ขอสอบ ถาม พระ บูชา ---เจ้าค่ะ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย นราสภา, 22 มกราคม 2011.

  1. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    สอบถาม -------พระ อะไร ที่ ไหน เเท้ ไหม ---ราคา ไม่อยากทราบ ค่ะ -------ขอบพระคุณ อย่างสูง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1842.jpg
      IMG_1842.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4 MB
      เปิดดู:
      108
    • IMG_1843.jpg
      IMG_1843.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.2 MB
      เปิดดู:
      81
    • IMG_1844.jpg
      IMG_1844.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4 MB
      เปิดดู:
      75
    • IMG_1846.jpg
      IMG_1846.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4 MB
      เปิดดู:
      65
    • IMG_1847.jpg
      IMG_1847.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.7 MB
      เปิดดู:
      67
    • IMG_1848.jpg
      IMG_1848.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.6 MB
      เปิดดู:
      78
    • IMG_1849.jpg
      IMG_1849.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4 MB
      เปิดดู:
      57
  2. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    อีกองค์

    รบกวนอีกองค์ เจ้าค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1854.jpg
      IMG_1854.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      66
    • IMG_1853.jpg
      IMG_1853.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      63
  3. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    อีกองค์

    ขอ อีกองค์ นะเจ้าค่ะ(k)(k)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1861.jpg
      IMG_1861.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.3 MB
      เปิดดู:
      69
    • IMG_1862.jpg
      IMG_1862.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.3 MB
      เปิดดู:
      64
  4. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    เเฮ้ม เอา เเฮ้ม

    รบกวน อีก องค์ เจ้าค่ะ-------สมเด็จ อะไร มะรู้ :':)':)'(
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1858.jpg
      IMG_1858.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4 MB
      เปิดดู:
      63
    • IMG_1859.jpg
      IMG_1859.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.8 MB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_1860.jpg
      IMG_1860.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.1 MB
      เปิดดู:
      65
  5. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ล็อกเกต ด้วย เจ้าค่ะ

    ไม่รู้ ว่า ท่าน ชื่ออะไร วัดใหน เจ้าค่ะ รู้เเต่ ว่า เเก ยิ้ม เเล้วโลก สดใส น่ารัก ดีค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1885.jpg
      IMG_1885.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.1 MB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_1887.jpg
      IMG_1887.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.7 MB
      เปิดดู:
      55
  6. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    หลวงปู่ อีก องค์

    เนื้อหา ใหม่ หน่อย ----หลังมีตระกรุด ฝังไว้ด้วย อยากทราบว่า ออกที่ ใหน รุ่นไหน เจ้าค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1855.jpg
      IMG_1855.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4 MB
      เปิดดู:
      64
    • IMG_1857.jpg
      IMG_1857.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.8 MB
      เปิดดู:
      47
    • IMG_1856.jpg
      IMG_1856.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.2 MB
      เปิดดู:
      56
  7. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    เพื่อน สมาชิก ส่ง ข้อมูล มาเพิ่ม ในส่วน ของ องค์ เเรก

    <table id="post" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt1" id="td_post_" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);">ผม ดูว่าเป็น"พระรัชกาล"ครับซึ่งหมายถึงเดิมเป็นชื่อเรียกพระพุทธรูปขนาดบูชา ประจำพระองค์พระมหากษัตริย์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องด้วยนอกจากมีพระราชนิยมในการสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่แล้วยังมีคติ สร้างพระขนาดบูชาและพระขนาดเล็กประจำพระองค์เช่นพระชัยวัฒน์,พระกริ่งอีก ด้วย การสร้างพระดังกล่าวอาจเห็นชัดเจนในการสร้าง
    พระชัยประจำรัชกาล ซึ่งสมัยรัตนโกสิพระเจ้าแผ่นดินล้วนแล้วแต่มีการสร้างพระรัชกาลประจำพระองค์ ทั้งสิ้นเรียกว่า"พระชัยประจำรัชกาล"(ยกเว้นสมัยร.๘ที่ไม่ทันสร้าง)ต่อมา ความนิยมในการสร้างพระชัยเริ่มแพร่สู่พระบรมวงศานุวงศ์,ขุนนาผู้ใหญ่ จึงมีการสร้างพระประจำตัวกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็พยายามหลีกเลี่ยงมิให้มีพุทธลักษณะใกล้เคียงกับพระชัยประจำรัชกาลของ องค์พระมหากษัตริย์ ด้วยเป็นการไม่สมควร ประกอบกับในระยะนั้นมีความนิยมในพุทธศิลปะเชียงแสนที่ถือว่ามีความงดงามแต่ จะหาองค์จริงก็ลำบากดังนั้นเมื่อ
    มีการหล่อพระประจำตัวส่วนใหญ่จึงทำเป็นศิลปะเชียงแสน
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px 1px; border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> [​IMG] ขอ ขอบ พระคุณ มาก มาย กาย กอง เจ้าค่ะ --ขออนุญาติ นํามาโพส บน บรอด นะเจ้าค่ะ :cool:
    </td> <td class="alt1" style="border-width: 0px 1px 1px 0px; border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,389
    ค่าพลัง:
    +53,106

