กระทู้ถามผู้ที่บอกว่าเป็นพระรังสีมุนีโพธิสัตว์ และเหล่าลูกศิษย์

มาปูเสื่ออ่านจ้า ซุ่มมานานแล้ว รอดูฝ่ายโน้นจะแก้ว่าอะไร เราไม่เชื่อพวกที่มาพูดแก้คำพยากรของพระพุทธเจ้าเด็ดขาด ออกแนวจะสมเพชด้วยซ้ำ ในห้องนี้มีหลายคนเลย เราเชื่อพระพุทธเจ้าพระองค์เดียว

ดั่งคำที่สวดตอนทำวัตรเย็นว่า ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สรณะอื่นของข้าพเจ้าไม่มี

 

ใครเคยฝึกกรรมฐานกะอาจารย์กรแล้วบ้าง PM คุยกันครับ อยากทราบความรู้สึกครับ จริงไม่จริง ยังไม่ชี้ชะตาครับ

เทวทัต ทำให้สงฆ์แตกแยก ยังได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในบั้นปลายเลย

เผื่อ อจ.กร มีอะไรบ้างที่ดีๆ นอกจากขัดพุทธพยากรณ์แล้ว

 

สภาวะ อจ.กร ตอนนี้ ไม่ต่างจากครูบาศรีวิชัย ในอดีตเลย ตอนที่ท่านบวชเอง ทุกคนรุมด่า รุมแช่งว่าเป็นพระเก๊ สุดท้ายก็พากันแย่งทำบุญ

เฮ้อ!!! อยากเรียนรู้ธรรมในนี้ แต่กลับมีแต่ความขัดแย้งกันซะงั้น

จะลองโทรคุยกะ อจ. คนนี้ดูว่าเป็นอย่างไร

 

ขออนุญาต ทุกท่านนะครับ
กระผมเอง ผู้บุญน้อย ขอกล่าวถึงกฏของโลกซักหน่อยครับ

ธรรมดา ตราชั่งของโลก นั้นมีความดี อยู่ข้าง ความเลวอยู่ข้าง
คนที่ทำความดี ด้วยความไม่ประมาท ย่อมเกิดสุคติภูมิ
หากผู้ใด ทำความผิด ย่อมไปสู่อบายภูมิ

ด้วยเหตุที่ตราชั่งนี้ไม่มีความสั่นไหวเอนเอียงไปทางใด
จึงขอให้ทุกท่านระลึกถึงกฏแห่งกรรม
อันเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด

อารมณ์ความสงสัย ความไม่พอใจ ความขุ่นเคือง
อย่าติดในอารมณ์เหล่านั้น เลย
ขอให้ทุกท่านมีจิตที่ผ่องใส มีอารมณ์อันเป็นทิพย์ทุกท่านด้วยเทอญ

 

ท่านผิดศีล 5 แล้วนะท่านเกิดตายขึ้นมาละ^^ระวังเรื่องศีลทั้งกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์

 

น่านนน...สิ แต่ก็น่าลองดูนะ ถ้าเป็นโพธิสัตว์จริงๆ ย่อมไม่หวั่นไหว

 

มารู้เรื่องพระเทวทัตสักนิดก่อน..

พระเทวทัตทำให้สงฆ์แตกแยก ทำกรรมไว้เยอะโดนธรณีสูบ ก่อนตายได้สำนึกในบุญคุณของพระพุทธเจ้าได้ถวายกระดูกคางเป็นพุทธบูชา แก่พระพุทธเจ้า บุญนี้ทำให้พระเทวทัตแม้จะไม่ลงโลกันตนรก ลงแค่อเวจีมหานรก เมื่อหมดกรรมจะได้เป็นพระปัญเจก...ผู้มีนามว่า ผู้ถวายพระดูกคาง แต่จำชื่อบาลีไม่ได้แล้ว ถ้าพระเทวทัตไม่ได้ถวายกระดูกคางก่อนตายคงไม่ได้เป็นพระปัญเจกหรอกคุณเพราะคนมันสำนึกได้ก่อนตายต่างหาก มันไม่เกี่ยวกับท่านครูบาเลย..ท่านพัฒนาดอยสุเทพจนไปขัดพวกมีเส้นในพื้นที่แถวนั้นต่างหาก พวกนั้นถึงได้ปล่อยข่าวมาทำร้ายท่าน

