ศูนย์รวมลูกหลานพญานาคศรีสัตตนาคราช

ได้ฤกษ์เล่าเรื่องราวต่อแล้วค่ะ
จำไม่ได้แล้วว่าเล่าถึงไหนอ่ะ เอาเป็นว่าตัดตอนมาที่วันจันทร์เลยแล้วกันนะคะ

วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชาค่ะ เป็นวันที่คึกคักเป็นพิเศษเนื่องจากชาวบ้านแถบนั้นจะมาทำบุญที่วัดค่ะ ชาวบ้านแถบนี้มีรูปหลวงปู่ดูติดไว้ทุกบ้านเรือน ผู้ใหญ่และเด็กจะมีประคำคล้องคอกันเกือบทุกคนค่ะ ตอนเช้าชาวบ้านจะมาทำบุญกันค่ะ แต่งตัวกันน่ารักมากๆ มีเด็กน้อยคนนึงอายุราว 5-6 ขวบ นุ่งชุดไทยสีชมพู ผมประดับด้วยดอกไม้ เห็นแล้วประทับใจมากค่ะ เครื่องกายแถวนี้น่าดู น่ามองยิ่งนัก ผู้หญิงจะนุ่งผ้าถุงกันเกือบทุกคน แต่งตัวสวยในแบบฉบับของเขา ทุกคนถือของมาทำบุญ เขาเดินผ่านปราญฯก็แอบอนุโมทนาบุญกับเขา อิ่มใจมากๆค่ะวันนี้

ชาวบ้านนำอาหารมาถวายพระมากมายค่ะ เราเข้าไปช่วยเขาแยกข้าวออกจากกับข้าวและขนม ทำโน่นทำนี่จนลืมระวังตัว เหล่านักรบของเราก็แอบดุตลอดเวลา อิ่มบุญมากๆเลยค่ะ ระหว่างที่พระฉันอาหาร แม่ชีแอบส่งข้าวให้ 1 ถุงและปลาทูให้ 2 ตัวค่ะ แต่ไม่ใช่ให้ปราญฯทานนะคะ ให้เอาข้าวไปขยำให้น้องแมวที่ถ้ำใหญ่ แม่ชีคงรู้ว่าเราชอบเลี้ยงแมวมากๆ อีกอย่างอยู่ทางนี้ก็โดนตัดกำลังไม่ยอมให้ทำอะไรอยู่แล้ว พอกลับมาพี่อาร์ทก็เทคแคร์อย่างดีโดยการปอกไข่ต้มไว้ให้ปานชะนี 1 ฟอง พี่ๆน้องๆรู้ใจมากๆค่ะ จัดข้าวกล้องไว้ให้พร้อมด้วยอาหารโปรด นั่นก็คือ มะม่วงกับแตงโมค่ะ แถมด้วยกล้วยไข่ลูกโต สุดท้ายกล้วยต้องเก็บไว้ค่ะ เพราะทานไม่หมด ทุกคนอิ่มหนีเราไปหมดแล้วเพราะเรามัวไปเลี้ยงแมวอยู่ อิอิ

จากนั้นก็ช่วยกันเก็บกวาดหอฉันค่ะ ล้างถ้วยจานชาม เก็บกวาดพื้นให้สะอาด แม่ชีเมตตาเก็บอาหารมื้อกลางวันไว้ให้พวกเราเรียบร้อยแล้วค่ะ สองสาวดูไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ แต่ชายหนุ่มนักรัก เอ๊ย นักรบ 2 คนนี่สิ เกรงว่าจะกินกันไม่อิ่ม แต่แม่ชีก็เมตตาเก็บผัดไทไว้ให้ลูกชายทั้ง 2 คน 1 กล่องค่ะ

เมื่อเสร็จธุระเรื่องปากท้องแล้วเราก็ได้มีโอกาสไปถวายสิ่งของและปัจจัยให้กับครูบาอธินันท์ที่ถ้ำเย็นค่ะ คณะของพวกเราและอีกคณะหนึ่งได้รับความเมตตาจากครูบาอย่างสูงสุดเนื่องจากครูบาต้องเตรียมตัวสวดปาฏิโมกข์ตอนเที่ยง แต่ก็ยังเมตตามอบกุญแจเปิดหีบให้กับพวกเราทุกคนค่ะ

