สนทนาตามประสา

เจ้าค่ะคุณลุง อยู่บ้านก็ทำค่ะ แต่ไม่เต็มที่เหมือนอยู่วัด เห็นคนอื่นทำ เราก็ทำมั่ง แต่อยู่บ้าน แป๊บๆๆ ก็เลิกละ ไม่มีสิ่งจูงใจอ่ะค่ะ

 

ก๊อกๆ
ไม่มีใครอยู่

สงสัยเค้าท่าเกรงสายตาพิฆาตปราบมารของลุงบางคนกันแน่เลยเชียว


จาก
มารฟ้าที่หก(กะล้มหัวชนประตูรถเจ๊บเจ็บน่าดูมา๒วันแล้ว)

 

<TABLE class=tborder id=post3550339 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ราคุเรียวซาย<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3550339", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Mar 2009
สถานที่: ที่ไหนดี
ข้อความ: 859
Groans: 9
Groaned at 3 Times in 3 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 18,116
ได้รับอนุโมทนา 4,281 ครั้ง ใน 726 โพส
พลังการให้คะแนน: 212



</TD><TD class=alt1 id=td_post_3550339 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->นิมิตรนี้เป็นดีนักหนาของเจ้าพ่อไยหิมะก็เป็นมงคลของเจ้าพ่อ
เจ้าพ่อก็โชคดีไปคนเดียวเหอะ
นี่ละหนาเค้าว่าบุญกรรมเป็นปัจจัตตัง
ซิก ซิก ....
ฮือ ฮือ.........
ลูกช้างหมดไป ๒๐๐ ใครไม่ถูกกินไม่เข้าใจหรอก
ว่า


เช้าวุ่นวาย
สายตื่นเต้น
เย็นเศร้าจาย มันเป็นยางงาย<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->อันรักษาศีลสัตย์กัตเวที ย่อมเป็นที่สรรเสริญเจริญคน

</TD></TR></TBODY></TABLE>


กฎเหล็ก ที่นี่ ไฟในนำออกได้ ไฟนอกห้ามนำเข้า โดยเฉพาะ คดี จาบจ้วงเบื้องสูง 555+

ปากดี นะ เค้ารู้ ว่าละอ่อนน้อย จะมา เป็นแน่แท้ จึงได้หลบลี้ หนีหาย กันคนละทาง สองทาง และสามทาง โอะ ๆๆๆๆ ใครกลัว สายตาลุง พีเอ็ม เพิ่มอีก บานตะเกียงจ้าวพายุ เลย ละ

สงสัย ลุงต้องกำกับบท อยู่ข้าง ๆ มั้ง ถึงจะเอาจริง 555+
อยู่ที่ความเพียร ของเราเอง นะ ตนแลคือที่พึ่งแห่งตน

เอ้ คนทาง ระยอง ทางจัน เป็นอย่างนี้ ทุกคน หรือเปล่า นะ 555+
ลงคลอง ลงทะเล น่ะ พอดึงได้ ไอ้ลงเหว นี่ สงสัย ต้องกลบ สถานเดียว ละมั้ง
พยายาม ซิ อยู่ที่กำลัง ของเราเองนะ ทำกำลังใจ ให้เข้มแข็ง ซิ ถ้าวันนี้ เราสร้างเหตุไว้ดี ผล วันข้างหน้า ก็ย่อม ดีด้วย นะ

