เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

ขอบคุณ คุณ Pdon60 กับคุณ Lazaza ค่ะ ที่บอกทาง พร้อมกับให้แผนที่ เสาร์นี้ไปแน่ค่ะ บอกลางานกับทุกคนแล้ว ยกเว้นเจ้านาย 555

แล้วเจอกันค่ะ... จริงๆ ก็กลัวๆ กล้าๆ นะ เพราะเป็นคนที่เข้ากับคนยาก หน้าบึ้ง หน้างอ (ทำดุไว้ก่อน) คนไม่รัก แต่หมารัก 555

 

ครับ ลองทำดูแล้วไม่รู้ว่าทำถูกหรือป่าว คือ ผมจินตนาการองค์ประกอบ ไปว่าในขณะที่เราพิจารณาลมหายใจ ในช่วงนั้นจะประกอบด้วยจิต และสติ กำกับอยู่โดยขณะพิจารณาจะใช้สติกำกับลมหายใจ และดูการแสดงของจิตไปในตัวด้วยใช่มั้ยคับ แต่ผมรู้สึกว่าอาการฟุ้งซ่านจะน้อยมากคับกว่าวิธีที่ผมได้ทำมา แสงนีออนของผมไม่ค่อยดับวูบ ๆ เหมือนแต่ก่อนแ่ต่มันจะสว่างเกือบตลอดเลย ในส่วนเกษา โลมา ยิ่งให้เห็นผล ผมลดระดับความเร็วให้เหลือพอที่ใช้สติจับได้ แสงก็ยิ่งสว่างมากขึ้น รู้สึกสงบมากกขึ้น
หลังจากนั่งสมาธิเสร็จ ในช่วงตอนนอนผมก็ใช้วิธีจับจิต ไม่ต้องภาวนาใด ๆ จิตเริ่มนิ่ง ลึกมากขึ้น และรู้สึกการสั่นบางอย่างที่บริเวณหน้าผากคับ เป็นซู่ ๆ ซา ๆ ตึบ ๆ เหมือนมีอะไรไชอยู่เล็ก ๆ น้อย ยิ่งเน้นเท่าไหร่ยิ่งเป็นมากขึ้น จากนั้นก็หยุด แล้วก็นอน

จากการประมวลเหตุและผลในการสังเกตการณ์ครั้งนี้ ตามแนววิดยาศาส ผมวิเคราะห์ว่าการที่เราใช้สติจับเฉพาะิจิตแบบนี้ น่าจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนบริเวณต่อม pituitary บริเวณเหนือเพดานปากที่เราเอาลิ้นไปดันอยู่ แล้วต่อมนี้ก็ส่งสัญญาณให้สั่นที่ต่อม pineal ที่บริเวณหน้าผากตรง จักระที่ 6 ทำให้ตาที่สาม หรือทิพจักษูญาณ เกิดขึ้น รวมถึงควบคุมจักระอื่น ๆ อีกตามมาและเกิดญาณอภิญญาต่าง ๆ ขึ้นมา
นี่ก็เป็นการวิเคราะห์ของผมคับ ผิดถูกยังไงก็ไม่ทราบเหมือนกัน รอผู้รู้ชี้แจงด้วยแล้วกันนะคับ

 

ถ้าเอาวิทยาศาสตร์มาเทียบก็คงไม่สำเร็จเพราะจิตนั้นละเอียดมากละเอียดได้มากกว่า
NANO หรือ PICO แต่ในทางตงกันข้ามสามารถขยายได้ใหญ่กว่าเดิมเป็น TERA
ดังนั้นสูตรของจิตไม่ตายตัวไม่เหมือนวิทยาศาสตร์ จิตมีกำลังมากกว่าเหมือน
ทำข้อสอบมหาลัยด้วยเด็กอนุบาล ดังนั้น จะไม่เห็นนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จด้านนี้อย่างเต็มตัว
เพราะติดสงสัยติดยึดในอัตตาของตนครับ
คือถ่าจะเอาวิชานี้ไปเทียบเคียงว่าอะไรดีกว่ากันพูดจากใจเลยว่าอย่าฝึกดีกว่าครับ
อยากให้ศรัทธาแล้วทำ ไม่งั้นเหมือนปรามาทดูถูกในวิชา ขาดความเคารพในวิชาครับ

 