ตอนที่ได้กราบครูบาและรับฟังธรรมะนั้นเป็นความรู้สึกที่เกินบรรยายจริงๆค่ะ ความเย็นของถ้ำที่ไหลซ่านทางผิวกาย และความเย็นของธรรมะที่หลั่งไหลเข้าสู่หัวใจ ช่างเป็นกระแสที่ไม่อาจเอ่ยออกาเป็นคำพูดได้จริงๆ
ประโยคที่ปราญฯรู้สึกซาบซึ้งใจและเชื่อว่าพี่ๆและน้องก็รู้สึกได้ก็คือ"การที่พวกเราได้มาเจอกัน มารวมตัวกัน มาเกื้อหนุนซึ่งกันและกันแบบนี้ มันมิใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือสายใย สายสัมพันธ์ที่ยึดโยงเราเข้าด้วยกัน" และ"นอกจากเราจะฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่แล้ว ที่มากกว่านั้นควรต้องฝากตัวเป็นลูก"

หลังจากที่รบกวนครูบาจนสมควรแก่เวลาก็แยกย้ายกันมานั่งทานข้าวค่ะ แม่ชีเก็บผัดไทไว้ 1 กล่องค่ะ ปราญฯได้แบ่งให้พี่ชายทั้งสองคนอย่างเท่าเทียมกัน ปรากฏว่าทั้งคู่อิดเอื้อนไม่ยอมกินค่ะ สงสัยจะยังอิ่มบุญอยู่ สุดท้ายก็แบ่งกันคนละคำ สองคำค่ะ แม่ชีเก็บผลไม้ไว้ให้พวกเรา มีมะม่วงสุกอยู่สองลูกค่ะ แต่ไม่มีมีด ปานชะนีเอ๊ยปราญชลีจึงใช้ทักษะการเอาตัวรอดปอกมะม่วงด้วยช้อน โอ้ แม่เจ้า ผู้หญิงคนนี้เธอช่างทำได้ อิอิ เว่อร์ซะไม่มี มะม่วง 2 ลูกจึงเอามากินเนื้อได้ค่ะ(ทีแรกจะใช้ปากกัดแล้วปอกเปลือกก็กลัวทุกคนจะรังเกียจ ^-^)

เมื่อกินเสร็จ หนุ่มๆก็ออกอาการอยากเดินย่อยค่ะจึงขอแม่ชีออกไปเดินซื้อน้ำอัดลมทาน ปราญฯขอตามไปด้วยเพราะอยากหาซื้อธูปเทียนแพ จะเอามาขอขมาแม่ค่ะ น้องสาวไม่ได้ไปด้วย ขออยู่กับแม่ชีค่ะ

พอออกไปก็ไปเดินหาซื้อเป๊บซี่และธูปเทียนแพกันค่ะ สุดท้ายก็ไม่ได้ธูปเทียนแพมา แล้วปราญฯก็แวะไปซื้อโค๊กที่ร้านคุณลุงแก่ๆคนนึง ขากลับมาพี่หลวงแวะร้านประจำค่ะ เข้าไปซื้ออะไรซักอย่างจำไม่ได้ ด้วยความที่พี่หลวงเป็นคนสายตาสั้นเธอก็เดินเข้าไปโดยไม่คิดอะไร แต่ประเด็นคือพี่อาร์ทรูปหล่อค่ะ พอถึงหน้าร้านพี่อาร์ทเหยียบเบรคกระทันหัน แล้วบ่นออกมาอย่างเสียดายกึ่งฉุนเฉียวว่า"นี่ใครชวนไปซื้อน้ำร้านโน้นเนี่ย เซ็งจริงเลย ปราญฯเอาตังค์มาให้พี่ยืมหน่อยซิ เดี๋ยวพี่เอากระป๋องไปทิ้งทำลายหลักฐานก่อน"พี่อาร์ทพูดนิ่งมาก ปราญฯก็งงยังคิดตามไม่ทัน แต่พอหันไปเห็นแม่ค้าปราญฯถึงกับสำลักน้ำโค๊กออกจมูกทีเดียวค่ะ เนื่องจากแม่ค้าน่าตาใสกิ๊กมากๆ นุ่งกางเกงขาสั้นนั่งขายน้ำอยู่ (อิอิ พี่อาร์ทจะออกมาแก้ตัวไหม) ปราญฯทั้งขำทั้งแสบจมูกทั้งอาย พี่อาร์ทยังมีการไปเล่าให้พี่หลวงฟังอีกว่า ปราญฯเป็นนาคที่พ่นน้ำทางจมูกได้--"