จุดมุ่งหมายของการปฏิบัติ คือ การพ้นทุกข์ ​

ทุกข์ หมายถึงสิ่งที่ทนได้ยาก

ทุกข์เกิดจาก เครื่องเศร้าหมองของจิต อันได้แก่ ความโลภ ความโกรธ ความหลง คือ กิเลส<O
กิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง เกิดจาก ความทะยานอยาก คือ ตัณหา<O
ตัณหา ความทะยานอยาก เกิดจาก ความยึดมั่นถือมั่น คือ อุปทาน<O
อุปทาน ความยึดมั่นถือมั่น เกิดจาก ความไม่รู้ คือ อวิชชา
<Oก็ อวิชชา ความไม่รู้ นี้แล เป็นสาเหตุให้มี ร่างกาย คือ ขันธ์ ๕
<O
ขันธ์ ๕ ร่างกายนี้ เกิดจาก กิเลส ตัณหา อุปทาน และ อกุศลกรรม<O
ถ้าเราจะหน่ายทุกข์ ก็จงหน่ายที่ ร่างกาย เถิด
<O
การหน่ายร่างกาย คือ ละสักกายทิฐิ องค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง ชี้ไว้ ๔๑ เส้นทาง แต่ละเส้นทาง ก็สามารถ ถึงที่สุดของความพ้นทุกข์ได้ คือ

มหาสติปัฏฐานสูตร ๑ (ทุกจริต ปฏิบัติได้) เป็นแนวทางของ สุกกวิปัสสโก

กรรมฐาน ๔๐ (ปฏิบัติตามจริต ๖ มี ๓๐ กอง จริตกลาง มี ๑๐ กอง) เป็น แนวทางของ สุกขวิปัสโก ถ้าจับ กสิน ด้วย ก็เป็นแนวทางของ เตวิชโช ฉฬภิญโญ ปฎิสัมภิทัปปัตโต ถ้าทำได้นะ

ถ้าเราละ สักกายทิฐิ ได้แค่ตัวเดียว ครูบาอาจารย์ ท่านว่า ความเป็นพระอริยะ เหมือนหญ้าปากคอก
<O
ฉะนั้น ในเมื่อทาง มีถึง ๔๑ ทาง เธอจง ฉลาด เลือกทาง ซึ่งมีอยู่ ในการปฏิบัติ<O
ตาม ระดับ สติ ปัญญา เหมือนคนไข้ เลือกยาที่จะรักษา ตัวเอง

การทำสมาธิ ให้เกิดผล ​

ลองสำรวจตัวเอง ว่าเรามี อิทธิบาท ๔ ครบหรือเปล่า มีศิลบริสุทธิ์หรือเปล่า มีพรหมวิหาร ๔ บ้างหรือเปล่า ถ้าจิตมีนิวรณ์ สมาธิไม่เกิด ถ้าจิตมีสมาธิ นิวรณ์ ก็ไม่เกิด (เหมือนเด็กเล่นกระดานหก)

ในขั้นแรก ถ้าจะนั่งสมาธิ อย่าสวดมนต์นาน
นั่งในท่าที่สบายที่สุดผ่อนกล้ามเนื้อให้หย่อน อย่าเกร็ง หลับตา ช้าๆ นะ หายใจเข้า-ออก ให้สุด ลึกๆ สัก ๔-๕ ครั้ง (ระบาย ลมหยาบ) เอาใจรู้ลม เข้า ออก ช้า ๆ (อย่าใช้ประสาทตาเพ่ง จะปวดหัว) ลมหายต้องปล่อย ตามธรรมชาติ นะ อย่าฝืนลม เมื่อลมหายใจ เรียบแล้ว ค่อยใส่คำภาวนา (เครื่องโยงจิต) ที่ชอบที่สุด สมมุติว่าชอบ พุทโธ นะ พอลมเข้า นึกว่าพุท ลมออก นึกว่าโธ ใช้ใจนึกนะ กำหนด รู้ตามอย่างเดียว ตัดความมอยากรู้ อยากเห็น ทั้งหมดอย่าเกร็งร่างกาย
<O
การฝึกสมาธิ ให้เกิดผล ไม่ว่าเราจะนั่ง ยืน เดิน นอน ได้หมด ลืมตา หลับตาไม่จำเป็น ให้มีสติ รู้ ลมหายใจ เข้าออก ไว้เป็นปกติ ตามโอกาสอำนวย จะนึกคำภาวนา หรือไม่ก็ได้ ให้มีสติรู้อย่างเดียว มันจะลืมบ้าง ก็ช่างมัน นึกมาได้ก็เริ่มใหม่ (เราฝึกที่จิต ไม่ได้ฝึกร่างกาย )
<O
และ หมั่น พิจารณา กฏของไตรลักษ์ เพื่อหาทุกข์ ไว้เนืองๆ เป็นประจำ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ พิจารณา อย่างเช่น

