จะรู้ได้ไงว่าเราบรรลุโสดาบันแล้ว

จะรู้ได้ไงว่าเราบรรลุโสดาบันแล้ว มีอะไรเป็นเกณฑ์ครับ

 

นอนหลับแล้ว ตื่น ก็รู้ว่าเราตื่นแล้ว ไม่ต้องไปถามใครว่า การตื่นเป็นไง
หมดฝันด้วย ..ความจริงล้วน ๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

โฟเอส พี่เกิด กิ๊ว กิ๊ว

 

ออกทะเลอีกแล้ว เกิดเป็นคน กลับมาๆๆๆ สติ ไปชลบุรีกลับบ้านดีกว่า ไปกินข้าวให้อิ่ม

 

อยากรู้เพื่ออะไร เพราะความอยากรู้ ก็เป็นกิเลส รู้แล้วก็เป็นมานะทิฐิ บางทีก็โดนหลอก จนเป็นบ้าคิดว่าเป็นอย่างนั้นจริง คนที่เขาเป็นคนอื่นไม่สามารถรู้ได้ถ้าคุณธรรมไม่เท่ากันหรือมากกว่ากัน แต่โดยมากคนที่เป็นเขาจะรู้ของเขาเองไม่มีอาการสงสัยแต่อย่างใด มุ่งเพียงหนทางที่ทำให้ละตัณหาอุปาทานทั้งหลาย เท่านั้นครับ

 

กิ๊ว กิ๊ว เชย เชย

 

เปิดทิ้งไว้นาน จนโซดาอืด ...

โซดาบาน ...ซดเหล้า .....เคล้านารี
ทำป่นปี้ ......มัวหมอง ....จนฟองหาย
พระรัตน .....มีไม่สน ......จนตัวตาย
ท่านว่าไว้ ...โซดาบาน ...สำราญเอย

 

คนที่รู้ว่าตัวเองบรรลุโสดาบันแล้วเค้าไม่เอามาบอกหรือประกาศตัวว่าบรรลุแล้วหรอกคับ
เค้าปฏิบัติเอง รู้ได้ด้วยตนเอง และถ่อมตนเอง ว่ายังไม่ใช่ ยังไม่ถึง
สา....ธุ(อันนี้ความคิดผมเองนะ แต่ไม่รู้ว่าจิงๆแล้วมันเป็นยังไง)

 

คุณคนนี้เล่นคำ ไม่ค่อยดีเท่าไร ใจไม่ได้เคารพพระรัตนไตรเลยนี่นา
ถึงได้เอาคำพ้องเสียงมาเล่นง่ายๆ แบบนี้..

 

โซ-ดา-บาน กับ โส-ดา-บัน ความหมายชัดนาคร้าบบ คำออกเสียงก็ต่างกันชัดนาคร้าบ.....
แต่ก็รับไปพิจารณาคร้าบบบ ขอบคุณที่ตักเตือน

 

นี่แหละที่เรียกว่าคน เอาทุกอย่างมาประสมปนเป คนให้เกิดความวุ่นวาย
เรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ มีรักโลภโกรธหลง โมโหโทโส
นี่แหละคือพวกเรา คน
สา....ธุ

 

ลองไปศึกษาเรื่อง สังโยชน์ 10 ดูนะครับ

 

อนุโมทนา .การถูกตักเตือน และไปตักเตือนบ้าง ก็เพื่อฝึกฝนตนเอง
สิ่งใดๆๆ ขจัดออก .. เพือหัวใจใสปิ๊งๆๆๆๆ

 

อนุโมทนา คุณลูกบัวผัน เช่นนั้นแล.......

 

ก็ตรวจสอบใจดู สังโยชน์3ข้อแรก
ศีลสมบูรณ์ไหม ถือเป็นข้อบังคับ ละอายที่จะทำชั่ว หรือเห็นภัยที่จะเกิดจากการทำชั่ว

ยังเหนี่ยวยึดมั่นตัวตนไหม เวลาทุกข์จรมา วางได้ไหม

ศรัทธาในศาสนาจริงๆไหม หรือเรื่องนี้เค้าใช้เป็นจิตวิทยามวลชน หลอกคนให้ทำความดี
จะได้ควบคุมให้สังคมสงบอยู่ในอำนาจ หรือนี่เรื่องจริงทางวิมุติหลุดพ้นโลก

 

ตอบจริงๆแล้วนะจะรู้ได้ไงว่าเราบรรลุโสดาบัน ก็ดูจากสังโยช3ที่โสดาบันต้องละได้ไงครับ ว่าเราละได้ครบหรือไม่ ละโดยตั้งใจข่มให้ครบตรงตามสังโยช3ด้วยการบังคับข่มใจอยู่ตลอดเวลาหรือเรายังต้องคอยระวังตัวไม่ให้ทำผิดจากสังโยช3อยู่หรือไม่

หรือละได้โดยไม่ต้องคอยตั้งใจที่จะข่มใจให้เป็นผู้ละสังโยช3ได้ ไม่ต้องคอยระวังทำผิดสังโยช3อีกต่อไป
โดยเฉพาะข้อ สักกายทิฐิ ละความเห็นผิดว่า ขัน5เป็นเรา เรามีความเห็นว่าขัน5ไม่ไช่เราจริงหรือไม่
หรือเป็นแค่ความเห็นที่ตั้งไว้ตามที่ได้ยินมาแล้วระรึกบ่อยๆว่าไม่ไช่เรา ไม่ไช่เราจนอุปทานไปเองว่าเห็นว่าขัน5ไม่ไช่เราแล้ว....

