มาดูสมเด็จกัน

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย wasabi san, 25 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. อังคาร99

    อังคาร99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2010
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +1,178
    คราบด้านหน้า-ด้านหลัง น่าจะเป็นคราบน้ำผึ้ง และคราบผิวปูนทั้งปูนหิน และปูนเพชร ลักษณะเกิดจากปฏิกิริยาของพระที่ผ่านการใช้อย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานานพอสมควร โดยเหงื่อของมนุษย์ที่มีความเป็นด่าง เมื่อรวมกับพลาสมา(Plasma)ในร่างกายที่ซึมเข้าในมวลสาร เกิดเป็นเนื้อปูนตาย สีขององค์พระจะนวลคล้ายสีของน้ำผึ้ง บางส่วนที่ปูนแปลงสภาพเป็นสีออกขาวสลับน้ำตาล และเกิดความหนึกนุ่ม ตามธรรมชาติ<!-- google_ad_section_end -->
    ขอบคุณมากครับคุณ wasabi san ที่ถามก็มีสาเหตุ ว่าผมเคยเห็นพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ ที่มีรอยสีเทาแบบนี้เป็นจุดๆ ตามขอบพระเหมือนกันเขาเอามาให้ดู เนื้อหามวลสารใกล้เคียงกับ เกศไชโยองค์นี้หากแต่พระยังดูเนื้อใหม่ ถามเขาว่าล้างมาหรือเปล่า เขาบอกว่าใช่ เลยบอกว่าไปถ่ายรูปกัน แล้วลองมารบกวนท่านทั้งสองช่วยวิเคราะห์ แต่ผมคงต้องรอเขาหน่อย เพราะเขากำลังพักร้อน ถ้ามาเมื่อไหร่จะมารบกวนครับ เพื่อความรู้ในการศึกษาเช่นเคย
     
  2. mansung

    mansung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +474
    สวัสดีครับพี่วาซาบิ ตอนนี้ผมลองทำตามคำแนะนำของพี่นำพระสมเด็จไปแช่น้ำ เกิดฟอง
    อากาศจับขึ้นที่องค์พระ ทดลองแช่ประมาณ 5 นาที หยิบองค์พระมาตากไว้ อีกประมาณ
    10 นาที ลองดมดูไม่มีกลิ่นน้ำมันครับ มีแต่กลิ่นคล้ายธูปหอมไม่แน่ใจว่าอยู่ในกล่องนานหรือเปล่า เหมือนเวลาเราเปิดกล่องพระน่ะครับ หลังจากนั้นอีก ประมาณ 2 ชั่วโมง ลองมาดมดูก้อยังเหมือนเดิม แต่เนื้อพระแห้งแล้ว เลยถ่ายรูปมาให้พี่วิเคราะห์เนื้อหาทุกมุมเลยครับ
    ลองพิจรณาดูครับพี่ ส่วนองค์พระตรงขอบๆ มีเม็ดใสๆ ใช่เม็ดพระธาตุไหมครับ ภาพทุกภาพถ่ายในโหมดมาโคร ถ่ายในกล่องครับ ถ้าองค์นี้แท้จริงๆน่าจะสร้างยุคไหนครับ เพราะพระองค์เล็กครับ ขนาดไม่ใหญ่ครับ กว้าง 2.1 ซ.ม. ยาว 3.4 ซ.ม.ครับ
    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. chaiyaput

    chaiyaput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,146
    ขอบคุณครับพี่ ที่แนะนำครับจะนำไปปฏิบัติดูครับ
     
  4. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    มาสนับสนุนครับ...เพราะผมเองเมื่อก่อน...ก็ไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้...จนได้พบและได้เข้าใจด้วยตัวเองครับ...
     
  5. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ถึง ท่านทรงกลด555 ที่เคารพ...ขออนุญาติท่าน wsb ด้วยนะครับ...

    ขออนุญาติเพื่อนสมาชิกทุกๆคนด้วยนะครับ....

