ใครมีประสบการณ์และวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม วัดพระขาวเข้ามาโพสในกระทู้นี้ได้ครับ

พระสวยครับ

 

วันนี้ผมไปรับเหรียญสมเด็จชนะจนเนื้อเงินลงยาสีเหลืองที่ไปเลี่ยมกรอบเงินลงยามาแล้วครับ กับพระหลวงปู่ไปเลี่ยมมาหลายองค์ไว้ว่าง ๆ ค่อยถ่ายรูปมาให้ชมครับ

 

เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะเข้ามาชมครับท่านพี่ ช่วงนี้ขอหนีความวุ่นวายของกรุงเทพไปรับลมหนาวที่ภูกระดึงก่อนนะครับ

 

แอบหนีไปเที่ยว ขอให้เที่ยวสนุกนะครับคุณอั๋น กลับมาเมื่อไหร่บอกด้วยนะครับ

 

สวัสดีครับคุณ poonsuk เมื่อคืนไปลอยกระทงที่ไหนคร้าบบ..(^_^)

 

ไม่ได้ไปไหนครับ อยู่บ้านครับ แล้วคุณ norragete ไปลอยกระทงที่ไหนครับ

 

เมื่อคืนไปลอยที่สวยลุมมาครับ..นี่ถ้ามีเวลาอีกนิดจะไปต่อที่จุฬาครับ..แหม่..เสียดาย..(^_^)

 

คุณ norragete เปลี่ยนภาพประจำตัวน่ารัก ๆ บ่อยจัง แล้วมีแฟนน่ารักแบบนี้หรือป่าวครับ

 

คุณ norragete ไม่เห็นแสดงสถานะ ไฟเขียวแล้วทำยังไงครับ

 

คุณ norragete ได้รับของแล้วแจ้งมาด้วยครับ

 

เหรียญชนะจน เนื้อเงินลงยาสีเหลืองไปใส่กรอบเงินอีกเหรียญครับ

 

อ้าว...ส่งมาแล้วเหรอครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าเลยนะครับ (^_^)
เด๋วถ้าได้รับแล้วผมจะรีบบอกนะคร้าบบบ..ขอบพระคุณหลายๆ (^_^)..

สวยมากเลยยยยยยยยยยยยยยยยยย.......(^_^).....

 

พระปรกมะขามรุ่น 2 เนื้อทองเหลือง

 

สวยมากครับพี่พูนสุข..ตอนี้ผมยังมะได้พระหลวงปู่เข้ามาใหม่ๆๆเลย
สมเด็จแซยิดรุ่นแรกผมคงได้ปลายเดือนธันวาอ่ะครับ

 

ไม่เป็นไรครับ มีเมื่อไหร่ก็ค่อยเอามาโชว์ครับ

 

เหรียญสี่เหลี่ยมพิมพ์ซ้อนหลวงปู่ทิม หลวงปู่สด ปี 2539

 

ชอบคำด้านหลังเหรียญมากครับ ความหมายดี .......(^_^)

 