ส่งการบ้านคะ

วันนี้นั่งแล้ว อาการปวดบวมลดลง แต่ก็จะเป็นขาข้างซ้ายอยู๋ดี
นั่งได้นานหน่อยคะ ได้ยินแต่เสียงคนเดินเข้าออก แต่ไม่ได้สนใจ
มีเหมือนสับปะหงกนิดๆพอออกจากสมาธิ
แล้วเหมือนอยากนั่งต่อ เลยนั่งต่ออีกพักนึง

มีอาการเหมือนมึนนิดๆคะ

 

ขอบคุณมากๆ...ค่ะ

เมื่อคืนนั่งหลังเที่ยงคืน...และทำตามแบบที่อ.บอกไว้ค่ะ พอเริ่มสงบ ก้อได้อฐิษฐานขอถอนในคำสัญญาต่างๆโดยรวม ในแบบที่เคยอ่านๆมาค่ะ โดยขอบารมีแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งสูงสุด และมีความจริงใจเป็นที่ตั้ง...

ผลของการนั่งต่างจากที่แล้วๆมา คือ ทุกครั้งพอนั่งปุ๊บอาการต่างๆส่าย สั่น เกร็ง ก้อจะมาทันที...หัวงี้ จะส่ายด๊อกๆแด๊กๆมาก่อนเลย...
.....แต่เมื่อคืนนี้ พอเริ่มสงบก้ออธิษฐานเลย ไม่มีอาการต่างๆมาเยือน มีแต่รู้สึกว่าเหมือนหน้าเราเองจะค่อยๆยิ้มเป็นช่วงๆ ปวดแขนและลำตัวด้านซ้ายซีกเดียว...นิดหน่อย และไหล่ 2 ข้างขยับแบบช้าๆเนิบๆ มีอาการแค่นี้จนแผ่เมตตาและอุทิศผลบุญ ตลอดเวลาทีอุทิศก้อซ่าๆตามตัวตลอด ....
....หลังจากนั้นก้อนั่งต่อ อาการต่างๆตามมาเป็นพรวนเหมือนเดิม ไม่ได้นั่งอยู่นิ่งๆเฉยๆสงบๆเลยยยย....ส่าย สั่น เกร็งตามจุดต่างๆตลอดเวลาจนจบการนั่งค่ะ

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ visnu
สิ่งที่เห็นอย่าไปสนใจในขนะที่เกิดไม่ต้องคิดถามว่า ทำไม อะไร ตรงไหน แค่ดูตามและละวางครับ

ขอบคุณครับอาจารย์ จะพยายามครับ

 

ขอบคุณครับอาจารย์ คืนนี้จะลองบทที่ 3 ครับ
ไว้เป็นอย่างไรจะมาส่งการบ้านครับ

 

จริงๆแล้วงงมากๆๆๆ
กำลังจะแจ้งเกิดกะอาจารย์บาส ไหงไปซะแล้ว.
อย่างไรเสียก๊ขอสมัครวันนี้ ตอนนี้ละกัน ขออนุญาตฝึกขั้นเบบี๋ไปเรื่อยๆ
ก่อนนะคะ เพราะอ่านกระทู้อาจารย์แค่10หน้าเอง
แล้วจะขอติดต่ออาจารย์บาสชภายหลังละกันค่ะ

 

ส่งการบ้าน วันที่ 16 ค่ะ

ฝึกบทที่ 2 นับองค์ภาวนา ที่ 100

วันนี้ สมาธินิ่งตั้งแต่เริ่มภาวนาพุทโธ
- ภาวนาเตโช มีอาการลมหายใจร้อนนิดๆ
- ภาวนาวาโย รู้สึกสบายๆ
- ภาวนาอาโป ร่างกายเบา ปลอดโปร่ง แต่พอนับองค์ภาวนาที่ 90 เริ่มรู้สึกว่าร่างกายมีความหน่วง จนถึงภาวนาปฐวี
- ภาวนาพุทโธ มีความรู้สึกเหมือนง่วงนอน และมึนๆบนหัว พอภาวนาเกษา โลมา เหมือนคนนอนหลับไปเลย
- ภาวนาพุทโธ แล้วดูลมหายใจ รู้สึกขี้เกียจหายใจเอาดื้อๆ บางครั้งเหมือนกับลมหายใจหายไป และมีอาการเกร็ง ยืดตัวขึ้น เหมือนร่างกายจะขยายจนปริแยกออกจากกัน สักพักก็เป็นปกติ นั่งต่อไปเรื่อยๆ บางครั้งก็เหมือนร่างกายหายไป บางครั้งก็เหมือนตัวพองใหญ่ ลมหายใจบางครั้งก็เหมือนหายไป แล้วก็ค่อยๆถอยกลับมา สลับกันไป ช่วงที่นั่งคล้ายๆกับเห็นพระพุทธรูป แต่ไม่ชัดค่ะ

