ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

เท่าที่เคยไปแอบดู กระทู้ของปาตาล ไม่แปลกเท่าไรนะค่ะ
แต่ก็เคยเจอล่ะบางกระทู้ที่ กระแทกออกมาเต็มแรง
พิซซี่รอสะสมแต้มให้ครบ 10 เหรอ จาได้หาคนช่วยโวต หรือพักกินข้าว

 

ค่อยยังชั่วจ้ะ ที่ช่วยเฟิร์ม แหะแหะ ก็เจ้าของทู้น่ารักและใจดี กระแสแปลกๆไม่ได้ออกมาจากเราชัวร์ อิอิ

 

เห็นคนพูดถึงพิษนาคากันเยอะ หรือเพราะน้ำกำลังมานะ
เคยโดนกับตัวหนเดียว อยู่ๆแขนก็แดง เป็นปื้น คันเลย แต่ยักมีตุ่มว่าอะไรกัด เรา
บางคนเขาก็ว่า โดนนาคเอาหางมัดไว้เลยเมื่อยตัวปวดหลัง แต่ยังไงก็ยังเห็นว่าสิ่งที่เขาทำ เขาพยายามจะสื่ออะไรสักอย่างมากกว่า ...ส่วนกรณีพิซซี่ เขาก็คงมาบอกเหมือนกัน "นั้นแน่ จำเราได้ไหม" ประมาณนั้น...(แก้ตัวให้ แบบ เอียงๆๆ เลยเห็นๆ)

 

เคยเจอแบบโดนที่มืออาการแบบนี้เปี๊ยบเลยค่ะ
แต่ล่าสุดที่ไปลั้ลลานอกสถานที่ โดนเข้าที่ตา - -" เล่นเอาตาเบลอขอบตาแสบคันไปเลยทีแรกนึกว่าบังเอิญ ลองมันซะสามครั้งโดนทุกครั้งสะจายโก๋ปายเรย หุหุ

 

เอ้าเหลืออีกสามเสียง อิอิ เดี๋ยวตู่นับ พี่ใบไม้ พี่ใหญ่อิน แม่หญิงลู่ พี่ทองสา พี่สาวตา ท่านน้องวิฯ พี่หญิงอบ. ท่านปู่เคน เข้าไป ครบแล้ว เย้ๆ

 

หนูก็ชอบเลข 7 เพราะเกิดวันเสาร์

คราวหน้าพี่พิซซ่าก็ถ่ายแบบนักโทษซิเจ้าคะ ปิดตาไว้อ่ะ

 

ที่แท้..ก็หายไปหารูปมาเปลี่ยน อ้ะ พอทนดูได้
เรื่องพิษที่พี่นางฟ้าเจอ คิดเอาเองว่า ถ้าเราเจริญเมตตาบ่อยๆ น่าจะทำ
ให้ปลอดภัยจากพิษพวกนี้ ..พอดี คนที่คายพิษใส่ เขามาบอกเองว่าไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่
นึกถึงเขาสักที พอรู้แล้วก็หายทันทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
..แต่ว่า ปกติไปไหนเอา พญานาคไปด้วย เลยไม่เคยไปโดนพิษจากที่ๆไป
เลยไม่เคยใส่ใจวิธีป้องกัน เอาไว้ ถ้ารู้จามาบอกคุณพี่นางฟ้า ละกัน หรือ พวกเชื้อสายพญานาคแถวนี้เขาจะมีวิธี ก็ไม่รู้

 

พิซซ่า มีคนเอารูปสมเด็จ กะ พระเอกา มาลงไว้ อีกกระทู้ ไปดูยัง

 

..มีพญานาค ใกล้สิ้นใจ ตามหาเมียเขา จะฝากสมบัติให้เราเก็บไว้รอเมียเขาเหมือนกัน
เราก็ไม่เอา ไอ้สมบัติที่ต้องนั่งมองแล้วไม่ใช่ของเรา ไม่รู้จะเอาไปทำไม
ไม่รู้ป่านนี้ลุงแกทำไงฝากใครได้หรือยังก็ไม่รู้ ..
..พูดถึงสมบัติ เวลาเดินตามซากเมืองโบราณเราชอบเรียกหา แหวนเก่าๆ กำไลเก่าๆ หวังใจว่าใครจะเมตตา โยนใส่หัวเราสักอัน ...
..แต่ปรากฏว่า เราได้ทั้งแหวน ทั้งกำไล เลย เดินมาเป็นตัวเลย แถมคนใส่ให้ด้วย
..แต่ยังไม่เข็ด จะคงหาต่อไป สักวันเผื่อใครจะโยนมาให้

 

เอ้าเหลืออีกสามเสียง อิอิ เดี๋ยวตู่นับ พี่ใบไม้ พี่ใหญ่อิน แม่หญิงลู่ พี่ทองสา พี่สาวตา ท่านน้องวิฯ พี่หญิงอบ. ท่านปู่เคน เข้าไป ครบแล้ว เย้ๆ


ด้วยจ้าๆ

อ่านทันแระ


หวัดดีจร้า พี่ใบไม้ พี่อบ พี่นลิน หุ หุ

หวัดดีทุกคนจ้า


ในโลกนี้ มีคนชอบเรา ๓๐% เกลียดเรา ๓๐% เฉยๆกับเรา ๓๐%
อีก ๑๐% พบเราแล้ว คุยกันแล้วแต่จำเราไม่ได้ด้วยซ้ำไป ๕๕๕


พี่อบนึกว่า คนรอบๆตัวเรา ชอบเราจริงๆ แค่ ๑-๒ % เอง อิอิ นอกนั้น ๙๗% คงเฉยๆ มั้ง จากความรู้สึกนะ เดาๆเอาจ้า