 

ถ้าเพื่อพิสูจน์ความจริงจะกลัวไปใย ผิดศีลก็ไปชดใช้เอาหมดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแล

 

แหม่... อ.กร เขาอาจจะ ดีอยู่แล้วก็ได้มั้ง... อ.กรเป็นยังไงไม่สนใจหรอก ลูกศิษย์อ.กรบางคนทำให้อ.ตกต่ำ เป็นการสร้างชื่อเสียให้กับอ. รู้ถึงไหนอายถึงนั้น..

 

ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับว่าใครจะบรรลุธรรมขั้นไหน เพราะเมื่อครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าท่านก็เคยตรัสไว้แล้วว่า คนธรรมดาทั่วๆไปไม่รู้วิสัยพระโสดาบัน พระโสดาบันไม่รู้วิสัยพระสกทาคามี พระสกทาคามีไม่รู้วิสัยพระอนาคามี พระอนาคามีไม่รู้วิสัยพระอรหันต์ พระอรหันต์ไม่รู้วิสัยพระปัจเจกพระพุทธเจ้า และทั้งหมดไม่รู้วิสัยพระพุทธเจ้า ทุกวันนี้มีบุคคลต่างๆอ้างตัวเป็นผู้วิเศษหรือแม้แต่เป็นพระศรีอริยะเมตไตรย์อยู่เยอะแยะมากมาย เป็นต้น ให้เรายึดคำพยากรณ์หรือคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก แล้วเราก็จะไม่ต้องมาถกเถียงกัน และส่วนภาคการปฏิบัติธรรมนั้น ประกอบไปด้วยปริยัติ ปฏิบัติ แล้วปฏิเวชคือความหลุดพ้นจะตามมา ที่สำคัยเราต้องดูตัวเอง ถ้าดุคนอื่นก้ดุเป้นครูบาอาจารย์ อย่าไปตำหนิกรรมของผุ้อื่น เขาจะเลวจะชั่วก็ช่างเขา เราดูเฉพาะในส่วนดีของเขา และยึดพระไตรปิฎกเป้นหลักสำหรับภาคปริยัติ รวมทั้งตำราของครูบาอาจารย์องค์ต่างๆ เมื่อ่านมามากจนถึงจุดๆหนึ่งแล้วก้เริ่มสนทนาธรรมกับพระบ้าง จากนั้นก็ก้าวเข้าสู่ภาคปฏิบัติอย่างจริงๆจังๆ แล้ววิมุตติจะตามมา ก็นิพพานในที่สุด.....

 

ว้าวววว... ศิษย์พระสมณโคดม กับ ศิษย์อจ. กร ทะเลาะกันอย่างดุเดือด ในระหว่างที่ อาจารย์ทั้งสองคน ต่างมองศิษย์ทั้งหลายด้วยความเมตตากรุณา

พุทธบริษัทเป็นอย่างนี้กันแล้วหนอ ศาสนากู คำสอนอาจารย์กู ของๆกู จริงๆแล้ว แต่ละตัวกู นี้ไม่รู้อะไรเลย ในคำสอนของครูตนเอง

พากันทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์ธรรม กันหญ่ายยย แต่ไม่พิทักษ์ใจตนเองกันเลยเน๊อะ?

ถ้าพุทธบริษัทมีจิตขัดแย้งกัน คนนั้นถูก คนนี้ผิด ก็ไม่ต่างไปจากพวกนับถือผีทรงเจ้าหรอก

อย่างว่าละนะ แต่ละคนก็บารมีสูงๆๆๆกันทั้งน้านน

ขอสนับสนุนลัทธิใหม่

ลัทธิใหม่ --> พุทธ + ความขัอแย้ง + ของๆกู ในหมู่ชาวพุทธบางส่วน = สันติ

ใครเป็นพระศรีอาริย์ เป็นเทพ เป็นพรหม มหาพรหม เอ๊ย... มหาพรหม ก็มายุติความขัดแย้งนี้เด้อ!!! เพราะยุคพระศรีฯ ไร้ซึ่งการเบียดเบียน มีแต่เมตตาต่อกันและกัน

 