วันนี้ไม่มีอาการปวดใดๆเกิดขึ้นเลย สบายๆ นั่งได้ 2 ชั่วโมง 50 นาที ค่ะ

 

โธ่ๆๆๆๆ คุณบาสสสส ผมไม่ได้จะคิดเทียบเคียงเรื่องนี้กับเรื่องวิทยาศาสตร์ว่าอันไหนดีกว่ากันเลยนะคร๊าบบ อย่างเพิ่งขุ่นเคืองหรือโกรธกัน ฟังผมก่อน
ก่อนผมจะเริ่มมาฝึกสมาธินี้ ผมละทิ้งวิทยาศาสตร์ที่ผมชอบมันลงไปแล้วเพราะผมรู้ว่ามันอธิบายเรื่องทางจิตมันได้ยากหรือไม่ได้เลย แต่ผมจะใช้ญาณทัสนะจากสมาธิ(ถ้าทำได้) มาอธิบายวิทยาศาสตร์แทนว่าทฤษฎีที่เราเรียนกันหูดับตับไหม้อันไหนจริง อันไหนไม่จริง จะได้เข้าหลักกาลามสูตรของพระพุทธองค์ หรือเพื่อมรรคผลและอื่น ๆ ไม่งั้นผมไม่มาเริ่มฝึกหรอก แต่ว่าที่ผมนำมาพูดผมได้อ่านกระทู้ของ อ.อาชวิน อาจารย์กล่าวไว้ในกระทู้ วิธีการเปิดตาที่สามหรือว่ากระทู้เรื่องเล่าผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อาจารย์พูดถึงเรื่อง ต่อม pituitary แล้วมีใครคนนึงพูดถึงเรื่องแกนสมองด้วย ถ้าจำไม่ผิดนะ ที่เกี่ยวกับการทำสมาธิ แ้ล้วเห็นไม่มีใครกล่าวในทางแย้งใด ๆ ผมเจอผมก็เลยนำมาปะติดปะต่อกัน เพื่อให้คนอื่นได้ทราบหรือได้อ่านจะได้มีกำลังในการปฏิบัติมากขึ้นเพราะเห็นผลได้จริง ๆ มีวิทยาศาสตร์ที่อาจารย์ได้บอกไว้มารองรับแน่นอน

หรือถ้าคุณบาสเห็นว่ามันไม่เกี่ยวกับเรื่องวิทยาศาสตร์ที่ว่าไว้ ก็ขอโทษด้วยนะคับไม่ได้มีเจตนาที่จะเทียบเคียงแต่ประการใด ผมก็ยังตั้งใจฝึกแบบเดิมของคุณบาสอยู่นะคับ แต่ถึงแม้ว่าผมอาจจะเบี่ยงเบนไปสนใจการทำสมาธิแบบอื่น ๆ ก็ตามอย่างเช่น การฝึกแบบมโยมยิทธิ กสินแบบต่าง ๆ หรือแบบพุทธโธหลายฐาน หรือฐานเดียว หรือจะเป็นแบบของท่านแม่ชีท่ัานหนึ่ง
แต่ผมเห็นว่าวิชาที่คุณบาสนำมานั้น อาจจะถือได้ว่าได้กลั่นกรองจากแบบฝึกต่าง ๆ พิจารณาข้อดีข้อเสียบวกลบคูณหารกันแล้ว ก็คัดเอาเฉพาะสิ่งที่ดีมาที่สุดหรือที่ลองแล้วสามารถเห็นผลได้เร็ว พื้นฐานแน่น เหมาะกับบุคคลทุก ๆ จริต จากการใช้ญาณทัสนะหรือได้ผ่านการฝึกฝนลองมาแล้วทุกแบบ(เสียสละเวลาเพื่อส่วนรวม) ให้ทุกคนที่สนใจได้ฝึกกันเพื่อได้อภิญญาตามต้องการ หรือเพื่อบรรลุมรรคผลในภายภาคหน้า (นับว่าเป็นบุญอย่างใหญ่หลวงแก่ผู้ถ่ายทอด) ผมก็เลยจะยึดถือแบบของคุณบาสในการฝึกถาวรเลย หรือทำถึงที่สุดเลย
หวังว่าคงหายข้อสงสัยเลยนะคับ