ความเจ็บไข้ ไม่สบาย เป็นทุกข์ จริงมั้ย ?
<O
ร่างกายเรา เดินเข้าหาความ เสื่อมสลาย จริงมั้ย ?<O

ทุกวันนี้ เราเดินเข้าหา ความตาย อยู่ทุกวัน จริงมั้ย ?
<O
ความตาย ย่อมมีกับเรา แน่นอน จริงมั้ย ?
<O
เราต้องพลัดพราก จากของรัก ของชอบใจ มันเป็นทุกข์ จริงมั้ย ?
<O
เมื่อเราตาย สมบัติที่เรามีอยู่ ย่อมเป็นสมบัติโลก จริงมั้ย ?

อุจาระ ปัสสาวะ น้ำเลือด น้ำหนอง สเลด น้ำลาย ฯลฯ มันสกปก จริงมั้ย ?

ของเหล่านี้ มีมาในร่างกายเรา และ ร่างกายคนอื่น จริงมั้ย ?

อันนี้เป็นตัวอย่างของการหาทุกข์ นะ คือมองอะไร ให้เห็นตามความเป็นจริง โยงเข้าหากฏของไตรลักษ์ ถ้าทำได้ แก่นของศาสนา เป็นของไม่ยาก
เวลาทำ อย่าอยาก ทำในท่าสบายๆ แต่ถ้าอยากเห็นความเป็นทิพย์ ค่อยมาว่ากันใหม่ เอาตรงนี้ก่อน<O
การหาทุกข์ เพื่อน้อมนำสู่ นิพพิทาญาน และ สังขารุเปกญาน เพื่อก้าวสู่ โคตภูญาน นำไปซึ่ง อริยมรรค อริยผล

 

กุลเขาเอาจริง น่ะ ยังไม่รู้เลย จะไปได้สักกี่น้ำ โก้เอง ก็ค่อยทำไปนะ เน้นที่พิจารณา นะ ตรงนี้สำคัญ
55555555555 อ้าวจริงแต่ยังมะเต็ม 100 อะ อิอิ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไปอะ ลุง ช้าได้พร้าเล่ม ง๊าม งาม คระ อิอิ
โมทนากับน้องกุลด้วยค่ะ ไปแล้วอย่าไปลับ ไปแล้วจงรีบกับมานะจ๊ะ<!-- google_ad_section_end -->
ขอบคุณคะพี่นิพพานนู๋มะไปลับหรอกคร้าเพราะนู๋คิดถึงพี่เลยต้องรีบมาอะ ^_^
เลย มากลัว ผมแทนหรือ เปล่า รูปนี้ ถ่ายหลายปีแล้ว ปัจจุบัน ดูไม่จืดครับ 555+
ลุงถ้ารูปมันจืดขอแนะนำให้ใส่เครืองปรุงเพิ่มคะเพื่อรสชาติจะได้กลมกล่อมคร้า555555555555
เจ้าค่ะคุณลุงอยู่บ้านก็ทำค่ะ แต่ไม่เต็มที่เหมือนอยู่วัด เห็นคนอื่นทำ เราก็ทำมั่ง แต่อยู่บ้าน แป๊บๆๆ ก็เลิกละ ไม่มีสิ่งจูงใจอ่ะค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
ไปเลยกิมไปเลยไปครั้งนี้รู้สึกสบายปลอดโปร่งมากๆๆอะ...อิ่มบุญอะ...
ลุงมีเรืองจะถามหน่อยคะว่าพระพุทธชินราชมีตาที่ 3 เป็นสีแดงใช่ป่าวคะลุงพอดีวันแรกที่นู๋ไปบวชอะคะในโบสถ์มีพระพุทธชินราชประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ด้วยคะลุงแต่เป็นองค์เล็กนะคะตอนที่นู๋นั่งสวดมนต์อยู่ก็หันไปมององค์ท่านคะลุงนู๋เห็นตาที่ 3 ของท่านมีแสงสีแดงส่องออกมาด้วยคะพอตอนจะนั่งสมาธิก็เห็นอีกคะตอนแรกนู๋ก็คิดว่าเป็นเรือ่งปกติ...พอตอนหัวค่ำตอนไปเรียนธรรมะก็นั่งจององค์ท่านว่ามีแสงสีแดงส่องออกมาอีกไหม...แต่ทำไมยักกะมีนะไอ่เราก็สงสัย..คิดเอาไว้ว่าแด้วพรุ่งนี้ค่อยดูไหมว่ามีแสงสีแดงส่อ่งออกมาอีกไหมเพราะคิดว่าตอนกลางคืนมันมืดอาจมองไม่เห็น..พอวันรุ่งขึ้นก็นั่งจ้องดูท่านว่ามีแสงสีแดงออกมาจากตาที่ 3 ของท่านหรือป่าว..อ้าวทำไมไม่เห็นนะเหมือนวันแรกที่เรามาแสงสีแดงส่องออกมาเห็นชัดมาก..วันนี้นั่งจ้องเกือบตายไม่ยักกะเห็นอะ...ลุงคะสิ่งที่นู๋เห็นหมายถึงอะไรคะลุง
และก็ขออนุโมทนาบุญกะกุลด้วยนะ
ขอเจริญในทางธรรมนะ
สาธุ............<!-- google_ad_section_end -->
เฮ้ยมาได้งัยนี้.. ขอบคุณคร้าสำหรับคำอวยพร