อีกอย่างหนึ่งเรื่องละสังโยช3ข้อนี้ผมเห็นว่า เขาไม่ได้มาตั้งใจหัดละกันทีละข้อ

เวลาที่ละสังโยชได้ขาดจริงๆนี้มันขาดพร้อมกัน หรือต่อเนื่องกันทันทีครับ
คือ เมื่อละสักกายทิฐิได้ ก็จะเห็นธรรมเมื่อเห็นธรรมด้วยตนเองจริงๆแล้วก็ทำให้เกิดศรัทธาในพระพุทธเจ้าและ ละวิจิกิจฉาได้ทันทีเมื่อไม่มีความลังเลสงสัยใดๆในธรรมของพระพุทธเจ้าเพราะได้เห็นธรรมจริงแล้วด้วยตนเอง และ
ก็จะละสีลัพพัตปรามาสได้โดยไม่ต้องฝืนใจตนเองมากนัก มันจะต่อเนื่องกันแบบนี้ (มั๊งๆ หุหุหุ)<!-- google_ad_section_end -->

 

ทำไมพอละสีลัพพัตปรามาสจึงละแบบไม่ต้องฝืนใจตัวเองมากนัก
แปลว่าละสีลัพพัตปรามาสต้องฝืนใจตนเองหรือครับ

 

ธรรมะไม่ควรนำมาพูดเล่น
ต้องเทิดทูลบูชาอย่างที่สุด
โสดาบัน ได้เองก็รู้เอง
สร้างเหตุให้ดีก็เพียงพอแล้ว...

 

ละสังโยชน์ ๓ ได้อย่างเด็ดขาด
สังโยชน์ สามมีอะไรบ้าง
๑ สักกายทิฏฐิ จิตเห็นว่าร่างกายนี้ว่างเปล่าจากความยึดถือเป็นตัว เป็นตน บุคคล เขาเราไปแล้ว

๑ วิจิกิจฉา ไม่มีความสงสัย ความเคลือบแคลง ว่านรก สวรรค์มีจริงหรือ ป่าวเพราะสามารถเอาจิตไปรู้เห็นความเป็นทิพย์ได้
เหมือนกับถอดไส้หญ้าปล้องออกจากหญ้าปล้อง

๑ สีลัพพตปรามาส ไม่ถือมงคลตื่นข่าวเชื่อในเรื่องที่ตื่นกันไปเอง ว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือการ กระทำ<WBR>อย่างหนึ่งอย่างใดเป็นมงคลโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งตามสภาพธรรมก็คือไมยึดถือพรตพรหมจรรย์ที่ผิด มากไปกว่าตนของตนพึ่งตนเอง

ใครมีสามประการนี้ ก็พยากรณ์ได้เลยว่าท่าน บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันตลอดถึงยอมรับนับถือพระศาสดาของตนองค์เดียวเท่านั้นที่เปิดประตูมรรคผลนิพพานให้พระสาวก

พระโสดาบันมีศีลบริสุทธิ์ แต่มีปัญญาน้อยมาก ในบรรดาพระอริยเจ้าเบื้องสูง
เพราะว่าพระโสดาบัน <WBR>กับ พระสกิทาคามี ละสังโยชน์ได้เสมอกัน แต่พระสกิทาคามี ทว่ามีอาการระงับต่างกัน มีการระงับการทำโลภะ โทสะ โมหะ ให้เบาบางลง คือตัดได้ไว พระโสดาบัน

พระอนาคามี ท่านไม่มีโกรธแล้ว
แต่ความหลงยังมีอยู่
พระอรหันต์ท่าน หมดโลภ หมดโกรธ หมดหลง
พระอรหันต์ท่านข้ามคลองหลงเงื้องไข้ทั้งสามได้แล้ว<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- edit note -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>

 

มีแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่มีความสามารถพยากรณ์ได้เที่ยงแท้ แน่นอน ความสามารถของสาวกไม่มีข้อนี้ เป็นพุทธวจน

หรือพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ถัดมาเท่านั้น


อ่านคู่มือโสดาบัน แล้วมุ่งปฏิบัติ

ในพุทธวจนท่านว่า แล้วจะรู้ด้วยตนเอง ไม่ต้องถามคนอื่นเลย