ฮากันจนท้องแข็งไปหมดเลยค่ะ

 

โหๆๆๆๆๆๆ ราคาไม่แพงเลย ขอบพระคุณน้องใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆ อนุโมทนาบุญอย่างสูงนะน้องใจ

พี่กะว่าจะทำล๊อตแรกออกมา ก่อน เพราะของน้องใจถูกมาก............
แต่อีกโปรเจ็ค ตอนนี้กำลังประสานงาน ให้รุ่นน้องประกอบเครื่องไลท์เองเลย เวลาว่างๆ จะได้ไลท์เองได้เรื่อยๆ ใครอยากทุบุญก็บริจาคแผ่นซีดีมาโลด (อันนี้คงอีกระยะนะครับ)

พี่หลวงครับ เราพี่น้องกัน ผมขอทำเท่าพี่ล่ะกันนะครับ
ในนาม dangsticker และครอบครัว
และครอบครัวแขวงกระโทก

333 แผ่นครับ

ปล.ยอดที่คิดกันไว้ 1000 แผ่น แต่ถ้าเกินได้ถือว่าเป็นมงคลอย่างสูงเลยนะครับ ขอเชิญเพื่อนๆ พี่ๆ ร่วมกันนะครับ

ตอนนี้ยอดรวม
พี่หลวง 333 แผ่นครับ
อาร์ท 333 แผ่นครับ
ยอดรวม 666 แผ่นครับ

ยังขาด
ซีดี 334 แผ่นครับ 2004 บาท
ยอดทำบุญซองใส่ซีดี ซองล่ะ 0.20 บาท จำนวน 1000 แผ่น รวม 200 บาทครับ
นี่คือจุดเริ่มต้นของพวกเราทุกท่าน ท่านใดที่ใคร่จะเดินไปพร้อมๆกับเราก็ยินดีต้อนรับนะครับ ทางของพวกเราอีกไกลถ้าได้พวกพี่ๆ มาเป็นกำลังก้าวไปพร้อมกัน จะสำเร็จลุล่วงสวัสดี

 

dangsticker

5555+ โดนเผาซะเกรียมเลย พรุ่งนี้เก็บกระดูกได้แล้ว ปราญจ๋า
ก็ทำไงได้ ไกลขนาดเชียงดาว อยู่บนเขาขนาดนั้น บ้านเมืองธรรมชาติมากๆ
ลูกสาวแม่ค้า ยังกะดาราเกาหลี ก็อึ้งกิมกี่ไปซิครับพี่น้อง ตกใจเล็กน้อยถึงงปานกลาง เหงื่อแตกเป้นหย่อมๆ

 

ขอแซวนะ ก่อนปราญจะแก้คำนี้ผิด
เธอเรียกผมว่า พี่หนุ่ม บ่อยมากๆซึ้ง เป็นใครเธอก็ไม่รู้ นี่ยังจะเอามาเล่าแล้วเขียนเรียกเราว่าพี่หนุ่มอีก