    บุพนิมิต...ขออโหสิกรรมจากท่านทรงกลดครับ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02126.jpg
      DSC02126.jpg
      ขนาดไฟล์:
      418.7 KB
      เปิดดู:
      103
    • DSC02127.jpg
      DSC02127.jpg
      ขนาดไฟล์:
      371.2 KB
      เปิดดู:
      78
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2010
  6. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ถึงท่าน ทรงกลด555 ที่เคารพ (ต่อ 1)

    บุพนิมิต...ขออโหสิกรรมจากท่านทรงกลดครับ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02123.jpg
      DSC02123.jpg
      ขนาดไฟล์:
      460.1 KB
      เปิดดู:
      83
    • DSC02124.jpg
      DSC02124.jpg
      ขนาดไฟล์:
      429 KB
      เปิดดู:
      63
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2010
  7. T_

    T_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +318
    โอวๆๆๆๆๆๆๆๆ..วาว... เจอแล้วครับ..คนเล่นของ (ตัวจริง) ---ไม่เชื่ออย่าลบหลู่--- (ส่วนใหญ่คนจะเชื่อ (เมื่อได้สัมผัสและเจอกับตัวเอง)..เช่นเดียวกับผม..(เจอมาแล้วเหมียนกัลลลลลล) แหะๆ เข้ามาทักทาย..น่ะครับ

    วันนี้เอารูป (เก่า) มาให้ทุกๆท่าน..ช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยครับ..(มาเรียกน้ำย่อย) ถ้าเข้าตาล่ะก็..(องค์นี้ก็จะเป็นประตูบานใหม่ในการศึกษา) เกี่ยวกับข้อสงสัย ที่เป็นมานาน..จะมีการพิสูจน์(ในชั้นลึกกว่านี้..แบบจะๆ)
    แต่ถ้าไม่(เข้าตา)..ประตูที่ว่า...ก็จะไม่เกิดขึันตลอดไป...ผมจะได้ปรับเช็มทิศใหม่..ในการค้นคว้า..คริ คริ
    เดี๋ยวรอ..กล้องถ่ายใหม่..หลังจาก(เม้นท์)นี้แล้วนะครับ...(รบกวนและขอขอบพระคุณล่วงหน้าไว้ก่อนเลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กันยายน 2010
  8. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ฮ่าๆๆๆ....ขอบคุณที่ทักทายกันครับ...ท่านลูกเจี๊ยบ....
    น่าเสียดายครับ...ที่ท่านไม่มีคนสืบทอด...ท่านเอง ก็สืบทอดต่อมาจากคุณพ่อของท่าน...แค่เพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้นเองครับ....
    มีเกิดขึ้น...ตั้งอยู่...แล้วก็ดับสูญ...เป็นธรรมดาของชีวิตเช่นกันครับ ฮ่าๆๆๆ
     
  9. สงบในกรรม

    สงบในกรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +131
    ผมก็มีพระของคุณทรงกลด 555 ครับ ไปลองจับพลัง สุดสุดเหมือนกัน คนจับสลบทั้งยืนก็มี แรงจนเหลือพลังที่เขารับได้ หรือวัดด้วยเครื่อง ของสถาบันพลังจิต ค่าเกินสเกลพระที่มีพลังธรรมดาเยอะครับ งงครับ เพราะพิมพ์ทรงไม่ใช่ เนื้อหาธรรมดา เคยถามที่มา มาจากป้าแก่คนหนึ่ง แผงริมถนน ป้าเอามาจากลุง ที่อายุ 90 กว่า เก็บไว้ตั้งแต่บรรพบุรุษ ในลังขนาดใหญ่มากๆ อาจเป็นสมเด็จรุ่นไม่ฮิต แต่เป็นรุ่นใช้งานจริง ผมเคยรู้มาว่าพระที่อยู่ในคอเซียนใหญ่พันทิพย์ก็เป็นรุ่นไม่ฮิตเหมือนกัน น่าแปลก ของที่ปล่อยกับของที่ใช้งานจริงต่างกัน แกย้ำให้ทำสมาธิบ่อยๆ และบอกว่าพระรักษาคน เพราะคนรักษาพระด้วยทาน ศีล ภาวนาครับ
     