 

อนุโมทนากะกุลด้วยจ้า

ปล.ทำอะไรระวังนะคะ ท่านมองอยู่นะ ได้ถวายตัวเป็นศิษย์ท่านไหมละคะ

 

เอ้ คนทาง ระยอง ทางจัน เป็นอย่างนี้ ทุกคน หรือเปล่า นะ 555+
ลงคลอง ลงทะเล น่ะ พอดึงได้ ไอ้ลงเหว นี่ สงสัย ต้องกลบ สถานเดียว ละมั้ง
พยายาม ซิ อยู่ที่กำลัง ของเราเองนะ ทำกำลังใจ ให้เข้มแข็ง ซิ ถ้าวันนี้ เราสร้างเหตุไว้ดี ผล วันข้างหน้า ก็ย่อม ดีด้วย นะ

ไม่เป็นเจ้าค่ะ ของหนูแค่ลงห้วยเฉยๆ
ลงไปแล้วก็เดินขึ้นมาต่อได้ แต่ลงเหวนี่
ฝังอย่าเดียวเลย ฮิ ฮิ .....
อ้าวกุล รีบกลับเลยรึ วันหลังต้องบอกใหม่แล้ว
ไปแล้วอย่าไปริบ จะได้อยู่วัดนานกว่านี้ ฮิ ฮิ ฮิ.

 

เอ้ คนทาง ระยอง ทางจัน เป็นอย่างนี้ ทุกคน หรือเปล่า นะ 555+
ลงคลอง ลงทะเล น่ะ พอดึงได้ ไอ้ลงเหว นี่ สงสัย ต้องกลบ สถานเดียว ละมั้ง
พยายาม ซิ อยู่ที่กำลัง ของเราเองนะ ทำกำลังใจ ให้เข้มแข็ง ซิ ถ้าวันนี้ เราสร้างเหตุไว้ดี ผล วันข้างหน้า ก็ย่อม ดีด้วย นะ