ไม่ได้เจอกันนานแล้วเนอะ

นี่อบไปปฏิบัติธรรมา เจอพี่สาวคนหนึ่ง เธอรักเคารพพระองค์ดำ พระเจ้าตากสิน เสด็จร.๕ กะ เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ มาก

อบเลยเล่าให้เขาฟังว่า อบมีเพื่อนๆ แก๊งค์ที่รักเคารพพระนเรศนะ

พี่เขาเลยบอกว่า อยากจะได้เจอสักครั้ง

อบเลยบอกว่า สงสัยต้องรอหนังพระนเรศภาค ๓ เข้ามั้ง เพื่อนๆ ถึงนัดเจอกันจ้า

 

ก่อนเล่าเนี้ย คนที่อยู่ในฝันเขาเซ็นเซอร์ หรือยัง
เอาท่านมาขาย ....ถ้าเป็นของเรา ยืนกอดอก ตาขวาง
รอขย้ำเราแล้ว..555 รอฟังเรื่องต่อไปอยู่

 

ถ่ายไว้เป็นที่ระทึก อิอิ


<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"> <tbody><tr> <td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> Unique_Angel*, krudawn, nalin101, Red Leaf+, พิษณุ สุริยา+, อบ.+ </td> </tr> </tbody></table>

 

ฟังพี่อบ.ว่า แล้วนึกได้ เคยเกริ่นๆกับตาปืน (ไฟหมด) เหมือนกัน ว่าจะดีแค่ไหน ถ้าพวกเราไปนั่งดู พระนเรศวร 3 พร้อมๆกัน ถ้าพี่ๆจะไปกัน ช่วยนับน้องลินไป 1 ที่ด้วยนะ

 

สาธุจ้า คุณนลิน
เพิ่งมีพักหลังๆ (ที่กลับจากสุริยาพาทัวร์) เนี่ยแหละที่เจอเข้าจังเบอร์อ่ะจ้า

เมื่อก่อนไปวิ่งเล่นในกระทู้ของลูกหลานปู่ภุชงค์ก็ไม่เคยโดนจั๋งๆ ซักที
ถ้างั้นถามคุณนลินดีกว่า (^^") คุณนลินเคยเห็นพญานาคหรืองูใหญ่มีเกล็ดเป็นสองชั้นไหม ทำนองชั้นนอกขาว เหมือนแก้วขาวขุ่นๆ ฝ้าๆ แต่สามารถมองทะลุเข้าไปข้างในได้ โดยจะเห็นเกล็ดชั้นในเป็นสีเขียวจางๆ เรื่อๆ เรืองๆ อ่ะจ้า อยากรู้ว่าท่านอยู่ในตระกูลใด หรือไม่สามารถจัดเข้าพวกใดๆ ได้เลย

 

เพื่อนๆ คุยกันเรื่องของขลังอะไรต่างๆ อบไม่มีความรู้เลยค่ะ แต่อ่านตามได้ ก็ได้ความรู้ที่ไม่รู้มาก่อน

แต่เรื่องลมเพลมพัด นี่ อบมีเรื่องจะเล่าเหมือนกันค่ะ

อบก็ไม่ทราบนะคะ ว่าอย่างนี้ คือลมเพลมพัดหรือเปล่าค่ะ

วันที่ไปทำบุญที่วัดปทุมวนาราม หลังเหตุการณ์รุนแรงและมีคนเสียชีวิต

(คิดว่ายังไม่ได้เล่านะคะ .. แต่ได้เคยเล่าให้พี่เรดฟังค่ะ)

วันเสาร์ที่ ๕ มิถุนายน

วันนั้น เพื่อนๆ ทะยอยกันมา ก็รอกันไปรอกันมา คุยกันไปคุยกันมา จนเกือบบ่ายสามมั้ง ถึงได้ทานข้าวเที่ยง

แถมเดินไปกินไกลมาก ถึงพาราก้อน ด้วยความที่ข้าพเจ้าจะเป็นลม จนพูดไม่ออก ได้แต่เดินตามน้องเขาไป

อบอะ เกือบเป็นลมไปหลายรอบ ดีว่าพี่คนหนึ่ง เอาน้ำผักมาให้ทานก่อนตอนอยู่วัด

พอตอนขับรถกลับ อบมีอาการง่วงผิดปกติมากๆๆๆๆๆๆๆ มันไม่เหมือนอาการง่วงทั่วไปอะ มันง่วงเหมือนจะขาดสติเสียให้ได้

และวัถัดมาคือันอาทิตย์ อบยังต้องไปงานบ้านญาติอีก เลยไม่ได้พักผ่อน

พอวันจันทร์อบไปทำงาน ตอนช่วงก่อนเที่ยง หน่อยมีอาการหิวมากๆๆๆๆๆ เหมือนไม่ได้ทานอาหารมาหลายวัน ทั้งๆ ที่ทานอาหารเช้ามาปกติ

หิวจนสั่น ก็ค่อยๆ เดินไปร้านอาหาร คิดว่าตัวเองขาดน้ำตาล

ทานแล้ว ก็ยังสั่นอยู่ แต่ทำไมทานข้าวแล้วไม่หาย (คาร์โบไฮเดรตเหมือนกัน ได้รับแล้วนี่นา) ก็เลยสั่งชาเย็นมาทานอีกแก้ว ก็ไม่หาย

ทำไงดี

ค่อยๆ เดินกลับอ๊อฟฟิซ

เป็นอย่างนี้อยู่อีกหลายวัน จนวันศุกร์ตัดสินใจลางานนอนอยู่บ้านเลย เพราะอันตรายมากๆ ไม่ทราบว่าจะเกิดอาการตอนไหน กลัวว่าถ้าเป็นตอนขับรถจะอันตรายมากๆ พกน้ำตาลไว้ตลอด แต่จริงๆแล้ว มันไม่ค่อยช่วยเลยนะ คราวนี้