ขออนุโมทนาทุกท่าน
ช่วยเตือนสติคนไม่ดี เป็นสิ่งควรกระทำครับ

 

เอาขึ้นมาให้ดูกันอีกครั้ง จะได้หูตาสว่างกันเสียที

 

ขอเถอะครับ ผมถือว่าผมขอก็แล้วกันนะ คุณ แสงส่องทาง

กรรมเป็นผู้ตัดสินไปแล้ว ความจริงคือความจริง

ไม่ต้องเหยียบกัน กรรม ก็ จัดการไปเอง ตามกาลเวลา

ผมขอว่า พอเถอะ เรามาช่วยกัน โพส ในทางสร้างประโยชน์ ดีกว่า เพราะ กระทู้ เดี๋ยวนี้ คนเขาไม่มาอ่าน กันเพราะ หาคน นำสิ่ง ที่ มีประโยชน์จริงๆ หายาก
ประโยชน์น้อย มาก คือไม่ใช่ว่า พระไตรปิฏกหรืออะไรไม่มีประโยชน์นะครับ

แต่ ภาษา ที่ใช้สื่อให้ชาวบ้าน เขาอ่านน่ะ มัน ยากที่จะเข้าใจ ผมเลย ขอชวน คุณ แสงส่องทาง มา เล่าประสบการณ์ บ้าง แล้วก็ นำข้อธรรม ดีๆ มาช่วยกันเถอะครับ ทุกวันนี้ เอียนมาก กับการ เห็น โพส ชิงดี ชิงดวงกัน โชว์ พาวเวอร์ใส่กัน สลด ครับ นี่หรือ กระทู้ ผู้ปราถนาพระโพธิญาณ วันๆ เขาคิด กันแต่เรื่อง แบบนี้หรือ พระโพธิ์สัตว์ = ผู้ที่ทำตนให้เป็นที่พึ่งกับผู้อื่นได้ พวกเรา ให้เขาพึ่งได้หรือยัง? แม้แต่ ข้อธรรม เล็กๆ บางครั้งก็ไม่เคยปรากฏ แต่ กระทู้ โชว์แสงเปล่งพลังนี่ เข้าไป เปล่งแสงใส่กันเพียบ มันแย่แล้วนะครับ แค่นี้ก็แย่แล้ว เรามาใส่เรื่องเป็นประโยชน์ ทำให้พวกนี้ เขา หมดกำลังไปเองดีกว่าครับ เดี๋ยวก็หมดแรงไปเองเชื่อผมเถอะ ของเทียม มันพังไว กว่าของแท้ เพรชเทียมไม่อาจทนแรง โลกธรรมได้นานหรอกครับ เดี๋ยวก็พังไปเองตามเหตุและปัจจัย เรามาช่วยกัน ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ อย่างน้อย ก็ มา อธิบายเรื่องศีลบ้างอะไรบ้างก็ยังดีตาม ที่ตนทำกันมา คนเขามาอ่านอาจจะได้ข้อคิด ดีๆ กลับไป หรืออาจจะนำไปปรับใช้ก็ได้

ขออภัย ที่ ห้ามปรามกัน หวัง ว่า คุณ แสงส่องทาง คงเข้าใจครับ

กรรมใดก็ตาม ที่ได้ล่วงเกินมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ขอท่านทั้งหลายโปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตราบเท่าเข้า พระนิพพานด้วยเทอญ

 

สัญญาณยุคโลกเสื่อมสิ้น

สัญญาณย่อยๆ ได้แก่

1. แผ่นดินไหวจะมีมาก

2. ลมพายุจะรุนแรง

3. ความตายจะดาษดื่น (จากโรคร้าย)