  10. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ขอบพระคุณท่าน สงบในกรรม อย่างสูงครับ...ที่ร่วมแชร์ประสบการณ์นะครับ...
    เอาแค่พอเป็นแนวทางการศึกษา...ก็ดีนะครับ...มากไป...เดี่ยวจะหลงไปเป็นอัตตา...ฮ่าๆๆๆๆ
     
  11. สงบในกรรม

    สงบในกรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +131
    ผมก็งง ฝรั่งงง ฮ่องกงงง สิงค์โปร์ก็งง ทำไมเสียเงินซื้อเบนซ์(เช่าพระแพง แล้วมีพุทธคุณน้อย) แล้วโตโยต้า(ของฟรี)แซงไม่เห็นฝุ่น คนตรวจพลังก็งง คนร่วมงานก็งง ขำๆครับอย่างคิดมาก
     
  12. A-Ho-Si

    A-Ho-Si เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +739
    วิธีจับพลังพระเครื่อง

    วันพุธ ที่ 21 เมษายน 2553
    วิธีจับพลังพระเครื่อง
    Posted by 00x-GodCode , ผู้อ่าน : 867 , 21:52:38 น.
    หมวด : ทั่วไป<!-- retweet and facebook --><!-- keep in file social.html --><!-- end retweet and facebook -->
    [​IMG] พิมพ์หน้านี้

    <TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>วิธีจับพลังพระเครื่อง
    สำหรับท่านที่สงสัยว่าพระที่บูชามามีพลังด้านไหน หรือ พระสมเด็จ หรือเหรียญเก่าๆที่บ้าน ที่ตกทอดกันมาถึงท่านอาจเป็นของแท้ก็ได้ ไปหาเซียนก็กลัวว่าเก๊ ไปเช็คพระก็เสียเงิน เรามีวิธีเบื้องต้นดังนี้ครับ

    1ตั้งนะโม 3 จบ อธิฐานขออนุญาต

    2.หาพระเครื่อง (หรือเครื่องรางประเภทอื่นก็ได้) ที่ถูกใจมาแทน (เผื่อไว้หลายชิ้นหน่อย)

    3.ใช้มือข้างที่ถนัดจับองค์พระไว้เบาๆ ปล่อยหัวไหล่กับ แขนตามสบาย ข้อศอกตั้งฉาก ถือไว้ลอยๆ (ตอนนี้มือจะถือพระอยู่บริเวณท้อง)

    4.เข้าสมาธิ ระดับอุปจารสมาธิ (ถ้าลึกกว่านี้จะใช้ไม่ได้) เพ่งไปที่องค์พระ

    5.ให้สังเกตุอาการดังนี้

    5.1 จะรู้สึกร้อนนิดๆ ที่มือตรง บริเวณองค์พระ

    5.2 จะมีความรู้สึกว่ามีแรงดึงหรือ ผลักออกมาจากองค์พระ ให้ปล่อยและประคองมือไปตามองค์
    พระ

    5.3 ทีนี้ก็มาเลือกพระใส่กันโดยดูอาการตามนี้

    1 ถ้าองค์พระดึงมือวิ่งไปทางด้านหลัง แล้วกลับมาที่เดิมแล้วไปอีกเรื่อยๆ แปลว่า มีกำลังทางด้าน แคล้วคลาด

    2 ถ้าองค์พระ วิ่งวนเป็นวงกลม อยู่ข้างหน้า แปลว่าเป็นพระอธิษฐาน (อยากได้อะไรก็ขอเอา)

    3 ถ้าองค์พระวิ่งไปข้างหน้าแล้ววนเข้าหาตัว แปลว่าเป็นพระมหาลาภ

    4 ถ้าองค์พระวิ่งไปข้างหน้าแล้ววนเข้าหาหัวใจ แปลว่าเป็นพระเมตตามหานิยม

    5 ถ้าองค์พระวิ่งไปข้างหน้า แล้ววนเข้าหาปาก แปลว่าเป็นพระที่ลง สาริกาลิ้นทอง (ไม่รู้ว่าใช้ศัพท์ผิดหรือเปล่า???)