ลางานวันศุกร์ไป ๑ วัน

หลังจากนั้น ก็เหมือนป่วยอยู่หลายวัน

แต่ไม่ได้คิดเรื่องผีเข้าหรืออะไรเลยนะ คิดแต่ว่าเป็นอะไรไม่รู้ ไม่มีแรงนะ

แต่พออยู่บ้าน ก็เป็นนิสัยนะ ฟังธรรมหลวงพ่อตลอด ปฏิบัติธรรมตลอด และก็อุทิศบุญไปทั่วๆ

ซักสองสามอาทิตย์ ก็ดีขึ้น

ตอนนี้ ไม่มีอาการแล้วนะ

อย่างนี้ เป็นลมเพลมพัดหรือเปล่าคะ

ปล. ขอแทรกไปพร้อมๆ กะที่น้องป๊อดส์เล่าเรื่องนาคเลยนะคะ

 

เย้ๆ เหลืออีกสองเสียง
๑. น้องปราญ
๒. นางฟ้า
๓. คุณนลิน
๔. คุณเพชร
๕. พี่สาวอบ

นับน้ิองไปอีกหนึ่งเน้อ o(^^)o

 

จ้า แจ้งจองกันแถวๆ นี้แหละ พอถึงเวลา ก็มาชวนๆ กันแถวๆนี้แหละจ้ะ

 

ขอลิ้งค์หน่อยได้ไหมคะ หน้าที่มีรูปเลยนะคะ เผื่อกระทู้ยาวอะค่ะ ^^

 

อันนี้ วันก่อนไปบังเอิญพบเข้า ไม่มีความรู้เลย ไม่ทราบว่าจริงเท็จประการใด

แต่ถ้าจริงนะ ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าน่าจะเคยโดนเข้าบ้างแล้วค่ะ

เมื่อร่างเปิดมาก ข้อควรทราบและหัดสังเกตดูวิญญาณแทรกเข้าร่าง

วิญญาณ คือ ธาตุอากาศไม่บริสุทธิ์ หรือเรียกอีกอย่างว่า อยู่ในระดับชั้นที่ต่ำกว่าองค์เทพ ชั้นต่ำ ชั้นกลาง ชั้นสูง ไม่มีกายขันธ์ มีกิเลสมาก ยังยึดติดในร่างกายเดิมเกิดเป็นสัญญากรรมติดตามมาเป็นความจำเดิม ที่เคยชอบเคยเป็นมา เป็นนิสัยติดมาด้วย

จึงต้องการแทรกลงกายขันธ์มนุษย์ เพื่อขอส่วนบุญและอาศัยแอบอยู่แอบกินผ่านร่างกายคน เมื่อวิญญาณมี
อาการตายแบบใดมาเวลามาลงร่างกายคนเรา จะมีอาการตามไปด้วย ยาที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยวิญญาณเหล่านี้ให้หายได้ คือ การปฏิบัติ สวดมนต์ ภาวนา กรรมฐาน การแผ่เมตตาด้วยความจริงจากใจให้วิญญาณท่านๆ เหล่านั้น ได้ไปเกิดในภูมิ ภพที่ดี ทำบุญทาน ควบกับการรักษาให้ศีลบริสุทธิ์ เป็นต้น

จริงแล้ววิญญาณมีหลายระดับชั้นไม่แตกต่างกันในการแทรกลงเข้าร่างมากหนัก มีทั้งลงเบา ไม่รู้เรื่อง เจ็บปวด
ทรมาน สลบไปเลยก็มี สามารถแอบแทรกลงร่างคนเราได้ทาง รู้ทวารทั้ง 5

วิญญาณมีอยู่ 3 ระดับ คือ ชั้นต่ำ ชั้นกลาง ชั้นสูง แล้วหมายถึงอะไรกันบ้าง เข้ามาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

วิญญาณชั้นต่ำ หมายถึง วิญญาณที่มีจิตไม่บริสุทธิ์ยังมีกิเลสหนา ไม่เคยและไม่ค่อยได้ทำบุญมามากหนัก หรือ แทบจะไม่เชื่อในเรื่องของกรรมเวร หากสื่อด้วยจะมีจิตเป็นสีดำหมองคล้ำ ออกเป็นเงาดำอยู่ ตายมาด้วยอาการแบบใด ก็จะ ยึดติดมาเหมือนอาการก่อนตาย และยังยึดติดในความทรงจำเดิมมาได้ในบางส่วน มีนิสัยแบบใดมาก็จะยังมีนิสัยเช่นนั้นอยู่ ในจิต การปฏิบัติส่งผลบุญทาน ก็จะต้องทำให้มากขึ้นไปด้วยถึงจะสามารถช่วยส่งให้ไปในภพภูมิที่ดีกว่าได้

วิญญาณชั้นกลาง หมายถึง วิญญาณที่มีจิตไม่บริสุทธิ์มีกิเลสติดมาในจิตอยู่เนืองๆ แต่เคยได้ทำบุญมาบ้างแล้ว ความเชื่อในกฎของกรรม เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง หากสื่อจิตด้วยจะเป็นสีขาว หรือมาลักษณะคล้ายคนเรา หากมองดูวาระจิตที่สื่อ ด้วยจะเบาบางกว่าวิญญาณชั้นต่ำ ระบบการคิดก็จะสอนเข้าใจง่ายกว่า