ส่วนประเด็นที่ผมได้โพสข้อความที่ผ่านมาบอกคุณบาสนั้น
1. ผมอยากทราบว่าผม แยกดูจิต แยกสติที่ผมทำนั้นถูกต้องหรือป่าว จากคำตอบครั้งที่แล้ว

2. จากการที่ได้อธิบายแนววิดยาศาสตร์ เพราะอยากให้ทุกคนที่ปฏิบัติมีกำลังใจในการปฏิบัติเพราะมีวิทยาศาสตร์มารองรับ และประเด็นที่ต่อเนื่องในข้อนี้ก็คือ เปิดโอกาส ให้.... ถ้าใครเห็นว่ามันไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ก็ให้แย้งไป อย่างที่คุณบาสได้ให้ข้อคิดเห็นไปแล้วนั่นผมถือว่า ได้โต้แย้งแล้ว ก็เท่ากับว่าอันที่ผมโพสไปที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มันไม่เป็นความจริง ถึงแม้ว่าใครจะกล่าวหรือเปิดประเด็นไว้ที่ไหน ๆ แล้วก็ตาม เพราะคุณบาสได้บอกแล้วว่ามันเปรียบเทียบไม่ได้(ซึ่งคุณบาสอาจใช้ญาณทัสนะตามหลักกาลามสูตรดูตามแล้วเห็นว่าไม่เป็นตามนั้น)
จึงอยากบอกให้ทุกคนทราบและปรับทัศนคติใหม่ว่า เรื่องวิทยาศาสตร์ที่ผมโพสไปนั่นไม่ต้องไปยึดไปถือมัน เพราะถูกตัดสินโดยผู้รู้แล้ว...

ถ้าเผื่อใครที่ได้อ่านคำตอบของผมครั้งที่แล้วหรือครั้งนี้ก็ตาม เกิดความขุ่นข้องหมองใจ ก็กราบขออภัยทุก ๆท่านในที่นี้ด้วยไม่ว่าจะเป็นคนที่ผ่านมาที่ผ่านไป หรือที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ผมไม่ได้มีเจตนาหลบหลู่ดูหมิ่นไม่ว่าจะเป็นวิชา ศาสนาหรือ ครูบาอาจารย์ต่าง ๆ ผมเพียงแค่ใช้การประมวลประสบการณ์จากการอ่าน ค้นคว้าหรืออะไรแล้วแต่ มาอธิบายในความน่่าจะเป็นในหลักการแห่งเหตุและผลเท่านั้นและคับ ไม่ได้มีเจตนาอันอย่างอื่นอย่างใดเลยยย...:'''(

โทษทีนะคับมันอาจจะยาวไปหน่อย แต่มันก็จำเป็นต้องอธิบายให้กระจ่างตามหลักการเหตุและผลคับเหมือนลายเซ็นของผมข้างล่างนี่

 

ส่งการบ้านบทที่ 2 ค่ะ
รอบแรก ตั้งใจจะนับองค์ภาวนาอย่างละ 100
แต่ได้อย่างละ 60 เนื่องจากภาวนาไปก็ฟุ้งซ่านไป
พอจิตมันนึกถึงอะไรแต่ละอย่าง ก็จะคิดไปเรื่อย พอนึกได้
ว่านั่งสมาธิอยู่ ก็กลับมานับใหม่ แต่ว่าจะจำเรื่องราวที่คิดฟุ้งซ่าน
ก่อนหน้านั้นไม่ได้เลย มันประมาณรู้คลับคล้ายคลับครา พอลางๆ
ส่วนภาพที่เห็น โดยมากแว้บแรกจะเห็นรายละเอียดชัดมาก
แต่พอตั้งใจมอง ภาพนั้นกลับเลือนลางและหายไป
ไม่ค่อยพอใจรอบแรกเท่าไหร่ อุตส่าห์ตั้งใจวันนี้วันพระ
ก็เลยเอาใหม่รอบที่สอง นับองค์ภาวนาอย่างละ 100
ฟุ้งซ่านนิดหน่อยตรงวาโย แต่พอช่วงปฐวี ชาทั้งตัวเลย
เหมือนจะหงายๆไปข้างหลัง พอช่วงพุทโธก็ปกติค่ะ

 

มาส่งการบ้านครับ
นั่งบทหนึ่งและสอง ช.ม แรกหลุดบ่อยๆ ช.ม สองเริ่มสงบขึ้นครับ อาการก็ปกติเหมือนเดิมครับ มีปวดขา กับหลังนิดหน่อยเองไม่มีอะไรมากครับ ปัจเวทณ์ แผ่เมตตาแล้วออกครับ
ขอบพระคุณ อาจารย์ บาส ครับ