    สวยงามครับผม ไม่ทราบว่าได้แต่ใด มา นิ
     
  9. คนปั้นพระ

    คนปั้นพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,481
    ค่าพลัง:
    +2,427
    อยากจะบอกเหมือนกันครับแต่กลัวเจ้าของกระทู้รับไม่ได้เหมือนหลายกระทู้ที่ผ่านมา เพราะพระบางองค์ก็ได้รับตกทอดต่อๆกันมา บูชาอยู่บ้านด้วยความศรัทธาเต็มเปี่ยม คือถ้าเราไม่สนใจอยากรู้ว่าเป็นพระอะไรสมัยไหน ก็ให้ถือแค่เป็นรูปแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็พอแล้วท่านก็จะสถิตย์อยู่ในใจของเราตลอดไปครับ
     
  10. ixy

    ixy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +486
    น่าจะเป็น หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย
    ประวัติ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต
    หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
    ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
    นามเดิม เหรียญ ใจขาน เกิดวันที่ 8 มกราคม 2455 ตรงกับวันพุธ ขึ้น 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีชวด ณ บ้านหม้อ ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย บิดาชื่อ ผา มารดาชื่อ พิมพา
    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
    จิตมีธรรมปรารถนาออกบวช
    เมื่อย่างเข้าอายุ 20 ปี เห็นจะด้วยบุญบารมีแต่ปางก่อน รู้สึกว่าชีวิตปุถุชนไม่มีแก่นสาร จึงลาบิดามารดาเข้าเรียนครองบวชอยู่สิบห้าวันก็ได้บวชที่อุโบสถวัดบ้านหงษ์ ทอง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย มี ท่านพระครูวาปีดิฐวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์พรหม เป็นพระกรรมวาจารย์ บวชแล้วได้กลับมาอยู่ วัดโพธิ์ชัย บ้านหม้อ บวชเมื่อ เดือนมกราคม 2475 อาจารย์วัดโพธิ์ชัย สอนให้ภาวนา อนุสสติ 10 ด้วยวิธีท่องเอา แล้วบริกรรมในใจว่า พุทธานุสสติ สังฆานุสสติ ไปจนถึง อปสมานุสสติ จบแล้วตั้งต้นใหม่เรื่อยไป จิตสงบเบิกบานดี บริกรรมทุกอิริยาบถเป็นอารมณ์ติดต่อกันไป
    ในระหว่างนั้นโยมบิดาได้นำหนังสือเกี่ยวกับการเจริญสมถะและวิปัสสนาของ พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม มาให้อ่าน ท่านอธิบายเรื่อง สติปัฏฐาน4 โดยเฉพาะเรื่องกายานุปัสสนา ให้พิจารณาร่างกายเพ่งดูแยกออกเป็นส่วนๆ เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก ตลอดจนอาการ 32 แล้วให้ถามตัวเองว่า ตัวตน อยู่ที่ไหน แท้จริงก็ไม่มี เมื่อไฟเผาแลัว ย่อมเหลือแต่เถ้ากระดูก
    กำหนดเอากระดูกใส่ครกบดให้ละเอียดแล้วซัดไปตามลมพัดหายก็ไม่เหลืออะไร ร่างกายนี้ไม่มีอะไรเป็นของตนสักอย่างเดียว มีแต่เกิดแล้วดับไปดังปรากฏ