วิญญาณชั้นสูง หมายถึง วิญญาณที่มีจิตไม่บริสุทธิ์มีกิเลสเบาบางลงกว่า 2 ระดับชั้น เคยทำบุญมาบางแล้ว และเคยได้ปฏิบัติมาบ้างแล้ว หรือถึงขั้นปฏิบัติมาพอสมควร แต่ยังมีการยึดติดในกายขันธ์เดิม ยึดติดในสิ่งที่เป็นอยู่ก่อนตาย เลยทำให้ยังวนเวียนอยู่ในสิ่งที่ตนยึดติดมา จึงไม่สามารถไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่าได้ หากสื่อด้วยกระแสจิต วิญญาณในระดับชั้นนี้ จะมีสีโปร่งใส มองดูลักษณะคล้ายคนแต่มีสีผิวหนังเหมือนคนเรา เพราะยังมีบุญติดมาด้วย แต่ยังมีวาระจิตที่ยึดติดในสิ่งที่รัก ที่พอใจ หากได้มีการส่งผลบุญทาน ปฏิบัติ ส่งแผ่อุทิศไปให้ก็หวังได้เลยว่าไม่นานจะได้ไปในภพภูมิที่ดีกว่าเดิมแน่นอน

ลองหัดสังเกตดูเมื่อเกิดกับตัวท่านเองหรือกับคนอื่นๆ เพื่อเป็นการรู้เท่าทันในสื่อวิญญาณนั้น

1. จิตวิญญาณลงระหว่างหน้าผากเป็นธาตุอากาศ ไม่บริสุทธิ์ เพราะยังยึดติดในกายขันธ์เดิม มีกิเลส มีกรรมควบ
อีก จะทำให้มีอาการเวียนหัว รู้สึกใจหวิวๆ แลดูอะไรหมุนไปหมดเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งวิญญาณจะแอบแทรกลงบนศีรษะทันที อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการเหมือนมีอะไรเข้ามาเสียบแทงระหว่างกลางศีรษะอย่างรวดเร็วและเจ็บแปลบเกิดขึ้น

2. มีอาการร้องไห้น้ำตาไหลออกมามาก เมื่อมีอะไรมากระทบจิตใจ ในอารมณ์ต่างๆ น้ำตาไหลออกมามากจน
ประหลาดใจ ซึ่งปกติแล้วไม่เคยเป็นมาก่อน

3. เกิดอาการจุกที่คอเป็นก้อนกลมๆ ขนาดใหญ่หายใจลำบาก เหมือนจะขาดใจตาย คอแห้งมากดื่มน้ำแล้วยังมี
อาการคอแห้งไม่หาย กินอาหารบ่อยๆ หิวบ่อยรู้สึกกินไม่อิ่มตลอดทั้งวัน ต้องหาอะไรกินตลอดบางทีเหมือนเราเป็นโรคกระเพาะ รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย

เพราะมีสาเหตุมาจากวิญญาณเหล่านั้น ไม่มีคนทำบุญทานใส่บาตร แผ่อุทิศส่งผลบุญทานไปให้เลย ผู้เป็นร่างจะรับ สื่อความรู้สึกร่วมด้วยกับวิญญาณนั้นเมื่อแอบแทรกลงร่าง จะเกิดความรู้สึกว่า คอแห้งมาก เจ็บทรมาน เวลากลืนอาหารลงคอ หิวเหมือนไม่เคยได้กินอะไรมาเลย จะหิวมาก บางทีกินแล้วก็เหมือนไม่ได้กิน กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกอิ่ม

เมื่อช่วงแรกๆ ที่วิญญาณแอบแทรกลงร่างเราได้แล้ว จะเกิดอาการสั่นหิวมาก เหมือนไม่ได้กินอะไรมาเลย เห็นอะไร ก็อยากจะกินไปหมด โดยเฉพาะน้ำ ดื่มมากเท่าไหร่ ก็ไม่รู้สึกอิ่ม ยังคงหิวอยู่ เวลากินจะมีอาการสั่นไปด้วยระหว่างมือ ทั้งสองข้าง บางคนที่มีสื่อมามากจะมีอาการน้ำตาไหลเมื่อครั้งได้กิน เหมือนว่าวิญญาณนั้นเกิดความดีใจ จนเกิดน้ำตาไหล เมื่อได้กินอาหารและ ดื่มน้ำ เป็นต้น

4. ขนรุกชูชันทั่วตัวทั่วทั้งศีรษะ และบางครั้งมีอาการตัวโยกไปมาแรงๆ

5. เจ็บที่หัวใจมีอาการลั่นถี่ๆ รั่วเร็วเหมือนหัวใจจะวายตายทันที เจ็บปวดเหมือนถูกบีบ คล้ายคนเป็นโรคหัวใจและอาจ พบว่าความดันขึ้นสูงทั้งที่ไม่ได้เป็นโรคความดัน จุกที่ลิ้นปี่ เน้นเจ็บเป็นระยะ


6. เกิดลมในท้องตีขึ้นตีลง(ท้องอืด) มีอาการแน่นลมเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วปวดท้องเกิดอาเจียน(เหมือนคนมีท้อง) ออกมามากมีแต่ลมกับน้ำลายและน้ำเท่านั้น บางทีมีอาการอยากอาเจียนตลอดวัน ลมตีขึ้นถึงลิ้นปี่และหัวใจทำให้เจ็บปวดเกิดขึ้นเกิด ความปั่นป่วนในตัว หายใจไม่อิ่ม ปวดท้องถ่ายบ่อยๆ ปัสสาวะบ่อยๆ


7. มีอาการปวดศีรษะและปวดเข้าไปถึงเส้นประสาทในเบ้าตา บางครั้งปวดศีรษะข้างเดียวเรียกว่า ไมเกรน (Migrain) ปวดศีรษะมักจะปวดข้างเดียว ลักษณะปวดเป็นแบบตุ๊บๆ ในศีรษะอย่างแรง ปวดบริเวณร่างกายส่วนที่วิญญาณเข้าไปแทรกแอบแฝง อยู่ เป็นต้น