ย้อนกลับไปเมื่อ ปี 2543 ตอนนั้นผมอายุได้ 17 ปี ผมได้ติดตามอ่านนิตยสารพระเครื่องฉบับหนึ่ง นิตยสารฉบับนี้ได้จัดสร้างพระขุนแผนพิมพ์บ้านกร่าง 9 พิมพ์ ด้านหลังเป็นกุมารทอง มวลสารหลักๆเท่าที่จำได้ในหนังสือนั้น เค้าบอกว่า ผสมพระกรุเก่าและหักๆ ของหลวงปู่ทิม และได้นำไปให้หลวงปู่ทิมท่านเมตตาปลุกเสกให้อีกครั้ง และแจกพร้อมกับหนังสือนิตยสารพระเครื่องนั้นทั้งหมด 9 ฉบับ(บางท่านคงจะถึงบางอ้อแน่นอนครับว่านิตยสารเล่มนั้นคือนิตยสารอะไร สำหรับบางท่านที่ไม่ทราบผมก็ขอแชร์ประสบการณ์ให้ฟังครับ) ผมซื้อมาเล่มที่ 3 ได้พิมพ์แขนอ่อนมาองค์หนึ่ง ด้วยคำถามที่เกิดขึ้นในใจว่า "พระแถมหนังสือ มันจะดีจริงหรือ????" แต่.......หลังจากนั้นผ่านมาอีก 1 อาทิตย์ ผมก็ได้นำพระนั้นไปเลี่ยมพลาสติกและอาราธนาขึ้นคอ พร้อมกับท่องพระคาถาอาราธนาพระขุนแผนที่ลงไว้ในหนังสือกำกับ ความเปลี่ยนแปลงต่างๆที่ผมสัมผัสได้เริ่มเกิดขึ้น!!!
เพราะพออาราธนาพระขุนแผนแถมหนังสือ ขึ้นคอ ได้เพียงวันเดียว จากเดิมไปเรียน หนังสือ เพื่อนๆ มักจะแกล้ง มักจะล้อชื่อพ่อชื่อแม่ บางทีท้าต่อยกับผมก็มี เพราะผมเป็นคนไม่ชอบสุงสิงกับใคร พวกเขาก็เลยคิดว่าผมหยิ่งและชอบเก๊ก และหมั่นไส้ผม มาพักหลัง ให้ความเกรงใจเรามากขึ้นและชวนเราเข้ากลุ่มด้วย ผมเองก็แปลกใจมาก ที่ศัตรูกลับกลายมาเป็นมิตร เรื่องนี้ผ่านไป ยังไม่ค่อยปักใจเชื่อเท่าไหร่ครับ

เรื่องที่สอง หลังจากนั้นผ่านมาอีก 1 อาทิตย์ อาจารย์ประจำชมรมดนตรีพื้นเมือง(สะล้อ-ซอ-ซึง)ของผมท่านหนึ่ง(มีอ.ที่ปรึกษา 2 ท่าน) ได้เสียชีวิตลง และได้จัดงานศพที่บ้านเกิดที่ต่างจังหวัด และญาติๆของท่านได้ขอร้องให้นักศึกษาในชมรมของท่านไปเล่นดนตรีพื้นเมืองในงานศพของท่าน ผมก็ได้ไปด้วย ในกลุ่มนักศึกษาที่ไปนี้มีชาย 10 คนรวมผมด้วย และหญิง 11 คน รวม อ.ที่ปรึกษาหญิงอีก 1 ท่าน และคนที่ผมแอบปิ๊งด้วย 1 คน ได้เดินทางไปถึงบ้านงานศพ ช่วงหัวค่ำ หลังจากที่พระท่านสวดศพเสร็จประมาณ 21.00 น. พวกผมก็เริ่มบรรเลงดนตรีขับกล่อมแขกที่มาร่วมงานและศพท่านอาจารย์ที่ปรึกษาชาย
จนเวลาล่วงเลยเข้า 24.00 น.ทางเจ้าภาพก็จัดที่นอนและห้องน้ำห้องท่าให้ โดยแยกชายนอนอีกห้องหนึ่ง และหญิงนอนอีกห้องหนึ่ง ท่านเชื่อมั้ยครับ!!!! อ.ที่ปรึกษาหญิงของผม ท่านเรียกผมไปกระซิบบอกว่า "เธอมานอนกับพวกเพื่อนๆผู้หญิง และครูในห้องนี้ดีกว่านะ ห้องโน้นผู้ชายเยอะแล้ว" ผมเองก็ตกใจ ทำไมอยู่ๆ อ.ที่ปรึกษาชมรมที่ท่านมีความละเอียดอ่อนในเรื่องของ การใกล้ชิดของนักศึกษาชาย และหญิง แบบท่าน ถึงเอ่ยปากขอให้ผมไปนอนรวมกับผู้หญิงได้ เพราะผมมองดูแล้ว มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย เวลาเข้ามาในชมรมดนตรีพื้นเมืองเมื่อใดท่านจะไม่ค่อยชอบให้ผู้ชายกับผู้หญิงจับมือถือแขนหรือใกล้ชิดกัน เลย และอีกอย่างในชมรมผม ก็มีกระเทยด้วย ทำไมท่านไม่ไปชวนกระเทย แต่มาชวนผู้ชายอย่างผมให้ไปนอนรวมกับผู้หญิง????!!! ตอนแรกผมเลยบอกปฏิเสธ และเสนอกระเทยในกลุ่มไป ท่านก็ไม่ยอม ท่านจะให้ผมมานอนในห้องให้ได้ ไม่เอาคนอื่น พวกนักศึกษาหญิงก็ เห็นดีด้วยหมด เอาล่ะสิ!! ผมไม่รู้จะตอบยังไง ใจนึงก็ดูไม่ดี อีกใจนึงก็ ดีใจลึกๆเพราะจะได้มาอยู่ในห้องผู้หญิงที่มีคนที่ผมแอบปิ๊งอยู่ด้วย และเหมือนจะลงล็อคอีกที อ.หญิงจัดให้ผมนอนใกล้ๆกับคนที่ผมแอบชอบอีกตะหาก!!! ใจผมก็ยิ่งเต้นขึ้นไปอีกที่จะได้นอนใกล้ๆกับสาวที่ผมแอบปิ๊งแถมเจ้าหล่อน ก็ ยิ้มรับไมตรีผมด้วย ทั้งๆที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะคุยกะผมเลย คุยบ้างแต่ก็คุยแบบขอไปที (แต่ก็นอนเฉยๆครับ ไม่มีอะไรแค่ใด้อยู่ใกล้ๆก็มีความสุขแล้วฮะ) ครั้งที่สองนี่เอง ผมจึงเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจเลยครับ ว่าเป็นเพราะอำนาจพุทธคุณของพระขุนแผนแถมหนังสือพระเครื่อง ผมเลยศรัทธาหลวงปู่ตั้งแต่นั้นมา โดยที่ไม่เคยได้มากราบนมัสการท่านเลย

ผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นไป 2 ปี ก็พากันจบแยกย้ายกันไปผู้หญิงที่ผมแอบชอบก็กลับต่างจังหวัดผมเลยไม่ได้ทำความรู้จักกับเธอมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยู่แล้ว
แต่พระขุนแผนก็ยังคงอยู่กับผม ต่อไป เรื่องราวยังไม่จบครับ เรื่องโชคลาภก็ยังมีเข้ามา
จนกระทั่งผมอายุ 20 ปี ผมก็ได้ย่างเข้าสู่ร่มกาสาวภัตร และพระขุนแผนองค์นั้นผมก็ได้ยกให้เพื่อนไป(นัยว่าเพื่อนขอยืมไปทดสอบพุทธคุณเพราะไม่เชื่อในสิ่งที่ผมเล่า) เพื่อนผมก็ได้ประสบกับเหตุการณ์มากมายเกี่ยวกับพระขุนแผนองค์นั้น ไม่ว่าจะค้าขาย ได้กำไรดี หรือถูกหวย จวบจนผม สึกออกมาตอนอายุ 23 ผมจึงไปขอคืน แต่......เขาทำหายไปแล้ว บอกตรงๆว่าเสียดายมาก และก็ลืมๆไปจนมาถึงปัจจุบัน ผมก็ได้ติดตามนิตยสารนี้อีกครั้งโชคเข้าข้าง นิตยสารเล่มนั้นยังคงอยู่ และพระขุนแผนทั้ง 9 พิมพ์ก็ยังคงมีให้บูชาอยู่ในสำนักงานนิตยสารเล่มนั้นแหละฮะ ผมว่าจะบูชาพร้อมกับชานหมาก ในสิ้นเดือนนี้ บอกตรงๆครับว่าของที่ดูเหมือนไม่มีมูลค่าแต่ผ่านพระเกจิผู้ทรงเมตตาปลุกเสกของสิ่งนั้นก็จะกลายเป็นทองขึ้นมาทันทีครับ