ฝังอย่างเดียวเลยเหรอคะลุง..ใจคอจะไม่ให้หนูได้ผุดได้เกิดเลยเหรอ..หนูจะตั้งใจ

เริ่มใหม่ค่ะ..เอาธรรมนำหน้า..(แอบ พธม.เล็กๆ)..5555..สุ้ๆๆค่ะลุง

 

อนุโมทนา สาธุ จร้า ทำดีแล้ว นะ ไง ไม่โทรมาคุย เลย เรื่องที่เห็น ลุงไม่แน่ใจ นะ จับอารมณ์ ไม่ได้ น่ะ

โก้ ได้ถวายตัว กับท่าน หรือยัง ล่ะ แล้วเป็นไง บ้าง ล่ะ ตอนนี้

โถ ๆๆๆ ลุงไม่ใจดำ ถึงขนาดนั้นหรอก ลองอ่านข้างบน แล้วลองทำดูนะ

 

ได้แต่ถวายในจิตอะครับลุง อยากไปถวายกะท่านต่อหน้าพระพักตร์จังเลยครับ

 

ช่างบริสุทธิ์ ดุจผ้าขาว โมทนา ครับผม

​

วางอารมณ์ ตามที่เขียนให้ ไปก่อน นะ เด๋วลุงว่าง นิด จะคุมให้ นะ

 

ขอบพระคุณล่วงหน้าครับผม

 

พี่คะจากที่เคยบอกพี่ว่า จิตนิ่งสงบมาก มา2อาทิตย์ที่ผ่านมา
ทำไม มันไม่สงบไม่มีสมาธิเลยล่ะคะ พยามยามแล้วแต่แพ้กิเลสจะง่วง จะเมื่อย จะถอยหลังเข้าคลองจริงๆหรือนี่ :'''(

เช้านี้เปิดเมล์บล็อกมาได้อ่านบทความดีๆ เอามาให้อ่านกันค่ะ

<STYLE>.ExternalClass #ecxyiv2130229544 .ecxExternalClass .ecxecxhmmessage P{padding:0px;}.ExternalClass #ecxyiv2130229544 .ecxExternalClass body.ecxecxhmmessage{font-size:10pt;font-family:Verdana;}</STYLE>[FONT=Default Sans Serif,Verdana,Arial,Helvetica,sans-serif]อง “มหัศจรรย์แห่งชีวิต ๗ หลักคิดจาก ว.วชิรเมธี”
บางส่วนจากหนังสือ“มหัศจรรย์แห่งชีวิต ๗ หลักคิดจาก ว.วชิรเมธี” เป็นการตอบคำถาม 20 ข้อ ที่น่าสนใจมาก


๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน?
ไม่อยากให้ เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก
ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ

๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี?
(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(๔) ขออย่าให้ตายในสงครามระหว่างคนไทยด้วยกันเอง

๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี?
ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ
ส่วน ปลาตาย มักไหลตามน้ำ
ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข

๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน?
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน
รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน
อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน

๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา?
โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว
คุณถูก นินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย
คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์
ให้เห็นความบกพร่อง ของตัวเอง

๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี?
(๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
(๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
(๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ
ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา

๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร?
< SPAN style="FONT-SIZE: 12pt">เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น
แต่เขาไม่ สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้

๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี?
(๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
(๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
(๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน
สำคัญก่อน ให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ

๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร?
โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม
คนเด่นต้องมี คนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี
คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้
เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา
ยังดีกว่าทำ งานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา

๑๐. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี?
(๑) หางานใหม่
(๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
(๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
(๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอด
จ่าย มากกว่ารับนับว่าแย่

๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย?
คนที่ด่าคน อื่นสะท้อนว่าระบบข้างใจกำลังพัง
คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่า
แสดงว่า ระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย

๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม?
ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ
แต่หากไถ่เพื่อ ทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บ าป
แทนที่จะไถ่โคกระบือ
คุณควรไถ่ตัวเองให้ พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า

๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน?
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน
ถึง เธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน

๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี?
มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะ เวียน
ผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน
ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ

๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร?
(๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
(๒) ได้ถามตัวเอ??ว่า เราเกิดมาจากใคร
(๓) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง

๑๖. สวดมนต์บทไหนดี?
(๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
(๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า
จง เว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
(๓) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้
คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง


๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี?
(๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
(๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
(๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส
เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด

๑๘. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก?
(๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
(๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
(๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน

๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม?
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า
ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน

๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ?
ผู้รู้บอกว่า ศ ิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์
ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบอย่างแน่นอน
มองอย่างพินิจจะพบว่า ในดีมีเสีย ในเสียมีดี




ไม่อยากให้ข้อความดีๆแบบนี้อยู่แค่ใน กล่องเมลล์ แล้ววันนึงเราก็จะลืมมันไปหวังว่ามันจะมีประโยชน์ต่อคนที่เข้ามาอ่านบ้างนะ

ปล. กรรมดีจะเกิดขึ้นกับคุณ หากมีใครสักคนที่ได้อ่านแล้ว นำไปแก้ไขปัญหาชีวิตได้
ขอให้บุญกุศลจงมีแก่ทุกคนที่ อ่านและนำไปเผยแพร่ !!! สาธุ !!!

[/FONT]
​

 

สวัสดีวันอาทิตย์คุณลุงและเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ

คุณลุงคะเรียนถามหน่อยค่ะ ที่คุณลุงสอนให้จับภาพพระ ปรากฏว่าจับไม่ค่อยได้อ่ะค่ะ ณ ตอนนี้ก็เลยเริ่มด้วย พอเริ่มนั่งก็จะดูลมหายใจเข้าออกภาวนาพุทโธ จนรู้สึกว่าลมหายใจเบาดี อารมณ์ก็เรียบสงบดีแล้ว ก็จะจับภาพพระ ก็จะเห็นชัดขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ไม่นานเท่าไร ภาพท่านก็จะย้ายไปย้ายมา เดี๋ยวไปซ้าย ไปขวา แล้วก็หายไป แล้วก็มาใหม่ พอเป็นแบบนี้ก็เลยหันไปดูลมหายใจใหม่ ซึ่งบางครั้งจิตก็จะคิดบ้าง นิ่งบ้าง ก็จะดูมันไปเรื่อยๆ บางครั้งรู้สึกอึดอัดก็จะใช้การพิจารณาถึงข้อธรรมต่างๆ พวกกฏพระไตรลักษณ์ อริยสัจสี่ กายคตา ฯลฯ แล้วแต่ ซึ่งจะได้ผลทุกครั้งคือจิตจะสงบเร็วและนานกว่า และก็แปลกเหมือนจิตตั้งข้อสงสัย ถามตัวเอง แล้วจิตก็จะเป็นคนตอบเอง และคำถามคำตอบก็จะเกี่ยวพันกันเป็นลูกโซ่ไป พอพิจารณาได้สักครู่มันก็จะหยุด หยุดได้สักครู่มันก็จะคิดอีก แต่ช่วงที่กำลังคิดพิจารณา เราก็รู้สึกตัวตลอดนะคะ เสียงอะไรก็ได้ยิน เพียงแต่ไม่รำคาญ
มีอีกเรื่องคือ สงสัยจัง ตอนนั่งอยู่ จิตหนึ่งคอยดูอารมณ์จิตเอง แต่ก็มีอีกจิตมันไปคิดเรื่องโน่นนี่ ซึ่งไอ้จิตตัวที่คอยดูก็เห็น อีกจิตก็จับที่ลมหายใจ แล้วพอไอ้จิตคิดถูกจับได้ว่ากำลังคิด มันก็หยุดทันที สักครู่ก็มีจิตตัวใหม่คิดอีก เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หรือว่ามันเป็นจิตตัวเดียวกัน
ไม่ทราบอ่านแล้วจะงงไหมคะ
เท่าที่เล่ามา ไม่ทราบทำถูกไหม ต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง
ขอบคุณมากค่ะ