หากเข้าไปแทรกถึงความรู้สึกนึกคิดของเราได้เมื่อไหร่ เราอาจจะมีความรู้สึกควบไปกับวิญญาณนั้นด้วย หากมีกิเลสมา มาก ชอบมีอารมณ์โกรธ ตัวเราก็จะเป็นไปตามวิญญาณนั้น เราก็จะมีอารมณ์โกรธง่าย ทั้งที่ตัวเราไม่ใช่คนโกรธง่ายมาก่อน อย่างเช่น วิญญาณนั้นชอบดื่มสุรา เราก็จะเป็นไปตาม รวมถึงเรื่องกามราคะหากวิญญาณนั้นมีมามาก เราก็จะเป็นไป ตามนั้น ควรฝึกจิตสมาธิแยกดู หัดดู หัดรู้จิตใจ ตนเองเพื่อความรู้เท่าทัน ตัวกิเลสภายนอกที่เข้ามาแฝงในรูปต่างๆ ในตัวเรา เพื่อความหลุดพ้นต่อไป เป็นต้น


8. บางทีคิดมากอยากฆ่าตัวตาย บ้างเกิดอาการเบื่อ เศร้าซึม บ้างอยากร้องกรีด ๆ ตะโกนดังๆ อยากวิ่งไปมาตลอด ร้องไห้ดังๆ เหมือนคนขาดสติบังคับตนเองไม่ได้ บางทีอยากจะวิ่งเข้าหารถให้ชนตนเองตายไปเลยทันที บ้างอยากจะกระโดดจาก ตึกลงมาตาย บางครั้งอยากผูกคอตาย บ้างทำงานอะไรอยู่หยิบจับอะไรอยู่ก็อยากจะโยน,ทุบ สิ่งของนั้น ให้แตกพังไปเลยก็มี บ้างมา เข้าฝันร่วมหลับนอนกับคนมาในลักษณะเป็นรูปคนเงาดำทั่วทั้งตัว บ้างฝันเห็นในรูปคนแต่ดูแล้วแข็งไม่เหมือนคน
แก้ด้วยต้องฝึกสมาธิ พิจารณาถึงความจริงเพื่อให้เกิดมีสติ และให้เกิดตัวรู้เท่าทันวิญญาณเหล่านี้ เพราะวิญญาณเหล่า นี้สามารถแทรกเข้าร่างได้บ่อย หากเคยเข้าได้แล้ว เป็นวิญญาณแทรก ประเภทเกเร เฉพาะ ข้อที่ 8 ถึงจะถือว่าเป็นวิญญาณเกเร ไม่อยากเห็นผู้อื่นได้ดีกว่าตนเอง พยายามทำให้ผู้อื่นตกทุกข์เหมือนตนเอง เป็นวิญญาณไม่หวังดีต่อผู้ใด จะคอยขัดขวางความสุขของผู้นั้น ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน

หากร่างใดสามารถเปิดรับสื่อสัมผัสภายนอกได้ วิญญาณจะแอบแทรกเข้าไปกลั้นแกล้ง, บ้างมาอาศัยกินผ่านร่างเรา หากมีนิสัยแบบใดมาก่อนตาย ก็จะมักพาให้เรามีนิสัยเป็นแบบนั้นไปตามด้วย เช่น ชอบโกรธ ดุด่าโวยวาย ทะเลาะวิวาท พูดจา เสียงดัง ไม่เคารพกลัวเกรงผู้ใด ดื่มสุรา และอื่นๆ,บางทีเกิดความรักชอบผู้เป็นร่างอยากจะเอาไปอยู่ด้วย หาวิธีทำให้เกิดอันตราย จนถึงแก่ความตาย เพื่อจะได้เห็นคนอื่นตายเหมือนตนเอง เป็นต้น

ให้พยายามแยกจิตดูใช่จิตของเราที่อยากตายหรือไม่ เพราะแรกๆ ไม่อยากตาย อยู่ดีๆ ทำไมอยากตาย ทั้งที่ไม่มีเรื่อง อะไรให้เสียใจ ทุกข์ใจเลย ไม่มีสาเหตุมาก่อนหน้านี้ วิญญาณเหล่านี้สามารถแทรกเข้าถึงวาระจิตใจเราได้และพยายามทำให้เรา เกิดจิตเศร้าซึมเกิดขึ้นมาทันที่ ในระหว่างนั้น หากเราได้พยายามหมั่นดูจิตตนเอง จะเริ่มเข้าใจได้เลยว่าไม่ใช่จิตของตนเอง ที่ เศร้าซึมหรืออยากตายแต่เป็นจิตภายนอกที่เข้ามาแทรกแอบแฝงให้จิตของเราเป็นไปตามนั้น

ถือว่าเป็นการ จูนจิต ที่เข้าด้วยกันจนรู้สึกว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของจิตตนเองไปเลย จนไม่สามารถบังคับตนเองได้ เพราะว่าวิญญาณเข้าจะสามารถแทรกได้ในจิตของคนที่มีจิตเศร้าซึม จิตตก จิตอ่อนไหวง่าย เกิดความกลัวเสมอ หากใครมีจิต แบบว่ามานี้ จะทำให้วิญญาณประเภทเกเร แอบแทรกซึมจูนจิตติดได้ง่าย จนไม่สามารถแยกออกได้เลยว่าจิตเราเองหรือจิตอื่น พยายามฝึกจิตให้มีสติ (หากเรามีสติรู้ตัวก็จะสามารถหลุดจากการจูนจิตนี้ กลับมาเป็นจิตและอารมณ์ของตนตามเดิม หากค่อยๆ ลองดูจิตตนเองจะรู้ได้และเท่าทันว่านี้คือตัวเรา เมื่อผ่านไปนั้นไม่ใช่อารมณ์หรือจิตของเราเลย) ฝึกจิตให้เป็นสมาธิ ฝึกจิตให้เข้มแข็งอย่าติดกลัว หากเรากลัวเขา เขาไม่กลัวเรา หากเราไม่กลัวเขา เขากลัวเรา