    แล้วใครเป็นผู้รู้ว่าร่างกายเป็นอย่างนั้น ก็จิตนี้เป็นผู้รู้ เมื่อสติกลับมา รู้จิต จิตก็รวมลงเป็นหนึ่ง แสดงว่า จิตปล่อยวางร่างกายได้ตามสภาพ จึงประคองจิตให้สงบอยู่ต่อไปนานเท่าที่จะอยู่นานได้ ในขณะนั้นจะมีความรู้สึกว่า กายก็เบา จิตก็เบา คิดจะไปอยู่ป่า พอดำริจะไปอยู่ป่าเท่านั้น มาร คือ กิเลส ก็แสดงอาการขัดขวาง เกิดความรู้สึกนึกคิดเป็นสองทาง ใจหนึ่งอยากสึกออกไปครองเรือน ใจหนึ่งอยากออกปฏิบัติเจริญสมถะวิปัสสนาตามที่ตั้งใจไว้ วันแล้ววันเล่ายังตัดสินใจไม่ได้ จึงลองอดข้าวหนึ่งวัน พอตกค่ำเวลาประมาณสามทุ่ม ก็ห่มผ้าสังฆาฎิแล้วทำวัตร อธิษฐานจิตว่า บัดนี้ข้าพเจ้าจะนั่งสมาธิภาวนาเพื่อพิจารณาตัดสินใจลงทางใด ทางหนึ่งให้ได้ ถ้าตัดสินใจไม่ได้จะไม่ลุกออกจากที่นั่งนี้เลย ภายหลังได้ตัดสินใจประพฤติพรหมจรรย์ต่อไป ได้พบพระอารย์กู่ ธมฺมทินฺโน บ้านเดิมท่านอยู่อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ท่านเที่ยวธุดงค์ไปทางหนองคาย พักอยู่ที่วัดเดียวกัน ได้รับคำอธิบายในอุบายภาวนาเพิ่มเติมจนเข้าใจดี ต่อมาในปี พ.ศ. 2476 ได้พบกับ ท่านอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม อยู่วัดสิริสาลวัน ได้พาบวชเป็นพระธรรมยุตที่วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี
    พ.ศ. 2476 จำพรรษาวัดป่าสาระวารี บ้านค้อ อำเภอผือ อุดรธานี
    เป็นที่ซึ่งพระอาจารย์มั่นเคยจำพรรษา ได้ตั้งใจทำความเพียรสงบใจมาก แต่วิปัสสนายังไม่แกกล้า ได้แต่สมถะ ออกพรรษาแล้วจึงธุดงค์ไปจังหวัดเลย พักวิเวกอยู่ถ้ำผาปู่ และ ถ้ำผาบิ้ง ได้ความสงบสงัดมาก
    พ.ศ. 2477 พรรษาสอง จำพรรษาวัดอรัญญวาสี อำเภอท่าบ่อ หนองคาย
    มีพระอาจารย์กู่ ธมฺมทินฺโน เป็นหัวหน้า ตั้งใจไม่นอนกลางวัน ค่ำลงทำความเพียร เดินจงกรม นั่งสมาธิ ถึงตีสอง แล้วลุกขึ้นทำความเพียรจนสว่าง พอถึงเดือนหกเดินทางกลับมาจำพรรษาที่ วัดป่าบ้านค้อ ตามเิด
    พ.ศ. 2478 พรรษาสาม จำพรรษาที่วัดป่าสาระวารี
    พ.ศ. 2479-2480 พรรษาสี่และห้า จำพรรษาที่วัดอรัญญบรรพต
    ทำภาวนาจิตสงบแล้วพิจารณาขันธ์ห้าเป็นอารมณ์ เห็นเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาตามสภาพความเป็นจริง แล้วปล่อยวาง จิตสงบพร้อมกับความรู้เป็นอย่างดี คล้ายหมดกิเเลส แต่ต่อมามีเรื่องต่างๆ มากระทบ ก็รู้สึกจิดผิดปกติ หวั่นไหวไป ตามอารมณ์นั้นๆ อยู่บ้าง แต่ไม่รุนแรง ก็แสดงว่ากิเลสยังไม่หมดสิ้น พยายามแก้ก็ไม่ตก นึกในใจว่าใครหนอจะช่วยแก้จิตให้ได้ จึงนึกไปถึงกิตติศัพท์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต จึงชวนภิกษุรูปหนึ่งลงเรือจากหลวงพระบางขึ้นไปทางอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เดินทางไปหาท่าน
    พ.ศ. 2481 ได้พบท่านอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