..................... ตามนี้ก่อนเธอจะแก้อิอิ

พอออกไปก็ไปเดินหาซื้อเป๊บซี่และธูปเทียนแพกันค่ะ สุดท้ายก็ไม่ได้ธูปเทียนแพมา แล้วปราญฯก็แวะไปซื้อโค๊กที่ร้านคุณลุงแก่ๆคนนึง ขากลับมาพี่หนุ่มแวะร้านประจำค่ะ เข้าไปซื้ออะไรซักอย่างจำไม่ได้ ด้วยความที่พี่หนุ่มเป็นคนสายตาสั้นเธอก็เดินเข้าไปโดยไม่คิดอะไร แต่ประเด็นคือพี่อาร์ทรูปหล่อค่ะ พอถึงหน้าร้านพี่อาร์ทเหยียบเบรคกระทันหัน แล้วบ่นออกมาอย่างเสียดายกึ่งฉุนเฉียวว่า"นี่ใครชวนไปซื้อน้ำร้านโน้นเนี่ย เซ็งจริงเลย ปราญฯเอาตังค์มาให้พี่ยืมหน่อยซิ เดี๋ยวพี่เอากระป๋องไปทิ้งทำลายหลักฐานก่อน"พี่อาร์ทพูดนิ่งมาก ปราญฯก็งงยังคิดตามไม่ทัน แต่พอหันไปเห็นแม่ค้าปราญฯถึงกับสำลักน้ำโค๊กออกจมูกทีเดียวค่ะ เนื่องจากแม่ค้าน่าตาใสกิ๊กมากๆ นุ่งกางเกงขาสั้นนั่งขายน้ำอยู่ (อิอิ พี่อาร์ทจะออกมาแก้ตัวไหม) ปราญฯทั้งขำทั้งแสบจมูกทั้งอาย พี่อาร์ทยังมีการไปเล่าให้พี่หนุ่มฟังอีกว่า ปราญฯเป็นนาคที่พ่นน้ำทางจมูกได้--"
..............................................................................


โมทนากับอาร์ทครับ ได้คุยกันแล้วครับ อาร์ทเสนอจะเก็บตังส่วนตัวเร็วๆนี้ประกอบเครื่องไรท์เอง แบบไรท์ที่เดียวได้หลายๆแผ่น ราคาแพงเชียว น้องเลยขอเก็บตังส่วนตัวอีกสักพักครับ รับทำหน้าที่ผลิตCD DVD ธรรมะไปตามปราถนา โมทนาอย่างสูงครับ

ต่อไปนี้อาร์ทจะกลายเป็นบ้านผลิตCDธรรมะขนาดยอมแล้วคงแบ่งเบาภาระท่านได้อีกแรงและงานอื่นๆที่จะตามมา จะได้ไม่ง้อร้าน แต่ถ้าจำนวนมากเกินอาจจะง้อร้านไปก่อนตอนนี้ อิอิ พี่เคยคิดเสมอว่าอยากทำแบบนี้มาตลอด ตอนนี้น้องได้ทำพี่ก็ดีใจด้วยที่น้องคิดออกมาเหมือนที่พี่เคยคิดกับกำลังทรัพย์ของน้องเองในการจัดหาเครื่องผลิตทั้งมวล หากเกินกำลังน้องคงหยุดเพราะพี่รู้ว่าน้องจะไม่ฝืนแน่นอนนะครับ



นิทานก่อนนอน
พ่อครับ เห็นไหมครับลูกๆมีกำลังใจกันมากหลังไขกุญแจไปบางดอกออก ลูกๆจะเริ่มเร่งบำเพ็ญเท่าที่จะทำได้ พ่อจะได้ไม่เป็นห่วงว่าลูกจะอดตายแล้ว พ่อบอกให้กระโดด ลูกก็จะทำ เราจะจูงน้องๆพี่ๆกระโดดไปด้วยกันครับ ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณหลวงปู่อย่างหาที่สุดไม่ได้ และเทพพรหมเทวาและทุกท่านพี่ๆน้องๆที่เมตตา ถึงกุศลผลและบุญต่างๆมองไม่เห็นแต่เราทราบกันดีครับว่าจะเป็นเครื่องนำพาเราไป รวมถึงข้อสำคัญคือการชำระบาปด้านจิตใจในตัวเองครับ ลูกๆกำลังยืนกันอย่างเข้มแข็งเพราะแรงผลักดันของท่านพ่อและท่านปู่ หลวงปู่ที่ผมรัก ............

