิดลมกรรโชกพัดวูบอย่างแรง แต่ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไรเพียงแต่รับรู้ได้ว่าหลวงปู่ครูบาสิทธินี่ท่านขลังจริงๆ<O
<O
ต่อมาอีกราวๆขวบปีผู้ใหญ่ท่านนึงได้มาขอให้ผมช่วยอาราธนาพระเกจิมาทำพิธีอธิษฐานจิตให้พระสยามเทวธิราชและพระเสื้อเมืองคุ้มครองดวงชะตาของบ้านเมืองพิธีนี้กระทำที่ศาลหลักเมืองสนามหลวงผมได้นิมนต์หลวงปู่ครูบาสิทธิลงมาอีกครั้ง คราวนี้เมื่อพบกันผมรีบตรงเข้าไปกราบท่านท่านดีใจได้ให้พรและเป่าหัวผมอีกซึ่งระหว่างนั้นก็มีลมพัดวูบ ทั้งๆที่อยู่ในห้องรับรองซึ่งเป็นห้องแอร์ตอนนั้นผมก็ยังไม่ทันคิดอะไรอยู่ดี
<O
และคราวนี้ทุกครั้งที่ผมได้รับมอบหมายให้จัดพิธีใดๆไม่ว่าจะเป็นการบวงสรวง ไหว้ครู หรือแม้กระทั่งเสกจตุคาม เวลาประกอบพิธีมักมีลมกรรโชกแรงๆตลอดผมก็ได้แต่แปลกใจทุกครั้งแม้แต่พิธีบวงสรวงและกดพิมพ์นำฤกษ์วัตถุมงคลรุ่นรักชาติที่หลวงปู่เจือท่านเป็นประธานวันนั้นเกิดลมกรรโชกวูบวาบน้องที่เป็นนักเขียนหนังสือพระได้เอาพระกริ่งของเค้ามาเข้าพิธีด้วยออกปากเลยว่า พิธีดีจริงๆพี่ มีลมกรรโชกแรงๆเป็นระลอกแต่เทียนไม่ดับแสดงถึงการรับรู้ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตอนนั้นผมก็ได้แต่ฟังแล้วคล้อยตามพอมาพบภาพศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดเจดีย์ก็ได้แต่ทึ่งในความอัศจรรย์จนแทบลืมคิดเรื่องลมกรรโชกและก็ยังนึกหาประเด็นเชื่อมโยงอะไรไม่ได้
<O
หลังจากนั้นมาอยู่ๆผมก็เริ่มคิดอยากบูชาปู่ฤๅษีเนื่องด้วยว่าสำนึกว่าท่านเป็นบรมครูองค์ต้นของเวทย์วิทยาที่ผมได้ไปร่ำเรียนมาในเวลาเกือบ ๒๐ ปีที่ผ่านมา จึงได้เริ่มศึกษาประวัติความเป็นไปเป็นมารวมถึงพระเวทย์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงจนไปพบคาถาเชิญของสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสีจึงได้นำมาบริกรรมภาวนาจนเริ่มเห็นผล จากนั้นก็ไปหาเช่าหัวครูมาจากช่างที่ทำจำหน่าย แล้วเริ่มนำพาไปให้ครูบาอาจารย์ทั่วประเทศกว่า ๑๐๘ รูป อัญเชิญครูบาอาจารย์ในสายท่านลงสิทธิประสาทพรและได้นำให้พระเกจิทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ใช้ครอบในพิธีกรรมต่างๆ ปรากฏว่าแรงมากทีเดียว ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ของหัวบรมครูปู่ฤๅษีนี้สามารถทำให้หลวงพ่อ หลวงปู่ บางองค์ดังขึ้นมาได้ง่ายๆ ทั้งที่หลวงปู่บางองค์ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับฤๅษีมาก่อน หรือแม้แต่คาถาเชิญคาถาครอบท่านก็ไม่รู้ ถ้าหลายคนสังเกตุจะเห็นว่าก่อนที่จะมีการครอบทุกครั้งผมจะต้องเป็นคนเชิญปู่ฤๅษีเองเสมอ
<O
หลังจากที่ผมเริ่มบูชาปู่ฤๅษีเป็นนิจแล้ว เกือบทุกครั้งที่ผมจุดธูปเทียนอัญเชิญ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณพระสังฆคุณ เทพ พรหมบรมครูปู่ฤๅษีและอุปัชาย์ครูบาอาจารย์ทุกๆองค์ลงประสิทธิในพิธีการต่างๆมักจะรับรู้ได้ถึงแรงลมหอบเป็นลูกๆ แรงบ้าง เบาบ้างมาตลอดแต่ไม่รู้ว่าคืออะไร<O
<O
จนกระทั่งผมจัดงานไหว้ครูขึ้นที่วัดอโยธยาเนื่องจากผมเว้นไหว้ครูมาปีหนึ่งรู้สึกไม่สบายใจโดยในปีนั้นให้ถือเป็นงานไหว้ครูของหลวงปู่ฯองค์หนึ่งไปด้วยเสียเลยโดยได้นิมนต์ครูบาแม้วมาอ่านโองการบวงสรวงแต่แรกงานนั้นคิดไว้ว่าจะเป็นงานไหว้ครูเล็กๆไหว้ครูอย่างเดียว..มากสุดก็ให้มีการครอบหัวครูแต่มีพี่บางคนไม่ยอม...บอกว่าไหนๆมีพิธีสำคัญทั้งทีต้องทำวัตถุมงคลที่ระฤกช่วงนั้นผมก็ทัดทานไปว่าออกถี่มากแล้ว ออกของเดือนละรุ่นแต่พี่เขายืนยันว่าน่าจะทำไปเลยนะด้วยความที่เกรงใจพี่เขาเพราะเขามีศรัทธาเต็มเปี่ยมพอวางโทรศัพท์ก็เลยมานั่งคิดว่าจะทำอะไรตอนนั้นก็เห็นภาพปู่พัดโบกขึ้นมาในมโนทวารทันที และก็ตามด้วยปู่ฤๅษีทันใจเอาหล่ะวาทีนี้ใครเป็นใครจะสร้างองค์ใดดี สรุปก็เลยสร้างทั้ง ๒ องค์ปู่พัดโบกองค์เล็กออกให้บูชา ปู่ทันใจองค์ใหญ่ ไว้ประดิษฐานในหอบูรพาจารย์เลยโทรหาช่างช่างก็แสนใจดีรับงานนี้โดยใช้เวลา๒สัปดาห์ทั้งปั้นทั้งกรอกเททองขัดแต่งเป็นไปได้ยังงัยแทบไม่น่าเชื่อและไหนจะที่เททองในพิธีอีกการปั้นพิมพ์นั้นก็อัศจรรย์เหลือเกินช่างปั้นๆได้ตามจินตนาการทีผุดเกิดขึ้นในมโนทวารของผมเป๊ะเลยทั้งๆที่ผมอธิบายงานทางโทรศัพท์เท่านั้นเพราะทุกอย่างเร่งไปหมดปู่ฤาษีทั้ง๒องค์นั้นจึงเป็นองค์แทนแห่งความสำเร็จรวดเร็วทันใจจริงๆ