4. มนุษย์จะแข่งขันประดับประดา วัดวาอาราม โบสถ์ มัสยิด

5. คนโกหกจะได้รับความเชื่อถือและให้อภัยเสมอ คนพูดจริงกลับถูกมองว่าโกหก

6. คนทุจริตจะปลอดภัย คนไว้วางใจได้กลับถูกบิดพริ้ว

7. การผิดประเวณี จะดาษดื่น

8. สุรา ดอกเบี้ย เป็นสิ่งอนุมัติ

9. ในวัดวา โบสถ์และมัสยิด จะมีเสียงอึกทึก

10. คนรุ่นหลังจะประณามคนรุ่นก่อน

11. ความวุ่นวายจะเกิดขึ้นทุกหัวระแหง

12. ผู้ใหญ่จะรับใช้เด็ก

13. อุตริกรรม (อุตริมนุษยธรรม)จะปรากฎชัด

14. ความอายจะน้อยลง

15. สตรีจะประพฤติตัวเหมือนบุรุษ ส่วนบุรุษจะประพฤติตัวเหมือนสตรี

16. สตรีจะนุ่งน้อยห่มน้อย

17. ผู้ทุจริตได้รับการช่วยเหลือ ผู้ถูกละเมิดกลับถูกทอดทิ้ง

18. ผู้คนจะอ่านพระธรรมคำสอนกันเพียงลิ้น (ขาดการกฏิบัติตาม)

19. การนินทาให้ร้ายจะมีมาก

20. การบูชาสาบานด้วยสิ่งอื่นจาก สัจจะ จะมีมาก

21. การหย่าร้างเกิดขึ้นมาก

22. ความชั่วช้าเลวทราบจะปรากฎชัด

23. มนุษย์จะปฏิบัติตามอารมณ์กิเลสและตัณหา

24. บุรุษจะถูกทำลาย เพราะทรัพย์สินเป็นเหตุ

25. มนุษย์จะตัดขาดญาติมิตร

26. สมาธิของคนละหมาดจะหายไป

27. ประชาชาติจะแตกออกเป็น 70 กว่าจำพวก

28. วันและเวลาจะสั้นลง จนกระทั่งหนึ่งปีเสมือนหนึ่งเดือน และหนึ่งเดือนเสมือนหนึ่งสัปดาห์ และหนึ่งสัปดาห์เหมือนหนึ่งวัน

29. การแต่งงานเกิดขึ้น เพราะสมบัติเป็นเหตุ

30. เรื่องราวของมนุษย์ ล้วนเป็นความโลภโมโทสัน

31. การตลาดจะฝืดเคือง

32. การให้เกียรติจะน้อยลง แต่การเหยียดหยามจะมากขึ้น

33. ความรับผิดชอบจะหายไป ความวุ่นวายสับสนจะแทนที่

34. ศาสนาจะถูกซื้อขายด้วยวัตถุทางโลก

35. หัวใจมนุษย์หมดสิ้นจากความดี

36. ทานบังคับ ถูกนำมาจำหน่ายค่าแรงและถูกมอบให้แก่ผู้ไม่มีสิทธิรับ

37. บุรุษจะฆ่ากันโดยไร้เหตุผล

38. ความรู้จะถูกเก็บ คนโง่และคนชั่วจะนั่งแสดงธรรม สังคมจะนับถือ

39. เด็กที่เกิดจากการผิดประเวณีจะมีมาก

40. คนที่มีลูกหลานต้องโศกเศร้า เพราะการเนรคุณ

41. สตรีจะทำหน้าที่แทนบุรุษ

42. เด็กจะไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะไม่เมตตาเด็ก

43. ความบริสุทธิ์จะหายไปจากการงาน

44. คนชั่วจะภูมิใจ และโอ้อวดความชั่วของตน

45. การพนันจะมีมาก

46. ผู้บริสุทธิ์จะถูกฆ่าเป็นการล้างแค้น (ไม่ใช่การรับใช้ชาติ)

47. มนุษย์จะถูกเรียกร้องสู่ขุมนรก และหันเหออกจากการภักดีต่อความจริง(สัจจะธรรม)



เน้นๆที่สีแดงขีดเส้นใต้

 

เรียนทุกท่าน ผมนายวีระศักดิ์ วิวัฒน์ธำรงกุล

วันนี้ผมได้มีโอกาสสนทนากับท่านอาจารย์กร และสอบถามถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ท่านบอกว่า ทุกคนที่ครอบครัว สมัครสมาน รักใคร่กลมเกลียวกันดี ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้น ท่านเชื่อมั่นและไว้วางใจในความรัก ความปรารถนาเกื้อกุลของทุกคนในครอบครัว

