กระทู้ถามผู้ที่บอกว่าเป็นพระรังสีมุนีโพธิสัตว์ และเหล่าลูกศิษย์

ฉันนี่มันคนเลว ยังเลวอยู่มาก ฉันไม่ได้ว่าอาจารย์กร หรอกนะ ฉันแค่อยากรู้ในสิ่งที่ศานุศิษย์ทั้งหลายมาโพนทะนา

ฉันนี้บารมียังด้อย น้อยนัก เศษธุลี แบ่งออกเป็น16ส่วน ฉันยังเล็กกว่า
แต่บางอย่างที่ฉันอยากรู้และเห็นว่าเป็นสิ่งที่สำคัญควรรู้ฉันก็ถาม ถ้าดีจริง ฉันก็จะไปเรียนกับเขา ฉันก็อยากดี ก็รอให้เขาเมตตาเล่าให้ฉันฟัง
ว่าสิ่งที่ฉันรู้มาฉันเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า
ถ้าไม่ถูกก็ขอความสมเพชเวทนาตอบฉันด้วย
ฉันจะได้รู้ข้อเท็จจริง

 

มานั่งรอคำตอบ จดจ่อรอดู
ตอบมาเมื่อไหร่คงถึงเวลากระจ่างแจ้งใจ
พบทางเที่ยงแท้ ปลายทางก็คงจะถึง
ในไม่ช้านาน รอเพียงคำตอบกระจ่างแจ้งจิต
ชี้แนะเข้ามา กระทบเข้ามา
ภาชนะคือหม้อ จักทน จักรอ
วันสวยวันงาม หลุดจากโคลนตม
กิเลสตัญหา ไปพบพระเอย

 

ข้าแต่ท่านเจ้าของกระทู้ผู้เจริญ
ท่านเองไม่ ก็พึงแสดงวาทะหรือแสดงธรรมเสียดสีตนหรือผู้อื่น เลย
จริงอยุ่ มิใช่ ข้าพเจ้ามิเคยกระทำ แต่กระทำไป มิเกิดประโยชน์ใดๆเลย ยิ่งพอกพูน ความมีมานะ มากขึ้นและทำให้ผู้ จะตอบ ยิ่งไม่กล้าตอบไปใหญ่ เหอๆๆๆๆ
ผมเองเข้าใจ ว่าท่านก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในใจใช่ไหมครับ
แต่ ไม่ว่าใครก็ไม่พ้น กรรม เพราะกรรม ย่อมเกิดแล้ว เมื่อท่านเเสดงเจตนาก็เข้าใจอยู่ว่า ไม่กลัวกรรมนั้นๆ เพราะ ยินดี รับผลด้วยว่าตั้งใจก่อเอง เพราะว่าท่านเองก็ มีบารมีอยู่ในระดับหนึ่ง(ท่านเข้าใจแบบนั้น) ด้วยคิดว่าเป็นกรรมเล็กน้อย แต่ก็อย่าได้ดูถูกนะครับ(ท่านก็รู้อยุ่ว่ากรรมหรือบาปเพียงเล็กน้อยก็มิควรกระทำ บุญเพียงเล็กน้อยก็มิควรละเลย แต่อย่ากระทำด้วยไม่มีเหตุผลหรือทำๆไปตามๆกัน)เพราะกรรมเล็กน้อยนี่หล่ะจะเป็นสิ่งที่ ฝังลึกถ้าทำบ่อยๆ เหอๆๆๆ

จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน หากยังไม่เข้านิพพานก็ต้องรับผลกรรม (ไม่เว้นเเม้พระธรรมราชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง) เว้นก็แต่ อโหสิกรรม เท่านั้น พระศาสดา จึงยกเอา ความไม่จองเวรขึ้นมา เป็นจุดสิ้นสุดของการก่อเวร ว่า เวร ย่อมระงับได้ด้วยการไม่จองเวร
ผมคิดว่า กล่าว แค่ นี้ผู้มีปัญญา ย่อมพิจารณาได้