    6 ถ้าองค์พระวิ่งออกไปตรงๆ แล้ววิ่งกลับมาตรงๆ เป็นพระที่ลงคงกระพันชาตรีไว้ (ผู้รู้บอกว่าให้นิมนต์ขึ้นหิ้งไปเลย แล้วเอาพระเมตตามหานิยมมาใส่ดีกว่า เพราะเป็นพระร้อน)

    7 ถ้าองค์พระวิ่งวนขึ้นหัว แปลว่าเป็นพระที่ลงไว้ครบทุกอย่าง หรือลงไว้หลายอย่าง (เช็คยากกว่าพระที่ลงพลังไว้อย่างเดียว กว่าพระจะเริ่มเคลื่อนบางทีรอตั้งนาน)

    8 ถ้ารู้สึกเริ่มเมื่อยแขน ให้หยุดทันที เพราะตอนนี้ถ้าคุณถืออะไรไว้ในมือ แล้วคุณอยากให้วิ่งละก็ คุณจะแยกไม่ออกแล้วว่า เป็นแรงที่คุณออกแรงผลักไปเองโดยไม่รู้ตัว หรือเป็นแรงดึงจากของในมือ

    วิธีที่สอง


    คาถานี้ปลุกพระ ได้ จริงๆ ๆ ผม ลองมา แล้ว ใช้ จับพลังพระ เครื่อง นะครับ

    นะ โม สัง วิธาปุกะยะปะ นะ โม พุทธายะ นะ มะพะธะ นะ มะอุ อะ ระหังพุทโธ

    ต้อง จิต เป็น สมาธิ ก่อนนะครับ จึง จะ ใช้ ได้

    ประสบการณ์

    ผมไปรับผ้ายันต์ของหลวงพ่อ เพี้ยน มาพอดีผมเลยลอง ใช้ คาถา นี้ปลุกดู

    ปรากฎว่า ของขึ้นครับท่าน ตัวผมสั่น ขนลุกขุนพอง ร้อนหน้า จนน้ำตาไหลออกมา

    เเต่ เเปลกมากมันไหลเเค่ข้างเดียว ลองเอาไปครับสำ หรับ คนสนใจ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    น่าสนใจ เลยเอามาให้อ่านเล่น:cool:

     
  13. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ตอนแรกที่ท่านสงบให้กรรม..เข้ามาร่วมในกระทู้..มาแบบตัดแล้วซึ่งสิ่งทั้งปวง..ยึดถือการปฏิบัติเป็นที่ตั้ง....
    พอมาโพสนี้...แตกต่างอย่างสินเชิงจากโพสแรก...มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวข้องกับพลังพุทธคุณมาร่วมแชร์ประสบการณ์....ฮ่าๆๆๆๆ แต่ชอบครับ...ยังมีอะไรอีกมากมาย...ที่ชาติตะวันตกสนใจอยากรู้ความลับในอารยะธรรมของชาติตะวันออก...
    หาก ท่านสงบในกรรม มีสิ่งใดที่เป็นความรู้แล้วอยากแบ่งปัน ผมว่าเพื่อนๆกัลยาณมิตคงอยากได้เรียนรู้เป็นแน่แท้...เรียนรู้นะครับ...ด้วยสติ...เปิดใจกว้าง...กับสิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่มีทางจะรู้คำตอบ...
    1+1 = 10 หรือมากกว่า...ฮ่าๆๆๆ
     
  14. สงบในกรรม

    สงบในกรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +131
    ตอนปฏิบัติก็มุ่งให้ถึงแก่นครับ
    ใช้ชีวิตก็เรื่อยครับ ตึงในทางธรรม หย่อนในทางโลกครับ
    ลองอ่านดูครับ ฮาดีครับ
    ถ้าตอนใส่บาตรแล้วที่ยืนสกปรกมาก จะต้องถอดรองเท้าใส่บาตรด้วยหรือไม่ ?
    พระไม่ฉันรองเท้านะโยม...ไม่ต้องเอารองเท้าใส่มานะ.....