เพราะวิญญาณเกเร เป็นประเภทชอบข่มขู่ว่าให้เรากลัวไปก่อนเสมอ จะชอบข่มขู่ว่าจะทำให้ถึงตาย ทั้งที่วิญญาณ เหล่านี้ไม่สามารถทำได้จริงอย่างที่พูด ได้แต่พูดให้ดูน่ากลัวเท่านั้น จริงๆ แล้วไม่น่ากลัวเลยอย่างที่คิด หากเราสามารถสื่อพูดคุย กับวิญญาณเหล่านี้ได้ เราก็จะสามารถรู้และให้ความเมตตาเหล่าวิญญาณนี้ ที่มีกิเลสอยู่เต็มหัวจิตหัวใจ ที่ทำให้เกิดการกระทำ อย่างนี้ลงไป วิญญาณเหล่านี้ หากได้รับการอบรมพูดจาให้เขาเข้าใจในความเป็นไปของกรรมเวร และอุทิศส่งแผ่เมตตาด้วยใจจริงให้เขาไป ทุกอย่างก็จะกลับกลายจากร้ายกลายเป็นดีขึ้นมา

วิญญาณเหล่านี้ จะพลอยยินดีเมื่อได้รับกระแสเมตตา และได้รับกระแสบุญที่อุทิศไปให้ในเวลานั้น พยายามพูดอบรม ให้วิญญาณเหล่านี้ได้รู้ตามความเป็นจริง ในกฎของกรรมเวร เขาก็จะยอมรับและออกจากร่างผู้นั้นไปค่ะ หากใครมีอาการเช่นนี้ก็ ให้พูดระลึกในใจก็ได้หรือพูดบอกออกไปและแผ่เมตตาให้ในทันทีอาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้น หรือหากเราไปเจอเหตุการณ์นี้ที่ผู้อื่นไม่ ทราบ แต่เราทราบรู้มา ก็ใช้วิธีนี้พูดคุยกับวิญญาณที่เข้าร่างคนนั้นเพื่อคุยให้เขาคอยๆ ยอมออกไปและไม่กลับมาทำร้ายร่างนี้อีก(หรืออาจจะตกลงกับวิญญาณ ว่าจะอุทิศบุญทานส่งไปให้ในวันถัดไปเป็นต้น)

9. หน้ามีสีดำคล้ำ หมองคล้ำไม่สดใสและบางครั้งซีดขาว ทั่วทั้งใบหน้าพร้อมทั่วทั้งร่างกาย มีอาการชาแถวหน้า
และแขนขา มือเล็กน้อย หรือถึงขั้นชา , สั่นแรง และสามารถอาจถึงขั้นมีอาการ ชัก (คล้ายๆ โรคลมชัก ลมบ้าหมู) เป็นเวลาระยะ นานๆ ถึงแรงมาก บางครั้งอาจจะมีเสียงกรีดร้องเหมือนเจ็บปวดไปด้วย จะคิดว่าเป็นเสียงตนเองร้องออกมาได้ เมื่อมีวิญญาณเข้า ร่างโดยไม่รู้ตัวค่ะ ถึงมีอาการแบบรู้ตัวก็ยังจะมีอาการ จำเป็นต้องปฏิบัติธรรมส่งแผ่เมตตาและฝึกในเรื่องจิตที่ไม่ยึดติดในกายขันธ์ เช่น อสุภะกรรมฐาน การนั่งสมาธิสวดมนต์ ฝึกจิตมีเมตตาอุทิศส่งไปให้เหล่าวิญญาณทั้งหลายทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นไปเองค่ะ


10. โกรธง่าย โมโหง่าย เปลี่ยนเป็นคนละคน พูดจาไม่สุภาพ ด่าเก่ง ตอบกลับโดยไม่กลัวเกรงว่าใครเป็นใคร บาง ครั้งมีเสียงดังออกมาจากลำคอ ว่า ฮื้อๆ เหมือนลมหายใจหรือดังออกมาจากคอดังเป็นระยะในช่วงที่โกรธหนัก และที่สำคัญจะมี แววตาที่ดูดุ ตาขวาง มองหน้าใครๆ ด้วยแววตาจะกินเลือดกินเนื้อกัน

หากเกิดในคนที่เจอวิญญาณแทรกได้เป็นเวลานานๆ บ่อยๆ โดยไม่รู้ตัวเอง หากนานเข้าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของตน เองและส่งผลให้เกิดเป็นนิสัยไปเลย..ก็มี..และวิญญาณจะอาศัยกินผ่านร่างยึดครองร่างไปได้อีกนาน...จนกว่าเราจะรู้เท่าทัน...จึง สามารถผลักดันให้วิญญาณออกไปจากร่างและส่งแผ่เมตตาให้วิญญาณได้รับส่วนบุญนี้..และสามารถสอนให้วิญญาณรับทราบสิ่งถูก ผิดชอบชั่วดี..สิ่งไหนเป็นกรรมสิ่งไหนเป็นคุณ เคารพในบาปบุญคุณโทษ....และสามารถส่งกระแสบุญให้เขาสามารถจับกระแสบุญ ไปเกิดในภพภูมิที่ดี เป็นต้น