ส่วนที่จะมีใครแอบอ้างใช้ชื่อของคนในครอบครัวท่านเพื่อให้เกิดความเสียหายนั้น ท่านให้อภัยตลอดเวลา แม้ผู้ที่ไม่เห็นดว้ยกับแนวทางการสอนของท่าน ท่านก็ไม่ใส่ใจหรือติดใจ เพราะทุกๆคนย่อมมีครูอาจารย์ที่ศรัทธาเป็นของๆตนอยู่แล้ว ธรรมดาสรรพสัตว์ ใครศรัทธาคุรุคนไหนย่อมเห้นว่า ครุนั้นย่อมสอนถูกทาง เรื่องเหล่านี้ปรากฏมาแต่โบราณกาล สมัยพุทธกาลก็ปรากฏมาแล้ว

ท่านอาจารย์ทราบและรู้ดีว่า ท่านทำอะไรอยู่ จริงหรือเท็จนั้นเป็นทัศนคติความเชื่อของแต่ละบุคคล ใครศรัทธาเชื่อมั่นในสิ่งที่ท่านแนะนำ ก็ให้ทำด้วยความมุ่งมั่นครับ

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมเป้นทั้งพี่และลูกศิษย์ของท่านอาจารย์มานานนับ 8 ปี ผมมีบริษัทที่ต้องดูแลถึง 10 บริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะอาศัยบุญบารมีและญาณปัญญาอันเลิศ บวกกับความรักความเมตตาอันไม่มีประมาณ ทำให้ผมได้ผ่านวิกฤตทางเศรษฐกิจได้อย่างดีมาตลอด

ท่านอาจารย์จะคอยแนะนำ ตักเตือนเหตุการณ์ต่างๆล่วงหน้าตลอด และบอกแนวทางการแก้ไขตนเอง และพนักงานในบริษัทตลอดเวลา

จนถึงทุกวันนี้ ผมได้เคยไปศึกษาเล่าเรียนกรรมฐานมาหลายสำนักที่บอกว่า "จริง ของแท้แน่นอน" ไม่เคยทำให้ผมผ่านวิกฤตต่างๆได้เลย แม้กระทั่งความเข้มแข็งทางจิต ก็ยังไม่สามารถแนะนำได้

แต่ท่านอาจารย์ ท่านจะมองทุกอย่างปรุโปร่ง ไปหมดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

หลายท่านอาจจะสัมผัสท่านอาจารย์เพียงชั่วคราว เพียงแค่ได้ยิน หรือเพียงเพราะท่านแสดงการกระทำบางอย่างที่ขัดต่อความเชื่อของชาวโลกตลอดเวลา

สุดท้ายท่านจะเฉลยคำตอบออกมาทุกครั้ง ว่า เหตุการณืแต่ละอย่างนั้นสอนอะไรบ้างแก่เหล่าสานุศิษย์ทุกคน

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมครับ

โอม ฮา เล ยา พา ทา สวาฮา สรรพสิ่งล้วนสันติ เบิกบาน เต็มเปี่ยม สมบูรณ์ ปิติยินดีกันถ้วนหน้า สาธุ

 