ข้าเเต่เพื่อนผู้เดินทางไกลอย่ผู้เจริญ จำเดิมแต่ไรมาผู้ที่ฝุ่นเข้าตา แม้จะรุ้จักฝุ่นนั้นว่าเปนอะไรมาจากไหน ก็ย่อม ไม่สามรถนำฝุ่นออกได้ เพราะ มองไม่เห็นฉันใด ผู้ศึกษามาดีแล้ว เจนจบ ยัง ไม่มีสติ สัมปชัญญะและปัญญาหรือมีแต่ไม่บริบูรณ์ เมื่อกิเลสครอบงำ ย่อม มิอาจ มองเห็นกิเลสได้ ฉันนั้น ย่อมอาศัยกัลญาณมิตร คอยชี้แนะ ตักเตือนด้วย วาทะบ้างสุภาษิต บ้าง ตามสมควร

เมื่อเชื่อมั่นในปัญญาการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ก็ย่อมเชื่อมั่นในกรรมและผลของกรรม จริงอยู่เราบังคับสิ่งใดไม่ได้ แต่ หาก ต้องการผลเช่นไร ก็กระทำเหตุให้ สมควรเถิดเพราะไม่เคยมีสิ่งใดไม่สมควรแก่เหตุเลย
อนุโมทนาในความดีที่จะเกิดขึ้นครับ

ข้าแต่ท่านผู้ถูกถามครับ ผมคิดว่าถาม มาก็ตอบไปครับเข้าใจเช่นไร เมตตาบอกเท่าไหร่ ก็ตอบไปเช่นนั้น ไม่รุ ก็บอกไม่รุ ไม่แน่ใจ ก็บอกไม่แน่ใจ แต่ พิจารณาดี ๆ ในเเง่มุมต่างๆ มิให้เข้าใจผิดได้ในประเด็นอื่น(หรือประเด็นที่ต้องการ) ไม่ใส่อารมณ์อื่น นอกจากเมตตาและกรุณา หากบอกแล้วท่านที่อ่านได้ประโยชน์ก็อนุโมทนา หาก ไม่เกิดสิ่งใดเลยก็อุเบกขา อย่างน้อยเราก็ได้กล่าวในสิ่งที่ควรกล่าวแล้ว ผมคิดว่า คนที่รออ่านอยู่ คง ยินดี ที่จะรับฟังแล้วใช่ไหมครับเจ้าของกระทู้ เหอๆๆๆ

 

ขอโทษครับ หลงเข้ามา
กระทู้นี้ เหมาะสำหรับ sleeping_rbผู้มีวาสนาบารมีโพธิสัตว์

 

ถ้ายังไม่บรรลุธรรมเป็นพระอริยะสงฆ์ หรือ สิ้นกิเลสแล้ว การสอนย่อมคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงได้มาก

ดังนั้นท่านทั้งหลายที่ตั้งตัวเป็นครูบาอาจารย์ต้องรู้ตัวเองว่าภูมิธรรมแค่ไหนถึงตั้งตัวเป็นโน่นเป็นนี่ การสอนผิดแนะนำผิดถึงขนาดเป็นมิจฉาทิฐิ บาปกรรมจะหนักหนาสาหัสอย่างหาประมาณไม่ได้ ยิ่งถ้ามีเจตนาชักให้คนผิดทางก็จะยิ่งเป็นปาบกรรม

พระโพธิสัตว์ที่เกิดอยู่ในศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ใด ๆ ท่านจะไม่แสดงตัวเองว่าจะเป็นว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ถัดไป แต่ผู้ที่ทำนายคือ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทำนาย ไม่ใช่ทำนายตนเอง ท่านจะไม่แสดธรรมใดเลยที่ไม่แสดงความเคารพหรือค้านต่อพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ถ้าทำดังนั้นแสดงว่าของปลอม