11. ปวดตามเนื้อตัวเหมือนจะไม่สบาย รู้สึกจะเป็นไข้ หรือหากเป็นวิญญาณแอบแทรกลงร่าง เวลาเข้ามาในร่างจะทำ ให้เรารู้สึกเหมือนมีอะไรวิ่งข้างในตัวเรา บางทีลักษณะการปวดจะปวดแบบวิ่งไปทั้งตัว ผู้เป็นร่างจะรู้สึกเจ็บปวดจนร้องครวญครางออก มาได้ แต่ลักษณะที่ปวดตามเนื้อตัวแล้ววิ่งเป็นเส้นๆ หรือเป็นก้อนกลมๆ นั้นจะมีให้เห็นน้อยมากในร่างเปิด
เก๋ก็เคยเป็นลักษณะที่ปวดตามเนื้อตัวแล้ววิ่งเป็นเส้นๆ หรือเป็นก้อนกลมๆ มาแล้ว แต่วิญญาณเหล่านี้ที่แอบเข้ามาผ่าน ร่างได้นั้น จะถูกปล่อยมาตามแรงคุณไสย แบบลมพัดลมเพมาเข้าตัวเรา แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เริ่มฝึกปฏิบัติได้ไม่นานนัก ก็ใช้วิธีแผ่ เมตตาช่วยและสวดมนต์กรรมฐานอุทิศส่งผลบุญให้ จนวิญญาณนั้นได้เกาะกระแสบุญไปในภพภูมิที่เหมาะสม ก็เริ่มดีขึ้นและหายดี อาการเจ็บก็หายไป หรืออาจจะใช้พลังจิตช่วยก็สามารถช่วยได้ดีเช่นกันค่ะ

และในอีกกรณีหนึ่ง ตอนนั้นเกิดในช่วงเคยไปทำงานแล้วต้องอยู่ให้หอพักร่วมกับเพื่อน เป็นจำนวนมาก วันหนึ่งมีเด็กรุ่น น้องที่มาทำงานด้วยแต่เป็นวันหยุด หลายคนก็ยังอยู่ในหอพัก น้องคนนี้ได้วิ่งมาหาแล้วร้องเจ็บปวดทรมาน บอกว่าเจ็บท้องเหมือนมี อะไรบิดไส้ตนเอง และเหมือนมีอะไรวิ่งตามเนื้อตัว นอนล้มลงพื้นดิ้นแบบทรมานมากและร้องไห้ครวญครางออกมา อย่างเจ็บทรมาน มาก มองดูแล้วน่าสงสารมากๆ ค่ะ

เก๋ก็เริ่มมองดูเป็นเพราะสาเหตุอะไรให้ ก็เลยรู้ว่า เป็นเพราะเด็กคนนี้ไปทำผิดไปถ่มน้ำลายรดหัวผีที่อยู่ตรงนั้น เพียง เพราะความไม่รู้นั้นเอง เลยทำให้วิญญาณเกิดความไม่พอใจ เลยเข้าร่างทันทีเพื่อจะทำให้เจ็บทรมาน ห้องที่พักจะมีห้องใหญ่ที่เขา สั่งห้ามไม่ให้เข้าไป แต่น้องคนนี้ได้เข้าไปโทรศัพท์อยู่และถ่มน้ำลายลงพื้นพอดีก็เลยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น ที่ยกตัวอย่างให้ฟัง ก็คือว่า ลักษณะที่วิญญาณได้แอบแทรกเข้าร่างนั้น หากเรากระทำผิดในที่ทางของวิญญาณเหล่านั้น บางครั้งวิญญาณก็ยังยึดติดอารมณ์โกรธ และอาจจะมีอาการรุนแรงกว่าในช่วงก่อนตายด้วยซ้ำ ก็จะทำให้เกิดความโกรธพยาบาทจน มาทำร้ายคนที่มาทำต่อตนเองได้ ถือว่าเป็นการบอกเล่าสู่กันฟังว่า ไม่ควรจะทำอะไรที่มันผิดที่ผิดทาง

ในอีกกรณีหนึ่งเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรมาเกาะเกี่ยวในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย จึงทำให้เกิดอาการปวดเจ็บทรมาน เข้าไปข้างในกระดูก เกิดอาการร้อนตรงที่ปวดขึ้นมาตลอดและจะมักเกิดในช่วงกลางคืนขึ้นไปหรือบางรายก็เกิดอาการปวดได้บ่อย ครั้งทั้งกลางวัน กลางคืน เช่น เจ้ากรรมเข้าไปเกาะเกี่ยวเอากรรมบริเวณกระดูกนิ้วมือจะเกิดอาการปวดมากจนเข้ากระดูกและเกิด อาการร้อน และเจ้ากรรมนายเวรเข้าไปเกาะเกี่ยวบริเวณขา จะทำให้เกิดอาการปวดเข้าไปถึงในกระดูก ก็ให้พยายามระลึกส่งจิตไป ในตรงที่ปวด

ขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวรและส่งผลบุญทาน ปฏิบัติส่งแผ่ให้เขาได้ไปเกิดในภพภูมิที่เจริญ จะสามารถช่วยได้ ในอีกระดับหนึ่ง เมื่อเจ้ากรรมได้รับกระแสผลบุญทานแล้วก็จะสามารถไปเกิดในภูมิที่ดีกว่า ร่างกายเราก็จะดีขึ้นหายเจ็บปวด และ ให้หมั่นสร้างกุศลกรรมดีให้มากๆ จะสามารถช่วยทำให้วาระจิตเกิดความสุขสงบ ด้วยการสร้างแต่กรรมดี เป็นต้น