 

ดูรู้วาง ตามสเตปที่ให้ทำครับ ฮ่ะๆ

เมื่อวาน ลอง บท 1 กับ 2 ใหม่ดูครับ หลังจาก ทำยท2 ที่ 100 มาหลายวันละ

ก็บท1 30ครับ ไม่มีหลุด ครับ นิ่ง ตามอาการ ของแต่ละองค์ภาวนาฮะ

บท 2 ที่50 เตโชม่ายมีอะไรเกิดครับ นับมีหลุดบ้าง แต่จิตพยุงไป

วาโย กับ อาโป หลุดถี่ๆ เลยใช้จิตบังคับเอากึ่งๆด้วย มีกระตุกแรงๆ อย่างละที

ตอนกระตุก เหมือน มันจะรู้ก่อนกระตุก แต่ก็วางไปครับ เหมือน คล้ายๆแบบ

เราคิดจะหยิบอะไร ซักพักเราจึงจะไปหยิบครับ ประมานั้นอ่ะครับ แบบมีดีเลย์ ฮ่าๆ

ปวดขาเหน็บกิน ปล่อยเลยครับ ปล่อยตั้งแต่เริ่มเป็นเลย เริ่มเป็นตั้งแต่ วาโยครับ

ก็ปล่อยมันไปดูไป ถ้าวาดเป็นเส้นกราฟได้ คงเป็นรูปภูเขา ถึงจุดพีค แล้ว ร่วงลงมาเลย ฮ่ะๆ

นั่งไป ชม.นึง แต่ก็อยากนั่งต่อ แต่ เหตุประเดี๋ยวจะตื่นนอนไม่ไหวครับ แฮะๆ-.-

ตอนนี้คงนั่งเล่น บท 1 กับ 2 ต่ออีกซักพัก ก่อนกลับไป เล่นบท 2 ควบ 3 ฮะ

ตอนนี้รู้สึกว่า ไม่ควรขาด บท 2 เลย แม้เราจะขึ้นบท3ได้แล้วก็ตาม อะไรประมาณนั้นฮะ แฮะๆ

 

นั่งเน้นในบทที่ 1 เยอะๆครับ แต่ในบทที่ 2 ก็ร่วมด้วย แล้วขึ้นบทที่ 3 เลยครับ

 

นั่งบทที่ 3 เลยครับ ลองนั่งดูแล้วอย่างไรบอกด้วยครับว่าอย่างไรครับ

 

ทำถูกที่สุดแล้ว อย่าทิ้งซักบท เพราะแต่ละอย่างส่งเสริมกันครับ

 

ขอส่งการบ้านค่ะ
บทที่๑
สวดมนตร์
หายใจเข้า-ออก ตามลมได้ชัดขึ้นค่ะมีกระแสไฟอ่อนและหลุดหลายครั้ง
ภาวนาพุทโธ มีอาการหนักที่หว่างคิ้ว
และบางทีก็จะหาว(แต่ไม่ง่วง)
ช่วงปลายมีนำตาไหล
ภาวนาเกศา โลมา ได้ประมาณ20มีอาการสั่น
หยุดภาวนาปล่อยให้ร่างกายสั่น
พิจารณาร่างกาย...
ภาวนาต่อได้อีกนิดก็ปวดก้นกบ..และปวดขาขวา
ภาวนาพุธโธรู้สึกโล่งที่จมูก พิจารณากาย
และแผ่เมตตาค่ะ

 

ต้องขอโทษด้วยครับที่บางที่ผมพูดแรงไป เพราะเวลาตรวจการบ้านต้องขึ้นจิต
แล้วเวลาขึ้นมันก็จะสามารถจับอะไรบางอย่างได้ ก็เลยอาจมีอารมณืบ้างเล็กน้อย
ก็เป็นที่ตัวผมเองยังคงละวางบางประการไม่ได้เหมือนกันก็ยังต้องฝึกยกระดับจิตใจของตนเองต่อไปครับ

 

วันเสาร์นี้อย่าลืมมานะครับผมไปค้นเจอพระที่พี่เช่ามาองค์ละหลายพัน ประมาณ 20กว่าองค์ 5-5-5

 

ขอบคุณฮะพี่บาส^^ เสาร์นี้อาจจะไปเหมือนเดิมครับ แต่ต้องดูก่อน ฮ่ะๆ

อาจจะเป็นเสาร์สุดท้าย ก่อนที่จะต้องมานั่งอ่านหนังสือสอบครับ ฮ่ะๆ