    <HR align=center width="100%" SIZE=2>​


    <TABLE style="WIDTH: 100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1.5pt; PADDING-LEFT: 1.5pt; PADDING-BOTTOM: 1.5pt; WIDTH: 100%; PADDING-TOP: 1.5pt" vAlign=top width="100%">พระนอนไม่หลับ เลยไปหาหมอใหม่จบมาจากเมืองนอก
    หมอ: เป็นอะไรครับ
    พระ : จำวัดไม่ได้จ๊ะโยมหมอ

    หมอ: (ทำหน้างง) แล้วจะกลับวัดยังไง
    พระ: (ทำหน้างงด้วย) มามอไซรับจ้างก็ต้องกลับมอไซนะโยม

    หมอ: (ทำหน้าง๊งงง) แล้วมอไซรับจ้างจำวัดได้เหรอ
    พระ: (ทำหน้าง๊งงงด้วย) มอไซรับจ้างจำวัดไม่ได้หรอกโยม มีแต่พระที่จำวัดได้

    หมอ: (ทำหน้างงง๊งงง) อ้าวไหนบอกว่าจำวัดไม่ได้ไง
    พระ : !\=-+#@ %^&*( +๐"ฯ, ?

    จำวัดเป็นภาษาพระแปลว่านอน.........................
    หมอ: อ๋ออออออออออออออออออออออออออ

    ญาติโยมหลายท่านมักถามว่า "ท่านบวชเรียนมาตั้งแต่อายุยังน้อย อยู่ในเพศบรรพชิตมามากกว่าครึ่งชีวิต มีโอกาสสัมผัสชีวิตฆราวาสไม่มากนัก แล้วเอาข้อมูลวัตถุดิบหรือมุกมาจากไหนหนักหนา"

    อาตมาก็ตอบว่า
    หลักๆเลยก็คือ การอ่าน นอกจากนั้นก็หนัง ละครที่ญาติโยมดูกันนั่นแหละ พอตอบออกไปอย่างนี้ โยมก็สวนกลับทันที "ไม่ผิดข้อห้ามหรือท่าน"

    อาตมาก็จะอธิบา ยไปว่า
    ดูเพื่อให้เท่าทันกิเลสจะได้สกัดมันถูก และที่สำคัญหากอาตมาไม่รู้หรือไม่เข้าใจ ตลอดจนไม่เท่าทันเรื่องราวทางโลก และจะมาบรรยายธรรมให้ญาติโยมรู้สึกอินกันได้อย่างไร ซึ่งนอกจากการอ่าน การดูและการฟังแล้ว หลายวัตถุดิบที่นำมาสร้างเป็นมุกฮาก็ได้มาจากการพูดคุยกับเหล่าโยมๆนี่แหละ

    อย่างวันหนึ่งระหว่างที่อาตมากำลังฉันเพลอยู่ก็มีโยมท่านหนึ่งโทร.มา
    "พระอาจารย์เหรอคะ นี่อาตมาเองนะคะ"
    "หา อะไรนะ"
    "พระอาจารย์เหรอคะ นี่อาตมาเองค่ะ"
    "ถ้าโยมแทนตัวว่าอาตมา แล้วอาตมาจะแทนตัวอาตมาว่าอะไร"

    "อ๋อ ขอโทษค่ะ"
    หลังจากนั้นก็คุยธุระกันจนจบ อาตมาก็กล่าวว่า
    "เจริญพร"
    "ค่ะ เจริญพรเช่นกัน"
    แน่ะ มีอวยพรให้พระด้วย

    ข้างต้นก็คือ สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆระหว่างพูดคุยกับเหล่าญาติโยม จนถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับอาตมาไปแล้ว หรืออย่างก่อนหน้านี้มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง เดินถือสังฆทานมาอย่างมาดมั่น พอเข้ามาในกุฏิแล้ว เธอก็มุ่งตรงไปที่พระบวชใหม่รูปหนึ่งทันที
    "ถวายสังฆทานค่ะ"