 

โมทนา กับบทความ “มหัศจรรย์แห่งชีวิต ๗ หลักคิดจาก ว.วชิรเมธี” ด้วย ครับผม​

เจ้ จ๋า การทำ สมาธิ น่ะ จะนั่ง ยืน เดิน หรือ นั่ง ก็ทำได้หมดนะ อารมณ์ ที่เราต้องการ คือ การพิจารณา หาทุกข์ นะ และให้เกิดความเบื่อหน่าย และปล่อยวาง (นิพพิทาญาณ และ สังขารุเปกขาญาณ) เวลาปกติ เราก็พิจารณา กฎของไตรลักษณ์ บ้าง อริยสัจน์ ๔ บ้าง เช่น เห็นคนแก่ ก็พิจารณา ว่าเราก็ต้องแก่ เห็นคนตาย ก็พิจารณา ว่าเราก็ต้องตาย ถ้าเราตาย อะไรบ้างที่เป็นของเรา นี่ตัวอย่าง นะ เวลาทำงาน ก็ดูลมหายใจ เข้า ออก ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ชิน ไอ้ท่ามาก น่ะ หากินลำบาก นะ ลองดู ในพระสูตร นะ ว่าการบรรลุธรรม ในครั้งพุทธกาล น่ะ เขาบรรลุ กันยังไง การปฏิบัติ ที่ว่ายากน่ะ เพราะพูดกันไปเอง นะ

jingjaijung สวัสดีวันอาทิตย์คุณลุงและเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ
สวัสดี จร้า วันอาทิตย์ ไม่ต้องสวัสดี เขาหรอก นะ

คุณลุงคะเรียนถามหน่อยค่ะ ที่คุณลุงสอนให้จับภาพพระ ปรากฏว่าจับไม่ค่อยได้อ่ะค่ะ ณ ตอนนี้ก็เลยเริ่มด้วย พอเริ่มนั่งก็จะดูลมหายใจเข้าออกภาวนาพุทโธ จนรู้สึกว่าลมหายใจเบาดี อารมณ์ก็เรียบสงบดีแล้ว ก็จะจับภาพพระ ก็จะเห็นชัดขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ไม่นานเท่าไร ภาพท่านก็จะย้ายไปย้ายมา เดี๋ยวไปซ้าย ไปขวา แล้วก็หายไป แล้วก็มาใหม่

อารมณ จิต ยังไม่มั่นคงในด้าน ของกสิน นะ พิจารณาร่างกาย และ ตัดความอยาก ออกไปก่อน

พอเป็นแบบนี้ก็เลยหันไปดูลมหายใจใหม่ ซึ่งบางครั้งจิตก็จะคิดบ้าง นิ่งบ้าง ก็จะดูมันไปเรื่อยๆ บางครั้งรู้สึกอึดอัดก็จะใช้การพิจารณาถึงข้อธรรมต่างๆ พวกกฏพระไตรลักษณ์ อริยสัจสี่ กายคตา ฯลฯ แล้วแต่ ซึ่งจะได้ผลทุกครั้งคือจิตจะสงบเร็วและนานกว่า

เออ น่านแหละ ๆ ดีแล้ว นะ เวลาพิจารณา จะลืมตา หรือ หลับตา ก็ได้นะ แตต่ลุงน่ะ ลืมตาตลอด นอกจากพิจารณา ตอนนอน คือหัวถึงหมอน

และก็แปลกเหมือนจิตตั้งข้อสงสัย ถามตัวเอง แล้วจิตก็จะเป็นคนตอบเอง และคำถามคำตอบก็จะเกี่ยวพันกันเป็นลูกโซ่ไป พอพิจารณาได้สักครู่มันก็จะหยุด หยุดได้สักครู่มันก็จะคิดอีก แต่ช่วงที่กำลังคิดพิจารณา เราก็รู้สึกตัวตลอดนะคะ เสียงอะไรก็ได้ยิน เพียงแต่ไม่รำคาญ