ถ้าจะให้ชัดๆ ก็คือ เรา มา ทำสิ่งที่มันเกิดประโยชน์ให้ดีที่สุดครับนาทีนี้ ไม่ต้องสนใจใครจะทำอะไรทั้งหมดละ เพราะมันไม่มีประโยชน์ ใครเขา ว่าดีหรือไม่ดีช่างเขาเถอะ ผมไม่เข้าข้างใครทั้งนั้นล่ะครับ แต่จาก ที่ อยุ่เวป นี้มา ก็ เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จน หาคำว่า ศีล 5 และ กรรมบถ 10 แทบไม่เจอ แล้ว ปัจจุบัน ส่อเสียดนินทา ต่างๆ นี้ ทั้งนั้นเลย แล้ว มันเริ่มจะกลายเป็น ที่ระบายอารมณ์ ของ คนหลายประเภท เข้าไปทุกวันๆ อยาก ทำอะไรก็ทำ โมโห ปฏิบัติ ไม่ได้ผลมั่งอะไรมั่ง ก็มาออกลูกพาล ในเวป ตั้งกระทู้ปั่นป่วน ผม ว่ากรรมอันเกิดจากการทำให้ อารมณ์ ผู้อื่นมัวหมอง นั้นมีอยุ่นะครับ ที่สงบใจไม่ได้ เพราะ ผลจากเรื่อง พรรค์นี้รึเปล่าก็ไม่ทราบ ที่นี่คือ บอร์ด พุทธภูมิ เป็นเหมือนที่แลกเปลี่ยน ความรู้ในหลายๆทัศนะ ไม่ใช่ ที่ๆ เราจะใช้มาระบายอารมณ์ และ ผมเชื่อว่า เพชร ก็คือ เพชร เวลา จะเป็นเครื่องพิศูจย์ไปเอง เราไม่ต้อง ตัดสินแทนกรรม กรรมก็ตัดสิน อยู่แล้วครับ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เหมือนพระศาสนา จะอยู่ ถึง 5000 ปี ก็ เป็นไปตามนั้น เพราะ มีเหตุและปัจจัยให้ดำรง อยู่ได้ ตามนั้นครับ ถ้ารัก พระศาสนา ก็ขออย่าได้ ซ้ำเติมคนอื่นด้วยคิดว่าคือการปกป้องเลยครับ ผลมันตรงกันข้ามนะครับ การปกป้องแบบนี้ มีผลมหาศาลคือ เสื่อมศรัทธามาก
ใครเขายังไม่ได้ มาศึกษา เขาก็ดูจากคนที่ทำก่อนว่าเป็นยังไง ถ้ามาอ่านเจอแต่เรื่องพรรค์นี้มีหวัง เผ่นหมด เข้า ทาง ลัทธิไปเลย นี่มันส่งผลมากใน ความเป็นจริงตรงนี้ ลองทบทวนกันให้เยอะๆ นะครับ พวกคุณที่รักพระศาสนาทั้งหลาย ผมก็รัก แต่ผมเลือกที่จะปกป้องด้วยการ ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพื่อรักษาศักศรีดิ์ ของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไว้ เวลาใครมาถาม ว่า ท่านนับถือศาสนาไหนเราตอบได้ทันทีเลยว่า ศาสนาพุทธ ศาสนานี้ท่านสอนให้ ทำแบบนี้ๆๆ คือ เราจะได้เป็นตัวอย่างให้เขาดูได้ไงครับ เพราะเรารักษาไว้ด้วยการเพียรทำตามคำสั่งสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าไงครับ รักพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้เหยียบย่ำทำลายใคร และไม่เคยสอนให้ไปตามราวีใครนะครับ เราจะเชื่อพ่อเรา หรือจะทำตามใจตนเองต่อไปก็ลองคิดดูเอานะครับ

ขออภัยถ้าคำใดเป็นการล่วงเกินกัน ก็โปรดอโหสิกรรม ให้กระผมด้วยนะครับ

 

ผมเข้าใจครับ ขอบคุณที่แนะนำ ผมเองก็ไม่ได้อยากจะทะเลาะเบาะแว้งหรอกครับ แต่ห้องนี้เป็นห้องพุทธภูมิ การเอาแนวคำสอนแปลกมาสอน มันพาคนหลงผิด จะไม่มีจิตคิดเมตตา ช่วยเหลือกันบ้างหรือ

ที่สำคัญก็มาถามข้อสงสัย หากตอบให้กระจ่างได้ ก็ย่อมไม่เสียหายอะไรมิใช่หรือครับ

 

คร้าบ คุณแสงส่องทาง ผมเห็นด้วยกับคุณArmarmy
คุยกันดีๆ ถามกันดีๆ แนะนำกันดีๆ น่าจะดีกว่า
บางครั้ง กระทู้ มันก็ ล่อแหลมต่อการเข้าใจผิด โดยเฉพาะผู้ ที่เห็น ข้อมูลส่วนเดียว หรือ ผู้ที่ ยังวิจารณญาณยังอ่อนอยู่
จะทำให้ ผู้รู้ ติเตียน ผู้ไม่ศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้าดูหมิ่น ผู้ศรัทธา เสื่อมศรัทธาลง ว่า คำสอนดีจริงหรือเหตุฉไหนผู้เรียนถึงตีกันเอง