    ที่วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ โดยความเมตตาของหลวงตาเกต ซึ่งเป็นสัทธิ วิหาริก ของท่าน ได้พาไปพบที่ป่าละเมาะใกล้ๆ โรงเรียนแม่โจ้ อำเภอสันทราย ได้เห็นด้วยความอัศจรรย์ใจเพราะตรงกับในนิมิตทุกประการ ท่านได้แนะนำว่านักภาวนา พากันติดสุขจากสมาธิจึงไม่พิจารณาค้นคว้าหาความจริงของชีวิตกัน
    ท่านซักรูปเปรียญให้ฟังว่า ธรรมดาเขาทำนาทำสวน เขาไม่ได้ทำใส่บนอากาศแลย เขาทำใส่บนพี้นดินจึงได้ผล ฉันใด โยคาวจรผู้บำเพ็ญเพียรทั้งหลายควร พิจารณาร่างกายเป็นอารมณ์ จนเกิดนิพพิทาความเบื่อหน่ายในนามรูป ด้วยอำนาจแห่งปัญญานั้นแหละจึงจะเป็นทางหลุดพ้นได้ ไม่ควรติดอยู่ในความสงบโดยส่วนเดียว
    เมื่อท่านให้โอวาทแล้วจึงพิจารณาดูตังเองว่าได้เจริญเพียงสมถะไม่ได้ เจริญ วิปัสสนาเพียงรู้แจ้งในธรรมที่ควรรู้ คือ อริยสัจสึ่ จึงเจริญวิปัสสนาเรื่อยมา ตั้งแต่พรรษาที่ 6 อยู่ในเขตภาคเหนือจนถึงพรรษาที่ 16 แล้วเดินทางกลับธุดงค์ ผ่านหลวงพระบาง ประเทศลาว เข้าเวียงจันทน์ มายังหนองคาย
    พรรษาที่ 19 ถึง 26 จำพรรษาเผยแพร่ธรรมะปฏิบัติอยู่ภาคใต้ แล้วจึงย้ายไปอยู่วัดอรัญญบรรพต ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 เรื่อยมา
    ธรรมโอวาท
    1. นาทั่งหลายมีหญ้าเป็นโทษ หมู่สัตว์นี้มีราคะ โทสะ โมหะ เป็นโทษทั่งนักบวช ทั้งคฤหัสถ์ ถ้าใครสะสมกิเลอให้แน่นหนาทั้งในใจ ใจก็ให้ทุกข์ ให้โทษกับผู้นั้น ไม่ใช่ให้ทุกข์แก่นักบวชฝ่ายเดียว
    2. อันสตินี้ สัมปชัญญะนี้ ก็สมมติเป็นโชเฟอร์กำพวงมาลีย มีสติคอยระมัดระวัง กาย วาจา จิต อยู่เสมอๆ คอยระวังเรื่องต่างๆ ระมัดระวังไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเที่ยวประกาศ ห้ามใครมาติชมเรา ที่ว่าระวังนั้น คือ เมื่อมีเรื่องมากระทบให้รู้ทัน ในทันที เราจะห้ามจิตไม่ให้หวั่นไหวไปไม่ได้ แต่ให้ระวัง ต้องควบคุมจิตด้วยสติให้ถี่ๆ กระชับสติสัมปชัญญะให้มันถี่เข้ามา จะได้ไม่หวั่นไหวกับคำพูดเสียดแสงใจต่างๆ
    3. ถ้าจิตสงบมีกำลังพักผ่อนเต็มที่แล้ว มันก็จะอยากรู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งที่ควรรู้ ต้องกำหนดหาเรื่องที่ควรจะรู้ สิ่งใดที่เรายังไม่รู้ก็ต้องกำหนดพิจารณา เช่น กำหนดพิจารณาทุกข์ เมื่อเห็นทุกข์ก็เบื่อในทุกข์ของขันธ์5 อันไม่เที่ยงแปรปรวน อาการหวั่นไหวกันไปมานั่นแหละ เรียกว่า ทุกขลักษณะ เมื่อจิตรู้อย่างนี้ ก็จะได้ไม่หวั่นไหว ไม่ยึดเอาของไม่เที่ยงมาเป็นทุกข์
    ปัจฉิมบท
    พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นพระสงฆ์แห่งจังหวัดหนองคาย ที่มีอาวุโสที่ชาวพุทธควรกราบไหว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง
     