ไต่ขึ้น ไต่ลง นะ ระหว่าง ปฐมฌาณ กับอุปจารฌาณ อารมณ์นี้แหละ เป็นอารมณ์ ตัดกิเลส นะ การพิจารณา อย่าไปเน้น เรื่อง อิริยาบท นะ

มีอีกเรื่องคือ สงสัยจัง ตอนนั่งอยู่ จิตหนึ่งคอยดูอารมณ์จิตเอง แต่ก็มีอีกจิตมันไปคิดเรื่องโน่นนี่ ซึ่งไอ้จิตตัวที่คอยดูก็เห็น อีกจิตก็จับที่ลมหายใจ แล้วพอไอ้จิตคิดถูกจับได้ว่ากำลังคิด มันก็หยุดทันที สักครู่ก็มีจิตตัวใหม่คิดอีก เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หรือว่ามันเป็นจิตตัวเดียวกัน

เป็นจิตตัวเดียวกัน นะ แต่ด้วยความไว ของจิตน่ะ ในปริยัติ จิตมีเยอะ นะ แต่ในทางปฏิบัติ มีใช้แค่จิตเดียว นะ

ไม่ทราบอ่านแล้วจะงงไหมคะ

นิดหน่อย จร้า ลุงพอฟังภาษาคนออก น่ะ 555+

เท่าที่เล่ามา ไม่ทราบทำถูกไหม ต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง ขอบคุณมากค่ะ

โมทนา จร้า ก็ยังดี ที่ใจ ยังอยากจะทำ หายไปหลายวัน นะ เรา

ตั้งใจฟังกัน นะ เพื่อประโยชน์ ของตัวเราเอง

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1049297/[/MUSIC]​

 

สวัสดีรอบบ้านค่ะ..

ตามมาอ่าน ..เก็บข้อมุล ทำได้หรือไม่ได้ อีกเรื่อง
แล้วขยันทำ หรือไม่ขยันทำก็อีกเรื่อง 555++

อนุโมทนา กับทุกท่านค่ะ..

 

อริยบุตร : สวัสดี จร้า วันอาทิตย์ ไม่ต้องสวัสดี เขาหรอก นะ

jingjaijung : โห ลุง มีแซว



อริยบุตร : นิดหน่อย จร้า ลุงพอฟังภาษาคนออก น่ะ 555+

jingjaijung : หง่ะ อึ้งไป 3 วิ ^^

 

ความรัก พลังแห่งแรงดึงดูด เพศตรงข้าม ในตัวบุคคลที่ทรงพลังอีกอย่าง 1 หากเรา รักชอบและมีความสุขในสิ่งใด เรามักทำสิ่งนั้นได้ดีและสุขใจทุกครั้งที่ได้ทำคิดถึงหรือรับรู้
.........สิ่งสมมุติในโลกล้วนมีสิ่งจริงแท้แน่นอนแฝงอยู่เสมอ.....

 

โอ้โฮ พ่อเทพสำราญ จุติมาเพื่อเสพกาม อย่างเดียว เลยหรือ โอ พระเจ้า ... สัตว์ผู้มืดบอด .... อย่าไปเทอดทูน บูชาให้อยู่ เหนือเศียรเกล้าเลย การหมกหมุ่น อยู่ในกาม เปรียบเสมือนไฟ ที่สุมหัว ... ตัวของเรา นั้นแหละ ที่ทำตัวของเราเอง
.........สิ่งสมมุติในโลกล้วนมีสิ่งจริงแท้แน่นอนแฝงอยู่เสมอ.....
เหอ ๆๆๆ คงเป็นศาสดา องค์ใหม่ เป็นแน่แท้ และแน่นอน ที่เคลื่อน อัตภาพพุ่งหลาว ดิ่งพสุธา ลงมา เพื่อสั่งสอน อันเตวาศิษย์ ผู้หมกหมุ่นยินดี ระสะกาม