ส่วนเรา ๆ ก็หนึ่งตนในสัตว์สามโลกที่พยายามหาทางออกจากวัฏสงสารดัวยกันทั้งนั้น วิธีการที่พระพุทธเจ้าท่านสอนก็บอกให้หมดแล้ว และเป็นทางตรงที่สุด ไม่ใช่ทางอ้อม ก็ คือ โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประกอบด้วย สติปักฐาน ๔ อิทธิบาท ๔ สัมมัปปทาน ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ และ มรรคมีองค์ ๘ โพธิปักขิยธรรม คือ ธรรมที่เกื้อหนุนการตรัสรู้

แต่แล้วเราจะพบเห็นว่า ก็มีวิธีการแปลก ๆ ใหม่ ๆ ออกมาอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้คนหลงเชื่อว่าตัวเองค้นพบวิธีการใหม่ ซึ่งอาจจะไปได้เหมือนกันแต่อ้อมและเนิ่นช้า หรือไปไม่ได้เลย คือ ออกนอกลู่นอกทาง

แต่แล้วก็เหมือนคนตาบอดคลำไปคลำมา ตัวเอง ก็ยังไปไม่ถูกทาง ยังชักชวนผู้อื่นให้เป็นไปด้วย บาปกรรมก็จะพอกพูนทำให้ตัวเองเนิ่นนาน และ ผู้เชื่อตามก็เนิ่นนาน มันเป็นบาปกรรม

ดังนั้นคนที่คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ในธรรมทั้งหลายพึงระวัง อย่าเพียงแต่อ้างว่าตัวเองเป็นใหญ่ในธรรม ในบารมี แต่ธรรมที่เสนอมานั้นมันบอกมาเองว่าไม่ถึงไหน คนหลงเชื่อก็ไม่ถึงไหน


พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า

"บุคคลที่ประกอบด้วยธรรมแห่งการชักนำให้ผู้อื่นเป็นมิจฉาทิฐิ ย่อมบริหารตนให้เป็นผู้ถูกกำจัดถุกทำลาย หลักจากตายแล้วจะไปเกิดในอบายทุขตินรก"


ปล ผมเข้าใจเจตนาดีของ จขกท และเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้

 

ไม่เห็นโลงศพ จะมีรึ ที่จะหลั่งน้ำตา เหอะๆๆ ก็เหมือนคนไม่เคย คิดว่าจะลงนรกนั่นล่ะจ้ะ

ไอเรื่องบรรลุนี่ ข้าพเจ้าไม่มีคำอะไรจะพูด แต่ว่า รุ้ได้อย่างไรว่าข้างบนประชุมมา แล้วประเด็นที่น่าสนใจคือ การอ้างผู้ใหญ่ แบบนั้น มัน คืออะไร แล้ว พระพุทธเจ้า ท่านพยากรณ์ ผิดหรืออย่างไรกันล่ะ แม้แต่ เรื่องราวของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน สมัยที่ท่านทรงเสวยพระชาติ เป็น ท่าน สุเมธดาบส ได้มีพระพุทธเจ้า ทรงพยากรณ์ ว่าจะได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าในอีก 4 อสงไขยกับอีกแสนกัปป์ พระนามว่า พระพุทธสมณโคดมพุทธเจ้า ยังเป็นความจริงเลยนี่จ้ะ นั่นระยะเวลา ผ่านมาแค่ไหนกันล่ะนั่น แล้วนี่ 2500 ปี จะมาบอกว่าคลาดเคลื่อนนี่ ผิดวิสัย ของ พุทธศาสนิกชนไปสักหน่อยกระมัง ข้าพเจ้าไม่โต้แย้งนะ ไม่ขวางทางด้วย แต่ ว่า คิดให้ดีๆนะคุณ หนักมากนะ ไอ้การที่จะรักใครสักคน น่ะมันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่ ขอให้ท่านคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมไว้สักนิดนะจ้ะ ว่าผลที่จะตามมาคืออะไร ไม่กล่าวหาอะไรนะจ้ะ มาเตือนกันไว้ สักนิด ว่า ของแท้นั้น อวดไม่เป็น และไม่มีอะไรจะอวด เพราะ ท่านหมดดีเสียแล้ว