    พระบวชใหม่ด้วยความที่ยังจำบทสวดต่างๆ ไม่ค่อยคล่องนัก จึงหยิบหนังสือขึ้นมาดู
    "ไม่ต้องค่ะ
    " โยมผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างหนักแน่นตามสไตล์สาวมั่น
    "ดิฉันท่องได้ค่ะ เพราะคุณยายพาเข้าวัดตั้งแต่เด็กๆ"
    เธอพนมมือขึ้น ก่อนกล่าวว่า
    "อิมานิ มะยัง ภันเต สะปะริวารานิ คิกขุ สังโฆ" (ที่ถูกต้องจะต้องเป็น ภิกขุ สังโฆ)
    พระบวชใหม่มีสีหน้างุนงง ก่อนหันมาถามอาตมา "คิกขุสังโฆ นี่มันฟังทะแม่งๆ
    นะหลวงพี่"


    < /B>อาตมาเกรงว่าโยมผู้นั้นจะหน้าแตก ก็เลยตอบไปว่า "คิกขุ แปลว่า น่ารัก
    สังโฆ แปลว่า สงฆ์ คิกขุสังโฆ ก็คือ แด่พระสงฆ์ผู้น่ารัก" เท่านั้นแหละ
    พระใหม่รูปนั้นนั่งยืดทั้ง วันเลย

    แต่ก็มีบางกรณีที่การพูดผิดของคุณโยมทำให้อาตมาแทบจะสำลัก อย่างเมื่อเร็วๆนี้ มีโยมท่านหนึ่งโทรศัพท์มา "หลวงพี่ขา ขอเรียนเชิญนิมนต์ค่ะ"
    "
    ไปไหนล่ะโยม" "ไปมรณภาพที่บ้านน่ะค่ะ"
    โห นิมนต์พระไปตายถึงที่บ้านเลย อาตมาจึงบอกไปว่า ถ้านิมนต์ไปงานศพไปให้ได้ แต่ถ้าเชิญไปมรณภาพนี่ ช่วงนี้อาตมาไม่ว่างจริงๆ ขอตัวเถอะนะโยม

    จากตัวอย่างข้างต้น คุณโยมอาจจะเห็นเป็นเรื่องขบขัน แต่มันก็สะท้อนให้เห็นความห่างเหินระหว่างคนกับวัดได้ในระดับหนึ่ง ปัจจุบันนี้คนจะนึกถึงวัดในกรณีพิเศษ เท่านั้น เช่นงานบวช งานศพ

    ต่างกับสมัยก่อนที่วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ฆราวาสกับพระจึงสนทนากันไหลลื่น
    ไม่มีคำแปลกๆ หรือผิดที่ผิดทางออกมาให้พระสดุ้งแต่อย่างใด
    ซึ่งถ้าพูดถึงศัพท์
    แสงที่แสลงใจแล้ว ตอนไปบิณฑบาตอาตมาจะเจอบ่อยมาก เช่นมีอยู่
    ครั้งหนึ่งระหว่างที่กำลังเดินๆอยู่ ก็ได้ยินเสียงใสๆ แว่วขึ้นมา
    "แม่ๆ พระมาขอข้าว"

    "มาเยอะไหมลูก" "มา 2 อัน"
    โห
    เรียกอย่างกับชิ้นส่วนรถยนต์ นี่ถ้ามาเยอะๆไม่เรียกเป็นฝูงเลยเหรอ

    ดังนั้นเวลาไปบรรยายธรรมให้นักเรียนฟังอาตมาจะนำเรื่องนี้ไปสอดแทรกเพื่อสอนเด็กๆด้วย
    "ถ้าพระกิน เรียก ฉัน"
    " พระนอน เรียก จำวัด" (บางคนเรียกขี้เกียจเป็นพระนอนไม่ได้)
    " พระป่วย เรียก อาพาธ"
    " พระตาย เรียก มรณภาพ" (ไม่ใช่เรียกป่อเต็กตึ๊งนะ)
    " แล้วพระอาบน้ำล่ะ เรียกอะไรเอ่ย" คราวนี้อาตมาถามให้เด็กๆ ตอบบ้าง