^^








<!-- google_ad_section_end -->

 

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ทำในช่วงเข้าพรรษานี้ทุกๆท่านค่ะ
สวัสดีทุกท่านค่ะขอรวบยอดไม่เอ่ยชื่อนะคะกลัวจะตกชื่อไม่ครบทุกคนเดี๋ยวจะน้อยใจ
ช่วงนี้ไม่ค่อยสบายตอนนี้ก็ยังเพลียอยู่เลยค่ะได้แต่ตามอ่านและอนุโมทนาบุญค่ะ
หลายๆท่านได้ไปทำบุญแล้วมาบอกกล่าวไม่ได้ไปด้วยแต่อิ่มบุญด้วยมากๆเลยค่ะ
รู้สึกดีมากเลยค่ะเอ๊ะหรือมีใครจุดธูปเรียก อิอิ ล้อเล่นค่ะ

 

อยากร่วมทำแผ่น cd ด้วยค่ะ โอนเงินยังงัยบอกหน่อย ขอบคุณค่ะ

 

----

สวดบทจักรพรรดิ นึกถึงภาพหลวงปู่ทวดหรือหลวงปู่ดู่ นี่แหล่ะวิธีการฝึกบุญฤทธิ์ แนวอภิญญา

 

----

สืบทอดพระศาสนา
อดีตที่ผ่านมา เช่นสมัยนาคก็เป็นพญานาคที่ตัวเองชอบหล่ะนะ ชอบการศึกสงคราม เหมือนพญาศรีสัตตนาคราช อิอิ สงสัยอยู่ใกล้ๆกัน ที่ชอบการศึกสงครามไม่ใช่หมายถึงไปรังคราญชาวบ้าน แต่โดยหน้าที่ อาจจะเป็นคล้ายๆตำรวจทหาร ต้องดูแลพลเมืองชาวบาดาลที่ออกนอกกฎระเบียบไปบ้าง เช่น นาคที่ชอบไปจีบสาวๆมนุษย์แล้วนำตัวมาอยู่ด้วย ผิดกฎเราก็จะไปเตือนสติ และถ้าไม่ฟังก็จะใช้กำลังบังคับบ้าง หุหุ ที่มาที่ไป

 

พระคาถาที่เกี่ยวกับอภิญญา ที่ภาวนาก็คือ โสตัตตะภิญญา สัมประจิตฉามิ และล่าสุดก็บทพระจักรพรรดิ วิธีการฝึก ถ้าสัมประจิตฉามิ ไปอ่านที่หลวงพี่เล็กท่านสอนไว้

 

ถ้าได้สังเกตขณะสวดบทจักรพรรดิ จะรู้สึกว่าที่ศีรษะ จะมีพลังงาน ตุ๊บๆๆที่ศีรษะ ให้กำหนดจิตไปที่จุดนั้น แล้วทำใจสบายๆ นั่งกรรมฐานจนกว่าจะรู้สึกเมื่อย แล้วค่อยมาสวดบทจักรพรรดิใหม่ อาจทำสลับๆกัน สวดมนต์แล้วมานั่งสมาธิให้จิตสงบ พอจิตสงบก็เริ่มฝึกให้จิตแจ่มใส จะให้จิตแจ่มใส ต้องทิ้งขยะที่รกออกให้หมด ขยะที่ว่าคือความอยากรู้ พวกอดีตชาติ หรือ อยากเห็นโน้นเห็นนี่ พอไม่อยาก แล้วมักจะได้เห็น เพราะว่าเรามีจิตใจผ่องใส สบายๆ ไม่มีภาระ การประยุกต์ใช้สองแนวทางทั้งของหลวงพ่อ และหลวงปู่ สามารถทำได้ แม้นหลวงพ่อท่านจะไปนิพพานแล้ว แต่ท่านก็สามารถให้เราเห็นได้ เวลาเราเห็นภาพหลวงพ่อ แสดงว่าท่านมาสงเคราะห์อยู่ อย่าลืมว่าหลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านมีลูกหลานบริวารมากมาย เทพพรหมเทวดาที่เกี่ยวเนื่องกับท่าน จึงมาสงเคราะห์เราอยู่นั่นเอง

 

dangsticker

โมทนาอย่างสูงครับ จำนวนที่จะสร้างเท่าไรครับ
ผมแนะนำ ให้เป็นบัญชีพี่หลวงครับดีที่สุด รบกวนพี่หลวงด้วยนะครับ

 