ขออนุญาต ยกครูบาอาจารย์ที่เป็นแบบอย่างนะจ้ะ

หลวงปู่ปานวัดบางนมโค ไม่เคยบอกว่าท่านเป็นพระโพธิ์สัตว์บารมีแค่ไหน จนเมื่อได้ ไปพบกับท่านแม่ชี ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเล่าให้ฟัง ว่าแม่ชี ท่านบอกเองนะจ้ะ ว่าหลวงปู่ปานท่านบารมีเต็ม 30 ทัศน์ หมดชาตินี้ก็รอตรัสเป็น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อไป แต่... หลวงปู่ท่านไม่เคยบอกเองเลย
ละต่อมายุคนี้ นักวิทยาศาตร์ทั้งหลายก็มาแปลคำสอนของพระพุทธองค์ไปในทำนองหลักการทางวิทยาศาตร์ ซึ่ง วิทยาศาตร์นั้น ไม่ใช่ทางหลุดพ้นและยังอยุ่ในอำนาจของ อวิชชามาก การหลุดพ้นน่ะ มาบอกว่า ขันธ์ 5 วางได้ วางที่ไหน รู้รึเปล่า รู้จริงหรือยัง ทำหรือยัง ถึงได้พูดเรื่องขันธ์ 5 กัน ซะเหมือนเข้าใจจริง เคยฟังพระเดชพระคุณท่านสอนลูกหลานมั้ย น่าจะเคยได้ยินกันมาบ้างนะสำหรับลูกหลานท่าน
ท่านพูดมาประโยค ว่า แหมที่ วัดเรานี่รู้สึกว่าเรื่องนิพพานนี่แหม ฟุ้งกันใหญ่ ใช้กันจนเกล่อไปหมด อะไรก็พูดถึงแต่นิพพานๆ ศีล 5 มีแล้วหรือยัง ศีลมันยังไม่มีจะมาพูดเรื่องนิพพาน ศีล 5 ไม่มี แม้แต่คนมันยังไม่ได้มาเกิดเลย มีที่ไปที่เดียวคือ นรก แล้วท่านคิดเห็นกันอย่างไร ถึงได้มาพูดในทำนองว่า กูวางได้แล้วนะกูนี่แหล่ะของจริง กูของแท้ไม่มีใครเสมอกู อีกหน่อยใครก็ต้องมาเรียนเอากับกู เคยถามผู้อื่นรึเปล่าท่าน ว่าอยากไปมั้ย เราสังเกตุมานาน ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเบาลงเลย การสอนธรรมมะเป็นสิ่งดี ขออนุโมทนาในส่วนของความดีตรงนี้ อย่างน้อย คนที่ได้รับฟัง ก็ไม่เอาเวลาไป ไร้สาระตรงอื่น ได้อยุ่กับ ธรรมมะ เป็นประโยชน์มาก แต่ว่า การ กล่าวอ้าง สรรพคุณนั้น ย่อมไม่มีใน อารมณ์ของพระ ผู้มีกำลังใจเต็ม ถ้ายังมีอวด แปลว่า ยังเห็นว่าโลกนี้มันมีดีอยุ่สิ ถ้ามันหมดดีเมื่อไหร่มันก็หมด คำพูดไปเอง ล่ะท่าน ข้าพเจ้าเคยถามไปไม่รู้คำถามไปถึงรึเปล่า ถามไว้ 3 ข้อน่ะ จนบัดนี้ยังไม่มีแม้แต่คำตอบ เพราะ ท่านเล่นพูดแต่ ในสิ่งที่ตนเองอยากพูดเท่านั้น ข้าพเจ้าไม่ได้ถามไร้สาระเลยนะ ถามเป็นงานเป็นการนี่ล่ะ ก็ไม่เห็นมีใครตอบ ขอผู้ที่เข้ามาอ่านโปรด พิจารณา ไตร่ตรอง ด้วยใจที่ เป็นกลางคืออารมณ์ปกติ แล้ว ท่านจะทราบว่าอะไรควรหรือไม่ควร ขอจบเพียงเท่านี้กับการมาเยี่ยมเรื่องของ พระรังสีมุนีนาท เป็นใคร จริงหรือเปล่า จบเพียงเท่านี้ไม่มีต่ออีก นะจ้ะ