    "เรียกคนมาดู"


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

























     
  15. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    เรื่องวัดพลังพระนั้นผมก็เคยมีประสบการณ์แนวนี้มาเหมือนกันครับ....
    ส่วนหนึ่งไม่อยากให้ไปหลงยึดติดกับผลของการวัดพลังมากมายนักครับ....
    เวลาผมเจอคนที่เขาวัดพลังได้....ผมมักจะลองของเขาโดยการนำกล่องไม้ขีดมา 4 กล่อง

    กล่องนึงใส่กระดูกไก่....อีกกล่องใส่ดินน้ำมันเพื่อให้มีน้ำหนัก....อีกกล่องใส่พระสมเด็จ....อีกกล่องใส่พระบรมสารีริกธาตุ...

    ผลปรากฎว่ากระดูกไก่ กับดินน้ำมันหมุนควงมันส์มาก....
    ส่วนพระสมเด็จแท้ๆ กับพระบรมสารีริกธาตุกับไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว...!Ohhh..No ?

    ส่วนเพื่อนผมอีกคนหนึ่งก็ชอบเรื่องวัดพลังเหมือนกัน....และก็ไม่เชื่อเรื่องวัดพลัง ผมจึงสอนวิธีการฝึกวัดพลังให้...เพื่อนผมก็สามารถวัดพลังได้ แรกๆ นี่ดีใจใหญ่
    แต่พอผมทดสอบด้วยวิธีการเดียวกันผลก็คือ
    "หมดท่า...หาความแม่นยำไม่ได้เช่นกัน"

    นั่นเป็นเพราะอะไรหนะหรือครับ....นั่นก็เป็นเพราะ..
    พลังที่ทำให้เกิดการควงจริงๆ แล้วก็คือ พลังจิตของคนที่จับพระสะท้อนกลับมาหาตัวเขาเอง....

    วัตถุที่เล็ก และเบาจะทำให้ระบบประสาทรับรู้ความรู้สึกได้ยากการควงจึงน้อย....
    ในขณะที่วัตถุที่หนักจะมีแรงตึงมือพอสมควรปฏิกริยาทางกระแสประสาทจึงสามารถที่จะสะท้อนกลับได้โดยง่าย....การควงจึงมากกว่าวัตถุที่มีน้ำหนักเบาครับ...

    อีกข้อที่ผมเชื่อก็คือ
    "ผมเชื่อว่าพลังจิตของพระอริยเจ้านั้นมีความสะอาดบริสุทธิ์มากกว่าปุถุชน...
    การที่จิตของปุถุชนอาจหาญไปวัดพลังของพระอริยเจ้าย่อมเป็นไปไม่ได้ครับ...."

    ดังนั้นถ้าหากว่ามีฆาราวาสท่านใดอาจเอื้อมว่าเขาสามารถวัดพลังพระได้....
    ขอให้ตีไปได้เลยว่าเขาคนนั้นอาจจะกำลังหลงติดใน "อุปาทาน" อย่างโงหัวไม่ขึ้น....หลงติดคิดไปเองว่าตนเองสัมผัสพลังวิเศษได้...

    ถ้าจะมีฆาราวาสที่จะสามารถวัดพลังพระได้จริงก็ต้องหมายถึงคนๆ นั้น...
    จะต้องฝึกสมาธิเจริญวิปัสสนาละกิเลสและมีภูมิจิตสูงใกล้เคียง หรือมากกว่าเกจิที่เสกวัตถุมงคลชิ้นนั้น...
    ถ้าไม่เป็นตามนี้ขอให้ฟังหูไว้หูเถอะครับ....อย่าเพิ่งปักใจเชื่อครับ