12. หากเป็นวิญญาณมาสื่อหรืออยู่ใกล้ๆ รอบๆ แถวนั้นหรือรอบๆ ตัวเรา แต่ไม่ได้แอบแทรกลงร่าง มักจะได้กลิ่นเหม็นสาบสางของซากศพ ซากสัตว์ เหมือนสุนัขตายมาเป็นเวลานาน และได้กลิ่นเหมือนปลาร้าเน่า และได้กลิ่นเหมือนอีแร้งตาย และกลิ่นสาบสางโชยมาใกล้ๆ จมูก ผู้สามารถสื่อได้ใหม่ๆ จะได้รับกลิ่นอย่างแรง แต่คนอื่นจะไม่ได้กลิ่นเหมือนเราได้กลิ่น ส่วนวิญญาณนั้นที่ทำให้ได้กลิ่นเหม็นสาบสางเหมือนซากศพ ซากสัตว์ เมื่อสื่อสามารถลงตัวทั้งผู้เป็นร่างและวิญญาณจูนติดกันได้พอดีแล้ว ผู้เป็นร่างก็จะได้กลิ่นเหม็น หรือผู้เป็นวิญญาณต้องการให้ได้กลิ่น เพื่อให้คนที่สามารถสื่อได้ เห็นว่ามีวิญญาณอยู่ในแถวนี้
เพราะผู้ที่เป็นร่างเปิดสื่อได้ ไม่ได้มองดูหรือกำหนดมองดู ว่ามีวิญญาณอยู่ในขณะนั้น เลยไม่รู้ไม่เห็นว่าเขาอยู่ในแถวนั้นวิญญาณท่านนั้น จึงเลยมาหาทำให้ได้กลิ่นเหม็น เพื่อต้องการเป็นจุดสนใจ ให้ผู้เป็นร่างเปิดพยายามสื่อเข้าไปดูไปเห็นว่า มันคืออะไรเป็นอะไรกันแน่ จึงมีกลิ่นเหม็นได้ขนาดนี้ เพื่อจะได้ทราบว่ามีวิญญาณอยู่ในแถวนี้ วิญญาณจะได้ทำการสื่อพูดคุยกันผ่านจิตกับผู้เป็นร่างเปิด ในการขอผลบุญทานปฏิบัติอุทิศให้ จะได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่านี้ หากยังช่วยไม่ได้วิญญาณท่านนั้น ก็ดีใจแล้ว ที่ผู้เป็นร่างสามารถมองเห็นและพูดคุยกับเขาได้ วิญญาณนั้นจะได้ระบายความทุกข์ ที่มีให้ฟังเพื่อจะได้เป็นการหาทางช่วยเหลือต่อไปเป็นต้น

อาจจะมีอาการปวดศีรษะ เหมือนหน้าจะมืดบ้าง หนักบ่าไหล่บ่อยๆ หายใจลำบาก ง่วงนอนบ่อยๆ ระหว่างวัน หนักหนัง ตารู้สึกลืมตายาก และอาการอื่นๆ ที่เขียนไว้ข้างต้น
อาการที่ว่ามานี้ไม่ว่าจะเป็นสื่อวิญญาณแอบแทรกลงร่าง หรือเป็นอาการองค์เทพแทรกลงร่าง หรือเกิดจากสื่อภายนอกก็ ตามที เป็นสื่อสัมผัสพิเศษเกิดขึ้นมานั้นเอง เป็นอาการสามารถเปิดรับสื่อสัมผัสพิเศษภายนอกได้แต่ยังไม่สามารถรับรู้ทางจิตชัดเจน มากนักเลยแสดงอาการผ่านร่างกายก่อนเพื่อให้ได้รับรู้ทางกาย หากสัมผัสทางจิตดีขึ้นด้วยการฝึกสมาธิจิต ก็จะค่อยๆ หายไปเองด้วย การฝึกจิตให้เป็นปกติ ไม่ยึดติดในกายขันธ์นั้นเองค่ะ เป็นต้น

http://www.saiyaithum.com/index.php?mo=3&art=329817
[FONT=Lucida Handwriting, Cursive][/FONT][FONT=Lucida Handwriting, Cursive][/FONT]

 

- พี่นางฟ้า พูดจริงๆนะ พญานาคจริงๆน่ะ มี 80 กว่าตระกูล อันนี้เฉพาะพญานาคที่อยู่บนบกนะ ไม่รวมในทะเล พญานาคทะเลจะมีตระกูลเดียว เขาว่าสามัคคีกันมาก ตระกูลทะเลจะออกดำๆ พิษร้ายมาก
- ส่วนสี ที่เขาบอกว่า สีเขียวตระกูลนี้ สีทองตระกูลนั้น เอาเข้าจริงๆ ตัวเดียวนี่ เปลี่ยนได้หลายสี อย่างคนที่อยู่ด้วยเนี้ย เขาว่าเขาสีเขียวทอง บางวันเขาก็เหมือนลอกคราบเป็นสีนำตาล แดง ตามช่วงเวลา เขาว่ามาอย่างนั้นนะพี่
- ส่วนที่พี่ เห็น ไม่รู้เหมือนกันตระกูลไหน ต้องจับตัวเขาถามนั้นแหละดีที่สุด อ้อ เขาเคยบอกไว้ว่า ถ้าพญานาคองค์ไหน มีบารมีเยอะ ตัวจะใส คล้ายแก้ว นาคตระกูลนี้จะเป็นนาคที่อยู่บนสวรรค์ค่ะ ถ้าจำไม่ผิด พวกนี้จะอยู่ในทะเลสีทันดร
- จริงๆแล้วก็ตามศึกษาพญานาคอยู่เหมือนกันนะพี่ เขากับคนน่ะมันเลื่อมกันอยู่นิดเดียว บางที สัก 1000-2000 ปี ก่อนเขาน่ะอาศัยร่วมกับมนุษย์ด้วยซ้ำ มีการแต่งงานกันข้ามเชื้อสาย (..555 กำลังศึกษาหาความจริง ไม่พูดเรื่องนี้ต่อดีกว่าเพราะยังรู้ไม่จริงเอาไว้แน่ใจแล้วจะแอบมาบอก) แต่เขาศีลมากกว่า ภูมิปัญญาเยอะกว่าเรา อันนี้พูดถึงแต่นาคที่เป็นบริวารท้าวมหาราชนะพี่ นาคอื่นๆ ไม่เคยใกล้ชิด จริงๆรู้จักอยู่ไม่กี่องค์ ถ้าพอจะฟังเป็นนิทานอย่างพิซซี่เล่า ก็พอฟังได้ แต่พิซซี่ เขาฝัน ของเรานี่เราสื่อทางจิต
- พี่นางฟ้าอาจมีความผูกพันกับนาคก็ได้ ถึงโดนพิษนาคบ่อย ...อันนี้ก็เดาเอา