  11. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ขอบคุณ พี่ กระ ทู้ ยาว ตาง บน ด้วย นะ เจ้าค่ะ

    ขอบ คุณ ทุก กระทู้ มากมาย เจ้าค่ะ:cool:หนู ว่า เเกยิ้ม น่ารักดี เจ้าค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2011
  12. manman45

    manman45 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +68
    พระรัชกาลครับ รัชกาลที่9
     
  13. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ตอบ คุณ พี่

    องค์นี้ น่า จะ มาจากทาง---------------บ้านเพื่อน เป็นหลัก อิ อิ อิ ทีเเรก นึก ว่าเป็น พระ อุปคุต เห็น มี หอย สังด้วย เขาเปิด มา เบาๆ เลย อยากเก็บ ไว้ ---เเต่ มองไปมอง มา ----ไม่เห้น เหมือน พระอุปคุต ที่ รู้ จัก เลย ----------เลยนําขึ้นมาถาม ทาง เจ้าค่ะ จะได้ ไปมีข้อมูล บอกชาวบ้านเขาได้ :cool:
     
  14. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    บอกเถอะ เจ้าค่ะ

    บอก น้องเถอะ ค่ะ พี่ ปั้น ---น้อง ไม่ ซีเรียช --เเค่ อยาก รู้ ข้อมูล ที่สงสัย เเค่นั้น จริง ๆ เจ้าค่ะ
     
  15. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ขอบคุณ มากมาย ค่ะ

    รบกวน สอน ทีได้ ไหม ค่ะ ว่า ดู ตรงไหน ที่ เเสดง ความ เป็น รัชกาล ที่ เก้า-----อยากรู้ จริงๆค่ะ ช้วย สอนที -----เนื้อ พุธลักษณะ หรือ รวม รวม กัน ค่ะ:cool:
     
  16. คนปั้นพระ

    คนปั้นพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,481
    ค่าพลัง:
    +2,427
    องค์นี้เก๊ครับ ถ้าเป็นพระแบบประจำรัชกาลหรือแบบรัชกาลประจำพระชนพรรษา จะทำสวยและเรียบร้อยกว่านี้เป็นสิบเท่าครับ
    พระองค์นี้ถ้าเป็นช่างหลวงปั้นออกมาเป็นศิลปแบบนี้ ผมว่าช่างคนนั้นต้องถูกโบยแน่นอน
    พระแบบนี้ทำพระจันทร์เยอะแยะ ดินก็เป็นแบบดินย่ำ ไม่ได้เก่าอะไรมากมายหรอกครับ คุณแมนแมนแกก็ช่างเกรงใจคุณน้องนราสภาเลยบอกว่าเป็นพระรัชกาล สร้างในรัชกาลที่9 แต่ก็จริงอย่างที่คุณแมนแมนบอกครับ สร้างในรัชกาลที่9จริงๆ
     
  17. manman45

    manman45 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +68
    แหมขอบคุณคุณคนปั้นพระมากครับที่เข้าใจ บางครั้งไม่อยากให้หลงทางครับอาจมีคนหลอกขายพระแนวนีให้อีกแล้วนึกว่าแท้เลยเช่ามาในราคาสูงเลยกล้าที่จะบอกแต่ขออ้อมๆนิดหน่อยแหะๆ น้องนราสภาลองเข้าไปเวบนี้ดูรุปแบบและเนื้อหาของพระบูชารัตนะดูนะครับรุปชัดเจนมีหลากหลายแบบให้ชม จริงๆแล้วพระบูชารัตนะเนี่ยแหละครับอลังการแกะรายละเอียดแต่ละจุดสวยงามมากแถมเครื่องทรงสวยงามและวิจิตร เลือกเสิชหาพระบูชารัตนะนะครับ

    <DIR>พระเครื่อง บริหารโดย ชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์

    </DIR><DIR>


    </DIR>















































     

แชร์หน้านี้

Loading...