    คนที่เขาเก่งจริงไม่ต้องแกว่งแขน...แค่ชำเลืองด้วยสายตาเขาก็เห็นกระแสพุทธคุณพวยพุ่งออกมาแล้วครับคุณเอ๋ย....จะมามัวแกว่งแขนให้เมื่อยไปทำไมหละครับ 5555+

    อีกวิธีที่ใช้ทดสอบกำลังใจของคนวัดพลังพระได้ดีก็คือ
    ถามเขาเลยครับว่าพระองค์ไหนที่สำแดงพลังเป็นมหาอุตต์....ถ้าเขาจับแล้วแกว่งๆๆๆ บอกว่า
    "องค์นี้เลยไอ้หนู...มหาอุตต์หยุดกระสุนชัวร์"
    เมื่ออาจารย์มั่นใจแบบนี้....
    ในฐานะลูกศิษย์ก็ต้องขอลองบารมีอาจารย์ด้วยการซัดตะกั่วให้อาจารย์ซักเม็ดจะเป็นรัย...ไหนๆ ของก็กำลังขึ้นแล้วหนิลองหน่อยจะเป็นรัยไป....55555+
     
  16. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ฮ่าๆๆๆ....สุดยอดครับ....
    นี่แหล่ะ...จูกัดเหลียง ขงเบ้ง "มังกรสะท้านฟ้า" ในใจผมตลอดมาและตลอดไป...ชอบครับๆ
     
  17. T_

    T_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +318
    โอว...กำลังอิน..กับการติดตามบทสุดท้ายอย่างตื่นเต้น..และแล้ว..ฮา.ก็แตกจนได้...แหม่..ท่านพี่..ช่างสุดยอดแห่งความ (หฤหรรณ์)..ม่ายรู้พิมพ์ถูกรึป่าว...เอ้านึกแล้ว..ขอฮาอีกที..55555555555 ก๊าก
     
  18. สงบในกรรม

    สงบในกรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +131
    จริงๆเรื่องการวัดพลังก็มีมาหลายกระแสนานแล้วครับ บ้างว่าวัดได้ บ้างว่าวัดไม่ได้ ส่วนตัวคิดว่าลองด้วยตัวเองกับคนรู้จักดีที่สุดครับ เพราะตัวเราย่อมไม่หลอกตัวเราแน่นอน เอาพระใส่กล่องไม้ขีด หาอย่างอื่นเช่นไม้ หรืออย่างอื่นที่นำหนักไล่ๆกับพระ ขนาดพอๆกัน หรือจะเอาพระที่เป็นของไม่ปลุกก็ได้มาให้คนรู้จักสลับกล่องไปมา ใช้อย่างน้อย 5กล่องครับ เก็บ5กล่องนี้ไว้ให้คนอื่นทดสอบด้วยนะครับ ปิดตาเสียก่อน ใช้ผ้าผูกตาก็ได้ แล้วลองวิธี คุณ A ho si ดูครับ แล้วเก็บไว้ให้คนอื่นดูอีก 3 คนอย่างน้อยครับ แต่ก็อีกนะครับ พระท่านอาจจะไม่เปิดกระแสให้เราดูก็ได้ เป็นการวัดใจ ต้องใช้วิธีอื่นร่วมครับ เช่นลองห้อยดู ไม่อย่างนั้นเขาจะรู้ได้อย่างไรครับ ว่าพระดีด้านไหนครับ
     
  19. สงบในกรรม

    สงบในกรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +131
    ต่างชาติที่เขาเช่าพระไปก็ใช้วิธีนี้ครับ เพราะวัดกับวิธีวิทยาศาสตร์เช่นการใช้โคบอลหาอายุ หรือการเอ็กเรย์แล้วขยาย แล้วไม่ได้ผลครับ
     
  20. สงบในกรรม

    สงบในกรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +131
    ลืมเรื่องสำคัญครับ น่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่การวัดพลังไม่ได้ผลครับ คือต้องขอขมาพระท่านก่อนครับ ทุกครั้ง ก่อนทดสอบ บทวันทามิ ครับและขอให้ท่านแสดงพุทธคุณ คุณพระให้ประจักครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...