สวัสดีตอนเช้าครับพี่ครู อากาศดีๆ ผมตื่นมา 6โมงพอดีเลยตื่นมาน้อมจิตไปที่ถ้ำ สวดมนต์ พร้อมๆกับบหลวงตาครับ สดชื่นดีจริงๆ

 

เรื่องของความอ่อนน้อมถ่อมตน เรื่องการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เรื่องพวกนี้ก็ยังสามารถใช้ได้อยู่เสมอๆแม้นว่าเราจะเป็นลูกหลานท่านใด พ่อเราอาจจะเป็นใหญ่ที่สุดในสวรรค์ แต่ถ้าเราไปหยิ่งจองหอง แสดงความมีมิจฉาทิฎฐิ ถือตัวถือตน เราก็ย่อมคลาดจากสหธรรมิกได้โดยง่าย จงเก็บความเก่งกาจไว้ภายในบ้าง เพราะบางทีศัตรูที่กล้าแกร่งที่สุด อาจจะหาหนทางเอาชนะเราอยู่ พอเขารู้ว่าเรานั้นมีอาวุธอะไรบ้าง เขาก็ย่อมหาอาวุธที่เหนือกว่า มาใช้ต่อกรในยามศึก
ไหนลองตอบหน่อยว่า อาวุธอะไรที่มีอานุภาพมากที่สุด

 

ขอบพระคุณพี่ครูครับ คำตอบไม่น่ากลัวเท่าไร วันนี้ขวัญและกำลังใจดีขึ้นมากแล้วครับ กราบขอบพระคุณพี่ที่เป็นที่พึ่งของพวกเราเสมอมาครับ

แอบงงว่าอะไรจะเป็นพวกนักรบ ตำรวจ ทหารกันทุกชาติเลยนะเรา สรุปว่ารับราชการตั้งแต่เป็นนาคเลย อิอิ

 

พี่ครูก็ชอบเหมือนกัน แต่ที่ผ่านมาตอนที่เป็นทหาร ทำหน้าที่ไว้มาก สร้างกรรมหนัก คือ เป็นมือศึก เรียกได้ว่าสร้างกรรมดีก็ได้สร้างเช่น สร้างพระ ปกป้องบ้านเมือง และกรรมชั่วคือกรรมที่ต้องเอาชีวิตคนอื่น สร้างเยอะไปแล้ว ต้องปล่อยให้คนอื่น ทำหน้าที่กระจายๆไปบ้าง อิอิ แต่ก็ยังเป็นทหารอยู่ดี เป็นทหารเอกของพระพุทธองค์

 

ขอบพระคุณในคำสอนครับพี่ครู จดจำขึ้นใจครับ
ขออณุญาติตอบนะครับ(ผิดถูก ขอพี่ครูสั่งสอนด้วยครับ)
อาวุธอะไรที่มีอานุภาพมากที่สุด คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ใช่หรือไม่ครับ

 

มหาโมทนาครับพี่ครู ผมเองก็พรากชีวิตเขามาไม่น้อย พอเขามาทวงเล็กๆน้อยก็ชักผวา ครั้งล่าสุดนี่เล่นเอาจิตตก เสียขวัญ เหวอมาเกือบสัปดาห์แล้วครับ วันนี้เพิ่งรู้สึกดีขึ้นบ้าง เนื่องจากมีตัวช่วยมาช่วยไว้ทัน เฮ้ออ

ตอนนี้ขอเป็นทหารชั้นเลวของพระพุทธองค์ก็ยังดีครับ อย่างน้อยผมก็ตั้งใจจะปกป้องบ้านเมืองและพระศาสนา และทนุบำรุงรักษาเท่าที่กำลังจะพอมี

ขอน้อมรับคำสั่งสอนครับพี่

 

---

ดังนั้นเราต้องแผ่กุศล หรือถวายสังฆทานเยอะๆ

 

---- อาวุธในทางโลก ที่น่ากลัวที่สุด คือ ความสามัคคี เมื่อใดที่รู้ว่าเมืองนั้นมีทหารมาก และคนในเมืองมีความสามัคคีมาก เขาจะพยายามเลี่ยงทันที อิอิ

 

ส่วนที่น้องตอบ คือในทางธรรม