แต่จะว่าไป มีคนตอบกระทู้แรงๆ ก็ ดีอีกแง่นะครับ เอาไว้ดูจิตตัวเองที่ ไหวหวั่นสั่นคลอน ดูทิฐิมานะ ก็สนุกไปอีกแบบ ครับ บางที อ่านไป โทสะ ทิฐิ มานะพุ่งออกมาจากตัวหนังสือเลย(ไม่รู้จะคุ้มกับกรรมที่กระทำลงไปหรือปล่าว 55 )
คนปกติเค้าก็ไม่เข้ามาเที่ยวเล่นในกระทู้แรงๆ เท่าไหร่นัก เดาจากตัวหนังสือบางทีก็วัดจิต วัดใจ วัดนิสัย วัดสติ วัดปัญญาก็ได้เลย
ถ้าเริ่มต้นจากเจตนาดี ก็ดีไป ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปจากการโพสก็ ตามแต่ จริต ตามอนุสัยและสัญญาเก่า ของใครของมัน จะมองละคราวนี้ 555

เอ ชักสับสน เอาเป็นว่า ก็ ตามแต่ แนวใครแนวมัน
กล้าประกาศ สิ่งใด กล้ากล่าวสิ่งใด ก็ ต้อง กล้ารับคำวิจารณ์คำถามและคำโต้แย้งสินะครับ แต่ ผู้ถาม ผู้วิจารณ์ก็เพลาๆ ความเเรงลงหน่อย บ้างก็ดี เหอๆๆ

ผมก็พูดเพ้อไปคนเดียวตั้งนาน ค้าบ ช่วยไรไหมเนี่ย เรา
(จริงๆแล้ว จะชี้ประเด็นว่า เป็นทั้งประโยชน์ทั้งโทษ ขึ้นกับผู้พิจารณาต่างหากครับว่า มองในเเง่ไหน)
อนุโมทนาในความดีที่จะเกิดขึ้นครับ

 

ขออนุญาติ แทรกซักหน่อยเถิดครับ ไม่ได้มีธรรม ที่เลิศเลอ เป็นแต่ผู้ที่ยังมีกิเลศอยู่ในใจ
แค่อยากจะเรียนถาม ทั้งสองผ่ายที่กะลัง จะเถียงกันไปไม่หยุดหย่อน เคยได้ฟัง สิ่งที่พระพุทธทาสภิกขุเคยเทสน์สอนธรรมบ้างหรือไม่ครับ ถ้าหากพอจะได้ฟังกันอยู่บ้าง ลองอ่านกระทู้ ของลูกศิษย์อาจารย์กร ดู บ้าง ผมว่าสิ่งที่ อ.กร ท่านบอกมา ไม่ว่าจะมาจากสิ่งที่ท่านได้ตระหนักรู้ จริงๆ กะสิ่งที่ ท่านพุทธทาส ท่านบอก ไม่ได้มีอะไรต่างกันเลย นะ ทั้งสอง ท่านก็ แค่บอกว่า เพราะ คำว่า " อัตตา = ตัวกู ของกู" หมายความว่าไงอ่ะ ก็หมายความว่า ไม่รู้จะเถียงกันไปทำไม ไม่ได้มีสาระเพื่อการละกิเลส เลย ละกิเลส ดิ่ น่ะแหละ ประเสริฐ เถียงกันก็ยิ่งเพิ่ม ทิฐิ เพิ่ม มานะ ควรหรือ ใช่หรือ ไม่ว่าจะมาจากไหน ก็สอน ให้ละทั้งนั้น ละอะไรล่ะที่ยากที่สุด ไม่ใช่ อัตตา หรือ ก็ถ้า เขาาอนเพื่อละ ตัวตน แล้ว มันต่างกันยังไงอ่ะ ไม่เห็นความต่างเลย เพราะว่าคุณไม่เคยดูที่แก่น เลย คุณดูแค่ว่า เขาสอนไม่เหมือนกะที่เราเคยได้ยินมา ไม่เหมือนกะที่เราได้เรียน เลยไม่ถูกงั้นเหรอ ฝาก ถามนะ ไม่ต้องตอบก็ได้ แค่ อยากถาม ว่า ถ้า แก่นแล้ว สอนให้ละเหมือนกัน แต่แค่วิธีการ ต่างกัน แล้วจะเถียงกันไปทำไม