และระหว่างพิธีการไหว้ครูและเททอง คราใดที่ผมยืนกำหนดจิตกำหนดใจตั้งมั่นระฤกถึงครูบาอาจารย์ก็จะปรากฎลมหอบกรรโชกแต่เทียนไม่ดับอีกทุกครั้งครา แสดงให้เห็นว่าในพิธีกรรมใดๆถ้าผมเป็นคนจัดมักมีเรื่องทำนองนี้ ต่อมาผมจึงลองอธิษฐานให้ท่านช่วยลองดูบางเรื่อง ท่านก็ช่วยและช่วงนั้นผมเริ่มค้นคว้าจนได้คำตอบว่าท่านคือใครมีที่มาที่ไปอย่างไรและมั่นใจแล้วว่าเหตุการณ์ลมกรรโชกนั้นเกี่ยวข้องกับบรมครูปู่ฤๅษีพัดโบกแน่และเริ่มเข้ามาสัมผัสกับผมตั้งแต่ตอนที่ผมได้พบกับหลวงปู่ครูบาสิทธิครั้งแรกเป็นต้นมา

 

ส่วนรายละเอียดมากกว่านี้ไปดูได้ที่ลิงก์นี้ตอนเย็นครับ ผมจะเปิดหลวงปู่ฯอีก๘องค์ ไม่ค่อยอยากลงหลายที่เน็ตมันช้า

http://palungjit.org/threads/ฟ้าสร้...ะงั่ง-แมงวันคำ-ตะกรุดนะหน้าทอง.215047/page-85

 

คงเป็นเพราะมีความเกี่ยวข้องกันมาแต่ชาติก่อน จึงมีสื่อเชิญครูฤาษีมาพิธีได้ขลัง ผมไม่แปลกใจหรอก เพราะคนเราย่อมมีวาสนาติดตัวมาแต่อดีตชาติ ที่สั่งสมกันมาเป็นบารมีเฉพาะบุคคล

 

งานวันที่ ๑๐ มค.นี้เงินเหลือเท่าไรถวายวัดปางต้นเดื่อหมด

เพราะโบสถ์ยังขาดงบประมาณกว่า ๓ ล้าน และหลวงปู่ไม่เคยขอใคร ท่านไม่ใช่พระขี้ขอ ชอบบอกจะสร้างโน่นจะสร้างนี่ ทุกอย่างดำเนินไปด้วยศรัทธาอันบริสุทธิ์ของญาติโยมจริงๆ และคนบนยอดดอยนั้นไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร ดังนั้นสมควรที่พวกเราจะก่อการบุญ

 

หลวงปู่ครูบาสิทธินักบุญแห่งขุนเขา เทพเจ้าแห่งดอยลาง

 

waad dee krub p'aek how r u doing? pls TC. /mak nz.