กรรมใดที่เคยล่วงเกินมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน ขอ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระ อริยะสาวกทุกๆ พระองค์ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ทั้งหมด ขอให้ท่านได้โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ใน กายกรรม วจีกรรม และ มโนกรรม ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วย เทอญ

 

เราไม่เสียดสีดอกท่านเอย
เรานี้ยังเลวอยู่มาก หากเราดีจริงเราไม่มานั่งโง่อยู่นี่หรอก เราคงนิพพานไปแล้ว
แสดงว่าเรามันยังเลว
ที่แบ่งเศษธุลีเป็นสิบหกส่วนเทียบไม่ได้คือเทียบกับพระศาสดาไม่ได้
เราไม่ได้เสียดสีใครนะท่าน

แต่ถึงกิเลสมานะเราเกิดขึ้นก็ ช่างมันเถิดมันไม่เที่ยง เราก็ยอมรับว่าเรากิเลสหนาปัญญาหยาบ ดังที่ได้บอกท่านเรายังเลวอยู่ แต่ท่านผู้รู้ผู้เกี่ยวข้องก็ไม่เคยจะมาตอบเลย
ท้องแท้ใยต้องกลัวไฟเล่าท่าน

 

ขอบคุณคุณ
หาธรรม
และ
Armarmy
มาก ทำให้หลายๆท่านได้ข้อคิดและ กระจ่างเรื่องเหล่านี่มากยิ่งขึ้น ขอบพระคุณและอนุโมทนา

 

องค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์พระอชิตะ ไว้แล้วในสมัยพุทธกาล
ว่าจะบรรลุสัมมาสัมโพธิญาน ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่อไปมีพระนามว่า
"พระศรีอารยเมตตรัย"

ผมเชื่อและศรัทธาอย่างมั่นคง ไม่เขว เชื่อมั่นอยู่จนทุกวันนี้
และตลอดไป.........
ไม่เถียงกับใคร ไม่หลงคารมใครแน่ ๆ

 

ขอบคุณครับที่คุณแสงส่องธรรมยืนยันว่าเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง เพราะมีกัลยาณธรรมท่านหนึ่งโดนกล่าวหาว่าเป็นคุณแสงส่องธรรม ทั้งๆที่กัลยาณธรรมท่านนั้นไม่รู้เรื่องด้วยเลย

ส่วนศิษย์ท่านอาจารย์กรก็ขอให้หยุดคิดว่าเป็นกัลยณธรรมท่านนั้นด้วย ภูมิธรรมและความดีที่สั่งสมมาจะชะงักไปเพราะความเข้าใจผิด

เรื่องของท่านอาจารย์กรที่กำลังวิพากษ์กันอยู่ ถ้าของจริงเพชรก็เพชรที่มีความงามอยู่ในตัวเพชร รอวันฉายแสงให้ผู้มีปัญญาได้พบเห็นศรัทธา และเลื่อมใส พร้อมจะถูกนำไปเป็นแบบอย่าง

แต่มีคำกล่าวประโยคหนึ่งว่า "ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ของไม่จริง" เป็นคำกล่าวที่จริงเสมอ

 

ไม่เชื่อก็มาขอดูได้นะครับ มีเหมือนกัน ไม่ใช่ผู้หญิงครับ
ถ้าทำให้ท่านหนึ่งผู้ใดเดือดร้อนก็ต้องขออภัย ผมก็มาทำบ้าบอคอแตกของผม บางอย่างผมพุดไม่ได้ ทั้งที่รู้ ทำไมถึงมาพูดในที่นี้ ผมไม่อยากดึงท่านอื่นๆ หรือท่านอื่นๆมาเกี่ยวข้อง
แต่ ท่านผู้นั้นเคยสอนผมว่า"คนเป็นเขาไม่พูดกันหรอก คนพูดไม่ค่อยเป็น"

ขอย้ำทองแท้ไม่ต้องกกลัวไฟ และผมก้ไม่ได้ทำด้วยอารมณือิจฉาริษยา อาฆาต หรืออยากเอาชนะ แต่ประการใด ขอท่านจงร่มเย็นเถิด

 

เอาแล๊ว...ไง เกิดเขาหลงผิดคิดว่า ตัวเองเป็นของจริง
แล้วนิ่งเสี๊ยะ อย่างนี้เราจะมั่นใจได้ไง ว่าเป็นของจริง เพราะตอนนี้พวกปลอมมักเเปลงๆเป็นของจริงอยู่เสมอ พวกปลอมๆมักจะใช้ลูกไม้นี้บ่อยๆ

ปล.ผมรำพันอยู่คนเดียวนะครับ

 

หึหึ เราไม่เถียงๆ เพราะ สิ่งใดเกิดขึ้นในจิต ท่าน ถ้าท่านสังเกตท่านย่อมรู้ด้วยตนเองเราเองมิได้มีญาณทัศนะ มิอาจพยากรณ์ดอก รู้แบบตัวหนังสือ ว่าตามเนื้อผ้า และเพียงตรรกะตามความคิดเท่านั้นเอง หากปรามาสท่านไปก็ ขออภัยด้วยๆ

 

เอาปืนจ่อหัว แล้วถามดู ถ้าไม่ตอบก็ยิงขาสองข้าง แค่นี้ก็น่าจะเผยให้เห็นความเทียมแล้วหากยังไม่พูดก็แขนถ้าไม่พูดอีกก็ ขอขมาเถอะ เหลือที่เดียวแล้วที่จะให้ยิง ถ้าไม่พูดก็น่าจะจริงแล้วล่ะนะ

 

โอ้ ไม่มีเวรไม่ภัยใดๆ เราให้อภัยล่วงหน้าต่อทุกดวงจิต หากเราล่วงเกินท่านเราต้องขอภัยท่านด้วยนะครับ

 

นมัสการ นมัสการ นมัสการ

พระพุทธเจ้าหละ??

 

ใครไม่เชื่อ พระผู้มีพระภาคเจ้าก็เป็นกรรมของเขา เราไม่สามารถที่จะไปเปลี่ยนให้เขาเป็นแบบโน้นแบบนี้ได้ แต่เราเปลี่ยนความคิดเราดีกว่า สงสารคนพวกนั้นแทนดีกว่า จิตใจจะได้เย็นขึ้นๆ

 

พระพุทธเจ้าท่านอยู่นิพพานแล้ว เขาเลยนมัสการคนที่ยังอยู่บนโลกมั้งครับ เหอๆ

 

อย่างฮา

 

ตามอ่านตั้งนาน ไม่มีคำตอบ
หรือถือปรัชญาเซน ตอบคือไม่ตอบ
เอ กระทู้พระโพธิสัตว์นี่ ไม่เกี่ยวกับเซน
ก็เห็นกินข้าว เข้านอนกันทุกคน เป็น พระมหาสัตว์ ก่อนไหม
เราฝันหรือตื่น หรือ เราตื่นในความฝัน(eek)